未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN) - ตอนที่ 13 คัมมิ่งเอ้าท์ 1
- Home
- 未練タラタラの元カノが集まったら/จุดเริ่มเรื่องราวคือเหล่าแฟนสาวที่ไม่ยอมตัดใจมารวมตัวกัน (LN)
- ตอนที่ 13 คัมมิ่งเอ้าท์ 1
บทที่ 4 หมุนวนอยู่กับที่ · ขยับออกมา
วันต่อมา
เพื่อจะอธิบายสถานการณ์ของวิดีโอเดต ทั้งสี่คนจึงได้มารวมกันที่บ้านของมิยุ
[ขอโทษ—นะ แบบว่าถ่ายออกมาได้ไม่ดีเลยน่ะ]
แหะ ๆ มิยุยิ้มออกมาแล้วพูด ตามคาด คานอนแก้มกระตุกพร้อมฉีกยิ้มออกมา
[สรุปคือเมื่อวาน ทั้งคู่แค่ไปเดตกันอย่างสนุกสนาน หมายความว่ายังไงกันคะ?]
[กลายเป็นเริ่องแบบนั้นไปเลยสิเนอะ~]
[เดี๋ยว ไม่ใช่แล้ว! คานอนจังช่วยฟังที พวกเราน่ะเพื่อคลิปแล้วถึง———]
[ไม่ฟังค่ะ ….ว่าแล้วว่ารุ่นพี่ แค่อยากจะไปเดตกับรุ่นพี่มิวเท่านั้นเองนี่คะ]
คานอนมีท่าทางหดหู่ หันหน้าหนีไปทางอื่น
[เดี๋ยวก่อนเดี๋ยว ทำไมเป็นแบบนั้นไปได้เล่า!? จริงอยู่ที่ฉันทำพลาดน่ะ แต่แค่ถ่ายใหม่ก็ไม่มีปัญหาแล้วนี่? ———คุณจินัตสึช่วยพูดอะไรหน่อยสิ]
คำขอส่งไม่ไปไม่ถึงจินัตสึอย่างสิ้นหวัง เพราะทำหน้าเฉยเมยเล่นสมาร์ทโฟนอยู่ เหมือนจะไม่อยากร่วมวงด้วย
ทางมิยุปล่อยให้เกลี้ยกล่อมอยู่คนเดียว ตัวเองที่ดันไปเชื่อใจเลยรู้สึกเหมือนคนบ้าไป ฮิโรกิจึงก้มหัวงุดลง
[[[อุบ…ฮ่า ๆ ๆ ๆ ]]]
…จังหวะนั้นทั้งสามคนก็ระเบิดหัวเราะออกมา
ฮิโรกิตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น คานอนเช็ดน้ำตาออกแล้วพูด
[ขอโทษนะคะ แค่ล้อเล่นน่ะค่ะ เมื่อคืนได้ฟังเรื่องจากรุ่นพี่มิวมาแล้ว แค่อยากจะหยอกเล่นเท่านั้นเองค่ะ]
[เอ๊ะ…? งั้น ไม่ได้โกรธเหรอ?]
[ไม่โกรธหรอกค่ะ ถึงจะติดใจอยู่ก็เถอะ]
[งั้นเหรอ…เอ๊ะ ติดใจด้วยสินะนั่น]
พอเห็นฮิโรกิโล่งใจ มิยุก็เผยยิ้มออกมา
[ใคร ๆ ก็เคยพลาดทั้งนั้นแหละ แค่ครั้งนี้เป็นฮิโรกิเฉย ๆ เลยคิดว่าควรจะลงโทษสักหน่อยน่ะ]
[นิสัยดีกันแท้นะพวกเธอ…]
[แต่ว่า ถ้าปล่อยฮีคุงไปโดยไม่ว่าอะไรเลย ก็จะเอาแต่โทษตัวเองน่ะสิ เลยคิดว่าแบบนี้ดีแล้ว เราสามคนตัดสินใจกันแบบนั้นน่ะ]
จุดนี้เรียกได้ว่าสมกับเป็นแฟนเก่าและเข้าใจนิสัยของฮิโรกิจริง ๆ
แม้ว่าจะได้รับการให้อภัยแล้ว แต่อย่างที่จินัตสึพูด ว่าฮิโรกิจะโทษว่าเป็นความผิดของตัวเองไปสักพัก ยิ่งเป็นแผนที่ตัวเองคิดมายิ่งแล้วใหญ่
แต่ว่าครั้งนี้ฮิโรกิความรู้สึกนั้นได้หายไปแล้ว เพราะเพิ่งได้รับการลงโทษไป
[ก่อนอื่น ต้องขอพูดขอบคุณจริง ๆ เพราะแบบนั้นทำให้ตัดสินใจว่าจะเปลี่ยนแนวไลฟ์ครั้งต่อไปแล้ว —เว้นแต่ จะไปถ่ายคลิปเดตอีกครั้งน่ะนะ?]
หลังจบคำถาม มิยุส่ายหัว
[อืม พักไว้ก่อนดีกว่ามั้ง พอลองคิดดูแล้ว การจะอัปเจ้าวิดีโอนี่น่ะ อุปสรรคเยอะเอาการเลย]
[อา ก็จริงนะ…]
พอได้ลองทำดูแล้ว จึงพบว่าได้เห็นนิสัยส่วนตัวของมิยุมากกว่าที่คิด หากอัปโหลดวิดีโอที่ว่าลงไปคงจะน่าอายไปสักหน่อย แต่ว่าถ้ามีครั้งถัดไปคงต้องตระเตรียมบทต่าง ๆ ไว้ให้เรียบร้อยเสียก่อน
[ที่ไปกันนี่มันน่าอายขนาดนั้นเลยเหรอคะ?]
เมื่อรู้สึกตัว พบว่าคานอนกำลังจ้องเขม็งมาทางนี้อยู่
หากอธิบายแล้วคงเกิดความสับสน ฮิโรกิจึงบ่ายเบี่ยงอย่างเต็มที่
[เปล่า ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอย่างนั้นหรอก แค่มีบทสนทนาที่ค่อนข้างส่วนตัวอยู่น่ะ]
[ใช่ ๆ แบบว่าคุยเรื่องเก่า ๆ กันนิดหน่อยน่ะ]
[อา]
[ทั้งสองคน รับส่งกันดีจังนะคะ]
[มะ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกเนอะ…?]
[แหม ก็สนิทกันกว่าก่อนหน้านี้ละนะ]
[เดี๋ยว นี่…]
[เห~]
คานอนจ้องหน้าเขม็งขึ้นเรื่อย ๆ จินัตสึลุกขึ้นมาอย่างกระทันหัน
[ขอโทษนะ มีงานถ่ายทำน่ะ เหมือนจู่ ๆ จะมีที่ว่างพอดี]
[โอเค—]
[รุ่นพี่จิ เหนื่อยหน่อยนะคะ]
[เหนื่อยหน่อยนะ คุณจินัตสึ]
[ขอโทษจริง ๆ นะ ที่เหลือฝากด้วยจ้า]
หลังพูดจบ จินัตสึออกจากห้องไป
แม้จินัตสึจะรู้สึกผิด แต่เพราะอย่างนั้นจึงทำให้เกิดโอกาสในการเปลี่ยนหัวข้อได้ ฮิโรกิเปิดปากทันที
[เอาเป็นว่า รวมเรื่องไลฟ์ก็ด้วย ใครมีแผนเกี่ยวกับคลิปบ้างไหม?]
เมื่อถามแบบแบ่งส่วน คานอนยกมือแล้วพูด
[ส่วนตัวนะคะ คิดว่าได้เวลาถ่ายอะไรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแล้วค่ะ]
[อย่างนี้นี่เอง งั้นถ้าเป็นเอกลักษณ์ของคานอนจัง จะเป็นแบบไหนเหรอ?]
คานอนคิดอยู่พักเล็ก ๆ จากนั้นจึงปรบมือขึ้น
[เพราะว่าหนูเรียนบัลเล่ต์อยู่แล้ว ดังนั้นเลยแสดงเอกลักษณ์ออกมาได้ง่าย ถ้าให้เจาะจงละก็ คงเป็นคลิปฝึกความยืดหยุ่นน่ะค่ะ]
[จริงด้วย ฟังดูดีเลยนะ]
[ดูท่าจะเรียกฐานแฟนคลับได้ด้วยนะ]
มิยุยิ้มกรุ่มกริ่มออกมาแล้วพูด ทางคานอนทำสีหน้าไม่พอใจ
[รุ่นพี่มิวนี่พูดตรงดีนะคะ]
[ขอโทษน่า งั้นมาลองอะไรสักอย่างหน่อยดีไหม?]
[ได้สิคะ มาทำอะไรง่าย ๆ แล้วก็โดดเด่นกันเถอะค่ะ]
หลังพูดจบคานอนนั่งลงกับพื้นและอ้าขาออก——เรียกว่าขยับออกเป็นหนึ่งร้อยแปดสิบองศาหรือเปล่านะ
มิยุที่เห็นภาพนั้นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ส่วนฮิโรกินั้นเคยเห็นมาหลายต่อหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังประทับใจ
[สมกับเป็นคานอนจังเลย ต่อไปลองทำไอนั่นดูสิ]
[คือว่า ตอนนี้ใส่กระโปรงอยู่…]
[จริงด้วยสินะ โทษที]
เมื่อเห็นภาพที่ดูน่าอึดอัดของทั้งสอง มิยุจึงเอียงคอลง
[คุยอะไรน่ะ?]
[เป็นท่าโพสต์ที่ทำยากเวลาใส่กระโปรง เป็นท่ายกให้เป็นตัวไอน่ะค่ะ]
[อ๊ะ อันนั้นรู้จักนะ! อันที่ลามก ๆ น่ะ!]
[ไม่ใช่แล้วค่ะ คนที่มองได้แบบนั้นก็มีแค่คนลามกเท่านั้นค่ะ!]
หาพูดถึงท่าโพสต์ตัวไอนี้แล้ว คือท่าที่ต้องใช้ขาข้างหนึ่งยืน และยกขาอีกข้างหนึ่งขึ้นสูง เป็นท่าที่ต้องการความยืดหยุ่นสูงมาก อาจเรียกได้ว่าเป็นท่าโพสต์ตัววาย แต่ในกรณีของคานอนต้องเรียกว่าเป็นตัวไอมากกว่า
และเป็นที่น่าเสียดาย ที่ฮิโรกิไม่อาจปฎิเสธความเห็นของมิยุได้ เมื่อได้ฟังคำพูดของคานอนแล้ว ใจลูกผู้ชายก็พลันเจ็บปวด
จุดนี้ควรจะเปลี่ยนหัวข้อได้แล้ว แต่ท่าทางมิยุจะยังไม่คิดเช่นนั้น
[งั้นเดี๋ยวจะให้ฮิโรกิหันหลังไป ทำให้ฉันดูคนเดียวก็พอ เนอะ?]
[เอ๋ ถึงจะเป็นคนรุ่นเดียวกันแต่ให้มาเห็นชุดชั้นในมันก็น่าอายนะคะ…]
[งั้นก็ให้ฉันเห็นได้สิ?]
[อยากดูแค่ไหนกันคะเนี่ย! ได้ค่ะ ถ้าพูดขนาดนั้นแล้วละก็]
[สำเร็จ!]
มิยุทำท่าดีใจ หันไปมองที่ฮิโรกิและเอาปัดไปมา ดูเหมือนจะเป็นสัญญาณให้หันไปข้างหลัง
พอฮิโรกิค่อย ๆ หันไปข้างหลัง คานอนก็พูดอย่างเอียงอายว่า [งั้นเอาแล้วนะคะ] ออกมา
[โอ้ ลาโม—ก]
[จิตใจต่ำตมดีนะคะ…]
[จริง ๆ เลย]
ฮิโรกิหันหลังอยู่ก็จริง หาแต่เห็นภาพเบิกบานของมิยุลอยขึ้นมา…แถมยังพยายามจินตาการถึงคานอนที่ทำท่าโพสต์รูปตัวไออยู่
แต่ถึงอย่างนั้นพอจินตนาการได้ว่าคานอนที่กำลังใส่กระโปรงอยู่ กำลังจัดท่าโพสต์รูปตัวไอ จิตใจก็พลันปั่นป่วน
(ใจบริสุทธิ์ ทำใจให้บริสุทธิ์เดี๋ยวนี้…)
แม้กำลังคิดอย่างนั้นอยู่ แต่ก็รู้สึกเหมือนสติจะหลุดออกไปเช่นกัน
[แต่ว่านะ มองมุมนี้มันไม่เห็นกางเกงในนี่?]
[กะ กางเกงในเนี่ย…ก็จริงอยู่ที่ว่าน่าจะไม่เห็นแหละค่ะ]
[งั้นก็ให้ฮิโรกิดูได้สิ?]
[เอ๊ะ!?]
[ถ้างั้น เชิญดูได้เลย…]
เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าตัวแล้วจึงหันกลับไป คานอนกำลังยกขาข้างหนึ่งขึ้นตรงอย่างน่าเหลือเชื่ออยู่ เรียกได้ว่าเป็นตัวไอจริง ๆ ได้ดูกี่ครั้งก็ไม่อาจละสายตาได้ เรียกว่าเป็นยอดมนุษย์เลยทีเดียว
[ว่าแล้วว่าต้องสุดยอด——เอ๊ะ!?]
ทว่า ฮิโรกิพลันรู้สึกตัว
ว่ากระจกยาวที่อยู่ตรงมุมแทยงของห้องนั้น กำลังสะท้อนร่างครึ่งตัวของคานอนอยู่
สีชมพู
เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ฮิโริกิจึงหลบสายตา
[รุ่นพี่? มีอะไรหรือเปล่าคะ?]
[เปล่า ไม่มีอะไรหรอก]
[ไม่จำเป็นต้องเป็นห่วงหนูเลยนะคะ ท่านี้น่ะไม่ได้ยากเลยค่ะ]
[วะ ว่าแล้วเชียวว่ายอดจริง ๆ นะ คานอนจังเนี่ย]
ระหว่างที่พูด ฮิโรกิไม่ได้มองไปข้างหน้า
มิยุที่ส่งสัยจึงมองไปรอบ ๆ เมื่อได้รู้แจ้งเห็นจริงแล้ว จึงขอให้คานอนเอาขาลง
[คาโนนน ขอโทษนะ]
[เอ๊ะ? อะไรกันเหรอคะ?]
[คือฉันลืมไปว่ามีกระจกตรงนั้นน่ะ]
[หา?…งะ!]
คานอนที่เข้าใจความหมายนั้นแล้วพลันหน้าแดง
[อา…รุ่นพี่ เห็นเหรอคะ? เห็นสินะคะ?]
[ไม่เห็น…แค่นิดเดียวน่ะ]
[ก็เห็นอยู่ไม่ใช่เหรอ~~คะ! เป็นเจ้าสาวไม่ได้แล้วค่ะ…]
[ว้าว เพิ่งเคยเห็นคนที่พูดอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกเลยนะเนี่ย]
มิยุพูดอย่างไมรู้ร้อนรู้หนาว คานอนจ้องเขม็ง
[ถ้าพูดถึงต้นตอ ก็เพราะรุ่นพี่มิวนี่คะ! ยังมีหน้ามีพูดจาสบาย ๆ อีก ไม่โอเคเลยค่ะ]
[ขอโทษนะขอโทษ แต่ว่ากางเกงในของคานอนเนี่ย น่ารักดีนี่นา]
[ไม่ใช่แล้วค่ะ! วันนี้ไม่ได้ใส่ชุดชั้นในตัวเก่งมาด้วย!]
(พูดเหมือนถ้าเป็นตัวเก่งแล้วจะให้ดูได้เลยนั่น…)
แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ฮิโรกิรู้ว่าถ้าเปิดปากออกไปจะซวยจึงไม่พูดอะไร
[——อะแฮ่ม กลับเข้าเรื่องหลักกันเถอะค่ะ]
คานอนตัดบทลง กระแอมไอแล้วพูด
[ที่ได้เห็นเมื่อกี้คือการฝึกความยืดหยุ่นค่ะ คิดว่าทั้งหนู รุ่นพี่จิแล้วก็รุ่นมิยุมีความสามารถพิเศษอยู่กับตัว ถ้าถ่ายคลิปออกมาต้องสนุกแน่เลยค่ะ]
[นั่นสินะ ทุกคนมีความพิเศษกันหมดด้วยสิ ถ้าไม่แสดงออกมาฉันก็ว่าเสียดายแย่]
[แต่ว่าหนูไม่เคยได้ยินเรื่องงานอดิเรกหรือความสามารถเศษของรุ่นพี่เลยน่ะค่ะ ทั้งสองคนรู้อะไรบ้างไหมคะ?]
[ฉันเองนอกจากถ่ายแบบในนิตยสารก็ไม่รู้เลยนะ เรื่องแต่งหน้าก็ด้วย แถมยังเขียนไว้อีกว่าชอบนอนเกลือกกลิ้งอยู่ในห้อง ฮิโรกิน่าจะรู้มากกว่านะ?]
[เอ คือ…]
เพราะเมื่อกี้หลุดปากไปว่า「ทุกคนมีความพิเศษกันหมดด้วยสิ」 ออกมาด้วยความประมาทเลินเล่อเล็กน้อย เพราะเรื่องของงานอดิเรกหรือความสามารถพิเศษอย่าง————เกมเมอร์นั้นเป็นความลับของจินัตสึอยู่ในตอนนี้ อีกทั้งยังเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเสียด้วย
[โทษนะ จะให้ฉันพูดเองคงไม่ได้หรอก เพราะฉันเป็นคนหลุดปากออกมาเอง เดี๋ยวคราวหน้าถ้ามีโอกาสจะถามคุณจินัตสึให้นะ]
[งั้นเหรอคะ เข้าใจแล้วค่ะ]
[ฉันเองก็เข้าใจแล้ว เอาเป็นว่าหันหัวเรือถูกแล้วเนอะ ถ้างั้นก็เหลือเรื่องไลฟ์แล้วนะ]
การประชุมยังคงดำเนินต่อไป ลากยาวไปจนพระอาทิตย์ตกดิน
แม้จะมีการถกเถียงกันในหมู่เมมเบอร์อยู่บ้างแต่ก็ผ่านไปได้ด้วยดี กลับกันอาจเรียกได้ว่าค่อนข้างราบรื่นทีเดียว
แต่ปัญหาที่เกิดขึ้น เริ่มต้นหลังจากนั้น
ตอนกลางคืน ในช่องคอมเมนต์ของ MICHIKA แชนแนลนั้นมีความเห็นหนึ่งที่แนบลิ้งค์วิดีโออยู่
เมื่อกดเข้าไปตามลิงค์นั้น จะพบกับภาพภาพหนึ่ง
นั่นคือ ภาพที่มิยุกับฮิโรกิกำลังพูดคุยกันที่แบตติ้งเซ็นเตอร์นั่นเอง