未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) - ตอนที่ 5 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 1
- Home
- 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN)
- ตอนที่ 5 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว 1
บทที่ 2 การวัดระยะที่บิดเบี้ยว
หลังจากค่ำคืนที่แสนวุ่นวาย
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ เราตัดสินใจมารวมตัวกันที่คาเฟ่หน้าสถานนีในตอนบ่าย
แต่จินัตสึมีงานถ่ายแบบนิตยสารมาอย่างกระทันหัน ดังนั้นจึงมีมิยุ คานอนและฮิโรกิรวมกันสามคนมาเปิดประชุมกัน
[…คือ ไม่ใช่ว่าเราโดนจ้องอยู่แบบสุด ๆ เลยเหรอ]
[[…]]
เรื่องที่ฮิโรกิกำลังกังวลคือพอเข้าไปในร้านและนั่งลง สายตารอบ ๆ ตัวก็หันมาทางด้านนี้
แต่ด้านมิยุกับคานอนกลับทำหน้าตาไม่รู้ร้อนรู้หนาวแล้วดื่มเครื่องดื่มที่ตัวเองสั่งมา
สาเหตุที่คนรอบข้างให้ความสนใจนั้นมีหลายอย่าง อย่างแรกก็คือทั้งสองคนที่กำลังใส่ชุดลำลองทั่วไปอยู่ตอนนี้นั้นโดดเด่นเป็นอย่างมาก
มิยุใส่สเวตเชิ้ตสีเทากับกางเกงยีนขาสั้น บวกกับบนหัวสวมหมวกแก๊ปสีดำพร้อมแว่นตาขนาดใหญ่เพื่อใส่ปลอมตัวดูทรงเป็นความน่ารักแบบเรียบ ๆ
ตรงกันข้ามกันคานอนสวมเสื้อถักสีขาวกับกระโปรงบานสีแดงเข้มส่งให้ดูสวยงาม น่ารักและทำให้ดูโดดเด่น
อีกอย่างคือทั้งสองคนตอนนี้กำลังหงุดหงิดอย่างไม่ทราบสาเหตุ กล่าวตามตรงคือบรรยาศแย่มาก อย่างไรก็ตามเมื่อฮิโรกิถามว่าเกิดอะไรขึ้นทั้งสองคนก็ไม่ยอมตอบ
และด้วยบรรยากศแย่ ๆ ในตอนนี้จึงสามารถพูดได้ว่าเป็นตัวดึงดูดความสนใจได้ดีเลยทีเดียว
เหตุผลคือหากมองภาพนี้จากภายนอกก็คือ เหตุการณ์ 「วุ่นวาย」 ที่ผู้ชายจับปลาสองมือคนหนึ่งกำลังถูกล้อมด้วยคนรักของตัวเองที่กำลังโมโห
ฮิโรกิที่คิดอยากจะหาวิธีปัดเป่าบรรยากาศนี้ออกไปจึงได้เริ่มเปิดหัวข้อขึ้นมา
[ว่าไปวันนี้จะไลฟ์ด้วยใช่ไหม? เนื้อหาคือการทักทายกันทั้งยูนิตสินะ]
[แล้วก็ขอโทษเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานด้วย]
ฮิโรกิโล่งใจที่มิยุตอบกลับมาสักทีจึงได้เริ่มคุยต่อ
[สถานที่ไลฟ์คือในห้องเหมือนเดิมนะ แล้วก็ก่อนอื่นมาเริ่มคุยกันเลยดีกว่า]
[นั่นสินะคะ รุ่นพี่จิจะมาช้านิดหน่อยด้วย]
ครั้งนี้คานอนพูดตอบ ฮิโรกิจึงพยายามพูดต่อไปทั้งแบบนั้น
[ถ้างั้นก็ต้องมาคิดกันล่วงหน้ากันให้ดีก่อนละนะ ทั้งสองคนว่ายังไงบ้าง]
[[…]]
ท่าทางตรงนี้จะเลือกตัวเลือกผิด ที่เปิดคำถามในลักษณะนี้ก็เพื่อให้ทั้งสองคนได้ช่วยกันขยายหัวข้อ แต่กลับกลายเป็นว่ามาจมอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
และตอนนี้สายตาจากรอบ ๆ ก็ยังคงไม่หายไป ยังคงถูกมองว่าเป็นเหตุการณ์วุ่นวายอยู่
ดังนั้นฮิโรกิที่รู้สึกอดรนทนไม่ไหวกับที่นี่แล้วจึงได้ลุกขึ้นอย่างกระฉับกระเฉง
[โธ่เอ๊ย เปลี่ยนที่ไหม?]
[[ไปไหน?]]
ทั้งสองคนหันมามองและถามในจังหวะเดียวกันพอดี
[เอ-คือว่า เป็นที่…ที่มีแต่พวกเราเนี่ยแหละ!]
[[เอ๊ะ?]]
และด้วยเหตุนั้นจึงได้ย้ายสถานที่
ทั้งสามคนมาถึงห้องของมิยุ มีการเตรียมเครื่องดื่ม (น้ำส้ม) กับขนมหลายอย่างมา ทำให้พร้อมจะคุยแล้ว
[สุดท้ายก็มาจบที่ห้องฉันเนี่ยนะ อยู่กันตั้งสามคนไม่แคบไปหรือไง]
[ไม่หรอก ห้องของมิยุกว้างจะตาย ยังเหลือที่ตั้งเยอะ]
[ก็คงงั้นมั้ง ฮิโรกินี่ง่ายจัง]
[วิธีเรียกแบบนั้น เปลี่ยนแล้วสินะคะ]
คานอนกล่าวออกมาด้วยความสงสัย
มิยุยิ้มกรุุ้มกริ่มขึ้นมาแล้วพูดตอบ [แหม ก็มีหลาย ๆ เรื่องเนอะ?] จากนั้นจึงส่งสัญญาณมาที่ฮิโรกิ
[นั่นสินะ จะบอกว่าความไม่พอใจกันหายไปก็ได้ เอาจริง ๆ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่หรอก]
[เห─]
คานอนที่กอดเบาะอยู่ก็จ้องมาทางนี้และทำสีหน้าไม่พอใจอย่างโจ่งแจ้ง
ถึงจะสามารถต่อบทสนทนาได้ดีกว่าตอนอยู่คาเฟ่ก็จริง แต่บรรยากาศยังคงแย่ไม่เปลี่ยน
ตรงจุดนั้นฮิโรกิก็เริ่มคิดถึงสาเหตุที่ทำให้ทั้งสองคนเกิดอาการไม่พอใจอยู่
แม้จะคลุมเครืออยู่บ้างแต่ก็คิดว่าอาจจะมาจากการที่ทั้งคู่เป็นแฟนเก่าของตัวเอง หากให้เจาะลึกลงไป ให้ลองจินตนาการถึงรูปแบบการเผชิญหน้ากันในตอนนี้ อาจกล่าวได้ว่าตัวแฟนเก่านั้นมีความหึงหวงซ่อนอยู่ในใจ แม้จะไม่ได้รักกันแล้วแต่ตรงหน้าก็ยังคือแฟนเก่ากับคนรักคนอื่น────หรือก็คือแฟนเก่าอีกคนหนึ่ง หากอยู่ในวังวนดังกล่าวแล้วนั้น จะเกิดความรู้สึกเช่นนี้ก็ไม่ได้เรื่องแปลกแต่อย่างใด
ดังนั้นฮิโรกิจึงตัดสินใจพูดออกมา
[หรือว่าที่ทั้งสองคนทำตัวแปลก ๆ กันนี่เพราะฉันเหรอ? ถ้างั้น────]
[[เอ๊ะ?]]
[เอ๊ะ?]
ทั้งสองคนหันมองหน้ากัน ส่วนฮิโรกิยังคงยืนหยัดต่อสู้กับการตอบสนองที่คาดไม่ถึงต่อ
[…หรือไม่ใช่เหรอ?]
เมื่อหันไปมองมิยุเป็นอันดับแรก เธอก็ส่ายหัวในทันที
[จะบอกว่าไม่ใช่ก็ได้ แต่เรียกว่าไม่เกี่ยวดีกว่า]
[อ๊ะ─ งั้นเหรอ…]
ดูท่าทางจะเป็นความเข้าใจผิด ฮิโรกิรู้สึกอายถึงขีดสุด
เมื่อเห็นฮิโรกิเป็นดังนั้นมิยุจึงระเบิดหัวเราะออกและคานอนก็ขำตาม
[นะ นี่ อย่าหัวเราะสิ…]
[อะฮ่าฮ่า ก็แหม]
[รุ่นพี่ฮิโระละก็ คิดว่าพวกเราทะเลาะเรื่องรุ่นพี่อยู่งั้นเหรอคะ?]
[ไม่ได้คิดไปถึงขนาดนั้นหรอก แค่คิดว่าอาจจะรู้สึกไม่ดีที่คุยกับแฟนเก่าอีกคนนึงเฉย ๆ ไม่ได้คิดลึกไปถึงขนาดนั้นเลย]
ฮิโรกิที่กำลังอายและประหม่าอยู่จึงพูดต่ออย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ
[งั้นทำไมทั้งสองคนถึงได้เป็นแบบนี้กันละ บรรยากาศมันอึดอัดมากเลยนะ ถ้าไม่อธิบายมาให้ดีฉันจะกลับแล้ว]
ทันใดนั้นมิยุก็ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความพึงพอใจ
[ขอโทษละกัน จะอธิบายให้ฟังแล้ว──── พอดีว่ามีปัญหาเรื่องเนื้อหาวิดีโอที่จะโพสต์น่ะ แบบว่าไม่ลงรอยกัน? เมื่อคืนเราสามคนรวมจินัตเตะก็ประชุมออนไลน์กันแล้วแต่ว่ายังตัดสินใจไม่ได้ จนถึงวันนี้ก็ยังคิดไม่ตกเลยน่ะ]
[วิดีโอ เนื้อหา…]
หลังจากได้ฟังก็เข้าใจได้
ยูนิตที่สองคนตรงหน้ารวมกับจินัตสึเป็นสามคน────(MICHIKA) จะต้องเริ่มจะต้องเริ่มไลฟ์สตรีมหรือโพสต์ต่าง ๆ ร่วมกัน การจะมีปัญหาเรื่องเนื้อหาที่จะลงนับเป็นเรื่องปกติ
ตัวฮิโรกิคิดแค่ว่ายูนิตนี้เป็น 「รวมตัวแฟนเก่า」 อยู่ตลอดจึงไม่ได้คิดไปไกลถึงจุดนั้น
ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม แต่ฮิโรก็สำนึกได้แล้วว่าเผลอดูถูกความตั้งใจของพวกเธอทุกคนไปจึงรู้สึกผิดจากใจจริง
เมื่อนึกได้ว่าตัวเองคิดอะไรตื้น ๆ เช่นนั้นก็เกิดอายขึ้นมา ฮิโรกิก้มหน้าที่เปลี่ยนเป็นสีแดงลงไป
[ขอโทษนะที่เข้าใจผิดแบบนั้น ทุกคนเอาจริงเอาจังกับการรวมตัวไลฟ์กันนี่นา ฉันผิดเองที่คิดไม่ได้]
[ไม่หรอก พวกฉันยังไม่ได้อธิบายให้ครบถ้วนนี่]
[ใช่แล้วละค่ะ ของแบบนี้ค่อย ๆ เรียนรู้ไปก็พอแล้วว่าไหมคะ]
[ขอบคุณนะทั้งสองคน]
[กะ ก็ไม่ได้อะไรนี่ ใช่เรื่องที่ต้องขอบคุณที่ไหนละ…]
[ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้ก็ดีใจแล้ว]
จากนั้นคานอนตาก็เป็นประกายด้วยเหตุผลบางอย่างและโน้มตัวออกมาเพื่อพูด
[แต่ถึงอย่างนั้น รุ่นพี่ฮิโระเนี่ยวิเศษจริง ๆ นะคะ ยอมรับความผิดของตัวเองได้รวดเร็วแบบนี้ เป็นผู้ชายที่น่าเคารพจริง ๆ ค่ะ]
[ฮ่า ๆ เป็นงั้นเหรอ ดีใจนะที่คานอนจังพูดแบบนั้น แต่ก็แอบเขินนิดหน่อย]
[หุหุ เวลารุ่นพี่เขินเนี่ยน่ารักมากเลยนะคะ?]
[อย่าบอกว่าน่ารักเลยน่า เขินไปหมดแล้วเนี่ย]
[งั้น~ ก็เอาเป็นว่าหนูคิดเองเออเองแล้วกันนะคะ ว่าแต่ วันนี้อยากจะไปห้องของรุ่นพี่จังเลยค่ะ~]
[ไม่เอาน่า จะขนาดนั้นมันก็────เย้ย!?]
ขณะที่โลกส่วนตัวของทั้งสองกำลังจะก่อขึ้น ฮิโรกิก็ถูกดึงกลับสู่โลกความเป็นจริงเสียก่อน
สาเหตุคือมิยุกำลังมองมาทางด้านนี้ด้วยสายตาเหมือนมองขยะ ทั้งที่บรรยกาศควรจะกลับมาสงบแล้วก็จริง แต่พริบตาเดียวกลับกลายเป็นความเย็นยะเยือกแทน
มิยุหันไปมองทางคานอน ส่วนคานอนทำหน้าไม่รู้ไปชี้แล้วหันหนีไป
(เอ๋? แบบนี้ไม่ใช่อย่างที่หวังไว้นี่)
ช่วงเวลาที่ฮิโรกิคิดอยู่ในใจบรรยากศก็หนักอึ้งขึ้นเรื่อย ๆ
จังหวะนั้นมิยุก็กระแอมไอหนึ่งครั้งเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศจากนั้นจึงพูดต่อ
[เอาละก่อนอื่นมาดูกันที่ทิศทาง เบื้องหลังและ 「กฏ」 กันเถอะ วันนี้มาเพื่อติวเข้มให้ฮิโรกินี่นา]
[อ๊ะ อื้อ รับทราบแล้ว]
[แล้วก็ถ้ามีเวลาก็อยากจะลองถ่ายวิดีโอด้วย จำใส่สมองไว้ด้วยนะ]
[เข้าใจแล้ว]
และด้วยเหตุนี้ การอธิบายข้อมูลต่าง ๆ ของมิยุจึงได้เริ่มต้นขึ้น
เรื่องแรกคืออุปกรณ์การถ่ายวิดีโอจะใช้สมาร์ทโฟน
นอกเหนือจากการไลฟ์สตรีม การโพสต์วิดีโอเพิ่มเติมก็จะเป็นการรักษาฐานผู้ชมได้
เรื่องอย่างอื่นที่มิยุอธิบายก็จะมีประเด็นอย่างการสิ่งที่ควรจะทำระหว่างถ่ายทำ การตัดต่อทำให้ตอนนี้หัวของฮิโรกิแทบจะระเบิด
[────คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้นะ มีคำถามอะไรไหม? หรือความเห็นก็ได้]
[ตอนนี้ยังไม่มีนะ พอจะเข้าใจรายละเอียดแล้ว แต่การถ่ายวิดีโอเนี่ยยากใช่ย่อยเลย]
[ก็นะ ส่วนรายละเอียดเพิ่มเติมก็ลองดูตามเว็บเอานะ มีอยู่หลากหลายเอาไว้ใช้อ้างอิงได้เลย]
[รับทราบ]
มิยุพูดต่อด้วยสีหน้าจริงจัง
[แล้วก็ จากนี้ไปจะคุยเรื่องสำคัญนะ]
[เรื่องกฎน่ะเหรอ?]
[ใช่ เป็นกฎที่รวมฮิโรกิไปด้วยเป็นของทั้งสี่คนน่ะ คาโนนนก็มาฟังซ้ำอีกทีนะ]
ฮิโรกิกับมิยุพยักหน้าให้ มิยุจึงพูดต่อ
[ก่อนอื่นเราสามคน (MICHIKA) ตั้งใจจะห้ามเรื่องการมีความรักน่ะ]
เมื่อได้ฟังคำประกาศอย่างภาคภูมิของมิยุ ฮิโรกิก็รู้สึกตกใจ
พอได้เห็นท่าทางของฮิโรกิเช่นนั้น มิยุจึงลงรายละเอียดเพิ่ม
[ถ้าให้พูดก็คือ จากเหตุการณ์วุ่นวายเมื่อวานทำให้ (MICHIKA) จะมีคอนเซปต์ยูนิตเป็น 「สตรีมเมอร์สามคนที่ตกหลุมรักแฟนเก่าคนเดียวกัน」 และดำเนินไปในลักษณะนี้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะราบรื่นเท่าไหร่นัก]
ยูนิตที่มีคอนเซปต์ 「สตรีมเมอร์สามคนที่ตกหลุมรักแฟนเก่าคนเดียวกัน」 นั้นได้ยินมาตั้งแต่เมื่อวานแล้ว แต่สำหรับคนที่เป็นเจ้าตัวอย่างฮิโรกินั้นรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่บ้าบอมาก
เพียงแต่ถ้าเรื่องเป็นไปในลักษณะนี้ การตั้งกฎประมาณนี้ก็นับว่าสมเหตุสมผล
จังหวะนั้นฮิโรกิจึงตัดสินใจถามเรื่องที่สงสัยทันที
[คือว่านะ จะใช้คอนเซปต์นี้จริง ๆ เหรอ?]
[ก็ตั้งใจจะทำแบบนั้นแหละ มีปัญหาเหรอ?]
[ไม่เชิงปัญหาหรอก แต่ไม่คิดว่าดูฟุ้งไปหน่อยนเหรอ ที่จริงเมื่อคืนฉันลองไปค้นหาข้อมูลดูนิดหน่อยน่ะ พวกไอดอลเนี่ยจะมีคอนเซปต์ประมาณว่ามาจากอวกาศก็ดี นางฟ้ามาเกิดก็ดี หรือบางอันที่ดูเฉพาะตัวหน่อยอย่างแนวโกธิคหรือคอนเซปต์ที่เข้าใจง่ายกว่านี้ก็มีอีกเยอะเลยนี่ ถ้าอยากจะให้ป๊อบจริง ๆ ก็คิดว่าใช้คอนเซปต์แบบนี้คนดูจะรับกันได้ง่ายกว่าไหม]
[[…]]
เมื่อฮิโรกิแสดงความคิดของตัวเองออกมาจำนวนมาก ทั้งสองคนก็ทำหน้าว่างเปล่าอย่างไม่รู้สาเหตุ
นี่เป็นเพียงความเห็นของมือสมัครเล่นเท่านั้น ฮิโรกิจึงคิดว่าตัวเองทำอะไรผิดแล้วหลบสายตา
[โทษที คงพูดไม่เข้าเรื่องสินะ ไม่ใช่ว่าฉันจะรังเกียจคอนเซปต์เดิมหรอก ลืม ๆ ไปเถอะ]
[ไม่ใช่ไม่เข้าเรื่องหรอก แค่ไม่เคยนึกมาก่อนน่ะ แต่ว่าที่ฮิโรกิอุตส่าห์ไปค้นคว้ามาเนี่ยแอบตกใจนิดหน่อยนะ]
มิยุพูดราวกับกล่าวชมและกระแอมไอเพื่อเปลี่ยนเรื่องทันที
[แต่ว่านะ ถึงจะมีอย่างอื่นให้ใช้ก็เถอะ แต่อยากจะคงคอนเซปต์เดิมไว้น่ะ คอนเซปต์อย่างอื่นมันก็เหมือนยืมมาใช้ ดูไม่ใช่ตัวเองน่ะ]
[ถ้าใช้คอนเซปต์นี้ จะบอกว่ามีความมั่นใจมากขึ้นเหรอ?]
[อื้ม …ก็เรื่องที่พวกเราคบกับฮิโรกิมาก่อน เป็นเรื่องจริงนี่]
พอฝั่งที่เป็นคนอธิบายอย่างมิยุเขินขึ้นมา ฮิโรกิเองก็รู้สึกอายเหมือนกัน
คานอนเองก็เช่นกัน ทำให้บรรยากาศห้องแปลกไป
มิยุที่หน้าแดงอยู่จึงพูดต่อเพื่อปัดเป่าบรรยากศนั้น
[นะ แน่นนอนว่าเป็นแค่เรื่องในอดีตนะ! ตอนนี้ฉันไม่ได้คิดถึงเรื่องฮิโรกิเลยแม้แต่นิดเดียวแล้วด้วย! ────เนอะ?]
มิยุพยายามส่งสัญญาณให้ไปเป็นทางเดียวกัน แต่มิยุขยับไปอีกจังหวะนึง
[หนูไม่ได้เหมือนอีกสองคนนะคะ ทางนี้โดนทิ้งค่ะ]
คานอนพูดเรื่องที่มีความหมายซุกซ่อนอยู่ด้วยใบหน้าอันชัดเจน
จังหวะนั้นมิยุก็จ้องเขม็งไปทางฮิโรกิแล้วโน้มตัวไปถาม
[แล้วฮิโรกิละ? ยังรู้สึกอะไรกับใครในหมู่พวกเราบ้างไหม? ถ้ามีก็บอกมาตอนนี้เลย]
มิยุมองมาด้วยความรู้สึกครึ่ง ๆ กลาง ๆ ส่วนด้านคานอนดูเหมือนจะสนใจเรื่องนี้อยู่
ดังนั้นฮิโรกิจึงบอกความรู้สึกของตัวเองอย่างตรงไปตรงมา
[ไม่มี สบายใจได้ ฉันไม่รู้สึกอะไรกับพวกเธออีกแล้ว]
เมื่อมิยุที่นั่งอยู่ได้ฟังก็ตอบกลับมาว่า [งะ งั้นสินะ] ด้วยท่าทางเลิกลั่ก
ส่วนคานอนเบิกตากว้างและจ้องค้างอยู่อย่างนั้น ทำให้บรรยากาศแปลกเข้าไปอีก
เพื่อจะให้ทั้งสองคนสบายใจ ฮิโรกิจึงอธิบายเพิ่มเติม
[ก็แน่อยู่แล้วไม่ใช่หรือไง ถ้าไม่เป็นงั้น ฉันก็มีแฟนใหม่ไม่ได้น่ะสิ]
[[เอ๋!? มีแฟนแล้วเหรอ (คะ)!?]]
วินาทีต่อมาทั้งสองคนก็โน้มตัวออกมาด้วยความตกใจถึงขีดสุด
เมื่อเห็นท่าทางดังนั้น ฮิโรกิที่รู้สึกหนักใจจึงทำการแก้ไข
[ไม่ใช่แล้ว ไม่ได้จะคุยเรื่องว่าจะมีแฟนปัจจุบันสักหน่อย…คือว่าตั้งแต่เลิกกับมิยุฉันก็ไปคบกับคานอนจัง และหลังจากนั้นก็เป็นคุณจินัตสึใช่ไหมละ ถ้าฉันเป็นพวกชอบยึดติดกับอดีตก็มีแฟนใหม่ไม่ได้น่ะสิ ที่อยากจะสื่อก็คือฉันสามารถจะแบ่งแยกเรื่องพวกนี้ได้ชัดเจนน่ะ]
[[อะไรกัน เรื่องนี้นี่เอง…]]
พอฟังจบทั้งสองคนก็สงบใจได้แล้วนั่งลงอย่างอ่อนแรง แม้ว่าจะการตอบสนองจะเกินคาดกว่าที่ฮิโรกิคิดไปมาก แต่ก็ถือว่าสื่อสารได้สำเร็จ
เมื่อใจเย็นลงแล้วมิยุก็สูดหายใจเข้าออกลึก ๆ จากนั้นก็กลับมาเผชิญหน้ากับฮิโรกิอีกครั้ง
[แหม ถ้าแบบนั้นก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้วสินะ และอย่างที่รู้กันนะว่าตามคอนเซปต์ของพวกเราแล้วถ้ามีใครคนใดคนหนึ่งคบกับคนอื่นขึ้นมาก็จะพังกันหมด]
หลังจบคำพูดฮิโรกิก็พลันมีคำถามขึ้นในใจ
[แต่ว่ายูนิตคอนเซปต์ก็คือ 「สตรีมเมอร์สามคนที่ตกหลุมรักแฟนเก่าคนเดียวกัน」ใช่ไหมละ? ถ้าแบบนั้นตราบใดที่ไม่ได้กลับไปคบกับแฟนเก่า ก็ไปมีแฟนได้ไม่มีปัญหานี่?]
เมื่อคำถามกระแทกเข้ามา มิยุก็เผยยิ้มมาให้เห็น
[คือเรื่องนั้นน่ะนะ ความประทับใจมันสำคัญนี่ อุตส่าห์มีคอนเซปต์แบบนี้ทั้งที ถ้าไม่ใช่ก็เสียของหมดสิ]
[…ยังไงนะ?]
ฮิโรกิทำท่าทางว่าไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย มิยุจึงทำหน้าแปลกใจแล้วอธิบายต่อ
[ก็จริงที่ว่าถ้าพูดอย่างลงลึกหน่อยการมีแฟนใหม่ก็ไม่ได้ผิดคอนเซปต์อะไร แต่ถ้าแสดงความเป็นแฟนเก่าออกมาไม่ได้ก็จะไม่โดดเด่นใช่ไหมละ ถ้าคิดจะทำแบบนี้ต่อไปแล้วมีแฟนใหม่ขึ้นมา พวกแอนตี้จะเกิดด้วยน่ะสิ อย่างฉันเองจะให้คอยสนับสนุนผู้หญิงเจ้าชู้หน่อยก็คงไม่ชอบเหมือนกัน]
[ผู้หญิงเจ้าชู้เนี่ย พูดแรงเหมือนกันนะ]
ฮิโรยิ้มแห้ง ๆ ให้ มิยุที่เห็นดังนั้นจึงพูดต่อด้วยความหงุดหงิด
[งั้น ฮิโรกิจะสนับสนุนเหรอ? ทั้งทีมีแฟนใหม่แท้ ๆ แต่ก็หน้าไม่อายจะพูดเรื่องแฟนเก่าตัวเองน่ะ]
[แบบนั้นก็…แหม ก็แล้วแต่คนนะ เอาจริง ๆ ถ้าเป็นหนึ่งในพวกมิยุทำแบบนั้นฉันก็ยังพร้อมจะสนับสนุนนะ]
มิยุหลบสายตาอย่างเขินอายเมื่อฮิโรกิกล่าวความคิดของตัวเองตรง ๆ
[งั้นเหรอ งั้นสินะ ฮิโรกิเป็นคนแบบนั้นนี่นา]
[ยังไงฉันก็อยากจะคอยเชียร์คนรู้จักเสมอแหละนะ]
[อื้ม ตรงจุดนั้นแหละที่เกลียดไม่ลง]
จังหวะที่บรรยากาศเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาครั้งแล้วครั้งเล่า ฮิโรกิก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่จ้องมองมาจากคานอน
[คานอนจังก็ด้วยนะ ถ้ามีอะไรไม่พอใจก็บอกมาได้ไม่ต้องเกรงใจ ถึงจะได้ยินจากมิยุว่าทั้งสองคนโอเคแล้วก็เถอะ เดิมที่ที่ฉันมาเข้าร่วมแบบนี้ก็ออกจะแปลกด้วยสิ]
เมื่อขอร้องเช่นนั้น คานอนก็แก้มแดงพลางเริ่มพูด
[คะ คือว่าหนูดีใจมากเลยนะคะ ที่ได้กลับมาคุยกับรุ่นพี่ฮิโระแบบนี้อีก จริง ๆ แล้วตอนอยู่โรงเรียนก็คิดว่าอยากจะคุยกันเยอะ ๆ เลยน่ะค่ะ ]
[งั้นเหรอ ขอบใจนะ จะว่าไปตอนที่รู้ว่าคานอนมาเรียนมอปลายที่เดียวกันเนี่ยตกใจเลยนะ ฉันเองก็คิดเหมือนกันว่าจะเข้าไปคุยสักทีน่ะ]
[หุหุ ดีใจจังค่ะ แต่ว่าเรื่องที่พวกเราคบกันเป็นความลับด้วย ถ้าอยู่ ๆ รุ่นพี่ฮิโระมาหาที่ห้องเรียนละก็ ต้องมีคนมาวุ่นวายถามว่า ทำไมรุ่นพี่ปีสองถึงได้มาหาละ? แน่นอนเลยค่ะ]
[จริงด้วยสินะ ฉันเองก็ต้องระวังตัวแล้วสิ]
แต่เดิมทีที่ซ่อนเรื่องการคบกันของคานอนกับฮิโรกิในสมัยมัธยมต้นนั้นเกิดจากการที่มิยุอยู่ที่เดียวกันด้วย────เหตุผลก็เพื่อป้องกันข้อมูลรั่วไหลไปหาแฟนเก่า ส่วนตัวคานอนนั้นไม่ได้อยากจะปิดอะไรเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตามหากถึงเวลาที่จะต้องบอกว่ามิยุกับคานอนมีแฟนเก่าคนเดียวกันในไลฟ์สตรีมแล้ว ดังนั้นหากคานอนตอนนี้ถูกรู้เรื่องที่มีอดีตกับฮิโรกิขึ้นมาจะเกิดปัญหาจึงต้องเริ่มระวังตัวอย่างเลี่ยงไม่ได้
แต่คานอนนั้นคิดไปอีกมุมนึงเลยเปิดปากพูดออกมาราวกับตัดสินใจได้
[ถ้าอย่างนั้น คือว่าบางครั้งก็อยากจะไปหาที่ที่ไม่ค่อยมีคนคุยกันจัง แบบว่า คือหนูน่ะได้รับอนุญาตให้ใช้โรงยิมได้เวลาไม่มีกิจกรรมชมรม เพราะว่าวันไหนที่ไม่ได้มีบทเรียนก็คิดจะมาฝึกฝนด้วยตัวเองที่นั่นน่ะค่ะ อย่างช่วงหลังเลิกเรียน ไม่ก็ช่วงพักกลางวัน]
คานอนที่เขินอายพูดออกมาด้วยความกระตือรือร้น ส่วนฮิโรกินั้นรู้สึกเคอะเขินขึ้นมาเช่นกัน
[ขะ ขอบใจนะคานอนจัง ดีใจจังที่คิดแบบนั้นแต่…]
จังหวะนั้นคานอนเหมือนคิดอะไรได้ จึงกลับไปนั่งที่นั่งทันที
[ไม่หรอกค่ะ ขอโทษด้วยนะคะ หนูรู้จุดยืนของตัวเองดี …แฟนเก่า สินะคะ]
หน้าสีแดงสดด้วยความเขินอายของคานอนนั้นน่ารักจับใจก็จริง แต่ด้วยสายตาเย็นชาที่ทิ่มแทงมาจากมิยุ ฮิโรกิจึงได้สติแล้วหันไปสนใจทางนั้นแทน
แปะ มิยุปรบมือหนึ่งครั้ง
จากนั้นก็ลุกขึ้นมาเพื่อเริ่มสรุป
[จะยังไงก็ตามแต่ มาทบทวนเรื่องของพวกเราอีกทีไหม? คอนเซปต์ก็คือ「สตรีมเมอร์สามคนที่ตกหลุมรักแฟนเก่าคนเดียวกัน」และพวกเราสามคน (MICHIKA) จะถูกห้ามมีความรัก────ก็ประมาณนี้]
หลังจบคำฮิโรกิกับคานอนก็พยักหน้าให้
มิยุที่ตั้งกฏให้ (MICHIKA) นั้นห้ามมีความรักนั้น ไม่ถูกนับรวมฮิโรกิด้วยซึ่งที่จริงเขาก็รู้เรื่องนี้อยู่แล้ว
จังหวะที่คิดอยู่มิยุก็ทำการยืดเส้นยืดสายยกใหญ่
ดูท่าทางจะเข้าเรื่องหลักของวันนี้แล้ว
[งั้นก็ เดี๋ยวจบตรงนี้แล้วฉันจะไปบอกจินัตเตะต่อเอง────มาเปลี่ยนเรื่องคุยกัน ต่อไปเป็นเรื่องเนื้อหาวิดีโอที่จะโพสต์นะ ทุกคนมาลุยกันเลยไหม]
[อา ได้เลยนะ]
[ค่ะ]
[ก่อนหน้านั้นมีใครจะเติมเครื่องเดิมไหม]
แก้วของทั้งสามว่างเปล่าไปแล้ว ฮิโรกิกับคานอนจึงยกมือขึ้น
[งั้นเดี๋ยวจะไปเอามาให้ พักกันไปก่อนนะ]
[โทษทีนะ]
[รบกวนด้วยนะคะ]
ด้วยเหตุนี้จึงได้เวลาพักชั่วคราว