พริบตาก่อนหน้าที่หัวจะโหม่งพื้น
[——โอ๊ะๆ]
สองมือที่ได้มาซึ่งกำลังแขนอมนุษย์ ก็พลันถูกมิโฮโตะควบคุมให้ยันพื้นต้านแรงกระแทกเอาไว้โดยสมบูรณ์ ทำให้ฉันลงมาอยู่เหนือผืนดินได้อย่างปลอดภัยในสภาพยืนกลับหัวน่ะนะ
“ ……ฮะ ฮะฮะ ยังไม่ตายเว้ยเฮ้ย ”
พอฉันกลับมายืนดีๆด้วยหัวใจที่เต้นตูมตาม……ก็พบว่าภายในชั้นใต้ดินมีโซยะที่อ้าปากค้างอย่างตะลึง กับอันโดรมาเลียสที่เหมือนจะกำลังอ้าปากล่างให้แฉะโชกเจิ่งนองถึงขีดสุดอยู่
“ ……แฮ่กก❤ ……แฮ่กก❤ ขุ่ก ฮิ๊งง❤ ……อู๊ววววววววว❤ ”
กั่กกั่กกั่กกั่ก!
อันโดรมาเลียสทำทั่วร่างให้สั่นกระตุกหงักหงัก ใช้มือกดหัวนมขวาและระหว่างขาเอาไว้อยู่ในท่าผสานต้นขาให้ติดแนบชิดกัน
ลมหายใจอันหนักหน่วงและหวานเยิ้มเล็ดออกจากปาก แก้มนั่นก็แดงแจ๋ซะราวกับว่าร่านลึกถึงขีดสุด แม้จะเขม่นเข้ามาใส่พวกเราด้วยแววตาจงเกลียดจงชัง แต่ดวงตาที่เปี่ยมไปด้วยความเสียวนั่นก็ไม่อาจเห็นเป็นอื่นใดไปได้นอกจากกำลังยั่วยุให้ท่าอยู่อย่างเดียว
มีน้ำเหลวลึกลับไหลเป็นสายๆส่องประกายแสงชุ่มแฉะลามกลงมาตามต้นขา ที่เอามือซุกกระโปรงกดบริเวณระหว่างขาเอาไว้นั่นคงจะเพื่อยับยั้งไม่ให้มีน้ำเหลวสุดสัปดนหลั่งไหลออกมามากไปกว่านี้ละมั้งนะ แต่ก็เห็นได้ชัดเลยว่าปลายนิ้วนั่นกำลังขยับเล็กๆติ้วจุดเสียวของตนอยู่
“ บัง……อาจ……❤ ทำให้เค้า❤ คนนี้……❤ ต้องอับ……อ๊าาาววว❤!? ”
[เฮ้อ~ เป็นเพราะคุณขัดขืนก่อนที่จะโดนดีหรอกนะคะ? ก็เลยจิ้มจึ๊กใส่โพรงเสน่ห์กายิกสุขได้แค่จุดเดียวเลยนี่นา]
มิโฮโตะหัวเราะหึหึอยู่จากข้างหลัง ก่อนจะยกสองมือของฉันขึ้นมาอีกครั้ง
[เป็นยังไงบ้างคะ? ความรู้สึกที่โดนทำให้เสียวใกล้ถึงจุดสุดยอดแล้วหยุดให้อารมณ์ค้างกว่าหลายร้อยครั้งน่ะ โดยเฉพาะหัวนมขวานั่นคงจะคันเป็นพิเศษเลยใช่ไหมล่ะ? จะช่วยให้ได้ไปสบายเดี๋ยวนี้ละนะคะ]
เอ๊ะ……ถ้าเกิดว่าอีกฝั่งมีโพรงเสน่ห์กายิกสุข 2 จุดขึ้นไป แล้วเราจิ้มจึ๊กใส่แค่เพียงจุดเดียวขึ้นมา มันจะได้ผลแบบนั้นเรอะ?
พอฉันขนพองสยองเกล้ากับความจริงอันแสนน่าหวาดผวาอยู่
“ ใคร……มันจะไป แสดงสารรูปดูไม่ได้ให้น้ำหน้าอย่างมนุษย์เห็นกั……นนฮิ๊❤!? ”
เพราะโดนอัดด้วยเทคโนเบรคเกอร์เข้าไปแบบครึ่งๆกลางๆ ทั่วร่างก็เลยอ่อนไหวง่ายขึ้นมาละมั้ง อันโดรมาเลียสจึงสั่นร่างกายให้กระตุกหงึกๆไปพลาง วาดเส้นตรงสีดำขึ้นมากลางอากาศ
นั่นก็คือ——
“ เฮ้ยแย่แล้ว! มันจะหนีไปแล้วนะ! ”
เส้นตรงสีดำที่มันใช้แหวกห้วงมิติ ในตอนที่จะลักพาตัวฉันกับโซยะไปนั่นเอง
รอยฉีกของมิติที่น่าจะเกือบๆเสร็จสิ้นพร้อมใช้งานได้เรียบร้อยตั้งแต่ในตอนนั้น มันพลันแปลงสภาพกลายเป็นรูขึ้นมา และอันโดรมาเลียสก็กระโจนหนีเข้าไปภายในนั้นด้วยร่างกายที่น้ำเดินถึงขีดสุด
มิโฮโตะสะดุ้งแล่นสองมือให้พุ่งทะยานไปในทันทีหรอก——แต่ก็ไม่ทันการ
” อั๊ง❤ จำไว้เลยเชียวล่ะ……ฮั๊ง❤ ตอนนี้รู้ลึกรู้จริงแอ้ว❤ ว่าพวกเธอมันไม่ปกติ……จะกลับไปเตรียมพร้อมมาอย่างดี และในท้ายที่สุดก็จะถล่ม……เอาให้ย่อยยับเลย……ความยุติธรรมย่อมต้องชนะเสมอ……ฮิ๊งงง❤!? ”
อันโดรมาเลียสกล่าวทิ้งท้ายพร้อมส่งเสียงคราง ก่อนที่จะหายตัวไปจากเบื้องหน้าพวกเรา
บริเวณชั้นใต้ดินที่เพิ่งจะเกิดการห้ำหั่นกันครั้งยิ่งใหญ่มาตลอดจนถึงเมื่อกี้ พลันกลับมาเงียบสงบดังเดิมอีกครั้ง
มิโฮโตะเหวี่ยงสองมือฉันให้หมุนติ้วไปมา ก่อนจะครวญครางด้วยท่าทางเจ็บใจ
[อ๊าววว เผลอปล่อยให้หนีรอดไปจนได้ค่ะ ทั้งที่อาการคันนั่นมันไม่อาจถูกกำจัดให้หายเสี้ยนได้ด้วยอะไรอื่นนอกจากเทคโนเบรคเกอร์แท้ๆ……แบบนี้ทุกคนก็ไม่มีความสุขกันหมดทุกฝ่ายเลยนี่คะ! ฉันหิวมากแล้วนะ!]
มิโฮโตะกล่าวอะไรที่สุดจะน่าสยองออกมา ส่วนฉันก็สับสนไม่รู้ว่าควรจะสงสารหรือสมน้ำหน้าอันโดรมาเลียสดี ก่อนที่จะโล่งอกเพราะเห็นว่าในที่สุดเหตุการณ์มันก็สิ้นสุดลงได้ซะที
“ ……อ่า จะว่าไงดีล่ะ ขอบคุณนะ มิโฮโตะ ”
และพอทำใจให้สบายได้แล้ว ฉันก็ถือโอกาสนี้ กล่าวขอบคุณกับหญิงสาวที่กำลังท้องร้องจ๊อกๆไปซะด้วยเลย
“ ไอ้เจ้าคำสาปนี่มันสุดจะเฮงซวยก็จริงหรอก แต่เธอน่ะคอยช่วยเหลือฉันอยู่เรื่อยมาเลยใช่มั้ยล่ะ ฉะนั้นก็ขอพูดรวมถึงทั้งตลอดมาและในวันนี้ด้วยเลย ขอบคุณนะ ”
ไม่รู้เลยว่ายัยนี่เป็นตัวอะไร แต่ก็ควรจะพูดขอบคุณซะหน่อยนั่นแหละ
ฉันยิ้มอย่างเขินๆชอบกล ให้กับเธอคนนั้นที่ยังคงควบคุมสองมือของฉันอยู่มายันตอนนี้—–และก็เป็นในจังหวะนั้นเอง
[ช่วยไม่ได้ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็ขอเติมพลังงานที่ขาดหายไป ด้วยพวกคุณฟุรุยะ แทนก็แล้วกัน]
“ ห้ะ? นั่นพูดอ๊าาาาาาางงงงงงงงงงงงงงง❤❤❤!? ”
เรื่องมันเกิดขึ้นภายในพริบตาเดียว
มือขวาที่ถูกมิโฮโตะควบคุมพลันจิ้มจึ๊กเข้ากับบริเวณท้องฉัน ทำให้ฉันน้ำแตกแหลกกระจาย
แถมยังไม่ได้บัพจากบูสต์จุดกายิกสุขแต่อย่างใด แค่น้ำแตกถึงจุดสุดยอดแบบปกตินี่แหละ ข้างในกางเกงในมันยิ่งแฉะโชกหนักเข้าไปใหญ่ ร่างกายที่แต่เดิมก็เหนื่อยล้าถึงขีดสุดแล้วนั่น มันยิ่งรู้สึกอ่อนเพลียเพิ่มมากเข้าไปอีก
“ อุก นี่เธอ คิดอะไรอยู่น่ะ……!? ”
[อ๊ะ❤ ยังแข็งขันอยู่อีกสินะคะ บาดแผลก็ดูจะฟื้นฟูขึ้นมาหน่อยเนื่องจากการปรากฎตัวของฉันด้วยนี่นะ]
“ เฮ้ยหยุดนะ อย่า——อุกู้วววววววววววววววว❤❤❤!? ”
รอบที่สอง รอบที่สาม
โพรงเสน่ห์กายิกสุขบนร่างกายฉันถูกจิ้มจึ๊กเข้าใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้างในกางเกงในนี่คือถึงกับน้ำไหลท่วมทะลักดังปิ้วปิ้ววเลยทีเดียว
แน่นอนว่าไม่มีทางต่อต้านขัดขืนกำลังแขนแสนทรงพลังที่ถึงกับโค่นล้มเผ่ามารอย่างย่อยยับนั่นได้อยู่แล้ว ฉันที่โดนบีบบังคับให้น้ำแตกไหลซ่านอย่างต่อเนื่องหลายรอบติดจึงหมดสภาพแทบจะขยับเขยื้อนร่างกายไม่ได้เลย
“ ฟุ ฟุรุยะคุง!? เป็นอะไรไปเหรอ? นั่นทำอะไรอยู่น่ะ!? ”
โซยะที่เฝ้าดูท่าทางของพวกเราโดยที่ยังฟุบอยู่กับพื้น พลันส่งเสียงขึ้นมา
หยุดเหอะ……อย่ามองฉันในตอนนี้เลยขอร้อง……
[อั้มม❤ พลังงานทางเพศของคุณฟุรุยะมันเยี่ยมยอดเป็นพิเศษเลยจริงๆนั่นแหละค่ะ แต่ว่า]
มิโฮโตะที่เผยผิวสีน้ำตาลเงางามให้ดูเซ็กซี่ทรงเสน่ห์พร้อมปั้นสีหน้าอย่างเคลิบเคลิ้มนั่น พลันหันคอมองตรงไปทางโซยะ
[แค่นี้ยังไม่พอเลยซักนิดเดียวค่ะ]
โดยมีน้ำลายไหลเยิ้มออกมาท่วมปาก
“ เอ๊ะ……? ”
แต่โซยะที่ถูกผู้ล่าเพ่งเล็งหมายหัว กลับได้แต่ฟุบนิ่งอยู่กับพื้นไม่อาจขยับเขยื้อน
“ ไอ้บ้าเอ๊ย……อย่าใช้พลังนี้กับคนที่ไม่ได้เป็นไคอิสิวะ……! ”
คำพูดอันอ่อนแรงของฉันมันส่งไปไม่ถึงมิโฮโตะเลยซักนิด
ถูกสองมือที่ขยับไปเองโดยไม่เชื่อฟังตามความต้องการฉุดกระชากลากถู ส่งร่างฉันให้คลานดิ่งตรงเข้ามาหาโซยะ
“ ฮิ๊…… ”
ในระหว่างที่โซยะปล่อยเสียงอย่างหวาดผวาออกมา ฉันก็ล่วงรู้เข้าใจได้ในตอนนั้นทันทีเลย
(งั้นเรอะ……ที่จริงแล้ว สิ่งที่พ่อทำการผนึกเอาไว้มันไม่ใช่ความสามารถของเทคโนเบรคเกอร์ แต่เป็นนังนี่ต่างหาก……!)
ที่คาเอเดะคอยตรวจเช็คผนึกอยู่ทุกสัปดาห์นั่น ก็คงจะเพราะหวาดระแวงนังนี่แน่ๆ
และในตอนนี้ แม้จะไม่รู้ว่าทำไมแต่ผนึกนั่นมันก็ได้ถูกปลดลงไปแล้ว ไม่มีวิธีใดจะใช้หยุดนังนี่ได้อีกแล้ว
[เอาล่ะ โพรงเสน่ห์กายิกสุขของคุณมันอยู่ตรงไหนกันคะ?]
“ อ๊าายยย!? ”
มิโฮโตะที่ดวงตาส่องประกายระยิบระยับพลันใช้มือของฉัน ฉุดร่างโซยะขึ้นมา
ฝั่งด้านหน้า กับฝั่งด้านหลังของร่างกาย รวมไปถึงจุดที่มองเห็นได้ยากอย่างใต้รักแร้หรือหลังเท้าด้วย
ขยับร่างกายของโซยะที่เคลื่อนไหวดีๆไม่ได้อย่างง่ายดาย ตรวจเช็คอย่างถี่ถ้วนไปทุกซอกทุกมุมทั่วร่าง
[……อ้าว?]
และในท้ายที่สุด มิโฮโตะก็เอียงคอด้วยสีหน้าสับสน
[ไม่มี……โพรงเสน่ห์กายิกสุขนะคะเนี่ย?]
“ ……เอ๊ะ? ”
คำพูดนั่นทำเอาฉันต้องหันตามองไปทางโซยะ พอมิโฮโตะตรวจเช็คทั่วร่างของโซยะอีกครั้ง ฉันก็อาศัยจังหวะนั่นจ้องมองดูเรือนร่างของโซยะไปด้วยหรอก และก็พบว่าไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขอยู่เหนือร่างของโซยะจริงอย่างที่ว่านั่นเลย
(ไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขนี่……มันเป็นไปได้เรอะ?)
อย่าว่าแต่สิ่งไม่มีชีวิตเลย ขนาดข่ายอาคมกับกระสุนก้อนพลังงานก็ยังมีโพรงเสน่ห์กายิกสุขเลยนะ
[แปลกจริงเลยนะคะ ……ตรงนี้ล่ะเป็นยังไง]
ว่าแล้ว มิโฮโตะก็ใช้สองมือฉันจับหัวเข่าโซยะ ก่อนจะง้างให้อ้าออก ……เอ๊ะ?
“ กรี๊ดดดดดดดดด!? ม่ายยยน้าาาาาา!? ทำอะไรน่ะฟุรุยะคุงคนผีทะเล!! ”
“ มะ ไม่ใช่ฉันซะหน่อยเฟ้ย! อ่าแต่ว่าขอโทษนะไม่ได้เห็นหรอก! ไม่เห็นหรอก! ……เห็นแค่แว๊บเดียวเท่านั้นแหละ ”
“ ตะกี้แอบพูดอะไรเสียงค่อยอยู่สินะ!? ”
ขาของโซยะถูกเปิดให้อ้าอล่างฉ่างอยู่ต่อหน้าฉัน ทำให้เห็นกางเกงในสีขาวได้เต็มๆตาเลยทีเดียว
แต่ตรงนั้นก็ไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขอีกเหมือนกัน
แม้จะถูกโซยะเอามือตบหัวดังเพี๊ยะๆไปพลาง แต่ฉันก็โล่งอกจากสุดขั้วหัวใจ
(เกือบไปแล้วไงล่ะ ก็ไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขซะ โซยะก็น่าจะไม่ถูกมันทำอะไรหรอก)
คนที่ถูกบีบบังคับให้น้ำแตกไหลซ่านนี่มีแค่ฉันคนเดียวก็พอแล้ว——เป็นในนาทีที่โล่งใจแบบนั้นเลย
[มันยังไงกันนะ……แต่อื้ม ไม่มีก็ไม่เป็นไรหรอกนะคะ]
ที่สองมือซึ่งถูกมิโฮโตะควบคุม พลันฉุดฉันให้อ้อมไปอยู่ข้างหลังโซยะ
“ ห้ะ!? เฮ้ยมิโฮโตะนี่เธอ คราวนี้กะจะทำอะไรอีกน่ะ!? ”
“ เอ๊ะ!? เอ๊ะ!? ฟุรุยะคุง!? ”
แม้โซยะจะพยายามบิดตัวหนีด้วยใบหน้าที่แดงแจ๋เข้าไปอีก แต่สองมือของฉันก็พลันกอดรัดโซยะไว้จากข้างหลังไม่ยอมปล่อย
ด้านหน้าถูกประกบไว้ด้วยร่างกายอันอ่อนนุ่มอบอุ่นของโซยะ ด้านหลังถูกแนบชิดไปด้วยร่างกายอันอวบอิ่มเย็นเฉียบของมิโฮโตะ
พอฉันที่ถูกหนีบคั่นกลางอยู่ระหว่างเหล่าเด็กผู้หญิง กำลังแตกตื่นลนลานไปไม่เป็นอยู่ มิโฮโตะก็กล่าวกระซิบสิ่งที่สุดจะบ้าบอสติแตกออกมา
[ก็การจะทำให้มนุษย์ถึงจุดสุดยอดนี่ มันไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจของเทคโนเบรคเกอร์เสมอไปซะหน่อยนี่คะ]
ในพริบตาถัดมา ปลายนิ้วของฉันก็ลูบไล้อย่างแผ่วเบาไปตามต้นขาของโซยะเรียบร้อยแล้ว
“ อึ๊นฮ๊าาาวว!? ”
โซยะทำร่างกายให้สั่นเทิ้มดังหงึก! ก่อนจะแผดเสียงหลงที่ใกล้เคียงกับเสียงกรีดร้องออกมา
“ เฮ้ย……เธอนี่มัน ฉิบหายหนักยิ่งกว่าเทคโนเบรคเกอร์อีกไม่ใช่เรอะ! หยุดเลยนะเว้ยหยุดเดี๋ยวนี้เลย! ”
ฉันที่ใบหน้าแดงแจ๋พอกันกับโซยะ พลันประท้วงใส่มิโฮโตะในทันใด
เพราะเห็นได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้งแดงแจ๋เลยยังไงล่ะ ว่ามิโฮโตะมันคิดจะทำอะไรน่ะ
“ ละ ลวนลามล่ะ!? ฟุรุยะคุงชั่วที่สุด! อาชญากร! เดี๋ยวก็ฟ้องหรอกนะ! เดี๋ยวก็ไปฟ้องคุณคุซึโนะฮะกับซากุระจังหรอกนะ!? ”
โซยะหุบขาแน่น พร้อมพูดรัวออกมาด้วยท่วงท่าที่ดั่งลุกเป็นไฟ
“ เฮ้ยมิโฮโตะ! บอกให้หยุดไง! แม่มไม่ขำจริงๆแล้วนะเว้ย! ”
[งื้อ~ ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ฉันหิวนี่คะ]
มิโฮโตะดันเต้านมเข้ามาชนติดกับหลังฉันดังกึ๊ดดไปพลาง กระซิบอย่างขี้แกล้งอยู่ข้างหูของฉันกับโซยะ
[แถมต่อให้ฉันจะหิวยังไง แต่ก็จะไม่ทำอะไรแบบนี้ใส่คนที่รังเกียจจริงหรอกนะคะ เพราะไม่เหมือนกับจิ้มโพรงเสน่ห์กายิกสุข ฝืนขืนใจทำอะไรแบบนี้ไปก็ไม่ได้พลังงานซักเท่าไหร่ยังไงล่ะ]
“ รังเกียจหรอกอ้ะ! ฉันรังเกียจจริงๆเลยหรอกอ้ะ! ”
โซยะยิ่งเกร็งตัวมากเข้าไปอีก
แต่ในพริบตาที่มิโฮโตะทำดวงตาเป็นประกายอย่างประหลาด แล้วใช้นิ้วมือฉันลูบอย่างแผ่วเบาไปตามต้นขาของโซยะด้วยความประณีตราวกับไล้เฉพาะแค่ขนอ่อนเท่านั้นแหละ
“ ฮิ๊งง!? ”
ร่างกายของโซยะสั่นหงึกเข้าอีกครา ส่งให้เรี่ยวแรงเหือดหายไปจากร่างกายที่แข็งเกร็ง
แถมอุณหภูมิร่างกายของโซยะที่แนบชิดติดชนอยู่กับฉัน ยังพุ่งสูงระดับที่สัมผัสได้ชัดเจนผ่านเสื้อเลยอีกต่างหาก หน้ำซ้ำยังเริ่มจะมีกลิ่นหอมของเด็กผู้หญิงที่ยกระดับความหนาแน่นลอยโชยขึ้นมาจากบริเวณอกด้วย
[ฉันรู้หรอกนะคะ คุณโซยะ]
“ อึ้น อึ๊นน!? ”
สองมือฉันแล่นลูบไล้โลมเล้าราวกับจักจี้ไปทั่วต้นขาของโซยะ
แม้มิโฮโตะจะเป็นคนถือสิทธิบังคับควบคุม แต่สัมผัสของสองมือนั้นยังอยู่ดี
สัมผัสต้นขาอันอวบอิ่มมีน้ำมีนวลของโซยะมันจึงส่งต่อแบบชัดเจนมาตามนิ้วมือเลย
แต่ความรู้สึกที่ยั่วเย้าฉันกลับไม่ได้มีแค่นั้น
มืออ่อนนุ่มของโซยะที่จิกเล็บลงไปกับสองมือฉันเพื่อพยายามหยุดการลูบไล้โลมเล้า ลมหายใจของโซยะที่รั่วไหลอย่างรุนแรงราวกับพยายามกลั้นไม่ให้หลุดปล่อยเสียงครางออกมา อุณหภูมิร่างกายที่พุ่งสูงร้อนจี๋ ร่างกายอวบอัดที่สั่นไหวประสานไปพร้อมกับการลูบไล้โลมเล้า
ทั้งหมดทั้งมวลนั่นมันแก่งแย่งสติไปจากฉัน
[เหมือนจะไม่รู้สึกตัวก็จริง……แต่คุณโซยะ คุณน่ะ พอถูกคุณฟุรุยะทำแบบนี้ใส่แล้ว ก็รู้สึกชอบใจไม่หยอกเลยเหมือนกันใช่ไหมละคะ?]
“ มะ ไม่ใช่ซะหน่อยอ้ะ! ฉันไม่ใช่คนลามกแบบนั้นซะหน่อยอ้ะ! ตะ ต้องเป็นเพราะเธอใช้พลังพิลึกๆอะไรซักอย่างแน่เลยอ้ะ!! ——อ๊ะ ”
เป็นในระหว่างที่โซยะมัวแต่สนใจคำพูดของมิโฮโตะอยู่นั่นเอง——ที่มือของฉัน พลันถูกยัดเข้าไปซุกอยู่ตรงบริเวณระหว่างเข่าสองข้างของโซยะ
เท่านี้ โซยะก็จะไม่อาจหุบขาโดยสมบูรณ์ได้อีกต่อไปแล้ว
“ อะ……อุ……ยะ……อย่า—— ”
มือซ้ายของฉันลูบไล้ถึงไหนถึงกันให้ทั่วไปตามต้นขาด้านในอันอ่อนไหวยิ่งขึ้น ด้วยการแตะอย่างแผ่วเบาอ่อนแรงราวกับไล้เฉพาะแค่ขนอ่อน แบบเดียวกับทีทำมาตลอดจนตอนนี้
“ อึ้น……ฮิ๊งง!? ฮ๊าาวว!? ”
เรี่ยวแรงยิ่งเหือดหายไปจากร่างกายของโซยะมากขึ้นอีก
โทนเสียงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความตื่นตระหนกนั่นเริ่มที่จะถูกปะปนไปด้วยเสียงหวาน โซยะเองก็เหมือนจะรู้สึกตัวเหมือนกันละมั้ง เธอก็เลยพยายามกลั้นเสียงสุดชีวิตเลยทีเดียวหรอก แต่ยิ่งทำแบบนั้นลมหายใจก็ยิ่งฟืดฟาดรุนแรง สร้างความรู้สึกให้เห็นราวกับว่ายิ่งมีอารมณ์หนักเข้าไปใหญ่ และในที่สุดโซยะก็ก้มใบหน้าที่ถูกหุ้มปกปิดไว้โดยเส้นผมลงสู่พื้น หันเฉพาะมุมปากตรงเข้ามาทางฉัน
“ ฟุ รุยะคุง……จะทำไปมากกว่านั้น……ไม่ได้นะ……พวกเรามีหวัง……กลับมาเป็นเหมือนเดิม ไม่ ได้…… ”
ความร่าเริงแข็งขันดังเช่นปกติได้หายวับไปโดยสมบูรณ์
โซยะที่ปล่อยเสียงแผ่วเบาออกมาด้วยโทนเสียงจริงจังดั่งกับขอร้องวิงวอนนั่น ต่างกับตัวเธอในตอนปกติลิบลับเลยทีเดียว
จะทำเกินเลยไปกว่านี้ไม่ได้จริงๆ
เห็นฉันที่ร้อนรนเช่นนั้น กับโซยะที่ร้องไห้น้ำตานองเข้าแล้ว มิโฮโตะมันก็พลันยิ้มเยาะว่า [ไม่ได้สิคะคุณโซยะ] ด้วยท่วงท่าราวกับหยอกล้อพวกเรา ก่อนจะ
[นั่นมันคือปฎิกิริยา ที่ดั่งกับกำลังบ่งบอกให้ทำมากกว่านี้อีกดีๆนี่เองเลยนะคะ]
“ เฮ้ย อย่า—— ”
ไม่ยอมเงี่ยหูฟังคำห้ามปรามของฉันเลยแม้แต่นิด
นิ้วกลางของมือซ้ายฉัน พลันลูบอย่างรุนแรงลงไปยังผิวผ้าสีขาวที่ปกป้องพิทักษ์จุดสงวนของโซยะเอาไว้ในทันใด
——หนุบ
“ ————ขึก!? ”
ร่างของโซยะแอ่นไปข้างหลังอย่างรุนแรง
ปากที่เม้มเอาไว้แน่นนั่นไม่ยอมปล่อยเสียง โซยะเบิกตาโพลงราวกับทนระงับความรู้สึกนั้นเอาไว้ไม่ได้
และในฉับพลันให้หลัง การเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงของตัวโซยะ ก็ทำให้นิ้วมันลื่นเข้าไป—
——นวบ
นิ้วแล่นเฉี่ยว ร่องนูนอันอวบอูมผ่านเนื้อผ้า
“ ——ฮ๊าาวว❤❤!? ”
เสียงหวานระดับที่ไม่อาจปกปิดให้มิดไว้ได้อีกต่อไปพลันรั่วไหลออกมาจากปากโซยะ และเป็นในฉับพลัน ที่การกระทำอุกอาจของมิโฮโตะกำลังจะถลำเข้าไปยังระดับที่ไม่อาจแก้ไขได้ขั้นถัดไปนั่นเอง
ที่เกิดสิ่งอันยากจะเชื่อขึ้นมา
——จ้าาาาาาาาา!
“ [ฮึก!?] ”
ร่างของโซยะเริ่มจะปลดปล่อยแสงในระดับที่ชวนให้แสบตา
“ คราวนี้มันอะไรอีกเนี่ยเฮ้ย!? ”
และนั่นก็ไม่ใช่แสงธรรมดาซะด้วย นี่มันคือ——พลังวิญญาณเรอะ!? เอ้ยไม่ดิแต่ว่า มันจะเป็นไปได้ไง
(พลังวิญญาณระดับที่ขนาดฉันก็ยังมองเห็นได้นี่……มันจะเป็นไปได้——)
[เอ๊ะ? เอ๊ะ?]
ที่ตกตะลึงนั่นไม่ได้มีแค่ฉันคนเดียว
พอได้เห็นพลังงานมหาศาลที่เหยื่อปลดปล่อยออกมานั่นแล้ว มิโฮโตะเองก็ถึงกับเงิบอ้าปากค้าง ต้องหยุดการลูบไล้โลมเล้าลงกลางคันเช่นเดียวกัน
และในฉับพลันให้หลัง ก็เกิดเป็นบอลแห่งแสงทั้ง 5 ลอยแล่นทะยานผ่านอากาศออกมาจากกระเป๋าโซยะ
สิ่งที่ส่องประกายปล่อยพลังวิญญาณที่ถูกบีบอัดควบแน่นให้รั่วฟุ้งออกมานั่น ก็คือยันต์ 5 ใบ
ใบนึงเปิดขึ้นมาเป็นข่ายอาคม ราวกับเพื่อปกป้องรุ่นพี่โคฮินาตะที่หมดสติอยู่ตรงใจกลางของแท่นบูชา
ส่วนอีก 4 ใบที่เหลือนั้นลอยกระจัดกระจายไปทั่ว 4 ทิศ……ก่อนจะระเบิดบึ้ม
สิ่งที่ปรากฎกายออกมา ก็คือชิกิงามิขนาดใหญ่ยักษ์
หงส์แดง มังกรฟ้า เสือขาว เต่าดำ
แต่รูปทรงนั่น กลับไม่ได้เป็นเด็กผู้หญิงแสนน่ารักเวอร์ดิฟอร์มขนาดไซส์สองหัว ที่โซยะมักจะชื่นชอบใช้งานอยู่เสมอนั่นแต่อย่างใด
อสูรผู้พิทักษ์ที่มีรูปโฉมเหมาะสมคู่ควรกับนามสัตว์เทพ และพ่วงเปี่ยมไปด้วยความน่าเกรงขามและพลังวิญญาณอันสูงส่งท่วมท้นนั่น กำลังล้อมอยู่รอบตัวพวกเราเลย
——วู่มม!
“ [ขึก!?] ”
กรงเล็บของเสือขาวพลันแล่นทะยาน และการสะบัดมือเพียงครั้งเดียวนั่นก็กระชากตัวฉันกับมิโฮโตะให้ลอยปลิวกระเด็นออกห่างไปจากโซยะเลย
[นะ นี่มันอะไรกันคะ!?]
แม้มิโฮโตะจะพยายามตั้งท่วงท่าตาลีตาเหลือก แต่ลอยอยู่กลางอากาศแบบนี้ก็ไม่อาจขยับร่างกายได้
เป็นจังหวะประจวบเหมาะกับที่สัตว์ยักษ์ทั้ง 4 พุ่งอัดเข้ามา ทำให้ฉันกับมิโฮโตะถูกผนึกการเคลื่อนไหวเอาไว้โดยสมบูรณ์
สงสัยจะเปิดใช้ศาสตร์ข่ายอาคมแบบผสานสี่ตนเป็นหนึ่งอยู่ละมั้ง มิโฮโตะก็เลยขยับนิ้วมือไม่ได้เลยซักนิดด้วยซ้ำ
“ ห้ะ ไอ้เจ้าพวกนี้ แต่ละตัวมันมีระดับสเกลสูงสุดกู่ไปเลยนะเฮ้ย……!? ”
ตามเดิมแล้ว ชิกิงามิของโซยะมันน่าจะเป็นตัวสำหรับใช้งานทำเรื่องจุกจิกระดับ สเกล 1 นิดๆเท่านั้นเองแท้ๆ
แล้วนี่มันเกิดบ้าอะไรขึ้นกันแน่…เป็นตรงนั้นเอง ที่โซยะพลันยืนอย่างโซเซขึ้นมาอยู่เบื้องล่างสายตาของพวกเราที่สับสนงงงัน
“ ………… ”
แต่ ท่าทางนั่นดูประหลาดพิกล
ดวงตาของโซยะที่ปลดปล่อยพลังวิญญาณปริมาณมหาศาลให้พุ่งพวยออกมาจากทั่วร่างนั่นไร้ซึ่งแสงสว่าง ดูราวกับว่ากึ่งๆหมดสติไปเลยงั้นแหละ เธอเดินไปข้างหน้าด้วยฝีเท้าที่น่าหวาดเสียวทั้งอย่างนั้น ไต่ขึ้นหางมังกรฟ้ามุ่งตรงเข้ามาหาพวกเรา
“ โสะ โซยะ? นี่เธอ ไหวรึเปล่าน่ะ? ให้ว่าแล้วไอ้เจ้าพลังนี่มันคือ……!? ”
“ ………… ”
ขนาดฉันส่งเสียงทักเข้าใส่ โซยะก็ยังไม่ตอบกลับมาเลยซักนิด
สติของโซยะหลุดลอยหายไปยังที่อื่นราวกับเป็นมิโกะที่ได้รับคำชี้แนะแห่งสวรรค์ และคุณหล่อนก็เหยียดมือเข้ามาหาฉันทั้งที่อยู่ในสภาพแบบนั้น
เหยียดเข้ามาหาสองมือของฉันนั่น
“ ……วิเคราะห์……ศาสตร์วิชา…… ”
“ ฮึก!? ”
แสงสว่างที่อยู่ตรงมือของโซยะยิ่งเพิ่มพูน ก่อนจะแตะต้องเข้ากับมือของฉัน และในท้ายที่สุด โซยะก็ปล่อยเสียงออกมาด้วยท่วงท่าที่ราวกับได้รับสัญญาณมาจากอะไรซักอย่าง
“ ……งั้นเหรอ……คุณพ่อของฟุรุยะคุง……ดึงเอาพลังวิญญาณของฟุรุยะคุงมาใช้……เพื่อทำการผนึกทั้งสองช่องทาง ทั้งภายนอกและภายใน……เลยงั้นสินะ…… ”
“ โซยะ……นี่เธอ……!? ”
กำลังวิเคราะห์ศาสตร์วิชาที่พ่อร่ายใส่ฉันอยู่งั้นเรอะ!? แต่ไอ้นี่มันแบบว่า เป็นอะไรที่โคตรยากระดับที่คาเอเดะก็ยังต้องขอเวลาไปเตรียมการเลยนี่……
บ้าบอคอแตกมากเกินไป แล้วพอฉันพูดอะไรไม่ออกอยู่
[เอ๊ะ? อ้าว? ชะ ช่วยรอเดี๋ยวก่อนสิคะ!]
มิโฮโตะพลันแผดเสียงร้องอย่างสับสน ร่างกายนั่นค่อยๆถูกดูดหายเข้าไปในสองมือทีละนิด
[ยะ หยุดทีเถอะค่ะ! อุตส่าห์ใช้พลังงานทางเพศที่ได้จากคุณบาทหลวง สเกล 7 เป็นแกนเพื่อดัดแปลงสร้างผนึกขึ้นมาใหม่อย่างยากลำบากแท้ๆ……อุตส่าห๋ได้ปรากฎตัวออกมาแล้วแท้ๆอ่าาาาาา!]
มิโฮโตะทิ้งเสียงร้องอย่างเศร้าโศกเอาไว้ ก่อนจะถูกดูดหายเข้าไปโดยสมบูรณ์
“ ……ฟุรุยะ……คุง……กำไล…… ”
“ เอ๊ะ? อ๊ะ? อ๋อ! ”
ฉันทำตามคำพูดของโซยะที่จิตไม่อยู่กับตัว ใช้สองมือที่เป็นอิสระซักทีค้นเข้าไปในกระเป๋า แล้วจึงหยิบเอากำไลติดกางเขนเงิน อันเป็นเครื่องมือสำคัญของผนึกที่ถูกถอดไว้มาตลอดออกมา
พอโซยะรับเอามันไปแล้ว คุณหล่อนก็ทำการส่งพลังวิญญาณของตนให้ไหลเข้าไป ก่อนจะสวมมันให้กับสองมือของฉัน
พอทำเช่นนั้นแล้ว เค้าลางของมิโฮโตะก็สูญหายไปโดยสมบูรณ์เลย
คราวนี้แหละ เป็นนาทีที่เหตุปั่นป่วนทั้งหมดทั้งหลายได้จบสิ้นลงจริงๆแล้ว
“ โซยะ……เธอ…… ”
ทำยังไงถึง เอาพลังสุดจะบ้าแบบนี้มาได้……
แม้จะใช้ศาสตร์วิชาได้อย่างกว้างขวางหลากหลาย แต่พลังวิญญาณนั้นเรียกได้ว่าต่ำต้อยสุดขั้ว
คนไม่เอาอ่าวของตระกูลเก่าที่มีจุดเด่นแค่เนตรมารฝัน……นั่นแหละคือโซยะ มิซากิไม่ใช่เรอะ
แต่ก่อนที่ข้อสงสัยของฉันจะทันได้รับคำตอบ——วูบ
เหล่าชิกิงามิขนาดใหญ่พลันสั่นให้ร่างยักษ์โซเซ ราวกับว่าแบตหมดขึ้นมางั้นแหละ
หลังจากที่ปล่อยฉันและโซยะลงมาไว้กับพื้นแล้ว พวกมันก็หวนคืนกลับไปเป็นเศษกระดาษเฉยเลยซะงั้น
และในจังหวะเดียวกัน พลังวิญญาณมหาศาลที่รั่วไหลออกมาจากร่างของโซยะก็หายวับไป พร้อมกับที่คุณหล่อนล้มฟุบดังแผละลงกับพื้น
“ เฮ้ยโซยะ!? เป็นอะไรรึเปล่า!? ”
พอฝืนฉุดร่างที่สะบักสะบอมเข้าไปใกล้
“ ……ฟี้ ฟี้ ”
ก็พบว่าโซยะนั้นหมดสติ กำลังนอนส่งเสียงลมหายใจอย่างแสนสบายใจเฉิบอยู่ ดูท่าจะแค่เป็นลมไปเฉยๆสินะ
“ ……มันบ้าอะไรกันเนี่ย ”
เริ่มจากการโจมตีของเผ่ามารที่เหมือนจะจ้องต้องการชิ้นส่วน การปรากฎตัวของตัวตนลึกลับมิโฮโตะที่สถิตอยู่ภายในสองมือ แถมโซยะยังจะสำแดงพลังอะไรก็ไม่รู้ออกมาอีก——
“ ต่อให้ยังไงก็เหอะ แต่นี่มันจะมีปริมาณข้อมูลเยอะเกินไปแล้ว…… ”
เกินกว่าที่หัวและร่างกายจะรับไหวไปโดยสมบูรณ์ มันจะเกิดอะไรพิลึกพิลั่นมากเกินไปแล้ว
ทว่า ก็มีอยู่อย่างนึงที่ถูกเปิดเผยให้เห็นได้อย่างแน่ชัดแล้วในเหตุการณ์คราวนี้
(ต้องหาทางทำอะไรซักอย่างกับคำสาปนี้ที่สิงอยู่ในตัวฉันกับโซยะ ให้ได้โดยเร็วมากที่สุด……)
สถานการณ์ในตอนนี้มันไม่ใช่ระดับที่จะไล่หาทางคลายคำสาปด้วยเหตุผลส่งๆขอไปทีอย่าง เพราะเป็นความสามารถโรคจิตที่จะยอมให้ใครเห็นไม่ได้ หรือเพราะทำให้มีความรักแบบดีๆไม่ได้……อะไรแบบนั้นอีกต่อไปแล้ว
ไม่รู้ทำไม แต่เผ่ามารมันก็กำลังเพ่งเล็งหมายหัวพวกเราอยู่ และความเสียหายนั่นมันก็กระจายส่งผลไปจนถึงผู้คนโดยรอบพวกเราด้วยเลย
โดยเฉพาะเทคโนเบรคเกอร์ของฉันนี่ยิ่งแล้วใหญ่ รู้เข้าแล้วไงว่ามันมีไอ้ตัวที่อยากจะแล่นทำให้ผู้คนโดยรอบน้ำแตกถึงจุดสุดยอดด้วยเหตุผลสุดมึนตึ๊บอย่าง [ท้องมันหิว] อยู่น่ะ
เคราะห์ดีที่โซยะสำแดงพลังลึกลับทำการวางผนึกให้ใหม่ แต่ถ้าไม่เป็นแบบนั้น ก็ไม่อาจคาดเดาเลยว่าจะเกิดความเสียหายสุดสัปดนแผ่กระจายเป็นวงกว้างไปมากมายแค่ไหน
(คำสาปที่แม้กระทั่ง 12 เซียนอัมพรก็ยังต้องยกธงยอมแพ้นี่มันก็ชวนสิ้นหวังอยู่หรอก……แต่ตอนนี้ก็กลายเป็นว่าต้องหาทางคลายคำสาปให้ได้สถานเดียวแล้ว)
——พอฉันคิดไปได้ถึงตรงนั้น หัวมันก็พร่ามัวขึ้นมาอย่างฉับพลัน
รู้สึกเหมือนว่ามีคนกำลังพุ่งทะยานเข้ามาภายในชั้นใต้ดินเป็นจำนวนมากเลยก็จริง แต่แค่จะแผดเสียงออกมาก็ยังจะลำบากเลย
ทั้งกายและใจคงจะถึงขีดจำกัดของแท้เลยละมั้ง
ฉันก็เลยเป็นลมหมดสติ อย่างสนิทสนมเข้าคู่กันกับโซยะไปเลย
MANGA DISCUSSION