AtW ตอนที่ 90 อาเบลเป็นผู้บริสุทธิ์
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อน ใคร ND Translate นิยายแปลไทย
“เป็นไปได้ยังไง” ตอนนี้ทหารรักษาความปลอดภัยได้เผลอพูดออกมา จากนั้นเขาก็รีบพูดต่อไปอีกว่า “ผมขอโทษด้วยครับท่านลอร์ดอาเบล ผมแค่ตกตะลึงในพลังของท่าน”
อาเบลตอบกลับทันที ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้แข็งแกร่งอะไรหรอก มันก็แค่…” ไม่ทันที่อาเบลจะพูดจบเขาก็หยุดพูดอย่างกะทันหัน ก่อนที่จะเริ่มพูดขึ้นมาใหม่อีกครั้ง “ผมก็แค่สู้กับเขา ในตอนที่อัศวินคนนั้นไม่มีอาวุธก็เท่านั้น”
ในเวลานั้นเองผู้ดูแลบ้านอย่างร็อบบินของบ้านพักแฮรี่ในเมืองฮาเวสก็ได้เดินทางมาถึง เขาถูกเรียกมาที่โรงประมูลแห่งนี้เพราะได้ข่าวว่าลอร์ดอาเบลได้ถูกโจมตีนั่นเอง โดยปกติแล้วเมื่อเกิดสถานการณ์แบบนี้คนคนแรกที่ทหารยามรักษาความปลอดภัยจะนึกถึงก็คือครอบครัวของอาเบลนั่งเอง [หมายเหตุ: เปลี่ยนแปลงผู้ดูแลบ้านจากเดิมโรบินเป็นร็อบบิน (ผู้แปลเข้าใจผิดพลาดขอภัยอย่างสูง)]
“นายน้อยอาเบล พ่อบ้านร็อบบินคนนี้ได้มาตามหาท่านแล้ว” พ่อบ้านร็อบบินได้พูดก่อนที่จะโค้งคํานับให้กับเขา มีเพียงคนรับใช้จากปราสาทแฮรี่เท่านั้นที่จะเรียกอาเบลว่าเป็นนายน้อยแบบนี้ได้
“ร็อบบิน คุณมาทําอะไรที่นี่กัน? ถ้าเป็นอย่างงี้แล้วคุณช่วยพาเอลฟ์คนนี้ กลับไปทีได้ไหม” อาเบลได้ชี้นิ้วของเขาไปที่เด็กสาวเผ่าเอลฟ์
“ได้ครับนายน้อยอาเบล” หลังจากที่พ่อบ้านร็อบบินเห็นว่าอาเบลไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ตอนนี้เขาก็เหมือนยกภูเขาออกจากอกแล้วนั่นเอง หลังจากที่ได้รับคําสั่งจากอาเบลมาแล้วเขาก็ได้พาเอลฟ์สาวจากไป
สาเหตุที่อาเบลได้สั่งให้พ่อบ้านร็อบบินพาเอลฟ์สาวคนนี้จรากไปเป็นเพราะ ว่าตัวเขานั้นไม่อยากที่จะให้คนจํานวนมากเห็นเอลฟ์คนนี้นั่นเอง การซื้อขายเอลฟ์นั้นไม่ใช่เรื่องที่น่าจะบอกใครเท่าไรนัก ตอนนี้อาเบลจะต้องเก็บความลับอันนี้เอาไว้ไม่ให้เหล่านักธุรกิจทั้งหลายรวมถึงพวกขุนนางรู้ถึงเรื่องในครั้งนี้ไปมากกว่านี้
แน่นอนว่าทหารยามรักษาความปลอดภัยนั้นจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวเช่นการซื้อเอลฟ์อย่างเด็ดขาด ถ้าหากทหารยามรักษาความปลอดภัยไม่ถูกศาลของเหล่าขุนนางไต่สวนแล้วก็ไม่มีทางเลยที่พวกเขาจะพูดเรื่องของอาเบลออกไป
ในขั้นตอนต่อไปทหารยามรักษาความปลอดภัยก็เริ่มที่จะเก็บหลักฐานต่อในทันที แต่ตอนนี้หมดธุระของอาเบลแล้ว ดังนั้นแล้วอาเบลจึงได้จากโรงประมูลแห่งนี้ไปในที่สุด ก่อนที่อาเบลจะจากไป เขาได้เข้าไปที่ตรอกๆ หนึ่งที่อยู่ติดกับโรงประมูล ตรอกนั้นมืดสนิทแล้ว ไม่มีใครอยู่รอบๆ อีกต่อไป อาเบลได้ปีนกําแพงสูงถึง 3 เมตรเข้าไปที่ตรกได้อย่างง่ายดาย ในตอนนี้เขาได้เดินเข้าไปที่ร้านขายยาแกรี่แล้วนั่นเอง
อาเบลได้เข้าไปที่ลานหลังร้านขายยา ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เขาได้แต่ ก้าวเข้าไปในร้านอย่างระมัดระวัง ในลานหลังร้านเองมีเพียงเสียงของแมลงที่กําลังร้องออกมาอย่างเดียวเท่านั้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่มีคนอาศัยอยู่
ตอนนี้ไม่มีใครสักคนที่จะหยุดอาเบลอีกต่อไป เขาใช้เวลาอีกไม่นานจนสามารถเข้าไปที่ห้องนอนของเจ้าของร้านได้ สิ่งแรกที่อาเบลทําหลังจากเข้าห้องนอนมาได้นั่นก็คือการมองหาเตียงของดาเรนนั่นเอง จากคําบอกเล่าของเขาแล้วดูเหมือนว่าของทั้งหมดจะถูกซ่อนเอาไว้หลังเตียงเตียงใหญ่ของดาเรน
อาเบลค้นรอบห้องของดาเรนเพื่อที่จะหากลไกสําหรับเปิดประตูลับ ตอนนี้อาเบลยังไม่รู้ว่ากลไกภายในห้องนั้นเป็นยังไงกันแน่ แต่เมื่ออาเบลได้พยายามหมุน หลายสิ่งหลายอย่างไปแต่ก็ไม่เกิดอะไร สุดท้ายแล้วเขาก็ได้หยุดค้นหาอย่างฉับพลัน
อาเบลเดินไปที่เตียงที่มีขนาดใหญ่ กลางห้องก่อนที่จะใช้มือของตัวเอง เอื้อมไปที่ข้างๆ เตียง เขาได้ออกแรงอย่างเบามือก่อนที่จะใช้พลังลมปราณสีทองของตัวเองในการเพิ่มแรง 500 ปอนด์, 1000 ปอนด์, 1500 ปอนด์ ในตอนที่อาเบลยังคงออกแรงอยู่อย่างต่อเนื่องดูเหมือนว่าเตียงเตียงนี้ก็ได้ส่งเสียงดังขึ้นมา เมื่ออาเบลได้ใช้แรงถึง 4500 ปอนด์ แล้วเตียงขนาดใหญ่เตียงนี้ก็ได้ถูกพลิกคว่ำอย่างสมบูรณ์แบบ ภายใต้ของเตียงนั้นมีอุโมงค์ที่มืดสนิทถูกเก็บซ่อนอยู่ ดูเหมือนว่ากลไกการเปิดของมันจะได้รับความเสียหายไปแล้ว
อาเบลได้หยิบไข่มุกแห่งราตรีออกมาจากกระเป๋าของตัวเองก่อนที่จะโยนไข่มุกอันนั้นลงอโมงค์ที่มืดสนิทไป อุโมงค์นี้มีความลึกประมาณ 5 เมตรได้ อาเบลที่รู้ถึงความลึกแล้วก็ได้กระโดดลงไปในทันที หลังจากที่กระโดดลงมาแล้วเขาใช้เวลาเดินอีกสักพักถึงจะเจอห้องรับห้องหนึ่ง ดูเหมือนว่าห้องลับห้องนี้จะกว้างประมาณ 20 ตารางเมตร ภายในห้องน้ํานั้นมีกล่องขนาดใหญ่ 10 กล่องวางกระจัดกระจายอยู่บนพื้น ใจกลางของห้องเองมีโต๊ะตัวหนึ่งที่มีกล่องขนาดเล็กถูกวางเอาไว้บนนั้น
อาเบลเปิดกล่องเล็กๆ ที่ถูกวางไว้บนโต๊ะเป็นกล่องแรก ภายใต้แสงจากไข่มุกแห่งราตรีทําให้ตัวเขานั้นเห็นเหรียญทองจํานวนมากอยู่ภายในกล่อง ตลอดเวลมานี้นี่คงเป็นเงินที่เจ้าของร้านอย่างดาเรนรวบรวมเอาไว้ อาเบลไม่รอช้า เขารีบโยนเงินทั้งหมดใส่ลงไปในถุงเก็บของในทันที หลังจากนั้นเขาก็หันมามองที่กล่องขนาดใหญ่ที่ถูกวางเอาไว้บนพื้นแทน
อาเบลได้เปิดกล่องขนาดใหญ่ด้วยเช่นกัน ภายในกล่องนั้นมีน้ํายาพิเศษ สําหรับการฝึกเป็นอัศวินทั้งอัศวินฝึกหัด และอัศวินอย่างเป็นทางการ แน่นอนว่า ใครก็ตามที่ฝึกฝนการเป็นอัศวินอยู่จะต้องการน้ํายาพวกนี้อย่างแน่นอน แต่เนื่องจากข้อบังคับในการใช้ที่สุดแสนจะเข้มงวดของยาพิเศษพวกนี้แล้วทําให้มีเพียงคนไม่กี่อาชีพเท่านั้นที่จะสามารถ หายาพวกนี้มาครอบครองได้
หลังจากที่เห็นของทุกอย่างตัวเขาก็ได้เก็บของทุกอย่างลงไปในกระเป๋า เช่นเคย อาเบลมองไปที่เตียงที่ถูกทําลายไปในขณะที่ตัวเขานั้นเริ่มปวดหัว ในตอนแรกอาเบลต้องการจะทําเรื่องต่างๆ อย่างไร้ร่องรอยมากที่สุด แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นแบบที่หวังเอาไว้ เนื่องจากเหตุการณ์ทุกอย่างที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทําให้ตัวเขานั้นไม่มีทางเลือกอะไรมากนัก สุดท้ายแล้วเขาก็ได้ใช้น้ํามันจากตะเกียงเทไปที่เตียงก่อนที่จะใช้หินเหล็กไฟจุดไฟตามในทันที
หลังจากที่อาเบลได้ออกจากห้องห้องนั้นไป เขาก็เห็นแสงไฟลุกโชนมาจากด้านหลังตรงร้านแกรนี่นั่นเอง เนื่องจากลานหลังบ้านนั้นมีแต่ไม่ดังนั้นแล้ว ตอนนี้ร้านแกรี่จึงกลายเป็นทะเลเพลิงไปแล้วนั่นเอง อาเบลได้จ้องมองไปที่ทะเลเพลิงอย่างหมดอารมณ์ หลังจากเพลิงไหม้เกิดขึ้นได้ไม่นานนักนักดับเพลิงก็ได้เริ่มส่งเสียงมาจากระยะไกล แต่ดูเหมือนว่าทุกสิ่งทุกอย่างจะสายไปแล้ว หลังจากที่ค่ําคืนนี้ผ่านพ้นไป ร้านขายยา แกรี่ก็ได้หายไปตลอดการ หลักฐานที่หลงเหลืออยู่ของอาเบลนั้นได้หายไปกับกองไฟไปจนหมดแล้ว
ตอนนี้เวลาได้ผ่านพ้นไปกว่า 5 วัน แล้ว วูฟไรเดอร์ชั้นสูงที่มีชื่อว่าฟอสิ่งได้สร้างเส้นทางผ่านท่อน้ําจนสามารถที่จะติดต่อกับเจ้าชายองค์ที่เจ็ดอย่างมิดเดิลตันจอร์จได้สําเร็จ วูฟไรเดอร์ตัวนี้ได้รายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้กับเจ้าชายได้ฟังแล้ว จดหมายที่วูฟไรเดอร์ได้ส่งไปรายงานว่าสมบัติทั้งหมดของพวกโวร์แกนนั้นได้ถูกขโมยไปโดยที่ไม่รู้ว่าใครกันแน่เป็นคนร้าย ตอนนี้พวกโวร์แกนจะต้องทําข้อตกลงใหม่กับเจ้าชายคนนี้นั่นเอง
“เพลง” ถ้วยสุดหรูหราถ้วยหนึ่งตกลงสู่พื้นไม้โอ๊ค ผู้ส่งสารกําลังยืนอยู่ต่อหน้า เจ้าชายมิดเดิลตันกําลังถือข้อมูลจํานวนมากพร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยเหงื่อ
“ทําไมถึงเป็นแบบนี้กัน พวกเราใช้เงินไปมากมายเพื่อที่จะติดต่อกับพวกมัน แต่ทําไมพวกโวร์แกนยังทําอะไรไม่ได้เลย แม้แต่หัวขโมยคนเดียวพวกมันก็หายไม่เจออย่างงั้นหรอ!” เจ้าชายมิดเดิลตันพูดออกมาด้วยความเดือดดาล
“ฝ่าบาทตามที่โวร์แกนชั้นสูงรายงานมา ดูเหมือนว่าคนร้ายในครั้งนี้จะเป็นพวกโวร์แกนครับ การที่จะหาร่องรอยของโวร์แกนได้นั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เรื่องในครั้งนี้ควรจะเป็นความผิดของพวกโวร์แกนมากกว่า ตอนนี้พวกโวร์แกนคงจะเดินทางกลับอาณาจักรออร์คกันแล้ว” ผู้ส่งสารพูดในขณะที่หัวของเขานั้นชี้ลงไปมา ถึงกระนั้นคําพูดทั้งหม ดก็ถูกพูดออกมาอย่างชัดเจน ไม่มีใครสงสัยเลยว่าผู้ส่งสารคนนี้ได้รับหน้าที่ที่ สําคัญแบบนี้ได้ยังไง
“ยังมีอีกเรื่อง แล้วเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับร้านขายยาแกรี่ล่ะ?” เจ้าชายมิดเดิลตันถามด้วยเสียงที่ทุ่มต่ํา
“ดูเหมือนว่าผู้ที่จะตกเป็นผู้ต้องสงสัยได้จะต้องเป็นเจ้าชายองค์อื่นๆ มีเพียงคนที่มีเครือข่ายข้อมูลที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะรู้ได้ว่าร้านขายยาแกรี่นั้นอยู่”
“ภายใต้การปกครองของฝ่าบาท” ผู้ส่งสารพูดด้วยน้ําเสียงเรียบๆ
“แล้วปราสาทแฮรี่ที่ถูกพวกรูฟไรเดอร์ชั้นสูงบุกไปล่ะ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องในครั้งนี้ไหม?” แม้ว่ารูฟไรเดอร์นั่นสูงฟอลิ่งจะไม่ได้พูดอะไรกับปราสาทแฮรี่มากนัก แต่เจ้าชายก็สามารถบอกได้ว่าคนจากปราสาทแฮรี่นั้นน่ากลัวขนาดไหน วูฟไรเดอร์ชั้นสูงฟอสิ่งนั้นไม่ได้เต็มใจที่จะโจมตีปราสาทแฮรี่ที่อยู่ใกล้ๆ กับเมืองฮาเวสเท่าไรนัก ดูเหมือนว่าปราสาทแฮรี่จะมีพลังการต่อสู้ที่ไม่น้อยไปกว่าพวกวูฟไรเดอร์ชั้นสูงเลย
“ตามที่ได้รับรายงานมา พวกรูฟไรเดอร์ชั้นสูงกลุ่มนั้นรวมไปถึงวูฟไรเดอร์ระดับกลางและวูฟไรเดอร์ระดับปกติทั้งหมดจะล้มเหลวในการโจมตีปราสาทแฮรี่อย่างไม่เป็นท่า ปราสาทแฮรี่เองไม่ได้ส่งมอบข้อมูลทางการทหารให้กับทางการ ดูเหมือนว่ากําลังการรบของปราสาทแฮรี่นั้นจะมีพลังอํานาจซ่อนอยู่เป็นจํานวนมาก” ผู้ส่งสารได้วิเคราะห์ทุกอย่างให้กับเจ้าชายได้ฟัง
เหตุผลที่ปราสาทแฮรี่ไม่ได้ส่งข้อมูลทางการทหารให้กับทางการเป็นเพราะ ว่าพวกเขาไม่ต้องการให้รู้ว่าอัศวินรับใช้นั้นมีอาวุธเวทย์ในครอบครองนั่นเอง
“วันที่พวกโวร์แกนถูกโจมตี และเป็นวันเดียวกับที่ร้านขายยาแกรี่ได้ถูกเผา วันนั้นเองผู้สืบสกุลแฮรี่ได้ซื้อเอลฟ์มาจากโรงประมูล ในระหว่างการประมูลชายคนนั้นได้จัดการกับอัศวินชั้นสูงด้วยตัวคนเดียว” ผู้ส่งสารยังคงรายงานต่อไป
เจ้าชายมิดเดิลตันถามต่อไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในทันที “นั่น…ฝีมือ ของลอร์ดอาเบลสินะ เขามแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยอย่างงั้นหรอ? เขาเก็บซ่อนพลังที่แท้จริงเอาไว้เท่าไหร่กันแน่?”
“ในที่เกิดเหตุไม่พบอัศวินอย่างเป็นทางการอยู่เลย ในตอนนั้นมีเพียงนักรบ ระดับกลางอยู่เท่านั้น อาเบลมีพรสวร รค์ในเรื่องการต่อสู้โดยใช้พละกําลังเป็นอย่างมาก” ชายผู้ส่งสารได้พูดต่อไปด้วยท่าทีแปลกไป “ในตอนนั้นอัศวินชั้นสูงที่ได้ตายไปไม่ได้พกอาวุธไปด้วย แม้แต่ชิ้นเดียว อาเบลสามารถที่จะกดอัศวินชั้นสูงลงกับพื้นได้ก่อนที่อัศวินชั้นสูงคนนั้นจะขาดใจตายนั่นเอง”
“ฉันคิดว่าอาเบลจะต้องมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่สวนผลไม้อย่างแน่นอน ถ้าหากอาเบลมีความสามารถจริงๆ การที่จะเปิดห้องรับในร้านขายยา แกรี่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเลย แถมตอนนี้หลักฐานทุกอย่างยังถูกเผาไหม้ไปด้วย” เจ้าชายมิดเดิลตันพูดออกมา ตอนนี้เขาสงสัยตัวอาเบลเข้าให้แล้ว
“ผู้ตรวจสอบของเราเองยังมีจํานวนมากอยู่ พวกเขาไม่เห็นชายที่ชื่ออาเบลเลย หลังจากที่เขาได้ออกจากโรงประมูลไป ถ้าหากเวลาที่เขาหายไปนั้นไปเปิดห้องลับจริงเขาก็คงไม่มีเวลามากพอที่จะเปิดกลไกในห้องลับทั้งหมดได้ ยิ่งไปกว่านั้นเขาคนเดียวคงจะไม่สามารถที่จะขน ของทั้งหมดกลับไปได้”
วูฟไรเดอร์ฟอลิ่งไม่ได้บอกกับเจ้าชายมิดเดิลตันว่าสมบัติที่ถูกขโมยไปคือถุงแห่งประตูวิญญาณนั่นเอง เขาเพียงแต่บอกว่าถูกขโมยสมบัติไป
“รายงานทุกอย่างให้กับวูฟไรเดอร์ฟอลิ่งรู้ถึงสิ่งที่พวกเราได้คุยกันซะ บอกเขาอีกว่าตอนนี้ให้พวกเขาหาข่าวกันไปก่อน ถ้าหากคนร้ายเป็นอาเบลจริงๆ เขาคงไม่มีเวลามากพอที่จะก่อเรื่องทั้งหมดขึ้นได้หรอก”
ไม่มีใครรู้ว่าอาเบลนั้นมีเมฆาสีขาวอยู่ด้วยนกกระจอกแห่งท้องนภานี้เองจึง ทําให้เขาสามารถที่จะเดินทางไปไหนมาไหนได้อย่างรวดเร็ว
MANGA DISCUSSION