10ปีผ่านไปหลังจากที่ฉันมาต่างโลก และเพื่อนร่วมชั้นของฉันตอนนั้นก็เคลื่อนย้ายมาด้วยหรอ? - ตอนที่ 1 The Dairy Life 10 Year from now
- Home
- 10ปีผ่านไปหลังจากที่ฉันมาต่างโลก และเพื่อนร่วมชั้นของฉันตอนนั้นก็เคลื่อนย้ายมาด้วยหรอ?
- ตอนที่ 1 The Dairy Life 10 Year from now
ฉันเดินไปตามถนนที่ไร้ทางเดิน จากนั้นฉันก็เริ่มวิ่งฝ่าสายลม
มันเป็นเพียงความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไรเลยรอบตัว
ฉันหาเลี้ยงชีพด้วยการเป็นนักล่าสัตว์ประหลาด และตอนนี้ฉันก็กำลังไล่ล่าฝูงไวเวิร์นตามคำขอของราชวงศ์
มันดูเหมือนว่าจู่ๆ พวกไวเวิร์นก็ลงมายังหมู่บ้านมนุษย์และยึดครองหมู่บ้านนั้น
และตอนนี้ผมก็กำลังอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการจัดการกับมัน
จุดประสงค์คือเพื่อนำฝูงแกะที่ถูกไล่ออกจากหมู่บ้านกลับคืนสู่ที่เดิม
ขณะที่ฉันกำลังวิ่งอยู่ ฉันก็คิดว่าฉันนั้นโชคดีแค่ไหน ผลของความโปรดปรานของมังกรนั้นมหาศาลมาก
ฉันที่เคยได้รับการปฏิบัติราวกับเป็นอาชญากร แต่ตอนนี้ฉันได้รับการปฏิบัติที่ดีขึ้น
และฉันยังมีโอกาสที่ได้พูดคุยกับสมาชิกของราชวงศ์ด้วย
ตอนนี้ฉันและมกุฎราชกุมารที่อายุเท่ากันก็กำลังไปได้ดีจนน่ากลัว
ฉันไล่ตามไวเวิร์น และพยายามควบคุมทิศทางของมันเพื่อไม่ให้มันไปผิดทาง มันเป็นสัตว์หายากที่สามารถยืมพลังจากมังกรได้ และมันแข็งแกร่งกว่ามนุษย์ที่อยู่รอบตัวฉันมาก
ดังนั้นฉันจึงได้รับมอบหมายให้ทำงานเป็นนักล่าสัตว์ประหลาดที่ออกอาละวาดในอีกโลกหนึ่ง
ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากราชวงศ์หรือมาจากตัวมกุฏราชกุมารเองซึ่งพวกเขาเป็นเครือญาติกัน
และพวกเขาก็มีความเชี่ยวชาญในสัตว์ประหลาดที่ค่อนข้างจะแข็งแกร่ง
แม้ว่าจำนวนคำขอจะไม่ได้มากแต่ก็มีสัตว์ประหลาดมากมายที่เราสามารถจัดการได้
ดังนั้นค่าตอบแทนของมันจึงดีมาก
“โทกิฮิสะ มันถึงเวลาแล้ว อย่ามึนนะ”
“อา”
คนที่วิ่งเข้ามาใกล้ฉันและพูดกับฉันคือมกุฎราชกุมาร ด้วยเหตุผลบางอย่าง
ราชวงศ์และขุนนางในโลกนี้ล้วนแข็งแกร่ง และพวกเขาก็มักจะไปกับฉันเพื่อกำจัดสัตว์ประหลาด
และก็ดูเหมือนว่ามันจะเป็นงานที่ทำโดยราชวงศ์และขุนนางเท่านั้น
พวกเราแบ่งกันออกเป็นสองกลุ่มและไล่ล่าไวเวิร์นเหมือนสุนัขล่าเนื้อ
ไวเวิร์นไม่ได้มีอะไรให้มากนักในฐานะสัตว์ประหลาดที่สามารถใช้พลังของมังกรได้
แต่พวกมันนั้นมีความรู้สึกที่แข็งแกร่งผิดปกติ เพราะหากฉันฆ่ามันแม้แต่ตัวเดียว พวกมันทั้งฝูงก็เข้ามารุมต่อสู้ต่อไปจนกว่าจะถึงตัวสุดท้าย
ดังนั้นวิธีเดียวที่จะตอบโต้พวกมันก็คือการขับไล่พวกมันกลับไปหรือกวาดล้างพวกมันหมดทั้งกลุ่ม เนื่องจากนี่เป็นครั้งแรกที่มันลงมายึดครองหมู่บ้าน ดังนั้นพวกเราจึงตัดสินใจ ไล่มันกลับไปที่รังของมัน
ด้านหน้าของฉันเป็นภูเขาหินที่ซึ่งเป็นรังของไวเวิร์น
และจากมุมการมองเห็นของฉัน ฉันมองเห็นมกุฏราชกุมารกระโดดได้ แถวๆ นี้ และฉันควรจะใช้เวทย์มนตร์เพื่อทำให้พวกไวเวิร์นจนมุมในคราวเดียว ตามที่วางแผนไว้
ไฟเริ่มตกลงมาจากท้องฟ้า
พวกไวเวิร์นได้บินหนีไป หากไวเวิร์นแม้แต่ตัวเดียวถูกฆ่าตาย มันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องทำลายล้างพวกมันทั้งหมด
ดังนั้นเปลวไฟขนาดเล็กนี้จึงถูกควบคุมเพื่อป้องกันไม่ให้สิ่งนั้นเกิดขึ้น
ขณะที่พวกไวเวิร์นกำลังสับสน ฉันก็ยกลมขึ้นมาจากพื้นดินและโจมตีพวกมันด้วย และฉันก็เห็นว่าพวกมันถูกลมพัดปลิวว่อนจนตกลงไปบนภูเขาหิน
“ฉันไม่ชอบมันเลย”
“หืม? เกิดอะไรขึ้น เทลเพอริออน?”
“ฉันไม่ไวเวิร์พวกนี้ ในอันตรายแบบนี้ พวกเธอคงจะต้องใช้พลังกันออกมากันอีกและรุนแรงกว่านี้อีก”
สร้อยข้อมือบนแขนของฉันพูดกับฉัน และมันเป็นของมังกรชื่อเทลเพเรียน มันเป็นมังกรตัวใหญ่ที่มีเกล็ดเงิน และเนื่องจากเราไม่สามารถอยู่ด้วยกันตลอดไปได้ เราจึงมักจะสื่อสารผ่านกำไลที่ทำจากเกล็ดเงิน
และฉันดูแลมันมา 10 ปีแล้ว แต่ส่วนใหญ่เธอจะชอบอยู่อย่างสงบมากกว่า
อย่างไรก็ตาม เธอมีแนวโน้มที่จะควบคุมตัวเองไม่ได้เมื่อต้องต่อสู้ และครั้งนี้ก็ดูเหมือนว่าฉันจะยังใช้ความรุนแรงไม่เพียงพอ
“ท่านแพทริค ได้โปรดมาที่นี่สักครู่”
เรื่องแบบนี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อไวเวิร์นเข้ามาเกี่ยวข้อง ฉันมักมีปัญหา. ฉันมั่นใจว่าเธอคงจะพอใจถ้าฉันทำตัวบ้าๆ บอๆ
บางทีฉันอาจจะขอให้แพทริคมาร่วมด้วย
ดูเหมือนสิ่งต่างๆ จะแตกต่างไปจากที่วางแผนไว้ ดังนั้นฉันจึงเรียกมกุฎราชกุมารแพทริค
มกุฏราชกุมารที่บินมาเป็นเวลานานก็ลงมาอยู่ข้างๆฉัน
“ว่าไง?”
“เทลเพเรียนไม่รุนแรงพอ ได้โปรดอยู่กับฉันอีกสักหน่อยเถอะ”
“เอ่อ ไม่เป็นไร แต่ผมไม่อยากฆ่าคุณ”
“ไม่มีปัญหา”
เทลเพเรียนพูดขึ้นขัดจังหวะการสนทนา เทลเพเรียน ลงมาจากด้านบนตรงจุดที่แพทริคกำลังบินอยู่ แทนที่เธอจะลงจอด มันกลับลงมาเหมือนระเบิด ทำลายรังของไวเวิร์นไปครึ่งหนึ่ง เกล็ดเงินของมังกรปรากฏขึ้นในกลุ่มเมฆฝุ่นขนาดใหญ่ ฉันตกใจมากจนสงสัยว่าเขาได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า ฉันก็เลยอดไม่ได้ที่จะถามเทลเพเรียน
“เฮ้ เฮ้ เธอสบายดีไหม?”
เทลเพเรียนส่งเสียงคำรามและเริ่มกระพือปีก ไวเวิร์นถูกพายุพัดปลิวไปอย่างช่วยไม่ได้ ซึ่งมันเทียบไม่ได้กับลมที่ฉันก่อไว้
เมื่อเห็นสิ่งนี้ ฉันกับแพทริคก็มองหน้ากัน ต่างจากปกติ ฉันไม่ได้พยายามกำจัดมัน ฉันแค่ไล่มันออกไป พูดตามตรง ฉันรู้สึกไม่พอใจ และแพทริคก็ดูเหมือนจะรู้สึกแบบเดียวกัน
แพทริคยิ้มแล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง เขาสร้างคุกน้ำขนาดยักษ์และกักไวเวิร์นไว้ข้างใน
เขากำลังต่อสู้ในแบบของเขา เทลเพเรียนใช้กรงเล็บจับตัวที่บินแล้วกระแทกลงกับพื้น ส่วนแพทริคก็ใช้ลูกบอลน้ำจับตัวที่หลบหนีอย่างช่ำชอง และฉันก็คอยเตะตัวที่ขยับตัวไม่ได้ไปยังรังของมัน
เหตุผลที่ว่าทำไมไม่มีไวเวิร์นสักตัวเดียวที่ตายอาจเป็นเพราะมีความสามารถที่แตกต่างกัน
การอาละวาดของพวกเราดำเนินต่อไปจนกระทั่งไวเวิร์นทั้งหมดล้มลงกับพื้น หลังจากที่ฉันทำเสร็จแล้ว ฉันคิดว่าฉันไปไกลเกินไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าฉันจะสนุกมากจนหยุดไม่ได้
“มันมากเกินไปหรือเปล่า?”
“ไม่ ฉันจะไม่ตายแบบนี้ ฉันจะกลับบ้าน”
ดูเหมือนว่าเทลเพเรียนจะพึงพอใจและพาพวกเรากลับมายังหมู่บ้านที่พวกเรารับภารกิจ ฉันกับแพทริคซึ่งถูกทิ้งไว้เบื้องหลังก็ทำการยืนยันว่าไม่มีใครตาย
โอเค มีหลายคนได้รับบาดเจ็บ แต่ดูเหมือนไม่มีปัญหาใดๆ มีงานพิเศษเกิดขึ้นมากมาย และ เทลเพเรียนก็คงจะกลับบ้านด้วยตัวเอง ยังไงซะมันก็สนุกดี ดังนั้นมันก็โอเค
“ดูเหมือนคุณจะสบายดี เราจะกลับบ้านกันไหม?”
“อา ใช่ ฉันสงสัยอะไรบางอย่าง คุณกลับไปก่อนเลย”
“โอเค แต่มันเกิดอะไรขึ้นหรอ?”
“มันคงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แล้วเจอกัน!”
คุณเห็นบางสิ่งจากท้องฟ้าหรือไม่? แม้ว่าฉันจะกังวล แต่ฉันตัดสินใจกลับบ้านโดยคิดว่ามันไม่ใหญ่พอที่จะไปกับเขา ยังมีสิ่งที่ต้องทำ เช่น ฟื้นฟูหมู่บ้านที่ถูกทำลาย และเหนือสิ่งอื่นใด อลิเซีย ภรรยาของเขากำลังรอเขาอยู่ในหมู่บ้าน
หลังจากตัดสินใจแล้ว ฉันก็วิ่งไปที่หมู่บ้าน ไปยังทิศทางที่เทลเพเรียนบินไป ฉันที่ทำได้เพียงแค่ทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นเท่านั้น แต่มันก็เพียงพอที่จะวิ่งกลับไปที่หมู่บ้าน ดังนั้นฉันก็ไม่ต้องกังวลกับมันและวิ่งต่อไป
เมื่อมองเห็นทางเข้าหมู่บ้านแล้ว และฉันก็เห็นผู้หญิงคนหนึ่งโบกมือด้วยรอยยิ้ม