A Warrior Exiled by the Hero and His Lover - ตอนที่ 12
เมืองไอนาร์คเต็มไปด้วยอาคารที่งดงาม,แปลกตาและดูทันสมัย
เราสามารถเห็นร้านค้ามากมายบนถนนสายหลัก และฉันรู้สึกทึ่งกับผู้คนที่ไปมา
รถม้าแล่นผ่านใจกลางเมืองและตรงไปยังคฤหาสน์ที่อยู่ในโซนเมืองที่ลึกที่สุด
รถม้าแล่นผ่านเข้ามาในบริเวณที่เป็นประตูเหล็กบานใหญ่
เส้นทางที่ได้รับการดูแลรักษาไว้อย่างดีนั้นยาวมากจนไม่น่าเชื่อว่าอยู่ในสวน และต้นไม้เขียวชอุ่มปกคลุมสองข้างทาง
เมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าฉันยังมองไม่เห็นคฤหาสน์ ฉันจึงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่ามันจะมีขนาดใหญ่สักแค่ไหน
นี่คือคฤหาสน์ของขุนนาง สำหรับฉันที่เติบโตมาในฐานะสามัญชน มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อ
“มันเป็นสวนที่ค่อนข้างใหญ่…”
“จริงเหรอคะ? ฉันคิดว่าที่นี่ยังเป็นบ้านที่เล็กที่สุดในหมู่ชนชั้นสูง แต่ฉันได้ยินมาว่าครอบครัวของเรามีสวนคฤหาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในบรรดาตระกูลเคานท์มากมาย”
ฉันเห็นไม่มีมาตรฐาน เลยไม่มีทางเปรียบเทียบ ถ้านี่คือสิ่งที่เธอพูดถึง ฉันจะเชื่อเธอแล้วกัน
ท้ายที่สุดโลกที่เราอาศัยอยู่นั้นแตกต่างจากโลกของขุนนางโดยสิ้นเชิง
“ถึงแล้ว!”
ในที่สุดฉันก็ได้เห็นคฤหาสน์ผ่านหน้าต่าง.
มันเป็นอาคารหินที่ดูแข็งแกร่งและถูกตกแต่งอย่างงดงาม
มันมีลักษณะสง่างามแม้จากระยะไกลและแสดงให้เห็นว่าผู้อาศัยอยู่ในนั้นคือขุนนาง นอกจากนี้มันยังมีขนาดใหญ่ที่มีสามชั้นเป็นอย่างดี
คาเอเดะควรจะแปลกใจที่ได้เห็นสิ่งนี้ ฉันจึงหันไปมองเธอ แต่ทันทีที่ฉันเห็นหน้าเธอ ฉันไม่สังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงใดๆ
อันที่จริง เธอดูค่อนข้างอึดอัดใจกับปฏิกิริยาของฉัน
บางทีเธออาจไม่สนใจพวกขุนนาง หรือไม่เธอก็อาจจะมีเงินมากจนดูเหมือนบ้านปกติสำหรับเธอ ฉันอยากจะเชื่อว่ามันเป็นเรื่องในอดีตของเธอ
รถม้าจอดที่ทางเข้าพร้อมน้ำพุ ทันใดนั้นคนขับรถม้าก็เดินขึ้นบันไดมาและเปิดประตูรถ
มารีแอนเน่ก้าวเท้าลงบนพื้นด้วยความสง่างาม สมแล้วที่เธอเป็นดั่งเจ้าหญิงของดินแดน ทุกย่างก้าวของเธอดูสง่างามมาก
“กรุณาเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ ท่านโทรุ”
“ครับ”
มารีแอนเน่เป็นผู้นำทางเข้าไปในคฤหาสน์
“ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ คุณหนู”
“เซบาส ท่านพ่อของฉันอยู่ที่นี่หรือเปล่า” (ทำไมพ่อบ้านชื่อโหลจัง ทุกบ้านพ่อบ้านต้องชื่อนี้)
“เขากำลังศึกษางานของเขาอยู่ครับ”
“ขอบคุณนะ”
เธอพูดคุยกับพ่อบ้านเล็กน้อยแล้วเดินขึ้นบันไดไป คนใช้คนหนึ่งแนะนำตัวกับเธอแล้วโค้งคำนับ
“ขออภัยที่แนะนำตัวช้านะคะ ดิฉันเป็นคนรับใช้ส่วนตัวของท่านมารีแอนเน่ ชื่ออุราระค่ะ ตอนนี้ฉันจะพาท่านไปที่ห้องของท่าน ดังนั้นโปรดตามฉันมาด้วยค่ะ”
“ฉันโทรุ ยินดีที่ได้รู้จัก”
“ฉันชื่อคาเอเดะ”
อุราระพาเราไปที่ห้องใหญ่ที่มีเตียงใหญ่และพรมผืนใหญ่ ถ้ามันเป็นโรงแรมขนาดเล็ก มันจะเป็นพื้นที่ที่คนสี่คนสามารถอยู่ได้ แต่ดูเหมือนว่าจะเป็นสถานที่สำหรับฉันเท่านั้น
“ฉันจะรู้สึกผ่อนคลายมากกว่านี้หากฉันได้พักในห้องเดียวกับนายท่านของฉัน”
“ฉันเกรงว่าจะเป็นไปไม่ได้ค่ะ ท่านมารีแอนขอให้ฉันเตรียมห้องส่วนตัวแยกต่างหากสำหรับพวกท่านสอง หากท่านมีคำขอใด ๆ โปรดปรึกษากับท่านมารีแอนนะคะ”
“งั้นฉันก็ไม่มีทางเลือกสินะ”
คาเอเดะเข้าไปในห้องข้างๆ อย่างเงียบๆ
ฉันอยู่คนเดียวในห้องแล้วก็มองที่เตียงอีกครั้ง
ควรจะทำหรือไม่ทำดีนะ
“ยะฮู้!!!!!”
ฉันกระโดดขึ้นเตียงและร่างกายกระเด้งดึ๋งดึ๋ง สปริงภายในที่นอนทำให้กระโดดขึ้นเตียงได้นุ่มนวลขึ้น
รู้สึกดีสุดๆ! ฉันอยากจะลองเตียงของขุนนางมาโดยตลอด! นุ่มอย่างที่คิด! แล้วก็หอมด้วย!
ฉันดีใจที่ได้ช่วยชีวิต Marianne แม้ว่าจะเป็นเรื่องของโชคชะตามากกว่าการเลือกก็ตาม
“ฟุฟุ ดูเหมือนคุณจะสนุกกับมันมากเลยนะคะ”
“เอ๊ะ!?”
มารีแอนเน่ยืนอยู่ที่ประตู
มาตอนไหนกัน?
หน้าฉันแดงมากด้วยความอาย เธอได้เห็นฉันทำตัวเป็นเด็ก
“ฉันอยากจะพาท่านโทรุเที่ยวชมเมือง แต่คุณสะดวกรึเปล่า?”
“ไม่ ไม่ ไม่เป็นไร ผมคิดจะออกไปข้างนอกอยู่แล้วครับ”
“ถ้าเช่นนั้นฉันจะไปเรียกคุณคาเอเดะก่อนนะคะ”
เธอโค้งคำนับอย่างนุ่มนวลก่อนจะออกจากห้องไป
ฉันแทบรอไม่ไหวที่จะได้เที่ยวชมสถานที่ต่างๆ และอยากซื้อหลายอย่างอีกด้วย
เราออกจากคฤหาสน์โดยมีมารีแอนเน่เป็นไกด์ และอุราระเป็นเพื่อนร่วมทาง
“นี่เป็นโบราณสถานที่ถูกสร้างขึ้นโดยเผ่าพันธ์ที่ยิ่งใหญ่ค่ะ”
กำแพงหินที่พังทลายก็ปรากฏขึ้นในเมือง ภาพใบหน้าที่ถูกแกะสลักไว้บนผนัง และมารีแอนเน่ก็ยิ้มอย่างมีความสุข
แต่จะประมาทเกินไปรึเปล่าที่มีเพียงอุราระบอดี้การ์ด?
เธอเป็นลูกสาวของท่านลอร์ดไม่ใช่เหรอ
อุราระตอบคำถามของฉัน
“ผู้คนที่นี่รักท่านหญิงมารีแอนเน่ ใครก็ตามที่กล้าคิดทำร้ายเธอจะถูกคนรอบข้างจับ นอกจากนี้เธอยังมีฉันอยู่ด้วยค่ะ”
“เธอดูมั่นใจในตัวเองมากนะ”
“เพราะฉันเคยเป็นนักผจญภัยแรงค์ S”
เมื่อฉันมองไปที่ใบหน้าบนผนัง ฉันเห็นคาเอเดะและมารีแอนเน่ แอบมองหน้ากันและกัน
ทั้งสองคนเข้ากันได้ดีมาก
“คาเอเดะซัง ร้านนั้นขึ้นชื่อเรื่องขนมที่อร่อยที่สุดด้วยค่ะ”
“นายท่าน ข้าอยากลองชิมดู!”
ตาของคาเอเดะเป็นประกายหลังจากพูดคำเหล่านั้นให้ฉันฟัง
ภายนอกเธออาจดูเหมือนผู้ใหญ่แต่ข้างในก็ยังเป็นเด็กอยู่ล่ะนะ
ฉันยื่นกระเป๋าหนังที่ใส่เงินให้เธอ
“นี่มัน!?”
“ค่าขนมนิดหน่อยน่ะ เธอใช้ได้ตามต้องการเลย”
“ขอบคุณค่ะนายท่าน!”
ช่วงนี้ฉันกำลังออมเงินให้เธออยู่ แต่เราไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต
อย่างน้อยฉันก็อยากทำสิ่งที่พอจะทำได้ให้เธอในฐานะนายท่านที่ดี
…เพราะบางทีวันนั้นอาจมาถึง เมื่อเธออยากจะเป็นอิสระ
ฉันยินดีที่จะปลดปล่อยเธอจากการเป็นทาส ถ้าเธอต้องการ
สุดท้ายแล้วมีเพียงสิ่งเดียวที่ฉันต้องการ
และนั่นคือการเติมเต็มช่องว่างที่อยู่ในใจและรู้สึกโล่งใจอีกครั้ง
เมื่อทำสำเร็จและพอใจในตัวเองแล้ว ฉันมั่นใจว่าฉันอาจไม่ต้องมีทาสอีกต่อไป
และมันจะเป็นวันที่ฉันจะลืมเรื่องเซอินและลิซ่า และใช้ชีวิตที่เหลืออย่างสงบสุข
“ท่านโทรุ ดูนั่นสิ”
“ว้าว รูปปั้นใหญ่จังเลย”
เป็นรูปปั้นหินที่มีรูปร่างเป็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่ใจกลางเมือง
เขาสวมชุดเกราะหนักและชูดาบอย่างกล้าหาญ
“นั่นเป็นภาพท่านพ่อของฉันตอนที่ท่านยังหนุ่ม เจ้าเมืองแห่งนี้ มันทำให้เขาอาย แต่ฉันภูมิใจที่จะบอกว่ามันเป็นสัญลักษณ์ที่สวยงามมาก”
“ใช่ ผมก็คิดว่ามันเป็นรูปปั้นที่สวยงามเช่นกัน”
“ใช่มั้ยละคะท่านโทรุ ฉันได้ทำงานกับชาวเมืองเพื่อสร้างรูปปั้นนี้สำหรับวันเกิดท่านพ่อของฉัน”
พื้นดินสั่นสะเทือนเล็กน้อย
อาจจะเป็นแผ่นดินไหว…?
แรงสั่นสะเทือนค่อยๆ มากขึ้นและรูปปั้นหินก็พังทลายด้วยเสียงคำราม
กร๊าาาาาาาาาาาาา!
เสียงคำรามแปลกๆ และหนวดนับไม่ถ้วนเริ่มมาถึงผู้คนทะลุเศษฝุ่นทรายที่ลองลอยอยู่
“กรี๊ดดดดดดด!”
“คุณหนู!!”
หนวดหนึ่งในนั้นพันเข้ากับมารีแอนเน่และลากเธอเข้าไปในกลุ่มก้อนฝุ่นควัน
เราสามคนติดอยู่ตรงกลางโดยไม่สามารถขยับได้เพราะมองไม่เห็นอะไรเลยนอกเสียจากฝุ่นควันที่ตลบอบอวนอยู่รอบๆเรา
เมื่อควันจางหายไปก็ปรากฎว่ามีรูขนาดใหญ่ตรงจุดที่รูปปั้นหินเคยอยู่
เห็นได้ชัดว่าศัตรูโผล่มาทางใต้ดินและลักพาตัวคนโดยสุ่ม เราไม่รู้ว่ามันตามหาอะไร แต่ฉันคิดได้ว่าถ้าเราไล่ตามมันทันที เราจะได้ตัวมารีแอนเน่กลับมาอย่างปลอดภัย
“คุณหนูตอนนี้ฉันกำลังไปช่วยท่าน!”
ฉันคว้าแขนอุราระก่อนที่เธอจะกระโดดลงไปในหลุม
“รอเดี๋ยวพวกเราจะไปด้วย”
“แล้วทำอะไรได้ล่ะ”
“ถ้าคุณจะตามหาเธอ มันคงจะดีกว่าถ้าเราช่วยกันและคุณรู้ว่าเรามีความสามารถอะไร คุณไม่สามารถปฏิเสธได้”
“ท่านพูดถูก รีบไปกันเถอะ เราต้องไปช่วยคุยหนูมาริแอนและคนอื่นๆ”
อุราระเห็นด้วยกับข้อเสนอของฉัน และคาเอเดะพยักหน้าเพื่อระบุว่าเธอเห็นด้วยกับความคิดของฉัน
ฉันไม่รู้ว่าใครอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้
เราสามคนเข้าใกล้หลุมและมองเข้าไปข้างใน
“หลุมนี่จะพาไปไหนกัน”
“น่าจะเป็นซากปรักหักพังใต้ดินค่ะ จริงๆแล้ว เมืองนี้ถูกสร้างขึ้นบนซากปรักหักพังขนาดใหญ่”
“ของล่างเป็นเขาวงกต คาเอเดะ เราจะหาหล่อนเจอไหม”
“ไม่มีปัญหาค่ะ ฉันจำกลิ่นของมารีแอนเน่ได้แล้ว”
ดังนั้นเราควรจะสามารถติดตามเธอได้ นั่นคือทาสที่น่ารักของฉัน
“ไปกันเถอะ”
“ค่ะ”
“ดิฉันตามพวกคุณทั้งสองไปค่ะ”
และเราสามคนกระโดดลงไปในหลุม