未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) - ตอนที่ 6 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 2
- Home
- 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN)
- ตอนที่ 6 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 2
หลังจากมิยุออกจากห้องไปคานอนก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างไม่ทราบสาเหตุ
[รุ่นพี่ อยู่กันสองต่อสองแล้วนะคะ]
[นะ นั่นสินะ]
ถูกต้องแล้ว ตอนนี้ในห้องเหลือกันแค่เพียงสองคน
อีกทั้งยังอยู่กับแฟนเก่าในห้องของแฟนเก่าอีกคนนึง นับเป็นสถานการณ์ที่น่าประหลาด
แต่แม้เป็นเช่นนั้น ภาพที่เห็นก็คือคานอนก็กำลังดีใจมากอยู่
จากนั้นคานอนก็ลุกขึ้นแล้วเล็งจะไปนั่งข้าง ๆ ฮิโรกิ
[คะ คานอนจัง?]
[อะไรเหรอคะ รุ่นพี่]
[…ไม่ใกล้ไปหน่อยเหรอ? อีกอย่างทำไมเป็นข้าง ๆ ?]
[ถ้าไม่พูดจะไม่รู้จริง ๆ เหรอคะ?]
นัยต์ตากลมโตมองลึกเข้ามาทางนี้
ขาตายาว ริมฝีปากแดงระเรื่อ ผิวสีขาวและแก้มสีแดงอ่อน ผมสีดำนุ่มสลวย ร่างเล็กบอบบาง เป็นสาวสวยอย่างไร้ที่ติ แม้แต่เสียงก็เบาบางดั่งกระดิ่งที่แสนน่ารัก
อึก เผลอกลืนน้ำลายออกมาอย่างไม่ตั้งใจ ฮิโรกิหลบสายตาแล้วจึงตอบ
[ไม่รู้เลย พวกเราไม่ได้อยู่ในความสัมพันธ์แบบนั้นแล้วถูกไหม อีกอย่างถ้าคอนเซปต์งานของพวกเธอมันสำคัญขนาดนั้นก็อย่าทำให้เข้าใจผิดจะดีกว่า]
ราวกับว่าคำของฮิโรกิส่งไปถึง คานอนพองแก้มใส่อย่างไม่พอใจและกลับมาเหมือนเดิมแล้วพูดต่อ
[หนูน่ะ ได้โอกาสไปเข้าร่วมการแข่งขันบัลเล่ต์ระดับประเทศในช่วงสุดท้ายของมอต้นด้วยนะคะ ถึงจะได้ที่สามก็ตาม คือว่า ต้องขอบคุณรุ่นพี่จริง ๆ ค่ะ]
[ถ้างั้น────]
[แต่ว่าก็เกิดไม่รู้ขึ้นมาน่ะค่ะ ว่าถ้าทำแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง]
ฮิโรกิที่กำลังมองเธออยู่ก็เอามือลูบหัวอย่างเป็นธรรมชาติ
[…นานแล้วนะคะ ที่รุ่นพี่ไม่ได้มาลูบหัวแบบนี้]
[ถ้าทำแบบนี้คานอนจังก็จะสงบใจได้นี่นา────ความกังวลในการฝึกบัลเล่ต์ต่อไป กับการที่มาเข้าร่วมไลฟ์ที่นี่ เกี่ยวข้องกันหรือเปล่า?]
เมื่อพูดถามไปทางคานอนก็ส่ายหัวในทันที
ท่าทางตอบกลับไม่คาดคิดนั้นทำให้ฮิโกริถามเพิ่มไปว่า [งั้นเป็นยังไงเหรอ?]
[อยากจะพิสูจน์ตัวเองน่ะค่ะ ว่าหนูในตอนนี้ จะทำอย่างอื่นไปพร้อมกับบัลเล่ต์ได้ไหม]
[คานอนจัง…]
[แล้วจากนั้น กับรุ่นพี่────]
────กริ๊ก
จังหวะที่คานอนโน้มตัวไปข้างหน้าด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น ประตูก็เปิดออก
ตรงจุดนั้นมีมิยุที่ทำหน้าตาไม่พอใจยืนอยู่
[มะ มิยุ…]
หากดูจากสถานการณ์ คงได้ยินเรื่องส่วนใหญ่ไปหมดแล้ว ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมถึงได้ไปเอาเครื่องดื่มแล้วกลับมาช้า
[แอบฟังแบบนี้ไม่น่าเกลียดไปหน่อยเหรอคะ รุ่นพี่มิว]
[คาโนนนนั่นแหละ กล้ามากนะที่ฉวยโอกาสกันแบบนี้]
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ สัมผัสถึงประกายไฟที่ออกมาจากตาของทั้งคู่ กลายเป็นฉากต่อสู้ขึ้นมา
จังหวะนั้นมิยุหันมองหน้าฮิโรกิและกล่าวพูด
[ฮิโรกิเข้าใจดีใช่ไหม? หน้าที่ของนายคือต้องคอยสนับสนุนพวกเราในฐานะผู้จัดการนะ]
[อะ อืม แน่อยู่แล้ว]
[หุหุ สมกับเป็นรุ่นพี่มิวเลยนะคะ ห้ามซะอยู่หมัดเลย]
[เห็นคาโนนนเป็นคนจริงจังแบบนี้ แต่เหลี่ยมไม่ใช่ย่อยเลยนะ]
[เรื่องนั้นก็ทั้งคู่ไม่ใช่เหรอคะ]
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ ประกายไฟยังคงอยู่ …อย่างน้อยฮิโรกิก็เห็นเช่นนั้น
ด้วยเหตุนั้นฮิโรกิจึงเริ่มแทรกเข้าไป
[อะ เอาน่า จะแรงจูงใจอะไรก็ช่างไปก่อน แค่ความรู้สึกที่อยากจะถ่ายงานออกมาให้ดี ตอนนี้เท่านี้ก็พอแล้วมั้ง]
[นั่นสินะคะ รุ่นพี่ฮิโระพูดถูกแล้วค่ะ]
[พอมาทำตัวเหมือนผู้จัดกการแบบนี้ก็ชวนให้หงุดหงิดเหมือนกันนะ แต่ครั้งนี้จะยอมถอยก่อนก็ได้ ถึงจะหงุดหงิดก็เถอะ]
(ยัยมิยุ พูดสองครั้งเลยเรอะ…โกรธขนาดนั้นเลยหรือไง)
อีกหนึ่งเรื่องคือ ถ้าสิ่งที่คานอนจะพูดเมื่อสักครู่ถูกต่อไปจนจบขึ้นมา ฮิโรกิต้องจัดการไม่ได้อย่างแน่นอน
หรือก็คือเป็นเรื่องยุ่งยากสำหรับฮิโรกินั่นเอง
หากคิดย้อนกลับไป ตัวฮิโรกินั้นไม่ได้มีความรู้สึกต่อเรื่องในอดีตอีกแล้ว อย่างน้อยตัวเขาก็รู้สึกแบบนั้น
นอกจากนี้หากแฟนเก่ายังคงเหลือความรู้สึกดี ๆ ให้กันอยู่ ตัวเขาก็ไม่ได้คิดจะทำอะไรเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนั้นจึงไม่สามารถจะจินตนาการได้ว่าจะทำอย่างไรดี
แม้ว่าตัวฮิโรกิจำเป็นจะต้องให้ได้ก็ตาม แต่ตัวเขาก็บอกกับตัวเองว่า [เป็นแบบนี้ก็ดีแล้วนี่] แล้วผลักเรื่องออกไปอีกครั้ง
[เอาละ งั้นมาเข้าหัวข้อหลักกันเลยไหม? ต่อไปเป็นเรื่องเนื้อหาคลิปจะเอายังไง]
มิยุพูดเพื่อเริ่มหัวข้อใหม่ พร้อมด้วยรอยยิ้มอันน่าหวาดหวั่น
แต่ว่าการเปลี่ยนหัวข้อคุยก็เป็นสิ่งที่ฮิโรกิต้องการอยู่พอดี
เมื่อคืน (MICHIKA) ทั้งสามคนได้ประชุมออนไลน์โดยมีจุดประสงค์ในการลงความเห็นและกำหนดเนื้อหาของวิดีโอ หากแต่ว่ายังไม่สามารถจะตัดสินใจกันได้ ฮิโรกิจึงนึกสงสัยว่าความเห็นที่ลงไปกันเป็นเรื่องแปลกขนาดนั้นเชียวหรือ
ดังนั้นฮิโรกิจึงยกมือขึ้นพูด
[งั้นไปแบบรวดเร็วเลยนะ ถ้าช่วยแชร์ข้อมูลที่ประชุมกันเมื่อวานให้หน่อยจะดีมาก]
[ต้องเริ่มจากตรงนั้นสินะ จะสรุปให้แบบรวบรัดเลย~────]
มิยุหยิบแท็บเล็ตที่อยู่บนโต๊ะมาและง่วนอยู่พักนึง จากนั้นก็ส่งหน้าจอให้ฮิโรกิ
ปรากฏเป็นร่างของความเห็นถูกเขียนเรียงรายอยู่ ลักษณะเดียวกับบันทึกการประชุม
เห็นดังนั้นฮิโรกิจึงเริ่มอ่านข้อมูล
[อื-ม มี 「คลิปแต่งหน้า」 「กิจกรรมตอนเช้าของสาวมอปลาย」 「ชาเลนจ์กินดุ」 「ไลฟ์เล่นเกม」 กับ 「ประกวดคอสเพลย์」 เหรอ… หมวดหมู่ครึ่งแรกกับครึ่งหลังนี่คนละเรื่องเลยนะ]
[ก็นะ ไอเดียยิ่งเยอะยิ่งดีนี่]
เนื้อหาครึ่งแรกจะเรียกว่าค่อนข้างดูดีหรือพอถูไถได้ สามารถเพิ่มยอดผู้ชมในระดับหนึ่ง
หากเทียบกับเนื้อหาครึ่งหลังแล้วคาดว่าจะเป็นงานอดิเรกของมิยุเสียมากกว่า
[จะว่าไปแล้วอันไหนที่มิยุว่าดีเหรอ?]
[อืม~ 「ไลฟ์เล่นเกม」 กับ 「ชาเลนจ์กินดุ」 ก็ดีทั้งคู่นะ แต่คอสเพลย์ก็ไม่อยากตัดออก อย่างน้อย ๆ ไอเดียพวกนี้ก็ไม่ได้ทำยากอะไรด้วย]
[อย่างนี้นี่เอง แต่เรื่องเกมกับคอสเพลย์ของมิยุเนี่ยไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยแฮะ แต่ก่อนก็ไม่เคยเห็นทำเลยนี่นา]
[หนูเองก็เหมือนกันค่ะ ตอนเข้ามาในห้องนี้ครั้งแรกบอกตรง ๆ ว่าตกใจเหมือนกันนะคะ]
แม้แต่คานอนก็เห็นตรงกัน มิยุจึงตอบด้วยความเขินอาย
[ฉันเพิ่งจะมาเป็นโอตาคุเมื่อตอนมอปลายน่ะ ตอนแรกแค่จะลองเกมมือถือเฉย ๆ แต่มันสนุกมากจนติดในทันทีเลยละ จากตอนนั้นก็เลยลองหลาย ๆ อย่าง ตอนนี้ก็เลยเป็นแบบนี้]
[เห เกมมือถือนี่เอง จะว่าไปในห้องนี้ก็มีแต่สินค้าตัวละครผู้หญิงทั้งนั้นเลยสินะ แปลว่าชอบอะไรประมาณนี้เหรอ?]
พอถามไปอย่างสบาย ๆ มิยุก็หน้าเปลี่ยนสีอย่างน่าประหลาด
[นี่ฉันถามอะไรไม่ดีไปเหรอ?]
[เปล่า แว๊บเมื่อกี้แค่คิดว่ากำลังโดนล้ออยู่หรือเปล่าน่ะ แต่ก็นึกได้ว่าฮิโรกิไม่ใช่คนแบบนั้น สาวน้อยเวทมนตร์เมลอนจัง────กับสินค้าตัวละครสาวสวยคนอื่น ๆ เป็นความชอบของฉันเอง น่ารักและน่าดูชมสุด ๆ เลย]
[เป็นงั้นนี่เอง]
มิยุที่เสพติดสาวน้อยเวทมนตร์เมอลนจังและตัวละครผู้คนตัวอื่น ๆ แถมยังชื่นชมด้วย เรียกได้ว่าสมกับเป็นตัวเธอได้อย่างน่าประหลาด
อันที่จริงแล้วอยากจะให้เจาะลึกเกี่ยวกับประเภทเกมที่ชอบด้วย เพียงแต่ถ้าทำเช่นนั้นแล้วหัวข้อคุยจะไปต่อไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่ต้องผ่านไปก่อน
[ตามนี้ พอจะเข้าใจความคิดของมิยุแล้ว งั้นก็ถ้าให้เลือกมาอันนึงก็คงเป็น 「ไลฟ์เล่นเกม」 ดีไหม?]
[อื-ม แต่อารมณ์ตอนนี้รู้สึกว่า 「ชาเลนจ์กินดุ」 น่ะนะ แน่นอนว่าอิมแพคก็เยอะด้วยก็จริง แถมยังได้กินของอร่อยเยอะ ๆ ด้วยอีก]
[ฮ่า ๆ ดูผิดจุดประสงค์นิดหน่อยนะ ถ้างั้นเอาเป็น 「ชาเลนจ์กินดุ」 ตามนี้────]
[คัดค้านค่ะ]
มิยุคัดค้านออกมาด้วยรอยยิ้ม แม้จะพูดด้วยความเสียงอ่อนหวานแต่ก็สัมผัสได้ถึงความแน่วแน่ในนั้น ทำเอามิยุถึงกับแก้มเกร็ง
[งั้นก็ อธิบายเหตุผลที่คัดค้านให้ฮิโรกิฟังหน่อยหน่อยซิ]
[แน่นอนอยู่แล้วสิคะ ได้น้ำหนักขึ้นกันพอดี ถ้าคนที่ต้องควบคุมแคลอรี่ไปทำ 「ชาเลนจ์กินดุ」 ก็เท่ากับฆ่าตัวตายชัด ๆ เลยค่ะ]
เรื่องเป็นเช่นนี้ คานอนนั้นจำต้องทำตามกิจวัตรประจำวันเพื่อคงรูปร่างเอาไว้ในฐานนักบัลเล่ต์ ดังนั้นเรื่องกินเกินมาตรฐานนั้นจะถูกคัดค้านก็ไม่แปลกแต่อย่างใด
ดังนั้นฮิโรกิที่คิดว่าไม่ควรฟังความข้างเดียวนั้นจึงถามว่าจินัตสึได้พูดถึงเรื่องนี้ว่าอย่างไร
[จินัตเตะเป็นพวกกินแล้วไม่อ้วน เพราะงั้นผ่านฉลุยน่ะ]
[คนที่สารอาหารไปลงหน้าอกหมดเนี่ยน่าอิจฉาจริง ๆ นะคะ…]
เมื่อทนดูคานอนที่พูดอย่างจริงจังไม่ได้จึงได้เริ่มไปที่ความเห็นถัดไป
[ถ้างั้นคานอนจัง อยากได้แบบไหนเหรอ?]
[ของหนูเหรอคะ~ นี่เลยค่ะ]
คานอนกดแท็บเล็ตอยู่ครู่หนึ่งแล้วยื่นหน้าจอมาให้
ปรากฏคือ 「คลิปเต้น」 「คลิปร้องเพลง」 「คลิปราคุโกะ*」 ถูกเขียนเอาไว้ ไม่ว่าจะอย่างไหนก็เป็นขอบเขตแนวศิลป์ทั้งหมด เป็นสิ่งที่นับว่าสมกับเป็นคานอนมาก
[อย่างนี้นี่เอง จะอันไหนก็เป็นแผนที่จะเริ่มจากของยากทั้งนั้นเลยสินะ กลับกันถ้าผ่านไปได้ด้วยดีก็คุ้มด้วย]
[ทั้งรุ่นพี่จีกับรุ่นพี่มิวต่างก็สวยกันทั้งนั้น แผนที่เน้นรูปลักษณ์ภายนอกแบบนี้คิดว่าคนที่ได้ดูก็คงชอบกันน่ะค่ะ หนูเองก็ฝึกบัลเล่ต์อยู่แล้วด้วยเลยมีความั่นใจเรื่องเต้นด้วยนะคะ]
[ก็จริงนะ ถ้าทั้งสามคนมาเต้นด้วยกันได้คงเยี่ยมไปเลย ทุกคนน่ารักด้วยนี่นา]
[ระ รุ่นพี่ พูดตรงขนาดนั้นมันก็…]
ไม่ใช่แค่คานอนที่เกินอาการเขินอาย แต่มิยุก็หน้าแดงไปอีกคน
แต่มิยุก็ได้สติและกลับมาพูดต่อ
[แต่ว่าทั้ง 「คลิปเต้น」 กับ 「คลิปร้องเพลง」 เนี่ย ใช้เวลาเตรียมตัวพอสมควรเลยนะ ถ้าจะจริงจังก็ต้องการเวลาซ้อมอีก เราไม่มีเวลามากขนาดนั้นในการโพสต์ครั้งนี้ด้วย จะทำแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ก็ไม่ได้ด้วย ถึงคาโนนนจะคุ้นเคยกับการเต้นก็เถอะ แต่พวกฉันไม่มีประสบการณ์แบบนั้นน่ะนะ]
[นะ นั่นมันก็ จะว่าใช่ก็ใช่ค่ะ…]
ด้วยคำค้านของมิยุนั้น ทำให้คานอนมีท่าทางหดหู่
ถึงไม่ได้คิดว่าจะเข้าข้าง แต่ฮิโรกิก็ตัดสินใจเข้าแทรก
[แต่ว่าเรื่องร้องเพลงมิยุถนัดนี่ อีกอย่างคิดว่าคุณจินัตสึก็น่าจะเก่งอยู่นะ]
[นั่นน่ะพูดเรื่องตอนที่ไปคาราโอเกะใช่ไหม? เอามาใช้อ้างอิงไม่ค่อยได้หรอกนะ…]
[งะ งั้นเหรอ]
กลับกันทางคานอนดูท่าทางไม่พอใจเล็กน้อย
[คานอนจัง โกรธอะไรหรือเปล่า?]
[ยังไงหนูก็ร้องเพลงห่วยนี่─คะ]
ดูเหมือนว่าการที่ชื่นชมมิยุกับจินัตสึจะเป็นการมอบความแปลกแยกให้คานอนด้วยอีกคน ตอนแรกจะมีการอธิบายว่าการคานอนต่างออกไปเพราะถนัดเต้นมากกว่าอยู่ แต่เรื่องนั้นกับเรื่องนี้มันคนละเรื่องกัน
[ไม่นะ ไม่ได้พูดแบบนั้นเลย แค่แต่ละคนก็มีเรื่องที่เก่งไม่เก่งต่างกันนี่นา]
[ก็เหมือนบอกว่าไม่เก่งนั่นแหละค่ะ! รุ่นพี่ใจร้ายค่ะ]
คานอนทำหน้าโมโหแล้วหันหลังไป
ฮิโรกิรู้สึกผิดจึงเอามือลูบหัวคานอน
[ขอโทษนะคานอนจัง ฉันเลือกคำไม่ดีเอง]
[…อีกแล้ว ทำเหมือนเป็นเด็กทุกที]
[อ๊ะ ขอโทษ]
เมื่อเห็นใบหน้าด้านของของคานอนเป็นสีแดงจึงรีบชักมือออกในทันที
[เปล่านะคะ ไม่ได้บอกให้หยุดสักหน่อย…]
[ฮ่า ๆ งั้นเหรอ]
ได้ยินดังนั้นก็เลยจะยื่นมือกลับไปอีกครั้ง
[────อะแฮ่ม]
มิยุจงใจกระแอมเสียงดังทำให้ทั้งฮิโรกิและคานอนตกใจ
[ทั้งสองคน ถ้าจะจู๋จี๋กันก็ไปที่อื่นก่อนไหม?]
[ไม่ใช่น่า ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้น…]
[ใช่แล้วค่ะ ก็แค่สกินชิพกันเฉย ๆ เอง]
คานอนพูดด้วยความดื้อรั้น มิยุหันมามองทางฮิโรกิ
[ถ้าผู้จัดการอย่างฮิโรกิทำตัววุ่นวายซะเองแล้วจะทำยังไงกัน กฏก็บอกไปแล้วนี่]
[ขอโทษแล้วกัน…ขอกลับเข้าเรื่อง สรุปว่าเรื่องเต้นกับร้องเนี่ยทำทันทีไม่ได้สินะ]
ถ้าอย่างนั้นคงต้องใช้ความเห็นของจินัตสึแล้ว
มิยุเหมือนจะเดาความคิดออกเลยส่งแท็ปเลตให้ดูเงียบ ๆ
[ไหนดูซิ 「แข่งกินเร็วแบบนรกแตก」 「วิ่งผลัดทักทาย」 「ถ้าร้องคาราโอเกะไม่ได้เก้าสิบเก้าคะแนนจะไม่เลิก」 「ถ่ายรูปสติกเกอร์ด้วยหน้าแปลก ๆ」…เป็นงี้เอง]
แท็ปเลตถูกวางลง ฮิโรกิถอนหายใจ
[…มีอันอื่นไหม?]
[อ่าฮ่าฮ่า ว่าแล้วต้องทำท่าแบบนั้น]
มิยุยิ้มขม ๆ แล้วเอียงคอเล็กน้อย
[คือ ของฉันคิดว่าไม่มีแล้วน่ะ]
[หนูก็เหมือนกันค่ะ นอกจากที่คิดมาก็หมดแล้วเหมือนกัน]
[ประเภทมันก็ยากเอาการเนอะ ว่าไปแล้วทั้งสองคนไม่ชอบอันไหนมากกว่าเหรอ]
[「แข่งกินเร็วแบบนรกแตก」]
[「ถ่ายรูปสติกเกอร์ด้วยหน้าแปลก ๆ」 ค่ะ]
[กระจัดกระจายแท้ละ]
สองคนนี้มีงานอดิเรกคนละขั้วกันเลย
หากรวมความคิดแปลก ๆ ของจินัตสึเข้าไปด้วยคงหาข้อสรุปไม่ได้สักทีแน่นอน
อีกอย่างหากว่ามีใครสักคนมาดูแลเรื่องแผนที่จะทำได้ก็จะเป็นเรื่องดี แต่ฮิโรกิรู้สึกว่าไม่ควรจะก้าวก่ายมากไปจึงไม่ยอมพูดออกมา
ดังนั้นฮิโรกิจึงถามคำถามเพื่ออ้างอิงข้อมูลแทน
[จะว่าไปแล้วตอนมิยุเปิดช่องใหม่ ๆ ทำอะไรบ้างเหรอ?]
[ของฉันก็ที่อยู่ในที่เขียนไปนั่นแหละ ส่วนช่วงแรก ๆ ก็ทำพวกคลิปกิจวัตรตอนเช้ากับคลิปแต่งหน้าน่ะ หลังจากนั้นก็เริ่มถ่ายเป็นคลิป Vlog มาตลอดเลยน่ะ]
[อย่างนี้นี่เอง]
คาดว่านี่เป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ช่องของมิยุมีชื่อเสียงขนาดนี้
ถ่ายชีวิตประจำวันของผู้หญิงวัยมัธยมปลายและใช้เป็นเนื้อวิดีโอ จากนั้นให้สาวสวยอย่างมิยุเป็นคนโพสต์เท่านี้ก็ทำให้จำนวนยอดเข้าชมเพิ่มขึ้นแล้ว แถมยังเข้าถึงคนธรรมดาที่มากดติดตามช่องอีกด้วย
และจุดแข็งของมิยุที่อยู่ในวิดีโอก็คือเสน่ห์ ตรงจุดนั้นมีการเพิ่มเติมลูกเล่นเข้าไปอย่างชาญฉลาด เช่น คอสเพลย์ เป็นต้น ซึ่งจุดนี้ทำให้เธอโด่งดังมากในปัจจุบัน
และจากคำที่เพื่อนของมิยุเคยกล่าวไว้ว่าเนื้อหาวิดีโอนั้นมีฤทธิ์ในการเยียวยาจิตใจได้ทำให้ง่ายต่อการดูซ้ำ ส่งผลให้ความเป็นไปได้ที่แฟนคลับจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จึงสูงเข้าไปอีก
หากนี่เป็นสิ่งที่มิยุคิดมากก่อนแล้วทั้งหมดละก็ แสดงว่าเธอมีความสามารถในการวิเคราะห์อยู่มาก แต่ว่า…
[พวกเหตุผลที่มิยุทำคลิปแนวนี้ ถ้ามีละก็ขอถามได้ไหม?]
[เหตุผลก็คือรู้สึกว่าน่าสนุกดีน่ะ นอกนั้นก็ทั่ว ๆ ไปอย่างอัปแล้วมีคนชมละน้า~ แต่แน่นอนว่าอัตราการเติบโตของคลิปแนวนี้ค่อนข้างสูงก็เป็นหนึ่งในเหตุผลเหมือนกัน]
เป็นตามที่คาดการณ์ไว้
เพราะคิดว่าน่าสนุก เพราะว่ามีคนชม ────หากเป็นมิยุที่ฮิโรกิรู้จักเหตุผลที่ใช้ในการอัปโหลดวิดีโอเหล่านี้ถือว่าเข้าใจได้
กล่าวคือฮิโรกิคิดว่าแนวคิดนี้คือคำตอบที่ถูกต้อง
การคว้าความสำเร็จเป็นเรื่องสำคัญก็จริง แต่ในช่วงแรกการทำสิ่งที่อยากทำให้เป็นรูปเป็นร่างจะดีมากกว่า
[ทำสิ่งที่อยากจะทำก็อาจจะดีก็ได้นะ โดยเฉพาะครั้งแรกนี่แหละ]
[แหม ก็งั้นมั้ง]
[นั่นสินะคะ]
มิยุกับคานอนเห็นตรงกันอย่างหาได้ยาก จึงมองหน้ากันแล้วหัวเราะ
ถ้าเช่นนั้นก็ควรจะคุยเรื่องที่ใจอยากจะทำกันเสียก่อน
[ถ้าไม่สนเรื่องหัวข้อ เวลา การเตรียมพร้อมหรือปัจจัยอื่น ๆ แล้ว สิ่งที่ทั้งสองคนอยากทำที่สุดคืออะไรเหรอ? ถ้าไปได้ก็อยากจะถามคุณจินัตสึด้วยน่ะ]
[เมื่อกี้จินัตเตะส่งข้อความไปหาจินัตเตะแล้วละ ส่วนของฉันน่ะนะ~ ยังไงดีน้า]
มิยุกำลังคิดวนอยู่ในหัว ส่วนคานอนกล่าวขอโทษออกมา
[ขอโทษนะคะ ทางหนูไม่คิดว่าจะนึกออกตอนนี้เลยค่ะ พอดีว่าเป็นพวกที่เวลาคิดแล้วต้องนึกถึงเรื่องอื่นด้วยตลอดเลย แต่ถ้าต้องพูดจริง ๆ ก็คงเป็น 「คลิปเต้น」นั่นแหละค่ะ]
[ไม่เป็นไร ไม่ต้องฝืนคิดขนาดนั้นก็ได้นะ]
[อ๊ะ จินัตเตะตอบกลับมาแล้ว ตอบว่า 「ฝากทุกคนด้วยน้า!」 น่ะ]
[งั้นเหรอ ถ้างั้นก็เหลือแค่มิยุแล้วนะ]
[อืม~…อ๊ะ!]
จังหวะนั้นมิยุก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยแรงใจแล้วพูด
[────ฉันน่ะอยากจะทำ 「ประชุมสาวเลิฟโฮเทล*」 ละ!]
[หา!? ละ เลิฟโฮเทลนี่ คือว่านะ…]
ฮิโรกิรู้สึกหวาดหวั่นกับคำพูดอันน่าเหลือเชื่อที่ออกมา
แต่ว่ามิยุยังคงพูดต่อด้วยความมั่นใจ
[ก่อนหน้านี้เคยถูกยกมาเป็นหัวข้อหลายครั้งแล้วน่ะ คิดว่าสนดี สถานที่ก็เรื่องนึง แต่เรื่องประชุมสาว ๆ น่ะอยากจริง นั่นแหละคือ 「ประชุมสาวเลิฟโฮเทลเฉพาะแฟนเก่า」 ไตเติ้ลแบบนี้น่าจะฮิตจัดเลยเนอะ?]
[ไม่สิ ก็จริงที่ว่าอาจจะฮิตแหละ แต่ตั้งแต่แรก────]
[คัดค้านค่ะ]
คานอนพูดตัดบทขึ้นมาทันที
หน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงและมองมิยุด้วยความจงเกลียดจงชัง คานอนพูดต่อทันที
[แปลกมากเลยนะคะที่จะเด็กมอปลายจะไปใช้ของอย่าง ละ ละ…สถานที่แบบนั้น คิดแบบนั้นค่ะ]
[เอ๋ คาโนนนเนี่ยเป็นพวกจริงจังกับเรื่องแนวนี้เหรอเนี่ย]
[แน่อยู่แล้วสิคะ! หนูน่ะคิดว่าชายหญิงคบกันก็ต้องด้วยความบริสุทธิ์ใจค่ะ!]
[ฮะ ๆ …คานอนจังเนี่ย เป็นแบบนั้นจริง ๆ นี่นะ]
ถึงปกติคานอนจะมีนิสัยที่ชอบรุกเข้ามาบ้าง แต่โดยพื้นฐานแล้วนับเป็นนักเรียนดีเด่น เพิ่มเติมคืออย่างเวลาจับมือกันก็จะจับแค่เพียงสั้น ๆ เท่านั้น เป็นผู้หญิงที่ใสซื่อคนหนึ่งเลย (※ แต่การลูบหัวเป็นข้อยกเว้น)
หากเป็นเธอคนนั้นละก็ แค่ได้ยินคำว่าเลิฟโฮเทลก็ต้องคัดค้านขึ้นมาทันอยู่แล้ว และฮิโรกิก็เดาถูกเช่นกัน
เพียงแต่มิยุนั้นไม่ยอมแพ้
ลงไปนั่งข้าง ๆ มิยุด้วยใบหน้าลึกลับแล้วกระซิบที่หูของคานอนทั้ง ๆ แบบนั้น
[แต่ว่านะคาโนนน จุดประสงค์หลักของฉันไม่ใช่ไปเลิฟโฮเทลหรอกนะ? แค่ประชุมสาว ๆ กันเพื่อถ่ายคลิปเท่านั้นเอง]
[ปะ เป้าหมายจริง ๆ นี่…แต่ว่าต้องไปที่แบบนั้นเพื่อถ่ายคลิปมันก็…]
[เดี๋ยว คาโนนน? อย่าตัดตอนแค่ที่ตัวเองสนใจได้ไหหม?]
[มะ ไม่ได้ตัดตอนตรงนั้นนะคะ! ไม่สนใจเลยต่างหากค่ะ!]
[งั้น ช่วยตั้งใจฟังเรื่องที่ฉันจะพูดหน่อยนะ?]
[เข้าใจแล้วค่ะ…]
เพื่อจะต่อกรกับคานอนที่หน้าแดงเพราะความเขินอาย มิยุที่หน้าแดงเหมือนกันก็อธิบายต่อ
[เพื่อที่จะถ่ายคลิปการประชุมของสาว ๆ ให้สำเร็จ เลยต้องไปใช้บริการเลิฟโฮเทล ไม่ใช้กับอย่างอื่น เข้าใจไหม?]
[มันก็ ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ…]
[แล้วก็ถึงครั้งนี้จะมีฮิโรกิไปด้วย คาโนนนก็คงเข้าใจใช่ไหม? ว่าไอหมอนี่มันไม่กล้าทำอะไรหรอก]
[มันก็ ก็เข้าใจอยู่หรอกค่ะ…]
[เฮ้ย]
ถูกเอาไปใช้เป็นตัวเกลี้ยกล่องอย่างไม่เต็มใจ แถมยังพูดไม่ดีอีกทำให้ฮิโรกิอดบ่นไม่ได้
ดังนั้นมิยุจึงหันมาทางฮิโรกิ
[งั้นฮิโรกิเคยไปเลิฟโฮเทลหรือไง? ────ว่า─ไป จะเคยได้ยังไง]
[…]
[[เอ๊ะ?]]
ทั้งสองคนตัวแข็งทื่อเมื่อมองไปทางฮิโรกิที่ไม่ตัดสินใจตอบอะไรออกมา
จากนั้นก็หันมามองหน้ากันและส่ายหัวไปมากเพื่อยืนยันบางอย่าง
[คะ คงไม่เคย เนอะ…?]
[รุ่นพี่ฮิโระ…]
ฮิโรกิมีเหงื่อเย็น ๆ ไหลมาเป็นทางและหลบสายตา ทำเอาหน้าของทั้งสองคนกระตุก
[กะ ก็นะ เอาเป็นว่าโนคอมเมนต์แล้วกัน…]
[[…]]
คราวนี้เป็นตาของทั้งสองที่เงียบลง
ไม่มีการแสดงสีหน้าใด ๆ ส่วนกำลังคิดอะไรอยู่นั้นฮิโรกิก็ไม่ทราบเช่นกัน
สิ่งหนึ่งที่ยืนยันได้คือทั้งสองคนกำลังมองมาด้วยสายตาเย็นชา
(มีแค่เรื่องนี้เท่านั้นที่จะหลุดปากไม่ได้….)
เหนือสิ่งอื่นใดคือฮิโรกิไม่คิดจะเปิดปากเพื่อตัวของอีกฝ่ายเอง
[────รุ่นพี่มิว ไม่เป็นไรค่ะ ไปกันเถอะ]
พอดีกับคานอนที่คัดคาดเอาเป็นเอาตายพูดขึ้นมาราวกับเปลี่ยนใจแล้ว
แม้ฮิโรกิจะยังกังวลแต่มิยุกลับพยักหน้า
[งั้นเอาตามนี้นะ เดี่ยวจะติดต่อจินัตเตะไปอีกที ────ฮิโรกิ โอเคไหม?]
[มันก็ได้…แหละ แต่จะไปตอนนี้เลยเหรอ]
[อืม มีธุระอื่นเหรอ?]
[ไม่สะดวกเหรอคะ?]
[ไม่หรอก ไม่ใช่แบบนั้น…]
ในที่สุดสองคนนี้ก็เข้าใจแล้ว
ว่าอีกคนนึงที่ไปเลิฟโฮเทลกับฮิโรกิคือใคร
แล้วก็ไม่อยากให้ฮิโรกิพูดออกมาจากปากของตัวเองด้วย
ดังนั้นพวกเธอจึงไม่ถามอะไรต่อ และเตรียมตัวออกจากห้องไปอย่างเงียบ ๆ
[────อ๊ะ]
มิยุหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาดู จากนั้นก็ส่งให้ฮิโรกิ
หน้าจอมีข้อความ 「ถ่ายเสร็จสิ้น เดี๋ยวเจอกันจ้า~!」 ของจินัตสึสะท้อนอยู่
TL: ราคุโกะ ความบันเทิงอย่างหนึ่งของญี่ปุ่นในสมัยโบราณ เป็นการเล่าเรื่องโดยใช้แค่การขยับร่างกายไม่ใช่อุปกรณ์ใด ๆ
TL: ประชุมสาวเลิฟโฮเทล หมายถึงกิจกรรมที่หญิงสาวจะไปเลิฟโฮเทลและทำกิจกรรมร่วมกัน อาทิ นั่งคุยกัน คาราโอเกะ โดยไม่เกี่ยวกับเรื่องลามกแต่อย่างใด