“ในทุกเกมมักจะมีเรื่องเล่าที่เป็นคล้ายๆกับตำนานของเกมนั้นๆเสมอ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มีคนที่บ้าเคลียเรดบอสที่ต้องใช้ถึงสามปาร์ตี้ด้วยตัวคนเดียว คนที่ลากบอสท้ายเกมไปป่วนเซิฟ หรือการที่มีอาวุธระดับเทพโผล่ออกมาในเกมโดยไม่รู้ที่มา
เรื่องเล่ามากมายต่างถูกกล่าวในเกมนั้นๆ นั่นแสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ของผู้เล่นที่ไม่ทำอะไรเดิมๆ แต่นั่นก็แสดงให้เห็นถึงความน่าเบื่อของเกมนั้นด้วยเช่นกัน หากเกมไม่จำเจเรื่องเหล่านั้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก แล้วทำไมเราถึงไม่มีใครคิดที่จะดึงตำนานเรื่องเล่าพวกนั้นมาเป็นจุดเด่นละ ไม่ต้องมีข้อจำกัดมากมาย ใครจะทำอะไรก็ขวนขวายทำได้เสมอ แทนที่จะมีเรื่องเล่าที่โดดเด่นเป็นตำนาน ก็ทำให้ทั้งโลกของเกมเป็นสุดยอดตำนานที่รวมทุกตำนานทุกเรื่องเล่าที่สร้างจากทุกๆคนซะสิ แบบนี้น่าสนุกกว่ากันเยอะ!!”
นั่นคือบทสัมภาษณ์ของทีมงานเกมOrigin-Fantasy Online เกมที่เน้นอิสระในเลือกทำจนสโลแกนของมันเป็นคำว่า[ทุกคนคือเรื่องเล่า] แน่นอนว่ามันต้องโดนใจนักศึกษาปีที่6(ไม่จบซักที) ผู้ที่เบื่อกับความจำเจในการเรียนและการทำงานพาร์ทไทม์อย่างผมอยู่แล้ว ผมใคร่ครวญอ่านหนังสือแนะนำเกมอย่างสนใจ พออ่านจบเล่มค่อยปิดหนังสือวางไว้บนโต๊ะ
‘อีกแค่วันเดียวจะได้เข้าแล้วสินะ’
ผมหลับตาจินตนาการถึงสิ่งที่จะได้ทำเมื่อเข้าอยู่ในเกม
ผมตื่นมาอีกทีวันจันทร์ ไม่แน่ใจว่าหลับไปตอนไหน แต่เมื่อตื่นแล้วก็เช็คการตั้งค่าเครื่องเกมรอเพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดในตอนช่วงแรกที่เข้าเกม ส่วนมหาลัยแน่นอนว่าวันนี้ทั้งวันต้องโดดเรียนไปก่อน(เกมสำคัญกว่าดิวะ)
[ติ๊ง] เสียงข้อความเข้าที่พอจะเดาได้ว่าเป็นของใคร
<เอ็งโดดใช่ป่ะ เดี๋ยวเข้าเกมก่อนเลยนะ พอดีวิชาโควต้าขาดกูครบแล้ว> เกลอไก่
ผมอ่านข้อความแล้วเมินทิ้งซะ แล้วไปเตรียมตัวเข้าเกมที่จะเปิดในอีก5นาทีล่วงหน้า
‘ไม่ได้จะรวมกลุ่มกันอยู่แล้ว จะเข้าพร้อมกันทำไมหว่า’
คิดอย่างนั้นระหว่างรอ เวลาก็ใกล้เข้ามาแล้ว ผมดูเวลาอย่างตื่นเต้น รอนับถอยหลังเข้าเกม เมื่อสติเริ่มเบลอภาพตรงหน้าก็เปลี่ยนเป็นหน้าจอlog-inแล้ว…..
MANGA DISCUSSION