48 Hours a Day - ตอนที่ 3 โลกใบเดิม
ตอนที่ 3 โลกใบเดิม
จางเฮงเปิดประตูหอออก โถงทางเดินเงียบสงัดประหนึ่งว่าเขากำลังเดินอยู่ห้องดับจิตของโรงพยาบาล เหลือไว้เพียงแต่เสียงสะท้อนจากการเดินของเขาผู้เดียว
ประตูห้องตรงข้ามเปิดแง้มอยู่ มีแสงสว่างแลดลอดออกมาจากช่องระหว่างประตู จางเฮงเปิดเข้าไปดูและเห็นคนสี่คนกำลังเล่นเกมอย่างเมามัน
บนหน้าจอ ตัวละครของพวกเขากำลังไล่ตามแอนนี่*ที่มีเลือดเหลือน้อย สกิลถูกปล่อยออกมาอยู่กลางอากาศ และหน้าตาที่แสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นนั้น หยุดอยู่กับที่ราวกับรูปปั้นที่ดูมีชีวิต
จางเฮงดูเวลาที่หน้าจอของพวกเขา — เวลาขึ้นแสดงว่า 00.00
หลังจากนั้น เขาเดินไปดูทุกห้องในชั้นนี้
บางห้องล็อกเอาไว้ก่อนที่พวกเขาจะเข้านอน เฮงเลยเข้าไปไม่ได้ ส่วนห้องที่เขาเข้าได้ก็เป็นเหมือนกันหมด คือแข็งเหมือนถูกสตาฟไว้ในวินาทีสุดท้ายของวัน
ในห้องน้ำ บางคนกำลังเซ็งที่ต้องหลบคนคุมหอ ประกายไฟจากก้นบุหรี่สว่างเหมือนกับดวงดาวเพียงแต่มันไม่ได้กำลังปะทุ และควันที่ออกมาจากลมหายใจของคนนั้นไหลออกมาจากมุมปากและหยุดอยู่กลางอากาศ
จางเฮงทำอะไรไม่ได้นอกจากหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปสิ่งมหัศจรรย์นี้เอาไว้
ตอนที่เขากดถ่ายรูป เขาได้ค้นพบอะไรบางอย่าง— ในโลกที่เวลาหยุดชะงัก ไม่ใช่มีแค่คนที่หยุดนิ่ง แต่สิ่งของรอบๆนั้นล้วนหยุดอยู่ที่วินาทีสุดท้ายของวันทั้งสิ้น
เหมือนกับหยุดอยู่กลางอาศ พัดลมไฟฟ้าที่หยุดนิ่ง ส่วนคราวนี้บุหรี่ก็ไม่มีวันดับ
แต่ดูเหมือนจะมีข้อยกเว้น
เพื่อจะทดสอบทฤษฎีนี้ จางเฮงดึงบุหรี่ออกมานิ้วของคนคนนี้ที่คีบอยู่
ตอนที่เขาคีบมันขึ้นมา บุหรี่ก็เริ่มไหม้ต่ออีกครั้ง
คงเป็นอย่างนี้สินะ
เวลาในมิตินี้ ที่ซึ่งเขาเป็นผู้เดียวที่สามารถขยับได้ ทุกอย่างที่เขาสัมผัสนั้นจะทำงานของมันต่อไป เหมือนอย่างบุหรี่ และโทรศัพท์ของเขา คอมพิวเตอร์ และเครื่องเล่น MP3 มีเพียงแค่เวลาบนหน้าจอที่ไม่เปลี่ยนแปลงไป
แต่ดูเหมือนว่าเทคนิคนี้จะใช้กับมนุษย์ไม่ได้ ก่อนหน้านี้ที่เขาเขย่าตัวเฉินหวงตงเพื่อปลุกให้ตื่นแต่เพื่อนเขาก็ไม่มีทีท่าว่าจะขยับแม้แต่นิดเดียว
แล้วสิ่งมีชีวิตชนิดอื่นๆที่ไม่ใช่มนุษย์ละ?
ด้วยความน่าสนใจ จางเฮงกลับไปที่ห้อง เปิดไฟฉายในโทรศัพท์แล้วเดินเข้าไปใกล้เพื่อนร่วมห้องของเขา ผ่านไปสองนาทีโดยใช้ไฟจากกล้องคู่แสงนุ่มนวล 20MP ในห้องที่มืดสนิท เขาก็เจอในสิ่งที่เขาตามหา —สิ่งที่เห็นบ่อยที่สุด สิ่งมีชีวิตที่เกลียดที่สุดในหน้าร้อน —ยุง
ถ้าพวกมันเขามาในห้องคุณเมื่อไหร่ ก็ลืมการนอนหลับอย่างสงบสุขไปได้เลย
ห้องของจางเฮงอยู่ที่ชั้นสาม ซึ่งก็ไม่ได้ห่างจากพื้นมากนัก ในความสูงระดับนี้ยุงไม่ต้องใช้ลิฟท์เพื่อที่จะขึ้นมาถึงห้องพวกเขาหรอก ถ้าจะไล่ยุงพวกนี้ออกไปไกลๆ ผู้คนต่างใช้ยาไล่ยุงทุกชนิด: ยาจุดกันยุง ใช้สเปรย์ไล่ยุง มุ้งกันยุงและอื่น ๆอีกมากมาย แต่ก็ต้องมีตัวที่เล็ดลอดมาได้เสมอ
เจ้ายุงตัวนี้บินซุ่มอยู่ข้างๆหมอนของเหว่ย เจียงเหยียนหัวหน้าหอพัก รอสบโอกาสที่จะได้ดื่มด่ำกับมื้ออร่อย
โชคร้ายสำหรับแมลงตัวนี่ ที่ความฝันมันคงต้องพังทลายลงคืนนี้
จางเฮงเอื้อมมือขึ้นไปหยิบที่ปีกของยุงตัวนี้ แล้ววางไว้บนฝ่ามือ
แมลงตัวนี้ยังคงบินอยู่กลางอากาศเหมือนนักแสดงที่ทุ่มสุดตัว – ไม่สนใจเป้าหมายที่อยู่ใกล้ๆ
“กับสัตว์ชนิดอื่นก็ดูเหมือนจะไม่ได้ผลเหมือนกันแฮะ”
หลังเสร็จสิ้นการทดลอง จางเฮงกำมือเพื่อขยี้ยุงตัวนี้และเขาก็กำจัดแมลงกวนใจได้สำเร็จ
เขาสำรวจตึกจนทั่วแล้ว ถึงเวลาที่เขาต้องออกไปสำรวจข้างนอกบ้าง
เขาเข้าห้องน้ำเพื่อล้างจากเศษซากแมลงเมื่อกี้ออกจากมือ แล้วเดินลงบันไดไป
หญิงผู้ดูแลตึกกำลังทำหน้าที่ของตัวเอง เธอกำลังคล้องตัวล็อกรูปตัวยูใส่ประตู เธอน่าจะกำลังล็อกมัน
นี่คงเป็นข้อแตกตางอย่างหนึ่งของการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น แต่การจัดการหอพักก็คงจะต่างกันไปตามแต่ละสถาบัน
มหา’ลัยของจางเฮงมีเคอร์ฟิวตอนเที่ยงคืน แต่ถ้านักศึกษากลับมาไม่ทันเพราะอะไรก็ตาม พวกเขาจะทำให้คนดูแลหอตื่นตอนที่เดินผ่านหน้าต่างข้างห้องเธอไป
พวกเขาจะได้รับอนุญาตให้กลับห้องแล้วถูกลงบันทึกเอาไว้ ทว่าหากสิ่งนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งนักเรียนจะถูกตำหนิและลงโทษ
จางเฮงเดินผ่านผู้ดูแลหอไปได้อย่างสบายๆ ถ้าเป็นตอนปกติเธอคงจะหยุดมองและถามเขา
แต่ตอนนี้เมือนเธอมีความสามารถในการมองทะลุสิ่งของได้ เพราะตาของเธอมองอยู่ที่ด้ามจับของประตูมองทะลุผ่านตัวของจางเฮง แต่ถ้าเป็นคนปกติก็คงไม่มีใครเดินผ่านหน้าเธอหรอก
นั่นเป็นวิธีที่จางเฮงออกมาจากตึก เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าในยามค่ำคืนระหวางที่เขาเดินผ่านทางโล่งๆของมหา’ลัย แล้วเขาก็เดินมาถึงรั้วมหาวิทยาลัย
ที่นี่น่าจะยุ่งกว่า
พื้นที่ของมหา’ลัยไม่ได้ใหญ่เท่าไหร่แต่มันก็เป็นที่ที่ดี เขานั่งที่ขอบถนนวงแหวนที่สามแล้วหันหน้าเข้าไปทางถนนสายหลัก
เมืองในยามราตรีนี่ช่างยาวนานนัก
ร้านขายแพนเค้กบนสะพานแน่นไปด้วยผู้คน มนุษย์เงินเดือนมากมายที่แวะซื้ออาหารก่อนกลับบ้าน ไม่ไกลนักคนทำความสะอาดถนนกำลังกวาดพื้นอย่างเงียบๆ ใต้ชานชาลามีคุณลุงหัวล้านใส่สูทและรองเท้าหนังสองคนกำลังคุยโทรศัพท์และรอรถรอบดึกมาก ๆ ถัดไปมีร้านสะดวกซื้อ 24 ชั่วโมง มีเด็กผู้หญิงติดกิ๊บรูปหมีนั่งหาวอยู่ที่เคาน์เตอร์
เมื่อเวลา 00:00 นาฬิกาตรง พวกเขาจะหยุดนิ่งพร้อมกันทันที
เหมือนกับกดปุ่มหยุดตอนดูภาพยนตร์
ความเร็วของรถบนถนนหยุดอยู่กับที่
จางเฮงเคยเห็นเมืองในยามค่ำคืนครั้งหนึ่ง ก็ตอนที่เขามารับเพื่อนที่สถานีรถไฟ
แต่นี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้สังเกตมันใกล้ขนาดนี้
เขาเห็นต้นหอมที่คนขายกำลังโรยลงบนจานแพนเค้ก คนกวาดถนนที่มือแข็งกระด้างและผิวพรรณคล้ำเข้ม ลุงหัวล้านจมูกมันที่มีภาพของเด็กทารกอายุเพียงหนึ่งเดือนบนจอโทรศัพท์ของเขา รูปโปสเตอร์ไอดอลที่หญิงสาวหลังเคาเตอร์แอบไว้ใต้เครื่องรับเงิน…
รายละเอียดเล็กๆพวกนี้ที่ถูกมองข้ามอยู่ทุกๆวัน กลับดูโดดเด่นขึ้นมาในสายตาของจางเฮง
ราวกับว่าเขากำลังทำความรู้จักกับเมืองใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง
จางเฮงใช้ WeChat ของเขาปลดล็อกจักรยาน Mobike ขณะขี่ไปรอบเมืองเขาก็ได้ทดลองสมมติฐานของเขา
ก่อนที่เข็มชั่วโมงของเขาจะหมุนครบรอบที่สอง เขารีบกลับเข้าหอพักก่อนที่คนดูแลหอจะล็อกประตู
ณ เวลา 00:00 จางเฮงไม่ได้ใส่หูฟัง
วินาทีต่อมา เสียงต่างๆก็ไหลเข้ามากระทบหูเขาดังสายน้ำ
“สวย! เดี๋ยวฆ่ามันเอง! ใช้ Infinite Blade ได้แล้ว!”
“กันป้อมไว้! มันคิดว่าแน่นักหรอ!”
“ไม่ได้! ต้องกลับไปเติมเลือดก่อน!”
…
พัดลมไฟฟ้าเหนือประตูส่งเสียงดังเอี๊ยดอ๊าดไปตามแรงสั่น ข้างนอกมีเสียงแมวร้องหง่าวให้ได้ยิน โถงทางเดินมีเสียงฝีเท้าใครสักคนกำลังวิ่งอยู่ จางเฮงคนที่ไม่ได้นอนหลับมาเป็นวันนั้นเหนื่อยมากแล้ว หลังจากเสียบสายชาร์จเข้าโทรศัพท์ เขาทิ้งตัวลงนอนและเข้าสู่ห้วงแห่งความฝัน
***
แอนนี่ – ตัวละครในเกม League of Legends