[ต้องฆ่า……โลลิค่อนนนนนนนนนนน!]
ดาบยาวของโลลิค่อนสเลเยอร์ที่โดนปกปิดการมองเห็น ถูกเหวี่ยงกวาดพลาดเป้าไปไกล
ตึง! เปรี้ยง! ตู้มมมมมมม!
หลังจากนั้นก็เหมือนกัน โลลิค่อนสเลเยอร์ถูกเหล่าชิกิงามิขนาดไซส์เรียง 8 หัวปั่นป่วนขัดขวาง เอาแต่ทุ่มดาบยาวฟาดลงมามั่วซั่วอยู่อย่างเดียว
และในระหว่างนั้น ชิกิงามิไซส์ 8 หัวตัวนึงก็ทำการฉุดลากตัวฉันออกห่างมายังระยะที่การโจมตีของโลลิค่อนสเลเยอร์จะเข้ามาได้ไม่ถึง ก่อนจะ
[ขอโทษนะที่มาถึงช้า! กว่าจะปรับรูปทรงของชิกิงามิให้ใหญ่ขึ้น เพื่อที่จะไม่ดึงดูดโลลิค่อนให้เข้ามาหาได้นี่มันต้องใช้เวลานานซักระยะนึงเลยน่ะ!]
พูดออกมาด้วยเสียงของโซยะ ก่อนจะเข้ามาเอายันต์สำหรับใช้รักษาที่มีอยู่ในมือแปะๆไปทั่วทั้งร่างฉัน
[นี่เป็นยันต์ที่ได้มาจากพวกคุณมืออาชีพน่ะ น่าจะต้องใช้ได้ผลดีในระดับนึงแน่เลยล่ะ!]
จริงอย่างที่โซยะบอก พอถูกแปะยันต์นั่นเข้าแล้ว ร่างกายมันก็รู้สึกเบาสบายขึ้นมานิดหน่อย
ดูเหมือนว่าหลังจากที่ฉันเคลื่อนไหวโดยพลการออกมาแล้ว โซยะเองก็ช่วยจัดการเตรียมพร้อมเพื่อซัพพอร์ตอยู่เหมือนกันงั้นสินะ
รู้สึกขอบคุณเลย รู้สึกขอบคุณจากใจเลยก็จริงนะ แต่ว่า……
“ หึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! น่ารักน่าชังเสียจริงเลย! เด็กประถมนี่ช่างน่ารักน่าชังเสียจริงเลย! อยากจะได้มาห้อยประดับห้องเสียเหลือเกิน! ”
ไหงไอ้โรคจิตที่โดนเปลี่ยนเป็นโลลิค่อนนั่นมันถึงมาอยู่ที่นี่เฉยเลยเล่าเฮ้ย!
แถมมันยังเล่นพูดอะไรที่ทะลุเกินขอบเขตเสรีภาพในการพูด หลุดไประดับที่สมควรต้องโดนตำรวจรวบตัวอยู่ด้วยนั่น!
ไม่ใช่ว่ามันโดนจับขังอยู่เรอะ!?
พอหันมองไปยังทิศที่เสียงดังเข้ามา ก็พบคาราสึมะที่ยืนอยู่บนดาดฟ้าของตึกที่ตั้งเรียงรายตลอดข้างถนนหลัก กำลังร้องแรกแหกกระเชออยู่ด้วยท่าทางตื่นเต้นสุดขีด
เพราะไกลก็เลยมองเห็นไม่ค่อยชัด แต่เหมือนว่ามันจะกำลังตั้งท่าประสานอินอยู่ ซึ่งก็หมายความว่าต้องกำลังเปิดใช้พวกเชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการนั่นอยู่ไม่ผิดแน่หรอก……
แต่คาราสึมะในตอนนี้น่าจะน้ำเดินได้เฉพาะกับเด็กผู้หญิงตัวน้อยเท่านั้น สรุปความได้ว่ามันกำลังจับโลลิค่อนเมกเกอร์มัดอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้นน่ะเอง ทำแบบนั้นจะไปมีความหมายอะไรกันน่ะ
เป็นในจังหวะที่คิดฉงนสงสัยไปในระหว่างที่รับการปฐมพยาบาลด้วยยันต์นั่นเลย ที่เหล่าโลลิค่อนในบริเวณโดยรอบเริ่มที่จะแตกตื่นส่งเสียงจอแจขึ้นมาในบัดดล
“ เฮ้ย! น้องหนูถูกเชือกมัดอยู่! ขุ่ก!? แกะไม่ออก……ไม่สิแตะต้องไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!? ”
“ ตรงนี้ให้เป็นหน้าที่ของผู้ปราบมารอย่างพวกเราเอง! ……ห้ะ? อะ ไอ้เจ้าศาสตร์เหนี่ยวรั้งที่ทรงพลังสุดขั้วนี่มันอะไรกันน่ะ!? เป็นฝีมือของสัตว์ประหลาดเรอะ!? ”
“ เฮ้ยดูนั่นดิ! ไอ้โรคจิตที่พล่ามอะไรก็ไม่รู้อยู่ตรงโน้นแหละคือคนร้าย! ”
“ คิดจะระบายตัณหาความใคร่ของตนใส่น้องหนู 3D เนี่ยนะมันช่างน่าอิจ——ชั่วที่สุดเลย! ไปหยุดมันกันเร็วเข้า! ”
เหล่าโลลิค่อนที่หน้าเปลี่ยนสีเนื่องจากเห็นน้องหนูถูกจับมัด เริ่มที่จะพุ่งถาโถมถล่มกันเข้าไปภายในตึกที่คาราสึมะอยู่
[หึหึหึ เป็นไปตามแผน!]
โซยะที่เหมือนว่าจะเฝ้ามองสถานการณ์อยู่จากที่ไหนซักแห่ง ส่งเสียงหัวเราะออกมาอย่างมั่นหน้า
และราวกับเป็นการตอบข้อสงสัยของฉันที่งงจับต้นชนปลายไม่ถูกว่ามันเป็นไปตามแผนแบบไหนยังไง—เสียงและแสงพลันระเบิดกัมปนาท
ชิ้ง!
[โกร้ววววววว!]
มียันต์จำนวนหลายใบถูกปล่อยลอยมาจากที่ไหนซักแห่ง กระแทกชนเข้ากับโลลิค่อนสเลเยอร์เข้าอย่างจัง
แสงสว่างสีฟ้าอ่อนพลันห่อหุ้มโลลิค่อนสเลเยอร์ แม้จะเพียงแค่นิดเดียวแต่ก็ฉุดทำให้การเคลื่อนไหวนั่นดูหน่วงเชื่องช้าลง
“ นี่มัน……ใครเป็นคนปามากันน่ะ แล้วปามาจากไหน!? ”
พวกคนที่กางข่ายอาคมอยู่รอบตัวโลลิค่อนสเลเยอร์น่าจะใช้พลังวิญญาณหมดกันไปแล้วนี่นา แถมในบริเวณนี้ก็อัดแน่นเต็มไปด้วยโลลิค่อนเมกเกอร์กับพวกโลลิค่อนผู้พิทักษ์ ไม่น่าจะย่างกรายเข้ามาใกล้ได้เลยแท้ๆ
[หึหึหึ เรื่องนั้นน่ะนะ ทางมันเปิดออกเพราะอาโอยจังเค้าช่วยล่อพวกโลลิค่อนให้ยังไงล่ะ! ถึงจะได้แค่ครึ่งทางเท่านั้นก็เถอะ!]
โซยะกล่าวพร้อมกับลงทุนทำให้ชิกิงามิไซส์ 8 หัวแสดงสีหน้าอวดดีอีก
พอหันกลับไปก็เห็นว่าจริง เพราะพวกโลลิค่อนพากันกรูถล่มเข้าไปในตึกเพื่อหมายหัวกะจะกระทืบคาราสึมะ ฝูงชนที่เกาะตัวกันอยู่ตรงขอบถนนหลักก็เลยลดน้อยลงมาก
และก็คงจะย่องเข้ามาใกล้กันจากตรงนั้นละมั้ง เหล่าผู้ปราบมารจำนวนมากพากันดันตัวออกมาจากหน้าต่างของอาคารที่อยู่ใกล้ทางนี้มากยิ่งกว่าตึกที่คาราสึมะอยู่ซะอีก กำลังกระหน่ำปายันต์เข้ามาอย่างต่อเนื่องราวกับเป็นการสนับสนุนช่วยเหลือพวกเรา
[เหะเฮ่ คิดถูกจริงๆที่ขอร้องกับคนของบ้านฉัน (ตระกูลโซยะ) ที่อยู่ในกรมตรวจสอบให้ช่วยเอาตัวอาโอยจังออกมา! แล้วก็ต้องขอบคุณมุตสึมิจังที่เห็นว่าอยู่ในฮารุงาฮาระไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ เลยรับหน้าที่พาอาโอยจังมาส่งด้วยอีกคน!]
โซยะเล่าถึงเบื้องหลังของแผนการด้วยท่าทางภูมิอกภูมิใจ
ในอีกด้านนึง ทางคาราสึมะที่โดนใช้เป็นนกต่อโดยคาดว่าน่าจะไม่ได้ถูกอธิบายรายละเอียดใดๆให้ฟังก่อนล่วงหน้าเลยซักนิดนั้น
“ ……เอ๊ะ? เอ๊ะ? ”
มันก็กำลังจ้องมองตาเหลือกลงไปยังเหล่าโลลิค่อนที่โกรธพิโรธถล่มถาโถมเข้ามาในตึก
“ ใยทุกคนจึงเข้าไม่ถึงความยอดเยี่ยมกระเทียมดองของหนูน้อยกับเชือกเสียวสนุกกันล่ะ! ไม่ใช่ว่าชาวโลลิค่อนต่างก็เป็นเพื่อนสนิทมิตรสหายกันทั้งหมดหรอกหรือ! ”
คงกะจะสร้างสิ่งกีดขวาง ไม่ก็หนีไปหลบซ่อนตัวที่ไหนละมั้ง
คาราสึมะมันจึงหนีหลบเข้าไปในจุดลึกของดาดฟ้าอย่างแตกตื่นลนลานทันที
[เอาล่ะ! รีบปราบโลลิค่อนสเลเยอร์ให้ได้ในระหว่างที่อาโอยจังเค้ายังปลอดภัยดีอยู่นี่กันเถอะ!]
“ เธอเป็นยักษ์เรอะเฮ้ย! ”
เอ้อแต่ก็ ถึงยังไงเรี่ยวแรงตอนนี้ของฉันมันก็ไม่เหมาะจะทำศึกยืดเยื้อแบบระยะยาวอยู่แล้วอะนะ……แต่ที่ยิ่งกว่านั้น
“ เธอนี่น้า มีใครที่ไหนบ้างเฮ้ย เล่นลากตัวบุคคลอันตรายที่โดนกักขังจองจำอยู่ออกมาเงี้ย ”
[เพราะเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินก็เลยช่วยไม่ได้ค่า!]
เล่นให้คำขาดกลับมาได้ภายใน 0.1 วินาทีเลยเชียวเว้ย
“ ……ให้ตาย เธอนี่ท่าจะเป็นผู้ปราบมารฝีมือดีได้นะเนี่ย ”
ตอกกลับไปแบบเหน็บแนมครึ่งนึง พูดจริงครึ่งนึง
คนเค้าก็ว่ากันอยู่ด้วยนี่นะ ว่าเด็กดีนิสัยเจ้าระเบียบเนี่ยมักจะรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินไม่ค่อยได้
[ให้ว่าแล้ว มีฟุรุยะคุงคนเดียวนี่แหละไม่มีสิทธิพูดแบบนั้นได้หรอกนะ!]
เป็นตรงนี้เอง ที่โซยะซึ่งทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วเสร็จพลันพูดออกมาโดยทำหน้าของชิกิงามิให้โกรธเป็นสีแดงตามไปด้วย
[ถึงจะเพราะว่าเป็นห่วงซากุระจังก็เถอะ……แต่กว่าจะมาถึงตรงนี้เล่นทำคนถึงจุดสุดยอดไปเท่าไหร่เลยน่ะ!?]
“ …… ”
หันกลับไปราวกับหลีกหนีจากแววตาติเตียนของโซยะ
เพราะมีเหล่าโลลิค่อนกับโลลิค่อนเมกเกอร์เดินวนไปมา ก็เลยไม่ได้มองเห็นชัดเจนทั้งหมดก็จริง แต่ถึงอย่างนั้น จำนวนผู้คนที่ล้มฟุบหมดสภาพกับที่ตั้งแต่สถานีมาจนถึงตรงนี้มันก็มากล้นซะจนนับได้ไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว
น่าจะหลักหลายร้อยกว่าคนได้ละมั้ง
“ ……เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินก็เลยช่วยไม่ได้ไงเฮ้ย ”
[ใช่มั้ยล่ะ!? แต่ว่า ในเมื่อมาจนถึงขั้นนี้แล้วก็จะยอมให้จบแบบปราบผีล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาดเลย——]
ชิกิงามิที่โซยะควบคุมพลันหันมองไปยังเบื้องหน้า
[ไม่ว่ายังไงก็ต้องช่วยซากุระจังให้ได้เลยนะ!]
“ ……โอ้ว ”
ลุกกลับขึ้นมา เพ่งสายตามองตรงไป
[โลลิค่อน……โลลิค่อน……สมควรตาย!]
พลันมีโพรงเสน่ห์กายิกสุขลอยปรากฎขึ้นมาเหนือเกราะของโลลิค่อนสเลเยอร์ที่ถูกศาสตร์เหนี่ยวรั้งทำให้เคลื่อนไหวได้อย่างหน่วงเชื่องช้าไม่พอ ยังจะถูกชิกิงามิไซส์สูง 8 หัว 3 ตัวรุมป่วนประสาทอยู่อีก
แม้จะแค่เพียงเล็กน้อย แต่ฉันก็เค้นแรงที่ฟื้นฟูกลับมาเข้าไปในร่างกาย ก่อนจะพุ่งทะยาน
“ โอริย่าาาาาาาาาาาาา! ”
[โลลิ……ค่อน!]
โลลิค่อนสเลเยอร์มันสังเกตเห็นไอ้ฉันนี่ ก่อนจะเหวี่ยงดาบยาวอัดเข้ามามั่วๆ
ตู้มมมมมมมมมมมมมมมมมมมม!
“ ……ขึก! ”
แม้จะหวิดๆเกือบโดนเศษยางมะตอยและลมจากแรงระเบิดเป่าจนลอยปลิวกระเด็น แต่คราวนี้ฉันก็จิ้มปลายนิ้วแทงจึ๊กลงไปยังแผ่นรองต้นขาอีกฝั่งนึงได้
ซื้ดซี้ดด! แคร๊ง!
แผ่นรองต้นขาระเบิดปลิว เผยขาอีกข้างของซากุระออกมาให้เห็น แต่ตรงนั้นก็ยังไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขอีก
“ ชิ ถัดไปเว้ย! ”
[อ้าว? ไม่ใช่ว่าจิ้มได้จึ๊กเดียวก็จบหรอกเหรอ!?]
“ เพราะซากุระถูกเกราะหุ้มปกป้องไว้ ก็เลยมองไม่เห็นโพรงเสน่ห์กายิกสุขของร่างหลักน่ะ! ”
[อะไรกันน่ะโกงที่สุดเลย! ถ้างั้นความปลอดภัยของอาโอยจังก็รอดตัวแบบสายเกินไปเลยน่ะสิ!?]
ดูเหมือนว่ากะจะจบศึกให้ได้แบบระยะสั้นมากยิ่งกว่าฉันอีกสินะ โซยะก็เลยแตกตื่นหนักจนพูดเรียงประโยคผิดมั่วซั่วไปหมดเลยนั่น
“ เหอะน่าเอาเป็นว่าช่วยกันหน่อย! มือฉันมันยืดไปไม่ถึงส่วนที่อยู่บนๆเฟ้ย! ”
[งืมม……จะ จะลองดูนะ!]
ฉันถอยเว้นระยะห่างออกจากโลลิค่อนสเลเยอร์นิดหน่อย หลบการโจมตีแบบฉิวเฉียดแล้วอ้อมไปอยู่ฝั่งด้านหลังของมัน
จากนั้นก็ทำการพลิกตัวกลับในทันใด พุ่งตรงดิ่งอัดเข้าใส่หลังของโลลิค่อนสเลเยอร์
[มาเล้ย!]
ที่รอคอยอยู่เบื้องหน้าก็คือชิกิงามิของโซยะ
ชิกิงามิตัวนั้นกำลังเอามือประสานกันทำท่าเหมือนพร้อมรับลูกวอลเล่ย์บอล และฉันก็ไม่รอช้าเอาขาเหยียบลงไปตรงนั้นพร้อมกระโดดพุ่งทะยาน
ในจังหวะเดียวกันนั้น แม้จะมีเรี่ยวแรงไม่มากแต่ชิกิงามิก็ช่วยสะบัดแขนขึ้นบนสุดแรงด้วยเช่นกัน
[สำเร็จแล้ว! ทำได้แบบสวยๆเลยล่ะ!]
“ เยี่ยมมากโซยะ! ”
ฉันที่กระโดดขึ้นมายังความสูงระดับที่ทำไม่ได้ด้วยตัวคนเดียวแน่ๆ พลันทำท่วงท่าราวกับวิ่งไต่ขึ้นไปตามหลังของโลลิค่อนสเลเยอร์ ก่อนจะจิ้มจึ๊กลงกลางโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่ลอยปรากฎออกมา
ซื้ดซื้ดซี๊ดด! แคร๊ง!
เกราะที่อยู่ตรงฝั่งด้านหลังระเบิดปลิว เผยร่างกายของซากุระตั้งแต่หลังที่สวมชุดนักเรียนลงมาจนถึงแถวบริเวณเอว
แต่ถึงจะอย่างนั้น ก็ยังมองไม่เห็นโพรงเสน่ห์กายิกสุขอยู่อีก
“ บัดซบ! แต่ถ้าทำแบบนี้ไปเรื่อยๆละก็เดี๋ยวคง—— ”
[กุ โอ้วววววววววววววววววว!]
“ ขึก!? ”
ฉันที่เว้นระยะออกห่างจากโลลิค่อนสเลเยอร์ก่อนครั้งนึงเพื่อตั้งท่าเตรียมพร้อมสำหรับเข้ามาโจมตีครั้งถัดไปนั่น พลันเกิดลางสังหรณ์ไม่สู้ดีขึ้นมาจึงยิ่งถอยตัวออกห่างไปอีก
เพราะโลลิค่อนสเลเยอร์มันแผดเสียงคำรามดังสนั่น พร้อมกับยกดาบยาวขึ้นมาสูงลิ่วเลยนั่นเอง
แล้วหลังจากที่มันง้างมากจนตัวงอไปข้างหลัง ในพริบตาถัดมา——-บริเวณโดยรอบของโลลิค่อนสเลเยอร์ก็พลันเกิดกลายเป็นการระเบิดครั้งยิ่งใหญ่
“ เหวย!? ”
นั่นก็คือการฟาดฟันสุดผ่าเหล่า ที่โลลิค่อนสเลเยอร์ฟาดทุ่มลงมายังบริเวณใต้เท้าของตนเอง
แรงกระแทกที่ชวนให้เข้าใจผิดคิดว่าวัตถุระเบิดที่ถูกฝังอยู่ในพื้นพลันบึ้มแหลกขึ้นมาหรือไงนั่นมันช่างทรงอำนาจเหลือล้น ขนาดที่
[[[ปิเกี๊ยก!?]]]
[หวา!? อุตส่าห์พยายามสร้างขึ้นมาใหม่แทบตายเลยนะ!?]
ทำให้ชิกิงามิของโซยะทั้ง 3 ตัวที่รุมตามติดโลลิค่อนสเลเยอร์อยู่นั่นระเหิดหายไปได้พร้อมกันเลย
“ บัดซบ……ดันทะลึ่งปล่อยแรงไอ้บ้าออกมาซะได้……! ”
ฝุ่นทรายลอยฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ เล่นทำเอาแทบมองอะไรไม่เห็นเลย
เป็นระหว่างนั้นเอง
——–แกร๊ง
เสียงฝีเท้าของชุดเกราะที่สั่นไหวพลันดังขึ้น
“ ——ขึก!? ”
——–แกร๊ง แกร๊ง
มันกำลังเข้ามาใกล้ทางนี้มากขึ้นเรื่อยๆได้อย่างแม่นยำ แต่ทางฝั่งฉันกลับมองไม่เห็นตัวอีกฝั่งเลยซักนิด
“ ไหงถึงรู้ตำแหน่งของฉันได้เฉยเลยน่ะ!? ”
มีเรดาร์ตรวจจับโลลิค่อนติดอยู่ด้วยรึไง!?
ฉันเริ่มที่จะถอยหนีออกห่างจากที่แห่งนั้นอย่างแตกตื่น แต่เป็นตอนนั้นเองที่มีอะไรตรงขอบตาขยับดังวู่ม
ฝุ่นทรายมันแกว่ง
“ อุก!? ”
ในเกือบๆฉับพลันเดียวกับที่ฉันตั้งการ์ดป้องกันด้วยสองมือของอมนุษย์นั่น พลันมีใบดาบเล่มมหึมาแหวกทะลวงปรากฎออกจากฝุ่นทราย——ในนาทีที่สมองประมวลผลได้ว่าเช่นนั้น ฉันก็ได้ถูกฟาดกระเด็นออกไปจากบริเวณที่คละคลุ้งไปด้วยฝุ่นทรายเรียบร้อยแล้ว
“ ——-กุ อ๊าาาาาาาาาาาาาาากกกกกกกก!? ”
แรงกระแทกที่ตามมาให้หลังพลันแผ่กระจายครอบคลุมไปยังทั่วร่างในบัดดล
แต่ก็ไม่ได้จบอยู่แค่นั้น
“““ เหวย!? อะไรว๊าาากกก!? ”””
ฉันที่ปลิวเข้ามาในหมู่ฝูงชนนั้นกลิ้งเกลือกไปตามพื้นโดยลากคนมากมายนับไม่ถ้วนให้หน้าคะมำลงมาตามไปด้วย โดนน็อคเอาท์โดยสมบูรณ์เลยทีเดียว
“ ……บัด……ซบ…… ”
ไม่อาจรู้เลยว่าเป็นเลือดที่ไหลทะลักออกมาจากตัวฉัน หรือน้ำกามของเหล่าผู้เคราะห์ร้ายจากเทคโนเบรคเกอร์ที่โดนฉันทับอยู่กันแน่ สัมผัสแสนอบอุ่นมันชุ่มเข้ามาในหลัง ทำให้เรี่ยวแรงเหือดหายไปจากทั่วร่าง
[ฟุรุยะคุง! ไม่เป็นไรนะ!? เอ๊ะ อ๊าาา! โลลิค่อนสเลเยอร์เริ่มจะหันไปเล็งเล่นงานคนอื่นแล้ว!]
ได้ยินเสียงกรีดร้องของโซยะดังเข้ามา
เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!
คงจะเปลี่ยนกลยุทธ์เพราะเห็นว่าชิกิงามิของโซยะกับฉันโดนเล่นงานหมดสภาพไปละมั้ง เสียงการโจมตีของ [ยันต์กัมปนาทพิฆาตมาร] จึงสะท้านทำให้ชั้นบรรยากาศสั่นสะเทือน แต่ก็เชื่อได้เลยว่าแค่นั้นใช้ถ่วงเวลาไม่ได้ซะด้วยซ้ำ
ตัวฉันที่มีอำนาจซึ่งจะใช้ปราบได้อย่างแน่นอน ต้องรีบรุดไปยังที่ที่ซากุระอยู่——-
แต่ต่อให้กัดฟันเค้นแรงมากเท่าไหร่ ก็ทำได้มากสุดแค่ยกร่างขึ้นมาเหมือนคลานสี่ขาอยู่กับพื้นเท่านั้นเอง ไม่อาจลุกกลับขึ้นมายืนได้เลย
เป็นในฉับพลันนั้นเอง
“ ……? ”
ปิ้ว ปิ้วปิ้ว
น้ำพุที่สาวมหาลัยซึ่งล้มอยู่ข้างๆปล่อยไหลหลากออกมานั่น มันกองรวมกันเกิดขึ้นมาเป็นแอ่งน้ำ
และผิวน้ำอันแสนบัดสีนั่นก็กำลังสะท้อนฉายใบหน้าของฉันนี่ เผยให้เห็นแสงที่ส่องประกายสว่างไสวอยู่ตรงกึ่งกลางของหน้าผาก
นั่นก็คือโพรงเสน่ห์กายิกสุข หรืออีกนามคือจุดกายิกสุข จุดแสนน่ารังเกียจเดียดฉันท์ที่หากจิ้มแล้วจะทำให้น้ำแตกถึงจุดสุดยอดได้ในบัดนั้น
มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขโผล่ขึ้นมาบนร่างกายของฉันเอง……? เป็นในฉับพลันที่ขมวดคิ้วแบบนั้นนั่นเลย
——–ต้องการพลังไหมคะ?
“ ……ห้ะ? ”
เสียงแสนพึ่งพาได้ที่จะดังขึ้นมาในยามวิฤติเสมอๆนั่น
มาคราวนี้กลับทำให้รู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีอย่างเดียวเลย
MANGA DISCUSSION