48 Hours a Day - ตอนที่ 54 ตามมันไป!
48 Hours a Day ตอนที่ 54 ตามมันไป!
ตอนที่ 54 ตามมันไป!
“นี่คุณกําลังจะบอกว่ามันอยู่ในโลกแห่งความจริง ในเมืองหลวงที่ผมใช้ชีวิตอยู่ มีสัตว์ประหลาดอยู่เนี่ยนะ?” แม้กระทั่งจางเฮงจะมีประสบการณ์กับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติในช่วงเดือนก่อนหน้านี้ เขาก็ยังคงคิดว่าเรื่องราวจากชายชรานั้นเหลือเชื่อเกินไป
“อืมม.. ก็ไม่เชิง ก็ไม่ได้ถูกต้องทั้งหมด แต่เรื่องที่มันปรากฏตัวมาน่ะถูกต้องแล้ว” ชายชราหยิบห่อขนมเยลลี่ Wangzi QQ ออกมา ดูเหมือนว่าปากเขาจะไม่หยุดนิ่งเลย “แต่ไม่ต้องกังวลไป หลังจากสูญเสียพิธีกรรมของเผ่าอัลคิซ มันอยู่ในสภาพอ่อนแอที่สุดเท่าที่เคยมีมา ในวันที่รุ่งโรจน์ของฉัน การจัดการกับศัตรูพืชต่ําเตี้ยอย่างนี้ก็เหมือนกับดีดนิ้ว”
“แล้วตอนนี้ล่ะ?”
“ตอนนี้ ฉันเจอคนที่จะมาช่วยฉันแล้ว ไม่ใช่หรือไง?”
จางเฮงหันกลับไปที่ถนนเมินคําแนะนําของชายชรา “ นั่นทําให้กังวลน้อยลงสุดๆไปเลย”
“ใจเย็น แม้ว่าความแข็งแกร่งของฉันจะลงลดไปหน่อย แต่เราก็มีกัน 2 คนและมันมีอยู่ตัวเดียว ในเรื่องของจํานวนเราเป็นต่อ” ชายชราพูดให้กําลังใจ ขณะที่เขากินขนมอย่าตะกละตะกลาม ดู จากจํานวนแต่ละอย่างที่เขากินแล้วคงเป็นปาฏิหาริย์มากๆเลย หากเขายังไม่เป็นเบาหวาน
“ผมยังคงไม่เข้าใจว่าทําไมสัตว์ประหลาดจากปาปัวนิวกินีถึงมาถึงที่นี่ล่ะ?”
“กลุ่มคนที่บูชาแต่เดิม เผ่าอัลคิซได้ตายไปหมดแล้ว ถ้าเราเปรียบเทียบนั่นกับระบบ ตอนที่มันหนีจากคุกแห่งกาลเวลาตลาดปาปัวนิวกินีได้แยกออกมาแล้ว ไม่สามารถกลมกลืนรวมกันได้ แต่ก็หมดหวังที่จะฟื้นคืนความเข้มแข็งของมัน และจําเป็นต้องหาผู้เชื่อถือใหม่ ดังนั้นมันจึงถูกบังคับให้ออกมาและในที่สุดก็ติดตามคนสองคนไปยังประเทศจีน”
“ฉันอยู่ในสนามบินนานาชาติหงเฉียวของเซี่ยงไฮ้ ตอนที่ฉันบังเอิญเจอกันสัตว์ประหลาด ไอ้โง่นั่นถูกขังไว้นานเกินไปและไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนเลย ลองคิดดูสิว่าตั้งแต่มีคนมากมายอยู่ตรงนั้น เขาคงจะลองเสี่ยงโชคของเขาดู แต่ 99% ของผู้คนที่ไปสนามบินก็ไม่เคยอยู่ในนั้นนาน และขณะที่มันอาจจะเคยหลอกหลวงคนพื้นเมือง 20,000 ปีก่อน ตอนนี้คงใช้ไม่ได้แล้ว สัตว์ประหลาดใช้เวลากว่าครึ่งเดือนอยู่ที่นั่น พยายามจัดการโน้มน้าวคนทําความสะอาดสองคน – พวกเธอเป็นคนสูงอายุสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นเสนอเวลาของเธอให้แก้สัตว์ประหลาดเพื่อเป็นเครื่องสังเวย อีกคนหนึ่งปฏิเสธไป แล้วหลังจากนั้น ตอนที่มันเห็นฉัน มันก็วิ่งหนีไป!”
ชายชราเปลี่ยนท่านั่งของเขาบนเก้าอี้ ปรับท่าให้นั่งได้สบายมากขึ้น “ตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่เราเจอกัน ฉันก็ยุ่งๆอยู่กันการจัดการเรื่องนี้ ฉันไล่ตามมันไปจนถึงตอนนี้ก็เกือบจะสองเดือนแล้ว คืนนี้ด้วย เธอช่วย พวกเราจะจัดการปัญหานี้ได้ หรืออีกอย่างหนึ่ง ฉันเกรงว่าไม่ช้าก็เร็ว ไอ้นี้คงหาเธอเจอ”
“ทําไมล่ะ?”
“เพราะ “กาลเวลาบิดเบี้ยว” ที่เธอมีทําให้เธอมีแรงดึงดูดร้ายแรง และเพราะว่าเธอเป็นตัวแทนของฉัน พวกเรามีความสัมพันธ์แบบฉันมิตรตลอดสองเดือนที่ผ่านมานี้ ฉันมั่นใจ 100% ว่าสิ่งนั้นต้องการแม้กระทั่งกับฉัน” ชายชราตอบ “เลี้ยวซ้ายแยกหน้า เข้าทางถนนเล็กๆแต่ไม่ต้องขึ้นสะพาน”
จางเฮงเงียบลงขณะที่เขาเริ่มประมวลผลคําพูดของชายชรา หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็พูดขึ้นมาว่า “โลกนี้มันปั่นป่วนแบบนี้หลังจากที่คุณเจอผม หรือมันเป็นแบบนี้อยู่แล้วเนี่ย?”
ชายชรามอบรอยยิ้มกว้างอย่างเด่นชัด “เธอเป็นคนฉลาดนะ เธอก็รู้คําตอบของมันอยู่แล้วนี่ เธอแค่ต้องการเล่นเกมหาคําตอบ มีบางอย่างในโลกนี้ที่ถ้าเธอไม่ได้เห็นมันด้วยตาของตัวเอง มันก็คงจะเชื่อได้ยาก… จอดรถตรงนั้นแหละ ฉันรู้สึกได้ว่ามันอยู่ใกล้ๆแล้ว”
จางเฮงเหยียบเบรค แล้วรถออดี้ A6 ก็ชะลอตัวลงจนกระทั่งมันมาจอดอยู่ข้างหน้าอุโมงค์ที่ดูชิ้นๆ
ยาวไปประมาน 2.8 กิโลเมตร มันอยู่ตรงใจกลางเมือง สถานที่ก่อสร้างถูกปิดสนิทเพื่อลดเสียงรบกวนไปยังพื้นที่โดยรอบ มีรถสองสามคันอยู่ในอุโมงค์ในช่วงเวลาแบบนี้ และจางเฮงยังไม่สังเกตเห็นอะไรที่น่าสงสัยในตอนนี้ เขากําลังจะเอ่ยปากพูดตอนที่เขาเห็นชายชราเอานิ้ววางไปบนปากเพื่อบอกให้เงียบๆ
จางเฮงดับเครื่องยนตร์ และโลกทั้งใบก็ตกอยู่ในความเงียบงันอย่างสมบูรณ์อีกครั้ง ผ่านไปประมาณครึ่งนาที เสียงฝีเท้าดังกระทบกันขึ้นมาจากข้างบนอุโมงค์ มันเข้ามาใกล้มากขึ้น และใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และมันก็หยุดลงทันที!
จากนั้นผ่านไป 5 นาที สองคนในรถสงบเสงี่ยมและเงียบงัน และในตอนที่จางเฮงคิดว่าสิ่งนั้นหายไปแล้ว บางอย่างหนักๆก็ลงมาบนหลังคารถ! เหล็กยุบลงมาเป็นรูปรอยเท้าสองข้างอยู่เหนือหัวจาง
เฮง
แล้วหลังจากนั้น นาทีถัดมา ก็มีหน้าแปลกๆก้มลงมาจากกระจกหน้ารถ
มันเป็นสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างคล้ายลิงมากๆ แต่ประกอบด้วยดวงตาที่ใหญ่เกินปกติที่มีขนาดเกินหนึ่งในสามของใบหน้า ก็เหมือนกับสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอย่างคนและลิง มันไม่มีขนที่หน้า และปกคลุมไปด้วยรอยย่นที่เหมือนกับคนแก่ชรา
จางเฮงมองเห็นความละโมบอยู่ในนัยน์ตาสีเหลืองของมัน แต่เมื่อสิ่งมีชีวิตนั้นรับรู้ได้ว่าใครนั่งอยู่ที่เบาะหลังของรถ มันก็รีบหันหลังกลับและรีบปีนป่ายขึ้นไปยังปลายอุโมงค์อีกด้าน!
“ตามมันไป!” ในที่สุดชายชราในชุดถังก็พูดออกมาพังทลายความเงียบงัน
เนื่องจากไม่มีเวลาให้ไถ่ถามอะไรกันมากมาย จางเฮงจึงสตาร์ทเครื่องแล้วเหยียบคันเร่ง อสูรเหล็กส่งเสียงคํารามออกมา ขณะที่มันพุ่งไปข้างหน้า
จางเฮงเปิดไฟสูงและภายใต้แสงสว่าง เขาก็สามารถมองเห็นสัตว์ประหลาดมอร์สปีวิ่งอยู่บนกําแพงอุโมงค์ การเคลื่อนไหวนั้นรวดเร็วมากราวกับว่าไม่ได้อยู่ภายใต้แรงโน้มถ่วง
ถ้าเขาไม่ได้เห็นมันด้วยสองตาของตัวเอง เขาก็คงไม่มีทางเชื่อได้จริงๆว่าจะมีสัตว์ประหลาดอยู่บนโลกนี้จริงๆ และอย่างน้อยที่สุด ตอนนี้เขาก็รู้แล้วว่าทําไมชายชราที่ไล่ตามสัตว์ประหลาดตัวนี้มาตั้งสองเดือนและยังไม่ประสบความสําเร็จ
ด้วยสกิลการขับรถเลเวล 2 ของเขา เขาคงสามารถไล่ตามฝีเท้าของสัตว์ประหลาดตัวนี้ได้ และนั้นก็ต้องเพราะแสงไปจากรถของเขาด้วยเหมือนกัน ตอนที่พวกเขาอยู่ข้างนอกของที่แห่งนี้นั้นถูกปิดอยู่ทั้งสองทาง มันคงจะสามารถหลบซ่อนทางของมันในการไปถึงตึกใกล้ๆนี้ด้วยความว่องไวของสัตว์ประหลาด
ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้น แม้กระทั้งสกิลการขับรถของจางเฮงดีกว่านี้ 10 เท่า เขาก็คงไม่สามารถตามจับมันได้
โชคยังดี ชายชราที่อยู่เบาะหลังเริ่มขยับแล้ว เขาเปิดกระเป๋า ทั้งๆที่เขากอดไว้ที่อกมาตลอด และหยิบชิ้นเหล็กเปรอะเปื้อนด้วยฝุ่นและเอามันมารวมเข้ากับหอกพังๆ
ดูจากรูปร่างของมันแล้ว มันไม่ได้ดูเหมือนอาวุธเลยแต่เหมือนโบราณวัตถุของอารยธรรมโบราณที่ถูกขุดขึ้นมามากกว่า
“ฉันยืมของชิ้นนี้มาจากเพื่อนของฉัน” ชายชราอธิบายขณะที่เข้าเปิดหน้าต่างแล้วยืนขึ้นพน้อมมีหอกอยู่ในมือ
เขาไม่ได้ตัวสูงมากนัก แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ เขาดูเหมือนพระเจ้าผู้สง่าผ่าเผย ราวกับว่ากลายเป็นหนึ่งเดียวกับสรวงสรรค์และผืนโลก
จางเฮงพยายามทําให้ดีที่สุดเพื่อให้ออดี้อยู่นิ่งๆ และทําให้รถเหวี่ยงไปด้านที่ชายชราจะขว้างหอกได้ง่ายๆกระทั่งไม่จําเป็นต้องเล็งด้วยซ้ํา
เมื่อหอกออกจากมือของเขาไป มันก็ระเบิดออกเป็นแสงสว่างวาบวามไปทั่งทั้งท้องฟ้าเหมือนกับสายฟ้าฟาด!
และเหมือนว่ามันสัมผัสได้ถึงอันตราย สัตว์ประหลาดมอร์สบีก็รวบรวมกําลังและเร่งความเร็วขึ้นไปอีก และเริ่มกระโดดอย่างกระวนกระวาย! แต่ไม่ว่ามันจะพยายามเลี่ยงสักเท่าไหร่ หอกนั้นก็ได้ล็อกเป้าไว้ที่มันเรียบร้อยแล้ว ราวกับว่ามันติดอุปกรณ์ติดตามเอาไว้ด้วย
ท้ายที่สุดแล้วสัตว์ประหลาดผลักดันตัวเองไปจนถึงขีดจํากัดของมัน และในตอนที่มันกําลังจะหนีออกจากอุโมงค์ หอกก็พุ่งเข้าใส่มันที่กลางหลังทะลุถึงหัวใจแล้วพุ่งออกมาจากอก!
มอร์สบีหล่นลงมาราวกับว่าพละกําลังความแข็งแกร่งจางหายไป และตกลงมาอย่างไม่ไหวติงลงบนพื้นถนนยางมะตอย