未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) - ตอนที่ 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4
- Home
- 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN)
- ตอนที่ 4 แฟนผมเป็นคนดัง 4
[ว่าแล้วเชียว สถานที่ไลฟ์อยู่ในของเธอจริงด้วย]
ฮิโรกิมองไปรอบ ๆ ห้องของเพื่อนสมัยเด็กที่ไม่ได้มานานและส่งเสียงออกมาด้วยความประทับใจ
ห้องขนาดกว้างขวางสำหรับอยู่ได้หนึ่งคน พื้นห้องเป็นสีเรียบ ภายในประกอบไปด้วยเตียงนอน โต๊ะสำหรับไว้คอมพิวเตอร์และยังคงความธรรมดา ๆ ของห้องไว้ หากแต่บนกำแพงมีโปสเตอร์ของตัวละครต่าง ๆ ติดอยู่พร้อมกับมีฟิกเกอร์ของสาวสวยอยู่ส่งให้บรรยากาศดูแปลก
แต่ว่าสิ่งที่ฮิโรกิติดใจไม่ใช่เรื่องนั้น
ตอนนี้ตรงหน้าของฮิโรกิประกอบไปด้วยมิยุ จินัตสึและคานอน────แฟนเก่าที่เคยคบด้วยทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ ภาพที่เห็นตอนนี้สามารถเรียกได้ว่าเป็นผลงานชิ้นเอก
อย่างที่คิดว่าทุกคนนั้นน่ารักอย่างไม่น่าเชื่อ ตัวจริงยิ่งกว่าในจอเสียอีก
แต่ฮิโรกิก็ไม่ได้สบายใจเฉิบขนาดว่าจะมานั่งสรรเสริญได้
หากให้พูดตรง ๆ คืออยากจะออกจากที่นี่ให้เร็วที่สุด เหตุผลคือไม่ว่าจะตกลงปลงใจเลิกกันด้วยดีหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้สถานะก็ยังคงเป็น 「แฟนเก่า」 อยู่ไม่เปลี่ยน
พวกเธอก็คงจะมีเรื่องบางอย่างที่เก็บไว้ในใจไม่ได้พูดออกมา เพราะตัวเขาเองยังคงจำบรรยากาศเหล่านั้นได้อยู่
[[[…]]]
ตอนนี้ทั้งสามคนหันหลบหน้าด้วยอาการกระอักกระอ่วน ส่วนฮิโรกินั้นก็ไม่รู้ว่าจะตอบกลับยังไงดี
เพียงแต่จะอยู่แบบนี้ตลอดไปคงจะไม่ได้ ฮิโรกิจึงเริ่มพูดก่อน
[คือว่า อยากจะถามเกี่ยวกับไลฟ์หน่อยน่ะ]
เมื่อตัดสินใจพูดทั้งสามคนจึงหันสายตามาทางนี้
จากนั้นคำกล่าวที่ต้องการจะยืนยันบางอย่างของฮิโรกิจึงดำเนินต่อ
[ก่อนอื่นขอพูดความรู้สึกตรง ๆ นะ ฉันรู้สึกคัดค้านการไลฟ์ของพวกคุณมิซึซาวะทั้งสามคน]
[────อึก!]
ขณะที่อีกสองคนหันสายตาหนีอย่างกระอักกระอ่วนอีกคร้ง มีเพียงมิยุที่ยังจ้องกลับมาตาเขม็ง
[ทำไมละ? ไม่เกี่ยวอะไรกับฮาชิมะคุงนี่]
[เกี่ยวสิ สมาชิกแบบนี้น่ะมีความเป็นไปได้ว่าจะพูดชื่อฉันออกมาเหมือนครั้งนี้อีกไง]
[รบกวนชีวิตว่างั้น?]
พอมิยุถามตรง ๆ กลับมาฮิโรกิก็หลบสายตากล่าวตอบ
[ถ้าให้พูดอ้อม ๆ ก็คือใช่ อีกอย่างการคุยเรื่องแบบนี้มันทำให้อึดอัดน่ะ]
[ก็ไม่ต้องดูสิ]
[ไม่สิ ปกติถ้ารู้แล้วก็ต้องสงสัยสิ…อีกอย่างห้องเรียนวุ่นวายขนาดนั้นจะทำเมินได้ไง]
พอได้ฟังความตรงไปตรงมาของฮิโรกิ มิยุที่อารมณ์เสียก็เอาหน้าซุกหัวเข่า
ท่าทางแบบนั้นคือสิ่งที่มิยุทำประจำเวลาไม่พอใจ ดูท่าทางจะยังไม่เลิกนิสัยนี้
แต่มิยุก็เงยหน้าขึ้นมาทันที
[แต่ทางนี้ก็ถอยไม่ได้แล้วเหมือนกัน จากเรื่องเมื่อกี้ทำให้เราโดนตัดทางเลือกไปหมดแล้ว]
[หมายความว่าไง?]
มิยุที่มองฮิโรกิเอียงคอสงสัยก็ยิ้มตอบกลับมา
[หลังจากนี้พวกเรา (MICHIKA) ทั้งสามคนจะเป็นยูนิตสตรีมเมอร์ที่ไลฟ์ในฐานะที่เคยมีแฟนเก่าคนเดียวกัน]
[หา…เรื่องแบบนั้นทำได้จริงเหรอ?]
เมื่อได้ฟังเรื่องอันน่าตกใจ ฮิโรกิพลันรู้สึกขุ่นมัว
จริงอยู่ที่ว่าอีกไม่ช้าก็เร็วคงรู้กันไปทั่วว่าพวกมิยุทั้งสามคนเคยคบกับคนเดียว ๆ กันมาก่อน แต่การจะทำให้เป็นเชิงโฆษณาใหญ่โตในลักษณะนั้นอาจดูเหนือความคาดหมายเกินไป
จุดนั้นมิยุที่ยังคงยิ้มอยู่ก็ตอบกลับมา
[แต่แรกที่มารวมกันก็สำเร็จไปด้วยดีนี่ เรื่องแฟนเก่าก็เป็นประเด็นร้อนด้วย อีกอย่างจดร่วมของพวกเราก็มีแค่นี้ กลับกันไม่เห็นจำเป็นต้องซ่อนสักนิด หลังจากนี้แค่เติบโตไปพร้อมกันก็พอ]
[งั้นคุณจินัตสึกับคานอนจังยอมตกลงแล้วเหรอ?]
ทั้งสองคนที่ถูกถามโดยไม่ตั้งใจก็พยักหน้าลงเล็กน้อย
[ถ้าบอกว่าจะลองดูก็ต้องตั้งใจทำให้เต็มที่น่ะนะ ถ้ามีปัญหาอะไรขึ้นมาก็เป็นความรับผิดชอบของเราเองด้วย]
[คะ คือหนูเองก็ตั้งใจแบบนั้นค่ะ …อีกอย่างความทรงจำที่มีกับรุ่นพี่ก็ไม่มีอะไรที่น่าเศร้าใจเลยนะคะ]
[ทั้งสองคน…]
[เท่านี้ก็รับได้แล้วใช่ไหม?]
เมื่อทั้งสองคนตอบยินยอมแล้ว มิยุจึงกล่าวออกมาด้วยความแข็งขัน
แต่ความคิดของฮิโรกิก็ไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย
[จะยอมรับได้ยังไง สุดท้ายแล้วความเสี่ยงที่ชื่อของฉันจะถูกเผยแพร่ออกไปก็ไม่ได้เปลี่ยนไปนี่]
[นั่นมันก็…]
ไม่ใช่แค่มิยุแต่จินัตสึกับคานอนก็ทำหน้าอึดอัด
ฮิโรกิจึงลุกขึ้นมาแล้วพูดต่อ
[อีกอยากนีงที่ต้องพูดตรง ๆ คือฉันเป็นห่วงความเป็นส่วนตัวของพวกเธอสามคน ถึงจะไม่ใช่เรื่องที่จะเป็นคนพูดเองก็เถอะ────เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]
หลังจากพูดเรื่องที่ควรพูดหมดแล้วฮิโรกิก็หันหลังออกจากห้องไป
อาจจะพูดแรงไปหน่อย แต่ความรู้สึกที่เป็นห่วงทั้งสามคนนั้นเป็นของจริง
ดังนั้นฮิโรกิจึงอยากให้พิจารณาเรื่องนี้อีกทีนึงโดยรวมเรื่องของตัวเองไปด้วย
────ติ๊ง
มีข้อความใหม่ส่งมาให้ฮิโรกิที่กำลังติวหนังสืออยู่ในห้องตัวเอง
คนที่ส่งคือมิยุ เนื้อหาคืออยากให้มาที่ส่วนสาธารณะแถวบ้าน หลังจากตอนนั้นก็ผ่านมาแล้วหนึ่งชั่วโมงแล้ว คาดว่าคงประชุมกันเรียบร้อยแล้วกระมัง
พอออกไปข้างนอกหลังจากตอบกลับความว่าจะไป พระอาทิตย์ก็เริ่มตกดินแล้ว
สวนสาธารณะที่ขึ้นชื่อเรื่องความสงบนั้นเดินเพียงไม่กี่นาทีก็ถึง
เพราะไม่อยากจะให้อีกฝ่ายต้องรอจึงรีบไป เมื่อมาถึงก็พบว่ามิยุกำลังแกว่งชิงช้าอยู่คนเดียว เครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นประกอบไปด้วยสไลเดอร์ จังเกิ้ลยิมและสปริงรูปร่างสัตว์ตัวเล็ก ๆ
[เหมือนจะประชุมกันเสร็จแล้วสินะ]
เมื่อฮิโรกิเข้ามาใกล้แล้วส่งเสียงมิยุก็หยุดเล่นชิงช้าแล้วลุกขึ้นมา
มองหน้ามาตรง ๆ แล้วจึงพยักหน้าเล็กน้อย
[ทั้งสองคนยอมรับข้อเสนอของฉันแล้ว]
[ข้อเสนอ?]
ฮิโรกิเอียงคอสงสัย ส่วนมิยุทำสีหน้าจริงจังและกล่าวออกมาตามตรง
[ไม่ว่าพวกเราจะระวังตัวตอนไลฟ์แค่ไหนฮาชิมะคุงก็คงยอมรับไม่ได้ เพราะแบบนั้นจึงตัดสินใจได้────ว่าตรงจุดนั้นก็ให้ฮาชิมะคุงเข้าร่วมด้วยเลย]
[…ห๊ะ?]
เมื่อได้ฟังเนื้อหาที่ไม่คาดคิดออกมาตามตรง หัวของฮิโรกิก็ช็อตไปตรงนั้น
และมิยุก็พูดต่อราวกับจะตอกย้ำฮิโรกิ
[แต่ถึงจะพูดแบบนั้นก็ไม่ได้จะบอกให้ฮาชิมะคุงมาอยู่ในไลฟ์หรอก แค่มาเป็นผู้จัดการคอยสนับสนุน (MICHIKA) ก็พอ]
[ไม่สิ เรื่องที่อยากฟังไม่ใช่เรื่องนั้น…แล้วคุยกันยังไงถึงได้ออกมาเป็นงี้น่ะ?]
[ก็ฮาชิมะคุงกลัวชื่อจริงหลุดใช่ไหม? ถ้างั้นฮาชิมะคุงก็มาช่วยกันสิ คิดแบบนั้นกันน่ะ เป็นไง ไอเดียดีไหม?]
มิยุกล่าวสิ่งที่คิดว่าเป็นความคิดที่ดีออกมาด้วยท่าทางมีชัย
[ก็จริงที่ถ้าทำแบบนั้นโอกาสที่พลาดก็จะน้อยลง แต่ว่าถ้าฉันไปอยู่ตรงนั้นด้วยจะไม่เสี่ยงกว่าเหรอ?]
[ตรงจุดนั้นก็เป็นหน้าที่ของฮาชิมะคุงไง────ว่าไปจะไม่ปฏิเสธเพราะว่าอยู่ด้วยกันแล้วจะอึดอัดเหรอ?]
[เรื่องนั้นก็ด้วย เพราะว่าเป็นแฟนเก่าหมดเลยนี่]
[หวา─ ไม่ปฏิเสธด้วย แถมยังพูดตรง ๆ อีก]
[ทางนั้นเถอะ ไม่อยากอยู่ใกล้ฉันไม่ใช่หรือไงน่ะ?]
มิยุจึงยิ้มและตอบกลับมาด้วยคำพูดครึ่ง ๆ กลาง ๆ
[ฉันเคยพูดแบบนั้นเมื่อไหร่เหรอ?]
[ไม่ได้พูดตรง ๆ แต่ก็พูดมานี่ อย่างให้เรียกชื่อกันเหมือนเป็นคนแปลกหน้า หรือไม่ให้คุยกันอะไรงี้]
[นั่นมันก็…จะบอกว่าไม่ได้จะหมายความแบบนั้นหรือยังไงดี]
เมื่อเห็นมิยุทำท่าอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ทางฮิโรกิก็รู้สึกสติหลุดขึ้นมา
[หา…? ไม่ค่อยเข้าใจหรอกนะ แต่ฉันไม่เป็นผู้จัดการให้หรอก แย่หน่อยนะที่ฉันไม่ได้มีงานอดิเรกที่จะคอยตามแฟนเก่าที่เกลียดตัวเองต้อย ๆ หรอกนะ]
[ยังไงก็ไม่เหรอ?]
[ตื้อจริงเฮ้ย]
[งั้นเหรอ]
ฮิโรกิที่รู้สึกประทับใจว่ายอมถอนไปอย่างง่ายได้นั้น ด้านมิยุกลับกอดอกและพูดโพล่งขึ้นมาต่อ
[ถ้างั้นก็จะไม่พูดอะไรแล้ว ถึงจะคิดมาเพื่อฮาชิมะคุงก็ตามแต่ปฏิเสธขนาดนั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันเองก็จะระวังไว้ แต่จะจัดการทั้งสองคนนั้นได้ขนาดไหนก็ไม่รู้ด้วยน้า~ แล้วถ้าเกิดดังไปมากกว่านี้ละก็ ความเสี่ยงที่ชื่อจริงจะหลุดก็จะเพิ่มขึ้นตามไปอีกนะ~ ────แหม แต่ตรงนั้นก็จะพยายามนะ─คะ]
[นี่ แนวคิดนั่นอย่างแย่เลยนะ…]
[ไม่รู้สิ~ ยังไงก็กันนะ? แต่ว่าฮาชิมะคุงก็พูดเองนี่ว่า 「เพราะงั้นเลยอยากให้ลองคิดอีกที แต่ยังยืนยันจะทำฉันก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก]
[อึก…นั่นมัน พูดไว้จริง ๆ แหละ]
ป่านนี้ก็สายไปแล้ว ฮิโรกินึกเสียใจกับคำพูดของตัวเอง
อาจจะเรียกได้ว่าอ่อนหัดเกินไปในการต่อกรกับมิยุ เขาประเมินความพยาบาทของมิยุต่ำไป
ดังนั้นถึงแม้ฮิโรกิจะปฏิเสธไปแล้ว แต่ก็ถามยืนยันบางอย่างที่ตัวเองติดใจ
[ตอนนี้ฉันมีสามอย่างที่อยากจะถาม────ก่อนอื่นเลยคุณมิซึซาวะ รวมถึงคุณจินัตสึกับคานอนจังจะไม่ว่าอะไรที่ฉันจะเข้าไปร่วมด้วยจริง ๆ เหรอ?]
[ไม่อยู่แล้วสิ ตอนแรกที่ฉันเสนอกับสองคนนั้น ทั้งคู่ก็ตอบโอเคมาคำเดียวเลย]
ฮิโรกิรู้สึกผิดคาดที่ตอบมาในทันที แต่ก็ยังคงถามต่อ
[ถ้างั้นแล้ว จะบอกว่าเป็นข้อสงสัยของฉันเองดี หรือแค่ติดใจเฉย ๆ ดี…แต่พอรู้เรื่องที่คุณจินัตสึกับคานอนจังเป็นแฟนเก่าฉันขึ้นมาคุณมิซึซาวะก็เลยติดต่อไปเหรอ? ทั้งสองคนไม่น่าจะเป็นคนที่พูดเรื่องพวกนี้ด้วยสิ ไปรู้มาได้ยังไงกัน?]
หลังจบคำถามมิยุก็ตอบมาทันทีโดยไม่ลังเล
[แหม ติดใจอยู่สินะ จะบอกว่าคำตอบก็ง่ายนิดเดียว บางทีก็ไปเห็นว่าฮาชิมะคุงไปเดตกับทั้งสองคนอยู่บ้างน่ะ]
[เป็นงั้นหรอกเหรอ…]
[เห็นเพื่อนบ้านอินเลิฟแบบนั้นถึงไม่อยากก็ต้องรู้แล้วสิ แถมตอนเลิกกันก็เดาง่ายด้วย คนนึงเป็นรุ่นน้องคนดังที่อยู่ในโรงเรียนเดียวกันส่วนอีกคนเป็นสาวน่ารักอย่างกับนางแบบ แค่เห็นหน้าค่าตาก็รู้ได้ทันทีเลย ถึงตอนแรกจะตกใจหน่อยก็เถอะ]
[งี้นี่เอง…]
พอได้ฟังเรื่องนี้ด้วยตัวเองฮิโรกิก็รู้สึกว่าเป็นข้อมูลที่น่าอายไปหน่อย ทั้งทีคิดว่าไม่น่าจะทำตัวออกนอกหน้าขนาดนั้นแท้ ๆ ส่วนเรื่องที่มาเล่นอยู่แถวบ้านบ่อย ๆ ส่วนนี้เป็นเรื่องจริง
พอมิยุเห็นฮิโรกิกำลังกระอักกระอ่วนจึงถามขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด
[ไงต่อ? เหลืออีกคำถามนึงนี่]
[อ๊ะ อ๋อ────งั้นคำถามสุดท้าย ถ้าหากมีจุดประสงค์หรือเหตุผลที่ทั้งสามคนมาไลฟ์ด้วยกันอยู่ละก็ อยากจะให้บอกฉันน่ะ]
หลังสิ้นคำถามมิยุใช้เวลาคิดเล็กน้อยจากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมา
[ที่ฉันนึกชวนทั้งสองคนมาไลฟ์ด้วยกันก็แค่เพราะคิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง เป็นแฟนเก่าของฮาชิมะคุงเหมือนกันด้วยก็เลยคิดว่าอาจจะคุ้มค่าได้น่ะส่วนจุดประสงค์เนี่ยอาจจะเรียกว่าเป็นเป้าหมายมากกว่า คือฉันคิดว่าอยากจะเป็นสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียง มีคนรู้จักหน้าค่าตาเยอะ ๆ น่ะ ส่วนอีกสองคนต้องไปฟังจากเจ้าตัวเองนะ]
────คิดว่าสนุกดีขึ้นมาเท่านั้นเอง
เมื่อได้ฟังคำนั้นใจของฮิโรกิก็พลันเต้นไม่เป็นจังหวะ
อีกอย่างมิยุที่เป็นคนธรรมนั้นกลับมีเป้าหมายชัดเจน ถ้าเป็นอย่างนั้นก็อยากจะคอยสนับสนุน
ดังนั้นเมื่อได้ฟังคำของมิยุ ฮิโรกิจึงได้ตัดสินใจ
[…เข้าใจแล้ว งั้นมาลุยกันสิ ลุยกัน]
เมื่อสิ้นคำกล่าวมิยุก็หน้าพลันสดใส
[เอาจริงอะ? สำเร็จ!]
มิยุที่ดีใจแบบสุดนั้น ยังคงยิ้มออกมาพร้อมกับพูดต่อ
[ถ้างั้นขอฝากตัวด้วยนะ ฮิโรกิ!]
[เอ๊ะ? เมื่อกี้เรียกชื่อต้นฉันเหรอ…?]
[ก็เรียกน่ะสิ? ถ้าลงเรือลำเดียวกันสภาพก็เปลี่ยนแล้ว ยังไงก็มาเกี่ยวข้องกันแล้ว จะทำอะไรก็ต้องเอาให้ผลลัพธ์ออกมาดีที่สุดเนอะ อีกอย่างสองคนนั้นก็เรียกอยู่บ่อย ๆ ด้วยสิ]
มิยุตอบออกมาอย่างไม่ลังเล
ขณะที่กำลังจะถูกต้อนจนมุมฮิโรก็ก็พูดออกมาด้วยความกังวล
[แต่ว่าถ้าอยู่ ๆ มาเรียกชื่อต้นกันแบบนนี้ ที่โรงเรียนจะไม่สงสัยเอาเหรอ?]
[เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง เพราะทุกคนก็รู้กันหมดแล้วว่าฉันกับฮิโรกิเป็นเพื่อนสมัยเด็กและเรียนมอต้นที่เดียวกัน ถ้าอยู่ห้องเดียวกันอธิบายนิดหน่อยก็เรียบร้อยแล้ว]
[ถึงจะพูดแบบนั้นก็เถอะนะ…]
[ก็แบบนั้นแหละ! ยังมากเรื่องไม่เปลี่ยนเลยนะ]
[ทางนั้นเถอะ ยังหยาบกร้านไม่เปลี่ยนเลยนะ]
[โธ่ หนวกหูน่า อย่ามาทำตัวเป็นแฟนเหอะ!]
อยู่ดี ๆ หน้าก็พลันเป็นสีแดงทั้ง ๆ แบบนั้น
[ไม่ใช่สิ จะดูยังไงก็เหมือนเพื่อนสมัยเด็กกันเฉย ๆ นี่…]
ฮิโรกิยิ้มออกมาอย่างเป็นธรรมชาติในขณะที่พูด
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่เรียกว่าเพื่อนสมัยเด็กได้เล็กน้อยแล้ว
เพราะแบบนั้นจึงได้ตัดสินใจหลับตาลงพลางคิดถึงปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากนี้
และด้วยเหตุนี้ฮิโรกิจึงได้รับบทบาทในการเป็นผู้จัดการของยูนิตสตรีมเมอร์ (MICHIKA) ทั้งสามคน