48 Hours a Day - ตอนที่ 48 โตเกียวดริฟท์ XVII
48 Hours a Day ตอนที่ 48 โตเกียวดริฟท์ XVIII
ตอนที่ 48 โตเกียวดริฟท์ XVII
คนร้ายมัดจางเฮงเอาไว้กับเก้าอี้ เขาไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ ไหนแล้ว แล้วทันใดนั้นพวกมันก็เปิดผ้าปิดตาของเขาออก สิ่งที่ เขาเห็นคือคนพวกนี้พาเขามาที่โรงงานร้าง
จางเฮงยังคงมึนหัวอยู่เล็กน้อย หลังจากที่มันเอาปืนจ่อหัวเขานอกอพาร์ตเมนต์ เขาก็ถูกบังคับให้เข้าไปในรถแล้วโดนปีดตา เขาบอกไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆตัวนอกเสียจากเวลาที่ผ่านไปโดยที่พวกเขาเดินทางด้วยรถยนต์ พวกเขายังอยู่ในโตเกี่ยว แต่อาจจะอยู่แถบชานเมืองที่ไหนสักแห่ง
เขารู้ว่าเขาไม่ได้สนใจอะไร จริงๆแล้วไม่ว่าเขาจะใจเย็นและตื่นตัวขนาดไหน นี่เป็นครั้งแรกที่เขามาข้องเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้และแน่ใจว่าจะทําพลาด คนร้ายที่พาพวกเขามาใช้วิธีสกปรกบางอย่างแน่ๆเพื่อหาอพาร์ตเมนต์
ราวกับว่าเขาอ่านใจของจางเฮงออก ชายหนุ่มพร้อมลูกสมุนได้ตัดอุปกรณ์ติดตามสีดําขนาดเท่าหมากฝรั่งจากกระเป๋าของอามิโกะออก
พวกมันอาจจะแอบติดใส่เข้าไปในกระเป๋า ตอนที่พวกมันลักพาตัวเธอไปบนโตโยต้าสีน้ําเงินนั้น และตอนที่อามิโกะหมดสติไปเธอคงไม่รู้ว่าพวกมันทําอะไรเธอบ้าง ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์ติดตามถูกซ่อนเอาไว้อย่างดี มันสังเกตเห็นได้ยากยกเว้นว่าเธอจะค้นกระเป๋าของเธอหมดทุกซอกทุกมุม
จางเฮงเลิกคิ้วของเขาขึ้น “อามิโกะอยู่ที่ไหน?”
คนร้ายที่พาพวกเขามา แยกตัวพวกเขาออกจากกันที่อพาร์ตเมนต์ พวกเขาอาจถูกเปลี่ยนเป็นรถยนต์คนละคันกันก็ ได้จางเฮงไม่ได้เห็นเธอตั้งแต่นั้นมา
“คิดถึงตัวเองก่อนเถอะ!” ชายทรงผมทหารตะคอกขึ้นมาส่งสายตามองแรงใส่จางเฮง
จางเฮงจําคนนี้ได้
มันคือคนที่เขาชกที่ประตู – ไม่แปลกใจที่เขาส่งสายตาที่แสดงทัศนคติแบบนั้นให้จางเฮง
“เฮ้ ตอนนี้เราก็ชําระบัญชีแค้นของเราได้แล้วสิ!” ชายทรงผมทหารวางอุปกรณ์ติดตามลงและพับแขนเสื้อขึ้นอย่างกระตือรือร้น
ทันใดนั้นก็มีเสียงที่ดังกึกก้อง ดังขึ้นมาจากด้านหลัง “เอาล่ะ! ตอนนี้พอได้แล้ว ให้ฉันพูดกับเขาเอง”
“ครับเจ้านาย” พฤติกรรมของชายผมเกรียนข้างได้เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว เขาโค้งคํานับกับชายที่เพิ่งเดินเข้ามาและหายตัวไปทันที
ชายร่างเตี้ยก้าวเข้ามาข้างหน้าจางเฮง เขาคว้าเก้าอี้ที่ใกล้ที่สุดและนั่งลงไปบนเก้าอี้นั้น “องค์กรของเราไม่เคยคิดที่จะพานายกับคุณอามิโกะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เลย ฉันจึงมาขอโทษในนามขององค์กร
จางเฮงเงียบสงบ
“เมื่อ 22 ปีก่อน รองประธานบริหารของเรา เขาและทสึจิยะโยสุเกะ เอ่อ ซึ่งก็คือนายทาเคดะเท็ตสึยะก็รู้สึก ไม่พอใจเล็กน้อยเขาส่งฉันมาที่นี่เพื่อดูแลสิ่งต่างๆ แผนการที่ จะโยนทสีจิยะโยสุเกะลงไปในทะเลให้เขากลายเป็นอา หารฉลามแต่รองประธานบริหารได้เปลี่ยนใจกะทันหันและตัดสินใจที่จะให้โอกาสเขาอีกครั้ง คําพูดที่ถูกต้องของรองประธานก็คือ “ความคับข้องใจระหว่างนักแข่งรถก็ควรจะแก้ไขด้วยวิธีการแข่งรถ” ชายม่อต้อกล่าว
“ดังนั้น ฉันจึงพยายามจัดสนามแข่งสําหรับทสีจิยะโยสุเกะแต่ฉันก็ยังต้องการคนอีกหนึ่งคนที่จะสวมบทบาทเป็นคนคอยสนับสนุนเขา แต่นั่นเป็นเรื่องน่าปวดหัวเพราะนายทสึจิยะโยสุเกะไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของทุกคน และหลังจากผ่านไปหลายปีเขาก็ไม่ได้มีเพื่อนเลย ฉันได้ยินมาว่าเป็นเวลากว่าครึ่งปีที่นายส่งของให้เขาถ้างั้น? นายสนใจที่จะร่วมสนุกไหม?”
“ฉันมีตัวเลือกอื่นด้วยเหรอ?” จางเฮงถามอย่างใจเย็นถึงแม้ว่าชายคนนี้จะดูอ่อนโยนกว่าเพื่อนร่วมงานของเขาแต่จางเฮงรู้ว่าอย่างไรชายคนนี้ก็ไม่ต้องการรับฟังความคิดเห็นของเขาอยู่แล้ว
“ฉันชอบคุยกับคนที่ชาญฉลาด – นั่นช่วยให้ฉันประหยัดเวลาได้มาก” ชายคนนั้นหยิบมีดสั้นออกมา เดินไปข้างหลังจางเฮงและตัดเชือกที่มัดมือเอาไว้ออก “เกมนี้ก็ง่ายๆ ไม่มีอะไรมากไม่ว่าพวกนายคนใดคนหนึ่งจะชนะในการแข่งขันครั้งนี้ฉันจะปล่อยพวกนายทั้ง 3 คนไป แต่ถ้านายแพ้ เชื่อเถอะว่านายไม่อยากรู้หรอกว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
จางเฮงเหยียดแขนออก เขาคิดจะโจมตีชายคนนั้นคว้ามีดแล้วทําให้ชายคนนั้นเป็นตัวประกัน แต่เมื่อเขาเห็นชายร่างสูง 2 คนที่เฝ้าอยู่หน้าประตู เขาก็ล้มเลิกความตั้งใจไปไม่มีทางออกจากสถานการณ์นี้
“จะแข่งกันกี่คน? แข่งที่ไหน? มีกฏว่าอะไร?”
“ไม่ต้องกังวล นายจะรู้เองเมื่อถึงเวลา ก่อนอื่นเลยใจเย็นๆและเลือกรถของนายซะ!” ชายคนนั้นกล่าว และตบมือเสียงดัง
การ์ดที่ประตูเดินไปยังกลางโรงงานที่เนินกองที่ถูกคลุมเอาไว้อยู่ พวกเขาดึงผ้าคลุมออกและเผยให้เห็นรถที่อยู่ข้างใต้มีทั้งหมด 5 คัน: นิสสัน 180SX สีแดง, BMW M5 สีเงิน,เมอร์เซเดส AMG GT สีเทา, ดอดจ์ ไวเปอร์สีเหลืองและฟอร์ดF150แร็พเตอร์สีน้ําเงิน
“รถยนต์เหล่านี้ได้รับการดัดแปลงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพบางอย่าง นายเลือกขับรถคันที่นายชอบที่สุดได้เลยและถ้านายยังไม่พอใจกับมัน นายจะปรับแต่งมันยังไงก็ได้เราจะให้ชิ้นส่วนที่นายต้องการเอง การแข่งขันคือคืนนี้ในตอนเที่ยงคืน แล้วมีรถยนต์คันไหนที่เข้าตานายบ้างไหม?” ชายคนนั้นถามเขาไม่ได้เดินจากไปทันทีหลังอธิบายเสร็จ แต่ยังอยากรู้ว่าจางเฮงจะตัดสินใจเลือกรถคันไหน
ด้วยความประหลาดใจ ชายหนุ่มมองปที่รถเพียงครั้งเดียวแล้วก็ทอดสายตามองออกไป “ขอโทษนะ แต่ฉันขับรถของตัวเองได้ไหม?”
“รถยนต์ของนายเองเหรอ? รถอะไรล่ะ? พอร์ช 911? แอสตันมาร์ติน? เฟอร์รารี?”
“มิตซูบิชิ L300 รุ่นที่ 2 ปี 1982” จางเฮงตอบ “มันจอดอยู่ชั้นล่างของอพาร์ทเมนต์ที่คนของนายพาฉันมา”
“รถตู้ธรรมดา?!” ชายเบิกตากว้าง
จางเฮงพยักหน้า หลังจากการดัดแปลงมากมายที่เขาทํากับ L300 รถตู้ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป แน่นอนว่าประสิทธิภาพของมันเพิ่มสูงขึ้น แต่ก็ไม่มีทางเทียบเคียงกับรถแข่งได้เลยชายผู้นี้ไม่เพียงแต่ใจกว้าง – รถ 5 คันที่เขาเสนอให้จางเฮงนั้นดีอย่างไม่ต้องสงสัย ที่จริงเขายินดีที่จะให้จางเฮงปรับแต่งรถตามความต้องการของเขาเพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ได้แอบลอบทําร้ายจางเฮง
จางเฮงรู้ว่าไม่ว่ารถจะดีแค่ไหน แต่รถที่ดีที่สุดสําหรับเขาคือรถที่เขาคุ้นเคยมากที่สุด
“นั่นเป็นคําขอที่มีเหตุผลที่ฉันจะทําได้ แต่นายแน่ใจนะ?”ชายคนนั้นถามย้ําอีกครั้ง
จางเฮงพยักหน้า
ชายตัวเล็กส่งสัญญาณให้คนของเขา และอีก 2-3 ก้าวก่อนที่จะนํารถออกไป จากนั้นเขามองตาจางเฮงและพูดว่า “งั้นคืนนี้เราคงได้เจอกัน”
คราวนี้จางเฮงถูกทิ้งให้อยู่ตามลําพังในโรงงานร้างมีน้ําและ อาหารอยู่บนโต๊ะที่อาจเติมพลังงานให้เขาได้นอกจากนั้นยังมีเกมคอนโซลอยู่ที่มุมห้องเพื่อให้เขาเล่นฆ่าเวลาแต่นี้เป็นการดูแลดีเกินไปสําหรับคนที่ถูกลักพาตัวมา และด้วยเหตุนี้จางเฮงจึงเชื่อมั่นมากขึ้นว่าการแข่งขันครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากการตัดสินใจกะทันหันในนาทีสุดท้าย
ผู้ชายคนนี้ได้วางแผนอันแยบยลทั้งหมดนี้เอาไว้มาเป็นเวลานานแล้ว ลูกสมุนของเขาเหล่านั้นอาจไม่ได้รับการฝึกอบรมอย่างมืออาชีพ แต่เนื่องจากพวกนั้นเข้ามาเป็นจํานวนมากมันจะเป็นข้อเสนอที่ไม่สมเหตุสมผลเลยแม้ว่าเจ้าของร้านอาหารทะเลและอามิโกะจะพยายามหนีออกไป ยิ่งกว่านั้นเขาถูกยึดโทรศัพท์ของไปและเขาไม่มีทางที่จะติดต่อโลกภายนอกได้เลย
ตอนนี้สิ่งที่เขาทําได้คือ กินอะไรสักหน่อยแล้วรอให้การแข่งขันเริ่มขึ้น