Advent of the Archmage - ตอนที่ 121: สมุดของ แอนโทนี่
ในห้องของ เอร์เรร่า
…
ลิงค์ เริ่มเล่าเรื่องของเขาตั้งแต่การมาถึงเมืองริเวอร์โควฟของเขา, การร่วมมือกับกลุ่มทหารรับจ้างฟลามิงโก้เพราะเขาสิ้นหวังเรื่องเงินและในที่สุดก็เรื่องที่พวกเขาเอาชนะภราดรแห่งความมืดและฆ่า วิกเตอร์ –ซึ่งนั่นเป็นที่ที่เขาได้รับรูนไสยเวทย์มา ลิงค์ อธิบายรายละเอียดทั้งหมดโดยไม่กั้กเอาไว้
“มันแทบจะไม่สามารถทำลายได้” ลิงค์ พูดขณะที่ชี้ไปที่รูนไสยเวทย์ “มันเป็นอุปกรณ์ที่เป็นที่สักการะของปีศาจซึ่งมันเก็บความรู้อันทรงคุณค่าเกี่ยวกับเวทย์มนตร์แห่งความมืดเอาไว้อย่างไม่ต้องสงสัย แผนการแรกเริ่มของผมคือศึกษามันอย่างลับๆ, เพราะหวังว่าจะได้รับพลังจากมัน แต่เหตุการณ์ที่ผ่านมานั้นก็ได้บอกกับผมว่าผมไร้เดียงสาเกินไปจนเชื่อว่าผมสามารถจัดการกับมันได้”
“ฉันจะไม่โทษเธอ” เอร์เรร่า พูดขณะที่ส่ายหัว เธอรู้สึกโล่งอก “ความอยากรู้อยากเห็นเป็นคุณสมบัติที่นักเวทย์เก่งๆมี ในความเป็นจริง, มันเป็นสิ่งที่ผลักดันนักเวทย์ไปข้างหน้า เธอสามารถควบคุมความอยากรู้ของเธอได้แทนที่จะปล่อยให้มันควบคุมเธอ, และนั่นก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง!”
จากนั้นเธอก็หมุนรูนไสยเวทย์และคิ้วของเธอก็ขมวดแน่นขึ้น
“มันมีออร่าที่ชั่วร้าย” เอร์เรร่า พูด “นี่เป็นเรื่องร้ายแรง, ฉันต้องไปรายงานกับผู้อาวุโส, ลิงค์, เธอควรจะไปกับฉันนะ”
“โอเค” ลิงค์ พยักหน้า
จากนั้น เอร์เรร่า ก็เก็บรูนไสยเวทย์เอาไว้ในกล่องผนึกเวทย์มนตร์แล้วนำมันไปกับเธอด้วย แล้วเธอกับ ลิงค์ มุ่งหน้าไปที่หนามแห่งสวรรค์ซึ่งเป็นที่ที่ แอนโทนี่ พำนักอยู่
พวกเขาไปถึงที่นั่นโดยไม่มีเหตุการณ์ใดๆ, และพวกเขาก็พบนักเวทย์เลเวล 7 อยู่ในห้องปรุงยาของหอคอยเวทย์มนตร์, ซึ่งกำลังล้างหม้อปรุงยาอย่างพิถีพิถัน
“มีเรื่องอะไรเรอะ, มอยร่า?” แอนโทนี่ ดีใจที่ได้เห็นลูกศิษย์คนโปรดของเขาอย่างเห็นได้ชัดเพราะเค้าหน้าที่น่าเคารพของเขาอ่อนลงในตอนที่เขาสังเกตุเห็นเธอ
ไม่มีคนอื่นอยู่ในห้องปรุงยา, เพราะฉะนั้น เอร์เรร่า จึงปิดประตูที่อยู่ข้างหลังเธอ แล้วเธอก็เอากล่องไม้ออกมา, เปิดมัน, และวางมันบนเคาท์เตอร์ปรุงยา
ในตอนที่ แอนโทนี่ เหลือบเห็นวัตถุที่ชั่วร้ายเขาก็ยืนนิ่งอยู่กับที่พร้อมกับอ้าปากค้าง
จากนั้นเขาก็วางขวดคริสตัลในมือของเขาลงอย่างช้าๆ, เดินตรงไปที่เคาท์เตอร์ปรุงยา, หยิบกล่องไม้ขึ้นมา, และตรวจสอบวัตถุที่ชั่วร้ายอย่างระมัดระวัง
ตัดสินจากสีหน้าของเขา, เขาตกใจในตอนแรก, จากนั้นก็ครุ่นคิด, แล้วก็เคลิบเคลิ้มมากขึ้นอย่างช้าๆ เขาดูเหมือนจะถูกดึงดูดด้วยรูนไสย์เวทย์ หลังจากที่ผ่านไปพักใหญ่ๆเขาก็กระตุ้นตัวเองกลับมาสู่ความเป็นจริงและผลักความสนใจของเขาออกจากมัน
จากนั้น แอนโทนี่ ก็ปิดกล่องอย่างแน่หนาแล้วถอนหายใจออกมายาวๆ ด้วยเหตุผลบางประการเขาดูเหมือนมีอายุเพิ่มขึ้นมามากพอสมควรตั้งแต่ที่ ลิงค์ เห็นเขาครั้งสุดท้าย มันดูราวกับว่าการปิดกล่องได้ใช้พลังทั้งหมดของเขาไป
หลังจากนั้นพักนึง, แอนโทนี่ ก็วางกล่องไม้บนเคาท์เตอร์ปรุงยา, แม้ว่าเขาจะดูไม่เต็มใจที่จะทำมันก็ตาม
มันเป็นแค่แวบเดียวเท่านั้นหลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นมา
“วัตถุชิ้นนี้เป็นแหล่งความรู้ในเวทย์มนตร์แห่งความมืด มันชั่วร้ายมากๆและในเวลาเดียวกันนั้นมันก็ล่อตาล่อใจมากๆ มอยร่า, เธอควรจะรีบเก็บมันนะ”
เอร์เรร่า รู้สึกกังวลขณะที่เธอสังเกตุเห็นปฏิกิริยาของอาจารย์ของเธอกับรูนไสยเวทย์ เธอรีบก้าวมาข้างหน้าเพื่อหยิบกล่องไม้และเก็บมันเอาไว้ในกำไลเก็บของของเธอ
“อาจารย์, ท่านไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” เอร์เรร่า ถามด้วยความเป็นห่วงอย่างแท้จริง
“ตอนนี้ข้าไม่เป็นอะไรแล้ว” แอนโทนี่ ตอบขณะที่เขาสูดหายใจเข้าลึกๆด้วยความโล่งอก “ไปเอามันมาจากที่ไหน?”
เอร์เรร่า จ้องไปที่ ลิงค์ แล้วเขาก็พยักหน้าให้เธอ จากนั้นเธอก็เล่าเหตุการณ์ที่นำ ลิงค์ ไปพบรูนไสย์เวทย์ให้ผู้อาวุโสฟังโดยไม่ปิดบังอะไรเอาไว้ แอนโทนี่ ฟังอย่างสนใจและรอให้ เอร์เรร่า พูดจบ จากนั้นเขาก็หันกลับมาแล้วจ้องไปที่ ลิงค์ ด้วยความสงสัย
“ทำไมเธอถึงตัดสินใจที่จะส่งมันมาให้หล่ะ?” แอนโทนี่ ถาม “เธอน่าจะเก็บมันเอาไว้กับตัวเองและศึกษาความลับของมันนะ—ไม่มีใครรู้เรื่องหรอก”
ขณะที่เขาพูด, ผู้อาวุโสก็พิจารณา ลิงค์ ตั้งแต่หัวจรดเท้า เขาทั้งระวังและสงสัยในตัวเด็กหนุ่มคนนี้ ที่ระวังเป็นเพราะ ลิงค์ เก็บการมีอยู่ของรูนไสย์เวทย์เอาไว้จากพวกเขาเป็นเวลาพักใหญ่ๆ, และที่สงสัยเป็นเพราะการตัดสินใจของเขาที่จะเปิดเผยมันและยอมยกมันให้ในตอนนี้
รูนไสยเวทย์เก็บความรู้อันลึกลับเอาไว้ข้างในมากพอที่จะทำให้แม้กระทั่งนักเวทย์เลเวล 7 อย่าง แอนโทนี่ ขาดสติได้ ถ้า แอนโทนี่ อยู่ในสถานการณ์เดียวกันกับ ลิงค์, เขาอาจจะเก็บมันเอาไว้กับตัวเองและซ่อนมันเอาไว้เป็นอย่างดี, และในขณะนั้นเขาก็จะแอบศึกษามันอย่างลับๆ ในช่วงเวลาสั้นๆที่เขาได้สัมผัสกับวัตถุชิ้นนี้, เขาก็ได้รับประสบการณ์อันล่อตาล่อใจโดยตรงที่มันดึงออกมา, และนี่ก็ทำให้การตัดสินใจของ ลิงค์ ดูน่าสับสนมากขึ้นสำหรับ แอนโทนี่
ความสำเร็จเมื่อไม่นานนี้ของ ลิงค์ ได้ดึงดูดความสนใจของเขา, เพราะฉะนั้นเมื่อไม่นานนี้เขาจึงเฝ้าสังเกตุการณ์เด็กหนุ่มคนนี้ และจากสิ่งที่เขาเห็น, ความหลงใหลที่มีต่อเวทย์มนตร์ของเด็กคนนี้ในความเป็นจริงแล้วมันแข็งแกร่งยิ่งกว่าเขาเสียอีก, เพราะฉะนั้นเสน่ห์ของรูนไสย์เวทย์ก็น่าจะมีผลกับ ลิงค์ มากกว่าเขา
“ว่าไงหล่ะ?” แอนโทนี่ พูดอย่างไม่แน่ใจ แต่ถึงอย่างนั้น, เขาก็ไม่สามารถตรวจจับสัญญาณของความไม่ซื่อสัตย์ในสีหน้าของ ลิงค์ ได้เลย
“ผมจำคำพูดที่ว่า ‘อย่ามองเข้าไปในหุบเหว, เพราะหุบเหวจะมองกลับมาที่เจ้า อย่าเข้าไปยุ่งกับความมืด, เพื่อไม่ให้ความมืดทำให้วิญญาณของเจ้าสกปรก’ ได้ ท่านครับ, ผมก็เป็นแค่มนุษย์คนนึง; ผมไม่คิดว่าผมจะมีจิตใจที่แข็งแกร่งมากพอที่จะต้านทานสายตาของหุบเหวได้หรอกครับ เพื่อมอบความซื่อสัตย์ให้ท่านอย่างสมบูรณ์, ผม, จริงๆแล้วก็ยังสนใจในวัตถุลึกลับนี้อยู่มาก, แต่…แต่ผมกลัว”
เขากลัว! แค่คำพูดสามคำนี้ก็เก็บความเฉลียวฉลาดและความเป็นมนุษย์เอาไว้เป็นจำนวนมาก
รูนไสยเวทย์ก็เหมือนกับภูเขาทองคำอันเจิดจรัสพร้อมกับหุบเหวอันไร้ที่สิ้นสุดที่ตีนเขา ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกที่จะสนใจแต่ภูเขาที่แพรวพราวและไม่สนใจความดำมืดของหุบเหว, และในที่สุดก็จะไม่มีพวกเขาคนไหนสามารถหนีไปจากโชคชะตาของการตกสู่ความมืดได้, และต้องชดใช้สำหรับสัญญาแห่งความรุ่งโรจน์ด้วยชีวิตของพวกเขา
หลังจากได้ยินคำพูดของ ลิงค์, แอนโทนี่ ก็เงียบไปพักใหญ่ๆ เขามองตรงเข้าไปในดวงตาของ ลิงค์ และเห็นม่านตาที่ดำมืด, นุ่มลึกและสดใส, แผ่ออกมาด้วยความใสซื่อเหมือนกับเด็กๆและความเฉลียวฉลาดอันสดใส
เอร์เรร่า ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เธอยังรู้สึกประทับใจกับคำพูดของ ลิงค์ และพบว่าเธอดูถูกเด็กหนุ่มคนนี้เกินไป เขาไม่ได้มีข้อบกพร่องกับตัวเองอย่างแน่นอน, แต่เขามักจะพยายามใช้ความเฉลียวฉลาดของเขาเพื่อพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
ยังไงซะ, เทพก็ไม่เคยเลือกคนโดยดูจากพละกำลังและอำนาจเพียงอย่างเดียว—และ ลิงค์ ก็เป็นศูนย์รวมของความเป็นจริงที่สมบูรณ์แบบ
ในช่วงเวลานี้, ห้องปรุงยาเงียบเหมือนกับหลุมศพ และในที่สุด, แอนโทนี่ ก็เป็นคนทำลายความเงียบด้วยเสียงหัวเราะอย่างอบอุ่นของเขา
“นั่นสินะ, ช่างเป็นวิธีคิดที่ยอดเยี่ยมจริงๆ – ‘ผมกลัว!’, ข้าเองก็กลัวเหมือนกัน ในความเป็นจริง, ข้าคงจะไม่สามารถต้านทานการล่อลวงของสิ่งของชั่วร้ายนี้ได้หรอก ถ้าข้าถูกทิ้งไว้กับมันคนเดียว, ก็คงจะไม่มีใครหยุดข้าจากการพยายามเรียนรู้ความลับให้มากที่สุดเท่าที่ข้าจะทำได้ ข้าคิดว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำสำหรับพวกเราทุกคนก็คือเผชิญหน้ากับรูนไสยเวทย์ด้วยกัน”
“มอยร่า” แอนโทนี่ พูด “เจ้ามักจะถูกปกคลุมด้วยออร่าศักดิ์สิทธิ์ของเทพแห่งแสงอยู่เสมอ แม้ว่าเจ้าจะไม่เคยพูดถึงมันมาก่อน, แต่ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าก็ชัดเจนสำหรับข้าเสมอ เพราะฉะนั้นข้ามั่นใจว่าในบรรดาพวกเราสามคน, เจ้าเป็นคนๆเดียวที่สามารถต้านทานพลังอันชั่วร้ายของสิ่งๆนี้ได้อย่างสมบูรณ์, ดังนั้นเจ้าควรจะเป็นคนคุ้มกันมัน!”
“ค่ะ, อาจารย์” เอร์เรร่า พยักหน้า
“แต่เจ้าอย่าลดการป้องกันของเจ้าลงหล่ะ” แอนโทนี่ พูดต่อ “ต่อให้ดวงตะวันจะลับขอบฟ้า, ต่อให้กลางวันจะมอบหนทางให้ค่ำคืน ก็ไม่มีอะไรจะบอกว่าความรุ่งโรจน์ของแสงสว่างจะไม่เปลี่ยนแปลงไปตลอดการ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในอนาคต ลิงค์ กับข้าจะคอยจับตาดูเจ้า, และพวกเจ้าทั้งสองก็ต้องคอยจับตาดูข้าเช่นกัน ไม่ว่าข้าจะยกเหตุผลอะไรขึ้นมา, เจ้าก็ห้ามปล่อยให้ข้าสัมผัสสิ่งชั่วร้ายนี้อีก! และไม่ว่าใครก็ห้ามยุ่งกับมันอีก, เข้าใจนะ ลิงค์!”
น้ำเสียงของ แอนโทนี่ รุนแรงและเร่าร้อนขณะที่เขาพูด เขากลัวพลังอันชั่วร้ายของรูนไสยเวทย์อย่างเห็นได้ชัด
ยังไงซะ, มนุษย์ก็มักจะอ่อนแอที่สุดในตอนที่พวกเขาอยู่ตัวคนเดียว!
มนุษย์ตัวคนเดียว, ทีไม่มีการชี้นำหรือการควบคุมใดๆก็สามารถทำได้ทุกๆอย่าง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำไม แอนโทนี่ ถึงไม่เชื่อใจในตัวเองในการคุ้มกันรูนไสย์เวทย์ด้วยตัวคนเดียวและเลือกที่ให้ทั้งสามคนคอยป้องกันอีกสองคนที่เหลือจากการสัมผัสคริสตัลที่ชั่วร้ายอีกครั้ง เขามั่นใจว่านี่จะเป็นวิธีคุ้มกันที่ดีที่สุดในการป้องกันคนอื่นจากการใฝ่หาพลังในทางที่ผิดที่รูนไสย์เวทย์เก็บเอาไว้
แต่ ลิงค์ ยังมีเรื่องที่ไม่สบายใจเหลืออยู่อีกอย่างนึง
“แต่ท่านครับ, ผมขอถามหน่อยได้ไหมว่าทำไมท่านถึงไว้ใจให้ผมคุ้มกันมันด้วย? คนจากสภาสูงจะไม่เหมาะสมในการคุ้มกันสิ่งที่น่าเกรงขามแบบนี้มากกว่าหรอครับ?”
แม้ว่า ลิงค์ ในตอนนี้จะเป็นนักเวทย์เลเวล 4 อย่างเป็นทางการแล้วและสามารถควบคุมตัวเองในสนามรบได้, แต่ ลิงค์ ก็รู้ว่าความเข้าใจในด้านทฤษฎีเวทย์มนตร์ของเขาต่ำต้อยเพียงใดเมื่อเทียบกับเหล่าจอมเวทย์ ดังนั้นเขาจึงสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้รับความไว้ใจให้คุ้มกันรูนไสย์เวทย์ร่วมกับ เอร์เรร่า และผู้อาวุโส
“อย่าดูถูกตัวเองสิ, หนุ่มน้อย” แอนโทนี่ พูดด้วยรอยยิ้ม “มันคงจะเป็นความคิดที่ไม่ดีนะที่จะปล่อยให้มีคนรู้เรื่องการมีอยู่ของวัตถุสิ่งนี้มากขึ้นอีก และพวกผู้เฒ่าในสภาก็อาจจะพยายามขับไล่เธอออกจากสถาบันก็ได้”
แอนโทนี่ ยกมือของเขาขึ้นมาและขัดจังหวะ เอร์เรร่า ขณะที่เธอกำลังจะคัดค้าน
“ข้ารู้, มันอาจจะฟังดูน่าเจ็บใจ, แต่มันเป็นความจริง เหล่าจอมเวทย์ของสภาสูงทั้งแก่และดื้อรั้น สิ่งเดียวที่พวกเขาสนใจก็คือกฎ”
พอเขาพูดจบ แอนโทนี่ ก็เอาคทาของเขาออกมา
มันเป็นคทาที่ดูสง่างามที่ถูกเรียกว่าบัญชาของผู้อาวุโส มันเป็นอุปกรณ์ศักดิ์สิทธิ์ที่ส่งกันมาในบรรดาเหล่าผู้อาวุโสจากรุ่นสู่รุ่น มันมีรูปร่างคล้ายกับคทาของพระมหากษัตริย์, จะต่างกันก็แค่มันงดงามและละเอียดอ่อนมากกว่า ตำนานเล่าว่าคทานี้ถูกสร้างขึ้นมาจากต้นไม้โลกจากอาณาจักรเอลฟ์ อัญมณีที่ประดับอยู่ที่ปลายคทาถูกเรียกว่าหินดวงจันทร์สีรุ้งและมันก็เป็นอัญมณีล้ำค่าที่ถูกพบที่ใจกลางภูเขาชาล์ฟิลด์ – ภูเขาที่สูงที่สุดในเทือกเขารอคกี้ อัญมณีที่สวยที่สุดในโลกจะถูกบดบังด้วยแสงระยิบระยับของหินดวงจันทร์สีรุ้งถ้าพวกมันถูกนำมาเสนอร่วมกัน
ขณะที่ ลิงค์ จ้องไปที่คทาการแจ้งเตือนก็ปรากฏขึ้นบนหน้าอินเตอร์เฟส
บัญชาของผู้อาวุโส, คทาผู้พิทักษ์
คุณภาพ: ตำนาน
ผลแรก: ความเร็วในการร่ายเวทย์ของผู้ครอบครองคทาจะเพิ่มขึ้น 100%
ผลที่สอง: พลังเวทย์มนตร์ของผู้ครอบครองจะแรงขึ้น 150%
ผลที่สาม: ความเร็วในการฟื้นฟูมานาของผู้ครอบครองคทาจะเพิ่มขึ้น 200%
ผลที่สี่: เพราะคุณสมบัติเวทย์มนตร์ของต้นไม้โลก, ผู้ครอบครองคทาจะสามารถใช้เวทย์ระดับตำนานที่จะชุบชีวิตศพที่ตายไม่ถึงหนึ่งวันขึ้นมาได้ เวทย์นี้มีขีดจำกัดในการใช้หนึ่งครั้งต่อปี
(หมายเหตุ: นี่คือคทาเวทย์มนตร์ของนักเวทย์ในตำนาน ไบรอันท์, แต่เดิมแล้วมีชื่อว่าอ้อมกอดของฟิโอน่า)
ลิงค์ รู้สึกสงสัยขณะที่เขาอ่านคำอธิบายบนหน้าอินเตอร์เฟส
เอิ่ม, นี่คือรายการประสิทธิภาพของคทาอันเดียวงั้นหรอ!
จากนั้น แอนโทนี่ ก็ชี้คทาไปที่พื้นที่ว่างที่อยู่ข้างๆเขา, มีหลุมดำโผล่ออกมาจากอากาศที่เบาบาง เขาเอื้อมมือของเขาเข้าไปในวอยด์และเอาสมุดที่ตกแต่งอย่างงดงามออกมา
“หนุ่มน้อย, นี่เป็นของขวัญของข้าที่มอบให้กับเจ้า” จากนั้นเขาก็ยื่นสมุดให้กับ ลิงค์
“แต่ว่า อาจารย์” เอร์เรร่า อุทานขึ้นมา “นี่เป็นความพยายามตลอดชีวิตของท่านเลยนะคะ!”
แอนโทนี่ หัวเราะ
“ใช่แล้ว เพราะเหตุนั้นข้าถึงต้องเลือกตัวแทนที่จะรีบสมุดของข้าเล่มนี้อย่างระมัดระวังยังไงหล่ะ มอยร่า, อย่านำไปบอกกับพวกพี่ๆของเจ้านะ, ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะอิจฉาตาร้อนกัน”
จากนั้นเขาก็หันกลับไปและจ้องไปที่ ลิงค์
“ในสมุดเล่มนี้ ข้าได้บันทึกทุกๆอย่างที่ข้าเรียนรู้มาตั้งแต่กลายเป็นนักเวทย์ ข้าวางแผนที่จะทิ้งมันให้กับ มอยร่า หลังจากที่ข้าตาย, แต่ข้าจะมอบให้เจ้าในตอนนี้ และพอเจ้าศึกษามันได้สำเร็จ, เจ้าจะส่งต่อมันให้ มอยร่า ก็ได้” แอนโทนี่ อธิบาย
หัวใจของ ลิงค์ แทบจะระเบิดออกมาด้วยความสุขที่ได้รู้ว่าความรู้อันทรงคุณค่าของนักเวทย์เลเวล 7 กำลังจะตกทอดมาถึงเขา สมุดล้ำค่าเล่มนี้ดีกว่ารูนไสย์เวทย์เป็นไหนๆ ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจถูกต้องที่เปิดเผยความจริงให้ เอร์เรร่า!
จากนั้นเขาก็รับสมุดจาก แอนโทนี่ อย่างระวังมากๆด้วยสองมือของเขาเพราะคิดว่ามันบอบบางเหมือนกับแก้ว
“ผมจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังครับ” เขาพูดอย่างจริงจัง
“ข้าเชื่อในตัวเจ้านะ” แอนโทนี่ พูดพร้อมกับพยักหน้า จากนั้นเขาก็แตะหน้าผากของเขาด้วยคทาของเขา, ราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง
“โอ้, ว่าแต่, หนุ่มน้อย” เขาพูด “ข้าได้ยินมาว่าเจ้าเป็นลูกชายของชนชั้นสูง เจ้าสนใจจะเข้าร่วมกองทัพในฐานะอัศวินไหม?”
“ผม, เข้าร่วมกองทัพหรอครับ?” ลิงค์ ไม่สามารถตามความคิดของผู้อาวุโสได้
“ใช่, จะให้เจ้าเข้าร่วมกองทัพ กองทัพของอาณาจักรในตอนนี้ได้มุ่งหน้าไปทางเหนือแล้ว แต่ข้ากลัวว่าพวกเขายังขาดนักเวทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการต่อสู้ ถ้าเจ้าสนใจ, ข้าสามารถแนะนำให้เจ้าเข้ากองทัพได้นะและเจ้าก็อาจจะได้เข้าร่วมในฐานะรองผู้บัญชาการ เจ้ายังไม่ต้องให้คำตอบกับข้าในตอนนี้ก็ได้ ยังมีเวลาก่อนที่กองทัพจะไปถึงชายแดนทางเหนือ, และต่อให้ถึงแล้ว, ก็ยังมีการเตรียมการอีกมากมายที่ต้องทำ เพราะฉะนั้นเจ้ามีเวลาสองเดือนในการคิดเกี่ยวกับมัน”
ลิงค์ เงียบลง เขาคิดเรื่องนี้อย่างจริงจังและใช้เวลาในการพิจารณา
“ในเมือยังมีเวลาเหลืออยู่อีกมาก” ในที่สุด ลิงค์ ก็พูดออกมา “ตอนนี้ผมก็ขอฝึกทักษะเวทย์มนตร์ของผมให้คมขึ้นและเรียนรู้ให้มากที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ก่อนที่เวลาจะมาถึงแล้วกันนะครับ”
“ได้เลย, หนุ่มน้อย” แอนโทนี่ พูด เอร์เรร่า ตกตะลึงเล็กน้อยกับรอยยิ้มใจดีที่ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโส ในช่วงหลายปีมานี้ในฐานะลูกศิษย์ของเขา, เธอไม่เคยเห็นสีหน้าที่มีความสุขขนาดนี้บนใบหน้าของ แอนโทนี่ มาก่อนเลย
หลังจากนั้น, พอ ลิงค์ กับ เอร์เรร่า เดินทางกลับจากหนามแห่งสวรรค์, ลิงค์ ก็ดูเหมือนจะจมดิ่งเข้าไปในความคิด
“ผมยังคิดว่าเรื่องที่ว่า เฟลิเดีย จะต้องทำอะไรบางอย่างในเร็วๆนี้อยู่เลย ดาร์กเอลฟ์ สามารถวางแผนที่ชั่วร้ายได้ขณะที่พวกเราพูดกันอยู่ ผมต้องไปเยี่ยมเมืองริเวอร์โควฟแล้วหล่ะ”
“เธอพูดมีประเด็นนะ” เอร์เรร่า พูด “ไปเถอะ แล้วก็ระวังตัวด้วยหล่ะ, และอย่าทำอะไรผลีผลามถ้ามีเรื่องที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น ใช้สิ่งนี้ติดต่อกับฉันนะ” จากนั้นเธอก็มอบบางสิ่งที่ส่องแสงสว่างสดใสให้กับเขา
หลังจากที่ตรวจสอบมันใกล้ๆ ลิงค์ ก็พบว่ามันคือขนสีขาว เขาไม่ได้รู้สึกประหลาดใจมากขนาดนั้นเพราะ เซลีน เคยมอบสิ่งที่คล้ายกันนี้ให้กับเขาเช่นกัน เขารับขนอยางระมัดระวังและเก็บมันเอาไว้ในจี้เก็บของของเขา
“เข้าใจแล้ว” ลิงค์ พยักหน้า
หลังจากนั้นเขาไม่ได้กลับไปที่หอคอยเวทย์มนตร์แต่ตรงไปที่โรงม้าของสถาบันแทน