นิยาย Abe the Wizard (AtW) AtW ตอนที่ 87 อัศวินชั้นสูงโรนี AtW ตอนที่ 87 อัศวินชั้นสูงโรนี อาเบลเริ่มพูดขึ้นในขณะที่ตัวเขานั้นวางโซ่ที่ล่ามเอลฟ์อย่างเบามือ”หลบให้ดีนะผมไม่อยากให้คุณมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย” เด็กสาวเผ่าเอลฟ์รู้สึกได้ถึงความตั้งใจอันดีของอาเบลแต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเขานั้นกลังหมายความว่าอะไรกันแน่ อาเบลถอนหายใจเมื่อเขาได้เห็นภาพรวมในตอนนี้ตัวเขานั้นลุกขึ้นมาก่อนที่จะจับโซ่ของเด็กสาวเผ่าเอลฟ์เอาไว้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาเบลได้ทถูกทในขณะที่อัศวินชั้นสูงคนนั้นกลังยุ่งอยู่กับการจัดการกับทหารคุ้มกัน การเคลื่อนไหวของอาเบลที่ดูไม่สุภาพเท่าไรนักทให้อัศวินชั้นสูงคนนี้โกรธขึ้นมาเขาพุ่งไปหาอาเบลอย่างรวดเร็วก่อนที่จะคว้าหน้าอกของอาเบลด้านหน้าเอาไว้ถึงแม้ว่าอัศวินชั้นสูงคนนี้จะรวดเร็วขนาดไหนแต่อาเบลเองก็สามารถตอบสนองการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้ทันอยู่ดีก่อนที่มือข้างหนึ่งของอัศวินชั้นสูงจะคว้าโดนตัวอาเบลอาเบลก็ได้จับมือที่ยื่นออกมาไขว้ไว้ด้านหลังของอัศวินชั้นสูงด้วยแรงของตัวเองในทันที อัศวินชั้นสูงคนนั้นรีบถอยห่างออกจากอาเบลไปถึง4เมตรในทันทีตอนนี้อัศวินเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอัศวินคนนี้ได้ตระหนักแล้วว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่นักสู้ธรรมดาอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะดูเก่งกาจแต่ตัวอัศวินเองกลับสงบลงได้อย่างรวดเร็วตอนนี้ไม่มีใครคิดจะดูถูกอาเบลอีกต่อไปเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ถูกยอมรับโดยศัตรูของเขาแล้วนั่นเอง อัศวินชั้นสูงคนนั้นได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเท้าของเขาเข้าใกล้อาเบลอัศวินคนนั้นก็ได้เปลี่ยนการเคลื่อนไหวเป็นแบบรวดเร็วแทนโดยทั่วไปแล้วการที่จะก้าวจังหวะเท้าแบบนี้นั้นมีไว้เพื่อการกระแทกศัตรูให้กระเด็นถอยหลังไปนั่นเองในตอนนี้ด้านหลังของอาเบลนั้นเป็นเวทีโรงประมูลดังนั้นแล้วตัวเขานั้นจึงไม่มีทางเลือกอีกต่อไปนอกซะจากจะต้องเผชิญหน้ากับอัศวินชั้นสูงคนนี้อย่างกล้าหาญและตรงไปตรงมา อาเบลไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยประสบการณ์การต่อสู้ที่เขาเคยได้รับมาในชีวิตก่อนทให้เขาเห็นจุดอ่อนของการเคลื่อนไหวอัศวินชั้นสูงคนนี้การก้าวเท้าของอัศวินชั้นสูงคนนี้จะไร้จุดอ่อนทันทีถ้าหากเขานั้นใช้อาวุธในการโจมตีแน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงอาเบลนั้นไม่มีโอกาสที่จะป้องกันการโจมตีครั้งนี้ได้เลย เมื่ออัศวินชั้นสูงคนนี้พยายามที่จะปิดฉากการโจมตีอาเบลก็ได้คุกเข่าลงก่อนที่จะพุ่งตัวไปอีกทางอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าอาเบลจะไม่ได้พยายามที่จะสวนการโจมตีของอัศวินคนนี้แต่เขากลับแกลังตั้งท่ารับการโจมตีก่อนที่จะหมุนตัวเคลื่อนที่ไปอีกทางแทนสิ่งที่อัศวินชั้นสูงคนนี้สามารถรับรู้ได้ในเวลาต่อมานั่นคือศัตรูของเขาคนนี้ได้ไปอยู่ด้านหลังของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แขกทุกคนที่อยู่ในโรงประมูลนี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในตอนแรกพวกเขาทั้งหมดตกอยู่ในความหวาดกลัวพวกเขากลัวผู้บุกรุกคนนี้ที่ใช้พลังลมปราณในการพูดนั่นเองสุดท้ายแล้วแขกทั้งหมดก็ตัดสินใจที่จะชมการต่อสู้ในครั้งนี้แทนแต่น่าเสียดายสหรับพวกเขาเพราะตอนนี้การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป ตอนนี้ผู้ชมทุกคนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของชายผู้ที่ประมูลเอลฟ์นั้นสามารถหลบการโจมตีในครั้งแรกได้ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปกลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ชายแปลกหน้า(อาเบล)กลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตีด้านหลังของอัศวินชั้นสูงคนนี้ต่อไป การโจมตีของอาเบลนั้นมีชื่อว่าเยอรมันซูเพล็กซ์นั่นเองโดยการโจมตีในรูปแบบนี้นั้นจะถูกใช้โดยนักมวยปล้อาชีพหลังจากที่อาเบลได้คว้าตัวอัศวินชั้นสูงจากด้านหลังได้แล้วเขาก็เหยียดขาตรงขึ้นก่อนที่จะเอียงลตัวไปที่ด้านหลังในทันทีอัศวินชั้นสูงไม่รู้ว่ากลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแต่เมื่อตัวเขานั้นถูกยกลอยตัวขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะถูกกระแทกลงพื้นอย่างรวดเร็วโครม! ในขณะที่หัวของอัศวินคนนี้ได้กระแทกเข้ากับพื้นสติของเขาก็จางหายไปในทันทีแน่นอนว่าการโจมตีครั้งเดียวของอาเบลนั้นไม่สามารถโค่นชายคนนี้ที่เป็นอัศวินชั้นสูงได้แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นอัศวินชั้นสูงคนนี้ต้องใช้เวล หลายวินาทีเหมือนกันกว่าที่เขาจะลุกขึ้นมาได้ อาเบลตัดสินใจที่จะปล่อยให้อัศวินชั้นสูงคนนี้ฟื้นสติขึ้นมาก่อนที่จะโจมตีครั้งต่อไปคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้นั้นหาได้ยากเป็นอย่างมากและการที่จะปล่อยให้คู่ต่อสู้นั้นลุกขึ้นมาแบบนี้เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในความทรงจเดิมของอาเบลมันเป็นความทรงจในตอนที่ตัวเขานั้นเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้นั่นเอง “ตายซะ!”อัศวินชั้นสูงได้ถอดชุดคลุมของตัวเองออกหลังจากที่ถอดชุดคลุมออกร่างกายของอัศวินคนนี้ก็เผยให้เห็นถึงมวลกล้ามเนื้อที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ชุดคลุม จากที่อาเบลได้สังเกตเห็นแม้ว่าชายคนนี้จะเป็นเหมือนกับชายวัยกลางคนแต่ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาในตอนนี้จะเต็มไปด้วยความโกรธแต่อาเบลก็พอจะเดาได้ว่าใบหน้าที่แท้จริงของชายคนนี้นั้นเป็นยังไงแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเหล่าฝูงชนที่มุงดูอยู่ก็จหน้าของอัศวินชั้นสูงคนนี้ได้ในทันที “นี่มันอัศวินชั้นสูงโรนี่!” “โอ้พระเจ้าเป็นเขาจริงๆหรอเนี่ย” “ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้” อัศวินชั้นสูงโรนี่เป็นอัศวินชั้นสูงที่ได้รับคสั่งและรับใช้ไวเคานต์ดิ้กเคนผู้ที่ปกครองเมืองฮาเวสโดยตรงแต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินชั้นสูงแต่เขาก็ไม่ได้มีดินแดนเป็นของตัวเองเหมือนกับตระกูลอื่นๆตัวอัศวินโรนี้เองจึงต้องอาสารับใช้ตระกูลอื่นๆแทนเพื่อที่จะหาเงินสหรับการฝึกฝนของตัวเอง เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆจเขาได้อัศวินช์นสูงโรนี่ก็ไม่อยากที่จะซ่อนตัวอีกต่อไป”ฉันอัศวินชั้นสูงโรนี่”อัศวินโรนี่พูดออกมา”ฉันอยากที่จะดวลกับนายซึ่งๆหน้า!ได้โปรดเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเพื่อการต่อสู้ที่ยุติธรรมครั้งนี้ด้วย!” อาเบลรู้สึกถึงความเย็นที่กลังเกิดขึ้นจากร่างกายของเขาเองเมื่อมองไปที่อัศวินโรนีตอนนี้เขานั้นเหมือนกับคนที่เสียสติไปแล้วไม่มีใครที่อยากจะมาที่นี่เพื่อที่จะเปิดเผยตัวตนมีเพียงโรนีเท่านั้นที่เปิดเผยตัวเองแบบนี้แน่นอนว่าการที่เขาจะกล้าเปิดเผยตัวเองแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเปิดเผยตัวตนคนอื่นแบบนี้ได้ สหรับขุนนางและอัศวินทั้งหลายแล้วการที่จะขอท้าดวลแบบนี้นั้นเป็นเหมือนกับวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งได้นั่นเองแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่แห่งนี้ยังคงมีกฎเกณฑ์อย่างอื่นอยู่ด้วยการดวลที่แท้จริงแล้วสามารถขอท้าดวลได้กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้นขุนนางที่มีระดับสูงนั้นไม่สามารถที่จะท้าดวลขุนนางที่มีระดับต่กว่าได้ หลังจากที่คขอท้าดวลนั้นถูกส่องไปผู้ที่ถูกท้าดวลนั้นจะได้เวลาสหรับการเตรียมพร้อมนั่นเองในช่วงเวลานี้เองบุคคลที่สามจะได้รับหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์และเป็นกรรมการเพื่อดูการต่อสู้อย่างยุติธรรมต่อไปถ้าหากขาดผู้สังเกตการณ์ไปแล้วชัยชนะที่ได้มาของผู้ที่ชนะนั้นจะดูไม่น่าเชื่อถือไปในที่สุด ดูเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ได้ดูยุติธรรมแต่อย่างใดอัศวินชั้นสูงโรนีพยายามที่จะใช้วิธีสกปรกเพื่อที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของอาเบลออกมาแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้สุดท้ายแล้วอัศวินโรนีเองก็จะสามารถตามไปล้างแค้นกับอาเบลได้อย่างง่ายดายถ้าหากเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของอาเบล อาเบลพูดออกไปอย่างชัดเจนและเสียงดัง”ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์ที่จะประกาศท้าดวลผมนะสิ่งที่คุณทตอนนี้มีแค่การฝ่าฝืนกฎของอัศวินก็แค่นั้น!” ขุนนางทั้งหมดที่อยู่ในสถาการณ์ปัจจุบันนั้นเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีไม่เพียงแต่ชายลึกลับคนนี้(อาเบล)จะเป็นอัศวินแล้วดูเหมือนว่าเขาจะยังมีระดับที่สูงกว่าอัศวินชั้นสูงโรนี้อีกด้วยแน่นอนว่าตอนนี้อัศวินชั้นสูงโรนีนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะท้าดวลชายลึกลับนั่นเองและถ้าหากเขายังดื้อดึงอยู่แบบนี้เขาจะต้องถูกลงโทษในข้อหาฝ่าฝืนกฎของอัศวิน และถ้าหากอาเบลไม่ยอมเปิดเผยตัวเองในที่แห่งนี้ด้วยแล้วโรนีเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้เลยในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดโรนีเองอาจจะถูกลงโทษโดยศาลจากพวกขุนนางไปโดยไม่สามารถที่จะแก้ตัวได้เลย แน่นอนว่าอัศวินชั้นสูงโรนีเองรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีในขณะที่อาเบลนั้นยังไม่เปิดเผยตัวตนออกมาตัวเขานั้นก็ไม่สามารถรู้ระดับที่แท้จริงของอาเบลได้เลยสิ่งที่ควรจะทมากที่สุดในตอนนี้การไกล่เกลี่ยและการประนีประนอมนั่นเองสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ได้รุนแรงอะไรมากนักถ้าหากโรนีต้องการแล้วละก็ตัวเขาเองก็สามารถกลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่โดยที่ยอมแพ้แต่โดยดีได้ ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่นั้นได้อยู่ที่ตลาดมืดแห่งนี้แน่นอนว่าโรนีแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีขุนนางที่ระดับสูงกว่าเขามาที่ตลาดมืดแห่งนี้ด้วยตอนนี้เขาเองอารมณ์เสียมากแล้วและถ้าหากตัวเขาถูกอาเบลกล่าวหาต่อไปตัวเขานนอาจจะกลายเป็นอาชญกรไปในที่สุด “นายกล้าดียังไงทให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบนี้?”โรนีตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น”เปิดเผยตัวตนของนายออกมาซะหรือนายจะให้ฉันเปิดเผยตัวตนของนายด้วยตัวเองกัน!” หลังจากที่พูดแบบนั้นออกไปโรนีเองก็ได้ใช้พลังลมปราณของตัวเขานั้นปกคลุมร่างกายทั่วตัวตอนนี้ผู้ชมที่ดูอยู่ได้เริ่มหนีหายไปเรื่อยๆทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอัศวินชั้นสูงอย่างโรนีนั้นจะกล้าใช้พลังลมปราณในที่แบบนี้ได้ โรนีนั้นยอมแลกทุกอย่างกับการตัดสินใจในครั้งนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่า”พลเมืองดี”คนไหนจะบอกเรื่องที่เขาใช้พลังลมปราณในที่แบบนี้ถ้าหากอาเบลนั้นเป็นขุนนางแล้วตัวเขานั้นคงไม่อาจที่จะแตะต้องอะไรร่างกายของอัศวินโรนีที่ถูกคลุมไปด้วยพลังลมปราณได้เลย เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?อาเบลได้แต่คิดอยู่กับตัวเองเมื่อตอนที่เขาได้กลายเป็นอัศวินมือใหม่ไปสิ่งแรกที่ลอร์ดมาแชลได้บอกเขานั้นคือห้ามแสดงพลังลมปราณให้ใครในเมืองได้เห็นเป็นเด็ดขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าพวกขุนนางด้วยแล้วคนคนนี้นอกเหนือจากจะไม่เคารพกฎจากคพูดของลอร์ดมาแชลเลยเขายังไม่กลัวที่จะถูกตัดสินเป็นอาชญกรอีกด้วย จากมุมมองของโรนี้จริงๆแล้วตัวเขานั้นก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาแต่แทนที่ตัวเขานั้นจะวิ่งหนีเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปอาเบลกลับสังเกตเห็นได้ว่าตัวโรนีเองจะทอะไรต่อไปความสงบเยือกเย็นแบบนี้ที่อาเบลมีอยู่นั้นเป็นเหมือนกับสิ่งที่คนที่มีอายุมากนั้นควรจะมี “ถ้าหากคุณทได้อะนะอาเบลได้พูดออกไปตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะหยุดสถานการณ์อันเลวร้ายมือที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณของอัศวินโรนี้เริ่มเข้ามาใกล้ๆกับอาเบลมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว ดวงตาของอาเบลเริ่มแสดงความเย็นชาออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นมือของโรนีเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้นตอนนี้อาเบลยังไม่ได้ใช้พลังลมปราณของตัวเองในการต่อสู้เลยแต่พลังลมปราณที่อัศวินโรนีกลังใช้อยู่นั้นรุนแรงมากพอที่จะใช้ฆ่าคนธรรมดาๆได้อย่างง่ายดายการปะทะกันระหว่างพลังลมปราณนั้นเป็นอะไรที่อันตรายเป็นอย่างมากและการที่จะสัมผัสพลังลมปราณในการต่อสู้โดยตรงนั้นอาจจะมากพอแล้วที่จะสังหารคนธรรมดาได้เลย โรนี้ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอาเบลจะมีฝีมือการต่อสู้ที่ดีแค่ไหนแม้ว่าอาเบลจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้แต่หากเขานั้นไม่มีพลังลมปราณแล้วละก็โรนี้ก็จะสามารถจัดการกับอาเบลได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
นิยาย Abe the Wizard (AtW) AtW ตอนที่ 87 อัศวินชั้นสูงโรนี
AtW ตอนที่ 87 อัศวินชั้นสูงโรนี
อาเบลเริ่มพูดขึ้นในขณะที่ตัวเขานั้นวางโซ่ที่ล่ามเอลฟ์อย่างเบามือ”หลบให้ดีนะผมไม่อยากให้คุณมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องแบบนี้เลย”
เด็กสาวเผ่าเอลฟ์รู้สึกได้ถึงความตั้งใจอันดีของอาเบลแต่เธอก็ไม่เข้าใจอยู่ดีว่าตัวเขานั้นกลังหมายความว่าอะไรกันแน่
อาเบลถอนหายใจเมื่อเขาได้เห็นภาพรวมในตอนนี้ตัวเขานั้นลุกขึ้นมาก่อนที่จะจับโซ่ของเด็กสาวเผ่าเอลฟ์เอาไว้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อาเบลได้ทถูกทในขณะที่อัศวินชั้นสูงคนนั้นกลังยุ่งอยู่กับการจัดการกับทหารคุ้มกัน
การเคลื่อนไหวของอาเบลที่ดูไม่สุภาพเท่าไรนักทให้อัศวินชั้นสูงคนนี้โกรธขึ้นมาเขาพุ่งไปหาอาเบลอย่างรวดเร็วก่อนที่จะคว้าหน้าอกของอาเบลด้านหน้าเอาไว้ถึงแม้ว่าอัศวินชั้นสูงคนนี้จะรวดเร็วขนาดไหนแต่อาเบลเองก็สามารถตอบสนองการเคลื่อนไหวครั้งนี้ได้ทันอยู่ดีก่อนที่มือข้างหนึ่งของอัศวินชั้นสูงจะคว้าโดนตัวอาเบลอาเบลก็ได้จับมือที่ยื่นออกมาไขว้ไว้ด้านหลังของอัศวินชั้นสูงด้วยแรงของตัวเองในทันที
อัศวินชั้นสูงคนนั้นรีบถอยห่างออกจากอาเบลไปถึง4เมตรในทันทีตอนนี้อัศวินเองก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอัศวินคนนี้ได้ตระหนักแล้วว่าเด็กหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นไม่ใช่นักสู้ธรรมดาอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าคู่ต่อสู้ของเขาจะดูเก่งกาจแต่ตัวอัศวินเองกลับสงบลงได้อย่างรวดเร็วตอนนี้ไม่มีใครคิดจะดูถูกอาเบลอีกต่อไปเขาเป็นคู่ต่อสู้ที่ถูกยอมรับโดยศัตรูของเขาแล้วนั่นเอง
อัศวินชั้นสูงคนนั้นได้ก้าวไปข้างหน้าอย่างระมัดระวังมากขึ้นเมื่อเท้าของเขาเข้าใกล้อาเบลอัศวินคนนั้นก็ได้เปลี่ยนการเคลื่อนไหวเป็นแบบรวดเร็วแทนโดยทั่วไปแล้วการที่จะก้าวจังหวะเท้าแบบนี้นั้นมีไว้เพื่อการกระแทกศัตรูให้กระเด็นถอยหลังไปนั่นเองในตอนนี้ด้านหลังของอาเบลนั้นเป็นเวทีโรงประมูลดังนั้นแล้วตัวเขานั้นจึงไม่มีทางเลือกอีกต่อไปนอกซะจากจะต้องเผชิญหน้ากับอัศวินชั้นสูงคนนี้อย่างกล้าหาญและตรงไปตรงมา
อาเบลไม่สามารถคาดเดาอะไรได้เลยประสบการณ์การต่อสู้ที่เขาเคยได้รับมาในชีวิตก่อนทให้เขาเห็นจุดอ่อนของการเคลื่อนไหวอัศวินชั้นสูงคนนี้การก้าวเท้าของอัศวินชั้นสูงคนนี้จะไร้จุดอ่อนทันทีถ้าหากเขานั้นใช้อาวุธในการโจมตีแน่นอนว่าถ้าเป็นแบบนั้นจริงอาเบลนั้นไม่มีโอกาสที่จะป้องกันการโจมตีครั้งนี้ได้เลย
เมื่ออัศวินชั้นสูงคนนี้พยายามที่จะปิดฉากการโจมตีอาเบลก็ได้คุกเข่าลงก่อนที่จะพุ่งตัวไปอีกทางอย่างรวดเร็วดูเหมือนว่าอาเบลจะไม่ได้พยายามที่จะสวนการโจมตีของอัศวินคนนี้แต่เขากลับแกลังตั้งท่ารับการโจมตีก่อนที่จะหมุนตัวเคลื่อนที่ไปอีกทางแทนสิ่งที่อัศวินชั้นสูงคนนี้สามารถรับรู้ได้ในเวลาต่อมานั่นคือศัตรูของเขาคนนี้ได้ไปอยู่ด้านหลังของเขาไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แขกทุกคนที่อยู่ในโรงประมูลนี้กลับมารู้สึกตัวอีกครั้งในตอนแรกพวกเขาทั้งหมดตกอยู่ในความหวาดกลัวพวกเขากลัวผู้บุกรุกคนนี้ที่ใช้พลังลมปราณในการพูดนั่นเองสุดท้ายแล้วแขกทั้งหมดก็ตัดสินใจที่จะชมการต่อสู้ในครั้งนี้แทนแต่น่าเสียดายสหรับพวกเขาเพราะตอนนี้การต่อสู้นั้นเกิดขึ้นเร็วจนเกินไป
ตอนนี้ผู้ชมทุกคนนั้นไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่แต่ดูเหมือนว่าคู่ต่อสู้ของชายผู้ที่ประมูลเอลฟ์นั้นสามารถหลบการโจมตีในครั้งแรกได้ดูเหมือนว่าการต่อสู้ครั้งต่อไปกลังจะเริ่มขึ้นในเร็วๆนี้ชายแปลกหน้า(อาเบล)กลังเตรียมพร้อมที่จะโจมตีด้านหลังของอัศวินชั้นสูงคนนี้ต่อไป
การโจมตีของอาเบลนั้นมีชื่อว่าเยอรมันซูเพล็กซ์นั่นเองโดยการโจมตีในรูปแบบนี้นั้นจะถูกใช้โดยนักมวยปล้อาชีพหลังจากที่อาเบลได้คว้าตัวอัศวินชั้นสูงจากด้านหลังได้แล้วเขาก็เหยียดขาตรงขึ้นก่อนที่จะเอียงลตัวไปที่ด้านหลังในทันทีอัศวินชั้นสูงไม่รู้ว่ากลังจะเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแต่เมื่อตัวเขานั้นถูกยกลอยตัวขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะถูกกระแทกลงพื้นอย่างรวดเร็วโครม!
ในขณะที่หัวของอัศวินคนนี้ได้กระแทกเข้ากับพื้นสติของเขาก็จางหายไปในทันทีแน่นอนว่าการโจมตีครั้งเดียวของอาเบลนั้นไม่สามารถโค่นชายคนนี้ที่เป็นอัศวินชั้นสูงได้แต่ถึงจะเป็นแบบนั้นอัศวินชั้นสูงคนนี้ต้องใช้เวล
หลายวินาทีเหมือนกันกว่าที่เขาจะลุกขึ้นมาได้
อาเบลตัดสินใจที่จะปล่อยให้อัศวินชั้นสูงคนนี้ฟื้นสติขึ้นมาก่อนที่จะโจมตีครั้งต่อไปคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งแบบนี้นั้นหาได้ยากเป็นอย่างมากและการที่จะปล่อยให้คู่ต่อสู้นั้นลุกขึ้นมาแบบนี้เป็นสิ่งที่ติดอยู่ในความทรงจเดิมของอาเบลมันเป็นความทรงจในตอนที่ตัวเขานั้นเป็นผู้ฝึกสอนศิลปะการต่อสู้นั่นเอง
“ตายซะ!”อัศวินชั้นสูงได้ถอดชุดคลุมของตัวเองออกหลังจากที่ถอดชุดคลุมออกร่างกายของอัศวินคนนี้ก็เผยให้เห็นถึงมวลกล้ามเนื้อที่ถูกซ่อนเอาไว้ภายใต้ชุดคลุม
จากที่อาเบลได้สังเกตเห็นแม้ว่าชายคนนี้จะเป็นเหมือนกับชายวัยกลางคนแต่ใบหน้าของเขาดูน่ากลัวเป็นอย่างมากถึงแม้ว่าใบหน้าของเขาในตอนนี้จะเต็มไปด้วยความโกรธแต่อาเบลก็พอจะเดาได้ว่าใบหน้าที่แท้จริงของชายคนนี้นั้นเป็นยังไงแต่ถึงจะเป็นแบบนั้นเหล่าฝูงชนที่มุงดูอยู่ก็จหน้าของอัศวินชั้นสูงคนนี้ได้ในทันที
“นี่มันอัศวินชั้นสูงโรนี่!”
“โอ้พระเจ้าเป็นเขาจริงๆหรอเนี่ย”
“ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะเป็นคนแบบนี้”
อัศวินชั้นสูงโรนี่เป็นอัศวินชั้นสูงที่ได้รับคสั่งและรับใช้ไวเคานต์ดิ้กเคนผู้ที่ปกครองเมืองฮาเวสโดยตรงแต่ถึงแม้ว่าเขาจะเป็นอัศวินชั้นสูงแต่เขาก็ไม่ได้มีดินแดนเป็นของตัวเองเหมือนกับตระกูลอื่นๆตัวอัศวินโรนี้เองจึงต้องอาสารับใช้ตระกูลอื่นๆแทนเพื่อที่จะหาเงินสหรับการฝึกฝนของตัวเอง
เมื่อเห็นว่าคนอื่นๆจเขาได้อัศวินช์นสูงโรนี่ก็ไม่อยากที่จะซ่อนตัวอีกต่อไป”ฉันอัศวินชั้นสูงโรนี่”อัศวินโรนี่พูดออกมา”ฉันอยากที่จะดวลกับนายซึ่งๆหน้า!ได้โปรดเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงเพื่อการต่อสู้ที่ยุติธรรมครั้งนี้ด้วย!”
อาเบลรู้สึกถึงความเย็นที่กลังเกิดขึ้นจากร่างกายของเขาเองเมื่อมองไปที่อัศวินโรนีตอนนี้เขานั้นเหมือนกับคนที่เสียสติไปแล้วไม่มีใครที่อยากจะมาที่นี่เพื่อที่จะเปิดเผยตัวตนมีเพียงโรนีเท่านั้นที่เปิดเผยตัวเองแบบนี้แน่นอนว่าการที่เขาจะกล้าเปิดเผยตัวเองแต่เขาก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเปิดเผยตัวตนคนอื่นแบบนี้ได้
สหรับขุนนางและอัศวินทั้งหลายแล้วการที่จะขอท้าดวลแบบนี้นั้นเป็นเหมือนกับวิธีการที่จะแก้ไขปัญหาข้อขัดแย้งได้นั่นเองแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้ที่แห่งนี้ยังคงมีกฎเกณฑ์อย่างอื่นอยู่ด้วยการดวลที่แท้จริงแล้วสามารถขอท้าดวลได้กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันเท่านั้นขุนนางที่มีระดับสูงนั้นไม่สามารถที่จะท้าดวลขุนนางที่มีระดับต่กว่าได้
หลังจากที่คขอท้าดวลนั้นถูกส่องไปผู้ที่ถูกท้าดวลนั้นจะได้เวลาสหรับการเตรียมพร้อมนั่นเองในช่วงเวลานี้เองบุคคลที่สามจะได้รับหน้าที่เป็นผู้สังเกตการณ์และเป็นกรรมการเพื่อดูการต่อสู้อย่างยุติธรรมต่อไปถ้าหากขาดผู้สังเกตการณ์ไปแล้วชัยชนะที่ได้มาของผู้ที่ชนะนั้นจะดูไม่น่าเชื่อถือไปในที่สุด
ดูเหมือนว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะไม่ได้ดูยุติธรรมแต่อย่างใดอัศวินชั้นสูงโรนีพยายามที่จะใช้วิธีสกปรกเพื่อที่จะเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของอาเบลออกมาแม้ว่าเขาจะพ่ายแพ้ให้กับการต่อสู้ในครั้งนี้สุดท้ายแล้วอัศวินโรนีเองก็จะสามารถตามไปล้างแค้นกับอาเบลได้อย่างง่ายดายถ้าหากเขารู้ตัวตนที่แท้จริงของอาเบล
อาเบลพูดออกไปอย่างชัดเจนและเสียงดัง”ดูเหมือนว่าคุณจะไม่มีสิทธิ์ที่จะประกาศท้าดวลผมนะสิ่งที่คุณทตอนนี้มีแค่การฝ่าฝืนกฎของอัศวินก็แค่นั้น!”
ขุนนางทั้งหมดที่อยู่ในสถาการณ์ปัจจุบันนั้นเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดีไม่เพียงแต่ชายลึกลับคนนี้(อาเบล)จะเป็นอัศวินแล้วดูเหมือนว่าเขาจะยังมีระดับที่สูงกว่าอัศวินชั้นสูงโรนี้อีกด้วยแน่นอนว่าตอนนี้อัศวินชั้นสูงโรนีนั้นไม่มีสิทธิ์ที่จะท้าดวลชายลึกลับนั่นเองและถ้าหากเขายังดื้อดึงอยู่แบบนี้เขาจะต้องถูกลงโทษในข้อหาฝ่าฝืนกฎของอัศวิน
และถ้าหากอาเบลไม่ยอมเปิดเผยตัวเองในที่แห่งนี้ด้วยแล้วโรนีเองก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้เลยในสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดโรนีเองอาจจะถูกลงโทษโดยศาลจากพวกขุนนางไปโดยไม่สามารถที่จะแก้ตัวได้เลย
แน่นอนว่าอัศวินชั้นสูงโรนีเองรู้ถึงสถานการณ์ในตอนนี้ดีในขณะที่อาเบลนั้นยังไม่เปิดเผยตัวตนออกมาตัวเขานั้นก็ไม่สามารถรู้ระดับที่แท้จริงของอาเบลได้เลยสิ่งที่ควรจะทมากที่สุดในตอนนี้การไกล่เกลี่ยและการประนีประนอมนั่นเองสถานการณ์ในตอนนี้ยังไม่ได้รุนแรงอะไรมากนักถ้าหากโรนีต้องการแล้วละก็ตัวเขาเองก็สามารถกลับไปที่จุดเริ่มต้นใหม่โดยที่ยอมแพ้แต่โดยดีได้
ในตอนนี้พวกเขาทั้งคู่นั้นได้อยู่ที่ตลาดมืดแห่งนี้แน่นอนว่าโรนีแทบจะไม่อยากจะเชื่อเลยว่าจะมีขุนนางที่ระดับสูงกว่าเขามาที่ตลาดมืดแห่งนี้ด้วยตอนนี้เขาเองอารมณ์เสียมากแล้วและถ้าหากตัวเขาถูกอาเบลกล่าวหาต่อไปตัวเขานนอาจจะกลายเป็นอาชญกรไปในที่สุด
“นายกล้าดียังไงทให้ฉันเสื่อมเสียชื่อเสียงแบบนี้?”โรนีตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น”เปิดเผยตัวตนของนายออกมาซะหรือนายจะให้ฉันเปิดเผยตัวตนของนายด้วยตัวเองกัน!”
หลังจากที่พูดแบบนั้นออกไปโรนีเองก็ได้ใช้พลังลมปราณของตัวเขานั้นปกคลุมร่างกายทั่วตัวตอนนี้ผู้ชมที่ดูอยู่ได้เริ่มหนีหายไปเรื่อยๆทุกคนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอัศวินชั้นสูงอย่างโรนีนั้นจะกล้าใช้พลังลมปราณในที่แบบนี้ได้
โรนีนั้นยอมแลกทุกอย่างกับการตัดสินใจในครั้งนี้เขาไม่เคยคิดเลยว่า”พลเมืองดี”คนไหนจะบอกเรื่องที่เขาใช้พลังลมปราณในที่แบบนี้ถ้าหากอาเบลนั้นเป็นขุนนางแล้วตัวเขานั้นคงไม่อาจที่จะแตะต้องอะไรร่างกายของอัศวินโรนีที่ถูกคลุมไปด้วยพลังลมปราณได้เลย
เขาคิดอะไรอยู่กันแน่?อาเบลได้แต่คิดอยู่กับตัวเองเมื่อตอนที่เขาได้กลายเป็นอัศวินมือใหม่ไปสิ่งแรกที่ลอร์ดมาแชลได้บอกเขานั้นคือห้ามแสดงพลังลมปราณให้ใครในเมืองได้เห็นเป็นเด็ดขาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อหน้าพวกขุนนางด้วยแล้วคนคนนี้นอกเหนือจากจะไม่เคารพกฎจากคพูดของลอร์ดมาแชลเลยเขายังไม่กลัวที่จะถูกตัดสินเป็นอาชญกรอีกด้วย
จากมุมมองของโรนี้จริงๆแล้วตัวเขานั้นก็เริ่มรู้สึกกลัวขึ้นมาแต่แทนที่ตัวเขานั้นจะวิ่งหนีเหมือนกับคนธรรมดาทั่วไปอาเบลกลับสังเกตเห็นได้ว่าตัวโรนีเองจะทอะไรต่อไปความสงบเยือกเย็นแบบนี้ที่อาเบลมีอยู่นั้นเป็นเหมือนกับสิ่งที่คนที่มีอายุมากนั้นควรจะมี
“ถ้าหากคุณทได้อะนะอาเบลได้พูดออกไปตอนนี้มันสายเกินไปแล้วที่เขาจะหยุดสถานการณ์อันเลวร้ายมือที่เต็มไปด้วยพลังลมปราณของอัศวินโรนี้เริ่มเข้ามาใกล้ๆกับอาเบลมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
ดวงตาของอาเบลเริ่มแสดงความเย็นชาออกมาทันทีเมื่อเขาเห็นมือของโรนีเข้ามาใกล้ตัวเขามากขึ้นตอนนี้อาเบลยังไม่ได้ใช้พลังลมปราณของตัวเองในการต่อสู้เลยแต่พลังลมปราณที่อัศวินโรนีกลังใช้อยู่นั้นรุนแรงมากพอที่จะใช้ฆ่าคนธรรมดาๆได้อย่างง่ายดายการปะทะกันระหว่างพลังลมปราณนั้นเป็นอะไรที่อันตรายเป็นอย่างมากและการที่จะสัมผัสพลังลมปราณในการต่อสู้โดยตรงนั้นอาจจะมากพอแล้วที่จะสังหารคนธรรมดาได้เลย
โรนี้ไม่รู้เลยว่าแท้จริงแล้วอาเบลจะมีฝีมือการต่อสู้ที่ดีแค่ไหนแม้ว่าอาเบลจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้ศิลปะการต่อสู้ที่ดีที่สุดในโลกตอนนี้แต่หากเขานั้นไม่มีพลังลมปราณแล้วละก็โรนี้ก็จะสามารถจัดการกับอาเบลได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
MANGA DISCUSSION