“ แกมัน…… ”
สาวมัธยมปลายที่ปรากฎกายออกมาจากเงามืดอย่างกะทันหัน
ฉันเคยเห็นรูปโฉมนั่นมาก่อน
“ ผู้ใช้พลังวิญญาณเถื่อน ที่พูดอะไรต่อมิอะไรเป่าหูแม่ของรุ่นพี่โคฮินาตะเรอะ!? ”
ในโลกแห่งนี้ นอกจากเหล่าผู้คนที่ฝึกฝนศาสตร์ปราบมาร และลงทะเบียนฐานะนั่นกับสมาคมผู้ปราบมารอย่างเป็นทางการแล้ว ยังจะมีเหล่าผู้ใช้พลังวิเศษและผู้เชี่ยวชาญด้านพลังลี้ลับอยู่มากมายนับไม่ถ้วนเลย
ส่วนมากนั่นก็เป็นแค่คนที่บังเอิญมีเซนส์เชิงวิญญาณรุนแรงมาแต่เกิด หรือไม่ก็เป็นคนที่ทำการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับปรากฎการณ์เชิงวิญญาณเป็นงานอดิเรกหรอก แต่ภายในหมู่นั้นก็มีพวกที่เอาความสามารถและความรู้ของตนเองมาใช้ในทางที่ผิดอยู่ไม่น้อย
การคอยจัดการรับมือกับไอ้พวกนั้นมันก็ถือเป็นงานของผู้ปราบมารอย่างพวกเราเช่นกัน และหน่วยงานที่ถูกก่อตั้งขึ้นมาเฉพาะทางในด้าน [ศึกกับมนุษย์ด้วยกัน] นั่นก็คือกรมตรวจสอบ ที่มีอิมเมจรุนแรงในฐานะองค์กรชำระล้างภายในสมาคมผู้ปราบมารนั่นเอง
จะทั้งภูมิทัศน์ที่ฉันเห็นภายในตัวรุ่นพี่โคฮินาตะก็ดี ที่มันโผล่หัวออกมาในตอนนี้ก็ดี ทั้งหมดนั่นมันเป็นตัวชี้ให้เห็นว่านังสาวมัธยมปลายคนนี้เป็นพวกฝั่งชั่วไม่ผิดแน่ เป็นหนึ่งในตัวการที่ทำร้ายรุ่นพี่โคฮินาตะแน่ๆ
“ โผล่หัวออกมาได้หน้าตาเฉยเลยนะเว้ย……ช่วยมาด้วยกันทีบ้าบออะไรวะ! ”
จะใช้เทคโนเบรคเกอร์หรืออะไรก็ได้ที่มี ส่งตัวนังนี่ไปให้กรมตรวจสอบให้ได้เลย
ดวงตาที่เคลื่อนไหวเพราะความขุ่นเคืองพลันทำการไล่ล่าหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่อยู่เหนือร่างสาวมัธยมปลาย
ต่างกับตอนรุ่นพี่โคฮินาตะ พบเจอโพรงเสน่ห์กายิกสุขของสาวมัธยมปลายได้ในทันทีเลย
มีแสงส่องประกายสุดสัปดนที่บ่งชี้ถึงตัวตนของจุดน้ำแตกอยู่ตรงฝั่งด้านหน้าร่างกาย
“ ……ฮึก!? ”
แต่ในฉับพลันเดียวกับที่พบเห็นโพรงเสน่ห์กายิกสุขขึ้นมา ฉันก็ถึงกับตกตะลึงไปเลย
(โพรงเสน่ห์กายิกสุขมัน……มีสองจุด!?)
แก้มที่ถูกเพนต์เป็นลายหัวใจ กับหัวนมข้างขวา
แสงที่ไม่อาจมองพลาดไปเด็ดขาด มันลอยปรากฎขึ้นมาอยู่เหนือร่างกายส่วนนั้นของสาวมัธยมปลายแน่ะ
(ตลอดจนตอนนี้ พวกที่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขหลายจุดนี่ก็คือนางุโมะที่ปล่อยให้ไคอิอาการทรุดไปถึงขั้น สเกล 6 กับ——พ่อที่กลายเป็นยอดวิญญาณพยาบาท สเกล 7 เท่านั้นเองนะ……)
“ อื๊อ~ ผู้ใช้พลังวิญญาณเถื่อนเหรอ~ ”
สาวมัธยมปลายเอานิ้วจิ้มหนุบๆไปยังแก้มของตนเอง ยืนขวางกั้นอยู่เบื้องหน้าฉันที่หลั่งเหงื่อหนึ่งหยดไหลลงมา
“ ว่าตามตรงแล้วไม่อยากจะถูกจับไปเหมารวมกับไอ้พวกแบบนั้นเลยนา……เอ้อแต่ก็ช่วยไม่ได้เนอะ ก็การพรางตัวของเค้ามันสมบูรณ์แบบม๊ากมากจนไม่มีใครดูออกเลยนี่เนาะ❤ ”
“ ……ขึก! ”
เป็นตอนนั้นเอง ที่มีความทรงจำนึงแล่นเข้ามาภายในหัวของฉัน
[เฮ่อ~ ความแตกซะแล้วเหรอเนี่ย]
[งั้นก็ช่างมันละ ปล่อยเต็มที่เต็มกำลังเลยแล้วกันเนาะ❤]
ตอนที่จ้องมองดูพิธีกรรมอยู่ภายในตัวรุ่นพี่โคฮินาตะนั่น มันมีเสียงแทรกซ้อนเยอะเกินไปก็เลยไม่ทันสังเกต
แต่เสียงที่เพิ่งจะได้ยินเต็มสองหูอย่างชัดเจนของนังนี่ มันคลับคล้ายกับเสียงที่ดังออกมาผ่านซากุระที่ถูกฝังไคอิเข้าไปในร่างเป๊ะเลย แถมที่มันพูดว่า [พรางตัว] เมื่อตะกี้นี้
“ นี่หรือว่า แกคือ……! ”
นั่นคือความกลัวเรอะ หรือว่าเป็นความโกรธที่ก้าวล้ำไปเหนือกว่าความกลัวกันแน่
มือของฉันมันก็เลยสั่นระริกขึ้นมาโดยเกือบๆด้วยตัวเอง และโซยะที่อยู่เคียงข้างก็พลันปล่อยเสียงสั่นเครือออกมา
“ นะ นี่มันอะไรน่ะ……สามหมื่นสองพันครั้ง? วันนึงต้องช่วยตั……ซักกี่ครั้ง ถึงจะมีตัวเลขพุ่งขึ้นไปขนาดนั้นได้น่ะ……!? ”
……เอ้ยแบบว่ายัยนี่ ขนพองสยองเกล้าไปคนละทิศทางกับฉันเลยรึเปล่าเนี่ย?
ทว่าในพริบตาถัดมา โซยะที่เอามือถูๆเนตรมารฝันก็พลันหน้าซีดเผือดในทันใด
“ ……เอ๊ะ? มีเซ็……ครั้งก่อน เมื่อ 160 ปีที่แล้ว……!? ”
เป็นไปไม่ได้……โซยะเอ่ยออกมาอย่างตกตะลึงว่างั้น
“ ก็เคยเห็นคนที่ไม่มีประสบการณ์เรื่องอย่างว่า ถูกนับตรงนี้เป็น 30 ปี หรือ 40 ปีอยู่หรอก……แต่แบบนี้ แบบนี้มันไม่ใช่ตัวเลขของมนุษย์แล้ว……! ”
“ อะฮะฮะ แย่เลยแฮะ~ ”
สาวมัธยมปลายรับแววตาอันซีดเผือดของโซยะด้วยท่าทางขี้เล่น ก่อนจะส่องดวงตาให้เป็นประกาย
“ ถ้าไม่ได้พูดคุยสัมผัสตัวกันเป็นเวลานาน การตรวจสอบเชิงวิญญาณกากๆของมนุษย์ก็ไม่อาจจะมองทะลุเห็นธาตุแท้ของเค้าที่อวตารลงมาโดยวางลูกไม้เพื่อหลอกตาไว้โดยเฉพาะได้หรอกนะ ……แต่ก็สมกับเป็นชิ้นส่วนของท่านราชาจริงแฮะ ลบล้างเอฟเฟคของลูกไม้ทั้งหมดแล้วมองทะลุเห็นกันได้ตรงๆเลยเหรอเนี่ย ”
——ฟู่มม!
““ ……ฮึก!? ””
คงเห็นว่าไม่จำเป็นต้องปกปิดตัวตนอีกต่อไปแล้วละมั้ง
ไอพิษที่หนาแน่นระดับไม่ปกติซึ่งถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างของสาวมัธยมปลาย พลันห่อหุ้มกระจายไปทั่วทั้งชั้นใต้ดิน
พลังวิญญาณประหลาด ที่ต่างกับวิญญาณร้ายป่าเถื่อน และก็ไม่เหมือนไคอิที่พัฒนาแล้วอีกเช่นกัน
เป็นเค้าลางเดียวกันกับไอพิษ ที่พุ่งพวยออกมาผ่านร่างซากุระในตอนเหตุการณ์โลลิค่อนสเลเยอร์นั่นเลย
“ แต่ว่านา มันก็ช่วยไม่ได้อยู่แล้วป้ะ? ไหนๆก็อุตส่าห์ได้กายหยาบมาทั้งที ก็ต้องอยากลิ้มรสสัมผัสความเสียวที่ได้รับมาแหงอยู่แล้วสิ แต่ถึงงั้นมันก็ไม่มีผู้ชายตัวไหนที่เหมาะสมคู่ควรจะได้แอ้มเค้าเลยอะนะ จำนวนครั้งที่เล่นเสียวด้วยตัวคนเดียวมันก็เลยเพิ่มพรวดขึ้นมาแบบไม่มีทางเลือกเลยไง? ก็ พวกเค้า เป็นเผ่าพันธุ์ที่ชื่นชอบสิ่งที่สนุกสนานและเสียวซ่านที่ซู๊ดดไปเลยนี่นา ”
ตึง
“ ……ขึก ”
เห็นสาวมัธยมปลายที่ย่างกรายเข้ามาใกล้แล้ว โซยะก็พลันถอยหลังกลับ
ฉันทนได้แบบหวุดหวิดก็จริงหรอก แต่ถ้าให้พูดว่าไม่ได้หวาดกลัว “ตัวตนระดับสูง” ที่อยู่เบื้องหน้านี่เลยแล้ว นั่นก็คงเป็นโกหกคำโตดีๆ
ทว่าถึงอย่างนั้น ฉันก็จะก้มหัวยอมสยบให้กับไอ้บรรลัยที่พูดอะไรบ้าๆด้วยท่าทางบ้าๆกวนตีนอยู่ต่อหน้านี่ไม่ได้เด็ดขาด จะไปหวาดกลัวมันไม่ได้โดยเด็ดขาด จะหันหลังวิ่งหนีเพื่อเอาตัวรอดไม่ได้เลยเด็ดขาด
ทำไมน่ะเรอะ ก็เพราะว่าไอ้เจ้านี่——
“ เป็นแกเองเรอะ……! ไอ้เผ่ามารบัดซบที่บังอาจฝังไคอิเข้าไปในร่างของซากุระนั่น……! ”
ที่หวนนึกขึ้นมา ก็คือสีหน้าหวาดกลัวของซากุระในตอนที่ถูกไคอิกลืนเข้าไป
ระหว่างทางไปโรงเรียนตอนเช้าที่ซากุระพูดออกมาว่า [ถ้าให้พูดตามตรงแล้ว ก็ยังกลัวอยู่หน่อยๆละมั้งนะ]
ความรู้สึกที่ค้างเติ่งไม่ได้ถูกระบายมาตลอดตั้งแต่ตอนเหตุการณ์โลลิค่อนสเลเยอร์มันลุกโชนซ้ำอีกครั้ง บีบให้ฉันเค้นใจให้หาญเข้าผจญกับกับเผ่ามารได้อย่างหวุดหวิด
“ ดูพูดเค้าซี่ เรียกกันได้ลงคอน้าา เผ่ามารบัดซบเนี่ย ”
แต่ไอ้เจ้านั่นมันกลับหัวเราะสนุกสนาน ราวกับไม่ได้สนใจอารมณ์ที่เดือดพล่านของฉันเลยซักนิดเดียว
ท่าทางนิ่งเฉยเหมือนกับกำลังจ้องมองสัตว์ตัวน้อยๆแสนน่ารักที่ส่งเสียงข่มขู่งั้นแหละ
“ ชื่อของเค้าก็คืออันโดรมาเลียส เป็นมารที่ปกครองอยู่เหนือ [ความยุติธรรม] ที่มนุษย์อย่างพวกเธอแสนจะช๊อบชอบยังไงล่ะ จากนี้ไปก็ช่วยญาติดีกับเค้าด้วยนะจ๊ะ❤ ”
สาวมัธยมปลาย——อันโดรมาเลียสมันแบมืออยู่ข้างใบหน้า ก่อนจะกล่าวชื่อของตนออกมาพร้อมแย้มยิ้มดัง “เอเฮะ☆”
“ ใครมันจะไปญาติดีฝากผีฝากไข้กับแกวะ ”
จ้องเขม่นเข้าใส่ด้วยความรู้สึกที่มุ่งมั่นจะต้องซัดมันให้หน้าแหกให้ได้ แต่อีกฝั่งก็ไม่สนใจความโกรธเกรี้ยวของฉันเลยซักนิดจริงๆนั่นแหละ อันโดรมาเลียสทำแก้มป่องเหมือนเด็กแอ๊บแบ๊ว ก่อนจะ
“ พูดอะไรห่างเหินแบบนั้นแล้วมันก็ชวนปวดใจนาา เค้าอุตส่าห์เตรียมการตั้งม๊า~~~กมาย เพื่อที่จะได้พาตัวพวกเธอที่เป็น [ผู้ครองชิ้นส่วน] กลับไปอย่างลับๆเลยแท้ๆ ”
“ เพื่อพาตัวพวกเรา……กลับไป……? ”
โซยะที่โดนอัดด้วยไอพิษ ทำหน้าเขียวปึ๊ดไปพลางอ้าปากพูดออกมา
“ ช่ายช่าย ส่งโลลิค่อนสเลเยอร์ไปเพื่อสืบสวนว่าคำสาปที่สิงอยู่ในตัวพวกเธอมันเป็นแบบไหน แล้วจากนั้นก็ไล่ตระเวนไปวางแผนอะไรต่อมิอะไรให้ทั่วไปหมดเลยล่ะ❤ ในบรรดานั้นก็มีโฮเทลราพันเซลนี่แหละนะออกมาได้เริ่ดเลอเลยทีเดียว ”
อันโดรมาเลียสหันมองไปยังรุ่นพี่โคฮินาตะที่หลับตาหมดสภาพอยู่เหนือแท่นบูชา ก่อนจะปั้นขึ้นมาเป็นสีหน้าเคลิบเคลิ้ม
คำพูดนั่นทำเอาฉันอึ้งตะลึงงันไปเลย
“ ส่งโลลิค่อนสเลเยอร์มา เพื่อสืบสวนเกี่ยวกับคำสาปของพวกเราเรอะ……? ”
อย่างที่คิด ไม่ใช่เหตุบังเอิญจริงๆด้วย
ที่ซากุระซึ่งถูกมอบหมายให้เป็นคนจับตาฉัน ถูกเผ่ามารหมายหัวเล่นงานนั่น มันไม่ใช่เหตุบังเอิญเลยจริงๆด้วย
และการกลายเป็นไคอิของรุ่นพี่โคฮินาตะ ก็ไม่ใช่แค่เพราะว่าถูกแม่สารเลวใช้ประโยชน์เฉยๆด้วยเหมือนกัน
ไม่รู้ทำไม แต่คำสาปของพวกเราก็เป็นตัวดึงดูดไอ้พวกเผ่ามารเข้ามา และพวกซากุระก็ถูกลากเข้าไปเกี่ยวพัวพันด้วยนั่นเอง
แต่ถ้าอย่างนั้น มันก็จะมีจุดที่ยังเป็นข้อกังขาอยู่หนึ่งอย่าง
“ ไอ้บัดซบ……ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมถึงจ้องเพ่งเล็งคำสาปของพวกเรา แต่ถ้าอย่างงั้นก็มาหากันตรงๆซึ่งหน้าไปเลยสิวะ! ไหงถึงต้องทำอะไรอ้อมโลกอย่างเปลี่ยนให้ซากุระกับรุ่นพี่โคฮินาตะกลายเป็นไคอิด้วยเล่า! ”
สำหรับเผ่ามารที่เป็นตัวตัวตนเชิงวิญญาณระดับสูงแล้ว การจะลักพาตัวผู้ปราบมารแสนกระจอกอย่างฉันกับโซยะไปนี่มันคงจะเป็นอะไรที่สุดจะง่ายแสนง่ายเลย ต่อให้บอกว่าอยากตรวจดูพลังของคำสาป แต่ก็ไม่มีความจำเป็นต้องทำให้ไคอิแสนทรงพลังอย่างโลลิค่อนสเลเยอร์ปรากฎขึ้นมาเลย แค่ปล่อยวิญญาณร้ายแถวๆนั้นเข้ามาใส่ซะก็พอแล้ว
“ อืออ ก็มีหลายส่วนนะ อย่างเช่นต้องระแวงไม่ให้เจ้าพวกชวนน่าปวดหมองมันรู้ตัวอะไรงี้ แต่เหตุผลอันดับหนึ่งเลยก็คือ เป็นงานอดิเรกละมั้งนะ ”
“ ……ห้ะ? ”
คำตอบที่เบาหวิวผิดกับวีรกรรมอุกอาจที่ทำให้ไคอิระดับ สเกล 5-6 เกิดขึ้นมานั่น ทำเอาอารมณ์ฉันเหวี่ยงจากโกรธไปเป็นตะลึง
“ ให้ว่าแล้ว มาถามหาเหตุผลกับมารว่าทำไมถึงสร้างเหตุปั่นป่วนวุ่นวายเนี่ยนะ ไม่เคยเรียนหนังสือหนังหาเลยรึไงจ๊ะ? ”
อันโดรมาเลียสชี้นิ้วตรงเข้ามาใส่ฉันอย่างเยาะเย้ยดัง “อุอิอุอิ” ก่อนจะปั้นรอยยิ้มที่ชวนให้หงุดหงิดจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ ไม่รู้เหรอ? อาหารอันโอชะของพวกเค้าเผ่ามารที่เป็นสิ่งมีชีวิตเชิงวิญญาณ ก็คืออารมณ์ด้านลบของมนุษย์อย่างพวกเธอไงล่ะ กล่าวคือพลังงานด้านลบที่ถูกกลั่นสร้างออกมาจากอารมณ์นั่นละนะ ถ้างั้นการสร้างเหตุปั่นป่วนวุ่นวายเนี่ยมันก็คืออาชีพของพวกเค้าดีๆนี่เองเลยนะ? ”
แต่มารที่ ขยันเอาการเอางาน อย่างเค้านี่ก็หายากพอตัวเลยแหละนะ……อันโดรมาเลียสพูดเพิ่มเติมว่าอย่างงั้น
“ และในบรรดาการวางกลอุบายปั่นป่วนทั้งหลาย เค้าก็ถนัดในด้านการปั่นความยุติธรรมเป็นพิเศษ……ไม่สิถ้าให้พูดตามจริงคือชอบเป็นพิเศษมากกว่ามั้งนะ ทำบ่อยเลยไง ก็มันสนู๊กสนุกสุดๆไปเลยนี่น้าา……❤ ”
““ ……ฮึก!? ””
ใบหน้าของอันโดรมาเลียสที่ยิ้มแย้มอย่างน่ารักมาตลอดจนตอนนั้น พลันมีรอยแสยะยิ้มของอมนุษย์ที่ปนเปไปด้วยความโฉดชั่วและเคลิบเคลิ้มขึ้นมา
“ สุดยอดม๊ากมากไปเลยนะ? ท่าทางตอนปล่อยผีสติแตกของมนุษย์ที่ถูกปั่นยุความยุติธรรมเนี่ย จะใจรู้ผิดชอบชั่วดีเอย จริยธรรมเอย ความเห็นใจเอย ความสามารถในการคิดด้วยหลักเหตุผลเอย จะอะไรต่อมิอะไรก็ลอยปลิวหายเกลี้ยงหมดเลย แปลงโฉมกลายสภาพเป็นอสูรกายที่ในหัวคิดแต่จะโจมตีทำร้ายไปเพียงอย่างเดียวแน่ะ และมนุษย์ที่ถูกพวกมันเพ่งเล็งเล่นงาน ก็จะปลดปล่อยอารมณ์แง่ลบออกมาเพียบเลยอะน้า ”
สีหน้าช่างอิ่มเอมใจ……อันโดรมาเลียสที่น่าจะกำลังหวนนึกถึงความยุติธรรมที่ตัวเองยั่วยุปั่นขึ้นมา และผู้เสียหายจากการกระทำตลอดมาจนตอนนี้ พลันทำร่างกายให้สั่นไหวอย่างตื่นเต้น
ท่าทางนั่นเปี่ยมล้นไปด้วยความสดใสในตอนที่กำลังพูดถึงสิ่งที่ตนชื่นชอบหลงใหล ทำให้รู้สึกเหมือนราวกับว่ามันเป็นมนุษย์ด้วยกันเลยก็มิปาน……นี่เองที่ทำให้ความเกลียดชังซึ่งมีต่ออันโดรมาเลียสของฉันยิ่งรุนแรงมากขึ้นไปอีกระดับ
“ ตอนที่เข้าไปเป่าหูป่วนผู้คนโดยรอบตัวเด็กคนนั้น มันก็สนุกเป็นบ้าไปเลยเหมือนกันน้าา ”
ดวงตาของอันโดรมาเลียสจ้องมองไปยังรุ่นพี่โคฮินาตะ
“ ฝั่งแม่นี่มีใจคิดอยากจะทำแบบนี้อยู่แต่แรกแล้วแน่ะ แล้วพอช่วยยุปลุกความยุติธรรมเพิ่มเข้าไปให้หน่อยเท่านั้นแหละ……หึหึ ก็ลงแรงตั้งหน้าตั้งตาผลิตไคอิที่สุดจะยอดเยี่ยมขึ้นมาให้ใหญ่เลยเชียวแหละน้าา❤ ”
“ ……พอแล้ว เงียบปากไปซะ ”
ฉันขัดคำพูดด้วยคนเดียวอันสุดจะสติแตกของอันโดรมาเลียสลงกลางทาง
ที่เอ่อล้นขึ้นมาในใจ ก็คือความโกรธในระดับที่ทำให้การมองเห็นกลายเป็นสีแดงฉานเลยทีเดียว
ซากุระและรุ่นพี่โคฮินาตะ ต่างก็ถูกทำร้ายให้ต้องบาดเจ็บเพราะงานอดิเรกสุดจะน่าสะอิดสะเอียนของเจ้านี่เหมือนกันทั้งคู่
คนที่ถูกมันย่ำยีทำร้ายมีสองคน โพรงเสน่ห์กายิกสุขของมันก็มีอยู่สองจุด
แค่ฟาดเทคโนเบรคเกอร์ใส่อย่างเดียวนี่ไม่พอหรอก ถ้าไม่ซัดให้ปลิวซักสองหมัดละก็คงไม่สาแก่ใจแน่ๆ
ถึงแม้ว่าอีกฝั่ง จะเป็นตัวตนระดับสูงที่มีพลังอำนาจเหนือล้ำกว่ามนุษย์ก็ตามทีเถอะ
“ โซยะ! ช่วยซัพพอร์ตเท่าที่ไหวที! ”
“ เอ๊ะ ฟุ ฟุรุยะคุง!? ”
โซยะแผดเสียงอย่างสับสนตามไล่หลังฉันที่พุ่งอัดเข้าไปหาอันโดรมาเลียส
“ ถึงยังไงก็หนีโดยทิ้งรุ่นพี่โคฮินาตะเอาไว้ไม่ได้อยู่ดี! ถ้างั้นก็จะขอลองเสี่ยงดวง เข้าไปต่อยนังผู้หญิงบัดซบนั่นให้ปลิวกระเด็นซะเลย! ”
“ อะ อือ! เข้าใจแล้วล่ะ! ”
โซยะเรียกชิกิงามิ 4 ตัวออกมา แล้วจึงส่งพวกมันให้ลอยอยู่รอบๆตัวฉัน เหมือนกับในคราวที่พุ่งแหวกฝ่ารยางค์ของรุ่นพี่โคฮินาตะ
พลังของเผ่ามารมันก้าวข้ามไปเหนือกว่าระดับที่มนุษย์จะเข้าใจได้ก็จริง
แต่ถ้าจำไม่ผิด เผ่ามารมันน่าจะมีจุดอ่อนตรงที่ไม่อาจรับประทานพลังงานอารมณ์ดิบที่ลอยโชยอยู่ในมิติมนุษย์ได้โดยสมบูรณ์ ทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวอยู่ในมิติมนุษย์เป็นเวลานานได้นั่นเอง เพราะแบบนี้แม้พวกมันจะถือครองพลังที่แสนแข็งแกร่งแต่ก็ไม่ได้ถูกกำหนดระดับสเกลอย่างแน่นอน และในบางกรณีแล้วก็ถูกคาดการณ์ว่าสามารถโค่นล้มได้ด้วยฝีมือมนุษย์เลยด้วยซ้ำ
แถมอีกฝั่งมันยังดูหมิ่นพวกเราอยู่โดยสมบูรณ์เลยอีกต่างหาก
ต่อให้เป็นเผ่ามารก็เถอะ แต่ถ้าจิ้มโดนโพรงเสน่ห์กายิกสุขซะอย่าง——
“ [พอแล้ว] นั่นมันเป็นคำพูดทางนี้หรอกนะ ”
“ เอ๊ะ—— ”
ร่างของอันโดรมาเลียสหายลับไปจากการมองเห็นของฉัน
“ กรี๊ดด!? ”
ได้ยินเสียงกรีดร้องของโซยะดังมาจากข้างหลัง พร้อมกับที่ชิกิงามิทั้ง 4 ตัวแหลกกระจุยหายไปด้วยเสียงดัง โป๊ะโป๊ะโป๊ะ!
“ ห้ะ……!? ”
หันขวับไป
ที่อยู่ตรงนั้นก็คือโซยะที่ล้มกองแน่นิ่งไม่ดุกดิกอยู่กับพื้น และอันโดรมาเลียสที่ยืนตระหง่านอยู่เคียงข้างนั่น
“ เพราะไม่ค่อยมีโอกาสได้เล่าถึง [งานอดิเรก] ก็เลยเผลอตัวพูดเพลินเกินไปหน่อยก็จริงหรอก……แต่ก็พอใจแล้วอะนะ กลับมาทำงานซะทีดีกว่าเนาะ ”
ซึ่ดซึ่ดซึ่ด
อะไรคล้ายๆศาสตร์วิชาของอันโดรมาเลียสถูกร่ายขึ้นมาเบื้องหน้าสายตาของฉันที่ประมวลผลไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“ อุก…… ”
โซยะที่โดนเล่นงานจนสติพร่ามัว พลันถูกเหนี่ยวรั้งในสภาพถูกจับตรึงกลางอากาศ
“ โซยะ!? ”
มองไม่ทันเลยซักนิดเดียว
ต้องใช้เวลาหลายวินาทีเลยด้วยซ้ำ กว่าจะเข้าใจว่าโซยะเสร็จมันไปแล้ว
ไม่ใช่เรื่องจะมามัวออมมืออยู่ แล้วก็ไม่มีเวลาให้กระวนกระวายได้แล้วอีกเช่นกัน
ฉันจิ้มจึ๊กอย่างไร้ความลังเลลงไปยังโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่ส่องประกายอยู่ตรงแขนตัวเองโดยพลัน
“ อึ๊นอ๊าาาาาาาาางงงงงงงงงงงง❤❤❤!? ”
หงึกหงึกหงึก! หงัก!
สมองถูกกลืนหายเข้าไปในแสงแห่งความเสียว
ถูกครอบคลุมไปด้วยภาวะเคลิ้มสุขราวกับเซลล์จากทั่วร่างกำลังปลดปล่อยพ่นน้ำ อวัยวะเพศชายมันหดตัวพองขึ้นและสั่นกระตุกซ้ำแล้วซ้ำอีก ปล่อยน้ำเหลวลึกลับให้เจิ่งนองเปียกโฉกอยู่ข้างในกางเกงใน สภาพโคตรจะเละเทะอย่างยิ่งใหญ่เลย
เสียงร้องอันสุดจะน่าสมเพชหลุดลอยออกมาจากปาก กระแสไฟฟ้าความเสียวแล่นทะยานผ่านไปทั่วทั้งร่าง
แม้จะแสดงสภาพแสนน่าอับอายขายหน้าที่ต่ำช้าและเฮงซวยที่สุดเท่าที่เคยมีมาอัดใส่ต่อหน้าศัตรู แต่ภายในหัวที่คลื่นความเสียวแล่นจากไปแล้วนั่นกลับใสกระจ่างราวท้องฟ้าสีครามยามฤดูร้อน
“ ……ฟู่ว ”
ร่างกายเบาหวิว
มีแผนการกลอุบายเพื่อใช้โค่นล้มศัตรูที่อยู่ต่อหน้า ปรากฎลอยอย่างต่อเนื่องเข้ามาในหัวที่ปลอดความฟุ้งซ่านโดยสมบูรณ์ ทว่า
“ ถ้าเป็นความสามารถนั่นละก็——เข้าใจดีเลยแหละน้าา❤ ”
“ ฮึก!? ”
อันโดรมาเลียสพุ่งเข้ามาประชิดตัวด้วยสปีดมหาศาล
แล้วจึงฟาดมือทุบเข้ามาด้วยความเร็วที่ขนาดเปิดบูสต์จุดกายิกสุขแล้วก็ยังมองตามไม่ทัน พอยกสองมืออมนุษย์ขึ้นมาป้องกันไว้ในทันที แรงกระแทกที่หนักอึ้งซะจนคิดไม่ถึงว่าถูกปลดปล่อยออกมาจากร่างอันบอบบางของอันโดรมาเลียสก็พลันแผลงฤทธิ์ ฉันฝืนปัดป้องแรงกระแทกนั่นไปพลาง ถลาเคาน์เตอร์จู่โจมเข้าใส่โพรงเสน่ห์กายิกสุขของอีกฝั่งหรอก แต่
ฟู่มม!
“ ห้ะ!? ”
ก้อนมวลไอพิษสีดำสนิทถูกปลดปล่อยพุ่งพวยออกมาจากหมัดของอันโดรมาเลียส
นั่นมันดั่งกับว่าเป็นก้อนมวลพลังงานดีๆนี่เอง เกิดการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่ ส่งฉันให้ลอยปลิวกระเด็นไปโดยไม่อาจต่อต้านขัดขืนใดๆได้เลย
“ บัดซบ! ”
พลิกตัวบิดร่างกายในพริบตาก่อนที่จะกระแทกเข้ากับกำแพง เอาขาสองข้างชันกำแพงไว้เป็นการยั้งโมเมนตัม แล้วจึงส่งสายตากลับไปยังอันโดรมาเลียสเพื่อเฝ้าหาจังหวะสวนกลับ แต่ก็ไม่อาจจะมองเห็นร่างกายของอันโดรมาเลียสได้
เพราะการมองเห็นของฉัน ถูกปกคลุมโดยสมบูรณ์ไปด้วยห่าฝนกระสุนพลังงานที่ถูกกระหน่ำยิงเข้ามาใส่นั่นเอง
“ ——ขุ่ก อ๊าาาาากกกกกกกกกก! ”
ใช้สองมือปัดกระสุนทั้งหมด แต่ต่อให้จะปัดป้องพลังงานแง่ลบที่ระเบิดแหลกไปได้ซักเท่าไหร่ คลื่นแรงกระแทกมันก็ถาโถมเข้ามาทำร้ายทำลาย กัดกร่อนกายเนื้อ ผลาญชีวิตฉันให้มอดม้วยไปเรื่อยๆ
แต่ละนัดมันมีอานุภาพความรุนแรงสูงล้นระดับเดียว หรือไม่ก็เหนือว่ายันต์กัมปนาทพิฆาตมารที่ถูกปลดปล่อยออกมาโดยฝีมือผู้ปราบมารระดับสูงเลยทีเดียว
“ ……ขั่ก อั่ก ”
ในตอนที่กระสุนพลังงานซาลงไป ฉันก็ล้มฟุบลงมาแน่นิ่งไม่ไหวติงอยู่เหนือพื้นแล้ว
“ ความสามารถนั่น มันไม่ได้ช่วยเสริมความสามารถร่างกายให้แข็งแกร่งขึ้นแต่อย่างใด แล้วก็ไม่ได้เป็นการยกระดับพลังวิญญาณขึ้นมาซะเมื่อไหร่ ก็แค่ทำให้การเคลื่อนไหวของเธอมีประสิทธิภาพที่สุด และทำให้ภายในหัวปลอดโปร่งมีตัวเลือกที่ดีที่สุดลอยขึ้นมาเท่านั้นเอง กล่าวคือเป็นพลังที่ทำให้ลงมือทำอะไรต่อมิอะไรได้เต็มประสิทธิภาพดีที่สุดเท่าที่สเปคของเธอจะทำไหวละนะ ”
ตึง ตึง
ตัวตนที่ถือครองพลังซึ่งเหนือล้ำกว่ามนุษย์ไปมากมายนั่น กำลังย่างกรายเข้ามาใกล้พร้อมปลดปล่อยออร่าอันท่วมท้นเข้ามาใส่
“ พูดง่ายๆก็คือ ต่อให้จะทำเต็มประสิทธิภาพซักแค่ไหน แต่มนุษย์อย่างเธอก็ไม่มีปัญญาชนะเผ่ามารอย่างเค้าได้นั่นแหละน้าา❤ ”
“ ……ยังหรอก เว้ย! ”
ตรวจพบโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่อยู่เหนือร่างกายอันสะบักสะบอมอีกครั้ง แล้วจึงเปิดบูสต์จุดกายิกสุขรอบที่สองโดยไม่มีลัง——
“ ……คือว่านาา ”
ตึง!
อันโดรมาเลียสกระทืบมือของฉันที่กะจะจิ้มจึ๊กเข้าใส่โพรงเสน่ห์กายิกสุขตัวเอง
มือที่กลายเป็นอมนุษย์นั่นไม่รู้สึกเจ็บหรอก แต่น้ำเสียงที่ชักเริ่มจะมีหงุดหงิดขึ้นมาของมันกลับเป็นตัวปลุกให้เกิดความหวาดกลัวโดยสัญชาติญาณ
“ เค้าน่ะไม่ใช่สายช่ำชองด้านบู๊ซะหน่อย ฉะนั้นก็เลยไม่ได้เย่อหยิ่งเอาจริงเอาจังอะไรกับการต่อสู้ทำศึกหรอก……แต่เห็นไอ้หนอนปลวกที่ฮึกเหิมเข้าใจผิดไปว่าน้ำหน้าอย่างตัวเองจะมีปัญญาเอาชนะเค้าได้อยู่เรื่อยแล้ว มันก็ชวนให้รู้สึกไม่ดีอยากจะอ้วกขึ้นมาน่ะนะ ”
“ ……ถ้ามันทำให้แกรู้สึกไม่ดี งั้นก็ยิ่งจะยอมแพ้ไม่ได้เข้าไปใหญ่เลยนี่หว่า ”
ฉันปัดเป่าความกลัวให้หายไป ก่อนจะท้าทายอันโดรมาเลียสโดยการพยายามใช้มืออีกข้างจิ้มเปิดบูสต์จุดกายิกสุขซ้ำอีกรอบ
——เปรี้ยง!
แต่ก็พลันเกิดแรงกระแทกอย่างยิ่งใหญ่ขึ้นตรงสีข้างก่อน
“ ——ขึก! ”
กรีดร้องออกมาไม่ได้ด้วยซ้ำ
เสียงแหบพร่าดังก้องขึ้นในร่าง เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ากระดูกหักกระจุยไปหลายซี่ ก่อนที่หลังจะกระแทกชนเปรี้ยงเข้ากับกำแพงทำเอาร่างกายถึงกับหยุดหายใจ
เท้าอันเรียวยาวของอันโดรมาเลียสมันถีบเข้าไปเต็มร่างของฉันนั่นเอง
“ ——โอ๊ะ เป็นอะไรมั้ยเนี่ย? คงไม่ตายหรอกนะ? ”
อันโดรมาเลียสพลันวิ่งตรงเข้ามาหาฉันที่นอกจากจะขยับนิ้วไม่ได้เลยแล้ว จิตยังจะพร่ามัวใกล้หลุดเต็มทีอีกต่างหาก
จิตสังหารที่เผยโฉมออกมาเพียงชั่วครู่ดับมอดลงไป บรรยากาศขี้เล่นหวนคืนกลับมาใหม่อีกครั้ง
“ ฟู่~ เกือบไปแล้วจ้าเกือบไปแล้ว เกือบจะเผลอฆ่าผู้ครองชิ้นส่วนไปแล้วไงล่ะ ”
น้ำหน้าแค่มนุษย์อย่ามาริอาจกวนประสาทเผ่ามารสิจ๊ะ☆ …..อันโดรมาเลียสเอานิ้วจิ้มๆแก้มฉันว่าอย่างงั้น ก่อนจะเปิดใช้ศาสตร์วิชา
เหมือนกับโซยะเมื่อตะกี้นี้ ฉันเองก็ถูกจับตรึงกลางอากาศโดยไม่อาจต่อต้าน โดนเหนี่ยวรั้งเอาไว้โดยสมบูรณ์แบบเลย
“ ……บัด……ซบ ”
อย่างน้อยก็ขอแค่เปรี้ยงนึง ถ้าไม่ซัดไอ้เจ้านี่ให้ได้ซักเปรี้ยงนึงละก็นอนตายตาไม่หลับแน่
แต่ในสภาพบอบช้ำทั่วตัวที่แค่หายใจเข้าก็เจ็บแสบไปทั่วร่างแบบนี้ ทำได้มากสุดก็แค่เขม่นมองใส่อันโดรมาเลียสเท่านั้นเอง
“ ……เกลียดเค้ามากถึงขนาดนั้นเลยเหรอ? ตัวเค้าที่ทำให้คนรู้จักของเธอกลายเป็นไคอิคนนี้น่ะ ”
เท่านั้นแหละอันโดรมาเลียสพลันสบตาเข้ากับฉัน ก่อนจะเข้ามาลูบแก้มด้วยระยะห่างที่ราวกับว่าจะจูบกันเลยยังไงยังงั้น
“ อึ้นหึหึ เค้าชอบมนุษย์ที่อ่อนโยนแบบเธอนะ เพราะคนที่จะปลดปล่อยทั้งความโกรธหรือความเศร้า ความเกลียดชังที่เกิดจากความรักยิ่ง…อารมณ์แง่ลบพวกนี้ออกมานั้น ไม่ว่าเมื่อไหร่ไม่ว่ายามใด ก็เป็นมนุษย์ที่แสนอ่อนโยนแบบเธอตลอดเลยนั่นแหละ❤ ”
“ ……ไอ้……บรรลัยนี่…… ”
“ อ๊ะฮะฮะ ขอบคุณสำหรับอาหารน้าา❤ เอ้อถึงจะรับประทานโดยตรงเลยไม่ได้ก็เหอะนะ ”
ว่าแล้ว อันโดรมาเลียสก็ถอยห่างออกจากฉันไป
และพอลากโซยะที่ยังคงไม่ได้สติ ให้มาลอยเรียงอยู่เคียงข้างกันกับฉันกลางอากาศแล้ว มันก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ก่อนจะ
“ อื้มอื้ม รีบเอากลับไปก่อนที่จะถูกรู้ตัวเข้าดีกว่า ”
ปลายนิ้วของอันโดรมาเลียสที่หันหลังให้พวกเราพลันถูกห่อหุ้มไปด้วยประกายแสงสีดำ
“ เฮะเฮ้~❤ ตื่นเต้นจังเลยน้าา ถ้าได้รับพลังงานมาเป็นรางวัลที่ทำงานสำเร็จลุล่วงแล้ว จะเอามาใช้ทำอะไรดี ไปปั่นความยุติธรรมของประเทศต่างๆให้เกิดเป็นสงครามโลกขึ้นมาอีกรอบนี่ก็ท่าจะมันส์ดีอยู่หรอก แต่สมัยนี้มันถือเน้นคติต่อต้านการสร้างความขุ่นเคืองแล้วรึเปล่านะ? ”
อันโดรมาเลียสกล่าวคำพูดที่ชวนให้สงสัยว่าหูแว่วรึเปล่าไปพลาง ทำการแหวกเปิดห้วงมิติ
ไม่อาจทำอะไรได้อีกแล้ว ได้แต่ก้มหัวลงโดยเชื่อว่าคงจะต้องถูกไอ้เผ่ามารสารเลวนี่ลักพาตัวไปอย่างไม่อาจเลี่ยงแน่
แต่เป็นในฉับพลันนั้นเอง
[……แบบนี้คง ทนนิ่งเฉยอยู่ไม่ได้แล้วละนะคะ]
ที่มีเสียง กังวานขึ้นมา
“ ——ฮึก!? ”
ฟุ่บ!
อันโดรมาเลียสที่เอาแต่ทำสีหน้าชิลๆสบายใจเฉิบมาตลอดจนถึงตอนนี้ พลันหันขวับกลับมามองฉันด้วยดวงตาที่เบิกโพลง
“ ……แปลกจริงแฮะ ”
แถมเส้นผมยังฟ่องฟูชูชัน ยกมุมปากขึ้นสูงราวกับข่มขู่ เขม่นมองเข้ามาใส่ฉันด้วยแววตาที่อัดแน่นไว้ด้วยจิตมุ่งร้าย ……ไม่สิ ไม่ได้จ้องเขม่นใส่ฉัน—-แต่กำลังจ้องเขม่นใส่มือสองข้างของฉันเรอะ?
“ ทำไมถึงจับเค้าลางของไอ้พวกที่เค้าเกลียดขี้หน้า ได้มาจากชิ้นส่วนนั่นกันน่ะ……? ”
พริบตาให้หลัง จากที่อันโดรมาเลียสพึมพำออกมาอย่างหวาดระแวงนั่นเอง
——ตุบ
ที่พลันเกิดความเสียวซี๊ดเหมือนพร้อมจะหลั่งปล่อยน้ำเชื้อ ขึ้นมาบนมือสองข้างของฉัน
MANGA DISCUSSION