เขตเมืองที่อยู่อาศัยราคาแพงอันเงียบสงบ ซึ่งมีบ้านของโคฮินาตะ ชิซึกะ—ที่เป็นนักเรียนคนนึงแห่งวิทยาลัยหญิงชิรายูกิ—ถูกตั้งอยู่ภายใน
ณ ปัจจุบันที่เวลาผ่านไปซักระยะแล้วหลังจากที่โฮเทลราพันเซลถูกขับไล่ เมืองที่ถูกห่อหุ้มไปด้วยม่านยามราตรีแห่งนี้ก็กำลังถูกอัดแน่นเต็มเปี่ยมไปด้วยเหล่าผู้ปราบมารปริมาณมหาศาลกว่านับหลายร้อยคน อยู่ในสภาวะเฝ้าระวังอย่างเข้มงวดเลยนั่นเอง
[นั่นน่ะเรอะบ้านโคฮินาตะ……เอาคฤหาสน์ที่หรูหราโอ่โถงที่สุดภายในเมืองมาใช้เป็นแหล่งเพาะพันธุ์เลี้ยงดูไคอิเนี่ยนะ ไอ้พวกเศรษฐีคนมีตังค์นี่มันมีรสนิยมห่วยบรมเลยจริงๆให้ดิ้นตาย]
ณ รอบนอกเขตเมืองที่อยู่อาศัยราคาแพง ผู้ที่กำลังส่งแววตาเฉียบคมจากภายในสวนป่าธรรมชาติอันถูกใช้เป็นแหล่งที่ตั้งกองบังคับการปฎิบัติการ ตรงออกไปยังคฤหาสน์โคฮินาตะอันเป็นสถานที่ต้องบุกตรวจค้นนั่นก็คือ <<นางิสะผู้บดขยี้ศาสตร์วิชา>> ซึ่งเป็นผู้บังคับการสืบสวนของเหตุการณ์โฮเทลราพันเซลนั่นเอง
ตั้งแต่ที่เริ่มต้นสืบสวนเหตุการณ์โฮเทลราพันเซลอย่างจริงจัง นี่ยังผ่านไปได้ไม่ถึงวันเลยด้วยซ้ำ
ที่นางิสะตัดสินว่าตัวการของเรื่องอยู่ภายในคฤหาสน์โคฮินาตะ และสั่งให้มีการเคลื่อนพลล้อมรอบสถานที่เอาไว้อย่างเสร็จสรรพด้วยสปีดที่เร็วผิดปกตินั่น เป็นผลพวงมาจากความบังเอิญประการต่างๆที่ซ้อนทับกัน
สิ่งแรกสุดที่ถูกส่งตรงมาถึงหูของเธอ ก็คือเคลมที่ว่าเหล่าผู้ปราบมารของศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณภายในวิทยาลัยหญิงชิรายูกิได้ทำการละเลยต่อหน้าที่
เท่าที่ฟัง ดูเหมือนว่าในช่วงหลังเลิกเรียนของวันนึง เหล่าผู้ปราบมารจะพากันหายตัวไปหมดทุกคน ทำให้เกิดเป็นช่วงเวลาที่นักเรียนไม่อาจขอรับคำปรึกษาได้แน่ะ ข้อมูลพวกนี้หากเป็นยามปกติก็คงฟังแล้วปล่อยผ่านไปหรอก แต่นางิสะกลับตะหงิดใจกับคำว่า ‘วิทยาลัยหญิงชิรายูกิ’ ขึ้นมา—-นั่นคือชื่อโรงเรียนหญิงล้วนที่ออกกฎกีดกันผู้ชายอย่างสุดโต่งจนประหลาด ที่ครั้งนึงศิษย์รักเคยมาบ่นระบายให้ฟังอย่างยืดยาวนั่นนี่นา
รู้สึกว่าน่าจะมีความเกี่ยวข้อง กับไคอิที่ทำการกักกันตัวผู้ชาย
นางิสะที่เชื่อมั่นตามสัญชาติญาณและเซนส์ด้านวิญญาณของตน จึงได้มุ่งหน้าไปยังวิทยาลัยหญิงชิรายูกิ
และพอได้ฟังเรื่องราวของเหล่าผู้ปราบมารแห่งศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณที่นั่น ก็พบว่าท่าทางของพวกเค้านั้นดูแปลกไป
ต่อให้ถามอะไรไป ก็จะได้คำตอบทำนอง “ไม่มีความผิดปกติเป็นพิเศษค่ะ” มาท่าเดียว ต่อให้ตะคอกอัดใส่ว่าโรงเรียนหญิงล้วนจะไม่มีห่าอะไรเลยได้ไง แต่อีกฝั่งก็ยังยืนกรานไม่เลิก นางิสะที่เป็นคนใจร้อนจึงบังคับทำการเข้าสิงตรวจสอบเชิงวิญญาณใส่เหล่าผู้ปราบมารเสียเลย——แต่ผลการตรวจสอบ กลับเป็นอะไรที่บ้าสติแตกกว่าที่นางิสะได้คาดการณ์เอาไว้มากมายนัก
พวกเค้าทุกคน ได้ถูกวางโพรเทคอันทรงอำนาจให้คอยระงับความทรงจำส่วนนึงเอาไว้
และความทรงจำที่ถูกผนึกนั่น ก็คือเหตุการณ์ในช่วงที่พวกเค้าร่ายตรวจสอบเชิงวิญญาณเข้าใส่นักเรียนชื่อ โคฮินาตะ ชิซึกะ ตามที่ถูกฟุรุยะ ฮารุฮิสะขอร้องให้ช่วยจับตามอง จนตรวจพบเจอไคอิที่พัฒนาเติบใหญ่ขึ้นอย่างน่ากลัวชวนขนหัวลุก
พอนางิสะเริ่มขุดคุ้ยสืบสวนเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยของโคฮินาตะ ชิซึกะที่ไม่ได้มาโรงเรียนตั้งแต่หลายวันก่อนหน้า เธอก็สืบได้ข้อมูลมาว่ามีการจัดชุมนุมประหลาดที่มีเฉพาะผู้หญิงเท่านั้นจึงจะถูกอนุญาตให้เข้าร่วมขึ้นภายในคฤหาสน์ช่วงสุดสัปดาห์
แค่นั้นไม่พอ หลังจากตรวจสอบโพรเทคระงับความทรงจำที่ถูกวางไว้กับเหล่าผู้ปราบมารแห่งวิทยาลัยหญิงชิรายูกิดู สิ่งที่ลอยโชยเข้ามาให้ได้กลิ่นก็คือเค้าลางของเผ่ามารอย่างชัดเจน แถมยังเป็นคลื่นความถี่เดียวกับเจ้าตัวสุดอันตรายที่เอาไคอิสุดระยำตำบอนชื่อโลลิค่อนสเลเยอร์มาฝังไว้ในร่างของศิษย์รักด้วยอีกต่างหาก
นางิสะจึงทำการสั่งก่อตั้งทีมปฎิบัติการขึ้นในทันที แล้วจึงกำลังล้อมรอบคฤหาสน์โคฮินาตะอยู่อย่างในตอนนี้
“ คุณนางิสะ เกี่ยวกับคำร้องให้ 12 เซียนอัมพรออกปฎิบัติหน้าที่น่ะค่ะ ”
ณ กองบังคับการปฎิบัติการเร่งด่วน ที่ถูกตั้งอยู่ภายในสวนป่าธรรมชาติ
ผู้ที่ส่งเสียงทักเข้ามาจากเบื้องหลังของนางิสะที่แผ่จิตสังหาร ก็คือคุซึโนะฮะ คาเอเดะ——ตามปกติแล้วคาเอเดะจะเป็นคนที่สงบนิ่งเยือกเย็นอยู่เสมอหรอก แต่น้ำเสียงและอากัปกิริยาของเธอในตอนนี้กลับฉายแววให้เห็นถึงความร้อนรนอย่างยิ่งยวดเลยเชียว
ทว่าจะเป็นแบบนั้นก็สมควรแล้ว
ในระหว่างที่เหล่าผู้ชายซึ่งถูกจองจำอยู่ภายในเกมได้ถูกส่งตัวหวนคืนกลับมายังโลกจริงผ่านดีไวซ์ที่ใช้งานเรื่อยๆ ก็มีเพียงฟุรุยะ ฮารุฮิสะ และโซยะ มิซากิเพียงสองคนเท่านั้นที่ยังคงหายสาบสูญไม่ทราบข่าวคราว
เบาะแสร่องรอยที่หลงเหลือมีเพียงที่อยู่อาศัยของโฮสต์เจ้าของร่างที่นางิสะสืบค้นจนเจอเท่านั้น คาเอเดะจึงอาสาเข้าร่วมในปฎิบัติการครั้งนี้โดยไม่มีรีรอเลย
“ เห็นว่าผู้นำตระกูล <<โซยะแห่งชิกิงามิ>> จะกำลังรุดมุ่งหน้าตรงมาร่วมสมทบกับเราอยู่ค่ะ แล้วก็ คราวนี้คุณยายของฉันก็จะมาร่วมด้วยเช่นกัน ”
[แค่นั้นก็เหลือแหล่แล้ว พวกโซยะมันจะร่วมมือด้วยก็ไม่แปลกหรอก ลูกสาวสืบสกุลหายไปทั้งคนเลยนี่นะ แต่คิดไม่ถึงเลยแฮะว่ายายแก่สูตรโกงนั่นจะถึงกับออกมาด้วยตัวเองเลย]
ที่พวกแกแตกตื่นลนลานกันขนาดนั้น เป็นเพราะเหตุการณ์คราวนี้มีเจ้าฟุรุยะ ฮารุฮิสะที่ถูกสิงสู่โดย [โบราณวัตถุแห่งตัณหาชิ้นที่ 9] นั่นอยู่ด้วยเรอะ? ……นางิสะอยากจะไล่สอบถามไปแบบนั้นอยู่หรอก แต่เรื่องนั้นไว้ค่อยทีหลัง
ตอนนี้น่ะ เพ่งจิตคิดแค่จะกระทืบไอ้เผ่ามารเลวระยำที่ทะลึ่งทำอะไรไม่เข้าท่านั่นยังไงดีซะก็พอแล้ว
“ อาจารย์! ——ไม่ใช่สิ ท่านอธิบดีคะ! กางข่ายอาคมตรวจจับกับข่ายอาคมปกปิดทางหนี แล้วก็ทำการอพยพประชาชนเรียบร้อยแล้วค่ะ! ”
ผู้ที่วิ่งเข้ามายังกองบังคับการปฎิบัติการต่อจากคาเอเดะ ก็คือฟุมิโดริ ซากุระ
ศิษย์รักของนางิสะ และเป็นกรมตรวจสอบหน้าใหม่ที่ถูกมอบหมายให้ทำหน้าที่สั่งการในสถานที่ส่วนนึง
เธอคนนี้ก็เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของฟุรุยะ ฮารุฮิสะ จนฉายแววให้เห็นถึงความวิตกได้เหมือนกัน แต่ก็ทำงานได้อย่างเรียบร้อยตรงจุดละนะ
[ทำดีมาก เดือนหน้าเพิ่มเงินเดือนให้ 3 เท่าไปเลย]
“ เรื่องพวกนั้นช่างไปก่อนเถอะค่ะ! ——ที่สำคัญ เคลื่อนพลกองทัพออกมาอย่างยิ่งใหญ่ขนาดนี้นี่ แสดงว่ามันอยู่ภายในเมืองนี้จริงๆน่ะหรือคะ? เจ้า…เผ่ามารนั่น…… ”
คงจะเพราะเคยถูกเผ่ามารตนนั้นฝังไคอิเข้าไปอยู่ครั้งนึงละมั้ง พอเห็นดวงตาของซากุระที่สั่นไหวไปด้วยความกังวลใจ นางิสะก็พลันตอบกลับออกมาอย่างเพิกเฉย
[ไม่รู้]
“ เอ๊ะ ”
ซากุระอ้าปากค้าง ส่วนนางิสะก็ยกร่างกึ่งโปรงแสงให้ล่องลอยไปพลางตอบกลับมา
[แต่มีความเป็นไปได้สูงมาก เพราะไอ้เจ้าเผ่ามารมันเป็นพวกที่ชอบเฝ้าดูลำดับการเกิดกลายเป็นไคอิ และสภาพการลุกลามของไคอิกันยังไงล่ะ]
ด้วยเหตุนี้ นางิสะจึงคาดการณ์ว่าโอกาสที่เผ่ามารตนนั้นจะยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ภายในละแวกคฤหาสน์โคฮินาตะมีสูงพอสมควร
[เอาเป็นว่า เท่านี้ก็เตรียมการอะไรต่อมิอะไรเสร็จสิ้นแล้วละนะ ทีนี้ก็เหลือแค่ระวังไม่ให้มีพวกน่าสงสัยออกไปนอกเมืองได้ก่อนที่ 12 เซียนอัมพรทั้ง 2 คนจะเดินทางมาถึงเท่านั้น]
ให้ว่าแล้ว จะน่ากลุ้มก็ตรงที่พวกเราจะมีปัญญาสามารถมองทะลุการพรางตัวของเผ่ามารได้รึเปล่านี่ละนะ——นางิสะพูดออกมาโดยปกปิดใจจริงเช่นนั้นเอาไว้ ทว่ามันเป็นในฉับพลันนั้นเอง
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
““ ฮึก!? ””
ที่เกิดเสียงสนั่นดังลั่นกระหึ่มขึ้นกลางเมืองยามราตรี
“ อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาา!? ”
และที่ดังก้องอย่างต่อเนื่องให้ได้ยินขึ้นมาแว่วๆ ก็คือเสียงร้องลั่นที่เปี่ยมไปด้วยความเจ็บปวดของหญิงสาว
เสียงนั่นดังออกมาจากทิศที่ตั้งของคฤหาสน์โคฮินาตะที่พวกนางิสะเฝ้าเพ่งเล็งอยู่
และที่ลอยโชยเข้ามาในจังหวะเดียวกัน ก็คือไอพิษที่พุ่งพวยออกมาหนาแน่นอย่างกะทันหัน จนชวนให้สงสัยว่าตลอดจนตอนนี้มันถูกปิดฝาระงับเอาไว้หรือไง
[……ขึก!?]
เจอะเข้ากับทิวทัศน์ที่มองเห็นอยู่บนท้องฟ้าเหนือคฤหาสน์โคฮินาตะนั่นแล้ว นางิสะก็ถึงกับเบิกตาโพลงอย่างตกตะลึง
[นั่น……มันตัวบ้าอะไรกันน่ะ……]
สิ่งที่ทำให้นางิสะถึงกับอึ้งค้างพูดอะไรไม่ออก ก็คือหญิงสาวซึ่งน่าจะเป็นเผ่ามารที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศไปพร้อมปลดปล่อยไอพิษให้ฟุ้งไหลกระจายประดุจเลือด——ซะที่ไหน
ตัวตนที่แปลกประหลาด และสุดจะเชื่อมากยิ่งกว่านั่นหลายต่อหลายเท่า มันกระโจนตัวขึ้นมาสู่อากาศ
นั่นก็คือ หญิงสาวผมเงินผิวน้ำตาลที่แนบตัวชิดอยู่กับหลังของฟุรุยะ ฮารุฮิสะ
นางิสะรู้จักเค้าลางอันแปลกประหลาดนั่น มันคือเค้าลางของชาวสวรรค์อันสุดจะพิสดาร ที่เธอจับกลิ่นได้ในตอนที่ใช้เข้าสิงตรวจสอบเชิงวิญญาณใส่ฟุรุยะ ฮารุฮิสะนั่นเอง…แต่เป็นไปไม่ได้เลย การที่เจ้านั่นจะปรากฎขึ้นมาอยู่กับฟุรุยะ ฮารุฮิสะในตอนนี้ และกำลังพุ่งทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้าสูงราวกับจรวดมิสไซล์แบบนั้น มันเป็นไปไม่ได้เลยชัดๆ
[ไอ้ตัวพรรค์นั้น……ในตอนที่ตรวจสอบก่อนหน้านี้มันไม่น่าจะมีอยู่แน่ๆนี่หว่า……ไอ้ตัวที่แข็งแกร่งทรงพลังแบบนั้น……!]
แต่ในตอนนี้ เจ้านั่นมันก็ปรากฎขึ้นมาอยู่จริงๆแล้ว
……อย่าบอกนะว่า ศาสตร์เข้าสิงตรวจสอบเชิงวิญญาณของตนถูกมันหลอกตาเอางั้นเรอะ?
ในระหว่างที่นางิสะพูดอะไรไม่ออก ก็มีใครบางคนพลันทรุดล้มลงอยู่ข้างหลังเธอ
“ ……ไม่จริงนะ……โกหกใช่มั้ย ”
คุซึโนะฮะ คาเอเดะเปล่งเสียงอย่างตกตะลึงออกมาว่าเช่นนั้น ใบหน้าที่ไร้ซึ่งสีสันนั่นซีดเผือดหนักระดับที่ขาวเหมือนกระดาษเลยทีเดียว
“ เดี๋ยวสิ หล่อนเป็นอะไรไปน่ะนังจิ้งจอก!? ”
ท่าทางของคาเอเดะในตอนนี้มันผิดปกติมาก ขนาดที่ซากุระซึ่งชอบหาเรื่องตีกับคาเอเดะอยู่บ่อยๆนั่นยังถึงกับต้องพูดออกมาด้วยท่าทางเป็นห่วงเลยทีเดียว….คาเอเดะไม่แสดงปฎิกิริยาต่อเสียงผู้คนโดยรอบเลยแม้ซักนิด เอาแต่แหงนหน้าจ้องมองขึ้นไปยังหญิงสาวผมเงินผิวน้ำตาลที่ล่องลอยอยู่เหนือท้องนภาท่าเดียว—-จ้องมองโดยที่สอดมือขาวซีดเข้าไปในกระเป๋า แล้วกำอะไรบางอย่างที่อยู่ภายในนั้นเอาไว้แน่นกึ๊ด
[นั่นแก ทำอะไร……]
นางิสะสัมผัสเค้าลางของศาสตร์วิชาอันสุดจะน่าสะอิดสะเอียนได้มาจากกระเป๋าของคาเอเดะหรอก แต่แล้วก็ต้องล้มเลิกความคิดที่จะไล่สอบถามในทันใด
“ ——อย่ามาเล่นบ้าๆนะโว้ยยยยยยยยย!! ”
เพราะเผ่ามารที่แผดเสียงคำราม มันเริ่มที่จะสั่งสมพลังงานในปริมาณที่สุดจะบรรยายขึ้นมานั่นเอง
——เวรแล้ว
[เตือนถึงผู้ปราบมารที่อยู่ในระหว่างล้อมรอบทุกราย! ยกเลิกศาสตร์วิชาตรวจจับทิ้งให้หมด แล้วทุ่มสุดกำลังไปกับการป้องกันซะ!]
เมืองนี้แหลกกระจุยแน่ นางิสะที่สัมผัสได้เช่นนั้นพลันให้คำสั่งผ่านเครือข่ายไร้สายในทันทีหรอก——แต่ไม่รู้ทำไม ต่อให้รอคอยไปนานซักเท่าไหร่ การทำลายล้างครั้งยิ่งใหญ่นั่นมันก็ไม่เกิดขึ้นเสียที
“ ถึงจะเป็นชิ้นส่วนของท่านพระราชาก็เถอะ……แต่เค้าคนนี้ไม่มีทางจะมาพ่ายแพ้โดนน้ำหน้าอย่างมนุษย์ปราบลงได้เด็ดข๊าาาดดดดด! ”
ปริมาณพลังงานที่ไหลไปบรรจบรวมกันนั่น ทำให้ขนาดฉันที่ไม่ค่อยมีเซนส์ด้านวิญญาณเท่าไหร่ ก็ยังถึงกับต้องตัวสั่นขนลุกขนชันเลย
อันโดรมาเลียสที่บิดงอตัวอยู่เหนือหัว มันทำการปลดปล่อยกระสุนก้อนพลังงานลูกใหญ่เบ้อเริ่มลงมาใส่พวกเราที่กระโจนพุ่งตรงดิ่งขึ้นมาจากพื้นประดุจจรวดมิสไซล์
คงจะทำลงไปเพราะเลือดขึ้นหน้าโดยสมบูรณ์เลยละมั้ง
ทั้งที่ไอ้การโจมตีนั่น มันเพิ่งจะถูกทำให้ไร้พิษสงไปต่อหน้าต่อตาเมื่อตะกี้นี้เองแท้ๆ
ซื้ดซื้ดซี๊ดด! ว่าามม!
ต่อให้เป็นกระสุนก้อนพลังงานที่ใหญ่มากแค่ไหน แต่ถ้าทำให้น้ำแตกซะก็ไร้พิษภัย
ฉันกับมิโฮโตะไม่ได้ลดสปีดลงเลยด้วยซ้ำ พุ่งทะยานอัดตรงเข้าไปใส่อันโดรมาเลียสทั้งที่อยู่ในท่วงท่าประสานชิดติดกันแบบนั้นเลย
ยืดมือขวาเล็งไปยังแก้มของอันโดรมาเลียส และยืดมือซ้ายตรงเข้าใส่หัวนมข้างขวา
“ ——ขึก!! ”
เรียกได้ว่าใกล้สติแตกเต็มทีแล้วมั้ง อันโดรมาเลียสก็เลยย่นระยะห่างเข้ามา ก่อนที่จะรวบรวมพลังงานราวกับคิดจะระเบิดตัวตายเอาพวกเราร่่วมวงลงนรกไปด้วย ทว่า
“ ไปตายซะเหอะว้อยยยยยยยยยย!! ”
มือขวาของฉัน มันก็กระแทกกระทั้นอัดเข้าไปกลางแก้มของอันโดรมาเลียสได้เร็วยิ่งกว่า
“ ——อ๊าาาางงงงงงงงงงงงง❤❤❤!? ”
เสียงกรีดร้องหรือเสียงเสียวกระสันกันแน่
อันโดรมาเลียสที่ถูกจิ้มโพรงเสน่ห์กายิกสุขในฉับพลันเดียวกับที่โดนหมัดตั๊นเข้าเต็มหน้า พลันร่วงลงไปยังรูใหญ่ที่เชื่อมอยู่กับชั้นใต้ดิน พลาดไม่ทันได้จิ้มโพรงเสน่ห์กายิกสุขอีกจุดตรงหัวนมข้างขวาไปอย่างน่าเสียดายก็จริงหรอก——
“ แต่เท่านี้ก็ซัดสองหมัด ให้กับซากุระและรุ่นพี่โคฮินาตะได้แล้วเว้ย ”
เอ้อถึงจะเป็นผลงานมิโฮโตะซะเกือบหมดเลยก็เหอะนะ……พอละอายใจอยู่แบบนั้นปุ๊บ——ฟิ้วว
ร่างกายของฉันก็ถูกแรงโน้มถ่วงฉุดให้ร่วงหล่น ร่วงแบบหัวชี้พื้นเลยเว้ยเฮ้ย
“ จ๊าาาาากกกกกกกกกกกกกก!? ”
ดูท่าว่าจะไม่มีไปจนถึงความสามารถสุดสะดวกอย่างลอยเหินฟ้าแฮะ
ฉันจึงร่วงหล่นลงไปยังชั้นใต้ดิน ตามอันโดรมาเลียสไปติดๆเลย
MANGA DISCUSSION