Advent of the Archmage - ตอนที่ 143: ได้เวลาโต
ณ ห้องโถงสภาหลวงของราชา ลีออน
ในขณะที่ ลิงค์ กำลังรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น ราชา ลีออน, ดยุค อาเบล, กรินซ์, เอร์เรร่า และหัวหน้าของหน่วย MI3 ก็ได้มาถึงสภาหลวงทั้งหมด
ทุกคนมีสีหน้าจริงจัง โดยเฉพาะหัวหน้าของMI3, ดยุค แสตน สีหน้าของเขาดูมืดมนมากเหมือนกับใครบางคนเอาน้ำหมึกไปสาดใส่หน้าเขา
ในตอนที่แกลดสโตนถูกลอบโจมตีอย่างฉับพลันและเกือบจะถูกมือแห่งความตายยึดไปนั้น เขาก็สูญเสียชื่อเสียงและเกียตริยศไปมากแล้ว ซึ่งในครั้งนี้ มือแห่งความตายก็ยังลงมือเร็วกว่าเขาอีกครั้งและโจมตีเมืองหลวงในระหว่างที่มีงานเทศกาลได้สำเร็จอีก ในฐานะที่เป็นหัวหน้าของ MI3 เขานั้นรู้สึกละอายใจ
“ฝ่าบาท ข้าขอลาออกจากการเป็นหัวหน้าของ MI3 เพื่อเป็นการลงโทษในความไร้ความสามารถของข้า” เขาทำลายความเงียบลง
ราชา ลีออน นั้นปกติจะเป็นคนที่มีเหตุผลและเป็นคนที่ใจเย็น ยังไงก็ตาม ในครั้งนี้ เขารู้สึกโกรธและสูญเสียกริยาท่าทางอันสง่างามตามปกติของเขาไป
“เงียบซะ! เจ้าได้ออกแน่ แต่ต้องหลังจากที่จัดการกับความวุ่นวายที่เจ้าเป็นคนสร้างขึ้นก่อน!”
ทั้งห้องโถงตกลงสู่ความเงียบอีกครั้ง ทุกคนรู้ว่าราชานั้นโกรธอย่างจริงจัง
ถ้าเกิดว่าข่าวเรื่องที่เกิดการโจมตีอันรุนแรงขึ้นในเมืองหลวงของอาณาจักร นอร์ตัน ในระหว่างช่วงงานเทศกาลนักเวทย์หลุดออกไปหล่ะก็ ชื่อเสียงของพวกเขาก็จะตกฮวบอย่างแน่นอน อาณาจักร นอร์ตัน จะกลายเป็นตัวตลกของทั้งทวีปฟิรุแมน
เอาเรื่องที่น่าอายออกไปก่อน พวกเขาเริ่มที่จะหารือกันเรื่องการฟื้นฟูจากการโจมตีในครั้งนี้ พวกเขาจะต้องให้คำอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผลแก่ผู้คนของเมืองฮอทสปริงเพื่อที่จะรับประกันว่าเมืองหลวงนั้นยังปลอดภัย ถ้าพวกเขาให้คำรับประกันแก่ประชาชนไม่ได้ ศัตรูก็อาจจะใช้ประโยชน์จากความไม่มั่นคงนี้วางแผนที่จะโจมตีมาในระดับที่ใหญ่กว่านี้
โชคดี ที่มีหลักฐานอันเพียงพอที่ชี้ว่าดาร์กเอลฟ์นั้นเป็นผู้กระทำความผิด เพื่อเป็นการยืนยันสมมุติฐาน ศพของดาร์กเอลฟ์ 2 คนได้ถูกทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ
“นี่เป็นครั้งที่สองแล้ว ไอพวกแวมไพร์ตาแดงนั่นล้ำเส้นมาอีกแล้ว!”
“อย่างน้อยแกลดสโตนก็อยู่ที่เขตชายแดน พอคิดว่าพวกมันมีความกล้าที่จะลอบเข้ามาในเมืองหลวงและทำการโจมตีอันรุนแรงขนาดนี้กับเผ่าพันมนุษย์แล้ว! พวกเราจะต้องโต้กลับนะพะยะค่ะ!”
“ฝ่าบาท มันถึงเวลาแล้ว!”
“แต่ว่าพวกเรายังไม่พร้อม”
“ท่านจะไม่พร้อมสำหรับสงครามตลอดไปไม่ได้ พวกดาร์กเอลฟ์ไม่รอพวกเราพร้อมแน่”
เกิดการโต้เถียงกันอย่างดุเดือดภายในห้องโถง หลังจากผ่านไปซักพัก พวกเขาก็ได้ข้อสรุปที่ว่าจะแก้แค้นแก่พวกดาร์กเอลฟ์
ราชา ลีออน ทรงเงียบมาโดยตลอด ฟังการหารืออย่างตั้งใจ เมื่อได้ข้อสรุปออกมาแล้ว เขาก็หายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะออกพระราชโองการกับผู้ช่วยของเขา “แสตน ข้าต้องการดาร์กเอลฟ์ที่หนีไปได้แบบเป็นๆ เข้าใจนะ?”
“น้อมรับคำสั่ง!” เหตุการณ์นี้ได้ทำลายชื่อเสียงของดยุค แสตน ไปจนหมดแล้ว ถ้าเขาปล่อยให้ดาร์กเอลฟ์หนีไปได้อีก เขาคงจะไม่มีหน้าไปพบกับบรรพบุรุษของเขาแน่
“อารีฟ ดาร์กเอลฟ์คนนี้ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งมาก พวกเราอาจจะต้องใช้มืออาชีพ เจ้าจะต้องไปกับ แสตน ด้วย!”
“พะยะค่ะฝ่าบาท!” อารีฟ ตบเกราะหน้าอกของตัวเอง เขาเองก็รู้สึกอับอายกับเหตุการณ์นี้เช่นกัน การ์ด 20 คนที่เขาเลือกมานั้นถูกกวาดล้างไปจนหมดจากการโจมตีของเวทย์ระเบิดเพลิง พวกเขานั้นต่างก็เป็นทหารชั้นยอดที่เขาทำการเลือกเฟ้นมาทำภารกิจนี้เองกับมือ แต่พวกเขาถูกจัดการก่อนที่จะได้ทำอะไรเสียอีก
“พวกเราจะต้องก่อสงครามกับทางเหนือ; พวกเราจะล้างแค้น!” ราชา ลีออน พูด
พวกเขาต้องการชัยชนะ มีเพียงแค่ชัยชนะเท่านั้นที่จะระงับความเกลียดต่อดาร์กเอลฟ์ที่ประชาชนมีได้
ถึงคราวที่ดยุค อาเบล จะพูดแล้ว อาเบล เป็นพระอนุชาของพระราชาและมีอายุ 38 ปี อายุน้อยกว่าราชาลีออน 10 ปี เขานั้นแข็งแรงและมีพรสวรรค์ ทำให้เขาเป็นผู้นำที่ดี แถมเขายังเป็นนักรบเลเวล 5 และเป็นนายพลของอาณาจักรในตอนนี้อีกด้วย
เขาลุกขึ้นและยิ้มอย่างเลือดเย็น “ฝ่าบาท,ท่านจะได้รับชัยชนะอันงดงาม”
“ข้าหวังว่าจะเป็นอย่างนั้นนะ” ราชา ลีออน พยักหน้า
พระอนุชาของพระองค์นั้นโหดร้ายและมุทะลุ ราชา ลีออน ยังคงควบคุม อาเบล ได้อยู่เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ยังไงก็ตาม อาเบล นั้นทะเยอทะยานขึ้นในทุกๆปี เมื่อเร็วๆนี้ อาเบล ได้เริ่มที่จะต่อต้านพระราชโองการของพระองค์ ราชา ลีออน นั้นกำลังหาโอกาสที่จะลดทอนอำนาจทางการทหารของอาเบลในอาณาจักรอยู่แต่จากการเกิดเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวทำให้พระองค์ต้องเลื่อนแผนการไปก่อน
จากนั้นพวกเขาจึงเปลี่ยนไปหารือกันในหัวข้ออื่นเช่นการชดเชยแก่ประชาชน ,การปลอบใจเจ้าชาย ฟิลลิป ,การตุนอาหารให้เพียงพอ การเตรียมการสำหรับสงครามและอื่นๆ โดยไม่เว้นแม้แต่รายละเอียดปลีกย่อย
ในท้ายที่สุด ทุกคนก็ได้รับมอบหมายหน้าที่และได้ออกจากห้องเพื่อปฏิบัติมันในทันที ราชา ลีออน ทรงหันมาหา เอร์เรร่า ที่เหลืออยู่เป็นคนสุดท้ายในห้องและทรงตรัสออกมา “ข้าได้ยินว่าลูกศิษย์ของเจ้า ลิงค์ เป็นคนที่ทำให้เจ้าชาย ฟิลิป ยังคงมีชีวิตอยู่ ข้าอยากจะพบเขาถ้าเป็นไปได้”
จากนั้นคนใช้ก็ออกไปเรียก ลิงค์ เพื่อให้มาที่ห้องโถงสภา
ในขณะเดียวกัน ราชา ลีออน ก็ทรงตรัสต่อ “จอมเวทย์มอยร่า บอกข้าเกี่ยวกับลูกศิษย์ของเจ้ามาที เขาเป็นคนเยี่ยงไรรึ?”
ราชา ลีออน ทรงอ่านรายงานเกี่ยวกับ ลิงค์ ที่ได้รับจากดยุค แสตน เป็นที่เรียบร้อยแล้วและรับรู้ว่า ลิงค์ มีผลงานอะไรบ้าง ยังไงก็ตาม พระองค์จะไม่ตัดสินคนเพียงแค่ข้อมูลบนหน้ากระดาษรายงาน แม้ว่ามันจะถูกรวบรวมโดยหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอาณาจักรก็ตาม มันเป็นความคิดที่ดีที่จะฟังความเห็นจากคนอื่น
เอร์เรร่า ลุกขึ้นและทำความเคารพราชาก่อนที่จะพูด “ฝ่าบาท ในสายตาของหม่อมฉัน ลูกศิษย์ของหม่อมฉันเป็นนักเวทย์ที่สมบูรณ์แบบค่ะ”
ราชา ลีออน ทรงแปลกใจเล็กน้อยก่อนที่จะทรงแย้มพระสรวล “สมบูรณ์แบบหรอ? นั่นเป็นการประเมิณค่าที่สูงทีเดียว”
พระองค์ทรงตรัสต่อหลังจากหยุดไปพักนึง “ข้ารู้มาตลอดว่าเขามีทักษะการต่อสู้ด้วยเวทมนตร์ที่หายาก แต่ข้าไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ ข้ามีแผนที่จะมอบยศผู้บัญชาการกองทัพนักเวทย์ในทางเหนือให้กับเขา เจ้าคิดว่าเขาเหมาะสมหรือไม่?”
เอร์เรร่า เงียบไปพักนึงก่อนที่เธอจะส่ายหน้า “ฝ่าบาท เขายังหนุ่มและพลังของเขายังต้องการการเจริญเติบโตอีกเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น นักเวทย์อายุประมาณเขานั้นส่วนมากจะดื้อรั้นและไม่ชอบการใช้อำนาจ หม่อมฉันคิดว่าเขายังไม่เหมาะสมเพคะ”
ราชา ลีออน ทรงรำพึง “นั่นสินะ,ข้าคงใจร้อนเกินไป”
พระองค์ไม่ได้ทรงให้สัญญาเปล่าๆ มีเหตุการณ์เกิดขึ้นที่ภาคเหนือเมื่อไม่นานมานี้ เมื่อกองทัพนักเวทย์ต่อสู้กับดาร์กเอลฟ์นักเวทย์ด้วยความขัดแย้งเล็กๆน้อยๆ นักเวทย์ของอาณาจักรต้องทุกข์ทรมาณกับความพ่ายแพ้
หลานของพระองค์ แอนนี่ ได้เขียนรายงานประเมิณความสามารถทั้งสองฝ่ายให้พระองค์ ด้วยคะแนนเต็ม10 กองทัพนักเวทย์ของอาณาจักรนอร์ตันได้รับ 6 คะแนน ขณะที่ดาร์กเอลฟ์ได้ไป 8 คะแนน
ความแข็งแกร่งของกองทัพนักเวทย์นั้นเป็นปัจจัยที่ใช้ตัดสินในสงครามระหว่างประเทศ ถ้ากองทัพนักเวทย์นั้นขาดความแข็งแกร่ง พวกเขาก็มักจะพ่ายแพ้ในการต่อสู้อย่างเป็นทางการเช่นกัน
ด้วยความที่พวกเขายังไม่ได้อยู่ในสงครามอย่างเป็นทางการ จึงยังมีเวลาในการพัฒนาอยู่ ลีออน จึงพยายามที่จะรับสมัครนักเวทย์ที่มีประสบการณ์การต่อสู้ พระองค์ทรงพยายามมากจนยอมลดข้อจำกัดของกฎหมายของอาณาจักรนอร์ตันในปัจจุบันลง แม้แต่นักเวทย์พเนจรที่รู้เวทมนตร์เพียงไม่กี่บทก็สามารถเข้าร่วมได้ถ้าเข้าตั้งใจที่จะสมัคร
การกระทำของ ลิงค์ ที่แกลดสโตนได้พลิกสถานการณ์กลับมาและทำให้อาณาจักรนอร์ตันได้รับชัยชนะ การกระทำของเขาที่ถนนหยกนั้นยิ่งน่าอัศจรรย์กว่า : เขาจัดการคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง 3 คนได้ ยิ่งไปกว่านั้น เขามาจากสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟ ซึ่งนั่นทำให้เขาถูกยอมรับว่าเป็นนักเวทย์อย่างเป็นทางการ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขากำลังตามหาอยู่
ในอีกด้านหนึ่ง สิ่งที่ เอร์เรร่า พูดก็มีเหตุเป็นผล หลังจากที่ทรงไตร่ตรองอยู่สักพักราชา ลีออน ก็ยอมปล่อยความคิดนั้นไป
ชายคนนี้ได้ถูกกำหนดให้เป็นต้นไม้ที่สูงตระหง่าน เป็นเสาหลักที่คอยสนับสนุนเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังไงก็ตาม เขาเพิ่งเป็นแค่ต้นอ่อนเล็กๆอยู่ในตอนนี้ แม้ว่าเขาจะดูเหมือนว่าจะโตและแข็งแรงพอแล้ว แต่เขายังคงขาดประสบการณ์อีกมาก เขาควรได้รับอนุญาตให้โตไปก่อนอีกพักนึง
ยังไงก็ตาม พระองค์ได้ตัดสินใจที่จะใช้ประโยชน์จากเขาแล้ว มันถึงเวลาที่จะให้รางวัลเขาแล้ว
ในตอนนั้น คนใช้ก็ได้พา ลิงค์ เข้ามาสู่ห้องโถงสภาหลวง