Advent of the Archmage - ตอนที่ 132: หนึ่งร้อยปีแห่งความโดดเดี่ยว
ในตอนนั้น ลิงค์ ได้เปลี่ยนเข้าสู่โหมดต่อสู้และคทาคว้าดาวก็ปรากฏขึ้นมาที่มือของเขาในทันที มานาพุ่งเข้าไปในคทาและลูกแก้ว3ลูกก็ได้ก่อร่างขึ้นที่ปลายคทาในทันที ด้วยการผสมระหว่างสภาพยิบรอลต้าร์,โดมิงโก้คริสตัลและความคุ้นเคยกับเวทย์ลูกแก้วของเขา เวลาในการร่ายของมันจึงแทบจะในทันที
ลิงค์ ปล่อยลูกแก้วทั้ง3ออกมาโดยไม่ลังเลในจังหวะที่ฝ่ายตรงข้ามทำอะไรที่น่าสงสัย
การร่ายเวทย์ที่รวดเร็วของ ลิงค์ ทำให้หญิงสาวนั้นตกใจกลัว จากนั้นเธอจึงปรับตัวให้ดูเป็นมิตรมากขึ้น ซึ่งสามารถเห็นได้ว่าเธอกำลังกลัว
“นี่คุณช่วยเลิกยุ่งเรื่องของคนอื่นซักทีได้ไหม?” ในที่สุดผู้หญิงในชุดดำก็พูด เธอมีน้ำเสียงที่ไพเราะ ในแบบที่สามารถดึงดูดจิตใจของชายจำนวนมากได้
ยังไงก็ตาม ลิงค์ รู้ว่าเสียงนั้นก็เป็นอาวุธของเธอเช่นกัน อาวุธที่สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามหลงสเน่ห์เธอได้ มันเหมือนกับจิตสังหารที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังเสียงอันไพเราะเพราะพริ้ง
นักเวทย์หญิงคนนี้อาจจะมีพลังของนักเวทย์เลเวล 6 ลิงค์ ไม่มีความมั่นใจว่าจะเอาชนะเธอในการต่อสู้ตัวต่อตัวได้เลย เขาจึงเลือกที่จะถ่วงเวลาและไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม
“ผมรู้ว่ามันเป็นการรบกวนที่ผมไปยุ่งเรื่องของคนอื่น แต่ผมไม่กลัวที่จะทำมันถ้าจำเป็นหรอกนะ”
“เป็นตัวเลือกที่ดีนี่ ยังไงก็ตาม ฉันไม่เชื่อว่านาย-สุภาพสตรีผู้นี้คือใคร?”ผู้หญิงชุดดำหยุดพูดกลางคัน เมื่อเธอถูกขัดจังหวะด้วยบางอย่างที่เธอเห็นที่มุมของบันไดชั้นสาม
ที่มุมนั้น เอร์เรร่า ยืนอยู่เงียบๆพร้อมกับถือคทาคริสตัลของเธออยู่ในมือ
ลิงค์ ส่งเสียงเรียกในทันที “อาจารย์”
ออร่าเย็นยะเยือกที่อยู่รอบๆผู้หญิงชุดดำหายไปจนหมดในตอนที่ ลิงค์ พูด เธอยิ้มและพูด “นี่คือที่ปรึกษาของเธอสินะ คงจะต้องเป็นนักเวทย์ที่เก่งกาจมากๆเหมือนกันแน่ๆเลย งั้นฉันขอตัวก่อนหล่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นไม่ได้กลับไปที่ห้องของเธอ แต่กลับเดินตรงไปที่บันไดห้องโถงชั้นหนึ่งแทน ห้องโถงนั้นตกอยู่ในความเงียบพักนึงก่อนที่มันจะกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม
ดูจากเสียงอันวุ่นวายที่ดังมาจากห้องโถง เธอน่าจะตรงออกจากโรงแรมบลูเฮอมิทในทันที
ลิงค์ ถอนหายใจและรู้สึกเสียวสันหลัง เสื้อในของเขานั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อของเขาเรียบร้อยแล้ว
เอร์เรร่า มีสีหน้าที่เคร่งเครียดและถาม ลิงค์ “ฉันรู้สึกได้ถึงออร่าเวทมนตร์ของนายตั้งแต่ไกลเลย เกิดอะไรขึ้น?ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร?”
ลิงค์ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ทั้งหมดให้ เอร์เรร่า ฟัง เริ่มจากเหตุการณ์ที่ห้องโถงไปจนถึงว่าเกิดอะไรขึ้นที่บันได โดยไม่ละส่วนใดๆเลย ในตอนที่เขาพูด เอร์เรร่า ก็ขมวดคิ้วแน่น
เมื่อ ลิงค์ พูดจบ เธอก็หน้าซีดและพูดออกมา “ถ้าฉันมาช้ากว่านี้อีกนิดละก็ นายอาจจะบาดเจ็บไปแล้วก็ได้”
“ใช่ ผมก็รู้สึกอย่างนั้น” ลิงค์ พยักหน้า ออร่าอันเย็นยะเยือกนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจที่สุดตั้งแต่ที่เขาพบเจอมาตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาในโลกแห่งฟิรุแมน มันรู้สึกเหมือนกับว่าเขาจมอยู่ภายใต้ทะเลสาบเยือกแข็ง ความหนาวเย็นนั้นเจาะลึกลงไปในกระดูกของเขา
ถ้า เอร์เรร่า มาไม่ทันเวลาหล่ะก็ ไม่สามารถบอกได้เลยว่าเธอจะทำอะไรกับ ลิงค์ บ้าง
“อาจารย์ครับ มอริแกน บอกว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวในออร่าของผู้หญิงคนนี้ คุณรู้สึกได้ถึงอะไรที่ผิดปกติรึเปล่า?” ลิงค์ ถาม
“ฉันคิดว่าเธอเป็นนักเวทย์ที่เชี่ยวชาญในเวทย์ลึกลับ ฉันเกือบจะยืนยันได้แล้วว่าเธอนั้นเกี่ยวข้องกับเวทมนตร์แห่งความมืดด้วยหรือเปล่า สำหรับออร่าอันหนาวเหน็บนั่น…ความจริงแล้ว ออร่าที่มีความรู้สึกอย่างนั้นเกิดจากชีวิตที่ผกผันที่ผ่านมาของเธอ ถ้าฉันคิดถูกหล่ะก็ เธอน่าจะมีอายุมากกว่าพวกเรา 2 คนรวมกันเสียอีก-อาจจะเกิน 100 ปีเลยด้วยซ้ำ”
เอร์เรร่า ได้เลื่อนขั้นของเธอขึ้นเป็นนักเวทย์เลเวล 6 การสังเกตุของเธอนั้นละเอียดกว่ามากเมื่อเทียบกับ ลิงค์
“เธอน่าจะออกไปเพราะเธอรู้ว่าเธอไม่แข็งแกร่งพอที่จะรับมือได้สองคนในเวลาเดียวกัน และมันก็เป็นไปได้ว่าเธอนั้นกลัวว่าตัวตนของเธอจะถูกเปิดเผย” ลิงค์ พูด
“ฉันเห็นด้วย” เอร์เรร่า พยักหน้า “ถึงแม้ว่าเธอจะแข็งแกร่ง แต่เธอก็คงไม่กล้าที่จะก่อความวุ่นวายภายในเมืองฮอทสปริง คำอธิบายที่เป็นไปได้มากที่สุดที่เธอมาที่นี่คืองานเทศกาลนักเวทย์ เธอน่าจะมาที่นี่เพื่อแลกเปลี่ยนวัตถุดิบเวทมนตร์ ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว เธอน่าจะพยายามที่จะร่ายเวทย์สะกดจิตใส่นายเพื่อที่นายจะได้ลืมเรื่องการมีอยู่ของเธอซะ”
ลิงค์ คิดถึงมันอยู่พักนึง มีจอมเวทย์มากมายที่อยู่ในเมืองฮอทสปริง โดยเฉพาะในตอนที่มีเทศกาลนักเวทย์ ผู้หญิงคนนั้นจะมีปัญหาแน่ถ้าเธอพยายามที่จะทำให้เขาบาดเจ็บ มันไม่มีเหตุผลที่จะทำอะไรที่เสี่ยงอันตรายแบบนั้น
“พวกเราจะเอายังไงต่อ?” ลิงค์ ถาม
“นายคิดว่ายังไงหล่ะ?” เอร์เรร่า โยนคำถามกลับมาให้เขา
“มาทำเหมือนกับมันไม่เคยเกิดขึ้นกันเถอะ ตัวตนของเธอไม่ได้อันตรายขนาดนั้น ถ้าเธอวางแผนที่จะทำอะไรอันตรายจริงๆ เธอคงจะระมัดระวังในการกระทำของเธอมากกว่านี้”ลิงค์ ให้เหตุผล
เอร์เรร่า ยิ้มและพูด “แน่นอน นายจะได้เห็นผู้คนหลากลายแบบในงานเทศกาลนักเวทย์นี้-รวมถึงจอมเวทย์บางคนที่ปกปิดตัวตนเพราะเหตุผลส่วนตัวของพวกเขา ซึ่งนี่ยังเป็นสเน่ห์บางส่วนของงานเทศกาลนักเวทย์ด้วยนะ”
ทั้งสองคนกลับไปที่ห้องของพวกเขาเพื่อพักผ่อนในคืนนี้
ที่ด้านนอกของโรงแรมบลูเฮอมิท
…
ผู้หญิงที่ใส่ชุดสีดำได้ซ่อนตัวอยู่ในตรอกตรงข้ามโรงแรม คอยมองดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เธอรอหนึ่งชั่วโมงเต็ม เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีการปล่อยคลื่นเวทมนตร์ในแบบเมื่อกี้อีกก่อนที่เธอจะลดการระมัดระวังตัวลง
“นักเวทย์จากสถาบันเวทมนตร์ระดับสูงอีสโควฟเหรอ? นี่ฉันระวังตัวน้อยไปจริงๆ” เธอกระซิบ
งานเทศกาลนักเวทย์ที่เมืองฮอทสปริงนั้นเป็นงานเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ในโลกแห่งฟิรุแมน คนๆนึงสามารถซื้อวัตถุดิบเวทมนตร์ได้เกือบทุกชิ้นบนโลกตราบเท่าที่เขาจะสามารถจ่ายได้
ชื่อของเธอคือ เอเลนอร์ นักเวทย์เลเวล 6 ที่เชี่ยวชาญในเวทมนตร์ลึกลับ ในช่วงนี้ เธอได้ศึกษาเกี่ยวกับชนิดของเวทย์ลึกลับที่เรียกกันว่าเวทย์พยากรณ์และเธอต้องการหินวิญญาณในการวิจัย ด้วยเหตุนี้เธอจึงเสี่ยงที่จะเดินทางมาที่เมืองฮอทสปริง แต่เธอไม่ได้ระวังตัวที่จะปกปิดออร่าเวทมนตร์ของเธอ
เธอได้ไม่พยายามที่จะเปลี่ยนแปลงลักษณะภายนอกของเธอ เธอดูเหมือนกับตอนที่เธออายุ 18 แบบเป๊ะๆ เธอนั้นได้รักษาร่างนี้ไว้กว่า 90 ปีโดยใช้เวทมนตร์ต้องห้าม และเธอก็รู้สึกยินดีกับผลของมันมากๆ
เธอได้กลายเป็นนักเวทย์เลเวล 6 หลังจากการศึกษาเวทมนตร์มากกว่า 90 ปีและได้เชี่ยวชาญเวทมนตร์มากมาย เธอคิดว่าไม่มีนักเวทย์คนไหนในเมืองฮอทสปริงที่สามารถเทียบกับเธอได้ ยังไงก็ตาม มันเป็นเวลาไม่นานก่อนที่ความมั่นใจของเธอจะสั่นคลอน
ทั้งนักขุดสุสานและนักเวทย์หนุ่มที่อายุไม่เกิน 2 0ปีนั้นมองการปลอมตัวของเธอออกแทบจะในทันที มันไม่ใช่แค่นั้น!ความเร็วในการร่ายเวทย์ของนักเวทย์หนุ่มนั่นมันน่าตกใจมากๆ ด้วยความเร็วขนาดนั้น เธออาจจะแพ้เขาในการต่อสู้ก็ได้ ไม่ต้องไปเทียบพลังของเธอกับอาจารย์ของเขาเลย
“มีอัจฉริยะมากมายในโลกแห่งนี้จริงๆ” เอเลนอร์ ถอนหายใจ ทักษะเวทมนตร์ของเธออยู่ในจุดสูงสุดแล้ว โดยเฉพาะมานาของเธอ หลังจาก 90 ปีของการวิจัยเวทมนตร์ มานาสูงสุดของเธออยู่เพียงแค่ประมาณเท่ากับค่าเฉลี่ยของนักเวทย์ที่อายุ 30 ปีเท่านั้น นี่เป็นข้อเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ ยังไงก็ตาม ประสบการณ์ 100 ปีของเธอก็ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เธอรีบตั้งสติของเธออย่างรวดเร็ว
ดูเหมือนว่าพวกเขาไม่ได้อยากจะตามสืบเรื่องนี้ต่อ เอเลนอร์ จึงกลับไปที่โรงแรมบลูเฮอมิทหลังจากที่คิดอะไรบางอย่างได้
พวกเขาดูเหมือนจะเป็นพวกที่คุยกันรู้เรื่องนะ ตราบเท่าที่ฉันไม่ได้ไปทำอะไรที่ล้ำเส้นพวกเขา พวกเขาน่าจะปล่อยให้ฉันอยู่คนเดียว
เอเลนอร์ ระวังมากขึ้นในรอบที่สองที่เธอเข้าสู่โรงแรม เธอไม่ได้โอ้อวดร่างกายอันดึงดูดของเธออีกแล้ว เธอจงใจสวมผ้าคลุมที่ใหญ่กว่าตัวเองเพื่อปกปิดร่างกายอันเย้ายวนของเธอ เธอไม่ต้องการที่จะเป็นที่สนใจอีกแล้วในวันนี้
เอเลนอร์ ไม่สามารถนอนหลับได้เมื่อกลับมาสู่ห้องของเธอ ด้วยความที่เธอเหงาและได้วิจัยในเวทมนตร์แห่งความมืด เธอจึงไม่มีเพื่อนเลยและไม่มีคนที่จะคุยด้วย ในตอนที่เธอเบื่อ เธอจะร่ายเวทย์ ดวงตาแห่งวิญญาณ
ดวงตาแห่งวิญญาณ
เวทย์ลึกลับ เลเวล 1
ผล:ส่งผลให้ผู้ใช้สามารถมองไกลได้และมองทะลุกำแพงได้
(หมายเหตุ: เวทย์นี้ซ่อนเร้นได้แนบเนียนมาก)
เอเลนอร์ เริ่มที่จะมีนิสัยแบบนี้ตั้งแต่ที่เธอเริ่มอยู่ตัวคนเดียว มันยากแล้วที่จะเปลี่ยนมันตอนนี้
เดิมที่เธอนั้นวางแผนที่จะมองไปรอบๆเพื่อที่จะบรรเทาความเบื่อของเธอ ยังไงก็ตาม ความสนใจของเธอก็ไปอยู่ที่นักเวทย์หนุ่มที่ทิ้งความประทับใจไม่รู้ลืมไว้กับเธอที่บันได
เธอก็สนใจในตัว เอร์เรร่า เช่นกันแต่เธอต้องเก็บความสงสัยของเธอเอาไว้ เธอไม่กล้าเสี่ยงที่จะถูกพบเจอโดยนักเวทย์เลเวล 6