A Warrior Exiled by the Hero and His Lover - ตอนที่ 23
ณ ห้องบัลลังก์ มีอัศวินทั้งหมดยืนเข้าแถวอยู่
ที่ด้านหลังของอัศวินก็มีเหล่าขุนนางยืนเรียงรายไปหมด พวกเขาเหล่านั้นต่างก็ใส่ชุดที่เป็นทางการ
หนึ่งในนั้นก็มีเคานต์โรอานยืนอยู่ด้วย
กษัตริย์แห่งอารุมันก็ประทับอยู่บนบัลลังก์ด้านในสุด
ฉันรู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ออกกับบรรยากาศโดยรอบ
ฉันเกิดและเติบโตในหมู่บ้านเล็กๆแถวชนบท ถูกเลี้ยงดูโดยพ่อแม่ที่เป็นคนธรรมดาๆ ดังนั้นฉันจึงไม่คุ้นเคยกับสถานการณ์แบบนี้ ฉันมาทำอะไรที่นี่
คาเอเดะที่ยืนอยู่ข้างๆฉันกำลังทำหน้าภาคภูมิใจอยู่ ประมาณว่า”แน่นอนอยู่แล้ว เพราะว่าเป็นนายท่านของฉันไงล่ะ!”
“โทรุ เอวาน , คาเอเดะ ทามาโมะ จงก้าวออกมาข้างหน้า!”
ฉันทำตามคำสั่งและคุกเข่าลงตรงหน้าพระพักตร์ขององค์ราชา
ตามคำแนะนำที่ได้รับมาเราไม่ควรเงยหน้าขึ้น จนกว่ากษัตริย์จะเอ่ย
คุยโจนาธานบอกว่าวันนี้จะมีผู้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ
ถ้าหากทำตัวหยาบคายล่ะก็ต่อให้เป็นผู้กล้าก็ถูกตัดหัวได้
สายตาจำนวนมากบริเวณรอบๆกำลังจ้องมองมาที่เรา
“ทำไมปล่อยให้ทาสเข้ามาในสถานที่แห่งนี้ได้!”
“เธอสวยจริงๆ”
“ฝ่าบาททรงอนุญาติแล้ว เพราะงั้นเงียบไปจะดีกว่านะ”
เสียงเหล่าขุนนางต่างเข้ามากระทบหูของฉัน
ส่วนใหญ่จะพูดถึงคาเอเดะ
ทั้งๆที่ฉันเป็นตัวเอกแท้ๆ ทำไมไม่มีคนพูดถึงฉันเลยล่ะ?
ฮึ ช่างมันเถอะฉันไม่ได้ทำตามคำร้องขอเพราะอยากดังนี่นะ
ในที่สุดองค์ราชาก็ทำลายความเงียบ
“การปราบปรามราชินีมดแห่งความตายได้นั้นช่างน่าดีใจยิ่ง ถึงแม้ว่าทางกองทัพจะจัดการมดไปได้ส่วนใหญ่แล้ว แต่มันช่างเจ็บปวดที่เราไม่สามารถกำจัดมดที่ซ่อนตัวอยู่ในรังได้”
“แน่นอนว่ามันเป็นปัญหา”
“แน่นอนว่าความสามารถของกองทัพของเรานั้นถือว่ามีความแข็งแกร่งมาก แต่ปฎิเสธไม่ได้ว่าศัตรูในคราวนี้ร้ายยิ่งกว่าศัตรูไหนๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับเมืองหลวงหากไม่ได้พวกเจ้าทั้งสองช่วยเอาไว้ เราในนามของประชาชนทั้งหมดในเมืองแห่งนี้ ขอขอบคุณเจ้าในความพยายามทั้งหมดที่เจ้าได้ทำลงไป”
“เป็นพระมหากรุณาธิคุณครับ”
อ่า ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด ปกติฉันไม่ค่อยใช้คำราชาศัพท์อยู่แล้ว
ก็เลยตอบออกไปไม่ค่อยดีเท่าไหร่
เราได้รับอนุญาติให้ยืนขึ้น ในไม่ช้าก็มีรถเข็นถูกเข็นมาไว้ข้างหน้าเรา
เหรียญทองคำขาวส่องประกายระยิบระยับกองเท่าภูเขาอยู่อยู่ข้างหน้า
“จำนวนทั้งหมด 700 ล้าน”
“จะ-เจ็ด….!?”
ฉันมองไปที่พระราชาอย่างตกใจ
ตามสัญญาของเราคือ 300 ล้าน มันเพิ่มมาจากไหนอีก 400 เนี่ย!
“เงินนี่เป็นความรู้สึกขอบคุณจากฉัน อย่าลังเลที่จะยอมรับมัน”
“เป็นพระกรุณาธิคุณครับ”
“ยังมีอีกอย่าง”
เอ๋ เราตกลงกันไว้ว่าจะมีค่าตอบแทนเป็นเงินอย่างเดียวหนิ
อย่าบอกนะว่าจะมอบตำแหน่งผู้กล้าให้ด้วยเหรอ?
“ฉันกำลังคิดจะมอบชื่อผู้กล้าให้แก่ปาร์ตี้ ” มังยูเรียวดัง”
คนทั้งห้องบัลลังก์เริ่มส่งเสียงอื้ออึง
ฉันไม่เคยได้ยินว่ามีการมอบชื่อผู้กล้าให้แก่ปาร์ตี้มาก่อน
โดยปกติมันจะถูกมอบให้แก่บุคคลเท่านั้น ดังนั้นสิ่งที่กษัตริย์พึ่งตรัสมามันก็ฟังดูบ้าไปหน่อย
พระองค์ยังคงกล่าวต่อโดยไม่สนใจความรู้สึกของฉันที่พูดไปว่าไม่อยากได้ชื่อผู้กล้า
“ฉันสงสัยมาตลอดว่าทำไมถึงมีเพียงแค่คนเดียวเท่านั้นที่ได้ชื่อว่าผู้กล้า ผู้กล้าคือผู้ที่เดินทางไปทั่วทุกประเทศพร้อมกับปาร์ตี้ของเขา เขาไม่ใช่คนเดียวที่แข็งแกร่ง แต่เป็นพวกเขาที่รวมกันเป็นปาร์ตี้ต่างหากที่แข็งแกร่ง ถ้าเช่นนั้นแล้วคนอื่นๆในปาร์ตี้ล่ะ พวกเขาไม่สมควรได้ชื่อว่าผู้กล้าอย่างนั้นหรือ?”
แน่นอนว่ามันเป็นอย่างนั้น ถ้าให้เปลี่ยนตัวสมาชิกปาร์ตี้ทุกคนออกยกเว้นผู้กล้าความสามารถของปาร์ตี้นั้นจะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ถึงแม้อดีตจะแข็งแกร่งแต่อนาคตมันก็ไม่แน่
กษัตริย์ไขว้ขาแล้วยิ้ม
“ชื่อผู้กล้าสามารถถูกถอดถอนได้ ถ้าไร้ประโยชน์ก็สามารถที่จะทอดทิ้งมันไปได้ แต่ถ้าเจ้าไม่ชอบมัน เจ้าก็แค่ต้องหาคนมาสืบทอดชื่อผู้กล้าซะ โทรุ!”
“รับทราบครับ”
คำพูดของกษัตริย์ราวกับโน้มน้าวเหล่าขุนนาง
แต่จริงๆแล้วมันเป็นการบังคับขู่เข็ญต่างหาก รวมทั้งตัวฉันด้วย
พระองค์พบช่องโหว่ในข้อตกลงของเรา ฉันบอกพระองค์ไปว่า “ฉัน” ไม่ต้องการตำแหน่งผู้กล้า ดังนั้นพระองค์จึงมอบมันให้”ปาร์ตี้”แทน
ฉันจะมีสภาพยังไงนะถ้าเกิดเดินเข้าไปที่กิลด์
“นายท่านก็คือนายท่านสินะคะ”
“หมายความว่าไงน่ะ?”
คาเอเดะพูดแล้วก็ยิ้ม
สำหรับทาสพวกเขาคงรู้สึกยินดีสินะที่เจ้านายของพวกเขากลายเป็นผู้กล้า แต่สำหรับฉันมันเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ด้วยเหตุนี้ฉันจึงได้รับสร้อยข้อมือที่เรียกว่า ฉายาผู้กล้า จากพระราชา
◇
“เอาล่ะ ใช้ได้ตามสบายเลยนะ”
“ขอบคุณมากนะครับ”
ด้วยความช่วยเหลือจากคุณโจนาธาน ฉันจึงสามารถหาเช่าบ้านในเมืองหลวงได้
มันเป็นบ้านหลังเล็กๆ
ถึงอย่างนั้นมันตกถูกตกแต่งอย่างปราณีตทั้งภายในและภายนอก
ไม่ช้าก็เร็วยังไงเราก็ต้องออกเดินทางต่ออยู่แล้ว เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อ
คาเอเดะหยิบกานํ้าชาออกมาจากกระเป๋าแล้วตรงเข้าไปในครัว ก่อนจะไป เธอหันมาถามฉัน
“นายท่านรับเป็นกาแฟใช่มั้ยคะ?”
“อืม แล้วคุณโจนาธานล่ะ?”
“ฉันขอผ่าน พอดีว่าฉันมีธุระที่ต้องไปจัดการน่ะ”
ก่อนที่เขาจะไปเขาก็บอกอีกว่า
“จดหมายนั้นมันมีข้อความจากโรอานถึงฝ่าบาทว่าเขาอยากให้คุณเป็นผู้กล้าของประเทศนี้น่ะ”
“นั่นเป็นเหตุผลที่ให้ผมไปจัดการมดเหรอ?”
“แน่นอน ก่อนที่จะเป็นผู้กล้าได้ก็ต้องสร้างความสำเร็จให้คู่ควรที่จะมอบชื่อผู้กล้าให้เสียก่อน ต่อให้ใกล้ชิดกับกษัตริย์แต่ไหน แต่ตำแหน่งผู้กล้าก็ไม่ได้มอบให้กันง่ายๆ”
ในที่สุดฉันก็เข้าใจ ในท้ายที่สุดถึงแม้มันจะไม่ซับซ้อนเหมือนที่ฉันคิดไว้
ทั้งคุณโจนาธานและราชาต่างก็ทำงานกันโดยตั้งเป้าหมายว่าจะให้ฉันเป็นผู้กล้า
และเคานต์โรอานก็เป็นคนวางแผนทั้งหมด
เขาหลอกล่อให้ฉันเต้นอยู่บนฝ่ามือของเขาตลอดเวลา เป็นคนที่เจ้าเล่ห์จริงๆ
พอฉันมองไปที่กำไลทองที่อยู่บนข้อมือจู่ๆก็นึกขึ้นมาได้
“พระราชามอบตำแหน่งให้”มังยูเรียว”แล้ว ถ้างั้นมันจะเกิดปัญหารึเปล่าถ้าผมเดินทางออกนอกประเทศไป”
“ทำตามที่อยากทำเถอะ คุณสามารถไปได้ทุกที่ขอเพียงแค่ต้องแจ้งไปยังกิลด์ในเมืองที่คุณอยู่ คุณแค่ต้องอยู่ที่นี่ยามเมื่อเราต้องการความช่วยเหลือเท่านั้นแหล่ะ”
เขาออกจากประตูหน้าไปทันทีที่พูดจบ
มันก็น่ารำคาญนิดหน่อย แต่ตราบใดที่ยังเดินทางต่อได้ก็ไม่ใช่ปัญหา
สักวันหนึ่งฉันก็อยากใช้ชีวิตในที่สงบๆ ดังนั้นการจะอยู่ที่นี่ก็ไม่แย่สักเท่าไหร่
“นายท่าน กาแฟค่ะ”
“ขอบคุณนะ”
ฉันนั่งลงบนเก้าอี้และจิบกาแฟ
มีเสียงกรอบแก๊บออกมาจากกระเป๋าเป้
และแพนด้าก็ออกมาจากกระเป๋า
เขาลอยขึ้นไปบนอากาศแล้วก็ร่อนลงบนโต๊ะ
“นายนี่ดูเหมือนขนมปังอยู่ตลอดเลยนะ”
“คิ้ว ! ?”
ก้อนขนสีขาวก็บินเข้าไปหาคาเอเดะในห้องครัวด้วยความตกใจ
เขากังวลเรื่องนี้มาตลอดเวลางั้นเหรอ
เดี๋ยวค่อยไปขอโทษเขาทีหลังแล้วกัน
ก๊อกก๊อก
เสียงประตูหน้าถูกเคาะ
“ค่า”
คาเอเดะวิ่งไปเปิดประตู
เคานต์โรอานยืนอยู่ที่หน้าประตู
“ฉันได้ยินมาว่าเธอพักอยู่ที่นี่ ฉันก็เลยแวะมาทักทายสักหน่อย”
“เชิญเข้ามาข้างในก่อนครับ”
ท่านเคานต์นั่งบนโซฟาแล้วยิ้ม
“ในที่สุดผมก็กลายเป็นผู้กล้าตามที่คุณต้องการ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า จะว่าฉันต้องการมันก็ไม่ถูกต้องเท่าไหร่นะ ที่ฉันทำลงไปก็เพียงเพราะอยากจะขอบคุณเธอและตอบแทนเธอให้ดีที่สุด ให้เหมาะสมกับที่เธอช่วยลูกสาวฉันเอาไว้”
“ถ้างั้นก็ไม่เป็นอะไรครับ ว่าแต่คุณมาคนเดียวงั้นเหรอ?”
ฉันคิดว่ามาเรียจะมากับเขาด้วย หรือว่าเขาจะไปที่อื่นต่อเลยไม่ได้พาเธอมาด้วย
ถึงเขาจะดูเงียบๆแต่เขาก็น่าจะเป็นเสือผู้หญิงพอตัวเลย ไม่แปลกที่เขาอาจจะไปเที่ยวอะไรแบบนั้น
“เธอพักอยู่ที่คฤหาสน์น่ะ ยังไงก็เถอะ เธอยืนกรานว่าจะมาให้ได้เพื่อมาเจอเธอน่ะนะ โทรุคุง”
มาเรียกำลังอยู่ระหว่างการฝึกเป็นเจ้าสาวนี่นะ
ดูเหมือนว่าอุราระจะเป็นคนฝึกสอนให้เธอ เธอคงมีช่วงเวลาที่ยากลำบากทุกวันแน่ๆ
หวังว่าสามีของเธอจะเป็นคนดีนะ
“เธอรู้มั้ยแม้แต่สามัญชนก็สามารถแต่งงานกับขุนนางได้นะหากพวกเขาเป็นผู้กล้า”
“ผมก็เคยได้ยินมันมาบ้าง แต่มันเกี่ยวอะไรงั้นเหรอครับ?”
“ตอนนี้ยังไม่เกี่ยวหรอก…..”
เขาเอียงคอและพึมพำออกมา
สุดท้ายฉันก็ไม่เข้าใจความคิดของขุนนางเลยจริงๆ
ท่านเคานต์ลุกขึ้นยืน
“เธอกำลังจะไปที่งานประมูลใช่มั้ย? ฉันได้ยินว่ามันจะถูกจัดขึ้นในคืนพรุ่งนี้ หากเธอไปที่นั่นเธออาจจะพบสิ่งที่น่าสนใจก็ได้”
“สิ่งที่น่าสนใจงั้นเหรอครับ?”
“ไม่มีอะไรหรอกเดี๋ยวพอเธอไปถึงเธอก็รู้เองแหละ แต่ตอนนี้ฉันขอตัวก่อนนะ”
แล้วท่านเคานต์ก็จากไป
สิ่งที่น่าสนใจ?