48 Hours a Day - ตอนที่ 56 การพิพาทย่านสตรีทฟู้ด
48 Hours a Day ตอนที่ 56 การพิพาทย่านสตรีทฟู้ด
ตอนที่ 56 การพิพาทย่านสตรีทฟัด
จางเฮงช่วยชายชราบรรทุกซากศพขึ้นท้ายรถ
หลังจากเสียงปิดประตูดังขึ้น ก็มีเสียงปรบมือตามมา “ปกติแล้วฉันควรจะพาเธอไปที่ไหนสักที่และเลี้ยงเครื่องดื่มเธอ แต่น่าเสียดายที่ร้านรวงที่ไหนเปิดตอนนี้ เพราะงั้นก็แยกกันตรงนี้เลยนะ เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง”
ชายชรายื่นมือของเขาออกมา และจากเฮงก็ยื่นมือไปจับ
“มีบางอย่างอยู่ทางเหนือ ฉันน่าจะไปคืนอาวุธแล้วไปหาเพื่อนสักหน่อย ฉันจะออกจากเมืองนี้นะ เพราะงั้นเราคงไม่ได้เจอกันไปอีกสักพัก ขอบคุณจริงๆที่ตอนนี้เราอยู่ในห้วงเวลาหยุดนิ่ง มันเลยไม่ใช่เรื่องใหญ่ สุดท้ายแล้วฉันหวังว่าเธอจะสอบผ่าน CET-6 ที่จะมาถึงไปได้ด้วยดีนะ!”
ชายชราเดินขึ้นไปนั่งที่ที่นั่งคนขับรถและตัดถุงลมนิรภัยออกด้วยมีดเล็กๆ และในตอนที่เขากําลังจะสตาร์ทรถ จางเฮงก็เรียกชายชราเอาไว้และถามคําถามที่เขากังวลมากที่สุด “เดี๋ยวก่อน! แล้วมันมีพวก… สัตว์ประหลาดอย่างนี้อยู่บนโลกเยอะไหม?”
ชายชราหัวเราะเบาๆ “เนิ่นนานมาแล้ว ตอนนั้นมีพวกมันอยู่หน่อย แต่ตอนนี้” เขาชี้ไปที่ตีนกระต่ายที่ห้อยลงมาจากกุญแจของจางเฮง จากนั้นก็ชี้ไปยังกระดูกเปื้อนเลือดที่ถูกห่ออยู่ในทิชชู “ฉันมั่นใจมากว่าของพวกนั้นส่วนใหญ่ปลอดภัยมากแล้วแหละ”
“คุณหมายถึงว่าของไอเทมในเกมพวกนี้ที่เราเจอเป็นซากของมันอย่างนั้นเหรอ?”
ชายชราเริ่มเงียบลง “ฉันว่าฉันพูดมากเกินไปแล้ว การเจอกันครั้งนี้ไม่เคยเกิขึ้น! เธอควรไปมีมหา’ลัยซะ แล้วรอเล่นเกมต่อไป เธอกําลังก้าวเข้าใกล้ความจริงขึ้นอีกก้าว!”
จางเฮงมองดออดิ์สีดําเลื่อนหายไปจากทางออกของอโมงค์ ลดขนาดรบนกําแพง ถนนในอุโมงค์ และชิ้นส่วนเล็กๆของรถอีกด้วย ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรื่องราวคืนนี้นั้นติดตราติดใจจางเฮง หลังจากเหตุการณ์นั้นเขาก็ค้นหามอร์สบีและอัลคิซ และเขาก็เจอบทความมากมาย กดคลิกเข้าไปดูบทความเกี่ยวกับวัฒนธรรมอัลคิซ เขาถูกดึงดูดไปยังรูปภาพของก้อนหินโบราณวัตถุที่เพิ่งขุดพบเมื่อไม่นานมานี้พร้อมกับรูปแกะสลักของสิ่งมีชีวิต มันดูเหมือนสัตว์ประหลาดมอร์สปีจากอุโมงค์เป๊ะๆ!
ยิ่งไปกว่านั้น มันยังมีรูปของหอกที่ชายชราในชุดถังเคยใช้ ยิ่งจางเฮงคิดถึงเรื่องการต่อสู้ในคืนนี้มากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งตระหนักว่าหอกนั้นเหมือนกับเรื่องราวที่เขาเคยได้ยินเมื่อยังเด็ก
จางเฮงเพิ่งค้นพบว่าโลกใบนี้ไม่ใช่โลกใบที่เขารู้จักอีกต่อไป
อนิจจาไม่ว่าเขาจะค้นหามากอีกเท่าไหร่ เขาก็ไม่เจอหลักฐานอื่นๆที่จะมาสนับสนุนทฤษฎีของเขา และจําเป็นต้องปล่อยเรื่องราวในคืนนี้ไว้คราวหลังพร้อมกับเวลาที่ผ่านเลยไป
ผ่านมาหนึ่งสัปดาห์ ผลงานของเขา แผงขายแพนเค้กทอดยามราตรีและรถบัสกลางคืน” ได้รับรางวัลอันดับที่สองในการแข่งขันถ่ายภาพธีมความประทับใจในเมืองยามราตรี คําวิพากษ์วิจารณ์และคําตัดสินที่ได้มาก็คือ “แม้ว่าเทคนิคที่ใช้จะยังไม่มีการพัฒนา แต่รายละเอียดของมันน่าทึ่งมาก! ภาพนี้มันเต็มไปด้วยอารมณ์!”
ด้วยเหตุนี้จางเฮงจึงไปที่ชมรมเพื่อไปรับเงินรางวัล 3,000 หยวน พร้อมทั้งขาตั้งกล้องและกระเป๋ากล้องด้วย หลังจากได้ถ่ายรูปเขาพร้อมกับผู้ชนะคนอื่นๆและรางวัล รูปก็ถูกโพสลงไปบนเว็บไซต์ของมหาวิทยาลัยในบ่ายวันนั้น
“เป็นไปไม่ได้! นายจะเพิ่งเริ่มเรียนรู้มันเอง!” เหว่ยเฉียงเหยียนพูดขึ้นตอนที่เขาเห็นชื่อบนรายชื่อผู้ชนะ ปากของเขาอ้ากว้างจนอมไข่ต้มทั้งใบได้
อีกฝั่งหนึ่งของห้อง เฉินหวงตงเริ่มมึนงงไปกับเรื่องน่าประหลาดใจเหล่านี้ ล่าสุดเพื่อนของเขาที่เพิ่งจะเริ่มเรียนธนูก็ได้ไล่พวกผู้บุกรุก “อย่างไม่คาดคิด” ออกไปได้ ตอนนี้เขาเพิ่งซื้อกล้องมาแค่สองเดือนแล้วก็ได้รับรางวัลเสียแล้ว
ในทางกลับกัน เฉินหวงตงทํางานสองกะเพื่อส่งเสริมการพัฒนาอาชีพ Anime, Comic และ Games (ACG) ของเขา โดยเขาพัฒนาแหล่งข้อมูลสําหรับทุกคนโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เขายังไม่ได้รับรางวัลชมเชยแม้แต่รางวัลเดียว
“เห้อ ชีวิตเครียดขึ้นมาเลยก็เพราะคนยุโรปที่ไปอยู่ทุกที่”
“ให้ฉันเลี้ยงข้าวเย็นพวกนายนะ!” จางเฮงออกตัวอาสาขณะที่เขาวางขาตั้งกล้องและ กระเป๋ากล้องลงบนโต๊ะ เขาคิดถึงเพื่อนร่วมห้องทั้งสามของเขาตลอดเวลาหนึ่งปีที่เขาใช้อยู่ที่ญี่ปุ่น นี่เป็นโอกาสดีที่จะรวมตัวกัน
“ได้เลย เอาสิ!” สีหน้าของเฉินหวงตงเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่เขาเปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม “คนยุโรปอาจจะมีเจตนาร้ายแต่ก็ไม่ได้ร้ายไปซะทั้งหมดนะ…”
เหว่ยเจียงเหยียนบอกมาเหว่ยซึ่งยังคงอ่านหนังสืออยู่ในห้องสมุด และเมื่อถึงเวลามื้อเย็นพวกเขาทั้งสี่ก็มารวมตัวกันที่หน้าประตูมหาวิทยาลัย และมุ่งตรงไปยังร้านอาหารสตรีทฟัดแถวๆนี้ที่พวกเขามักจะแวะเวียนไปบ่อยๆ
เรียงรายไปแผงขายอาหารและร้านอาหาร และมักจะแน่นขนัดไปด้วยนักเรียนนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยและโรงเรียนที่อยู่ใกล้ๆเพื่อมาดื่มกับมื้ออาหารหรือมากินมื้อเย็น – ไม่ใช่เพียงเพราะว่าอาหารนั้นอร่อยและถูก แต่ยังอยู่เป็นจุดที่เหมาะที่จะมานั่งมองผู้คนจากมหา’ลัยอื่นๆตอนที่คุณกินได้อีกด้วย
จางเฮงสั่งแกะเสียบไม้ 50 ไม้, ปลาย่าง 1, หอย 8, ตับแพะอีกนิดหน่อย,ผักต่างๆและแผ่นขนมปังปิ้ง
ตอนที่อาหารมาเสิร์ฟ เฉิงหวงตงหยิบขวดเบียร์จากบนโต๊ะแล้วพูดขึ้นมาว่า “ขอให้คนแอฟริ กันไม่ตกเป็นทาส!”
เพื่อนๆของเขาต่างพากันหัวเราะตอนที่พวกเขาชนขวดเข้าด้วยกัน!
หลังจากกินเนื้อเสียบไม้ไปหลายไม้ แม้แต่มาเหว่ยที่ปกติจะเงียบๆก็ยังพูดไปเรื่อยเปื่อย เมื่อพวกผู้ชายคุยกันพวกเขาก็คุยเกี่ยวกับเรื่องกีฬาและสาวๆ และหลังจากเปลี่ยนหัวข้อที่พูดคุยมาหลายเรื่อง สุดท้ายพวกเขาก็คุยกันเรื่องความสัมพันธ์
เหว่ยเจียงเหยียนถามเฉินหวงตงว่า “แล้วเรื่องนายกับสีจิ้งล่ะ?
นายได้ตัดสินใจเรื่องความสัม พันธ์ของนายหรือยัง?”
ผู้ถูกถามส่ายหัว “เราออกไปด้วยกันบ้างบางครั้ง แต่แต่ละครั้ง เธอมักจะบอกให้เรา AA* ฉันไม่ค่อยเข้าใจว่านั้นหมายความว่าอะไร ตอนที่นายจีบแฟนนายก็เป็นแบบนี้เหมือนกันรึเปล่า?”
เหว่ยเจียงเหยียนเงียบลงไปชั่วครู่ จากนั้นก็ตอบออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ฉันขอโทษนะ แต่เสียวเสี่ยวเป็นคนที่ตามจีบฉันนะ!”
“ซิ! ชิ!” ทุกคนต่างยกนิ้วกลางให้เขา
มาเหว่ยชายผู้ซื่อตรงที่สุดออกความเห็นว่า “เหว่ยถิ่นายโกหกรึเปล่าเนี่ย? ตอนที่นายอยู่ข้างๆ หานเสียวเสี่ยว นายก็เชื่องยิ่งกว่ากระต่ายแองโกร่าอีก!”
“ฉันก็ไม่รู้ว่าทําไม แต่มันก็เกิดขึ้นแล้ว มันเป็นเรื่องจริงนะ เธอคือคนที่มาเห็นฉันเล่นบอลแล้วมาขอวีแชตฉัน” เหว่ยเจียงเหยียนยิ้ม
ขณะที่พวกเขากําลังพูดคุยกัน ก็มีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นไม่ไกลจากจุดที่เขาอยู่มากนั้น
ชายผิวดําสองคนกําลังดึงผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างรุนแรงก้าวร้าว หญิงสาวดูตื่นตระหนก ขอบตาของเธอเป็นสีแดง และเธอกําลังทําอะไรบางอย่างซ้ําแล้วซ้ําเล่า ผู้ชายมองด้วยรอยยิ้มขบขันบนใบหน้า
สิ่งนี้ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้ไม่น้อย และสายตามากมายก็จดจ้องมายังภาพนี้
ชายผิวดําคนหนึ่งพูดกับคนที่สอดส่ายสายตามองมา ด้วยภาษาจีนกลางที่ไม่ค่อยชัดว่า “เพื่ อนของฉันกับแฟนของเขาเถียงกันนิดหน่อย! ขอโทษจริงๆที่รบกวน!”
ผู้คนยังมองดูด้วยความไม่แน่ใจ ชายสองคนที่ดูเหมือนนักเรียนแลกเปลี่ยนจากมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในบริเวณใกล้เคียง เมื่อมีคนถามหญิงสาวว่าต้องการความช่วยเหลือหรือไม่ เธอก็ไม่พูดอะไรและยังคงส่ายหัว
ดูเหมือนนั่นจะเป็นการยืนยันคําพูดของชายผิวดํา
หรือนี่จะเป็นแค่การเอะอะโวยวายโดยไม่ได้มีอะไรร้ายแรงจริงๆ?
และตอนที่พวกเขารู้ว่านั่นเป็นเพียงความเข้าใจผิด ผู้คนก็ค่อยๆแยกย้ายกันไป อย่างไรก็ตาม ใบหน้าของหญิงสาวก็แดงขึ้นเรื่อยๆ เธอดูทุกข์ใจมาก มีสองสามครั้งที่เธอพยายามจะคว้าเสื้อเชิ้ตของชายผิวดํา แต่ผู้ชายคนนั้นก็หลบเลี่ยงเธอได้อย่างง่ายดาย
เมื่อเธอกําลังจะยอมแพ้ ก็มีเสียงพูดดังออกมาจากด้านหลังเธอ!
“โดชิทันเตสึกะ?”
“ขอให้คนแอฟริกันไม่ตกเป็นทาส!” * เป็นประโยคจากเกมเฟท/แกรนด์ออเดอร์ เป็นเกมมือ ถือญี่ปุ่นที่เล่นได้ฟรี
AA – แบ่งจ่ายครึ่งๆ
6 วิ Lice
by โดชิทันเดสึกะ – เป็นภาษาญี่ปุ่นที่แปลว่า เกิดอะไรขึ้นเหรอ