“ ว้อยยยยยย! โผล่มาอีกแล้ว! รอบที่เท่าไหร่แล้วฟะเนี่ย! ”
สำรวจเปียโนที่ไม่รู้ไหงถึงถูกเอามาตั้งไว้ภายในห้องของเลิฟโฮเทล สอดคีย์สีดำเข้าไปยังจุดที่แหว่ง และเป็นในฉับพลันที่เล่นบรรเลงเพลงไปตามโน๊ตที่ไม่รู้ทำไมถึงปะปนอยู่ภายในกองเอกสารของห้องธุรการนั่นเอง
ที่ตู้เสื้อผ้าซึ่งถูกล็อกกุญแจเอาไว้พลันเปิดอ้า แล้วมีสัตว์ประหลาดที่ตัวใหญ่เป้งกว่าที่ตู้จะบรรจุใส่เอาไว้ได้ชัดๆพรั่งพรูถล่มออกมา
“ เกี๊ยยยยวววววววว!! ”
หนวดรยางค์มีปุ่มที่งอกระโยงระยางออกมาจากทั่วทั้งร่าง……รูปโฉมนั่นเหมือนกันกับสัตว์ประหลาดที่เข้ามาโจมตีตลอดจนถึงตอนนี้หรอก แต่ร่างกายที่เป็นส่วนแกนหลักนั่น กลับมีรูปทรงผิดแผกแปลกประหลาดที่ราวกับว่ามีขาแมงมุม 8 ข้างงอกออกมาจากร่างมนุษย์ แถมขาแมงมุมนั่นยังมีรูปทรงเหมือนกับอวัยวะเพศชายที่เป็นฝีหนองให้ทั่วไปหมด ไม่มีสิ่งใดจะน่าสะอิดสะเอียนไปกว่านี้แล้ว
แค่นั้นไม่พอ ตรงบริเวณระหว่างขายังจะมีอวัยวะคล้ายๆหางที่ส่วนปลายกลายเป็นใบมีดคมกริบงอกออกมา และมันก็เหวี่ยงหางนั่นอัดดิ่งลงมาใส่พวกเราสุดแรงเกิดเลยทีเดียว อันตรายนะเว้ย!
“ บัดซบ โพรงเสน่ห์กายิกสุขก็ดันอยู่ตรงจุดที่จิ้มยากอีก……รุ่นพี่ หนีกันก่อนเถอะครับ! ”
“ อะ อือ…… ”
ไขปริศนาของเปียโนไปได้แล้ว ฉะนั้นก็น่าจะมีคีย์ไอเท็มโผล่ขึ้นมาตรงไหนซักแห่งภายในห้องหรอก แต่เพราะสัตว์ประหลาดมันทะลึ่งโผล่ตามมาด้วยก็เลยไม่ใช่เวลามามัวค้นหาอยู่ ต้องสลัดไอ้เจ้านี่ให้หลุดซะก่อน
ฉันฉุดมือของรุ่นพี่โคฮินาตะ แล้ววิ่งไม่หยุดไปตามซากทางเดินอันมืดสลัว
“ เกี๊ยยยยววววววววว! ”
“ เร็วเป็นบ้า! ”
ตัวประหลาดพันธุ์แมงมุมควบคุมขาทั้ง 8 ข้างอย่างคล่องแคล่วแล้วพุ่งทะยานตามทางเดินมาไม่ลดละ พอมันย่างเท้าได้ครั้งนึง ฝีบนขาที่เหมือนอวัยวะเพศชายนั่นก็จะแตก ปล่อยให้หนองไหลซ่านกระจายออกมาเต็มไปหมด ขยะแขยงว้อยแถมแค่ดูก็เจ็บแทนแล้ว!
“ เจ็บ เจ็บอ่าา ”
“ ช่วยด้วย…… ”
“ ดุ้นฉันมันเป็นหนองเละเทะไปหมดแล้ว…… ”
สงสัยความเจ็บปวดมันจะถูกส่งเป็นฟีดแบคกลับไปยังพวกผู้ชายที่ถูกกลืนเข้าไปภายในร่างประหลาดด้วยละมั้ง สีหน้าที่ปรากฎขึ้นมาเหนือร่างมันจึงดูทรมานเอาเรื่องเลย
(การจะวิ่งสลัดเจ้านี่ให้หลุดนี่มันท่าจะยากแฮะ……)
ถ้ามีแค่ฉันคนเดียวก็ยังพอว่า แต่ตอนนี้มีรุ่นพี่โคฮินาตะอยู่อีกด้วยไง ฉันจึงเลือกเปลี่ยนเส้นทาง กระโจนเข้าไปภายในห้องพักแขกใกล้ๆแทน
จ้ำตรงแหน่วเข้าหาตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเข้าไปหลบภายในด้วยกันกับรุ่นพี่โคฮินาตะ
““ …… ””
เราสองคนเอาร่างกายติดใกล้ชิดกัน พร้อมกลั้นลมหายใจ
ครืด……แผละ……
ข้างในตู้เสื้อผ้ามันมืดสนิท สัมผัสการได้ยินที่อ่อนไหวก็เลยตรวจจับเค้าลางของสัตว์ประหลาดที่เลื้อยไปทั่วบริเวณภายในห้องได้อย่างชัดเจน
ไม่รู้เลยว่ามีผู้ชายมากเท่าไหร่ที่กลายเป็นวัตถุดิบสร้างสัตว์ประหลาดซึ่งเดินเตร่ไปมาภายในโรงแรม ในระหว่างสำรวจ ฉันกับรุ่นพี่โคฮินาตะก็ถูกสัตว์ประหลาดพวกนั้นไล่ล่าเอาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว
และพอทำแบบนั้นเข้าบ่อยๆ ก็เลยทำให้ค้นพบวิธีซ่อนตัวหลบแบบนี้ขึ้นมาอะนะ……แต่ต่อให้จะทำซักกี่ครั้งก็ยังน่ากลัวอยู่ดีเลยเว้ยไอ้เนี่ย!
แถม……
“ ……อึ้น ”
“ ขะ ขอโทษครับรุ่นพี่โคฮินาตะ โดนตรงไหนแปลกๆเข้าเหรอครับ? ”
“ ……ไม่เป็นไร……อย่าสนใจเลยนะ……ฮิ๊งง ”
เอ้ยๆๆ! ทำใจให้ไม่สนไม่ได้หรอกเงี้ย!
ภายในตู้เสื้อผ้ามันโคตรจะแคบมาก เหมือนกับในคราวที่หลบซ่อนตัวด้วยกันสองคนภายในตู้ล็อกเกอร์ก่อนหน้านี้เลย
ซึ่งก็แน่นอน ร่างกายของฉันกับรุ่นพี่โคฮินาตะมันแนบชิดติดกันเต็มๆเอาเรื่องเลยเชียวแหละ……แต่เสื้อที่ฉันใส่อยู่ตอนนี้คือชุดกะลาสีแขนสั้น ฉะนั้นจึงเปิดเผยเนื้อหนังเยอะมากต่างกับชุดหมอดู กล่าวคือ แบบว่า บริเวณผิวกายที่แนบชิดติดชนกับรุ่นพี่โคฮินาตะมันก็เลยค่อนข้างกว้างเลยไง
หนำซ้ำ ประสาทการสัมผัสและประสาทการได้กลิ่นที่อ่อนไหวเพราะอยู่ภายในความมืดมันยังรับรู้ได้ถึงอุณหภูมิร่างกาย ความนุ่มเนียนของผิว และกลิ่นเด็กผู้หญิงของรุ่นพี่โคฮินาตะได้อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู เรียกได้ว่าไม่มีอะไรชวนอึดอัดมากไปกว่านี้แล้ว
“ นะ น่าจะไม่เป็นไรแล้วมั้งครับ ”
“ ……อือ……นั่นสินะ…… ”
พอฉันออกจากตู้เสื้อผ้าไปก่อน และตรวจสอบว่าปลอดภัยแน่แล้ว รุ่นพี่โคฮินาตะก็ชะเง้อหน้าออกมาจากตู้เสื้อผ้าต่อ
รุ่นพี่โคฮินาตะเค้าหน้าแดงแจ๋ระดับที่ขนาดอยู่ภายในความมืดก็ยังดูรู้ จากนั้นจึงจัดเสื้อที่ยับยู่ยี่ให้กลับมาเรียบร้อยหรอก……แต่มันทำไมกันนะ ไหงฉันถึงจับความรู้สึกบัดสีบัดเถลิงได้จากท่วงท่ากิริยานั่นเฉยเลย
ฉันเบือนหน้าหนีจากรุ่นพี่โคฮินาตะไปพลาง ดึงมือข้างนั้นมุ่งตรงไปยังห้องเปียโนเมื่อตะกี้นี้
“ ……ฮารุฮิสะคุง……เหมือนกับเจ้าชายที่โผล่มาในหนังสือนิทานเลย…… ”
พอเก็บประแจหกเหลี่ยมที่หยิบได้ในห้องเปียโนเข้ากระเป๋า รุ่นพี่โคฮินาตะก็พึมพำเสียงเบาออกมาว่างั้น
“ ……ขนาดอยู่ในที่น่ากลัวแบบนี้……ก็ยังจะทุ่มสุดตัว……ช่วยปกป้องคนอย่างฉันอีก…… ”
“ มะ ไม่หรอกครับ ก็พูดโอเวอร์เกินไปแล้วมั้งครับ? เจ้าชายเนี่ย ”
ถ้าโดนพูดอะไรแบบนั้นใส่อย่างกะทันหัน ไอ้ฉันก็เขินจักจี้ตายเลยสิ
แต่ก็เหอะนะ ในเชิงนึงแล้วก็อาจจะถือเป็นคำเปรียบเปรยที่เหมาะอยู่เหมือนกันก็ได้
เผอิญว่าโฮเทลราพันเซลแห่งนี้มันมีรูปทรงเป็นปราสาทอยู่ด้วยพอดีไง และรุ่นพี่โคฮินาตะก็เหมาะสมที่จะถูกเปรียบเปรยเป็นเจ้าหญิงเป๊ะเลย
……เอ้อ แต่เอาจริงแล้วปราสาทที่ว่านั่นมันก็คือเลิฟโฮเทลอะนะ แถมคนรับบทเจ้าชายยังเป็นไอ้เวรแต่งหญิงที่มีความสามารถสุดเฮงซวยชื่อไล่ผีโดยทำให้ถึงจุดสุดยอดอยู่ในครอบครองอีก ต่อให้ยังไงก็ไม่มีทางถูกพิกซาร์หรือดิสนีย์เอามาทำเป็นอนิเมะแหงๆ
“ แต่ถึงจะคิดยังไง……ฮารุฮิสะคุงก็เป็นเจ้าชายอยู่ดีนั่นล่ะ……ช่วยจับมือนำทางฉัน แล้วก็ยังช่วยจัดการพวกผีแสนน่ากลัวให้อีกด้วย…… ”
“ ระ รุ่นพี่โคฮินาตะก็สุดยอดเหมือนกันไม่ใช่เหรอครับ ไขปริศนาที่ซับซ้อนชวนสับสนได้ง่ายๆไม่มีติดแหงกเลยนี่ ”
ทนไม่ไหวต้องเปลี่ยนหัวข้อไปในทิศทางอื่น
แต่สกิลไขปริศนาของรุ่นพี่โคฮินาตะก็สูงมากจริงๆ ที่สามารถพิชิตเกมมาได้จนถึงตรงนี้มันไม่ได้เป็นเพราะฝีมือฉันแค่คนเดียวหรอก พูดตรงๆเลย
“ ……ก็ไม่ได้สุดยอด อะไรหรอกนะ เพราะพวกเกม ที่เขาปล่อยให้โหลดเล่นฟรีนี่ จะไม่มีฟิลเตอร์คอยคัดกรอง ก็เลยเล่นเยอะอยู่พอสมควรเลย ……ในบรรดานั้น ก็มีเกมที่เซ็ตติ้งออกทะลึ่งนิดๆ กับมีใส่ฉากอย่างว่าปนเข้ามาอยู่ด้วยเหมือนกัน แล้วพอไล่ค้นหาฉากพวกนั้นมากเข้า……รู้อีกทีก็ชินกับการไขปริศนาตามไปด้วย…… ”
“ งะ งั้นเหรอครับ…… ”
จะว่าไปแล้ว ถึงแม้ว่ารุ่นพี่โคฮินาตะเค้าจะถูกเลี้ยงดูแบบเป็นไข่ในหินจนกลัวผู้ชายสุดขั้ว แต่ก็สนใจใคร่รู้ในเกมโป๊ม๊ากมากเลยนี่นะ……
“ ……อ๊ะ…… ”
พอฉันกลุ้มว่าจะตอบรับกลับไปยังไงดี สีหน้าของรุ่นพี่โคฮินาตะก็มัวหมองขึ้นมาในทันที
เค้าพูด “หรือว่า……” ด้วยสีหน้ากังวลใจ ก่อนจะใส่แรงเข้าไปภายในมือที่กุมกันเอาไว้ดังกึ๊ดด
“ ……ฮารุฮิสะคุง……เกลียดผู้หญิงทะลึ่ง……เหรอ? ”
“ เอ๊ะ? ”
“ ……ฉะ ฉันที่……สนใจในเรื่องแบบนี้……เป็นเด็กไม่ดีจริงๆด้วยสินะ……น่าขยะแขยงจริงๆสินะ…… ”
มือของรุ่นพี่โคฮินาตะที่กุมมือฉันเอาไว้พลันสั่นเทิ้มเล็กๆ
สีหน้ากังวลใจ เริ่มที่จะเปลี่ยนกลายเป็นตื่นกลัวอย่างใหญ่หลวงทีละระดับ
ได้เห็นรุ่นพี่ที่ราวกับเป็นเด็กน้อยที่หวาดกลัวจะถูกทอดทิ้งแล้ว ฉันก็รีบอ้าปากพูดออกมาอย่างแตกตื่นลนลาน
“ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกนะครับ! เอ่อแต่ก็ ถ้าปล่อยผีแบบไม่เลือกที่เลยมันก็ไม่ไหวเหมือนกันหรอก…… ”
อย่างคาราสึมะอะนะ
ให้ว่าแล้วไอ้เจ้านั่นมันไม่เชิงเป็นผู้หญิงทะลึ่งหรอกมั้ง เรียกว่าเป็นตาลุงในคราบสาวงามซะน่าจะถูกกว่ารึเปล่า ……ไม่สิ เปรียบแบบนั้นมันจะถือเป็นการเสียมารยาทต่อเหล่าตาลุงอีกด้วยซ้ำ
“ อือ แต่เอ้อแบบว่า คงไม่มีผู้ชายที่ไหนเกลียดหรอกมั้งครับ? อ่า ผู้หญิงทะลึ่งเนี่ย ”
“ ……ระ เหรอ……เหรอ…… ”
เท่านั้นแหละ รุ่นพี่โคฮินาตะอ่อนสีหน้าลงมาราวกับโล่งใจ ก่อนจะ
“ ……ฮิฮิ……ถ้างั้นก็ ค่อยโล่งอก…… ”
ใช้สองมือประกบหุ้มกุมมือฉันเอาไว้อย่างแผ่วเบา มือสองข้างนั้นมันช่างอ่อนนุ่มและอบอุ่นเหลือเกิน
(ละ โล่งอกยังไงกันน่ะ……)
ถูกปั่นหัวโดยคำพูดความหมายลึกซึ้งของรุ่นพี่โคฮินาตะไปพลาง ก้าวถลำลึกเข้าไปภายในเลิฟโฮเทลร้าง
“ ……อ๊ะ ฮารุฮิสะคุง……นั่น ”
รุ่นพี่โคฮินาตะชี้นิ้วไปยังบริเวณสุดขอบทางเดิน
“ ……ไม่แน่แล้ว เครื่องมือที่ได้มาเมื่อกี้……อาจจะใช้ตรงนี้ได้นะ ”
พอมองไป ก็พบว่ากำแพงตรงสุดทางมันคือแผ่นเหล็กขนาดใหญ่เพียงแผ่นเดียว ทั้งสี่มุมได้ถูกยึดติดอยู่กับที่โดยสลักเกลียวขนาดใหญ่ เหมือนว่าจะเล่นกั้นทางเดินหน้าด้านๆกันแบบนี้เลยแฮะ
ไปหยิบเอาเก้าอี้จากห้องพักแขกใกล้ๆมาแล้วจึงถอดสลักเกลียวออก
ครืนนนน……!
“ เหวย ”
แผ่นเหล็กล้มครืนลง เผยให้เห็นเส้นทางสายใหม่
หวาดระแวงว่าจะมีสัตว์ประหลาดตัวใหม่โผล่ออกมาป่วนอีกรึเปล่าไปพลาง ก้าวเท้าเข้าไปภายในนั้น
ไม่นานนักพวกเราก็โผล่ออกมายังพื้นที่เปิดกว้าง——ซึ่งก็คือบริเวณทางเข้าของอีกอาคารแน่ะ
“ แบบนี้ท่าจะต้องเดินสำรวจกันให้วุ่นแน่เลยแฮะ…… ”
ไอเท็มที่จำเป็นต่อการไขปริศนา มันจะถูกซ่อนอยู่ในหนังสือกับที่คั่นหนังสือบ้างล่ะ หลังผ้าม่านหรือภายในตุ๊กตามั่งล่ะ มีแต่สถานที่ซึ่งชวนให้คิดว่าเป็นการกลั่นแกล้งของเด็กเล็กๆเรอะเฮ้ย……อะไรทำนองนั้นอยู่บ่อยเลยทีเดียว
ถ้าเป็นเกมก็คงจะสำรวจได้โดยการกด A แค่ปุ่มเดียวเลยหรอก แต่ในกรณีที่ถูกลากเข้ามาและต้องสำรวจภายในเกมจริงๆเลยแล้ว หากไม่รู้ข้อมูลวิธีพิชิตก่อนล่วงหน้า มันก็จะมีตัวเลือกเยอะแยะเต็มไปหมดเรียกได้ว่ายากโคตรๆไปเลย
แถมกว้างขนาดนี้ ต่อให้มีรุ่นพี่โคฮินาตะอยู่ด้วยก็คงจะสาหัสตึงมืออยู่ดี……เป็นในจังหวะที่กำลังท้อแท้อยู่นั่นเอง
“ ฮารุฮิสะคุง……นั่น……เป็นทางออกรึเปล่านะ……? ”
“ เอ๊ะ!? ”
หันขวับไปยังทิศที่รุ่นพี่โคฮินาตะชี้นิ้วไป
แล้วจึงพบว่าประตูทางเข้ามันถูกเปิดอ้าออก มีสวนดอกไม้ที่เละเทะหมดสภาพแผ่ขยายอยู่ตรงอีกฟาก แถมยังมีถนนทางหลวงแล่นยาวอยู่ห่างออกไปนิดหน่อยด้วย ต่างกับสวนกลางโรงแรมหรือสวนหลังโรงแรมที่เป็นทางออกหลอกๆอย่างชัดเจนเลย
“ นะ ในที่สุดก็เคลียร์ได้ซะทีเรอะ…… ”
หาทางพิชิตเกมโดยที่ปกป้องไม่ให้รุ่นพี่โคฮินาตะบาดเจ็บได้แล้ว……ฉันโล่งอกวางใจให้สบายได้ซะที
“ ……ไปกันเถอะ ฮารุฮิสะคุง…… ”
รุ่นพี่โคฮินาตะที่เอาแต่หลบอยู่ข้างหลังฉันอย่างกลัวๆมาตลอดจนถึงเมื่อกี้ พลันฉุดมือฉันเดินตรงเข้าไปหาทางออก
คงดีใจที่จะได้ออกไปจากมิติอันแสนน่ากลัวนี่ซะทีละมั้ง ใบหน้าแสนเปราะบางนั่นจึงเบิกบานไปด้วยรอยยิ้มเลยทีเดียว
(……แต่ จะชะล่าใจไม่ได้จนกว่าจะถึงที่สุดของที่สุดนั่นแหละ ก็นี่มันเป็นเกมที่ไม่เคยมีใครหน้าไหนเคลียร์ได้มาก่อนเลยนี่นะ)
คิดแบบนั้นไปพลาง เดินตามการชี้นำของรุ่นพี่โคฮินาตะ มุ่งตรงไปสู่ทางออกอย่างระมัดระวัง—–เป็นในฉับพลันนั้นเอง
“ โฮ้~ย ฟุรุยะคู~ง! อยู่ที่ไหนเหรอ~! ”
“ ฮึก!? ”
มีเสียงที่คุ้นหูดังกังวานจากทางเดินตรงไหนซักแห่งมายังบริเวณทางเข้า
เสียงนี่มัน……ฉันหยุดกึกแล้วหันกลับไป
ฉุด!
“ เอ๊ะ!? ”
จู่ๆก็ถูกฉุดกระชากมืออย่างรุนแรงจนเสียสมดุล อะ อะไรน่ะ!?
“ ……ฮารุฮิสะคุง……ทางออก อยู่ทางนี้นะ……? ”
รุ่นพี่โคฮินาตะเข้ามารัดพันแขนของฉันเอาไว้พร้อมเอ่ยกระซิบแผ่วเบา
“ เกมนี้……ถูกเซ็ตติ้งให้มีจิตของเด็กผู้หญิงเข้ามาปลุกปล้ำทำร้ายสินะ……? ถ้างั้น นั่นก็คือศัตรูตัวสุดท้ายที่จะขวางกั้นไม่ให้ฮารุฮิสะคุงหนีออกไปจากโรงแรมได้ยังไงล่ะ……ฉะนั้น เร็วเข้าเถอะ มาทางนี้เร็วเข้า……! ”
“ เดี๋ยว รุ่นพี่โคฮินาตะครับ? ”
สัมผัสอะไรประหลาด ได้จากรุ่นพี่โคฮินาตะที่ฉุดมือฉันด้วยเรี่ยวแรงมหาศาลต่างกับตลอดจนถึงเมื่อกี้ลิบลับ
มันเป็นในฉับพลันนั้นเอง
“ ……อื๋อ? ”
ข้างๆประตูทางเข้า ตรงกล่องคล้ายๆตู้รับจดหมายของห้องบริหารที่กำลังจะเดินเลยผ่านไปนั่นเอง ที่ฉันพบเศษกระดาษแผ่นนึงเข้า
นั่นก็คือเศษกระดาษสีขาวนวลอย่างผิดธรรมชาติ ที่ก็มีปรากฎขึ้นมาอยู่ต่อหน้าฉันหลายครั้งแล้วในตลอดการสำรวจจนถึงตอนนี้
กระดาษที่ซากุระสั่งให้เก็บรวบรวมเอาไว้ เพราะอาจจะทำให้รู้ถึงตัวตนของเด็กที่เป็นแกนกลางของไคอิก็ได้
“ ……รุ่นพี่โคฮินาตะ ขอแปปนึงนะครับ ”
“ อ๊ะ…… ”
ฉันเค้นแรงสลัดมือของรุ่นพี่โคฮินาตะออก แล้วจึงจ้องสายตาลงมายังเศษกระดาษ
หน้าคำเตือนมันบอกเอาไว้ว่าถ้าเคลียร์เกมนี้ได้ พวกผู้ชายที่ถูกกักขังจองจำเอาไว้จะถูกปลดปล่อยทั้งหมด แต่ก็ไม่ได้มีใครบอกซะหน่อยไง ว่าถ้าเคลียร์ได้แล้วไคอิมันจะสลายหายไปน่ะ
กล่าวคือการเคลียร์เกม ไม่ใช่วิธีที่จะใช้คลี่คลายเหตุการณ์ลงได้อย่างสมบูรณ์
และเศษกระดาษที่ฉันกวาดสายตาอ่านเพื่อให้ได้ข้อมูลโฮสต์เจ้าของร่าง ก็มีเขียนเอาไว้ว่าแบบนี้
ผู้ชายเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัว
ทั้งการยั่วยุให้ท่า และคิดอยากจะอยู่ด้วยกันกับสิ่งมีชีวิตพรรค์นั้นจึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกไม่ควร
ฉะนั้น ฉันจึงเป็นเด็กไม่ดี
แต่ว่า แต่ว่านะ?
หากเป็นคนที่ไม่ใช้ร่างกายของผู้หญิงเพื่อสนองตัณหากามาอารมณ์ของตนเองง่ายๆแล้วละก็
หากเป็นคนที่ถวายตัวรับใช้ฉันแล้วละก็
หากเป็นคนที่จะอุทิศตนเพื่อปกป้องฉันแล้วละก็
หากเป็นคนที่เข้าใจในตัวฉันที่กลัวผู้ชาย และเป็นดั่งเจ้าชายที่ช่วยพาฉันออกไปจากสถานที่อันคับแคบมืดมิดแล้วละก็
หากเป็นคนแบบนั้น ถ้าเป็นในที่ที่ไม่มีคุณแม่ ถ้าเป็นภายในสวนปิดตายที่พวกคุณแม่จะมองเข้ามาไม่เห็นแล้วละก็ คงจะอยู่ด้วยกันกับเขาได้หรอกสินะ……?
อยู่ด้วยกันแค่สองคนเท่านั้น ภายในปราสาทแสนสวย ตลอดไป ตลอดไป
ตลอดกาล
“ ……ฮึก ”
บันทึกนี่……มันอะไรกัน?
เนื้อหาที่ดั่งกับบรรยายถึงสถานการณ์ของฉันและรุ่นพี่โคฮินาตะในปัจจุบันมันทำให้ขนลุกขนชัน
“ อ๊าาาา! ฟุรุยะคุง!? ถึงจะกำลังแต่งตัวปัญญานิ่มอยู่ก็เถอะ แต่อันดับตำแหน่งที่ตาคอยเอาแต่จ้องมองดูแขนเด็กผู้หญิงอยู่เรื่อยนั่นคือฟุรุยะคุงสินะ!? เจอตัวได้ซะทีนึง! ”
เป็นตรงนั้นเอง ที่มีเงานึงพุ่งทะยานออกมาจากหนึ่งในทางเดินที่เชื่อมต่ออยู่กับทางเข้า
เด็กผู้หญิงที่เขย่าริบบ้อนขนาดใหญ่และนมขนาดเบิ้มให้สั่นไหวนั่นกำลังวิ่งปรี่เข้ามาใกล้ด้วยสีหน้าโล่งอกจากก้นบึ้งของหัวใจ
“ โธ่! ไปอยู่ไหนมาน่ะ!? ฉันนี่เจอกับสัตว์ประหลาดน่าขยะแขยงมั่งล่ะ เดินมึนวนไม่รู้ทางมั่งล่ะลำบากมากเลยนะ! แล้วไหงถึงแต่งหญิงเฉยเลย หรือว่ารู้ตัวเองขึ้นมาในตอนที่ลักลอบเข้าไปในโรงเรียนหญิงล้วนก่อนหน้า……นี้…… ”
สีหน้าของเด็กผู้หญิงหัวริบบ้อน——โซยะ มิซากิที่จ้องมองไปยังเบื้องหลังฉัน พลันแข็งทื่อไปในระหว่างที่ยังพูดไม่จบประโยค
แต่แทนที่จะตกใจกับปฎิกิริยาตอบสนองนั่น ความเป็นจริงที่หวนนึกได้ขึ้นมาอย่างกะทันจากการที่เธอคนนั้นโผล่มาอยู่ตรงหน้า ก็ทำเอาฉันตัวแข็งทื่อไปเลย
(……จริงด้วย ฉันเข้ามาข้างในเกมด้วยกันกับโซยะนี่ ……แต่ว่า อ้าว? เอ๊ะ?)
ถ้างั้น รุ่นพี่โคฮินาตะที่อยู่ด้วยกันกับฉันมาตลอดจนถึงตอนนี้……คืออะไรกันน่ะ?
“ มัวทำอะไรอยู่น่ะฟุรุยะคุง!? ”
โซยะตะเบ็งเสียงร้องอย่างร้อนรนออกมา ในจังหวะเกือบๆช่วงเดียวกับที่ฉันหันกลับไปหารุ่นพี่โคฮินาตะพอดี
“ ไม่ได้นะ! รีบมาทางนี้เร็วเข้า! คนคนนั้น เค้าจ้องกะจะจับฟุรุยะคุงกินอยู่นะ! กินในเชิงอย่างว่า! ”
ซ๊ววบ ฉุ๊ฟฟ ผิ๊ซซ……กร๊อบกร๊อบกร๊อบ
“ ……ฮารุฮิสะคุง ไม่ได้เกลียด……ผู้หญิงทะลึ่งสินะ……? ”
ที่กังวานผสมเข้ามากับเสียงอันไพเราะเสนาะหูของรุ่นพี่โคฮินาตะ ก็คือเสียงน้ำแหบแห้งที่ดั่งกับเนื้อสดถูกแหวก
ร่างของรุ่นพี่โคฮินาตะสั่นเทิ้มราวกับชัก และสิ่งที่พุ่งพวยอย่างรุนแรงออกมาจากหลังนั่นก็คือ หนวดรยางค์ลื่นปรื๊ดส่องประกายแสงสีดำมันวาวหลากหลายเส้น แบบเดียวกับที่กลืนคาราสึมะเข้าไปนั่นเลย
“ เหวย!? ”
และในหมู่นั่น หนวดรยางค์ที่มีขนาดเล็กกว่าพวก ก็พลันแตกหน่อแยกออกเป็นหลายสิบเส้นพุ่งเข้ามารัดพันรอบขาอันเปลือยเปล่าที่ยืดออกมาจากกระโปรงของฉันเอาไว้อย่างเร็วไว สัมผัสนั่นมันราวกับว่ากำลังถูกไส้เดือนดินกว่าพันตัวลูบไล้โลมเล้าไปทั่วเลยก็มิปาน
“ รุ่นพี่……โคฮินาตะ……!? ”
ในตอนนั้น หมอกควันที่ปกคลุมอยู่ในหัวของฉันก็พลันสลายหาย
(อาา จริงสิ ไหงฉันถึงลืมมาตลอดจนถึงตอนนี้ได้น่ะ……!)
ไม่สิ ถูกทำให้ลืมงั้นเรอะ?
เศษกระดาษที่เก็บได้ในระหว่างพิชิตเกมนั่น
ที่ถูกเขียนบรรยายลงไปในนั้น ทั้งมุมมองสุดเพี้ยนที่มีต่อผู้ชาย ทั้งความสนใจต่อสิ่งทะลึ่ง มันคือสิ่งที่รุ่นพี่โคฮินาตะแสดงให้เห็นในวิทยาลัยหญิงชิรายูกิทั้งนั้นเลยนี่หว่า……!
ถ้างั้นคำก่นด่าว่าร้ายตัวเองเกินเหตุที่ถูกเขียนกระแทกอัดเข้าไปเศษกระดาษนั่น ความปราถนาอันบิดเบี้ยวนั่น——ทั้งหมดมันก็คือเสียงแผดร้องของรุ่นพี่โคฮินาตะที่กลายเป็นไคอิไปนั่นเอง
“ ……จะช่วย……ปกป้องฉันไว้สินะ……เธอที่ช่วยจับมือนำทาง……แล้วยอมถึงขั้นแต่งหญิงให้…… ”
ทุกครั้งที่รยางค์ซึ่งทำให้นึกถึงปรสิตขนาดใหญ่พุ่งพวยออกมาจากแผ่นหลัง ร่างกายของรุ่นพี่โคฮินาตะก็จะหักงอไปยังมุมต่างๆหลากหลายเนื่องจากแรงส่งกลับ แค่การเคลื่อนไหวที่ราวกับร่ายรำด้วยท่าเต้นสุดแปลกประหลาดนั่น ก็สามารถยั่วยุความหวาดกลัวและความรังเกียจตามสัญชาติญาณได้เหลือแหล่แล้ว
“ ……ชอบนะ……ชอบที่สุดเลย……ฉะนั้น…… ”
อ้าา
ปลายหัวรยางค์หลากหลายเส้นที่งอกออกมาจากร่างกายของรุ่นพี่โคฮินาตะ พลันแหวกออกเป็นแนวตั้ง
โยนีสีชมพูที่อุดมเปี่ยมล้นไปด้วยเลือดนั่นมันเหมือนกับอวัยวะเพศหญิงที่สั่นระริกอยู่ตรงระหว่างขาของนางุโมะเก๊เหลือเกิน และของเหลวเหนียวหนืดที่ไหลย้อยหลั่งออกมานั่น ก็ราวกับว่าเป็นสัตว์กินเนื้อที่กำลังหลั่งน้ำลายไหลเยิ้มอยู่ต่อหน้าเหยื่อเลยทีเดียว
“ ……ขึก ”
หนีไม่พ้น
แม้จะไล่ตามหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขของหนวดรยางค์และร่างกายของรุ่นพี่โคฮินาตะที่กำลังแย้มยิ้มอย่างเคลิบเคลิ้ม แต่——
“ ฟุรุยะคุง!! ”
ที่เห็นเป็นอย่างสุดท้าย กลับไม่ใช่โพรงเสน่ห์กายิกสุข แต่เป็นเหล่าชิกิงามิ 4 ตัวที่โซยะปล่อยพุ่งเข้ามา กับบริเวณผิวภายในของรยางค์ที่อ้าปากกว้างเต็มลูกตาเพื่อทะยานเข้ามากลืนฉันเข้าไป กำแพงเนื้อสีชมพูซึ่งแฉะโชกสุกงอมถึงขีดสุดที่กระแทกเข้ามาใส่
“ ……ฉะนั้นเราสองคน……มาอยู่ด้วยกันในปราสาทนี้ตลอดไปเลยนะ……เจ้าชายของฉันน…… ”
ที่ได้ยินเป็นอย่างสุดท้าย ก็คือเสียงหวานเยิ้มอิ่มเอมใจสุดขีดของรุ่นพี่โคฮินาตะ แล้วก็——จุ๊ปโป๊ะ
เสียงน้ำสุดลามกสัปดน ที่ดังกังวานเนื่องจากอากาศผสมปนเปเข้ากับของเหลวลึกลับจากรยางค์ ที่ขย้ำกลืนฉันเข้าไปจากส่วนหัว
MANGA DISCUSSION