ขอโทษค่ะ ขอโทษค่ะ
ขอโทษค่ะที่คิดอยากจะลองแต่งตัวตามแฟชั่น
ขอโทษค่ะที่คิดอยากจะลองพูดคุยกับผู้ชาย
ขอโทษค่ะที่คิดอยากจะลองแตะสัมผัสตัวของผู้ชาย
ขอโทษค่ะที่คิดอยากจะถูกผู้ชายแตะต้องสัมผัสตัว
ขอโทษค่ะที่คิดอยากจะทำเรื่องลามกกับผู้ชาย
ฉันเป็นเด็กไม่ดีค่ะ
เป็นเด็กที่สนใจในเรื่องลามก สนใจในเรื่องของผู้ชาย อยู่ไปก็มีแต่จะทำให้โลกอันสงบสุขที่มีเพียงผู้หญิงปั่นป่วนวุ่นวายซะเปล่า เป็นเด็กไม่ดีที่ชั่วช้าสามานย์ที่สุดเลยค่ะ
แต่ว่า
แต่ว่านะ?
ถ้าอย่างนั้น ฉันก็จะเอาตัวเองเป็นเหยื่อ กักขังผู้ชายทุกคนเอาไว้เอง
จะกักตัวผู้ชายที่พวกคุณแม่เกลียดชังเอาไว้ให้หมดทุกคนเอง
ฉะนั้น ถ้าแบบนั้นละก็
ถ้าเป็นในสถานที่ที่พวกคุณแม่มองมาไม่เห็นแล้วละก็……คงขอทำตามอำเภอใจแค่หน่อยนึงนิดเดียวได้ละสินะ?
ฉันกับโซยะง่วนอยู่กับการพิชิตเลิฟโฮเทลร้าง โดยที่ยังฉุดบรรยากาศชวนอึดอัดติดมาด้วยทั้งๆอย่างนั้น
พอกดปุ่มโทรศัพท์สำหรับใช้เฉพาะภายในอาคารที่ถูกตั้งเอาไว้ภายในห้องนึงของเลิฟโฮเทลร้างตามลำดับแล้ว ก็มีเสียงดังกริ๊กออกมาจากภาพวาดที่ถูกติดเอาไว้กับกำแพงข้างหน้า
“ ……อ่า เอ่อ โซยะ ช่วยถือนี่ที ”
“ อะ อือ ”
ฉันก็ส่งภาพวาดที่ถอดออกจากกำแพงไปให้โซยะด้วยมือเลยหรอกนะ……แต่ระยะห่างระหว่างเรามันกลับห่างไกลกันพิกลแฮะ
แถมเพราะต่างคนต่างก็พยายามจะไม่มองหน้ากัน การส่งภาพวาดมันก็เลยชักช้ายืดยาดอยู่นั่น ทำเอาเราพากันส่งเสียงหัวเราะแห้งๆแบบแปลกๆออกมากันทั้งคู่ โคตรจะห่างเหินกันเลยฟ่ะพับผ่า
(ว้อยยยยยยย! ไอ้บรรลัยคาราสึมะ ถ้ากลับไปแล้วจะจัดยำใหญ่ใส่มันยังไงดีฟะ)
พอเก็บกุญแจออกมาจากช่องว่างที่ซ่อนอยู่หลังภาพวาดไปพลางด่ากราดใส่คาราสึมะไปด้วยแล้ว
[ทั้งสองคน สมาธิวอกแวกหมดแล้วนะ ไม่รู้หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อย่าได้ลืมเชียวล่ะว่ากำลังอยู่ในระหว่างทำภารกิจน่ะ]
เจ้าของเสียงที่ดังขึ้นมาจากบริเวณหูฉันนั่นก็คือ คาเอเดะที่รับช่วงใช้ศาสตร์สื่อสารต่อจากซากุระ
ซากุระที่ดูเหมือนจะถูกผลาญพลังวิญญาณไปอย่างหนักหน่วงกว่าที่คิด ได้ทำการส่งไม้ต่อตำแหน่งสื่อสารไปให้กับคาเอเดะเมื่อตะกี้นี้เองน่ะ
เอ้อแต่ก็สงสัยว่าตัวซากุระจะมีคิดต่อต้านคาเอเดะอยู่ละมั้ง ยัยนั่นก็เลยออดอ้อนว่า [มีแค่ด่านครึ่งแรกเท่านั้น……มีแค่ด่านครึ่งแรกนี่เท่านั้นที่จะยอมให้นังจิ้งจอกมันเห็นไม่ได้เด็ดขาด……] อยู่จนหยดสุดท้ายเลย แต่ท้ายที่สุดก็ต้านทานไม่ให้พลังวิญญาณหมดไม่ได้แน่ะ
[ผ่านไปแล้วสามชั่วโมงตั้งแต่ที่เกมเริ่มต้น ผู้ที่ยังเหลือรอดอยู่มีเพียงแค่พวกเธอเท่านั้นแล้วนะ จงพึงระลึกว่ามีความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่อยู่กับตัวแล้วลงมือทำให้ดีซะ]
“ ……รู้แล้วแหละน่า ”
ในจังหวะเกือบๆเดียวกันกับที่คาเอเดะรับตำแหน่งสื่อสารต่อ ผู้ปราบมารคนอื่นๆนอกจากพวกเราก็ย่อยยับหมดสภาพไปกันหมดเลย
แม้จะเป็นเหล่าผู้คนที่เคยเอาชนะได้ชัยในศึกประชันลีลาแข่งกันเสร็จกับเด็กผู้หญิงมาครั้งนึง แต่ในห้องถัดๆมาก็ถูกปล้ำโดยหญิงหลายคนมั่งล่ะ เพลย์มันดุเด็ดเผ็ดมันเกินจะรับไหวมั่งล่ะ…เรียกได้ว่าระดับความยากพุ่งขึ้นสูงปรี๊ด ทำให้เหมือนว่าจะไม่มีใครสามารถต้านทานได้เลยซักคนเดียว
[ห้องทำศึกรอบถัดไปจะเป็นปราการสุดท้ายของด่านครึ่งแรกแล้ว หากเป็นความสามารถของเธอก็น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอก……แต่ห้องทำศึกรอบที่สามนั้นถือเป็นพื้นที่ลี้ลับไม่มีข้อมูลเลย อย่าได้ชะล่าใจเชียวล่ะ]
เรื่องนั้นไม่ต้องบอกก็รู้อยู่แล้ว
ก็มาจนถึงตรงนี้โดยที่ยังไม่มีโอกาสได้ลบล้างแก้ไขชื่อเสียจากห้องทำศึกรอบแรก (ไอ้ห่าคาราสึมะตรูจะฆ่าเอ็งให้ได้เลยไอ้เวร) เลยนี่นะ ตอนนี้กะจะเผด็จศึกให้ได้ในพริบตาเดียวเต็มที่เลยเชียวล่ะ
แถมพอยิ่งเข้าใกล้ห้องทำศึกมากขึ้น โซยะที่ตลอดมาจนตอนนี้เอาแต่หันหน้าหนีอย่างอึดอัด ก็ค่อยๆหันจ้องมองตรงแหน่วมายังฉัน ก่อนจะ
——ฟุรุยะคุง น่าจะรู้อยู่แล้วก็จริงหรอก แต่ถ้าอยู่ในห้องถัดไปนานเกินกว่า 5 วินาทีแล้วละก็ ฉันจะแฉเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องรอบแรกให้คุณคุซึโนะฮะรู้ทั้งหมดเลยนะ……?
เงี้ย…กล่าวแบบนั้นมาให้ผ่านทางสายตาเลยแน่ะ
อยากจะเข้าท้าชนกับห้องทำศึกและลบล้างชื่อเสียให้ได้โดยเร็วเลย ไม่งั้นละก็กระเพาะกับตับฉันได้ระเบิดแหลกแหง
แต่ขัดกับจิตที่มุ่งมั่นลุกโชนแบบนั้น ตัวฉันที่มุ่งหน้าก้าวมาถึงประตูห้องทำศึกรอบที่สาม กลับเอามือจับลูกบิดประตูแล้วนิ่งค้างไม่ไหวติงไปเฉยเลย
[หากเคลียร์ห้องนั้นสำเร็จ จะเดินทางไปยังอาคารอีกหลังนึงได้ล่ะ ที่เค้าเรียกกันว่าด่านครึ่งหลังนั่นเอง เห็นว่าตั้งแต่ตรงนั้นไปรูปแบบของเกมจะเปลี่ยนไปเลย ฉะนั้นต่อให้ชนะได้แต่ก็จงเพ่งสมาธิอย่าได้วางใจเชียว ……ฟุรุยะคุง? เป็นอะไรไปเหรอ เกิดปัญหาอะไรขึ้นหรือเปล่า?]
“ เอิ่มแบบว่า…… ”
เห็นฉันที่ผ่านไปเท่าไหร่ก็ไม่ยอมเปิดประตูซักทีแล้ว คาเอเดะก็พลันส่งเสียงออกมาอย่างฉงนสงสัย
แต่ฉันกลับไม่อาจบอกสาเหตุที่ทำให้ตนเองลังเลให้กับคาเอเดะได้ ทำไมน่ะเรอะ
(……ถ้าคาเอเดะโผล่ออกมาในห้องนี้อีกจะทำยังไงดีล่ะ)
ว่ากันว่า เด็กผู้หญิงที่โผล่เข้ามาปลุกปล้ำภายในโฮเทลราพันเซลนั้นจะเป็นภาพสะท้อนจากรสนิยมความชอบของตัวผู้เล่น
ที่ในห้องรอบแรกเป็นเพลย์สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันกับคาเอเดะนี่มันก็ เอ้อ อืม ถึงจะไม่รู้ตัวเลยซักนิดก็เหอะ แต่ก็คงจะเป็นเพราะฉันปราถนาแบบนั้นอยู่ลึกๆภายใต้จิตไร้สำนึกละมั้งนะ
งั้นรอบสองก็น่าจะเหมือนกัน……ไม่สิ ถ้ากลายเป็นเพลย์ที่ดุเด็ดหนักข้อยิ่งกว่าเดิมก็ไม่แปลกเลยด้วยซ้ำ อาจจะทะลุเกินขีดของเพลย์เป็นเด็กทารกจนมีน้ำนมพุ่งออกมาจากเต้าของคาเอเดะเลยก็เป็นได้
(ถ้ากลายเป็นแบบนั้นขึ้นมาจริง ก็หัวเราะเยาะใส่ไอ้เจ้าโคบายาชิที่ช๊อบชอบน้ำดื่มจากเต้าแม่ 100% มากที่สุดไม่ได้กันพอดีสิวะ……!)
แต่ถึงงั้น จะไม่เข้าท้าชนกับห้องทำศึกตรงนี้ก็ไม่ได้อีก……
ฉันจึงทำการกล่าวขอโทษก่อนล่วงหน้าเลย เพื่อหวังว่าอย่างน้อยก็ขอลดหลั่นความโกรธและความขยะแขยงของคาเอเดะให้น้อยลงซักนิดก็ยังดีอะนะ
“ ขะ คือว่านะคาเอเดะ ห้องนี้น่ะแบบว่า ต่อให้เกิดเรื่องน่าสะอิดสะเอียนแบบไหนขึ้นมา แต่ถ้าคุมใจไว้ให้ไม่โกรธได้จะช่วยได้มากเลยล่ะ……ก็คือ พูดล่วงหน้าไว้เลยแล้วกัน ขอโทษนะ! ”
หลั่งเหงื่อที่ชวนรู้สึกไม่ดีให้แตกพลั่กออกมาจากทั่วร่างไปพลาง งอเข่าตั้งท่าเตรียมที่จะก้มลงกราบเป็นครั้งที่สามของวัน
[……เข้าใจล่ะ มันเป็นแบบนี้เอง]
คาเอเดะพึมพำออกมาอย่างเข้าใจ
แต่น่าแปลกที่น้ำเสียงนั่นไม่ได้แอบแฝงไว้ด้วยคลื่นจิตสังหาร แล้วก็ไม่ได้อัดแน่นไปด้วยความรู้สึกเหยียดหยามรังเกียจเลยแม้แต่นิด มีท่าทางเหมือนโมโหนิดหน่อยก็จริงหรอก แต่ก็แค่นิดนึงกระจึ๋งเดียวเท่านั้น เผลอๆแล้วเสียงออกจะดูนุ่มชอบกลด้วยซ้ำ……
[แค่ดูจากปฎิกิริยาของนังหนู ก็พอจะคาดเดาได้อยู่แล้วว่าเธอถูกผู้หญิงแบบไหนปล้ำเข้าในห้องรอบแรก]
“ เอ๊ะ ”
[คิดว่าถ้า เป็นตอนนี้ที่ฉันเป็นคนรับตำแหน่งสื่อสารอยู่นี่ หากมีผู้หญิงคนเดิมโผล่ซ้ำออกมาอีกก็คงจะแย่ละสินะ?]
ถูกเผงเลย
ถูกเผงเลยก็จริงหรอก แต่ถ้างั้นไหงเสียงของคาเอเดะถึงไม่มีจิตสังหารแฝงอยู่เลยซักนิดล่ะ
ตอนนี้กะจะปล่อยให้ชะล่าใจ แล้วค่อยลอบหาจังหวะฆ่าทิ้งอย่างแน่นอนทีหลังงั้นเรอะ
[ไม่ต้องระแวงไปแบบนั้นหรอกนะ หากเป็นภาพมโนที่เธอสร้างให้เป็นรูปธรรมออกมาด้วยตนเองก็ว่าไปอย่าง แต่นั่นมันคือมิติที่จะสะท้อนความปราถนาจากเบื้องลึกภายใต้จิตไร้สำนึกออกมานี่นา ต่อให้เธอแสดงอะไรออกมาให้เห็น ฉันก็จะไม่โมโหหรอก]
พอคาเอเดะกล่าวแบบนั้นอย่างเรียบเฉยแล้ว คุณหล่อนก็พูดต่อด้วยเสียงที่อ่อนนุ่มขึ้นอีกนิดหน่อย
[ให้ว่าแล้ว ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆเหมือนนังหนูนะ รู้เข้าใจดีพอตัวเลยเหมือนกันล่ะว่าต่อให้เป็นคนซื่อบื้อไม่สันทัดเรื่องพวกนั้นอย่างเธอก็คงจะมีเก็บงำตัณหาความอยากอันบิดเบี้ยวไว้กับตัวเช่นกัน แถมตอนนี้ยังอยู่ในระหว่างทำงานด้วย ต่อให้เธอจะทำแบบไหนอย่างไรกับ ผู้หญิงในอุดมคติ คนนั้นซักเท่าไหร่ แต่ก็จะแสร้งทำเป็นไม่เห็นให้ก็แล้วกัน]
แต่ก็จงปฎิบัติตามภารกิจโดยอย่าสนใจอะไรไม่เข้าเรื่องซะล่ะ……คาเอเดะพูดผลักดันหลังของฉันว่างั้นแน่ะ
“ ขะ คาเอเดะ…… ”
อะไรกันน่ะ มันเกิดอะไรขึ้นน่ะ
ถึงจะแค่ 1 ใน 100 ของคาเอเดะเก๊ที่ช่วยทำแซนด์วิชคั่นกลางระหว่างต้นขากับหน่มน้มให้ แต่วันนี้ดูคุณหล่อนจะใจกว้างอารมณ์ดียังไงชอบกล ไม่ได้เจอกับท่าทางแบบนี้ของคาเอเดะมาตั้งแต่ช่วงยังเด็กๆเลยมั้งเนี่ย?
อย่าบอกนะว่าคาเอเดะคนนี้ก็เป็นตัวปลอมด้วย…พอฉันเริ่มจะวิตกกังวลเคลือบแคลงสงสัยหลอนไปซะทุกอย่าง
“ ……หยุดจู๋จี๋แล้วรีบๆเข้าไปดำเนินเกมซะทีจะได้มั้ยน้าาา ”
หงึก!
ได้ยินเสียงต่ำทุ้มของโซยะดังมาจากข้างหลัง ทำเอาตัวฉันถึงกับสะดุ้ง
(พะ พอคาเอเดะใจดีอย่างประหลาดขึ้นมา โซยะก็กลายเป็นหงุดหงิดอารมณ์เสียขั้นสุดยอดไปแทนซะงั้น……มันยังไงกันน่ะ เผลอสลับนิสัยกันในตอนไหนซักช่วงนึงรึเปล่าเนี่ยเฮ้ย)
ฉันพุ่งเข้าไปในห้องทำศึกรอบที่สาม ราวกับเผ่นหนีจากโซยะ
“ ……กว้างจริงแฮะ ”
ที่นั่นมีขนาดความกว้างกว่าห้องพักแขกตลอดมาจนตอนนี้ถึงเท่าตัว เหมือนจะเป็นห้องแบบพิเศษละมั้งนะ
ยังคงมีสภาพที่ถูกปล่อยทิ้งร้างไม่ต่างจากห้องอื่นๆหรอก แต่เตียงนอนขนาดใหญ่ยักษ์ที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางห้องนั่นมันก็ปลดปล่อยออร่าความน่าเกรงขามออกมานิดๆ
——วูบ
“ ฮึก! ”
จู่ๆทิวทัศน์ของห้องก็เริ่มจะบิดเบือนราวกับเป็นภาพหลอกตา
เกมมันอ่านความปราถนาที่อยู่เบื้องลึกภายใต้จิตไร้สำนึกของฉัน แล้วเริ่มที่จะแปลงสภาพของห้องนั่นเอง
(เอาล่ะ ไม่ต้องกลัวว่าจะถูกคาเอเดะฆ่าแล้วด้วย จะอะไรก็มาเลยเว้ย)
ในท้ายที่สุด ผู้ที่พลันปรากฎขึ้นมาเหนือเตียงนอนขนาดใหญ่ยักษ์ก็คือ——
“ หะ……ฮิ๊……หยุดทีเหอะ……ถ้าทำกันไปมากกว่านี้……ฉันคง……❤ ”
ที่สั่นพลิ้วไหวนั่นก็คือผมทรงหางม้าที่ประดุจดั่งสายน้ำไหล
โฉมหน้าแสนห้าวเหมือนทุกทีนั่นได้ถูกย้อมฉาบเปี่ยมล้นไปด้วยความเสียวซ่านเปียกโชกเละเทะ น้ำตาเอ่อล้นอย่างแสนอ่อนแอ
เธอผู้ที่ถูกมัดมือสองข้างราวกับถูกแขวนลงจากที่สูงและอยู่ในสภาพยืนรอให้ถูกสอดใส่จากเบื้องหลัง กำลังปล่อยให้กายทั่วร่างสั่นเทิ้มหงึกหงึกอยู่ในชุดโดกิที่ถูกบีบบังคับจับเปลื้องถอดออกแบบครึ่งๆกลางๆ แม้จะรู้สึกแหม่งๆกับนมใหญ่ของแท้ที่เผยออกมาจากเสื้อในระดับที่พอจะปกปิดหัวนมไว้ได้แบบฉิวเฉียดพอดี แต่นั่นก็คือ นางุโมะ มุตสึมิ ไม่ผิดอย่างแน่นอนเลย
(อ้าว!? ไม่ใช่คาเอเดะ!?)
พอฉันมึนงงกับคนที่เหนือความคาดหมาย แถมยังเป็นออปชั่นแบบเสริมให้กลายเป็นนมใหญ่อีกด้วยนั่นอยู่——หนุบบ
“ อ๊ายย❤ ”
“ ขึก!? ”
พลันมีอะไรแสนนุ่มนิ่มชนเข้ากับหลัง พร้อมกับที่เสียงหวานดังก้องกังวาน
“ พี่จ๋าคนละทึ่ง……❤ ”
ที่อยู่ตรงนั้นก็คือ ซากุระที่สวมใส่คามิโซล (เสื้อชั้นใน) โปร่งแสง เพียงอย่างเดียว
เสื้อชั้นในที่บางจ๋อยเกินไปนั่นมันแสดงเส้นรอบร่างและสีผิวให้เห็นออกมาได้รางๆ โชว์รูปทรงของนมที่เติบโตผลิดอกออกผลอย่างงดงามและตำแหน่งของหัวปลายนั่นให้ฉันทราบได้อย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง
และซากุระที่หุ้มกายตัวเองอยู่ด้วยชุดสุดทะลึ่งพรรค์นั้นก็อมยิ้มอย่างเย้ายวน มองเขม็งตรงมายังใบหน้าของฉันพร้อมเลียริมฝีปากดังแผล็บ นั่นก็คือสีหน้าของตัวเมียสุดร่านที่ในหัวมีแต่คิดจะผสมพันธุ์
(งะ งี้นี่เอง……กะรุมพร้อมกันทีเดียวสองคนงั้นเรอะ)
ต่างกับเพลย์แสนอ่อนหวานของคาเอเดะ เล่นยิงความสยิวอัดเข้ามาใส่เป็นลูกตรงแหน่วแบบนี้แล้วก็ทำเอาสับสนไปเลยหรอก แต่เพราะเตรียมใจเอาไว้แล้วก็เลยพอจะสงบใจให้นิ่งไว้ได้
(แล้วก็ ถึงคาเอเดะจะพูดงั้นก็เหอะ แต่ถ้าความปราถนาพิลึกๆเกิดกลายเป็นรูปธรรมขึ้นมาต่อหน้าเจ้าตัวที่มองดูอยู่ แบบนั้นมันก็ชวนให้รู้สึกผิดอะนะ……)
เพราะมีนางุโมะกับซากุระโผล่ออกมาแทน จึงทำให้ใจชื้นขึ้นได้เยอะเลย และเป็นในจังหวะที่ฉันซึ่งโล่งใจเริ่มที่จะไล่ควานหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขนั่นเอง
[……เศษเดนมนุษย์]
ที่เสียงอันเปี่ยมล้นเต็มไปด้วยจิตสังหารของคาเอเดะพลันกังวานขึ้นที่ข้างหู อ้าวเฮ้ยยย!?
[……หน้าเนื้อใจเสือ……อสูรกายที่ขอแค่มีรูก็จะหื่นกระหายมีอารมณ์ได้ไม่เลือกหน้า……]
“ เฮ้ย!? คาเอเดะ!? ยังบอกว่าจะไม่โกรธอยู่เลยไม่ใช่เรอะ! ”
[ห้ะ? ใครโกรธอยู่เหรอ หยุดกล่าวหามั่วซั่วแล้วเพ่งสมาธิกับการงานซะเดี๋ยวก็ฆ่าทิ้งหรอก]
โกรธอยู่เห็นๆ!
พองงงวยกับคำด่าทอแสนหยาบคายของคาเอเดะที่แตกต่างกับท่าทางเมื่อกี้เกินเหตุสุดขั้วอยู่
จ้องงง
“ ขึก!? ”
ฉันก็สัมผัสถึงแววตานั่นเข้าจนได้
โซยะที่จับจ้องมองเข้ามาภายในห้อง ผ่านรอยแตกของประตูนั่นเอง
ดวงตาที่ขาดหายไร้ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกใดๆกำลังจ้องเขม็งมองเข้ามาใส่โดยไม่มีกระพริบตาเลยซักครั้งเดียว
“ สา~ม สี่~ ห้า~ ……………………โห~ก เจ็~ด ”
ปากของโซยะมันกำลังนับตัวเลขจับเวลาอยู่อย่างชัดเจนเลย……!
แถมพอถึงช่วงเกินห้าวินาทีไปแล้ว ก็เหมือนว่าคุณหล่อนแกจะเริ่มทุ่มแรงเตะประตูดังเปรี้ยงเปรี้ยงเลยอีกด้วยรึเปล่านั่น……
——แกร๊ก!
เป็นตรงนั้นเอง ที่มีเสียงโลหะกระทบกันดังกังวานขึ้นมาจากบริเวณมือของฉัน ที่ถูกดึงความสนใจอยู่โดยจิตสังหารซึ่งแผ่มาจากสองด้าน
“ อ๊า!? ”
“ เอะเฮะเฮะ พี่จ๋านี่มีแต่ช่องโหว่เต็มไปหมดเลยน้า~❤ ”
ซากุระในสภาพสวมคามิโซลโปร่งแสงได้ฉุดมือฉันวนไปข้างหลัง
แล้วใช้กุญแจมืออันหนาเตอะ ผนึกเทคโนเบรคเกอร์ของฉันทางกายภาพแบบตรงๆเฉยเลย
MANGA DISCUSSION