“ หยึย มันอะไรกันน่ะ…… ”
นางุโมะที่ลงมาเหยียบส่วนที่เป็นหลังคาของชานชาลาสถานีฮารุงาฮาระ พลันปล่อยเสียงที่ดูขยะแขยงสุดขั้วหัวใจออกมา
ชานชาลาสถานีฮารุงาฮาระนั้นตั้งอยู่ตรงบริเวณชั้นที่สอง จากตรงนี้จึงสามารถมองเห็นถนนหลักที่ถูกขนาบคั่นซ้ายขวาไปด้วยร้านค้าต่างๆสารพัดได้อย่างทั่วถึง
หากเป็นวันหยุด ที่แห่งนี้จะกลายสภาพเป็นแดนสวรรค์ของคนเดินเที่ยว แถมต่อให้เป็นวันธรรมดาแต่ถ้าเป็นเวลาช่วงเย็นแบบตอนนี้ก็จะมีผู้คนเดินสัญจรไปมาอยู่มากพอควรเลยเช่นกัน—–และฮารุงาฮาระอันเปี่ยมล้นไปด้วยผู้คนแห่งนั้น ก็กำลังตกอยู่ภายใต้ความโกลาหลอลหม่านครั้งยิ่งใหญ่เลยทีเดียว
“ ปี้จายค้า❤ ปี้ฉาวขา❤ มาเล่นกันเถอะน้า❤ ”
“ อุ้มหนูขึ้นฉูงๆหน่อยจิ❤ ”
กองทัพเด็กผู้หญิงตัวน้อยๆที่สวมชุดวันพีชสีแดง สีฟ้า และสีเหลือง ที่มีหน้าตาเหมือนกันเปี๊ยบและแสยะยิ้มอยู่แบบเดียวกันเปี๊ยบนั่นกำลังเดินป่วนเตาะแตะให้ทั่วไปหมด
“ น่ารักจริงๆเลยน้าา❤ เด็กผู้หญิงตัวน้อยๆนี่ช่างน่ารักจริงๆเลยน้าา❤ ”
“ อะลุงให้ขนมนะจ๊ะ ”
“ เอ้าฮึบ ไปกันเล้ยพี่เป็นม้าให้หนูขี่แล้ว! ”
สงสัยโลลิค่อนเมกเกอร์ที่โผล่ออกมามากมายมหาศาลมันจะพุ่งเข้าไประดมจับตัวแบบไม่เลือกหน้าละมั้ง
เหล่าสามัญชนทุกเพศทุกวัยจะชายจะหญิงจะแก่จะเด็กกำลังเล่นสนุกกับน้องหนูเวอร์ชั่นผลิตจำนวนมาก—-หรือก็คือเหล่าโลลิค่อนเมกเกอร์อยู่ด้วยสีหน้าอิ่มเอมเป็นสุข ส่งผลให้ถนนหลักผลิบานเปี่ยมล้นเต็มไปด้วยรอยยิ้มสติแตก
“ ทุกท่านครับ! ที่แห่งนี้เป็นอันตรายได้โปรดทำการลี้—–บัดซบเอ๊ย! ไอ้พวกโลลิค่อนบรรลัยเกิดนั่น! มันสนแต่จะเล่นกับเด็กผู้หญิงยิ่งกว่าชีวิตตัวเอง ไม่ยอมฟังที่เราพูดกันเลย! ”
“ ถ้าเกิดมีโลลิค่อนเพิ่มมากขึ้นยิ่งกว่านี้อีกละก็รับมือไม่ไหวแน่! เริ่มปราบโลลิค่อนเมกเกอร์ก่อน—– ”
“ จะให้โจมตีใส่เด็กพวกนั้นเหรอครับ!? แต่แบบนั้นมัน—– ”
“ ทำใจให้แข็งเข้าไว้! นั่นไม่ใช่เด็กผู้หญิงจริงๆแต่เป็นไคอิต่างหาก! แถมถ้าไม่กำจัดโลลิค่อนเมกเกอร์ก่อน เราก็จะกรุยทางไปสู่การปราบโลลิค่อนสเลเยอร์ไม่ได้ด้วยนะ! ”
คงจะเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกโลลิค่อนเมกเกอร์สัมผัสตัวเข้าละมั้ง
กลุ่มคนที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ปราบมารมืออาชีพกำลังกางข่ายอาคมอยู่ตรงแถวๆชายถนนหลัก พร้อมกระจุกรวมตัวอยู่กันเป็นกลุ่มๆ ดูจากท่าทางแล้วคงจะคิดหนักเรื่องวิธีการรับมือกันอยู่
และสิ่งที่อยู่ ณ จุดปลายสายตาของพวกเขาก็คือ——
[โลลิค่อน……สมควรต้องพินาศ……!]
“ นั่นไง! ซากุระอยู่นั่น! ”
บริเวณที่ต้องเดินจากสถานีพร้อมตรงดิ่งตามถนนหลักไปได้ซักประมาณ 100 เมตร
มองเห็นร่างยักษ์ใหญ่ที่สะท้อนประกายแสงสีดำอยู่ตรงใจกลางของทางสี่แยกที่บรรจบเข้ากับถนนหลักอีกเส้น….ซากุระที่แปลงสภาพกลายเป็นโลลิค่อนสเลเยอร์นั่นเอง
ขนาดมองไปจากชานชาลาของสถานี แต่ร่างยักษ์ใหญ่นั่นมันก็ยังดูเด่นสะดุดตาโคตรๆเลยอยู่ดี ไม่รู้ว่าเพราะกลืนเอาซากุระที่เป็นโฮสต์เจ้าของร่างเข้าไปรึไง ร่างกายนั่นก็เลยใหญ่มหึมามากยิ่งกว่าในตอนที่เข้าทำร้ายฉันซะอีก ใหญ่ขึ้นราวสองระดับได้เลย
บริเวณรอบตัวโลลิค่อนสเลเยอร์ก็ย่ำแย่มากพอกัน
เหมือนกับตรงถนนใหญ่นั่นเลย มีสามัญชนที่โดนเปลี่ยนเป็นโลลิค่อนกำลังสนุกสนานหรรษาอยู่กับน้องๆหนูๆมากมาย สภาพนี่คล้ายๆงานเฉลิมฉลองสุดครื้นเครงเพื่อเปิดแดนสวรรค์ของเหล่าโลลิค่อนเลยก็ไม่ปาน
และสิ่งที่ถูกเหวี่ยงเข้ามาใส่เหล่าผู้คนที่กลายเป็นโลลิค่อนนั่นก็คือ——
[โลลิค่อน……สมควรตาย……!]
ดาบยาวในกำมือของโลลิค่อนสเลเยอร์พลันถูกกวาดมาเป็นแนวนอน
“ ……ขึก ”
เป็นในฉับพลัน ที่คิดว่าเหล่าสามัญชนที่มัวติดลมบนอยู่กับน้องหนูจนลืมหนีจะถูกฟาดจนปลิวกระเด็นอยู่นั่นเอง
แคร๊งง!
ที่ดาบของโลลิค่อนสเลเยอร์กระเด้งออก ราวกับฟาดชนกำแพง
มองดูดีๆแล้วก็พบว่ามีข่ายอาคมทรงครึ่งวงกลมถูกร่ายเอาไว้โดยมีโลลิค่อนสเลเยอร์อยู่ตรงจุดศูนย์กลาง ทำให้ระงับหยุดการโจมตีอันแสนโหดร้ายทารุณของโลลิค่อนสเลเยอร์เอาไว้ได้อย่างฉิวเฉียด
มีผู้ปราบมารฝีมือดีกำลังซุ่มกางข่ายอาคมอันแข็งแกร่งจากระยะไกลอยู่ที่ไหนซักแห่งสินะ ทว่า
เปรี้ยง! แกร๊งง! เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!
การกระหน่ำฟาดฟันของโลลิค่อนสเลเยอร์ทำให้ข่ายอาคมเกิดเป็นรอยร้าวได้อย่างง่ายดาย พอร้าวทีนึงข่ายอาคมก็จะถูกซ่อมแซมให้กลับมาดีใหม่เหมือนเดิมในทันทีหรอก……แต่ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่อาจรู้ได้เลยว่าพลังวิญญาณของผู้ใช้ศาสตร์จะคงทนไปได้นานเท่าไหร่
“ นางุโมะ! ไปตรงโน้นในพรวดเดียวเลยได้รึเปล่า!? ”
“ วิ่งไต่ตามตึกเข้าไป แล้วทิ้งตัวลงมาจากดาดฟ้าของตึกที่อยู่ใกล้ที่สุดนั่นละมั้งเร็วที่สุด ”
“ เอาแบบนั้นแหละช่วยที! ”
“ เหะ หัดมีใจฮึดสู้แบบนั้นให้ได้ตั้งแต่ตอนฝึกสิวะ! ”
พอว่าแบบนั้น นางุโมะก็เค้นแรงใส่เข้าไปในขาทั้งสองข้าง—-ทว่ามันเป็นในฉับพลันนั้นเอง
“ เหวย……!? ”
เซ
เรี่ยวแรงพลันเหือดหายไปจากร่างของนางุโมะ ส่งผลให้ร่วงหล่นลงมาจากหลังคาชานชาลาสถานีพร้อมๆกับฉัน——เอ้ยแบบนี้ทั้งฉันทั้งนางุโมะก็ตายห่าทั้งคู่ดิวะเงี้ย!?
“ อุก นมใหญ่มันเด้งเต็มไปหมด เรี่ยวแรงเลยหดหาย…… ”
ระหว่างที่ร่วง ภายในการมองเห็นที่เวลาดูไหลช้าขึ้นราวกับเป็นภาพก่อนตายนั่นเอง ที่ฉันเห็นว่ามีคนนมใหญ่จำนวนนึงปะปนอยู่ภายในกลุ่มฝูงชนที่กลายเป็นโลลิค่อน และพอเล่นกับเหล่าน้องหนูตัวน้อยๆทีนึงแล้ว เต้าๆผลไม้เหล่านั้นมันก็กระเด้งดึ๋งทีนึง
(ความสามารถของยัยนี่ ไม่ใช่แรงช้างสารแต่เป็นพลังตรวจจับตำแหน่งคนนมใหญ่แล้วมั้งเนี่ยเฮ้ย!)
บัดซบ! แบบนี้ก็คงได้แต่ต้องเอาสองแขนอมนุษย์รองตอนที่ตกถึงพื้นเพื่อลดความเสียหายอย่างเดียว……พอฉันบิดตัวเองกลางอากาศอยู่แบบนั้น
[[[[รับตัวได้แล้วเจ้าค่ะ!]]]]
“ เหวย!? ””
หมับ! จู่ๆก็มีแรงประหลาดเข้ามาฉุดเอาไว้กลางอากาศ ช่วยหยุดการร่วงหล่นของฉันกับนางุโมะเอาไว้ได้
ที่ช่วยเหลือพวกเราเอาไว้ ก็คือเด็กผู้หญิงไซส์ชิบิสี่คน ที่ตัวใหญ่ขนาดสองหัว
เหล่าชิกิงามิของโซยะ ที่มีต้นแบบมาจากเทพทั้งสี่นั่นเอง
แต่เหมือนว่าชิกิงามิของโซยะที่มีระดับแค่ สเกล 1 จะมีพละกำลังไม่มากพอ ทั้งสี่จึงแสดงท่าทางหยั่งกับร่อนเวหาพาฉันกับนางุโมะมาส่งยังบริเวณหลังคาของร้านเกมตู้
“ ฟุรุยะคุง! มาช่วยสินะ! ”
หลังคาของร้านเกมตู้
เป็นพริบตาให้หลังจากที่ลงมาเหยียบพื้นหลังป้ายร้านนั่นเอง
ที่โซยะในสภาพสวมชุดนักเรียนวิ่งเข้ามาหาพวกเราพร้อมกับผู้ปราบมารอีกจำนวนนึง นมใหญ่เบิ้มพลันกระเด้งดึ๋งไปพร้อมกับริบบ้อนที่เป็นเทรดมาร์คเฉพาะตัว ทำให้เรี่ยวแรงเหือดหายไปจากร่างกายของนางุโมะหนักเข้าไปอีก
“ อูวว…ดูท่าแล้วฉันคงจะช่วยเหลือแกมาได้ถึงแค่ตรงนี้เท่านั้นแหละ…… ”
นางุโมะพึมพำออกมาอย่างเจ็บใจ
เอ้อ เราก็คงจะเอาผ้าซาราชิไปพันให้กับพวกคนนมใหญ่ที่อยู่ภายในฝูงชนที่กลายเป็นโลลิค่อนไม่ได้หมดหรอกเนอะ……
นางุโมะขอถอนตัวไปตรงนี้มันก็นับว่าย่ำแย่เอาเรื่องเลยหรอก แต่แค่พามาส่งถึงฮารุงาฮาระได้ภายในไม่กี่นาทีแบบนี้ก็นับว่าช่วยได้เหลือเฟือแล้วล่ะ
“ อะหวาหวา อุตส่าห์มาด้วยกันกับฟุรุยะคุงแท้ๆ แต่ถ้ามุตสึมิจังเป็นแบบนี้ก็ไม่ค่อยจะมีความหมายเลย…… ”
“ โซยะ ”
“ เอ๊ะ? ”
ฉันยิงคำถามใส่โซยะที่เริ่มต้นทำการปฐมพยาบาลนางุโมะ เพื่อให้สามารถทำความเข้าใจในสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างถูกต้องมากยิ่งขึ้น
“ ที่เธอมาอยู่ที่นี่ก็แสดงว่า ทีมเฉพาะกิจเพื่อตามหาและคุ้มครองเหล่าผู้คนที่กลายเป็นโลลิค่อนนั่นกำลังอยู่ภายในฮารุงาฮาระสินะ? ”
ทั้งกลุ่มคนที่ร้องเรียกให้เหล่าผู้คนที่กลายเป็นโลลิค่อนทำการลี้ภัย ทั้งคนที่กางข่ายอาคมเอาไว้รอบๆตัวโลลิค่อนสเลเยอร์ และเหล่าคนที่กำลังอยู่ล้อมรอบตัวโซยะในตอนนี้ คงจะเป็นผู้ปราบมารของทีมเฉพาะกิจกันทั้งหมดนั่นแหละ
“ อือ ก็ใช่หรอก แต่เพราะโลลิค่อนเมกเกอร์โผล่ขึ้นมาเต็มมากมายก่ายกองไปหมด ทีมก็เลยแตกกระจายแยกกันไปคนละทางโดยสมบูรณ์เลยน่ะ…… ”
โซยะมองจากหลังป้ายร้านลงไปถนนหลัก เพ่งสายตาลงไปยังเหล่าฝูงชนที่กลายเป็นโลลิค่อนด้วยสีหน้ากลุ้มหนัก
“ แถมกลุ่มคนที่คอยมอบคำสั่งการให้กับทีมเฉพาะกิจยังจะเผอิญโชคร้ายอยู่ใกล้จุดที่โลลิค่อนเมกเกอร์ปรากฎตัวขึ้นมาพอดีอีก สายการบังคับบัญชาก็เลยปั่นป่วนพังเละเทะไม่เหลือซากเลยน่ะ อ๊ะ แล้วก็คนที่กำลังเอาหน้าไซ้โลลิค่อนเมกเกอร์อยู่ตรงนั้นแหละคืออดีตหัวหน้าทีม ”
“ อุหวาย…… ”
พอมองไปยังทิศที่โซยะชี้แล้ว ฉันก็ถึงกับเผลอปล่อยเสียงแบบนั้นออกมาเลยทีเดียว
แม้จะอยู่กลางวงฝูงชน แถมยังห่างออกไปพอควร แต่ก็เห็นได้ชัดเจนว่าสวมเครื่องแต่งกายที่ไม่ใช่สามัญชนแน่นอน….และอีตาลุงที่สุดจะเด่นสะดุดตาคนนั้นมันก็กำลังเล่นสนุกลันล้าอยู่กับน้องหนูตัวน้อยเว้ยเฮ้ย
ภาพตาลุงหน้าโฉดอายุเข้าเลขสี่กำลังไซ้ๆถูไถน้องหนูตัวเล็กๆอยู่ด้วยรอยยิ้มน้ำลายเยิ้มแบบนั้นนี่คือโคตรอุจาด ถ้าเกิดตัดเอาเฉพาะตรงนั้นไปรายงานออกข่าวละก็สมาคมล่มสลายในทันทีที่ไม่มีรีรอแหงแก๋ชัวร์ป๊าบ
แต่ถึงงั้นก็เถอะ ตอนนี้เรื่องพรรค์นั้นจะยังไงก็ช่าง
“ โซยะ อยากจะขอร้องอะไรหน่อย ”
ฉันพูดโดยที่จ้องตาค้างไปยังโลลิค่อนเมกเกอร์และเหล่าชิกิงามิขนาดสองหัว
“ จะใช้เส้นสายของทางบ้าน หรือใช้พลังของเนตรมารฝันแบล็คเมลก็ได้ ช่วยสั่งการกับผู้ปราบมารทั้งหมดทุกคนในที่นี่ที ”
เหล่าผู้ปราบมารที่อยู่ข้างหลังโซยะพลันสะดุ้งดัง “หงึก” ในทันที
“ สั่งให้ทุกคนรวมพลังกัน ส่งฉันไปยังที่ที่ซากุระอยู่ที ”
“ ซากุระนี่……หมายถึงโลลิค่อนสเลเยอร์เหรอ!? ”
ฉันพยักหน้ายืนยันให้กับความตื่นตระหนกของโซยะ ก่อนจะพูดต่อไป
“ ถ้ากางข่ายอาคมไปพลางกำจัดโลลิค่อนเมกเกอร์ไปด้วยละก็ จะต้องแหวกฝ่าทะเลโลลิค่อนไปได้โดยไม่ถูกเปลี่ยนให้กลายเป็นโลลิค่อนแน่ ”
ถ้าเป็นโซยะละก็จะต้องยอมเอาด้วยแน่นอน
ฉันเสนอออกไปโดยคาดหวังแบบนั้น แต่โซยะกลับให้คำขาดกลับมาด้วยสีหน้าอันมัวหมองซะนี่
“ ……ตอนแรกพวกฉันก็คิดจะทำแบบนั้นอยู่หรอกนะ แต่คงไม่ไหวหรอก ”
“ ทำไมล่ะ ทีมผู้ปราบมารที่เมื่อตะกี้เห็นอยู่ตรงโน้นเขายังคิดจะทำแบบเดียวกันเลยนะ? ”
ฉะนั้นก็เข้าไปร่วมวงแล้วเสริมรวบรวมกำลังรบเอาไว้ในจุดเดียวกันซะเลย……เนี่ยคิดแผนเอาไว้แบบนี้ก็จริงหรอก ทว่า
“ เอ๊ะ!? ที่ว่านั่นหมายถึงทีมไหนเหรอ!? ”
โซยะพลันเบิกตาโพลงอย่างแตกตื่น ก่อนจะเข้ามาเขย่าๆไหล่ฉันเฉย
“ หะ เห็นอยู่ไกลๆก็เลยไม่รู้หรอกเฟ้ย ”
“ แย่แล้วล่ะ! ได้โดนดูดกลืนเข้าไปอีกแน่เลย! ”
โซยะแผดร้องพร้อมกับหยิบเอาสมาร์ทโฟนออกมา ก่อนจะเริ่มต้นโทรติดต่อหาคนโน้นคนนี้ให้ทั่วไปหมด—–ทว่ามันเป็นในฉับพลันนั้นเลย
“ อุว๊าาาาาาากกกกกกกก!!! ”
พลันมีเสียงกรีดร้องดังสนั่นขึ้นมาจากฝั่งฝูงชนที่กลายเป็นโลลิค่อน
อย่าบอกนะว่าพวกผู้ปราบมารเมื่อตะกี้นี้โดนเล่นงานหงายไปแล้ว!? ฉันที่คิดเช่นนั้นรีบหันหน้ามองไปยังถนนหลักโดยพลัน
“ นะ น้องหนู……น้องหนูเค้า…… ”
แต่ผู้ที่ส่งเสียงกรีดร้องกลับเป็นประชาชนเพศชายที่กลายเป็นโลลิค่อน อ้อมแขนนั่นกำลังโอบร่างของโลลิค่อนเมกเกอร์ที่หยุดทำงานเนื่องจากศาสตร์ปราบมารอยู่ และร่างนั่นก็สูญสลายพังทลายไปในบัดดล
เหล่าสามัญชนโดยรอบที่พบเห็นเหตุประทุษร้ายที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนั่นก็ถึงกับพูดอะไรไม่ออก แต่ในท้ายที่สุดแล้วสีหน้านั่นก็ถูกย้อมแดงฉานไปด้วยความโกรธเกรี้ยว
และความพิโรธนั่น ก็ได้ถูกเพ่งเล็งตรงดิ่งเข้าไปยังเหล่าผู้ปราบมารที่คงสภาพความพร้อมรบอยู่ภายในข่ายอาคม
“ พวกแกบังอาจทำร้ายหนูน้อย……อภัยให้ไม่ได้ ”
“ Yes โลลิต้า No ความรุนแรง…… ”
เปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยงเปรี้ยง!
โลลิค่อนจำนวนมากมายมหาศาลพลันพุ่งเข้าชนข่ายอาคม ส่งผลให้เหล่าผู้ปราบมารที่ประคองศาสตร์วิชาอยู่ภายในแผดเสียงกรีดร้องออกมา
“ หัวหน้าหมู่ครับ! แบบนี้เรา……เราควรทำยังไงดี!? ”
“ อย่าหวั่นไหว! อีกฝั่งเป็นสามัญชนก็จริง แต่กรณีแบบนี้จะถือว่าถูกเข้าสิงอยู่ อนุมัติให้ใช้ศาสตร์ปราบมารเข้าใส่ได้เลย! ”
“ แต่นี่มัน……มีจำนวนมากเกินไปนะครับ! ”
ข่ายอาคมทรงโดมที่ถูกเหล่าโลลิค่อนเอาตัวพุ่งเข้ากระแทกพลันส่งเสียงดังกรี๊กกรี๊กออกมาอย่างน่ากลัว แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังพอจะต้านคลื่นสึนามิโลลิค่อนเอาไว้ได้แบบหืดขึ้นคอหรอก ทว่า
ฟิ้ว
“ ……ห้ะ? ”
เรื่องมันเกิดขึ้นในฉับพลันเดียวเท่านั้น
ในพริบตาที่ยันต์ซึ่งไม่รู้ว่าลอยมาจากไหนพลันแตะต้องโดนเข้ากับข่ายอาคม เท่านั้นแหละข่ายอาคมแตกกระจุยซะอย่างง่ายดายจนชวนให้อึ้งเลย ก่อนที่
““““ อ๊าาาาาาากกกกกกกกกกก!? ””””
ผู้ปราบมารมืออาชีพหลักหลายสิบคน ถูกกลืนหายเข้าไปในหมู่ฝูงชนโลลิค่อนที่โกรธแค้นในบัดดล
……และสิ่งที่เผยออกมาให้เห็นในภายหลังจากที่คลื่นโลลิค่อนถอยตัวออกไปแล้วก็คือ
“ น้องหนูฉุดยอดฉุดๆ……น่ารักจุง…… ”
“ โอ๋ๆ ไปกินอะไรอร่อยๆด้วยกันกับน้านะจ๊ะ❤ ”
เหล่าพวกท่านๆผู้ปราบมารที่จูงมืออยู่กับโลลิค่อนเมกเกอร์ด้วยรอยยิ้มโคตรเซ่อซ่า!
“ หึ เป็นถึงผู้ปราบมารแต่กลับคิดริอาจลงไม้ลงมือทำร้ายน้องหนูตัวน้อยๆอย่างนั้นรึ ช่างอุกอาจชั่วร้ายจัญไรเสียจริง ”
ผู้ที่พล่ามอะไรก็ไม่รู้ออกมาอย่างมั่นหน้านั่นก็คือ อดีตหัวหน้าทีมที่เพิ่งจะเอาแก้มไซ้ๆโลลิค่อนเมกเกอร์อยู่เมื่อกี้นี้
“ ไอ้เจ้านั่นเป็นคนทลายข่ายอาคมงั้นเรอะ!? ”
ไม่สิ ไม่ได้มีแค่อดีตหัวหน้าทีมนั่นคนเดียว
เหล่าโลลิค่อนจำนวนนึงที่ดูเหมือนจะเป็นผู้ปราบมารมันยกยันต์ขึ้นมาเตรียมอยู่แบบเดียวกัน ลูบไล้โลลิค่อนเมกเกอร์อย่างเอ็นดูไปพลางเฝ้าระแวงบริเวณโดยรอบไปด้วย
“ เนอะ? เข้าใจแล้วใช่มั้ย? จะไปกระตุ้มต่อมพวกโลลิค่อนไม่ได้เด็ดขาดเลยล่ะ…… ”
โซยะเอามือปิดใบหน้าอันเหนื่อยจิตของตนเอง
“ ส่งกำลังรบแบบครึ่งๆกลางๆไปก็มีแต่จะถูกดูดกลืนไปเป็นศัตรูเท่านั้นล่ะ ถ้าไม่หาผู้มีความสามารถที่ใช้แหวกทางไปยังโลลิค่อนสเลเยอร์ให้ได้ในพรวดเดียว ก็ต้องรอให้กำลังหนุนที่แข็งแกร่งมากพอจะจัดการพวกโลลิค่อนให้ราบคาบได้อย่างแน่นอนมาถึงเท่านั้นน่ะ…… ”
“ …… ”
เป็นเรื่องใหญ่โตขนาดนี้
สมาคมจะต้องเรียกผู้ปราบมารจากบริเวณโดยรอบมารวมตัวกันอย่างแน่นอนเลย แบบเดียวกับในคราวคดีสาวนมหลีกนั่นน่ะ
แต่ว่า คราวนี้เราไม่ได้มีเวลาแบบคราวสาวนมหลีก
ข่ายอาคมที่ป้องกันการโจมตีของโลลิค่อนสเลเยอร์อยู่นั่น มันคงต้านเอาไว้ได้ไม่นานนักหรอก
ถ้าเกิดรอไปจนกว่ากำลังหนุนมาถึงละก็ จำนวนผู้เคราะห์ร้ายไม่จบแค่หลักร้อยหรือสองร้อยแน่
และถ้าเป็นแบบนั้น ซากุระจะต้องฟื้นตัวกลับมาไม่ได้อย่างแน่นอน
“ ……เข้าใจแล้ว งั้นพวกโซยะก็คอยประจำการเอาไว้จนกว่ากำลังหนุนจะมาถึงที ”
“ พวกฉันนี่…เอ๊ะ……ฟุรุยะคุง!? คิดจะไปไหนเหรอ!? ”
“ ฉัน จะไปยังที่ที่ซากุระอยู่ ”
ต่อให้โซยะจะเข้ามาห้ามแต่ก็ไม่ฟัง ฉันกระโดดทิ้งตัวลงมาจากหลังคาร้านเกมตู้ในทันที
“ อ๊าา❤ ปี้จายขา❤ ”
“ มาเล่นด้วยกันน้า❤ ”
เท่านั้นแหละเหล่าโลลิค่อนเมกเกอร์พลันวิ่งเตาะแตะเข้ามาหาในทันทีเลย
มือเล็กๆนั่นแตะเข้ามายังแขนฉัน หมายมั่นคิดที่จะเปลี่ยนฉันให้เป็นโลลิค่อน
ทว่า
“ โทษทีนะ เป็นโลลิค่อนไปเรียบร้อยแล้วล่ะ ฉันน่ะ ”
แม้ดวงตาจะจ้องเขม็งละไม่ได้ แต่ฉันก็สะบัดมือเหวี่ยงน้องหนูตัวน้อยกระเด็นออกไปโดยไม่ลังเลซักนิด ก่อนจะวิ่งทะยานตรงดิ่งไปแบบนั้นอย่างต่อเนื่อง
ใช่จริงๆด้วย
ไม่รู้เหมือนกันว่ามีหลักการแบบไหน แต่คำสาปเปลี่ยนให้กลายเป็นโลลิค่อนมันใช้งานกับฉันได้ไม่ดีเท่าคนอื่นจริงๆด้วย ต่อให้จะโดนจับซักกี่ครั้ง แต่ก็โดนเปลี่ยนเป็นโลลิค่อนแค่ระดับถูกดูดสายตาไปมองเท่านั้นเอง
กล่าวคือสามารถพุ่งทะยานออกไปด้วยตัวเปล่าๆ โดยไม่จำเป็นต้องกลัวคำสาปเปลี่ยนให้กลายเป็นโลลิค่อนเลยนั่นเอง
ถ้าเป็นแค่ฉันคนเดียวละก็
และ ถ้าไม่เลือกวิธีการใดๆเลยละก็
“ อ๊ะ!? อะไรของอีตานั่นน่ะ!? มันผลักน้องหนูกระเด็นไปเลยนะ!? ”
“ รวบตัวมันเอาไว้! ถ้ารักเอ็นดูน้องหนูจริงก็ต้องปกป้องรักษาน้องหนูเอาไว้ได้! ”
เหล่าสามัญชนที่โดนเปลี่ยนเป็นโลลิค่อนพลันสังเกตเห็นฉัน ก่อนจะพากันพุ่งตัวถาโถมเข้ามาเพื่อปกป้องคุ้มครองโลลิค่อนเมกเกอร์เอาไว้
“ …… ”
ถ้ามีวิธีการที่จบเรื่องได้อย่างแน่นอนและสงบสุขกว่า มันก็คงจะดี
แต่ถ้าเกิดว่าไม่มี……งั้นก็จะมัวมาสนวิธีการอยู่ไม่ได้
จำเป็นต้องช่วยซากุระออกมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้
เพราะยัยนั่นที่ถึงกับหลั่งน้ำตาแผดเสียงร้องอย่างเจ็บปวดว่าจะไม่ยอมให้ฉันเอาใจโดยเด็ดขาดนั่น
ได้พูดออกมาเองแล้วว่าช่วยด้วย อย่างชัดเจนเต็มสองหูนี่เลย
“ ……เกะกะเว้ย ”
ตั้งนิ้วกลางกับนิ้วนางของสองมือให้ตั้งตรง
จ้องมองโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่ส่องประกายอยู่ภายในการมองเห็นโหมดอมนุษย์
อีกฝั่งคือสามัญชนที่แค่ถูกไคอิควบคุมอยู่เฉยๆ?
เพราะมีคำสาปสุดเฮงซวยสถิตอยู่ภายในร่าง ก็เลยจำเป็นต้องพึงระวังเรื่องการใช้ความสามารถและรักษาพฤติกรรมให้ดี?
ถ้าใช้เทคโนเบรคเกอร์แบบมั่วซั่วแล้วจะถูกกรมตรวจสอบกับคาเอเดะฆ่าทิ้ง?
อะไรพวกนั้นอะนะ จะเป็นไงก็ช่างหัวแม่งแล้วเว้ย!!!
“ เกะกะว้อยยยยยยยยย! ถอยไปซะไอ้พวกโลลิค่อนเอ๊ยยยยยยย! ”
“““ อึนโฮ้วววววววววววววววววววววววววววววววววว❤❤!?!?!?!? ”””
ฉันจิ้มไอ้พวกโลลิค่อนบรรลัยที่พุ่งเข้ามาให้ตาเหลือกล้มหงายคาที่ แล้วทะยานแหวกฝ่าทะเลโลลิค่อนเข้าไป
MANGA DISCUSSION