ไล่ผีแบบเจอะหน้าปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์! - ตอนที่ 99 บทส่งท้าย 1
ฉันที่ออกจากโรงพยาบาลนำหน้ามาก่อนโซยะ กำลังก้าวมาเยือนคฤหาสน์หลังนึง ในสภาพสวมชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนปราบมาร
……เอิ่ม ไม่ใช่ว่าแต่งหญิงซะจนติดใจแต่อย่างใดหรอกนะ ถูกเค้าสั่งอย่างเป็นทางการให้ช่วยมาในสารรูปแบบนี้เลยต่างหากล่ะ ไม่ได้โกหกเว้ย เชื่อทีเหอะขอร้อง
ต้นสายปลายเหตุของเรื่อง มันเป็นในตอนที่ได้รับฟังบทสรุปของเหตุการณ์โฮเทลราพันเซลในคราวนี้จากซากุระน่ะ
“ เอาเป็นว่า พวกคนที่ถูกจองจำอยู่ภายในเกมนั่นปลอดภัยกันหมดทุกคนนั่นแหละ อาการของโคฮินาตะ ชิซึกะที่นายพะวงเป็นห่วงนักหนานั่นก็กลับมาดีแล้วด้วยนะ ให้ตายเถอะ ถึงจะเป็นความสามารถสุดสัปดนหาดีไม่เจอ แต่ก็มีประสิทธิภาพการขับไล่นี่แหละเด็ดดีที่หนึ่งเลยจริงๆ ”
ซากุระที่เคยโดนฤทธิ์ของเทคโนเบรคเกอร์เข้าไปครั้งนึงเหมือนกัน พลันกล่าวออกมาว่างั้นด้วยใบหน้าแดงแจ๋
“ แล้วก็ เกี่ยวกับเรื่องสภาพแวดล้อมครอบครัวของโคฮินาตะ ชิซึกะที่นายเอาแต่ร้องโวยวายน่ารำคาญอยู่เรื่อยนี่……เพราะถือเป็นคดีความที่มีเผ่ามารเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยมีการประสานงานจัดการลงไปอย่างเร็วไวแล้วล่ะ แม่ของโคฮินาตะ ชิซึกะที่เป็นแกนนำ และเจ้าพวกที่เข้าร่วมในพิธีกรรมเพื่อทำให้ไคอิแข็งแกร่งทรงพลังขึ้นนั่นถูกจับกุมหมดทุกรายแล้ว เพราะอยู่ในสภาพแบบกึ่งๆถูกเผ่ามารควบคุม โทษก็เลยน่าจะเบาลงมาหรอก แต่ก็คงโดนจับชำระล้างแล้วก็สอบปากคำจนน่าจะต้องติดแหงกอยู่ในสถานกักกันไปซักพักใหญ่ๆเลยนั่นแหละ ”
รู้ลึกไปถึงเรื่องพิธีกรรมเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของไคอิด้วยเลยสินะ ซากุระจึงขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์ใหญ่เลย
“ สิทธิรับดูแลโคฮินาตะ ชิซึกะก็ดูเหมือนว่าจะถูกส่งไปให้กับฝั่งพ่อที่หย่าร้างกันไปแล้วด้วย พูดได้ว่าการดูแลสถานการณ์ภายหลังส่วนมากก็เป็นไปได้ด้วยดีนั่นแหละนะ ”
ได้รับฟังเช่นนั้นแล้วก็โล่งใจไปได้เปลาะนึง
ความรู้สึกสำนึกผิดอย่างรุนแรงระดับที่ทำให้ตัวรุ่นพี่โคฮินาตะต้องทุกข์ทรมาน กับโรคกลัวผู้ชายนั่นคงจะไม่อาจดีขึ้นมาได้ในทันทีเลยก็จริงหรอก แต่แค่ฉุดเอาตัวเธอออกมาจากสภาพแวดล้อมแสนเลวร้ายแบบนั้นได้ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแล้ว
ถึงจะเป็นแม่เฮงซวยแบบนั้นแต่ก็เป็นคนใกล้ชิดกันละมั้ง เห็นว่าตัวรุ่นพี่โคฮินาตะจะรู้สึกสับสนเศร้าใจกับการต้องแยกจากอย่างกะทันหันพอตัวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เริ่มที่จะยอมรับได้ขึ้นมาทีละนิดแล้วแน่ะ เป็นผลจากการพบจิตแพทย์เพื่อพ่วงเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดไคอิกำเริบขึ้นมาอีกครั้งนั่นเอง
แต่ต่างกับฉันที่ถอนหายใจโล่งอก สีหน้าของซากุระกลับดูเคร่งเครียดชอบกล
พอถามว่ามีอะไรปุ๊บ ซากุระก็อ้าปากกล่าวขึ้นด้วยท่าทางหยะแหยงสุดขั้วไปเลย
“ ……จริงๆแล้ว มีไคอิตกค้างที่น่าปวดหัวพอตัว หลงเหลืออยู่ภายในร่างของโคฮินาตะ ชิซึกะน่ะสิ ”
ไคอิตกค้าง นั่นก็คืออาการในกรณีที่ไคอิซึ่งเกิดขึ้นมามันทรงพลังมากเกินไป จนเกิดผลสืบเนื่องทำให้มีพลังประหลาดหลงเหลืออยู่แม้ไคอิจะถูกขับไล่ไปได้แล้วนั่นเอง และในบรรดาทั้งหลายนั่นก็มีพลังที่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันอยู่มาก ตัวอย่างเด่นๆก็ แรงช้างสารของนางุโมะนั่นเลย
ก็นึกว่ารุ่นพี่โคฮินาตะจะได้รับผลกระทบจนต้องย้ายมาเข้าโรงเรียนปราบมารด้วยเช่นกันหรอก แต่ซากุระกลับบอกว่าไม่ใช่ซะนี่ เพราะดูจากคุณสมบัติลักษณะของไคอิตกค้างนั่นแล้ว เห็นว่าให้เรียนอยู่ในวิทยาลัยหญิงชิรายูกิต่อไปซะน่าจะเป็นผลดีกว่าน่ะ
“ แต่ถึงอย่างนั้นมันก็จะต้องมีผลกระทบต่อการเรียนต่อและการดำเนินชีวิตประจำวันอย่างแน่นอนเลย ฉะนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับอาฟเตอร์แคร์อย่างเร่งด่วนน่ะ……ประเด็นก็คือ เค้าเลือกให้นายเป็นคนคอยดูแลน่ะสิ โคฮินาตะ ชิซึกะเป็นคนรีเควสต์ด้วยตัวเองอย่างหนักหน่วงเลยน่ะ ว่าให้ใส่เจ้านี่แล้วไปหาด้วยตัวคนเดียวน่ะนะ ”
ด้วยเหตุนั้นเอง ซากุระจึงจับจ้องส่งแววตาเคลือบแคลงตรงมาใส่ฉัน พร้อมกับยื่นชุดนักเรียนหญิงของโรงเรียนปราบมารมาให้แน่ะ
“ ……เอ้อ ถ้าจะไปพบหน้ารุ่นพี่โคฮินาตะ ก็จำเป็นต้องแต่งหญิงไปแบบเกือบๆแน่นอนเลยแหงอยู่แล้วหรอกนะ ”
แต่อีกฝั่งเล่นออกตัวรีเควสต์ให้แต่งหญิงมาเองเลยแบบนี้ มันก็ทำให้หยุดรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีไม่ได้เลย
ฉันเปิดประตูคฤหาสน์นั่นเข้าไปอย่างกล้าๆกลัวๆ
เท่าที่ฟังมา เห็นว่าที่นี่เป็นคฤหาสน์ที่คุณยายของพ่อรุ่นพี่โคฮินาตะถือสิทธิเป็นเจ้าของอยู่แน่ะ และรุ่นพี่โคฮินาตะที่ต้องหยุดเรียนเพื่อจัดการกับเรื่องต่างๆนาๆ ก็เลยถูกส่งให้มาพักอาศัยอยู่ในที่นี่เป็นเวลาซักระยะน่ะนะ
ภายในคฤหาสน์มีผู้ปราบมารหญิงอยู่มากมาย กำลังคอยเฝ้าจับตาดูว่าไคอิของรุ่นพี่โคฮินาตะจะกำเริบมั้ย ไม่ก็ระแวงว่ารุ่นพี่จะถูกไอ้พวกเผ่ามารมันจ้องเพ่งเล็งอีกมั้ย…เพราะงี้ก็เลยโดนพวกเค้าจ้องมองสภาพแต่งหญิงแบบตาไม่กะพริบ ทำเอาฉันถึงกับเหงื่อแตกพลั่กท่วมกายไปพลาง ก้าวเข้าไปเคาะประตูบานนึง เท่านั้นแหละ บานประตูพลันถูกเปิดแง้มออก พร้อมเสียงตอบรับเล็กๆดัง “ ……ค่ะ ”
“ ……อ๊ะ ฮารุฮิสะ คุง ……ยอมแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิง มาหากันจริงด้วย ”
ผู้ที่วิ่งเตาะแตะเข้ามาหาด้วยรอยยิ้มเขินอย่างดีใจ ก็คือรุ่นพี่โคฮินาตะที่ห่อหุ้มกายเอาไว้ด้วยชุดวันพีชตัวบางนั่นเอง เรียกได้ว่าเป็นชุดที่เหมาะกับบรรยากาศผู้ดีของรุ่นพี่โคฮินาตะสุดๆไปเลย แถมยังเผยส่วนเว้าเส้นทรงร่างกายที่ห่างไกลจากเด็กมัธยมปลายนั่นให้เห็นได้อย่างชัดเจนทรงเสน่ห์ระดับที่ไม่กล้ามองตรงๆเลยทีเดียว
แต่ว่า……ทำไมกันหว่า ชุดนั่นมันไม่บางเกินไปหน่อยเรอะครับ? สำหรับฤดูนี้น่ะ
พอฉันงงงันอยู่ รุ่นพี่โคฮินาตะก็ทำตาเป็นประกายแล้วแล่นมองทั่วไปตามร่างกายฉัน
“ ……อือ ถ้าแต่งตัวแบบนั้นละก็ ถึงจะเป็นผู้ชาย แต่ก็เหมือนว่าจะพอไหว…… ”
ว่าแล้วก็ไม่รู้ทำไม รุ่นพี่โคฮินาตะเค้าถึงหน้าแดงเรื่อขึ้นมา ก่อนจะร้อง “ฮึ้ย!” พร้อมโผเข้ามากอดฉันเฉย ห้ะ?
เรือนร่างของรุ่นพี่โคฮินาตะพลันถูกดันชนเข้ามาอย่างแน่นฟิตผ่านเนื้อผ้าบางจ๋อย นอกจากจะถูกเค้าดมกลิ่นบริเวณต้นคอดังฟุดฟิดแล้วยังจะโดนเค้าพ่นลมหายใจอย่างตื่นเต้นมีอารมณ์อัดเข้าใส่ไปพร้อมกัน เล่นทำเอาฉันถึงกับเสียวซี๊ดมีกระแสไฟฟ้าแล่นไปทั่วหลังเลย
“ ……อะฮะ ร่างกายของผู้ชายตัวจริงเสียงจริงนี่สุดยอดมากเลย……ต่างกับที่มโนเอาไว้ลิบลับ…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะฉวยโอกาสในตอนที่ฉันติดสตันต์นิ่งค้าง ทำการลูบไล้ปล่อยมือแล่นไปทั่วราวกับสนุกสนานดื่มด่ำกับสัมผัสของแขนและแผ่นหลังของฉัน……และเป็นในตอนที่มือข้างนั่นทำท่าเริ่มที่จะบุกรุกล้ำเข้าไปข้างในกระโปรงอย่างกล้าๆกลัวๆนั่นเอง ที่ฉันฟื้นได้สติกลับคืนมาซะที
“ นั่นคุณเล่นอะไรครับเนี่ยเฮ้ย!? ”
รีบกระชากตัวออกอย่างตาหลีตาเหลือก เท่านั้นแหละรุ่นพี่โคฮินาตะพลันเอียงหัวร้อง “……เอ๊ะ” ในทันใด
“ จะทำอาฟเตอร์แคร์……ให้ไม่ใช่เหรอ? ”
“ ก็ใช่หรอกครับ! แต่จะช่วยแค่ซัพพอร์ตให้อาการของโรคกลัวผู้ชายเบาลงเท่านั้นหรอกเฟ้ย! ”
ช่วยให้อาการของโรคกลัวผู้ชายเบาลง นั่นล่ะคือเนื้อหาแบบลงลึกชี้เฉพาะของการทำอาฟเตอร์แคร์
ทำไมถึงต้องทำแบบนั้นน่ะเรอะ ก็เพราะว่าไคอิตกค้างของเธอคนนี้ มันมีความเชื่อมโยงกับโรคกลัวผู้ชายอย่างสุดซึ้งเลยยังไงล่ะ——
[โอ้วววววววว!]
เป็นในฉับพลันนั้นเอง
เกิดเสียงแผดร้องคำรามที่ไม่ใช่ของมนุษย์เป็นๆดังสนั่นลั่นก้องออกมาจากภายนอกหน้าต่าง แถมยังมีหลายเสียงเลยอีกด้วย
พอตกใจแล้วหันมองไปยังภายนอกหน้าต่าง ก็พบไอ้เจ้าพวกตัวแบบเดียวกับที่เคยโผล่ขึ้นมาที่วิทยาลัยหญิงชิรายูกิเมื่อตอนก่อนหน้า กำลังพุ่งทะยานอัดตรงเข้ามาใส่ห้องนี้แหละ
(อย่าบอกนะเฮ้ย ไอ้พวกบ้าๆบอๆที่เห็นรุ่นพี่โคฮินาตะเดินอยู่ละแวกนี้ มันกลายเป็นวิญญาณคนเป็นกันอีกแล้วเรอะ!?)
เออก็เข้าใจหรอกว่ารุ่นพี่โคฮินาตะเค้ามีเสน่ห์น่าหลงใหลอย่างยิ่งยวด……แต่จะหน้าไหนๆก็อยู่ในช่วงติดสัดกันหมดเลยเรอะไงฟะเฮ้ย!
พอฉันเพลียจับจิตอยู่ ข่ายอาคมที่ถูกกางเอาไว้รอบคฤหาสน์ก็พลันทำงาน ฝูงวิญญาณถูกสกัดเอาไว้กลางทาง และเหล่าผู้ปราบมารที่คอยเฝ้าจับตาดูก็พากันเริ่มต้นเคลื่อนไหวหรอก……แต่ก่อนหน้าที่ใครจะทันได้ทำอะไร ลำคอของรุ่นพี่โคฮินาตะก็ชิงปลดปล่อยเสียงร้องลั่นออกมาซะแล้ว
“ ……ฮิ๊……กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดด!? ”
ทั้งที่มันยังอยู่ห่างออกไปเอาเรื่องเลยแท้ๆ แต่สีหน้าของรุ่นพี่โคฮินาตะที่มองเห็นเหล่าวิญญาณคนเป็นผู้ชายเข้าก็พลันถูกย้อมไปด้วยความหวาดกลัว และในฉับพลันถัดมา
[[[อ๊าาาาาากกกกกกกกกกกกกก!?]]]
เหล่าวิญญาณคนเป็นที่อยู่นอกหน้าต่าง พลันแผดเสียงกรีดร้องดิ้นพล่านเจ็บปวดทรมาน ก่อนจะร่วงหล่นลงมา
แม้จะร่วงลงมากระแทกพื้นแล้ว แต่เหล่าวิญญาณคนเป็นก็ยังคงเอามือกดระหว่างขาเอาไว้ ส่งเสียงร้องครวญครางเหมือนหมูถูกเชือดแล้วชักดิ้นชักงอ และพวกมันที่โดนทำให้ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้นั่นก็ถูกเหล่าผู้ปราบมารเค้าลงดาบขับไล่ไปทีละตัว
“ ……ก็ได้ยินรายละเอียดมาแล้วหรอก……แต่เป็นไคอิตกค้างที่สุดจะสติแตกของแท้เลยนี่หว่า ”
พลังพิเศษของรุ่นพี่โคฮินาตะที่แผลงฤทธิ์ให้เห็นอยู่ต่อหน้านั่น ทำเอาฉันถึงกับหำสั่นขึ้นมาเลยทีเดียว
ความสามารถที่ซึมฝังลึกเข้าไปในตัวรุ่นพี่โคฮินาตะเข้าซะได้ นั่นก็คือพลังในการมอบความเจ็บปวดรวดร้าวอย่างรุนแรงให้กับระหว่างขาของผู้ชายที่คิดเรื่องหื่นๆอยู่ภายในขอบเขตที่พลังครอบคลุมไปถึง แล้วก็อย่างที่เพิ่งเห็นไปตะกี้แหละ ต่อให้เป็นร่างวิญญาณก็ยังไม่อาจรอดพ้น
เป็นการนำเอาไคอิโฮเทลราพันเซลซึ่งจะ [จับตัวผู้ชายที่น้ำแตกถึงจุดสุดยอดภายในต่างมิติมาให้ประสบพบเจอกับความทุกข์ทรมาน] นั่นมาลดระดับย่อส่วนลงในแง่มุมต่างๆจนเกิดมาเป็นความสามารถนี้ละนะ
แถมพลังพิเศษนี้มันยังจะมีอานุภาพเพิ่มลดอย่างรุนแรงโดยแปรผันตามความหวาดกลัวของรุ่นพี่โคฮินาตะด้วยแหละ กล่าวคือยิ่งรุ่นพี่กลัวมาก ความเจ็บปวดที่มอบให้และขอบเขตที่พลังครอบคลุมไปถึงก็จะยิ่งรุนแรงและกว้างขวางมากขึ้นนั่นเอง เห็นเค้าว่าจำเป็นต้องสังเวยผู้ปราบมารเพศชายไปเป็นเหยื่อลองยามากมายพอดูเลย กว่าจะสามารถวิเคราะห์คุณสมบัติลักษณะของไคอิตกค้างนี้ได้น่ะ เอ้อ ผู้ชายปกติทั่วไปก็นึกถึงเรื่องหื่นๆหนึ่งครั้งในรอบสามวินาทีเลยนี่นะ……
เป็นพลังที่ควบคุมด้วยความตั้งใจของตนเองได้ยากต่างกับแรงช้างสารของนางุโมะ แถมเนื่องจากมันเป็นความสามารถที่มีระยะการทำงานกว้างไกลสุดขั้ว ทางการก็เลยอยากจะทำให้อาการของโรคกลัวผู้ชายเบาลงอย่างเร่งด่วนเลยนี่แหละนะ
ฉันเองก็อยากจะให้รุ่นพี่โคฮินาตะได้ดำเนินชีวิตอย่างดีๆให้ได้โดยเร็วที่สุดเช่นกัน ก็เลยกะจะเข้าร่วมในการทำอาฟเตอร์แคร์ครั้งนี้อย่างสม่ำเสมออยู่หรอกนะ แต่……
“ อ๊าา……เผลอทำลงไปอีกแล้ว…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะทำหน้าเศร้าหมองที่เผลอเปิดใช้อำนาจของไคอิตกค้าง——พร้อมกับทำเนียนยืดมืออย่างสั่นๆเข้ามาใกล้ระหว่างขาของฉันไปพลาง
“ ก็ถึงถามไงว่านี่คุณเล่นอะไรมาตั้งแต่ตะกี้นี้แล้วห้ะครับ!? ”
“ ……เอ๊ะ? ก็ นั่นไงล่ะ ต้องรีบหาทางทำอะไรกับโรคกลัวผู้ชาย……ไม่อย่างนั้นจะเป็นการรบกวนต่อผู้คนโดยรอบ…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะทำดวงตาที่ดูเปราะบางนั่นให้ส่องประกายอย่างประหลาด ก่อนจะ
“ ……ฉะนั้นจึงต้อง……ทำเรื่องลามกแบบในเกมโป๊กับฮารุฮิสะคุง……เพื่อให้ชินกับผู้ชายในรวดเดียวเลย…… ”
ถึงยังไงก็เหอะ แต่ไม่เป็นวิธีรักษาที่โคตรจะเด็ดขาดเกินไปหน่อยเรอะ!?
ให้ว่าแล้ว มีตะหงิดๆมาซักพักแล้วเหมือนกันหรอก……
“ รุ่นพี่โคฮินาตะ นี่คุณแค่ฉวยโอกาสจากอาฟเตอร์แคร์ เพื่อจ้องกะจะผสมโรงทำเรื่องลามกอย่างเดียวเลยรึเปล่าเนี่ย……? ”
“ ……ถ้าใช่ แล้วจะทำไมเหรอ? ”
พาลใส่กันซะงั้น!?
“ ……ฮารุฮิสะคุง……ผิดเองนะ…… ”
พอฉันงงงันอยู่ รุ่นพี่โคฮินาตะก็กำมือของฉันเอาไว้แน่น ก่อนจะพึมพำออกมาราวกับว่าโทษกัน
“ ที่บีบบังคับช่วยเด็กไม่ดีอย่างฉันออกมา……ที่สอนให้ได้รู้จักกับอะไรที่รู้สึกดีขนาดนั้น……ฉะนั้น รับผิดชอบเลยนะ ”
“ เอ้ย รุ่นพี่โคฮินาตะ เดี๋ยว ก็บอกว่าเดี๋ยวไง——เหวย!? ”
ฉันที่ถอยกรูดหนีจากรุ่นพี่โคฮินาตะที่รุกเข้าใส่อย่างไม่ลดละ พลันขาสะดุดชนโซฟาจนล้มลงมาก้นจ้ำเบ้า และนั่นก็คงเป็นไปตามการคำนวณของรุ่นพี่โคฮินาตะละมั้ง รุ่นพี่โคฮินาตะจึงเอาร่างกายทับลงมาแนบชิดติดชนใส่ฉันที่ไม่อาจหนีไปไหนพ้น
“ ……อาฟเตอร์แคร์เอง ก็ถือเป็นงานของผู้ปราบมารเหมือนกัน……ใช่มั้ยล่ะ……? ”
มือของรุ่นพี่โคฮินาตะเริ่มที่จะล้วงเข้าไปใต้กระโปรงฉันอีกครั้ง
“ กะ ก็บอกว่าไม่ได้ไงครับ! ผมแค่บังเอิญเป็นผู้ชายคนแรกที่รุ่นพี่โคฮินาตะได้พูดคุยด้วยอย่างดีๆเท่านั้นแหละ ก็เลยแบบว่า พูดแบบนี้อาจฟังไม่ดีเท่าไหร่ก็จริง แต่ความรู้สึกนั่นมันก็เหมือนกับของที่ถูกประทับลงมาให้เฉยๆ…… ”
“ ……ฉัน……จำได้หรอกนะ…… ”
“ เอ๊ะ? ”
“ ฮารุฮิสะคุง……ช่วยต่อสู้สุดชีวิต……เพื่อฉันเลยนี่……แล้วก็ ในตอนที่ฮารุฮิสะคุงเข้ามาในตัว……ฉัน……ก็ได้ยินด้วยล่ะ ”
นั่นคงจะเป็น เรื่องในตอนที่ฉันถูกรยางค์ของรุ่นพี่โคฮินาตะกลืนเข้าไป แล้วได้สัมผัสกับภูมิทัศน์ภายในจิตใจของรุ่นพี่นั่นล่ะ
“ ฮารุฮิสะคุง……ไม่ได้มีเจตนาแอบแฝงเลยซักนิด……แต่คิดอย่างถ่องแท้เลย โกรธเพื่อฉัน จากใจจริงแท้เลย ใช่มั้ยล่ะ……? ”
ในตอนนั้น สภาพจิตของรุ่นพี่โคฮินาตะ กับสภาพจิตของฉันมันอาจจะผสมปนกันเข้าก็ได้
“ ฉะนั้นถ้าฉัน……จะต้องทำเรื่องลามกแล้ว……ก็อยากจะทำกับเธอน่ะ…… ”
“ …… ”
ถึงอย่างนั้นก็เถอะ
แต่แบบนี้มันก็ยังรู้สึกไม่แฟร์อยู่ดี เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วที่ผู้ปราบมารจะต้องช่วยเหลือผู้คน แถมถ้าเห็นอะไรที่สุดไร้เหตุผล คนเป็นมนุษย์ก็ย่อมต้องโกรธมีน้ำโหเหมือนกันหมดนั่นล่ะ
และถึงแม้จะไม่ใช่ต้นเหตุโดยตรง แต่คำสาปของฉันมันก็เป็นคล้ายๆต้นเหตุที่ทำให้รุ่นพี่โคฮินาตะถูกทำให้กลายเป็นไคอิด้วยไง
ฉะนั้นมันจึงรู้สึกขึ้นมาน่ะ ว่าจะตอบรับต่อความรู้สึกของรุ่นพี่โคฮินาตะแบบง่ายๆไม่ได้ ……แต่ถ้าปฎิเสธออกไปแรงๆ แบบนั้นก็จะเป็นการทำให้รุ่นพี่โคฮินาตะต้องเจ็บปวดอีก ฉะนั้นฉัน จึงคิดที่จะแถเอาตัวรอดไปจากที่นี่โดยการแทงเข้าเนื้อตัวเอง
“ รุ่นพี่โคฮินาตะ……จริงๆแล้วผม ทำในสิ่งที่รุ่นพี่โคฮินาตะต้องการไม่ได้น่ะครับ ”
“ เอ๊ะ……? ”
ฉันพยายามทำเสียงให้ดูร้อนรนคอขาดบาดตายที่สุด ก่อนที่จะกล่าวข้ออ้างนั่นออกมา
“ จริงๆแล้ว……จริงๆแล้วผม……นกเขาของผมมันไม่ขันน่ะครับ! ”
เชื่อแบบกึ่งๆสุดใจเลยทีเดียวว่าถ้าพูดออกไปแบบนี้แล้ว รุ่นพี่โคฮินาตะจะต้องตัดใจยอมแพ้จากการทำอาฟเตอร์แคร์แบบลามกอย่างแน่นอน ทว่า รุ่นพี่โคฮินาตะกลับพูด “……เห” พร้อมหรี่ตาเล็ก ก่อนจะ
“ ……ถ้าอย่างนั้น ต่อให้ล้วงเข้าไปในกางเกงในของฮารุฮิสะคุงซักเท่าไหร่ ก็คงไม่เป็นไรสินะ……? ”
“ ……เอ๊ะ? ”
“ ถ้ามันไม่แข็ง งั้นตรงนั้นก็จะไม่ใช่ตำแหน่งที่ทะลึ่งอีกต่อไป…… ต่อให้ฉันจะทำอะไรแต่ก็คงไม่มีทางผิดพลาดเกิดเป็นอะไรขึ้นมาไปได้……ฉะนั้นเพื่อที่จะรักษาโรคกลัวผู้ชาย……เผลอๆแล้วให้ปู้ยี่ปู้ยำแบบหนักๆเลยซะจะดีกว่าด้วยละมั้งเนอะ……? ”
ว่าแล้ว รุ่นพี่โคฮินาตะก็ถอดกางเกงใน ปลดตะขอบรา แล้วจึงทำท่าจะถอดชุดวันพีชต่อ——
“ ขอโทษครับอภัยให้ทีเถอะครับผมโกหกครับ! ผมโกหกฉะนั้นช่วยหยุดทีเถอะคร้าบบบ! ”
ฉันรีบหยุดรุ่นพี่โคฮินาตะเอาไว้สุดชีวิต
“ ……มาโกหก……รุ่นพี่ได้ยังไงกันฮึ……? ”
รุ่นพี่โคฮินาตะหัวเราะอย่างเย้ายวนดัง “ฮิ” ก่อนจะสวมกางเกงในกลับเข้าไปใหม่
อะ อะไรกันหว่า……ตัวรุ่นพี่ในตอนนี้นอกจากจะรุกใส่ไม่ยั้งแล้ว ยังรู้สึกเหมือนสัมผัสได้ถึงความ S ตัวแม่ด้วย…… พอฉันที่โดนรุ่นพี่จ้องเขม็งใส่กำลังตัวสั่นหงักๆร้อง “จะ จะโดนขูดรีดในเชิงกามๆแล้ว……!?” ปุ๊บ รุ่นพี่โคฮินาตะเค้าก็ถอนหายใจพร้อมพูดออกมาว่า “ช่วยไม่ได้น้า”
“ ……ถ้าไม่อยากถึงขนาดที่พูดโกหกแปลกๆเลยแบบนั้น……งั้นวันนี้จะยอมปล่อยให้รอดไปก็ได้…… ”
“ เอ๊ะ? ”
“ ……การขืนใจ……มันไม่ดีต่อทั้ง……ฝ่ายหญิงและฝ่ายชายเลยนี่นะ…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะว่าแบบนั้น ก่อนจะสวมเสื้ออีกชิ้นทับเอาไว้เหนือวันพีช
พอโล่งอกว่าในที่สุดก็สรุปได้ผลที่เป็นผู้เป็นคนซะที รุ่นพี่โคฮินาตะก็วางมือลงมาเหนือหัวฉันอย่างแผ่วเบา
“ ……แต่ว่า น่าสนุกจังเลยน้าา ”
แล้วจึงลูบไล้ไปตามหัวและแก้มฉันอย่างอ่อนโยนเอ็นดู พร้อมกล่าวกระซิบว่าอย่างนี้
“ ……ระหว่างโรคกลัวผู้ชายของฉันหายดี……กับฮารุฮิสะคุงโดนยั่วตบะแตกอดรนทนอยู่ไม่ได้อีกต่อไป……อันไหนมันจะเกิดขึ้นก่อนกันนะ? ”
“ ……ขึก ”
รุ่นพี่โคฮินาตะแสดงดวงตาของผู้ล่า แต่ก็ปลดปล่อยมนตร์เสน่ห์แสนอ่อนหวานและเย้ายวนให้พุ่งพวยออกมาด้วยในพริบตาเดียวกันไปพลาง ถอยเว้นระยะห่างออกมาจากฉัน
“ ……จะเรียกเธอ ให้มาทำอาฟเตอร์แคร์อีกแน่นอน……คราวหน้า เตรียมใจเอาไว้ให้ดีกว่านี้หน่อยนะ ”
ฉันที่ได้เห็นสีหน้านั้นของรุ่นพี่โคฮินาตะ พลันนึกถึงไอ้เจ้าบุรุษมาโซวิญญาณคนเป็น ที่โผล่มายังวิทยาลัยหญิงชิรายูกิเมื่อก่อนหน้านี้ แล้วร้องแรกแหกกระเชอว่า “ท่านราชินีในอุดมคติเอยอะไรเอย” นั่นขึ้นมา
(ไอ้เจ้าโรคจิตนั่นมันตาถึงจริงงั้นสินะเนี่ย……)
ดูเหมือนว่านกในกรงที่ฉันช่วยออกมานั่น จะไม่ได้เป็นแค่นกน้อยแสนอ่อนแอที่มีดีแต่รูปโฉมงดงามเพียงอย่างเดียว
แต่เป็นนกล่าเหยื่อกินเนื้อ ที่จะดึงดันไล่ล่าไม่ยอมปล่อยให้อาหารอันโอชะหนีหลุดรอดไปได้ซะละมั้ง
หลายวันให้หลังจากที่ฉันไปหารุ่นพี่โคฮินาตะ
โรงเรียนปราบมารกำลังจะทำการประกาศผลการประเมินรอบที่สองของปีนี้ ทำให้ไม่ว่าจะที่ไหนก็พากันเปี่ยมล้นหน้าตาตื่นไปด้วยความตื่นเต้นกันหมด ในช่วงเวลาที่ผลงานซึ่งก่อสร้างขึ้นมาในช่วงปฎิบัติงานเป็นทีมจะได้รับการประเมินตามความจริง ทำให้คาดหวังว่าจะได้ในอนุญาตชั่วคราวหรือใบอนุญาตตัวจริง และตั้งฝันว่าจะได้ยกระดับฐานะให้มีหน้ามีตาขึ้นไปอีกแห่งนี้ ทั่วโรงเรียนต่างก็เปี่ยมล้นไปด้วยความคึกคักหมดนั่นล่ะ
ในบรรดานั้น ก็มีโซยะที่เพิ่งจะมาโรงเรียนหลังได้ออกจากโรงพยาบาลซะทีเมื่อวานนี้แหละลิงโลดมากเกินหน้าเกินตาใครๆเลยเชียว
“ นอกจากจะคลี่คลายเหตุการณ์โฮเทลราพันเซลลงได้แล้ว ยังจัดการจนเผ่ามารต้องถอยหนีไปเลยเชียวนะ!? แบบนี้ต้องได้ใบอนุญาตตัวจริงไม่มีผิดไม่มีพลาดแน่นอนเลยเนอะ! ”
โซยะที่ถ่อมายังห้อง D นั้นหันหลังขวับให้กับฉัน แล้วกำลังคุยกับคาราสึมะอยู่แน่ะ
เรื่องของเผ่ามารนี่พูดดังมากไม่ได้ก็เลยลดระดับเสียงลงมาหรอก แต่โซยะที่เชื่อมั่นสุดใจว่าจะต้องได้ใบอนุญาตตัวจริงแน่นอนนั้นก็กำลังแสดงความยินดีปรีดาออกมาด้วยร่างกายทั้งตัวเลยทีเดียว
ถ้าได้ใบอนุญาตตัวจริงมา ก็จะสืบข้อมูลเกี่ยวกับเนตรมารฝันได้เพิ่มมากขึ้น ทำให้เข้าใกล้เป้าหมายคือการคลายคำสาปไปได้อีกก้าวนั่นล่ะ ฉะนั้นโซยะจะตื่นตัวโอเวอร์เกินเหตุไปก็ไม่แปลกหรอก
……ถ้าอารมณ์ดี๊ดีแบบนั้น อาจจะเข้าไปชวนคุยได้อยู่มั้ง?
ฉันเฝ้าหาจังหวะ ก่อนจะส่งเสียงเข้าไปหาโซยะด้วยท่าทางเหมือนไม่คิดอะไรมากมาย
“ แต่เธอเนี่ยน้า พอลืมตาตื่นแล้วก็กลับมาเป็นยัยเซ่ออ่อนด๊อยเหมือนเดิมเลยไม่ใช่เรอะเฮ้ย ถ้าได้ใบอนุญาตตัวจริงมาทั้งๆที่พลังวิญญาณระดับลูกเจี๊ยบแบบนั้น มันจะไม่น่าหวาดเสียวหรอกเรอะ? ”
ใช่แล้ว
พลังวิญญาณแสนยิ่งใหญ่เกรียงไกรของโซยะที่ถล่มมิโฮโตะและทำได้ไปถึงขั้นวางผนึกใส่เทคโนเบรคเกอร์ได้ใหม่อีกรอบนั่น มาตอนนี้ดันหวนกลับกลายเป็นระดับห้อง D ไปอีกแล้ว
แถมเท่าที่ได้ยินเค้าเล่าต่อมาอีกที เหมือนว่าตัวโซยะจะจำสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนั้นไม่ได้เลย ทำให้ไม่มีใครล่วงรู้เลยแน่ะ ว่าทำยังไงโซยะถึงสำแดงพลังวิญญาณมหาศาลขนาดนั้นออกมาได้
ฉะนั้นจึงต้องขอให้คาเอเดะรับช่วงทำหน้าที่ตรวจวินิจฉัยตามวาระสืบเนื่องต่อไป และโซยะก็ยังคงอยู่ห้อง B ทั้งอย่างนั้นด้วย
ก็ไม่รู้แน่ชัดไง ว่าเค้าจะมอบใบอนุญาตตัวจริงให้กับทีมที่คอยจะผีเข้าผีออกเอาแน่เอานอนไม่ได้ขนาดที่เคยเผชิญกับวิกฤตส่อแววถูกเพิกถอนใบอนุญาตชั่วคราวมาแล้วครั้งนึงอย่างพวกเราจริงรึเปล่า——ฉันก็เลยหยิบเอาประเด็นตรงนี้มาใช้เพื่อชวนโซยะคุยไง แต่ว่า……
“ ……ฮึก! ”
พริบตาที่ได้ยินเสียงฉัน ไหล่ของโซยะก็ถึงกับสะดุ้งโหยง
พอเอาแขนโอบรอบร่างกายตัวเองแน่นแล้ว โซยะก็พุ่งเข้าไปหลบหลังคาราสึมะด้วยการเคลื่อนไหวราวกับเป็นสัตว์น้อยตัวเล็กๆ
แล้วพอแพลมเฉพาะครึ่งท่อนบนของหน้าให้โผล่ขึ้นมาจากไหล่คาราสึมะปุ๊บ คุณหล่อนก็เขม่นมองเข้ามาใส่ด้วยหน้าแดงแจ๋เลยเว้ยเฮ้ย
“ ก็บอกไปแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าห้ามคนโรคจิตลวนลามเข้ามาใกล้ภายในรัศมีสามเมตรน่ะ……! ”
“ ก็บอกอยู่ไงว่านั่นฉันถูกมิโฮโตะควบคุม……แถมอยู่ในห้องเรียนแบบนี้มันจะไปถอยห่างถึงสามเมตรได้ที่ไหนกันฟะ! ”
“ เถอะน่า! ฟุรุยะคุงน่ะไปตรงโน้นเลยนะไปๆ! อย่ามาทางนี้นะ! ”
ฟ่อออ! โซยะข่มขู่ใส่กันด้วยท่วงท่าหยั่งกับแมวเหมียว
เนี่ยเป็นแบบเนี้ยตลอดเลย
อ่าก็แบบ ตัวฉันเองก็คิดเหมือนกันแหละว่าช่วยไม่ได้
ถึงจะเป็นผลลัพธ์ที่เกิดจากการถูกมิโฮโตะควบคุมก็เถอะ แต่นอกจากจะเล้าโลมใส่จนมันมือแล้ว ยังจะไปแตะโดนจุดสงวนของเด็กผู้หญิงที่ไม่ได้คบหาดูใจกันอยู่ซะหน่อยด้วยนี่นะ แถมโซยะยังได้รับผลกระทบจากการมองเห็นอะไรต่อมิอะไรมากมายผ่านเนตรมารฝันจนกลายเป็นหยะแหยงเกลียดเรื่องลามกไปเลยด้วย ถ้าไม่เคืองหนีหน้ากันแบบนั้นสิแปลก
แต่ก็เหอะ โดนหนีหน้าอยู่เรื่อยแบบนี้มันก็ชวนปวดใจจริงๆนั่นแหละ แถมยังจะเป็นผลเสียต่อการงานภายหลังจากนี้อีกด้วย
ก็เลยครุ่นคิดปวดหัวว่าต้องทำยังไงถึงจะกลับมามีความสัมพันธ์กันแบบก่อนหน้านี้ได้อะนะ……แต่ก็ยังนึกแผนปรับสถานการณ์ดีๆไม่ออกเลยซักนิด
ต่อให้คิดจะไปปรึกษาใคร แต่เรื่องที่ฉันกับโซยะไม่ลงรอยกันนั่นก็ได้ถูกรู้ไปถึงหูผู้คนโดยรอบเรียบร้อยแล้ว
“ หึฮ่าฮ่า ก็ไม่รู้หรอกนะว่าเกิดเหตุเช่นใดแบบไหนอย่างไรขึ้นมา แต่ท้ายที่สุดแล้วฟุรุยะก็เป็นเพียงอสูรกายธรรมดาเช่นเดียวกันสินะนี่ ”
คาราสึมะมันปากเก่งด้วยท่าทางเหมือนรู้เรื่อง พร้อมกับฮุบสิทธิคุยกับโซยะไว้กับตัวเองเพียงผู้เดียว
นางุโมะก็เขม่นใส่กันแบบ “……ทำไมถึงไม่ลวนลามฉันมั่งวะ” อีกไง แถมซากุระก็กลายเป็นเอาแต่โปะขี้เถ้าเต็มจานกับข้าวมาให้กินทุกมื้อซะงั้นไป และพักนี้ก็ไม่ยอมปริปากคุยด้วยเลยอีกต่างหาก อย่างตอนนี้ก็กำลังปลดปล่อยแรงกดดันอย่างเงียบกริบอัดเข้ามาใส่อยู่จากตรงมุมห้องแน่ะ น่ากลัวว้อย
ยิ่งไอ้พวกควายห้อง D นี่ขั้นหนัก พวกมันถึงกับเข้าใจผิดเลอะเทอะเลยเถิดไปกันใหญ่เลยอีก
“ ไอ้เจ้าฮารุฮิสะ มันบังคับขืนใจเล่นเพลย์แปลกๆใส่มิซากิจัง จนส่อแววใกล้จะสลายทีมแน่ะเว้ย ”
“ ฮ้า~น ก็ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงได้รีบร้อนรนหาที่ตายถึงขนาดนั้น แต่ถ้ามันอยากตายโหงตายห่านักหนาก็เห็นทีต้องช่วยสนองให้ตามที่อยากหน่อยแล้วมั้ง ”
“ ถ้าสาปให้ตายนี่มีหวังโดนสะท้อนคำสาปกลับมาอีกแหง ถ้างั้นเปลี่ยนมารุมกระทืบแม่งแบบตรงๆกันซักทีดีป่ะ? ”
“ เรียกผู้ชายจากทั่วโรงเรียนมาเรียงแถวต่อยมันกันคนละหมัดดีกว่าเว้ย เป็นการเกลี่ยความรับผิดชอบแล้วฆ่ามันได้อย่างแน่นอนด้วยไง ”
เงี้ย พอถึงคาบพักแล้วก็จะมาสุมหัวรวมตัวกันเพื่อวางแผนการลอบฆ่าฉันอยู่เรื่อยเลยเว้ยเฮ้ย
จะยังไงก็ตามแต่ อยากจะหาทางปรับความสัมพันธ์กับโซยะให้ได้อย่างรวดเร็วหรอก ทว่า
“ ฟ่อออ! ”
โซยะก็เอาแต่ขู่กันหยั่งกับแมวอยู่นั่น เรียกได้ว่าอับจนหนทางอย่างแท้ทรู
ขุ่ก ไหงมันถึงได้กลายเป็นแบบนี้……
พอแหงนมองอย่างเคียดแค้นชิงชังลงไปยังสองมือที่เป็นตัวการของทุกสิ่ง และก็ยังคงเงียบกริบไม่ปริปากมาจนปัจจุบันปุ๊บ อาจารย์ประจำชั้นของห้อง D ก็พลันก้าวเข้ามาภายในห้องเรียน
“ โฮ้~ย จะประการผลการประเมินแล้วนะ นั่งที่กันได้แล้วๆ ”
ห้องเรียนที่อัดแน่นเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารพลันกลับมามีระเบียบเรียบร้อย ต่างคนต่างก็กลับไปยังที่นั่งของตนเอง
“ ……โอ๊ะ อยู่พร้อมกันสามคนพอดีเลยนี่นะ รอเดี๋ยวก่อนสิโซยะ มีเรื่องอยากจะคุยกับทีมของพวกเธอหน่อย ”
“ ฟุเอ๊? ”
โซยะที่จะเดินกลับไปยังห้อง B นั้นถูกอาจารย์เรียกตัวเอาไว้ แถมฉันกับคาราสึมะยังถูกอาจารย์กวักมือเรียกให้ไปหาอีก โดนเรียกให้ออกมายังทางเดินอย่างพร้อมหน้ากันทั้งสามคน
อะไรหว่า? ไหงถึงต้องทำเหมือนเลี่ยงสายตาคนแบบนี้……
พอสงสัยอยู่ อาจารย์ก็ลดระดับเสียงลงแล้วบอกกับพวกเรา
“ อ่า ก็น่าจะพอเดาได้อยู่แล้วหรอก พวกเธอได้รับมอบใบอนุญาตตัวจริงน่ะ ถือเป็นสถิติเร็วที่สุดไล่เลี่ยกันกับคุซึโนะฮะที่อยู่ปีสองเลย ”
“ สำ—— ”
โซยะกำลังจะเค้นทั้งร่างให้กางแขนไชโย แต่แล้วก็ต้องหยุดกึก
เพราะสีหน้าของอาจารย์ดูแปลกๆพิกลนั่นเอง
ว่าแล้ว อาจารย์ก็พูดต่อออกมาด้วยท่าทางที่เหมือนกับสับสนงงงวยหนักขั้นกว่าพวกเราอีก
“ เพิ่งจะเคยมีอะไรแบบนี้เป็นครั้งแรกนี่ล่ะ……ความจริงแล้ว เราถูกหยุดไม่ให้มอบใบอนุญาตตัวจริงให้กับพวกเธอน่ะ ”
“ เอ๊ะ!? ”
ผู้ที่ส่งเสียงขึ้นประท้วงก็คือโซยะ
“ อะไรกันคะ! ถูกหยุดนี่ ใครที่ไหนมีสิทธิอะไรมาหยุดกันเฉยเลยน่ะ!? ”
เรื่องนั้นน่ะนะ……เป็นในฉับพลันที่อาจารย์เกาหัวแกรกๆนั่นเอง
[คนที่สั่งให้พักการมอบใบอนุญาตตัวจริงเอาไว้ ก็คือฉันเองค่ะ]
ที่มีเสียงผู้หญิงซึ่งไม่คุ้นชินดังกังวานไปทั่วทางเดิน
พอสะดุ้งกับเสียงนั่นที่ดังมาจากบริเวณเท้าแล้วก้มหน้าลงมาดู ก็พบว่ามีแมวดำหนึ่งตัวอยู่ตรงนั้น
ไอ้เจ้านี่มันอะไรกันน่ะ……ชิกิงามิเรอะ?
“ ขะ คุณแม่!? ”
โซยะร้องเสียงดังลั่นออกมา โดยที่เบิกดวงตาซึ่งจ้องมองแมวดำนั่นให้กว้างอย่างตกตะลึง
คุณแม่ของโซยะนี่……เฮ้ยๆอย่าบอกนะว่า ผู้นำตระกูลโซยะ และเป็น 12 เซียนอัมพรที่ยังครองตำแหน่งอยู่เรอะ!?
ระหว่างที่พวกเราพากันตกตะลึง แม่ของโซยะก็เอื้อยเอ่ยออกมาอย่างเรียบเฉยผ่านแมวดำ
[จะกล่าวเฉพาะธุระอย่างเรียบง่ายเลยก็แล้วกันค่ะ มิซากิ ก่อนที่จะได้รับใบอนุญาตตัวจริงอย่างเป็นทางการแล้ว จงพาพวกคุณเพื่อนร่วมทีมมาที่บ้านเราครั้งนึงก่อนเถอะ]
ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน แต่แมวดำที่กล่าวออกมาอยู่ฝ่ายเดียวนั่นกลับหันดวงตามองตรงมาทางฉัน แล้วจึงหรี่ตาเล็กราวกับวิเคราะห์ประเมินราคา
[จะทำการทดสอบอย่างเป็นทางการค่ะ ว่าลูกได้พบเจอกับคู่หูที่เหมาะสมคู่ควรจะรับสืบทอดตระกูลต่อแล้วหรือยัง]
และแล้วแม่ของโซยะ ก็พลันกล่าวอย่างเด็ดขาดออกมาว่าอย่างนี้
[ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการทดสอบแล้ว อาจจะจำต้องยกเลิกการมอบใบอนุญาตตัวจริงให้กับลูกก็เป็นได้]
น้ำเสียงของเธอซึ่งเป็นผู้นำตระกูลคนปัจจุบันของ <<โซยะแห่งชิกิงามิ>> และเป็นถึง 12 เซียนอัมพรที่ยังครองตำแหน่งอยู่ด้วยนั้น เปี่ยมล้นไปด้วยแรงกดดันที่ไม่ยอมให้ขัดแย้งปฎิเสธใดๆได้เลยแม้แต่นิดเดียว