——ช่างเป็นห้วงมิติอันสุดจะวิเศษจริงๆ! ฉันไม่จำเป็นต้องลำบากสร้างฝันเปียกขึ้นมาให้ดูเลยค่ะ!
——ถ้าเป็นที่นี่ละก็ จะต้องสะสมพลังงานทางเพศในระดับที่ตั้งเป้าเอาไว้ได้ในรวดเดียวแน่ๆเลย!
——สู้สู้พยายามเข้านะคะคุณฟุรุยะ!
เด็กผู้หญิงผมเงินผิวสีน้ำตาลกล่าวน้ำลายเยิ้มอยู่ด้วยรอยยิ้มเปล่งประกาย
แต่ภาพนั้น ก็พลันถูกลบเลือนให้สลายหายไปอย่างง่ายดายโดยเสียงของใครบางคนที่กำลังเรียกขานชื่อฉันอยู่
“ ……คุง……ตื่นสิฟุรุยะคุง ”
“ อื๋อ……? ”
ผงะรู้สึกตัวขึ้นมาได้
“ ……อ้าว? ถ้าจำไม่ผิดพลาด ไม่ใช่ว่าฉันเข้ามาภายในโลกของเกมแล้วหรอกเรอะ? ”
พอกวาดตามองไปโดยรอบ ก็พบว่านั่นคือห้องที่มีแผนผังคล้ายกับห้องพักของฉันมากเลยทีเดียว
จุดเริ่มน่าจะเป็นล็อบบี้ชั้นหนึ่งของเลิฟโฮเทลร้าง—-เอ้อถึงเอาตามจริงแล้วจะเป็นทางเดินที่แค่แสดงห้องพักแขกแต่ละห้องเป็นช่องเล็กๆก็เหอะนะ—-และผู้เล่นก็จะต้องเริ่มต้นออกเดินทางจากตรงนั้นเพื่อทำการสำรวจบริเวณภายในเลิฟโฮเทลที่มีดีไซน์ประหนึ่งปราสาท…เนี่ยมันน่าจะถูกตั้งเซ็ตติ้งเอาไว้แบบนี้นี่นา……
แต่ห้องนี้มันกลับต่างจากจุดเริ่มดังที่ได้ยินมาก่อนล่วงหน้านั่นลิบลับเลย แถมยังไม่มีบรรยากาศเหมือนเป็นห้องใดๆของเลิฟโฮเทลร้างด้วย
(แถมที่นี่ มันยังไม่รู้สึกเหมือนว่าอยู่ในเกมเลยซักนิดอีกตะหาก……)
ราวกับว่าคือความเป็นจริงดีๆนี่แหละ
คิดว่าฝันเปียกกับซากุระที่เห็นไปวันก่อนนั่นสมจริงแล้ว แต่นี่สมจริงมากกว่านั้นอีก
ฉันลองเอามือลูบตรวจสอบสัมผัสของเตียงที่นั่งทับอยู่ แล้วจึงลองหยิกแก้มตัวเองด้วย เจ็บแฮะ
อื~ม ยิ่งแยกจากความเป็นจริงไม่ออกเข้าไปใหญ่ ให้ว่าแล้วฉันเข้ามาภายในเกมได้จริงๆรึเปล่าเนี่ยเฮ้ย?
โซยะกับคาราสึมะถูกลากเข้ามาด้วยกันแท้ๆ แต่ไหงถึงมองไม่เห็นตัวเจ้าพวกนั้นเลยซักนิดก็ไม่รู้ แถมศาสตร์สื่อสารของซากุระก็เหมือนจะเชื่อมต่อไม่ได้อีก……เป็นในจังหวะที่ฉันเอียงหัวอย่างฉงนอยู่นั่นเอง
“ โธ่ ฟุรุยะคุงนี่ละก็ เอาแต่เหม่อลอยใจไม่อยู่กับเนื้อตัวมาตั้งแต่เมื่อกี้นี้แล้ว เป็นอะไรไปเหรอ? ”
ที่แขนขวาของฉันพลันถูกห่อหุ้มไปด้วยสัมผัสอันอบอุ่น
เอ๊ะ? ใครน่ะ?
หันคออย่างงงๆมองไปยังทิศที่ได้ยินเสียงดังมา—เท่านั้นแหละฉันถึงกับอึ้งพูดอะไรไม่ออกเลย
“ ถึงงานจะยุ่งมากเท่าไหร่ แต่เล่นทำเมินเฉยไม่เห็นค่าของเวลาที่เราได้อยู่ด้วยกันสองต่อสองแบบนี้ ฉันก็เหงาแย่เลยน่ะสิ ”
ผู้ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียงเคียงข้างฉัน ก็คือเด็กผู้หญิงที่ละม้ายคลับคล้ายกับคาเอเดะเหลือเกิน
ไม่สิ ถ้าเป็นด้านรูปร่างหน้าตาลักษณะภายนอกแล้วละก็เป็นคาเอเดะเป๊ะๆเลยแหละ แต่ทุกสิ่งทุกอย่างนอกเหนือจากหน้าตาภายนอกนี่ มันกลับห่างไกลจากคาเอเดะที่ฉันรู้จักสุดขั้วไปเลยไง
ก่อนอื่นเลยก็คือสีหน้านั่นมันนุ่มนิ่มมาก คาเอเดะที่ปั้นสีหน้าเคลิบเคลิ้มใจละลายกำลังเอาสองมือกอดรัดแขนซ้ายของฉันไว้ราวกับอ้อนกัน จากนั้นยังเอาแก้มลูบๆไซ้ๆถูไถเข้ามา ส่งเสียงดัง “งื้อ~” หยั่งกับเด็กๆ แล้วแหงนมองขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาใสซื่อออดอ้อนอีกต่างหากเว้ย
เครื่องแต่งกายก็คือกางเกงยีนส์และเสื้อยืด ที่ให้อารมณ์เหมือนใส่สบายๆอยู่บ้าน
หยั่งกับสถานการณ์ที่เหมือนคู่รักซึ่งพักอาศัยอยู่ใต้ชายคาเดียวกันกำลังกระหนุงกระหนิงหวานแหววนุ่มฟูกันอยู่เลยมิปาน
“ ห้ะ ขะ คาเอเดะ……? ”
“ อื๋อ? มีอะไรเหรออ? ฟุรุยะคุง ”
พอฉันสับสนจนเปล่งเสียงหลุดออกมา คาเอเดะก็ไม่มีจ้องเขม่นหรือกระเดาะลิ้นใส่กันแต่อย่างใด คุณหล่อนนั้นกลับเอาปลายจมูกอันงดงามซุกเข้ามาใส่ต้นคอฉันแทน
สิ่งมีชีวิตแปลกประหลาดในนามคาเอเดะผู้อ่อนหวานนี่ถือเป็นลูกระเบิดแห่งความน่ารักดีๆนี่เอง ปรากฎการณ์สะเทือนฟ้าสะเทือนดินที่กลายมาให้จับต้องได้ชัดๆ พลังทำลายล้างอันมหาศาลนั่นทำเอาฉันหมดตัวเลือกนอกจากต้องเงิบแดกสมองหยุดทำงานไปสถานเดียว
“ ……อ๊ะ รู้แล้ว อยากจะให้ทำแบบเหมือนเคยละสิ ”
พอฉันพูดอะไรไม่ออกอยู่ คาเอเดะก็ทำปากจู๋ย้อมหน้าเป็นสีแดงแจ๋ราวกับโทษกัน
“ ให้ตายเถอะ……ถึงจะเหนื่อยล้าเพราะงานการทุกวี่วัน……แต่ฉันก็อายเป็นเหมือนกันนะ? ”
ว่าแล้ว คาเอเดะก็ถอดเสื้อยืดออกอย่างประณีตบรรจง
และฉัน ก็ถึงกับทำความเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้ไปชั่วพริบตานึงเลย
เนื่องจากคาเอเดะไม่ได้สวมอะไรอยู่เบื้องใต้เสื้อยืดเลยนั่นเอง
ที่ปรากฎขึ้นมาอยู่ต่อหน้าต่อตาอย่างกะทันหัน ก็คือเรือนร่างท่อนบนอันงดงามประหนึ่งเป็นงานศิลปะ ผิวกายที่เหมาะสมคู่ควรต่อคำบรรยายว่าสาวงามล่มเมือง เต้านมสีขาวนวลไซส์ที่หากจับเข้าแล้วคงจะมีล้นออกมาจากฝ่ามือในระดับพอประมาณกำลังดีเป็นแน่ และปลายหัวนั่นก็กำลังตั้งเด่งามสง่าเป็นสีชมพูชี้แจงแสดงตัวให้เห็นอยู่อย่างผ่าเผย
“ โธ่ อย่ามองกันตาค้างแบบนั้นสิ ”
คาเอเดะยิ่งทำหน้าแดงเข้าไปใหญ่ แต่คุณหล่อนก็ไม่ได้ใช้ไฟจิ้งจอกเผาฉันให้มอดม้วยแม้ซักนิด
พอดึงร่างฉันเข้าไปใกล้อย่างอ่อนโยนแล้ว คาเอเดะก็เอาหัวฉันให้นอนลงมายังต้นขาของตนเองที่ถูกหุ้มไว้ด้วยกางเกงยีนส์ ท่านอนหนุนตักอย่างที่คนเค้าเรียกกันนั่นแหละ
ภายในการมองเห็นของฉันที่กำลังนอนแหงนหน้า มีนมสองเต้าของคาเอเดะกำลังเด้งดึ๋งอยู่อย่างนุ่มนิ่ม
ปรากฎการณ์สุดพิลึกแสนพิศดารประหลาดไร้ใดเทียบและก้าวล้ำไปเหนือความเข้าใจของมวลมนุษย์มันทำให้หัวฉันค้างคาที่อย่างต่อเนื่อง และเป็นในระหว่างนั้นเองที่คาเอเดะทำการประสานอินขึ้นมา
ปุ๊ง
“ ชะเห้ย!? ”
“ นี่ไงล่ะ นมใหญ่ๆแบบที่ฟุรุยะคุงชอบโปรดปรานนักหนา ”
นมงามของคาเอเดะที่ขยายขนาดใหญ่ขึ้นเนื่องจากวิชาแปลงร่างพลันเข้ามาห่อหุ้มรอบหน้าฉันเอาไว้ หน่มน้มสุดเลิศเลอที่ราวกับเป็นแม่เหล็กดูดให้ตัวติดนั่น มันไม่อาจจะพรรณาให้เป็นอื่นใดนอกจากก้อนเนื้อหนุบที่จะทำให้ผู้ชายเสียคนได้อีกแล้ว
ถูกหนีบคั่นกลางด้วยหน่มน้มและต้นขาเจ้าเสน่ห์ ทำเอาสมองใกล้จะรวนมากเต็มที
และมือซ้ายของคาเอเดะก็พลันลูบไล้อย่างอ่อนโยนไปตามหัวอันใกล้จะแย่เต็มทีนั่นของฉัน
“ ขอบคุณสำหรับความเหนื่อยยาก ต้องถูกเพื่อนร่วมทีมแสนแก่นแก้วลากให้หัวหมุนอยู่เรื่อยทุกวันแบบนั้นก็คงจะทำให้ความเครียดสะสมขึ้นมาละสิ? ดังนั้นในตอนที่อยู่กับฉันแค่สองคน จะพักผ่อนสบายๆแบบนี้ซะหน่อยก็ไม่มีใครว่าหรอกนะ ”
คำปลอบโยนที่เปี่ยมไปด้วยความรักและเมตตาประดุจเทพี ผิวกายที่ช่วยเยียวยาชีวี
ขะ คาเอเดะที่สุดยอดสุดเยี่ยมให้ร้อยคะแนนเต็มหมื่นล้านล้านแต้มนี่มันอะไรกัน……?
ร่างกายและคำพูดอันอบอุ่นของคาเอเดะพลันลดทอนจิตและความคิดที่จะต่อต้านให้เหือดหายไป ราวกับเป็นโคทัตสึไม่ก็ออนเซ็นเลยก็ไม่ปาน
“ หึหึ นอกจากความเครียดจะสะสมแล้ว เจ้าหนูตัวน้อยตรงนี้ก็น่าจะถูกการงานบีบคั้นจนสะสมไม่ได้ถูกปลดปล่อยด้วยเหมือนกันรึเปล่านะ ”
“ ขึก!? คาเอเดะ!? เฮ้ยเธอนั่นมัน…… ”
มือขวาของคาเอเดะที่เอาแต่ตบๆท้องฉันอย่างอ่อนโยนดั่งกับเป็นการกล่อมเด็กน้อยให้หลับมาตลอดจนถึงตอนนี้ พลันลูบไล้ไหลไปตามด้านข้างท้องด้วยการเคลื่อนไหวที่ทะลึ่งในทันที
โดนหรือไม่โดน…ปลายนิ้วอันยาวเรียวของคาเอเดะมันไล้ไหลลื่นลงไปตามท้องของฉัน ราวกับแตะต้องเฉพาะแค่ขนอ่อนอย่างเดียว
และปลายนิ้วของคาเอเดะก็ขยับทั้งๆอย่างนั้นลงไปลูบถูไถบริเวณขาหนีบ—-ง่ามขานั่นแหละ—-อย่างยั่วยุเร้าอารมณ์ แล้วจึงรุกล้ำถลำเข้าไปภายในกางเกง นิ้วสีขาวนวลทั้งห้าพลันลูบไล้ไปตามท้องน้อยราวกับกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง
“ นั่นมัน……อะไรเหรออ? ”
คาเอเดะแย้มยิ้มอย่างเย้ายวน โดยไม่ยอมหยุดมือที่คุ้ยไปทั่วท้องน้อยเลยแม้ซักนิด
และในฉับพลันที่แตะโดนเข้ากับน้องชายของฉัน นิ้วทั้งห้าของคาเอเดะก็เข้าตะครุบรัดพันมันไว้ราวกับเป็นอสรพิษที่พบเจอเหยื่อ แล้วจึงค่อยๆชักขึ้นลงอย่างอ่อนโยนอย่างแผ่วเบาราวกับกึ่งๆนวดให้ ด้วยท่วงท่าลีลาที่เหมือนกับกำลังยุการแข็งตัวยังไงยังงั้น
“ ปล่อยให้สดชื่นซักรอบก่อนเถอะ แล้วจากนั้นก็จัดให้ฉันรู้สึกดีตามไปด้วย……นะ? ”
(ตะ ต่อให้ยังไงก็เหอะแต่นี่แม่มจะประหลาดเกินไปแล้วไม่ใช่เรอะ……)
เป็นตรงนี้เอง ที่ฉันซึ่งมู้ดเหวี่ยงรอบโลกจนกลับมาเยือกเย็น เริ่มคิดที่จะลองขัดขืนกลับแบบจริงๆซะที
แต่จะอัดเทคโนเบรคเกอร์ใส่คาเอเดะที่โคตรจะเรียลแถมยังแสนดีเหมือนเทพีคนนี้จริงๆน่ะเหรอ…เป็นในฉับพลัน ที่ตัวฉันซึ่งเกิดสับสนขึ้นมาไม่อาจหาญกล้าจะต่อต้านขัดขืนแบบสุดแรงนั่นเอง
[เดี๋ยวเถอะนะ! ไหงถึงทำหน้าเอ๋อให้มันทำตามใจชอบอยู่แบบนั้นกันยะ!!!]
“ เหวย!? ”
ที่จู่ๆก็มีเสียงตวาดดังเข้ามาใส่จากด้านข้างของหัวเฉยเลยซะงั้น เสียงของซากุระแน่ะ
[เกมเริ่มต้นขึ้นแล้วนะ!? เพราะถูกเหวี่ยงเข้าไปพร้อมกันทั้งสามคน ความไวของศาสตร์สื่อสารกับจุดเริ่มต้นก็เลยบัคนิดหน่อยเท่านั้นแหละ รู้แล้วก็รีบๆจัดการมันให้ไวเลยเร็วเข้าสิไอ้เจ้าขยะ!]
“ ทะ โทษที! ”
โดนเสียงด่าตวาดแบบโกรธจริงของซากุระอาบเข้าไปเต็มหู ทำให้ความลังเลเหือดหายไปจากร่างกายของฉันในที่สุด
[……เห พี่จ๋าอยากจะถูกนังจิ้งจอกมันเอาใจแบบนั้นเองงั้นสินะ อยากจะจู๋จี๋หนุงหนิงหวานแหววสวีทกันหยั่งกับคู่ข้าวใหม่ปลามันให้หายเหนื่อยแบบนี้เองงั้นสิเหงี้นี่เองนะน่าขยะแขยงสะอิดสะเอียนที่สุดทำไมยังไม่ตายๆไปอีกล่ะ]
เสียงซากุระดังกังวานงุมงำอยู่ที่หู จากทางนี้มองไม่เห็นตัวซากุระก็จริงหรอก แต่จินตนาการภาพยัยนั่นกำลังทำหน้าตาเหมือนจ้องมองขยะสดได้เลย เป็นโทนเสียงแบบนั้นเป๊ะเลยไง
ดูเหมือนศาสตร์สื่อสารที่ถูกใช้ในคราวนี้ จะทำให้มองเห็นตัวคนที่เข้ามาภายในเกมได้จากมุมมองบุคคลที่สาม อารมณ์เหมือนดูหนังหรืออ่านการ์ตูนแหละ
กล่าวคือสภาพฉันที่หัวโดนแซนด์วิชคั่นกลางอยู่ระหว่างต้นขากับนมคาเอเดะ หนำซ้ำยังถูกทำโอ๋ๆใส่ไปพลางชักๆให้ไปด้วยนี่มันถูกส่งต่อไปให้ซากุระเห็นจะๆเต็มตาเลยนั่นเอง ใครก็ได้มาฆ่าฉันที เอาให้ตายอนาถไปตอนนี้เลยเว้ย
ขุ่ก อย่างน้อยก็ทำให้คาเอเดะเก๊น้ำแตกถึงจุดสุดยอดให้ได้โดยเร็วที่สุดเป็นการลบล้างชื่อเสียดีกว่า
[อย่ามาล้อเล่นกันนะยะ……ฉะ ฉันเองถ้าเค้นความกล้าออกมาซะอย่างก็โอ๋เอาใจแบบนั้นได้เหมือน……ห้ะ? มีอะไรยะนังจิ้งจอก เดี๋ยวสมาธิก็วอกแวกหมดกันพอดีสิอย่ามาชวนคุยจะได้มั้ย? อ๊า? ฟุรุยะ ฮารุฮิสะกำลังถูกผู้หญิงแบบไหนปล้ำอยู่? …………มีหล่อนแค่คนเดียวนี่แหละ ที่ฉันจะไม่ยอมบอกเด็ดขาดเลย!!!]
ในระหว่างที่เสียงพิโรธของซากุระที่เหมือนจะโมเมถกเถียงอยู่กับคาเอเดะดังก้องกังวาน ฉันก็เค้นกำลังใจทั้งหมดผลักคาเอเดะภายในเกมให้ห่างออกไป ปัดโธ้ว้อยนุ่มมือเป็นบ้าเลยเว้ยพับผ่าเอ๊ย!
“ อ๊าย ”
คาเอเดะล้มลงกับเตียงโดยที่แผดเสียงน่ารักออกมา หน่มน้มที่เบี้ยวตามแรงโน้มถ่วงมันดึงดูดตาพิกล
เพื่อตามหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขหรอก…ฉันกวาดสายตาไล้ไปทั่วร่างกายนั่นเพียงเพื่อหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขให้เจอเท่านั้นจริงๆหรอก แต่เป็นตอนนั้น
“ ……ฟุรุยะคุงนี่ละก็ อยากมากถึงขนาดนั้นเลยเชียวเหรอ เชื่อเขาเลยจริงๆนะผู้ชายคนนี้ ”
คาเอเดะหรี่ดวงตาราวกับยั่วยุให้ท่าไปพลาง แผล่บ……เลียริมฝีปากของตนเองไปด้วย
“ ไม่อยากเอาในมือ แต่อยากจะปล่อยข้างในนี้แทนงั้นสินะ? ”
อ้า…… คาเอเดะวางมือลงเหนือเข่าก่อนจะถ่างขา รูดซิปกางเกงยีนส์ลงมา
เท่านั้นแหละ พลันมีจุดที่ส่องประกายแสงเจิดจ้าฉายเข้ามาภายในการมองเห็นของฉันทันที
มันคือโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่ส่องแสงอยู่ตรงระหว่างขาของคาเอเดะนั่นเอง เอ็งเอาจริงดิเฮ้ย
“ ……ฉันไม่ได้รู้สึกหงี่แต่อย่างใดทั้งสิ้น……ฉันไม่ได้รู้สึกหงี่แต่อย่างใดทั้งสิ้น…… ”
นอกจากจะพูดซ้ำให้ตัวเองฟังแล้ว ยังเป็นการกล่าวซ้ำชี้แจงให้กับซากุระที่เอาแต่นิ่ง [……] เงียบกริบแบบโคตรจะน่ากลัวมาตลอดตั้งแต่เมื่อกี้นี้ด้วย และแล้วฉัน ก็จิ้มจึ๊กไปยังระหว่างขาที่ถูกถ่างอ้าอยู่อย่างไร้การป้องกันของคาเอเดะด้วยเทคโนเบรคเกอร์
หนุบ
สัมผัสของปากน้ำมันส่งต่อมาถึงแม้จะแตะผ่านกางเกงยีนส์ และพอกำลังรู้สึกผิดต่อคาเอเดะตัวจริงอยู่
“ อึ๊น❤ เดี๋ยวสิฟุรุยะคุง……จู่ๆก็กระโจนเข้ามาแบบนั้นมัน……เอ๊ะ? ”
คาเอเดะเก๊ที่ถูกแตะระหว่างขาพลันปล่อยเสียงหวานออกมา แต่แล้วร่างนั่นก็กระตุกดังหงึก! อย่างรุนแรง
“ อะ……อึ๊น อะไรกันน่ะ……อึ๊นน❤ ยะ ฟุรุยะคุง อย่ามองมานะ……ยะ……ฮ๊าวว!?❤ ”
หงึก! หงึก! คาเอเดะใช้มือกดลงไปยังน้องสาวของตนเองราวกับเป็นการสะกดกลั้นคลื่นความเสียวที่เกิดขึ้นจากตรงระหว่างขา เอาสองมือสอดเข้าไปให้คั่นกลางอยู่ระหว่างต้นขากับต้นขาแล้วจึงขดตัวกลม ทำการสั่นกระตุกซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่รู้กี่ครั้งอยู่เหนือเตียง แต่ต่อให้จะอดกลั้นฝืนทนมากแค่ไหน อำนาจของเทคโนเบรคเกอร์มันก็เป็นที่สุดอยู่ดี
“ อะไร……อะ……ไม่นะ…… สภาพบัดสีแบบนี้……จะมองไม่❤ ไม่นะ ไม่นะ ไม่……ฮ๊าาาาาาาาาาวววววววววววววววว!?❤ ”
ซื๊ดดซื๊ดดซื๊ดด! พุซ่าาาาาาาา! กั่กกั่กกั่ก!
คงจะเพื่อปกปิดใบหน้าตอนเสร็จถึงสวรรค์อันไม่สำรวมละมั้ง คาเอเดะก็เลยฉุดสองมือที่ซุกไว้กับระหว่างขาขึ้นมาปิดหน้าไปพลางถึงจุดสุดยอด แต่สงสัยความเสียวซ่านที่แผ่กระจายทั่วไปทั้งกายมันจะทำให้มือไม้อ่อน สองมือที่ปิดหน้าไว้ก็เลยร่วงหล่น เผยโฉมหน้าที่ละลายเลอะเปรอะไปด้วยน้ำตาและน้ำลายให้เห็นได้อยู่ชั่วขณะ คาเอเดะที่เปลือยท่อนบนถ่างขาออกกว้างอยู่บนเตียงเหมือนกบที่ล้มหงายหน้า ปล่อยน้ำทิพย์ลึกลับให้สาดกระจายออกมาไปพลางกระตุกสั่นเล็กๆต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
[……เลวที่สุด]
ซากุระที่อยู่อีกฝั่งของสายสื่อสารพึมพำงุมงำอยู่ข้างหู
“ งะ ไหงว่ากันงั้นเล่าเฮ้ย! ฉันก็ทำแบบดีๆแล้วไม่ใช่เรอะ!? ”
[ไม่รู้! พี่จ๋าบ้าที่สุด!!]
พอถูกคำด่าทออันสุดจะไร้เหตุผลกัดกร่อนสภาพจิตอยู่——หนวบ
“ ฮึก!? ”
ทิวทัศน์ของห้องพลันวูบไหวราวกับเป็นภาพหลอกตา
คาเอเดะที่จมปลักกับควันหลงของความเสียวดัง “อ๊ะ……❤ ฮิ๊……❤” อยู่เหนือเตียงก็เลือนหายไปพร้อมกับทิวทัศน์ด้วย และที่ปรากฎขึ้นมาแทนที่ก็คือสภาพของห้องที่ถูกปล่อยทิ้งร้าง
ผนังอันเก่าแก่ทรุดโทรม แท่งเหล็กและคอนกรีตที่โผล่ออกมาให้เห็นได้อยู่ประปราย เตียงนอนขนาดใหญ่ได้ถูกกระชากเป็นรอยฉีกกว้าง พื้นก็มีฝุ่นกองอับเต็มไปหมด ภายนอกของหน้าต่างก็คือความมืดสนิทอันผิดธรรมชาติ แม้จะไม่มีแหล่งกำเนิดแสงใดๆเลยแม้ซักอย่างเดียว แต่ภายในห้องกลับประคองรักษาความมืดสลัวระดับที่พอจะมองเห็นบริเวณโดยรอบไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
“ ……นี่น่ะเรอะโฮเทลราพันเซล ”
ทั้งไออุ่นของผิวกายที่ห่อหุ้มร่างมาตลอดจนถึงเมื่อกี้ กลิ่น เสียง ข้อมูลต่างๆนาๆที่ถูกสลักฝังเข้ามาในประสาทสัมผัสทั้ง 5 มันช่างรุนแรงและเหมือนจริงมากเหลือเกิน แค่หวนนึกถึงนิดเดียวก็ทำเอาหน้าร้อนขึ้นมาแล้ว
จริงอย่างที่เค้าว่าแหละ การจะเคลียร์เจ้านี่โดยปราศจากเทคโนเบรคเกอร์ มันคงใกล้เคียงกับเป็นไปไม่ได้สุดๆเลย……
[เอ้าๆ อย่ามัวยืนบื้ออยู่สิยะ ประตูน่าจะเปิดได้แล้วนะ รีบออกไปทางเดินแล้วดำเนินเกมไปต่อซะที]
“ ครับๆ ……อื๋อ? ”
ฉันที่ถูกยุโดยซากุระพลันเริ่มต้นกะจะเคลื่อนไหว แต่เป็นตอนนั้นเองที่มีเศษกระดาษแผ่นนึงฉายเข้ามาภายในการมองเห็น
เทียบกับสภาพที่ถูกปล่อยทิ้งร้างของโดยรอบแล้ว เจ้าเศษกระดาษแผ่นนั้นที่ถูกวางทิ้งไว้เหนือโต๊ะมันกลับดูใหม่พิกล ฉันที่รู้สึกสงสัยจึงเผลอหยิบมันขึ้นมาดู
——ขอโทษค่ะขอโทษค่ะขอโทษค่ะ……คุณแม่ ขอโทษค่ะ……
เศษกระดาษที่มีเขียนแค่นั้นอยู่ซ้ำไปมามันปลดปล่อยออร่าอันสุดจะแปลกประหลาด
[……ลองตรวจดูให้ดีๆเลยนะว่ามีอะไรอื่นที่คล้ายกับกระดาษนั่นอีกรึเปล่า]
ซากุระพูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
[ไม่แน่อาจทำให้รู้ตัวตนของเด็กคนที่เป็นแกนกลางของไคอิก็ได้ ที่นั่นน่าจะเป็นโลกที่นำสภาพภายในใจของโฮสต์เจ้าของร่างออกมาทำให้เป็นรูปธรรมชัดเจนไงล่ะ ฉะนั้นต่อให้เสียงร้องในใจใต้จิตไร้สำนึกจะกลายเป็นรูปทรงเหลือทิ้งเอาไว้ก็ไม่น่าแปลกเลย]
ฉันตอบกลับไปว่าเข้าใจแล้ว ก่อนจะเปิดประตูที่เชื่อมกับทางเดิน
“ แต่ว่าก็ว่าเหอะ พวกโซยะที่ถูกลากเข้ามาในเกมด้วยไปอยู่ไหน—–เหวย!? ”
““ …… ””
อยู่นั่นเอง
โซยะกับคาราสึมะกำลังยืนอยู่หน้าประตู ด้วยท่วงท่าอากัปกิริยาที่เหมือนว่าจ้องมองดูสภาพภายในห้องมาตลอดจนถึงตอนนี้ว่ะเฮ้ย
คาราสึมะนั้นหายใจฟืดฟาดดวงตาเป็นประกาย
ส่วนโซยะนั้นก็ก้มหน้าโดยที่แดงเถือกไปจนถึงต้นคอ
จะ เจ้าพวกนี้อย่าบอกนะว่า……
แอบมองสิ่งที่เกิดขึ้นจนถึงตอนนี้ ทั้งหมดเลย งั้นเรอะ?
ฉันหันขวับกลับไปโดยไม่ทันได้ดีใจที่ทั้งสองคนยังปลอดภัยดี และก็พบว่าประตูอันเก่าทรุดโทรมมันมีรอยแตกขนาดใหญ่อยู่เป็นจุดๆ ถึงจะไม่ชัดเต็มตาก็เหอะ แต่แบบนี้ก็คงจะส่องเข้าไปดูสภาพข้างในได้อย่างไม่ยากเย็นเลยทีเดียวล่ะ
“ ขี้โกงนี่นาฟุรุยะ ฮารุฮิสะ! ”
คาราสึมะพุ่งเข้ามาหาด้วยความรุนแรงหยั่งกับกระโจนอัดกัน
“ แม้จะภายในเกมแต่ก็มีแกได้เสพเสวยสุขอยู่เพียงคนเดียวอีกแล้ว! ……ทว่า! แม่หนูคาเอเดะนั่นช่างยอดเยี่ยมกระเทียมดองอย่างยิ่งไปเลยนะเจ้าหื่นเงียบเอ๋ย! แม้จะไม่ใช่สถานการณ์ในแบบที่ฉันชื่นชอบ แต่ถึงอย่างนั้นก็ทำเอาต้องเผลอเดินตัวงอเลยเชียว! ”
อื้มแต่ถ้าฉันเป็นผู้ชายก็คงไม่งอให้เสียเวลา แต่จะตั้งโด่ชูชันขึ้นมาเป็นเต็นท์อย่างผ่าเผยเลยหรอกนะ! คาราสึมะมันประกาศกร้าวแบบอิหยังวะไว้งั้นแน่ะ
ถ้าเป็นยามปกติ ฉันก็จะคงจะย้อน [พูดบ้าบออะไรของเอ็งฟะ] กลับไปอยู่หรอก แต่เป็นภายหลังจากที่เพิ่งจะโดนเห็นตอนที่ถูกจับโอ๋ๆชักๆมาหมาดๆแบบนี้แล้วมันก็อับอายขายหน้าจนพูดอะไรไม่ได้เลย
“ หื~ม ฟุรุยะคุงมีความปราถนาอยากโดนแบบนั้นอยู่ลึกๆภายใต้จิตไร้สำนึกงั้นสิน้าา ”
โซยะที่ก้มหน้างุดมาตลอดจนถึงตอนนี้ พลันแหงนหน้ากลับขึ้นมาราวกับเป็นการไล่ต้อนฉัน
สีหน้านั่นก็คือ รอยยิ้ม—–แต่ดวงตาที่เผยออกมาจากเปลือกตาที่เปิดอ้าออกนิดๆนั่นกลับปราศจากไร้ซึ่งแสงสว่างโดยสมบูรณ์ มีเพียงความมืดมิดไร้ก้นบึ้งหมุนวนอยู่ตรงนั้น
“ สุดยอดไปเลยน้า~ เนตรมารฝันยังมองไม่เห็นเลยน้า~ แต่ก็นั่นสิเน้ออ ฟุรุยะคุงก็พยายามอย่างหนักมาตลอดเลยด้วย ฉันจะไปขอร้องกับคุณคุซึโนะฮะให้เองก็แล้วกันเน้อ~ ว่าให้ช่วยเล่นเพลย์สุดโรคจิตวิปริตวิตถารน่าขยะแขยงอยากจะอ้วกแบบเมื่อกี้ให้ฟุรุยะคุงทีน่ะ เพราะดูเหมือนฟุรุยะคุงเขาจะเฝ้าปราถนาต้องการแบบนั้นจากก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียวน่ะ ”
“ ถ้าเป็นอะไรที่ผมทำได้แล้วละก็จะจัดให้ทุกอย่างเลยครับฉะนั้นขอล่ะอย่าทำแบบนั้นเลยเถอะ! ”
สุดยอดไปเลยแฮะ……คนเรานี่พอถูกไล่ต้อนจนมุมแล้วจะสามารถก้มลงกราบได้อย่างไร้ความลังเลขนาดนี้เลยสินะเนี่ย……
“ เอ๋~? ทำไมล่ะ? ปราถนาโหยหาต้องการเพลย์แบบนั้นมากจนถึงกับลืมการงานปล่อยตัวสนุกสนานไประยะนึงเลยไม่ใช่เหรอ? ไม่จำเป็นต้องทำเขินไปหรอกนะ? ”
“ มะ ไม่ใช่เฟ้ย! นั่นมันเกิดขึ้นกะทันหันจัด หัวก็เลยประมวลผลไม่ทันเฉยๆหรอก! ”
ถ้าอยู่ระหว่างจัดการกับเหตุการณ์ที่ทำเอาคนกว่าหลักหมื่นหายสาบสูญ แล้วเพื่อนร่วมทีมเกิดไปสนุกสนานกับการถูกโอ๋ๆชักๆขึ้นมา งั้นโซยะจะโมโหโกรธาก็ไม่ถือว่าแปลกเลยแต่อย่างใด แต่นี่มันเข้าใจผิดกันไง แถมถ้าถูกคาเอเดะรู้เข้าขึ้นมาละก็ฉันมีหวังได้เลือดไหลจั้กๆอย่างแน่นอนเลยแหงเพราะงั้นโปรดปรานีกันทีเถอะครับ
ฉันเอาแต่ร่ายคำพูดออกมาทับกันรัวๆเพื่ออ้อนวอนให้โซยะสงบจิตสงบใจไปพลาง รู้ซึ้งขึ้นมาอีกครั้ง
โฮเทลราพันเซล……ช่างเป็นไคอิที่น่าหวาดผวาอะไรหยั่งงี้
MANGA DISCUSSION