48 Hours a Day - ตอนที่ 26 การเดินทาง
ตอนที่ 26 การเดินทาง
คำว่าลูกคนรวยมันก็เป็นแค่คำบ่งบอกฐานะ
แค่คำนั้นคำเดียวมันไม่ได้มีความหมายแฝงอะไร ผู้คนนั้นมีทั้งคนดีและคนไม่ดีอยู่ปะปนกันเสมอพวกเขาแค่ถูกแบ่งออกว่าอยู่ในฐานะร่ำรวยหรือฐานะต่ำกว่า พูดกับแบบตามจริงเลยนะถ้าเทียบกับคนทั่วๆไป บรรดาลูกคนรวยย่อมมีสิทธิพิเศษในการเข้าถึงกับแหล่งข้อมูลทางการศึกษาได้ดีกว่าอยู่แล้ว นั่นจึงทำให้ส่วนใหญ่พวกเขาจึงกลายเป็นคนที่เหนือชั้นกว่า
แต่ทำไมลูกคนรวยถึงได้มีแต่ชื่อเสียงที่ไม่ดีแบบนี้ได้?
ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆคือ ผลจากการทำตัวแย่ๆของคนทั่วไปนั้นกระทบได้น้อยกว่าคืออาจจะแค่ส่งผลต่อคนรอบข้างเท่านั้น ถ้าจะให้เทียบกันแล้วคงเป็นเพราะพวกลูกคนรวยมีอำนาจควบคุมสิ่งต่างๆได้มากกว่า ผลกระทบจึงมักจะรุนแรงกว่าเมื่อพวกเขาทำสิ่งที่ผิดและส่งปัญหาทั้งหมดลงไปสู่สังคม
ยกตัวอย่างเช่นเฉิงเฉิงแม้ว่าเขาจะไม่ได้แย่ขนาดนั้น แต่หลายคนในมหา’ลัยก็สาปส่งเขา เมื่อเขาเข้าร่วมสมาคมนักศึกษาในปีแรกของเขา เขารีบเปลี่ยนมหา’ลัยให้เป็นดินแดนของเขา ในเวลาไม่กี่เดือนเขาได้เข้าควบคุมการเลือกตั้งทั้งหมดแล้วทำให้สมาชิกสมาคมเก่าที่ไม่เห็นด้วยให้ลาออกจากสมาคม
ตอนเขาอยู่ปี 2 เขาก็กลายเป็นประธานสมาคมและสมาชิกสมาคมที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งทั้งหมดเป็นคนของเขา ปกติแล้วเขาจะเป็นคนดูแลสมาคมนักศึกษาทั้งหมด คนที่เหมือนกันก็จะอยู่ด้วยกัน
ตอนที่เขารับสมัครคนเขาก็จะสนใจแต่หญิงสาวที่สวยๆ เมื่อพวกผู้หญิงเข้าร่วมสมาคม เขาจะแอบสั่งการลูกน้องของเขาอย่างลับๆเพื่อจงใจทำให้งานยากขึ้นสำหรับผู้หญิง จากนั้นเขาจะใช้ตำแหน่งของเขาในสมาคมนักศึกษาเพื่อจัดการเรื่องนี้และทำให้เขากลายเป็นฮีโร่ที่ไม่ได้มีใครร้องขอ
หลังจากนั้นก็มีนักศึกษาใหม่ที่ไม่รู้เรื่องราวหลายคนตกเป็นเหยื่อ ขณะที่พวกเขากำลังปรึกษาเรื่องราวในมหา’ลัย ท้ายที่สุดมันก็ไปจบลงบนเตียงของเขาด้วยวิธีการใดก็ไม่รู้
มีข่าวลือว่าเมื่อตอนที่เฉิงเฉิงอยู่ปี 2 มีผู้หญิงมากกว่า 5 คนต้องไปทำแท้งเพราะเขา
มีคนหนึ่งขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย แต่ในที่สุดเรื่องก็ถูกเปิดเผยแต่กระนั้นก็ยังมีเรื่องที่ไม่ถูกเปิดเผยอยู่อีกจำนวนมาก แน่นอนว่า มันเรื่องใหญ่มาก ท้ายที่สุดแล้วผู้คนมากมายก็ไม่เข้าข้างเฉิงเฉิง
หลังจากได้ยินเรื่องเหล่านี้ เฉินหวงตงที่ตอนแรกอยากจะพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกไป เขากลับลังเลและลำบากใจ เขาไม่ได้ทำงานที่โรงแรมของครอบครัวเฉิงเฉิงและมันไม่เกี่ยวกับว่าเฉิงเฉิงเป็นลูกคนรวยหรือเปล่า
แต่หลังจากรู้ว่าเฉิงเฉิงบริจาคเงินให้สมาคมนักศึกษาไปเท่าไหร่ เขาก็ต้องกลับไปคิดใหม่ เพราะว่าไม่มีสหพันธ์นักศึกษาในมหา’ลัยดังนั้นทุนของชมรมจะต้องได้รับการอนุมัติจากสมาคมนักศึกษาก่อนที่จะมีส่งรายงานต่อไปให้อาจารย์
ยิ่งไปกว่านั้นสมาคมนักศึกษายังเป็นผู้รับผิดชอบในการประเมินผลเป็นระยะๆของแต่ละชมรมอีกด้วย
ในช่วงปีแรกของพวกเขา เฉินหวงตงและเพื่อนไม่กี่คนได้ก่อตั้งชมรมอนิเมะชื่อ ไทเกอร์ชาร์ค ขึ้นมาซึ่งทำได้ดีเรื่อยๆมาตลอด
แม้ว่าชมรมของพวกเขาจะมีสมาชิกหญิงเพียงไม่กี่คนและมีกลุ่มกะเทยมารวมตัวกันเพื่อแลกเปลี่ยนรหัสลับและเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมแต่นั้นก็สนุกดี หากเขาจะหาเรื่องเฉิงเฉิง เฉินหวงตงก็ต้องตระหนักถึงปัญหาที่ไทเกอร์ชาร์คจะต้องเผชิญ
นอกจากนี้มหา’ลัยยังมีกฎที่กำหนดให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายตอนเช้า และนั่นก็เป็นหนึ่งในหน้าที่สมาคมนักศึกษาอีกตามเคย
สรุปแล้วงานของสมาคมนักศึกษาเป็นอะไรที่เรามักจะไม่สังเกตเห็น แต่ถ้าไปกวนหรือผิดใจพวกเขาแล้วละก็ ไม่ต้องคิดเยอะเลยนั่นคงเป็นปัญหาแน่ เฉิงเฉิงมีผู้ติดตามค่อนข้างมากตั้งแต่เริ่มต้น
ในที่สุดเฉินหวงตงก็ตัดสินใจที่จะไปสานสัมพันธ์กับสวี่จิ้ง เพราะเขาไม่อยากที่จะต้องระแวดระวังไปทุกๆวันและคอยมองหาว่าจะมีใครสักคนอยากอัดเขา
เสิ่นซีซีดูหมดหวังเธอพูดทุกอย่างที่เธอพูดได้แล้ว ถ้าเป็นคนอื่นส่วนใหญ่คงจะยอมแพ้แล้ว แต่เฉิงเฉิงไม่มีความตั้งใจแม้แต่น้อยว่าจะปล่อยเธอไป
ถัดจากพวกเขา ดูเหมือนว่าหญิงสาวหวังฮวนจะตระหนักได้ว่าเธอทำอะไรผิดไปจึงเอาแต่ก้มหน้าและไม่ยอมพูดอะไรเลย
และแล้วจางเฮงก็พูดออกมาจากความเงียบว่า “โทษนะ นายลืมรูดซิบอะ”
“…”
เฉิงเฉิงมองลงมาและเห็นช่องว่างระหว่างกางเกงตรงขาหนีบ แม้ว่าจะมองไม่เห็นกางเกงในของเขา แต่ยังไงมันก็ดูค่อนข้างไม่เหมาะสม
คงจะดีกว่านี้ถ้าจางเฮงจะไม่พูดถึงมัน เขาอาจแกล้งทำเป็นไม่เห็นก็ได้ แต่ตอนนี้ทุกคนก็รับรู้แล้วเขาไม่รู้ว่าเขาควรจะดึงซิปขึ้นต่อหน้าทุกคนดีหรือเปล่า มันเป็นสถานการณ์ที่น่าอึดอัดใจที่สุด
เฉิงเฉิงจ้องที่จางเฮงครู่หนึ่งก่อนจะพูดกับเสิ่นซีซีว่า “ซีซี สักวันหนึ่งฉันจะทำให้เธอเข้าใจว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ”
จากนั้นเขารีบกลับไปที่ปลอดภัยนั่นก็คือรถ BMW ของเขาอย่างรวดเร็ว ถ้าสังเกตท่าทางการเดินของเขา ก็จะเห็นเลยว่าเขาเคลื่อนไหวผิดธรรมชาติราวกับว่าเขาไม่กล้ายืดขา
“เร็ว! เร็ว! รีบไปกันเถอะ!” เสียวเสี่ยววิงวอน “ถ้าเขารูดซิปเสร็จ เขาอาจจะกลับมากวนอีกก็ได้”
ด้วยความรวดเร็วดั่งสายฟ้าฟาด ทุกคนต่างพากันไปที่รถมินิบัสและเร่งให้คนขับรีบขับออกไปขณะที่พวกเขาปิดประตู
สวี่จิ้งหัวเราะ “ฮ่าๆๆๆ ! เห็นหน้าหมอนั้นเมื่อกี้ไหม?! มันตลกเป็นบ้า!”
และเธอก็สูดลมหายใจเข้า แล้วเลียนแบบน้ำเสียงของเฉิงเฉิง “ซีซี สักวันหนึ่งฉันจะทำให้เธอเข้าใจว่าฉันรู้สึกยังไงกับเธอ…”
สาวโลลิส่งสายตาหวานซึ้งให้เสิ่นซีซีขณะที่เธอพูด
ทุกคนระเบิดเสียงหัวเราะ
เสียวเสี่ยวปิดปากเธอ “พอ หยุดพูด มันน่าขยะแขยงมาก เขาเป็นคนชั่วที่เก่งแต่กับการหลอกผู้หญิงปี 1 ไม่รู้ว่าเพราะบ้าอะไรกันที่ทำให้เด็กใหม่ไปหลงกลชอบมันได้”
เสิ่นซีซีมองไปที่จางเฮงและกล่าวขอโทษ “ฉันขอโทษ ที่นายต้องมาเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องนี่ก็เพราะฉันเลย”
จางเฮงส่ายหัว “ไม่เป็นไร ยังไงฉันไม่ได้เป็นสมาชิกชมรมอะไรอยู่แล้ว”
ในบรรดาหญิงสาวทั้งหมด 4 คนเสียวเสี่ยวรู้จักกับจางเฮงและเพื่อนคนอื่นในห้องเดียวกับแฟนของเธอมากที่สุดจากแฟนหนุ่มของเธอ ภาคเรียนที่แล้วพวกเขาเคยออกมาเที่ยวด้วยกัน 2-3 ครั้งพร้อมกับเนื้อบาร์บีคิวปิ้ง
บางครั้งดูเหมือนว่าเธอจะได้รับอิทธิพลจากเหว่ยเจียงเหยียนและเริ่มสนใจในชีวิตรักของเพื่อนร่วมห้อง เธอหันไปเสิ่นซีซีและพูดว่า “ซีซี ไม่อยากเล่นเป็นวงดนตรีเหรอ? เธอรับจางเฮงไว้พิจารณาไหม เขาเล่นเปียโนเก่งจริงๆนะ เธอรู้จักเพลง La Campanella ของ Paganini ใช่ไหม เขานี้เล่นแบบปิดตาก็ยังได้เลย”
จางเฮงรู้สึกเบื่อหน่ายกับข่าวลือ ที่ได้ยินมาอย่างต่อเนื่องรอบตัวเขา
แต่ก่อนที่เขาจะได้ปฏิเสธข่าวนี้ เหว่ยเจียงเหยียนก็พูดต่อว่า “ใช่! ใช่! จางเฮงชอบออกกำลังกาย เขาวิ่ง 10 กม.ทุกเช้าเลยและเขาเป็นสมาชิกนักปีนเขาและตอนนี้เขายังตั้งเป้าว่าจะไปปีนยอดเขาเคทู โอ้ และเขาฝึกยิงธนูมาตั้งแต่ 5 ขวบ ธนูไม่เคยห่างกายเขาเลย เขาเก่งในทุกด้าน คนยังขนานนามว่าเขาคือ จาง ชุน จากเรื่องซ้องกั๋ง วีรบุรุษเขาเหลียงซาน”
“อะแฮ่ม ช่างเป็นหลีกว่างฮวาหรงน้อยจริงๆ!” เสียวเสี่ยวก้มหน้างุดลงไปในมือของเธอ
สาวโลลิ ผู้ก่อการร้ายอีกคนหัวเราะร่าก่อนกล่าวว่า “ฉันเคยบอกหรือยังตอนแรกที่เห็นจางเฮง ฉันบอกได้เลยว่าเขาเป็นคนสุภาพและฉลาด เขาดูดีกว่าเฉิงเฉิงคนที่ไม่รูดซิบกางเกงนั้นมาก”
เฉินหวงตงเป็นคนเข้าใจอะไรช้า อะไรที่จะต้องพูดคนอื่นก็พูดไปหมดแล้ว เขาใช้เวลานานเป็นชาติกว่าจะคิดอะไรซักอย่างได้ ในที่สุดเขาก็พูดขึ้นมาว่า “จางเฮงรักสัตว์ตัวเล็กๆเหมือนกันนะ หลายครั้งหลังจากกินข้าวในโรงอาหาร เขามักจะเก็บก้างปลาแล้วเอาไปฝังไว้ในที่ที่เงียบสงบ”
“…”
“เฮ้ย เว่อร์ไปแล้ว! ถ้าจะแต่งเรื่องอะไร อย่างน้อยก็คิดนิดนึงสิ!”
ทุกคนหัวเราะ ความหม่นหมองที่มาพร้อมกับเฉิงเฉิงได้หายไปในทันที และทุกคนต่างก็พูดคุยกันอีกครั้ง
ในวัยนี้เมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวอยู่รวมกัน ย่อมมีการหยอกล้อและทำอะไรโง่ๆอยู่ตลอด ปลดปล่อยสัญชาตญาณในวัยเยาว์โดยไม่สนใจหรือคิดอะไรมาก
หลังจากเสิ่นซีซีได้ยินการนำเสนอจางเฮงของทุกคน เธอก็เริ่มสนใจเขาเล็กน้อย แต่ก็นั่นแหละเธอพยักหน้าให้เขาอย่างเป็นมิตร จากนั้นจึงหันไปหาหวังฮวนผู้สิ้นหวังและเริ่มคุยกับเธอ
จางเฮงก็ไม่ได้คิดอะไรกับเสิ่นซีซี เธอดูเหมือนผู้หญิงที่น่าคบหาและทำให้ผู้คนรอบตัวเธอรู้สึกสบายใจ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ปิดบังความรู้สึกโรแมนติกที่มีต่อเธอ
มีเงาดำคล้อยผ่านขณะที่เขามองออกไปนอกหน้าต่าง
บางครั้งเขาก็สงสัย – เขาชอบผู้หญิงแบบไหนกันแน่? เฉินหวงตงคงจะเป็นสาวโลลิ และเหว่ยเจียงเหยียนชอบผู้หญิงอย่างเสียวเสี่ยวที่ดูภายนอกเหมือนเป็นคนแข็งกร้าวแต่แท้จริงแล้วภายในเป็นคนอ่อนโยน
ดูเหมือนว่าทุกคนต่างรู้ว่าตัวเองชอบอะไร ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่แม้แต่จะอธิบายลักษณะแบบที่เขาชอบได้เลย
แต่สำหรับสิ่งนั้น จางเฮงเชื่อว่าเขาจะบอกได้ในตอนที่เขาพบคนที่ใช่