お兄ちゃん大嫌い หนูเกลียดพี่ชายที่สุดเลย - ตอนที่ 4 หิมะที่เริ่มละลาย
จากภาพที่มืดสนิทค่อยๆส่องสว่างขึ้นเล็กน้อย
ความรู้สึกที่อบอุ่นทำให้มาโมรุรู้สึกตัว
มาโมรุค่อยๆลืมตาขึ้น ภาพที่เขาเห็นคือเพดานห้องครัวที่มีแสงสว่าง ที่ก่อนหน้านั้นเคยมืดมัว
บนตัวของมาโมรุมีผ้าห่มบางๆห่อหุ้มตัวเขาอยู่
ตัวของมาโมรุรู้สึกแปลกใจที่อะไรหลายๆอย่างแตกต่างจากตอนก่อนที่เขาจะนอน
เขาจึงตัดสินใจลุกขึ้นจากโซฟาเพื่อที่จะดูว่าเกิดอะไรขึ้นรอบๆตัวของเขา
เพียงไม่กี่วิที่มาโมรุลุกจากโซฟาและมองดูรอบๆเขาก็เห็นยูกิที่นั่งกินข้าวที่มาโมรุเป็นคนทำอยู่
มาโมรุรู้สึกแปลกใจและมีความดีใจปนอยู่ที่ยูกิกินข้าวอยู่ในห้องเดียวกับเขา
ยูกิที่กำลังกินข้าวอยู่สังเกตุเห็นว่ามาโมรุตื่นแล้ว ท่าที่ของเธอดูมีความพยายามกำลังจะทำอะไรบางอย่าง
(อะไรกัน….พี่ชายตื่นแล้วหรอ จะทักทายพี่ชายยังไงดี…..)
ยูกิแสดงสีหน้ากังวลใจแบบเห็นได้ชัด
มาโมรุที่เห็นแบบนั้นก็ได้เริ่มบทสนทนา
“กินข้าวแล้วหรอยูกิ”
“อ..อื้ม นอนสบายมั้ย….พี่…”
“แก้เหนื่อยได้ดีเลยล่ะ”
“หรอ..งั้นดีแล้ว”
“วันนี้หายากนะเนี่ยที่ยูกิจะไม่หนีกลับห้องก่อน มีเรื่องอะไรดีๆรึเปล่า”
“ก็ ไม่มีนะ”
“หืม งั้นแสดงว่าคิดถึงข้าวมื้อเย็นร้อนๆของพี่ชายหรอ”
ยูกินิ่งเงียบไม่ตอบอะไร และพยายามหลบสายตามาโมรุ
มาโมรุที่เห็นแบบนั้นจึงคิดว่ายูกิอาจจะอึดอัดที่ถามอะไรแบบนั้นไป เลยเปลี่ยนเรื่องคุย
“นี่ วันนี้เรียนเป็นไงบ้าง”
“ก็ปกตินะ”
“อย่างงี้นี่เอง มีการบ้านต้องทำรึเปล่า”
“ไม่มี”
“งั้น มากินข้าวกันมั้ย”
“พี่กินไปเลย หนูกินอิ่มแล้ว”
“หืม ก็ได้”
มาโมรุเดินไปที่โต๊ะกินข้าวและนั่งลง
ยูกิตักข้าวใส่จานแล้วยื่นให้มาโมรุ
“เอ้านี่”
มาโมรุยื่นมือไปหยิบจานจากยูกิ
“ขอบคุณนะ ยูกิ”
“อื้ม หนูกลับห้องแล้วนะ”
หลังจากที่มาโมรุหยิบจานยูกิก็ลุกขึ้นและเดินกลับห้องของเธอ
มาโมรุในตอนนี้รู้สึกดีใจมากที่น้องสาวในที่สุดก็ยอมคุยกับเขาแล้ว แต่บทสนทนาที่จบไวแบบนี้
มาโมรุก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่อุตส่าห์ได้คุยแต่ก็ได้คุยแค่นิดเดียว
และก็เป็นอีกวันที่พี่น้องไม่ได้คุยกันหลังจากออกจากห้องครัว
แต่ครั้งนี้สิ่งที่ต่างไปจากเดิมคือความรู้สึกที่ค่อยๆเปลี่ยนไปของพวกเขาทั้งสอง
ยูกิที่กลับมาถึงห้องของเธอเธอก็ถอดชุดนักเรียนของเธอทีละชิ้น ทีละชิ้น
และเดินเข้าไปในห้องน้ำ
พื้นที่แห้งสนิทในห้องน้ำทำให้พื้นอุ่นมากกว่าปกติ
ยูกิเดินตรงไปที่ฝักบัวและหมุนก๊อก
ภายในห้องมีเสียงน้ำที่กระทบกับพื้นและเสียงถูตัว
ระหว่างที่ยูกิยืนแช่ฝักบัวอยู่เธอก็คิดวิธีที่จะปรับความเข้าใจกับพี่ชาย ขอโทษพี่ชาย และวิธีกลับมาคุยกับพี่ชายได้เหมือนเดิม แต่ยูกิกลับคิดวิธีไม่ออก และยืนอยู่แบบนั้นซักพัก
ยูกิเลือกที่จะหยุดความคิดของเธอไว้แค่นั้นและเดินไปแช่น้ำในอ่างต่อ
เวลาผ่านไปซักพัก ยูกิเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมกับผ้าเช็ดตัวผืนเดียว แล้วยูกิก็เดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดนอนมาใส่
ยูกิมองดูตัวเองในเงากระจก ภาพในกระจกคือยูกิในชุดนอนสีเหลืองลายเป็ดที่หลวมไม่พอดีตัว ยูกิยืนดูได้ซักพักเธอก็สังเกตเห็นไหล่เสื้อหลุด เธอเลยจับไหล่เสื้อกลับมาที่ตำแหน่งเดิม และ ถกเอวเสื้อขึ้นเหนือหน้าท้อง
(นี่เราเล่นอะไรอยู่เนี่ย) ยูกิปล่อยเสื้อลงหลังจากรู้สึกตัว
เธอเดินไปที่เตียงและกระโดดลงไปนอน
ยูกินอนกลิ้งบนเตียงอยู่ซักพักเธอก็หยิบมือถือขึ้นมาและส่งข้อความหาโทโมะจัง
(นี่ เวลาเธอจะคืนดีกับใครซักคนต้องทำยังไงหรอ)>
<(หืม ยุกกี้มาแปลกนะเนี่ย หรือว่า)
(ไม่ใช่หรอก คิดไปเอง)>
<(ใช่รึเปล่าน้า)
(ตอบคำถามมาเถอะน่า)>
<(อืมม อ๋อ)
<(ต้องบอกว่า ชอบนะคบกันเถอะ)
(บล็อกนะ)>
<(อย่าน้า ขอโทษๆๆๆ)
(งั้นไว้คุยกันพรุ่งนี้นะ)>
<(ได้อยู่แล้วยุกกี้)
<(ต่อไปนี้จะเป็นการเริ่มแผนพี่จ๋าคืนดีกับหนูหน่อย)unread mesage
<(เฮ้ กลับมาอ่านกันก่อนซี่ ชั้นเหงานะยุกกี้ToT)
ยูกิปิดเครื่องมือถือและเตรียมเข้านอน แต่มือถือเจ้าปัญหาก็ส่งเสียงแจ้งเตือนสองสามรอบ
แต่ยูกิไม่สนใจ
เธอเอามือถือวางไว้ที่ข้างๆโคมไฟและหันกลับไปนอน
ยูกิทิ้งน้ำหนักลงเตียงดึงหมอนข้างมากอด เธอนอนอยู่แบบนั้นได้ซักพักยูกิก็ผลอยหลับไป
“สวัสดีค่ะ ชิราโฮชิ ยูกิค่ะ”
“หืม ชิราโฮชิหรอ นามสกุลเดียวกับมาโมรุเลยนะ เป็นพี่น้องกันหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“อย่างงี้นี่เองเป็นน้องสาวของเด็กหัวดีคนนั้นสินะ แบบนี้โรงเรียนสร้างชื่อได้มากแน่ๆเลย”
ยูกิทำสีหน้าไม่ดีนัก และก้มเงียบไม่ได้ตอบอะไรครูต่อ
“เอ้าไปนั่งตรงที่ว่างตรงนั้นนะ”
“ค่ะ “
ยูกิเดินตรงไปที่ที่นั่งที่ว่างอยู่ และนั่งลง
คนที่นั่งข้างๆยูกิสะกิดเรียกยูกิ
“นี่ๆ เธอเป็นน้องของคนที่ชื่อมาโมรุหรอ สุดยอดไปเลยนะมีพี่เก่งแบบนั้นน่ะ”
“อื้ม นั่นสินะ” ยูกิฝืนยิ้มตอบ
“นี่ยูกิขอลอกการบ้านหน่อยสิ”
“แต่….การบ้านต้องทำเองไม่ใช่หรอ”
“เอามาให้ลอกเถอะน่า”
“อื้ม…ก็ได้”
“อะไรเนี่ย ถูกแค่ไม่กี่ข้อเองหรอ นึกว่าจะถูกทุกข้อซะอีก”
…..
“อย่ามัวแต่เงียบสิ เป็นน้องของมาโมรุอะไรนั่นไม่ใช่หรอ ทำให้มันเต็มที่หน่อยสิ”
“ขอโทษนะ”
“ขอโทษอะไรล่ะ ห้ะ”
ยูกิถูกเพื่อนร่วมห้องคนนั้นกระชากผม แล้วก็โยกหัวของยูกิไปมา
“มีปัญญาทำแค่นี้เองหรอ ไม่เห็นเก่งเหมือนที่เคลมไว้เลยนี่หว่า”
ยูกิที่ทนกับการกระทำแบบนี้ไม่ไหว เธอก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ และร้องไห้ออกมา
“อะไรกันแค่นี้ก็ร้องแล้วหรอ ไม่ได้เรื่องเลย”
เพื่อนร่วมห้องที่เห็นยูกิร้องแบบนั้นก็หมดสนุกและปล่อยหัวยูกิแล้วทิ้งเธอไว้ในห้องคนเดียว
“อะไรกันไอ้คนไม่ได้เรื่องที่เกาะชื่อพี่ชายยังมาโรงเรียนอีกหรอ”
“เฮ้ ไอ้คนได้เรื่องตรงนั้นน่ะ เอาตังมาให้ยืมดิ้”
หลังจากนั้น ยูกิก็ถูกเพื่อนร่วมห้องคนนั้น แกล้งทุกวันๆ จนเธอย้ายไปเรียนที่อื่น
เมื่อยูกิย้ายโรงเรียนมาที่โรงเรียนใหม่ เธอก็ตัดสินใจว่าจะไม่สุงสิงกับใครอีก
แต่ความคิดแบบนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน โทโมะจังก็เข้ามาตีสนิทกับยูก และตามตื้อทุกวัน จนยูกิยอมเป็นเพื่อนกับโทโมะจังถึงทุกวันนี้
แสงยามเช้าส่องเข้ามาในห้องของมาโมรุ
เสียงนาฬิกาปลุกส่งเสียงดังไปทั่วทั้งห้อง
มาโมรุที่ถูกรบกวนโดยเสียงก็ตื่นขึ้น
“อือ นาฬิกาปลุกนี่มาจากไหนกันนะ”
มาโมรุมองไปที่นาฬิกาปลุกข้างในนาฬิกาปลุกมีเวลาเขียนไว้ว่า6.49am
เป็นเวลาที่มาโมรุไม่ค่อยจะตื่นได้ด้วยตัวเอง
(วันนี้คงต้องไปทำงานเช้าสินะ)
มาโมรุหลังจากที่ตัดสินใจได้ก็ลุกไปปิดนาฬิกาปลุกและแต่งตัวตามเคย
หลังจากที่มาโมรุแต่งตัวเสร็จ ก็เดินลงมาข้างล่างและเดินไปที่ห้องครัว
ที่ห้องครัวมีแสงไฟเปิดอยู่ ภายในห้องมีสมาชิกครอบครัวทุกนกินข้าวกันแบบพร้อมหน้า
“อ้าวตายจริงมาโมรุ วันนี้ตื่นไวนะเนี่ย”
“มาโมรุ วันนี้ดูท่าแล้วฝนน่าจะตกเลยหว่ะ ฮ่าๆๆ”
“โถ่คุณคะ อย่าไปแซวมาโมรุแบบนั้นสิคะ”
“ก็ได้ๆ มาสิมาโมรุ มากินข้าวเช้ากันดีกว่า”
หลังจากมาโมรุนั่งตรงฝั่งตรงข้ามกับยูกิ ยูกิก็แอบชำเลืองมองมาโมรุ
พ่อที่นั่งอยู่ข้างๆก็เกี่ยวคอของมาโมรุ
“มาโมรุ แกน่ะ นานๆทีก็พาหัวหน้าแกมาเยี่ยมบ้านหน่อยก็ได้นะ “
“อะไรกัน พ่อติดใจหัวหน้าแล้วหรอครับ”
“ก็ใช่สิ ชั้นน่ะถูกใจเจ้าหมอนั่นแบบสุดๆไปเลย”
“งั้นถ้ามีโอกาสเดี๋ยวผมะพามานะครับ”
“ฮ่าๆๆๆ ให้มันได้แบบนั้สิ”
แม่ที่นั่งฟังอยู่ฝั่งตรงข้ามข้างๆกับยูกิ หัวเราะเบาๆ
“จะว่าไปวันที่สามีเจอกับหัวหน้าคนนั้น เขาแบกมาโมรุที่สภาพดูไม่ได้มาด้วยแหละ”
“อะไรเนี่ยแม่ จะเผาผมหรอ”
“นั่นสินะ มาโมรุ ชั้นเดาได้เลยว่าแกโดนบังคับให้ดื่มแล้วก็เป็นแบบนั้นมาแน่ๆ แกนี่มันคออ่อนชะมัด”
มาโมรุไม่พูดอะไรต่อแล้วตักข้าวมากิน
“คุณคะมาโมรุโกรธแล้วรึเปล่าคะ”
“มายฮันนี่……มาโมรุน่ะไม่โกรธเพราะเรื่องแค่นี้หรอกนะ”
“ตายจริงมาพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าเด็กๆกันคะ”
“เดี๋ยวผมกินเสร็จก็ไปแล้ว เชิญพ่อแม่ไปหวานกันต่อไปเลย”
“มาโมรุแกนี่มันรู้งานดีจริงๆ”
“นี่ยูกิ แม่เห็นมาซักพักแล้วนะ ว่าลูกทำหน้าเหมือนอยากจะคุยกับมาโมรุน่ะ”
คุณแม่เริ่มกระซิบคุยกับยูกิ
“อะ อะไรหรอคะแม่ หนูไม่เห็นรู้เรื่องเลย”
“แหมๆ ก็เมื่อเช้าแม่เห็นว่าลูกน่ะแอบเข้าห้องของมาโมรุด้วย…นะ”
“แม่แค่ตาฝาดไปเองค่ะ”
“ไม่ๆๆ แม่ไม่ได้สายตาไม่ดีขนาดนั้นนะ แล้ว ลูกไปทำอะไรหรอ”
“แม่นี่ไม่ฟังที่หนูพูดเลยนะ เดี๋ยวหนูไปโรงเรียนแล้วนะ”
ยูกิหลังจากคุยกับแม่เสร็จก็ลุกขึ้นและเดินออกจากห้องครัว
“หนูไปแล้วนะคะ”
มาโมรุที่กินข้าวเสร็จพอดีก็ลุกขึ้นเดินออกห้องไปเหมือนกัน
“ผมก็ไปแล้วนะครับ”
ทั้งสองเดินไปที่ชั้นวางรองเท้า หยิบรองเท้ามาใส่
“นี่วันนี้ให้พี่ไปส่งที่โรงเรียนมั้ย”
“ดะ….ได้สิ”
หลังจากทั้งสองใส่รองเท้าเสร็จ ก็เปิดประตูบ้านและเดินออกไปพร้อมกัน