[18+] คนที่อยากจะฆ่าที่สุดเป็นอันดับ 1 กลับกลายมาเป็นเมียเฉยเลย - ตอนที่ 7 ศรีภรรยากับคุณลูกสาวที่ผมหวงแหนที่สุดเป็นอันดับ 1
- Home
- [18+] คนที่อยากจะฆ่าที่สุดเป็นอันดับ 1 กลับกลายมาเป็นเมียเฉยเลย
- ตอนที่ 7 ศรีภรรยากับคุณลูกสาวที่ผมหวงแหนที่สุดเป็นอันดับ 1
โยรุซากิ คาเงโอะ กำลังใช้ดินสอกดตวัดเขียนลงบนสมุดบันทึกของเขา
มีความสุข โคตรจะแฮปปี้สุดๆ ทุกคนเองก็ควรจะมีความสุขใช่ไหมล่ะ?
เขามีความสุขจนถึงขั้นที่อยากจะเข้าไปกระโดดกอดทุกคนเลยทีเดียว
ณ ศูนย์อาหารของซูเปอร์มาร์เก็ตนั้นเต็มไปด้วยครอบครับที่ดูอบอุ่นราวกับภาพวาด
คนผิวขาวผมสีบลอนด์ตาสีฟ้า คนผิวสีร่างกำยำ คนเอเชียหน้าแบน อเมริกาเป็นแหล่งรวมของทุกชนชาติทุกคนต่างพากันเข็นรถเข็นที่เต็มไปด้วยสินค้าต่างๆ
“คอยนานเลยนะ คาเงโอะ “
พ่อตาของเขาเรียกเขาทันทีหลังจากพึ่งกลับมาจากห้องน้ำ
“คุณพ่อครับ”
คาเงโอะปิดสมุดแล้วเก็บเอาใส่กระเป๋า
“ไม่ชอบให้เรียกแบบนั้นเลย เรียกชื่อก็พอนะเข้าใจไหม”
“ได้ครับ คุณคริสโตเฟอร์”
“โอ้ว ลืมซื้อของเลย โทษทีนะแต่ฝากเฝ้ารถเข็นให้หน่อยนะ”
คุณพ่อตาเข้าไปที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตแล้วกลับพร้อมกับถุงขนมกัมมี่ผลไม้ ซึ่งถุงมันใหญ่กว่าขนมญี่ปุ่นประมาณ 4 เท่า
ทุกอย่างในซูเปอร์มาเก็ตที่อเมริกาใหญ่กว่าหลายเท่าแถมร้านค้าก็กว้างขวางแม้แต่ถุงขนมก็ใหญ่มากหรือแม้กระทั่งรถเข็นก็ใหญ่เป็น 2 เท่าของซูเปอร์มาร์เก็ตที่ญี่ปุ่น
“เลย์ลาชอบกินเจ้านี่น่ะ”
คุณพ่อตาเอาถุงขนมใส่ลงตะกร้า
เขาจำได้ว่าสมัยตอนเรียนมัธยมอาหารกลางวันที่เธอทำให้เขานั้นก็ชอบมาพร้อมกับกัมมี่รสผลไม้เป็นของหวานตบท้ายเสมอ
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าลูกน้อยของป๊ะป๋าคนนี้ได้กลายเป็นแม่คนแล้ว ต้องต้อนรับเป็นอย่างดีซะแล้วสิ”
พ่อตาของเขาหยิบโทรศัพท์แล้วยิ้มกว้างในขณะที่เปิดรูปของเลย์ลาที่อุ้มลูกน้อยที่เพิ่งเกิด
แม้ว่าเขาจะเป็นผู้ชายที่หล่อเหลาราวกับดารานักแสดง แต่เขาก็มีมาดที่เป็นคุณตาที่แสนใจดีเช่นกัน
พวกเขายื่นใบเสร็จให้กับแคชเชียร์ตรงทางออกซูเปอร์มารเก็ตให้พวกเขาตรวจสอบแบบที่จะไม่พบที่ญี่ปุ่น
เมื่อพวกเขาอยู่ข้างนอก อากาศในฤดูร้อนก็ปกคลุมคาเงโอะ ฤดูร้อนในอเมริกาค่อนข้างสดใสและสดชื่นต่างจากที่ญี่ปุ่น
พวกเขาเข็นตะกร้าไปถึงลานจอดรถและเอาของที่ซื้อเก็บไว้ท้ายรถยนต์
คุณพ่อตาเข้าไปนั่งอยู่หลังพวงมาลัยและพวกเขาก็มุ่งหน้าไปยังบ้านดักกลาส
“ภาษาอังกฤษของเธอใช้ได้เลยนี่นา”
ขณะที่จับพวกมาลัยอยู่คุณคริสโตเฟอร์ก็เริ่มคุยกับเขา
คะแนนTOEIC ของเขาเกือบจะถึง 700 แต่เขาสามารถจัดการเรื่องการใช้ชีวิตประจำวันได้
ปัจจุบันคาเงโอะเป็นนักศึกษามหาลัยชั้นปี 2 และเขากำลังคิดที่จะปรับปรุงคะแนนและหางานโดยใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก
เลย์ลาเองก็เป็นนักศึกษามหาลัยปี 2 เรียนสาขาวรรณกรรมญี่ปุ่นที่มหาวิทยาลัยญี่ปุ่นแต่เธอต้องดรอปเรียนชั่วคราวเนื่องจากลาคลอดลูก
“ขอบคุณมากครับ”
2 ข้างทางของ 2 ฝั่งทิวทัศน์ที่ดูเหมือนฉากในหนังไม่มีผิด
บ้านหลังใหญ่ สวนกว้างๆ นอกจากนี้ตรงนี้และตรงนั้นก็มีบ้านที่มีสระว่ายน้ำด้วย
สนามหญ้าเขียวขจีพร้อมน้องหมาขนปุกปุยกับเด็กๆที่เล่นสเก็ตบอร์ด
สภาพแวดล้อมแบบนี้เองที่สร้างบุคลิกและตัวตนของเลย์ลาขึ้นมา
พอขับมาถึงบ้านดักลาสรถยนต์ก็จอด
ขณะที่พวกเขากำลังแบ่งของที่ซื้อมาและขนเอาเข้าบ้านทันใดนั้นได้ยินเสียงเด็กทารกร้องดังออกมา
“เด็กเขาดูคล้ายคุณเลยนะครับ คุณคริสโตเฟอร์”
ชื่อของลูกสาวที่ยังไม่ได้ตั้งเพราะยังพอมีเวลาอีกที่พวกเขาจะต้องยื่นเรื่องชื่อไปที่ศาลากลางหลังจากกลับถึงญี่ปุ่น
“เหมือนอย่างกับแกะเลยว่าไหมว่าแต่เธอเองก็น่าจะกลับญี่ปุ่นได้แล้วนะเรื่องหลานเดี๋ยวพวกเราจัดการกันเองได้”
แต่เขาดูมีปัญหาเรื่องการตบมุกพอสมควรเลยถึงได้ตอบกลับด้วยน้ำเสียงจริงจังขึงขังแบบนั้น
ป้าบ!!
แม่ของเลย์ลาตบหัวพ่อตาเข้าจังๆไปหนึ่งดอก คุณคริสโตเฟอร์เอามือกุมหลังหัวพร้อมกับก้มหน้าลง
“พูดบ้าอะไรของคุณน่ะ? ไม่ตลกเลยนะยะ … คาเงโอะคุงไม่ต้องคิดมากนะจ๊ะ เขาแค่ตื่นเต้นที่ได้เป็นคุณตาน่ะจ่ะให้ตายสิ”
สำหรับคาเงโอะที่พลัดพรากจากพ่อแม่ของเขาที่เสียไปตอนเขาอยู่ชั้น ป.6 มันเป็นภาพที่น่ายินดีซะจนจั๊กจี้หัวใจ
“ยิ้มอะไรเหรอ? คาเงโอะคุง”
“ผมแค่กำลังคิดว่าแบบนี้่ดีจังนะ ผมที่เสียพ่อแม่ไปตอนอายุ 13 ก็เลยคิดว่า ‘นี่ผมมีพ่อตาและแม่ยายแล้วสินะ’ น่ะครับ “
แม่ยายของเขาอ้าปากค้างด้วยความประหลาดใจแล้วน้ำตาก็ไหลพรากโผเข้ากอดคาเงโอะราวกับว่าอารมณ์มันเอ่อล้นออกมา
“คาเงโอะคุง เธอจะพึ่งพาชั้นในฐานะแม่ยายก็ได้นะ โอเคไหม”
“คุณแม่ทำอะไรน่ะคะ? เขาเป็นสามีของหนูและหนูเป็นภรรยาของเขานะ! “
เลย์ลาบ่นออกมา
เธอสวมชุดนอนและอุ้มเด็กทารกด้วยมือทั้ง 2 ข้างอย่างอ่อนโยนอยู่
“อ้าวแหมๆ ขอโทษด้วยนะจ๊ะ”
“รุมิโกะ สามีของเธออยู่ตรงนี้ต่างหากนะ รักนะรุมิโกะ”
“ชั้นก็รักคุณเหมือนกันค่าที่รัก”
พ่อตากับแม่ยายของเขากอดกันและจุ๊บแก้มกันซึ่งมันน่าทึ่งมากที่พวกเขาตัวติดกันตลอดไม่ว่าจะสถานการณ์ไหนๆ
ตัวคาเงโอะเองก็ต้องการที่จะเป็นคู่แต่งงานแบบนี้
“เจ้าหนู ป๊ะป๋า กลับมาแล้วจ้า”
เขาอุ้มลูกน้อยของเขาแล้วประทับจูบลงตรงหน้าผาก
เขาได้กลิ่นนมอ่อนๆจากตัวลูกสาวของเขาซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยผ้าอ้อมที่ใช้ห่อตัวทารกอยู่
เพราะว่าพึ่งคลอดได้ 10 วัน ส่วนหัวของเด็กก็ยังบอบบางราวกับไม่มีกระดูก
ด้วยน้ำหนักเท่าๆกับลูกแมวเขารู้สึกทึ่งว่าเจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กจิ๋วแบบนี้คือมนุษย์อย่างนั้นหรือ?
“เลย์ลา เธอลุกขึ้นเดินไปมาแล้วไม่เป็นไรแน่นะ?”
“ไม่เป็นไร ชั้นเองก็อยากจะกลับญี่ปุ่นเร็วๆแล้ว”
เลย์ลาไม่ได้อยากไปญี่ปุ่น แต่จริงๆแค่อยากจะกลับบ้าน
“รออีกสักระยะหลังตรวจสุขภาพครบ 1 เดือนก่อนนะ อ๊ะ จริงสิ! เอ้านี้”
เขาหยิบสมุดบันทึกของเขาแล้วเปิดให้เลย์ลาดู
“นี่คือเป็นอันดับรายชื่อน่ะ”
1 .“เอมิ – เอมี่”ชื่อที่เรียกได้ทั้งญี่ปุ่นกับอังกฤษ
2. “นาโอะ” ชื่อญี่ปุ่นออกแนวน่ารักแต่สำหรับภาษาอังกฤษอาจสับสนกับชื่อผู้ชายแต่ก็ชื่อที่จำง่ายโดยที่ไม่ต้องมีความหมายอะไรแปลกๆแอบแฝง
3. “จูเลีย”ชื่ออังกฤษแนวน่ารักๆแต่สำหรับภาษาญี่ปุ่นอาจดูเวอร์วังไปหน่อย
4. “ฮานะ” จำง่ายในอเมริกาต่ำหรับญี่ปุ่นมันก็ฟังดูโหล่ไปไหมนะ?
5. “ซาระ” มีความหมายว่า “ราชินี” ในภาษาฮีบรูนอกจากนี้ยังสามารถอ่านได้ว่า “ซา-ร่า” เป็นชื่อที่ดีในอเมริกาเลยแต่การใช้คันจิในภาษาญี่ปุ่นอาจจะยุ่งยากเกินไป
“เยอะจังเลยเจ้าค่ะ! ยังมีอีกไหมเจ้าคะ?”
“ก็เกินร้อยอ่ะ”
“สุดยอดไปเลยเจ้าค่ะ”
“ก็เพราะเจ้าตัวเล็กกับเธอคือคนที่ผมหวงแหนที่สุดเป็นอันดับ 1 นี่นา”
ในขณะที่เขาอุ้มทารกอยู่คาเงโอะก็จูบกับหญิงสาวที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นคนที่เขาหมายหัวเป็นอันดับ 1 ในรายการจัดอันดับคนที่เขาต้องการฆ่าให้ตายมากที่สุด
**อวสาน**