AtW ตอนที่ 98 กลับสู่ครอบครัว
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
“อาเบลเตรียมตัวให้พร้อมซะ ลูกจะต้องมาพบกับครอบครัวแฮรี่กับ ลอร์ดมาแปล พูดกับอาเบลในระหว่างที่พวกเขานั้นกําลังทานอาหารเช้าอยู่”
“แล้วคุณปู่บรูคชอบอะไรหรอครับ? ผมไม่ได้เตรียมของขวัญอะไรให้เขาเลย” อา เบลพูดออกมาโดยที่รู้สึกผิดเล็กน้อย ตอนนี้เขาจะต้องตัดสินใจที่จะเลือกของขวัญให้ กับตระกูลแฮรี่ หลังจากที่ได้เจอบรูคแฮรี่เมื่อวานแล้วอาเบลก็คิดออกแล้วว่าจะเตรียม อะไรเป็นของขวัญให้กับปู่คนนี้
“เขาคนนั้นชอบแต่ของแพงๆละนะ นายก็ให้ไวน์ชั้นดีกับเขาไปซะสิ เขาเป็นคนที่ชอบไวน์” ลอร์ดมาแชลพูดกับอาเบลพร้อมกับกัดริมฝีปากของตัวเอง
ทันใดนั้นเองอาเบลก็หันไปหาลอเรนก่อนจะพูดว่า “ลอเรน ตอนนี้เธออยู่ที่นี่ไปก่อ นได้นะ ฉันรู้สึกว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นที่เมืองเบกองในอีกสองวันข้างหน้านี้ ไม่ว่าอะไรก็ตาม อย่าออกจากที่พักละ”
“โอเค!” ลอเรนพยักหน้าตอบกลับอาเบลไป แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นก็ตาม แต่เธอเองก็รู้สึกบรรยากาศที่ดูน่าหดหูในตอนนี้ได้
หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ อาเบลก็ได้เรียกให้พ่อบ้านเคนพาเขาไปที่ห้องเก็บ ไวน์ อาเบลได้เลือกไวน์ที่ดีที่สุด 3 ขวดด้วยกัน ก่อนที่จะกลับไปที่ห้องของตัวเอง
นี่เป็นครั้งแรกที่อาเบลกําลังจะรวมของธรรมดาๆ อย่างไวน์ ตอนนี้เขารู้สึกไม่มั่นใจ เท่าไรนัก ไวน์เป็นของเหลวชนิดหนึ่ง ดังนั้นแล้วอาเบลจึงคิดว่าของเหลวแบบนี้คงจะ สามารถรวบรวมในฮอร์ราดริกคิวบ์ได้ อาเบลไม่รอช้าเขารีบหยิบฮอร์ราดรึกคิวท์ออก มาก่อนที่จะวางไวน์ทั้ง 3 ขวดลงไปในฮอร์ราดริกคิวบ์ หลังจากนั้นเขาก็ได้กดปุ่ม หลอมรวมอย่างเบามือ
ไวน์ทั้งสามขวดได้หายไปภายในพริบตาเดียวเท่านั้น หลังจากนั้นฮอร์ราดริกคิวท์ ของอาเบลก็ได้มีขวดคริสตัลปรากฏขึ้นมาขวดหนึ่ง ภายในขวดนั้นเต็มไปด้วยของเห ลวสีแดงที่ดูคล้ายกับไวน์เป็นอย่างมาก และของเหลวอันนี้เองยังเต็มไปด้วยประกาย แสงสีแดงอีกด้วย อาเบลเปิดขวดไวน์อย่างช้าๆ เพื่อที่จะดมกลิ่นของไวน์ขววดนี้ แม้ ว่าตัวเขาเองนั้นจะไม่ได้ชอบกินไวน์เท่าไรนัก แต่จากกลิ่นที่เย้ายวนของไวน์ขวดนี้ แล้วมันเชิญชวนให้อาเบลนั้นลิ้มลองเป็นอย่างมาก
อาเบลปิดขวดทันที ตอนแรกเขาคิดเอาไว้ว่าจะใช้ขวดที่ดูใหม่กว่านี้เพื่อใส่ไวน์ขวดนี้ แต่ขวดคริสตัลนี้เองก็ดูสวยและเหมาะสมกับไวน์ในนั้นมาก สุดท้ายแล้วอาเบลจึงใช้ขวดคริสตัลนี้ไปในที่สุด
บ้านพักของตระกูลแฮรี่นั้นตั้งอยู่ที่ทิศตะวันออกของเมืองเบกอง พื้นที่ของครอบครัวตระกูลแฮรี่นั้นเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ โดยทั้งลานนั้นจะถูกล้อมไปด้วยกาแพงสี ขาวและถูกปูด้วยพลังคาสีแดงเช่นเดิม
รถม้าที่อาเบลกับลอร์ดมาแชลได้นั่งมานั้นได้จอดอยู่ที่หน้าประตูของบ้านตระกูล แฮรี่เป็นที่เรียบร้อย ทันทีที่เดินทางมาถึงอาเบลก็ได้เห็นสัญลักษณ์สิงโตสีขาวและ สัญลักษณ์ยูนิคอร์นสีขาวโดยที่มีพื้นหลังเป็นสีแดง สัญลักษณ์ทั้ง 2 สัญลักษณ์เป็น สัญลักษณ์ประจําตระกูลนั่นเอง
“ยินดีต้อนรับอาเบล ขอบคุณนะที่มาเยี่ยมเยียนกัน!” บรคได้ออกมาต้อนรับอา เบลพร้อมกับชายชราอีกหลายคนที่หน้าประตู ทันทีที่บรูคออกมาต้อนรับนั้นอาเบลก็รู้สึกถึงความรักที่มาจากชายชราคนนี้ได้เป็นอย่างดี
“คุณปู่บรค ทําไมถึงออกมาด้านนอกด้วยตัวเองแบบนี้ละครับ” อาเบลได้พูดเพื่อ ทักทายบรคก่อนที่จะโค้งค่านับให้กับเขา
“นี่คือปู่คนที่ 2 ปู่คนที่ 3 และปู่คนที่หาของนายไงละ” บรูคได้แนะนําชายชราที่ออกมากับเขาให้กับอาเบลได้รู้จัก
อาเบลรู้ได้ทันทีว่าพวกผู้อาวุโสจากตระกูลแฮรี่นั้นดูจะไม่สนใจลอร์ดมาแชลแต่อย่างใด พวกเขาทั้งหมดยินดีที่จะต้อนรับอาเบลมากกว่า
“คุณปู่บรูค ผมกับพ่อมีของขวัญมามอบให้กับคุณด้วย!” หลังจากที่อาเบลพูดจบ เขาก็ตัดสินใจที่จะหยิบกล่องของขวัญกล่องเล็กๆขึ้นมา ก่อนที่จะส่งให้กับมือของบรูคในทันที
หลังจากที่บรคได้รับของขวัญมาเขาก็ตัดสินใจที่จะเปิดกล่องของขวัญในทันที ภายในกล่องของขวัญนั้นมีดาบเวทย์อยู่ด้วยกันทั้งหมด 2 เล่มด้วยกัน ดาบเวทย์พวก นี้ทําให้เหล่าชายชราทั้งหลายนั้นต่างก็ยิ้มออกมาทันที ในโลกใบนี้คงจะไม่มีใครไม่ชอบดาบเวทย์อย่างแน่นอน ด้วยดาบเวทย์ที่พวกเขามีในตอนนี้มันจะสามารถทําให้ครอบครัวตระกูลแฮรี่นั้นเพิ่มพลังอํานาจได้อย่างแน่นอน
“นี่..มัน?” บรคได้หยิบขวดคริสตัลขวดหนึ่งขึ้นมาด้วยความสงสัย เขาเปิดฝาขวด ออกอย่างเบามือก่อนที่จะค่อยๆใช้จมูกของตัวเองนั้นสูดดมกลิ่นภายในขวด ทันใดที่ได้กลิ่นร่างกายของเขาก็ยืนแข็งที่อในทันที บรูคได้รีบปิดฝาขวดไปในทันทีโดยที่ไม่ได้แสดงออกทางสีหน้าอะไรออกมาเลย หลังจากที่ปิดฝาเสร็จชายชราคนนี้ก็ได้หันมาพูดกับอาเบลเบาๆ ว่า “อาเบล นายรู้ได้ยังไงกันว่าฉันชอบไวน์ ฉันจะขอรับของขวัญชิ้นนี้ไว้เองนะ”
ในเวลานั้นเองชายชราคนอื่นที่ยืนอยู่กับบรคด้วยก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้จะต้องมีอะไร บางอย่างเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ชายชราทั้งหมดได้เดินไปหาบรูคคล้ายว่าจะต้องการ หยุดพฤติกรรมในครั้งนี้ของเขา แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นบรคก็ไม่ได้หยิบไวน์แดงขวดนี้ ออกมาเลย
อาเบลไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าครอบครัวตระกูลแฮรี่นั้นจะมีความปรองดองแบบนี้ มาก่อน แม้ว่าพวกเขาทั้งหมดจะมีเจตนาที่ดีและคนในตระกูลเดียวกันจะไม่เคยคิดที่จะต่อสู้หรือวางแผนที่จะขัดขว้างซึ่งกันและกัน แต่อาเบลก็ตระหนักได้แล้วว่าสถานะที่ลอร์ดมาแซลมีอยู่ในตอนนี้กับครอบครัว ก็เป็นสถานะที่เป็นแบบเดียวกับชายชราทั้งหมดในตอนนี้เช่นกัน
หลังจากที่เสร็จสิ้นธรรมเนียมการต้อนรับ พวกเขาทั้งหมดก็ได้เข้าไปนั่งที่ห้องนั่ง เล่นห้องหนึ่ง ก่อนที่ลอร์ดมาแชลจะได้พูดอะไรบรคก็ได้เอยปากขึ้นมาก่อน “ฉันไม่ได้บอกนายให้ออกไปจากเมืองนี้เร็วๆ อย่างงั้นหรอ?”
“การเดินทางมาที่เมืองเบกองนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ผมอยากที่จะเจอกับท่านแม่ ก่อน” ลอร์ดมาแชลตอบกลับอย่างเบาๆ
“เวลานี้เป็นเวลาที่ดีที่สุดแล้ว ถ้าหากนายไม่ยอมออกไปในตอนนี้ นายจะไม่ได้ออกไปอีก” บรูคได้พูดกับลอร์ดมาแชลพร้อมกับถอนหายใจ
“ทําไมกัน?” ลอร์ดมาแชลกับอาเบลถามออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน
อาเบลและลอร์ดมาแชลไม่รู้ข่าวในเมืองเบกองเลย พวกเขาไม่มีแหล่งข่าวกรอง ในเมืองนี้นั่นเองดังนั้นแล้วพวกเขาทั้ง 2 คนจึงไม่รู้ว่ามีอะไรน่าลังจะเกิดขึ้นกันแน่
“ตอนนี้พระราชามีสภาพที่ไม่สู้ดีแล้ว!” บรูคได้พูดด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเศร้า “หลังจากพิธีการมอบตําแหน่งเมื่อวานนี้จบลงดูเหมือนว่าฝ่าบาทจะทรงหมดสติไป ในตอนกลางคืนของเย็นวานนี้เอง ก็ได้มีข่าวมาว่าฝ่าบาทนั้นอยู่ในสภาพวิกฤติไปแล้ว ตอนนี้ประตูเมืองของเมืองเบกองทุกทางเข้าออกถูกผิดไปอย่างสมบูรณ์แบบ นอกเหนือจากพวกขุนนางแล้วก็คงจะไม่มีใครเข้าออกเมืองนี้ได้อีกต่อไป”
อาเบลและลอร์ดมาแชลที่ได้ฟังข่าวได้แต่จ้องมองกัน พวกเขาเพิ่งจะเห็นกษัตริย์ เมื่อวานนี้ แต่ในตอนนี้กษัตริย์องค์นั้นได้ตกอยู่ในสภาพที่วิกฤตไปแล้ว ไม่มีใครเลยที่จะเดาเรื่องแบบนี้ไว้ล่วงหน้าก่อนได้
“เมืองนี้กําลังจะตกอยู่ในความวุ่นวาย นี่คงจะเป็นโอกาสที่ที่จะได้ใช้อาวุธเวทย์ ของนายนะอาเบล ตอนนี้ผู้บัญชาการทั้ง 2 ครอบครัวต่างก็จะแสดงพลังที่แท้จริงของพวกเขาออกมา!” บรูคได้พูดขึ้น
อาเบลไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่าสถานการณ์จะเลวร้ายแบบนี้ไปได้ ตอนนี้กําลังจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นที่เมืองเบกองแห่งนี้ หัวหน้าผู้บัญชาการทั้งสองคงก็คงจะต้องใช้พลังทุกอย่างในการปกป้องครอบครัวของตัวเองเอาไว้
“ไม่ต้องห่วง พวกเรานอัศวินรับใช้มากับพวกเราด้วย แถมในตอนนี้พวกเรายังมีนักรบที่มากประสบการณ์อยู่อีก ดูเหมือนว่าหัวหน้าผู้บัญชาการคนนั้นจะรู้ดีว่าพวกเรา กําลังเจอกับปัญหา” ลอร์ดมาแชลได้พูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ ตอนนี้เขามั่นใจในพลังการสู้รบของกาลังพลตัวเองมาก นอกจากนี้แล้วอาเบลยังแข็งแกร่งมากพอที่จะจัดการกับอัศวินชั้นสูงอีกด้วย ตอนนี้จึงไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงแต่อย่างใด
“เป็นความเชื่อมั่นที่ดีเลยนะ แต่ถ้าหากเกิดอะไรแย่ๆขึ้นแล้วละก็ นายพาคนมาหลบที่ตระกูลของเราได้เสมอนะ” บรูคได้พูดกับลอร์ดมาแชลด้วยน้ําเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย
“แล้วพี่น้องคนอื่นๆ อยู่ไหนกันหรอครับ?” ลอร์ดมาแชลถามออกไปด้วยน้ําเสียงที่ แปลกประหลาด
“ฉันไม่ให้พวกเขาอยู่ที่นี่ในสถานการณ์แบบนี้หรอก ไม่กี่วันมานี้ฉันได้ส่งพวกเขา ไปอยู่ที่อื่นกันหมดแล้ว” บรูคยังคงพูดต่อไป “ในตอนที่ฉันหมดห่วงแล้วแต่ตอนนี้นา ยกลับทําให้ฉันรู้สึกเป็นยห่วงขึ้นอีกครั้ง นายไม่เห็นจดหมายของฉันที่เขียนถึงนาย หรอไง?”
ในตอนนี้อาเบลตระหนักรู้ได้แล้วว่าแท้จริงแล้วบรคนั้นเป็นห่วงเป็นใยลอร์ดมาแชล ขนาดไหน เขาเพียงแต่พยายามที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกเป็นห่วงนี้เอาไว้ข้างในเท่านั้น
“…ผมไม่คิดว่ามันจะร้ายแรงแบบนี้” ลอร์ดมาแชลพูด ตอนนี้ใบหน้าของเขากลาย เป็นสีแดงหลังจากที่เจอพ่อของตัวเองดุด่าว่ากล่าว ตอนนี้เขาเหมือนกับชายวัย 40 ที่กําลังโดนดุจากผู้เป็นพ่ออยู่
หลังจากที่จบการสนทนาลง ชายชราทั้งหมดก็กําลังหาที่เพลิดเพลินสาหรับการจิบไวน์แดงที่ได้มาต่อไป อาเบลได้เดินตามลอร์ดมาแชลไปที่ลานหลังบ้าน เพื่อที่จะได้พบกับแม่ของลอร์ดมาแชลนั่นเอง
อาเบลไม่เคยเห็นลอร์ดมาแชลท่าตัวเป็นเด็กแบบนี้มาก่อนเลย ในตอนที่เขาเจอหน้าแม่นั้น ลอร์ดมาแชลได้ไปกอดแม่ของตัวเองก่อนที่จะร้องไห้ขึ้นมา แม่ของลอร์ดมาแชลเป็นหญิงชราที่ดูใจดีเป็นอย่างมาก เธอตบไปที่หลังของลอร์ดมาแชลอย่างเบามือ หลังจากนั้นเธอก็พูดให้กาลังใจลอร์ดมาแชลอย่างเบาๆ
ในตอนที่อาเบลเห็นภาพเหตุการณ์ทุกอย่าง ตัวเขานั้นก็ถอยหลังออกไปอย่างช้าๆ ตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะขัดจังหวะภาพบรรยากาศที่แสนอบอุ่นระหว่างแม่ลูกคู่นี้ได้ อาเบลรู้ดีว่าลอร์ดมาแชลไม่ได้พบกับแม่ของตัวเองเป็นเวลานานมากแล้ว ภาพในตอนนี้เองทําให้อาเบลเองคิดถึงครอบครัวของตัวเองเช่นเดียวกัน ความทะเยอทะยานในการที่จะเป็นจอมเวทย์เพื่อที่จะใช้คัมภีร์วาร์ปของอาเบลนั้นก็ได้เพิ่ม ขึ้นมาอีกครั้ง
จากที่ลอร์ดมาแชลเคยพูดเอาไว้ ดูเหมือนที่เมืองเบกองแห่งนี้จะมีจอมเวทย์อาศัย อยู่ แม้ว่าอาเบลจะไม่รู้ว่าจอมเวทย์คนนั้นอยู่ที่ไหนกันแน่ แต่สุดท้ายแล้วเขาก็จะได้รู้ จากคําตอบของลอร์ดมาแชลเอง ตอนนี้อาเบลไม่สามารถที่จะรอคอยต่อไปได้แล้ว หลังจากที่ได้เห็นลอร์ดมาแชลพบกับแม่ของตัวเอง อาเบลก็คิดถึงบ้านของตัวเองหนักขึ้น ความคิดที่อยากจจะกลับบ้านก็ได้ถูกจุดประกายขึ้นมาอีกครั้ง
อาเบลได้กลับไปที่ศูนย์กลางของลานบ้านตระกูลมาแชลแทน เมื่อเวลาได้ผ่านพ้นไปตอนนี้อาเบลได้แต่เห็นเหล่าอัศวินและนักรบทั้งหลายกําลังเคลื่อนย้ายไปมา ดูเหมือนว่าในอีกไม่นานมานี้จะต้องมีพายุโหมกระหน่าโจมตีเมืองเมืองนี้อย่างแน่นอน
“ฆ่ามัน!” เสียงตะโกนดังขึ้นดุจดั่งฟ้าผ่าจากถนนไทรอัมพ์ อาเบลรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก ตอนนี้ตัวเขานั้นรีบวิ่งไปที่ถนนเส้นนั้นโดยที่ไม่ได้บอกลอร์ดมาแชลแต่อย่างใด
ไม่นานหลังจากที่ตัวอาเบลออกมาจากลานได้ เขาก็เห็นอัศวินรับใช้ทั้ง 20 คนกํา ลังถือโล่ห์ป้องกันอยู่ ตอนนี้พวกเขาทั้ง 20 คนกําลังปกป้องลอเรนและพ่อบ้านทั้ง 2 คนเอาไว้ อัศวินรับใช้บางคนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยไปแล้ว ที่ไม่ไกลกันเท่าไรนักมีเหล่าคาลวารี่กว่า 100 คนที่สวมใส่ชุดเกราะสีทองนั้นกําลังโจมตีอัศวินรับใช้อยู่นั่งเอง คาลวาลี่ทั้งหมดถูกนําทัพโดยอัศวินทั้ง 2 คน
ลมทมิฬเองก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน ดูเหมือนว่าขาหลังของลมทมิฬจะได้รับบาดเจ็บอยู่ในตอนนี้ที่มุมปากของมันเองก็มีเลือดไหลออกเช่นกัน
เมื่อมาถึงจุดนี้อาเบลได้แต่กู่ร้องออกมาอย่างเสียงดัง พลังลมปราณสีทองของอาเบลได้เข้าปกคลุมร่างกายของเขาในทันที ดาบเวทย์น้ําแข็งที่ถูกเก็บเอาไว้จา กด้านหลังถูกดึงออกมาใช้งานในมือขวาอย่างรวดเร็ว มือซ้ายของอาเบลได้ถือโล่ห์อันหนึ่งเอาไว้ อาเบลไม่รอช้เขาพุ่งใส่กองทัพของศัตรูในทันที ตั้งแต่ที่เขาได้มาเยี่ยมเยียนครอบครัวของแฮรี่นั้นตัวอาเบลก็ไม่ได้สวมใส่ชุดเกราะของตัวเองมา เขาเพียงแต่พกดาบกับโล่ห์มาเพียงแค่นั้น ตอนนี้อาวุธที่อาเบลได้พกมานั้นมีประโยชน์ แล้วนั่นเอง
ในระหว่างการเดินทางในครั้งนี้อาเบลได้ดื่มยาแห่งการควบแน่นระดับสุดยอดไป กว่า 200 ขวด พลังลมปราณของอาเบลในตอนนี้เกือบที่จะกลายเป็นสีทองเข้มไปในที่สุด พละกําาลังร่างกายของเขาเองก็เพิ่มขึ้นมาเป็น 2 เท่าอีกด้วย
“อัศวินมา! ป้องกัน!” คาวารี่ส่งเสียงตะโกนออกมาทันทีหลังจากที่ได้ยินเสียงกับ ม้าที่วิ่งมาทางพวกเขา
“ตอนนี้ทหารองค์รักษ์กําลังจัดการธุระสําคัญอยู่ ถ้าหากนายไม่อยากเจ็บตัวละก็ อย่าก่อเรื่องจะดีกว่านะ!” คาวารี่ที่สวมใส่ชุดเกราะสีทองตะโกนออกมาทันที
MANGA DISCUSSION