48 Hours a Day - ตอนที่ 2 เลือกอ่านหนังสือที่ใช่
ตอนที่ 2 เลือกอ่านหนังสือที่ใช่
เขาวิ่งไปแล้วเจ็ดรอบสนาม – 2,800 เมตร
จากนั้นเขาก็อาบน้ำที่ห้องน้ำสาธาราณะ เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อยืดสีขาวสะอาดและกางเกงยีนส์ เพลินเพลินกับอาหารเช้าในมุมสงบๆของโรงอาหาร แล้วเขาก็เดินไปที่ห้องสมุดพร้อมกับหนังสือ ‘Xiao Shan Wanhua Mirror’ ที่เพิ่งอ่านจบไป
การอ่านหนังสือเป็นกิจวัตรของจางเฮงเหมือนกับการวิ่งในตอนเช้า ที่เขามักจะอ่านจบสัปดาห์ละเล่ม
แต่การอ่านหนังสือนั้นไม่เหมือนการวิ่งตรงที่ว่าเขามีความสุขมากเวลาที่อ่านหนังสือ มันเหมือนเป็นการพักผ่อนหย่อนใจ มันเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเพลินเพลิดได้ตลอด
และในความเป็นจริง ถ้าไม่มีเวลาจำกัด เขาคงอ่านหนังสือมากกว่าสัปดาห์ละเล่ม
หลังจากเขาคืนหนังสือที่เคาน์เตอร์คืนหนังสือ จางเฮงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงและเปิดแอปเพล็ตที่เรียกว่าเครื่องสุ่มตัวเลขขึ้นมา ตั้งค่าให้สุ่มมาแปดตัว แล้วเขาก็หมุนลูกเต๋าเสมือนจริงในนั้น
ใช่ว่าจะไม่มีเหตุผลที่คนกล่าวกันว่าชายผู้นี้ฉลาด ต้องยอมเขาเลย
คนธรรมดาคงไม่มีใครเคยคิดว่าจะใช่ลูกเต๋าสุ่มตัวเลขขึ้นมาเพื่อหาหนังสือที่จะอ่านหรอก
แต่มันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีหรือไม่ก็เป็นความแปลกพิกลในวิธีการอ่านของจางเฮง อาจจะเป็นเพราะเขาอ่านหนังสือมาเยอะมากตั้งแต่เด็ก จางเฮงอ่านหนังสือได้ทุกประเภท จากผลงานระดับโลกอย่าง Dragon Proud Sky, Xiaobai Wen กระทั่ง the Perfect Man จากจินเจียง จางเฮงซึมซับมันไว้ได้ราวกับฟองน้ำ และที่หนักกว่านั้นเขายังอ่านหนังสือน่าเบื่ออย่าง สรุปสมุนไพรทางการแพทย์ และคู่มือการเลี้ยงสุกรทางวิทยาศาสตร์
เพื่อเลี่ยงปัญหาการเลือกหนังสือมาอ่าน และเพื่อสัมผัสกับความสุขที่แท้จริงของการได้อ่านหนังสือดีๆ เขาได้คิดค้นแอปเพล็ตสุ่มตัวเลขเพื่อช่วยเขาเลือกหนังสืออ่านรายสัปดาห์ของเขา
มันช่างน่าเสียดายที่การขอทุนสนับสนุนการวิจัยของมหาวิทยาลัยได้จบลงไปแล้ว ซึ่งเขาขาดเงินทุนเพื่อขายสิ่งประดิษฐ์ของเขา
จางเฮงสรุปเอาเองว่าพวกตลาดทุนนี่ไม่มีวิสัยทัศน์เอาเสียเลย
…
เขาสุ่มเลขสองตัวสุดท้ายเพื่อดูว่าหนังสือจะอยู่หมวดไหน จางเฮงพบว่าเขาโผล่มาในหมวดการจัดการ
แม้จะไม่ใช่หมวดวรรณกรรมเหมือนครั้งที่แล้ว แต่เขาก็คิดก็ว่าเขายังมีโชคอยู่บ้าง อย่างน้อยก็ดีกว่าหนังสือเรื่อง ‘Bill of Quantitates for Water Drainage, Heating, and Gas Engineering’ ที่เขาเคยอ่านเมื่อเดือนที่แล้ว
จางเฮงเหยียดนิ้วออกไปแล้วหยิบหนังสือสำหรับสัปดาห์นี้ – ‘The Wealth of Nations’ ของอดัม สมิธ
เขากำลังจะดื่มด่ำกับยามบ่ายที่แสนสุข
จางเฮงนั่งติดหน้าต่าง และดำดิ่งเข้าไปในหนังสือ
พวกคุณบางคนอาจกำลังสงสัยในตัวเขาอยู่ตอนนี้ นี่เขาจะไม่สนใจนาฬิกาที่เพิ่งจะกลายเป็นนาฬิกาวิเศษนั้นเลยเหรอ? จริงดิ?
แหม เขาก็คงไม่ได้ไม่สนใจมันหรอก เห็นได้ชัดจากทัศนคติของจางเฮง
การเข้าไปแก้ไขปัญหาคือสิ่งที่ควรทำ แต่ก็ต่อเมื่อคุณสามารถทำมันได้ แล้วในสถานการณ์เหนือธรรมชาติแบบนี้ ย่อมไม่มีข้อมูลเท่าไหร่อยู่แล้ว บางทีไม่ทำอะไรเสียเลยอาจเป็นทางเลือกที่ดีกว่า คุณไม่เคยดูหนังผีคลาสสิกเหรอ? แบบที่พวกผีจะมาไล่จับคนแล้วคนก็ตายน่ะ พวกนักแสดงต้องเก็บกระเป๋าแล้วกลับบ้านไปตั้งแต่ยังไม่ถึงครึ่งเรื่อง
ในทางตรงกันข้าม คุณต้องพยายามทำเป็นไม่มีตัวตน นิ่งเงียบสงบเข้าไว้และทำแบบนั้นต่อไปเรื่อยๆ ใครจะรู้ละมันอาจจะแค่น่ากลัวแต่ไม่มีอันตรายอะไรก็ได้
นี่คือเหตุผลว่าทำไมในหลายๆครั้ง การใจเย็นและมีสติคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ตอนนี้จางเฮงเป็นอย่างนั้น ไม่มีใครจะบอกได้ว่าชายคนนี้กำลังเผชิญอยู่กับเรื่องลี้ลับ เขาไม่เข้าเรียนและใช้เวลาไปกับการวิ่งในตอนเช้าและใช้เวลาทั้งบ่ายตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือเรื่อง ‘The Wealth of Nations’ จากนั้นจึงเข้าเรียนวิชาการคิดเชิงวิพากษ์ที่เขาเลือกเรียนเอง ตกกลางคืนเขายังรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเพื่อนร่วมห้อง แล้วไปที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามเพื่อซื้อบาบีคิว์ปิ้ง และปิดท้ายด้วยการนั่งดูซีรีส์ทีวีอเมริกันในหอตอนหัวค่ำ
สิบเอ็ดนาฬิกาสามสิบนาที ที่หอปิดไฟจนมืดสนิท
แล็ปท็อปของจางเฮงมีแบตเตอร์รี่เหลือเพียงประมาณสามถึงสี่ชั่วโมง แต่เพื่อนร่วมห้องเขาหลับอยู่เขาจึงไม่อยากจะรบกวน เขาเลยพับมันลงไป
ยังเหลืออีกครึ่งชั่วโมงก่อนจะหมดวัน และขณะที่นาฬิกาข้อมือของคนอื่นต้องหมุนเป็นวงกลมสองรอบ จางเฮงคุ้นๆว่าหน้าปัดนาฬิกาแปลกๆของเขานั้นเพิ่งใกล้จะครบหนึ่งรอบเท่านั้นเอง
จะมีอะไรเกิดขึ้นไหม? เขาเองก็ยังไม่รู้
ที่เขาทำได้ก็แค่รอ
เขาหยิบหูฟังต่อเข้ากับ MP3 และใส่เข้าไปในหู จางเฮงใช้เวลาสามสิบนาทีสุดท้ายของวันรออย่างเงียบๆอยู่บนเตียง
00:00
เข็มทั้งสามชี้ตรงกัน มีการหยุดชั่วคราวแบบเสี้ยววินาทีก่อนที่เข็มวินาทีจะเดินต่อไป
จางเฮงไม่ได้รู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ
นี่เขาเดาผิดหรอเนี่ย?
เขาถอดหูฟังออกและทันใดนั้น – เขารู้สึกได้ถึงบางอย่างที่หยุดไป
ทุกอย่างรอบตัว – นี่มันเงียบเกินไปแล้ว
ในช่วงเวลากลางคืนของฤดูร้อนแบบนี้มักจะเต็มไปด้วยเสียง ทั้งเสียงพัดลมไฟฟ้าอันเล็กเหนือประตูสั่นดังอ๊อดแอ๊ดขณะที่มันหมุนจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เสียงน่ารำคาญของยุงที่บินหึ่งๆอยู่ข้างหูคน เสียงน้ำจากก๊อกห้องข้างๆที่หยดลงอ่าง เสียงแมวจรจัดวิ่งเล่นโดดไปมาที่แปลงปลูกต้นไม้ข้างล่าง เสียงกรนของเพื่อนร่วมห้องเตียงตรงข้าม …
คืนนี้ ทุกอย่างเงียบสงัด
เหมือนจู่ๆเสียงก็หายไปจากโลกนี้ กลายเป็นประวัติการณ์ เงียบจนน่าขนลุก
ถ้าไม่มีเสียงเพลงคลอเบาๆอยู่ในหูเขา จางเฮงคงคิดว่าตนเองสูญเสียการได้ยินไปแล้ว
จางเฮงดูเวลาที่นาฬิกาของเขา จากแสงไฟสลัวๆของหน้าจอ MP3
ตอนนี้มัน 00:01
ปกติคนในหอห้องฝั่งตรงข้ามน่าจะยังเล่น League of Legends อยู่ และเสียงดังเฮเวลาเล่นเกมตอนที่ฆ่าได้หรือหนีออกมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นผ่านผนังบางๆที่กั้นห้องอยู่นี้ได้อย่างสบายๆ
จางเฮงรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่แปลกไป วันที่บนมุมขวาของหน้าปัดนาฬิกานั้นไม่ได้เปลี่ยนไปอย่างที่ควรจะเป็น มันยังเป็นวันเดิมคือเมื่อวาน
ความคิดบางอย่างผุดขึ้นมาในหัวของเขา เขารีบโดดลงเตียงนอน – เขานอนแบบยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า
แล็ปท็อปของเขาสว่างขึ้นมา แสดงให้เห็นว่าเหลือเวลาอีกไม่ถึงเจ็ดวิก่อนแบตจะหมด หน้าล็อกอิน QQ เด้งขึ้นมา แต่ความสนใจของจางเฮงไม่ได้อยู่ที่หน้าจอ สายตาของเขาอยู่ที่แถบเครื่องมือด้านล่าง
00:00
2017/9/20
นี้มันเวลาสุดท้ายของเมื่อวานไม่ใช่เหรอ?
จางเฮงรอเวลา เขากดปลายนิ้วลงบนข้อมือแล้วนับไปถึง 200 เขานับได้เจ็ดสิบสองครั้งต่อนาที สองนาทีผ่านไปแล้วเวลาบนจอยังอยู่ที่ 00.00
จางเฮงเลิ้กคิ้วขึ้นมาด้วยความสงสัย แต่เขาก็ยังรีบสรุปอะไรไม่ได้
เขาเดินไปฝั่งตรงข้ามของเตียงแล้วเขย่าเฉิน หวงตงคนที่ตื่นง่ายที่สุดในหอ แค่มีบางคนลุกจากเตียงไปดื่มน้ำนั้นก็ปลุกเขาแล้วแต่คราวนี้ไม่ใช่ ไม่ว่าจางเฮงจะเขย่าเขาแรงเท่าไหร่ เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะตื่นขึ้นมาเลย
“โทษนะเพื่อน ถึงฉันจะไม่มีแฟน ฉันก็ไม่ใช่คนแบบนั้นนะ”
จางเฮงวางนิ้วลงไปอังใต้จมูกเพื่อน และพยายามจะสนุกกับบรรยากาศแปลกๆแบบนี้
สุขภาพจิตของหมอนี่ช่างดีเสียเหลือเกิน
ผ่านไปห้านาที จางเฮงไม่รับรู้ถึงลมหายใจเลยสักนิด
ถ้านี่เป็นส่วนนึงของการแกล้งเขา เฉินหวงตงก็คงจะมีทักษะในการกลั้นหายใจที่น่าประทับใจมากๆ เขาอาจจะทำลาย สถิติโลกกินเนสส์เลยก็ได้
จางเฮงเลยลองทดสอบแบบนี้กับเพื่อนอีกสองสามคน
สุดท้ายผลลัพธ์ก็เหมือนกับเฉินหวงตง
จางเฮงมั่นใจว่าเขากำลังเผชิญกับปรากฏการณ์ที่ไม่สามารถอธิบายได้ด้วยหลักการทางวิทยาศาสตร์
เขาอยู่ในช่วงเวลาที่ไม่มีอยู่จริง
เปรียบได้ดั่งสายน้ำแห่งกาลเวลา ที่ไหลแยกสายออกมาเพื่อเขาแต่เพียงผู้เดียว