A Warrior Exiled by the Hero and His Lover - ตอนที่ 32
ผมดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ออกมาไม่ได้ เพราะงั้นผมจึงกลับมาที่บารุเซย์
ห้องบัลลังก์เงียบสงัด
ผมทำได้แค่กัดฟันด้วยความผิดหวังขณะที่ก้มหัวอยู่
“เราจะถามเจ้าอีกครั้ง เจ้าว่าเจ้าไม่ได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างนั้นหรือ?”
“ครับ ช่างน่าเสียดายจริงๆ”
“มีคนได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่อารุมันก่อนที่เจ้าจะไปถึง เพราะงั้นเจ้าจึงกลับมาที่นี่มือเปล่าอย่างนั้นใช่มั้ย?”
“……ครับ”
ผมได้ยินเสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่
มีบรรยากาศของความผิดหวัง
กษัตริย์ผิดหวังอย่างมากเพราะเขาคงคาดหวังไว้สูง
ร่างกายของผมสั่นสะท้านเพราะความโกรธ
เรื่องมันเป็นแบบนี้เพราะ [ มันยูเรียวดัง ] ซึ่งพวกมันก็ยังคงขโมยผลงานของผมต่อไปเรื่อยๆ
เดิมทีผมควรจะต้องได้รับคำสรรเสริญมากมายจนเบื่อไปข้างนึง
แล้วนี่มันคืออะไรกัน ผมต้องมานั่งก้มหัวให้พวกอ่อนแอและโง่เขลาที่นี่
ถ้าเป็นไปได้ผมอยากจะฆ่าไอ้พวกงี่เง่าพวกนี้ให้หมดซะตอนนี้เลย
“ฝ่าบาท ให้โอกาสผมอีกครั้งได้หรือไม่ บางทีผมอาจจะเข้ากันไม่ได้กับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ในกรีจิท”
“อืม ก็เป็นไปได้ในอดีตก็เคยมีผู้ที่ไม่ได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์จากวิหารหนึ่ง แต่ได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์จากอีกวิหารหนึ่งแทน ไม่เป็นไร เจ้าสามารถได้รับอีกอันนึงได้ วิหารที่ใกล้ที่สุดอยู่ที่ เอ่อ…ว่าไงท่านรัฐมนตรี?”
“ครับ มันอยู่ที่นอร์ธสตาร์ [ ノーザスタル ] ฝ่าบาท”
เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นก็มีรอยยิ้มเกิดขึ้นบนใบหน้าของผม
นอร์ธสตาร์เป็นเมืองเล็กๆแถบชนบท เป็นประเทศที่มีอุณหภูมิและความชื้นสูงกว่าที่นี่
นอกจากนี้ยังอยู่ภายใต้การปกครองของประเทศที่ยิ่งใหญ่และเป็นปรปักษ์กับบารุเซย์อีกด้วย
เมื่อราชาปีศาจปรากฎตัวขึ้น เราอาจจะจัดการกับพวกนั้นสักหน่อย แต่ว่าตอนนี้การทำอย่างนั้นก็ดูไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่
ตอนนี้ความไว้ใจของราชวงศ์ต่อตัวผมมันกำลังสั่นคลอน สิ่งที่ควรทำมากที่สุดคือการฟื้นฟูความสัมพันธ์ก่อน
ได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์และตำแหน่งผู้กล้า
“นอกจากนี้เรายังได้ยินข่าวว่าพวกปีศาจกำลังออกอาละวาดและทำลายประเทศอยู่ที่นั่น เราขอสั่งให้เจ้าทำการปราบปรามพวกมันซะ”
“ตามบัญชาฝ่าบาท”
ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับอย่างเงียบๆ
◇
ทางทิศใต้ของบารุเซย์
ในที่สุดผมก็มาถึงนอร์ธสตาร์
อันที่จริงผมอยากจะไปเห็นสารรูปอันน่าสมเพชของโทรุก่อนที่จะออกเดินทาง แต่ก็ทำอย่างนั้นไม่ได้
ชื่อเสียงของผมมันกำลังสั่นคลอนผมต้องทำการฟื้นฟูมันซะก่อน ไม่เช่นนั้นผมคงจะกลายเป็นผู้กล้าที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในประวัติศาสตร์
ถึงแม้ว่าจะชนะราชาปีศาจได้แต่ตัวตนของผมก็ยังจืดจางอยู่ดี
นัยน์ตาของผมก็ไม่ได้เอนกประสงค์ขนาดนั้น
มันใช้ได้กับเป็นหมายที่เป็นเพศตรงข้ามเท่านั้น และเลเวลต้องน้อยกว่าผมอีกด้วย
แล้วถ้าหากมันถูกชำระล้าง เอฟเฟกต์ของมันจะหายไปและไม่สามารถใช้กับคนๆนั้นได้อีกตลอดกาล
และผลของสกิลยังลดลงตามระยะเวลาอีกด้วย
ถึงมันจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่แต่ปัญหามันก็เยอะตามเช่นกัน
และนัยน์ตาปีศาจนี่ถือว่าเป็นสกิลต้องห้าม
ง่ายๆก็คือมันเป็นความสามารถที่อันตรายมาก หากผู้ใดถือครองจะต้องถูกจับกุมทันที
ถ้าหากผมไม่ปกปิดมันเอาไว้ ผมคงถูกประหารไปนานแล้ว
“เซอิน ฉันเวียนหัว”
“หุบปาก! เธอนี่มันน่ารำคาญจริงๆ!”
“ต้องใส่ชุดบางๆกว่าที่บารุเซย์เพราะอากาศร้อนอีก”
“คงจะดีกว่านี้ถ้าเซอินดึงดาบที่วิหารบารุเซย์ได้ เฮ้อ…”
เสียงถอนหายใจของลิซ่าทำให้ขมับของผมกระตุก ความเครียดของผมมันกำลังพุ่งสูงขึ้นเพราะยัยกระหรี่พวกนี้
ผมยิ่งรู้สึกหงุดหงิดเพราะช่วงนี้ไม่ได้ปลดปล่อยด้วย
สุดท้ายแล้วมันก็เร็วเกินไปหรือเปล่าที่ไล่โทรุออกไป
ถึงมันจะเป็นภาระ แต่มันก็เป็นคนที่คอยให้คำปรึกษาและทำให้ปาร์ตี้มีความสมดุล และเหนือไปกว่านั้นคือมันเป็นคนที่ทำให้ผมรู้สึกเหนือกว่าอยู่ตลอดเวลา
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ค่อยเตะมันออกไปหลังจากได้ดาบศักดิ์สิทธิ์ดีกว่า
“นี่ คนขับรถ! วิหารมันอยู่อีกไกลแค่ไหน?”
“อีกนิดเดียวก็ถึงแล้วครับ”
เวรเอ๊ย! เดินไปจะไม่เร็วกว่ารึไง
ใครมันบอกให้ใช้รถม้าวะ
ผมเองนี่หว่า
“ท่านครับถึงเมืองแล้ว จะแวะซื้ออะไรก่อนรึเปล่าครับ?”
“ใช่แล้ว เราไปกินข้าวกันเถอะ!”
เนอิส่งเสียงออกมา
ยัยตะกละนี่
แต่อยู่ใกล้ๆฉันก็รู้สึกแย่แล้ว
รถม้าเคลื่อนตัวเข้าไปในเมืองและจอดตรงจุดจอด
“นั่นดูน่าอร่อยจัง!”
“เซอินจะเอาไง?”
“คงไม่เป็นอะไร ผมก็หิวเหมือนกัน”
“อ่ะ เป็นร้านที่มีกลิ่นแปลกๆ”
เราเข้าไปในร้านอาหารแล้วสั่งมา
เมนูบนโต๊ะเป็นอาหารที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
แมลงทอด
ปลาแม่นํ้าที่มีฟันแหลมคม
แขนอะไรสักอย่างย่างที่มีนิ้วสามนิ้ว
ลูกตาที่ลอยอยู่ในนํ้าซุปสีแดง
นี่มันอาหารของนอร์ธสตาร์หรอ?
“แมลงทอดนี่กรอบดีนะ”
“เอ่อ…”
เนอิกำลังกินทุกอย่าง
เห็นเธอกินแมลงทอดผมก็ไม่อยากจะแตะต้องเธออีกแล้ว
ไล่ยัยนี่ออกไปดีกว่า ผมตัดสินใจแล้ว
โซอาระกับลิซ่ากำลังกินขนมปังกับสลัด
ผมกินอะไรที่มันปลอดภัยแบบนั้นดีกว่า
“เซอินนายไม่กินเหรอ?”
“อึก!”
ไม่มีทางเลือกอื่นผมต้องทนมันไปก่อนตอนนี้
ผมคือผู้กล้าที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองและเป็นตำนาน
ของแค่นี้มันทำอะไรผมไม่ได้
◇
“นั่นวิหารแห่งนอร์ธสตาร์!”
“ยังมีดาบศักดิ์สิทธิ์อยู่มั้ยนะ?”
“อึ่ก! อุ่ก!”
“เซอินเป็นอะไรรึเปล่า?”
“…อย่าพึ่งมาพูดกับผม”
รู้สึกผะอืดผะอมแถมท้องไส้ก็ปั่นป่วนมาหลายชั่วโมงแล้ว ถ้าผมไม่ระวังล่ะก็ทุกอย่างมันต้องพรวดพราดออกมาทั้งบนทั้งล่างหมดแน่ๆ
ยังไงก็ตามผมจะมาปล่อยตรงนี้ไม่ได้
ผมมีหลายสิ่งให้ต้องทำ ไม่ว่าจะดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ได้หรือไม่ก็ตาม
ไม่ใช่สิ ผมต้องดึงมันให้ได้
ผมรู้สึกว่าครั้งนี้ผมทำได้
เอื้อมมือไปเปิดประตูวิหาร
“เซอินเป็นอะไรงั้นเหรอ?”
“เปิดประตู”
“นายประหม่าเหรอ”
เงียบสักที
คนกำลังใช้สมาธิอยู่
ถ้าผมไม่กระจายพลังอย่างเหมาะสมมันคงกลายเป็นหายนะแน่นอน
ไปที่สะโพก 70% และมือทั้งสองข้าง 30%
ครืดดดดดด!!!!!
ประตูเปิดออกอย่างปลอดภัย
การกระจายพลังก็ทำได้อย่างถูกต้อง
“ฟู่ว”
ผมทำได้น่า
ถ้าดึงดาบศักดิ์สิทธิ์ได้ก็จะได้ออกไปทันที
เดินไปตามทางเดิน
มองเห็นดาบศักดิ์สิทธิ์ปักอยู่ที่แท่น
“ไปกันเถอะเซอิน”
“ดึงออกมาเลย”
“นายทำได้ เพราะนายเป็นผู้กล้าไงล่ะ”
ทั้งสามคนเชียร์ จากนั้นผมก็เดินเข้าไปอย่างเงียบๆและเชื่องช้า
ตรงนี้อยู่ไกลจากแท่นอยู่
แต่ถ้าไม่ระวังมันคงจู๊ดๆออกมาได้
ใจเย็นๆไว้ ในฐานะผู้กล้าผมจะปล่อยเรี่ยราดตรงนี้ไม่ได้ อีกเพียงนิดเดียวเท่านั้น ถ้าทนอีกหน่อยก็น่าจะผ่านพ้นไปได้
ผมเอื้อมมือไปจับด้ามดาบ
มันง่ายที่จะเสริมพลังตรงด้ามจับ
เพราะงั้นผมจึงกระจายพลังไปที่สะโพก 90% และที่มือ 10%
แต่มันจะดึงได้จริงๆหรือ เพียงแค่ 10%?
ไม่ ผมไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดึงที่ 10%
“ฮึ่มมมมมม”
“นายทำอะไรน่ะ”
ทำไมกัน! พวกเธอก็กินแบบเดียวกับที่ผมกินไม่ใช่หรือไง ทำไมพวกเธอถึงยังปกติอยู่
ทำไมถึงมีแค่ผมที่มีอาการนี้ มันไม่ยุติธรรม
หรือมันจะมีปัญหาที่ลำไส้ของผมกัน!
“มีอะไรผิดปกติรึเปล่า เซอิน มีเหงื่อออกที่หน้าผากนายเยอะมากเลยนะ”
“ใช่แล้ว แถมหน้าซีดอย่างกับไก่ต้มแหน่ะ!”
“ถ้าไม่สบายก็บอกมาเดี๋ยวฉันช่วยเอง”
“เดี๋ยว-หยุดนะ!”
เนอิคว้าแขนผมจากนั้นเธอก็ดึงแขนผมพร้อมกับดาบออกมา
“อา……~”
ในเวลาเดียวกับตอนที่ดาบหลุดออกมา บางสิ่งบางอย่างในตัวผมก็หลุดออกมาเหมือนกัน
เป็นช่วงเวลาแห่งความสุข
จากนั้นสมองผมมันก็โล่ง
“””กรี๊ดดดดด!!!!!”””