“ ……อุก ขั่ก!? ”
ความรู้สึกแบบนี้ แทนที่จะเรียกว่าลืมตาตื่น เรียกว่าถูกบีบบังคับขืนใจให้ต้องตื่นซะจะเข้าเค้ากว่า
หัวมันเหมือนจะเบลอ……แต่ก็เปล่า ฉันนั้นสามารถคาดเดาถึงสถานการณ์โดยรอบและสภาพการณ์ของตนเองได้ในทันทีเลย
ทางเดินอันว่างเปล่า สภาพร่างกายที่ถูกมัดอย่างแน่นหนาจนขยับได้แค่ตากับปาก แต่ถึงอย่างนั้นวิวทิวทัศน์ที่ฉายเข้ามาในการมองเห็นมันก็ค่อยๆไหลผ่านไปข้างหลัง จากทั้งหมดนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าตัวฉันนั้นกำลังถูกแบกไปยังที่ไหนซักแห่งด้วยศาสตร์วิชาที่คล้ายกับพลังเคลื่อนย้ายวัตถุ เอ้อแต่ที่หมายนี่ก็คงจะเป็นสถานที่จัดการพิจารณาคดีแท่นตัดคอประหารนั่นแหละ ฉะนั้นที่นี่จะต้องเป็นบริเวณชั้นใต้ดินของสำนักงานใหญ่สมาคมไม่ผิดแน่ รอบตัวฉันนั้นมีคนที่สวมชุดสูทสีดำท่าทางน่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบคอยประกบอยู่เต็ม และข้างๆตัวนี่—–ก็มีคาเอเดะซึ่งทำสีหน้าเย็นชากว่าทุกทีอยู่ด้วย
“ เฮ้ยคาเอเดะ! ช่วยฟังทีเถอะ ไคอิที่ทำให้คนกลายเป็นโลลิค่อนมันมีอยู่—–ขุ่ก!? ”
“ อย่าพูดอะไรไม่เข้าเรื่องนะเว้ย ”
จู่ๆแรงบีบบริเวณคอมันก็รุนแรงขึ้นจนเปล่งเสียงไม่ออก เป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่ร่ายศาสตร์มัดร่างของฉันเอาไว้นั่นเอง
“ เธอน่ะอยู่นิ่งๆเอาไว้เถอะ คนของกรมตรวจสอบเค้าโหดไม่เหมือนกับฉันหรอกนะ ”
คาเอเดะเข้ามาปรามอย่างเงียบเชียบ ถ้าเกิดโหดยิ่งกว่าคาเอเดะอีกนี่ฉันคงถูกบีบคอตายห่าไปทั้งๆแบบนี้เลยแน่ แต่สุดท้ายแล้วก็โดนบีบแค่ในระดับที่ทำให้เปล่งเสียงออกมาไม่ได้เฉยๆแฮะ
อะไรกัน คนของกรมตรวจสอบโคตรจะใจดีเลยนี่หว่า……เอ้ยไม่ดิ เปล่งเสียงพูดออกมาไม่ได้ในสถานการณ์แบบนี้นี่ มันส่อเค้าฉิบหายสุดๆเลยนะเว้ย!?
ทั้งที่เกือบๆจะพิสูจน์ถึงตัวตนของไคอิที่ทำให้คนกลายเป็นโลลิค่อนได้อยู่แล้วแท้ๆ!
ถ้าปล่อยไว้แบบนี้ละก็ นอกจากฉันจะถูกประหารในฐานะโลลิค่อนแล้ว ผู้คนที่ไม่ใช่โลลิค่อนก็จะพลอยถูกโลลิค่อนสเลเยอร์มันทำร้ายไปด้วยนะ!
แถมถ้าไอ้พวกตัวอันตรายแบบคาราสึมะโดนเปลี่ยนให้กลายเป็นโลลิค่อนขึ้นมาละก็ เตรียมฉิบหายวายป่วงกันได้เลยเอ็งเอ๊ย!
ต้องโน้มน้าวคาเอเดะกับพวกกรมตรวจสอบให้ทำการรับมือโดยเร็ว……เป็นในระหว่างที่ฉันดิ้นรนคิดหาทางอยู่นั่นเอง
“ ไม่ต้องกังวลไปหรอก ฉันสั่งคนของคุซึโนะฮะให้ทำการส่งทีมสอบสวนเข้าไปในฮารุงาฮาระแล้วล่ะ ”
ที่คาเอเดะพลันกล่าวคำพูดที่เหนือความคาดหมายออกมา
อะ อ้าว? แต่เธอยังให้คำตัดสินว่าฉันเป็นโลลิค่อนของแท้แน่นอนอยู่เลยไม่ใช่เรอะ?
“ ก็เล่นถึงกับหนีจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบเลยนี่นะ เรื่องที่บอกว่ามีไคอิที่ทำให้คนกลายเป็นโลลิค่อนของเธอนั่นคงจะไม่ใช่ข้ออ้างเพื่อแถเอาตัวรอดเฉยๆหรอก แต่ว่า…… ”
“ ……? ”
“ ต่อให้หาเด็กผู้หญิงตัวเล็กที่ทำให้คนกลายเป็นโลลิค่อนเจอได้จริงๆ แต่กรมตรวจสอบก็อาจจะไม่ผ่อนความเข้มงวดที่มีต่อเธอเสมอไปก็ได้นะ เตรียมใจเอาไว้ให้ดีล่ะ ”
ห้ะ? ที่ว่านั่นหมายความว่าไง……
“ ขอโทษนะ ที่เรื่องลงเอยแบบนี้มันเป็นความผิดของฉันเอง ”
“ ……!? ”
ขะ คาเอเดะเนี่ยนะขอโทษ!?
แถมยังไม่เห็นจะเข้าใจเลยซักนิดว่าคาเอเดะรู้สึกผิดเพราะอะไร น่ากลัวว้อย
มันอะไรกันน่ะ? หรือว่านี่ฉันกำลังจะเจอกับชะตากรรมที่โหดร้ายมากยิ่งกว่าความตายงั้นเรอะ……!?
พอตัวสั่นกั่กกั่กไปด้วยความกลัวที่คุมไม่อยู่ บานประตูขนาดใหญ่ที่ปรากฎเข้ามาอยู่ตรงหน้าก็พลันเปิดออกอย่างไร้เสียง
“ …… ”
พลังวิญญาณไหลหลั่งท่วมทะลักออกมาจนชวนให้ใจฝ่อ แววตานับไม่ถ้วนนี่หยั่งกับว่าถ้ากระดิกตัวแม้แต่นิดก็คงไม่วายถูกร่ายศาสตร์วิชาอะไรซักอย่างเข้าใส่แล้ว
กรมตรวจสอบที่มีคนของ <<ตระกูลเก่าทั้ง 9>> สังกัดอยู่มากมาย และการประชุมรวมพลคนใหญ่คนโตแห่งกรมตรวจสอบที่จะมีผู้มากความสามารถระดับนับนิ้วได้ในบรรดาเหล่านั้นมารวมตัวกันนี่ ก็ได้ถูกปกคลุมอยู่ภายใต้บรรยากาศที่หนักอึ้งและหนาวสุดขั้วหัวใจอย่างประหลาดเลยทีเดียว
“ ——นั่นล่ะครับ รูปภาพทั้งหมด 360 รูปที่ได้แสดงให้เห็นแบบผ่านๆไปนั่นต่างก็เป็นรูปที่ถูกเซฟมาจากเว็บไซต์ที่มีนามว่า [เกือบเป็นชุมนุมคนรักเด็กน้อยน่าเลิฟม๊วฟม๊วฟ] เป็นส่วนใหญ่ ถัดไป เกี่ยวกับ [โลลิค่อน GO!] ที่ถูกดาวน์โหลดไว้อยู่ภายในสมาร์ทโฟนของจำเลยนี่ มันคือเกมประเภทที่มีการใช้งานบริการบอกตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งเป้าหมายของเกมก็คือการให้ผู้เล่นเก็บรวบรวมเหล่าเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่เดินผ่านไปมาโดยการให้ลูกอมและเงินค่าขนมครับ นับว่าเป็นเกมที่มีเนื้อหาที่เลวทรามต่ำช้าน่าขยะแขยงชวนคิดเป็นอื่นใดไปไม่ได้นอกจากถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออบรมบ่มเพาะสร้างอาชญากรโดยแท้ จากข้อมูลเบื้องต้นนี้ พอจะคาดการณ์ได้ว่ารสนิยมความชอบของจำเลยก็คือเด็กผมดำ อายุ 9 ขวบ ที่มีนิสัยร่าเริงว่านอนสอนง่าย กล่าวคือถือเป็นการพิสูจน์ว่าเขาเป็นโลลิค่อนได้อย่างไร้ข้อกังขาเลยทีเดียว ”
……ฆ่าเถอะ……ฆ่ากันเลยเถอะ……
ตัวฉันที่ถูกจับให้ยืนอยู่ ณ บริเวณใจกลางของพื้นที่ซึ่งดูเหมือนศาลพิจารณาคดีขนาดใหญ่นั้น ได้รับดาเมจมหาศาลบานตะไทเข้าไปจนจิตใจแตกแหลกสลายดังกร๊อบกร๊อบหมดแล้ว
หลังจากที่ฉันหนีไป ก็ดูเหมือนว่าเค้าจะทำการยึดสมาร์ทโฟนกับคอมพิวเตอร์ที่อยู่ภายในห้องฉันมาเป็นของกลางอะนะ แถมยังตรวจดูเนื้อในเรียบร้อยโดยสมบูรณ์แล้วอีกตะหาก
ผู้ที่กำลังทำการพูดพรีเซนต์ข้อมูลพวกนั้นแต่ละอย่างเพื่อถีบให้ฉันร่วงหล่นลงไปยังสุดขอบนรกนั่นก็คือ ชายวัยกลางคนร่างผอม สวมชุดสูทและแว่นตา ทรงผมที่ราวกับว่าไปให้ร้านทำผมช่วยจัดให้……เป็นบุคคลที่ดูราวกับเป็นร่างอวตาลตัวแทนของความเคร่งครัดมีระเบียบเลยยังไงยังงั้น
สถานที่ซึ่งเป็นศาลที่ไร้ผู้พิพากษาแห่งนี้ ได้เปิดฉากดำเนินการพิจารณาคดีไปโดยที่มีเขาผู้นี้เป็นศูนย์กลางซะส่วนใหญ่
ฟังจากที่คาเอเดะซึ่งยืนอยู่ข้างๆฉันช่วยอธิบายให้ฟังแล้ว เห็นว่าเขาคนนั้นคือมือขวาของอธิบดีกรมตรวจสอบแหละ เป็นคนจาก <<ทาทาราบะแห่งยักษา>> ที่ถือเป็นหนึ่งในตระกูลเก่า แล้วก็ดูเหมือนว่าจะเก่งความสามารถสูงล้นเอาเรื่องเลยด้วยอะนะ
และเจ้าทาทาราบะนั่นก็กำลังบอกกล่าวเล่าขานประวัติผลงานในฐานะโลลิค่อนของไอ้ฉันออกมารัวๆ
ฉันไม่ได้เซฟเก็บมาด้วยเจตนาของตัวเองซะหน่อย เป็นผลลัพธ์จากการที่โดนเด็กผู้หญิงตัวเล็กคนนั้นทำให้กลายเป็นโลลิค่อนต่างหาก……ต่อให้พร่ำแบบนั้นอยู่ในใจซักเท่าไหร่แต่เหงื่อมันก็ไหลพลั่กๆไม่ยอมหยุดเลย
พอทาทาราบะแสดงประวัติการเปิดเว็บไซต์ปุ๊บเหงื่อใต้รักแร้มันก็ซ่ก! พอมันแสดงประวัติการค้นหาปุ๊บระหว่างขาก็ชุ่มซ่ก! เรียกได้ว่าเหงื่อแตกท่วมกายไปหมดจนจวนเจียนร่อแร่ใกล้จะน็อกเพราะขาดน้ำอยู่รอมร่อแล้ว ทรมานยิ่งกว่าตายซะอีกคับ……
กำแพงของศาลมีช่องว่างสำหรับให้คนเพียงคนเดียวเข้าไปข้างในได้ โดยช่องว่างดังกล่าวนั่นมีติดตั้งอยู่เป็นจำนวนมากพอควร และเหล่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบยศใหญ่โตจากตระกูลเก่าก็กำลังส่งแววตาจับจ้องมองมายังพวกเราผ่านอีกฝั่งนึงของช่องว่างที่ถูกปิดกั้นเอาไว้ด้วยมู่ลี่ไม้ไผ่นั่นแหละ เพราะมีมู่ลี่ไม้ไผ่ขวางก็เลยไม่อาจมองเห็นหน้าจากทางตรงนี้ได้ก็จริง แต่่ก็สัมผัสได้เหมือนกันว่าไอ้ฉันเนี่ยกำลังโดนพวกเค้าเขม่นอยู่สุดๆเลยทีเดียว เขม่นอยู่ด้วยดวงตาที่เหมือนเห็นอาชญากรข่มขืนอะฮะ
“ ทั้งนี้ ดังที่ได้รายงานกันไปเมื่อก่อนหน้านี้ เขาผู้นี้มีพลังระดับที่ใช้ปราบไคอิ สเกล 6 ได้ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียวอยู่ และที่ชวนให้ฉงนสงสัยว่าหูฝาดไปเองหรือไม่ ก็คือพลังอำนาจนั่นมันจะก่อให้เกิดการถึงจุดสุดยอดทางเพศขึ้นด้วยครับ นอกจากนี้ ยังมีคำให้การมากมายบ่งชี้ว่าเขาถูกโลลิค่อนสเลเยอร์ที่ปรากฎตัวขึ้นมายังโรงเรียนปราบมารในช่วงเที่ยงของวันนี้ บุกเข้าทำร้ายอีกด้วย……ข้อมูลที่ผมได้กล่าวไปนั่นไม่มีผิดพลาดตรงไหนใช่ไหมครับ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟุมิโดริ ซากุระ ”
“ ……ค่ะ ”
ผู้ที่ตอบกลับด้วยเสียงค่อย ก็คือซากุระที่เอาแต่ก้มหน้างุดอย่างปวดใจมาตลอดตั้งแต่ที่การพิจารณาคดีเริ่มต้น ไม่แน่แล้ว ยัยนั่นอาจจะพยายามหาทางปกป้องฉันมาตลอดเลยก็ได้……แต่เพราะไอ้ฉันนี่กำลังถูกเรียงเฟติชออกมาแฉ ดูหมิ่นดูแคลนทำลายสภาพจิตท่ามกลางสถานที่อันเคร่งขรึมที่เหล่าคนเก่งจะมารวมตัวกันไง เลยไม่มีปัญญาจะสนใจไปถึงยัยนั่นอะนะ……
ทาทาราบะที่เปิดแสดงข้อมูลให้เห็นอย่างครบถ้วนแล้ว พลันกวาดสายตามองไปรอบศาล ก่อนที่จะ
“ ดังที่ได้กล่าวมาเบื้องต้น ทำให้เป็นที่ทราบอย่างไร้ข้อกังขาเลยทีเดียวครับว่าจำเลยคือโลลิค่อนที่มีความสามารถสุดสัปดนผิดสามัญอยู่ในครอบครอง ในฐานะกรมตรวจสอบแล้ว ผมขอลงความเห็นว่าควรจะจับเขากักขังหน่วงเหนี่ยวแบบกึ่งชั่วนิรันดร์เอาไว้ภายใต้ผนึกอันแน่นหนาและรัดกุมครับ ”
พวกเอ็งจะเฮี้ยบกับโลลิค่อนเกินไปแล้วว้อย!
ก็รู้หรอกว่าเป็นการพิจารณาคดีที่ถูกตัดสินว่าผิดจริงไว้ก่อนหน้าแล้ว แต่เล่นข้ามขั้นตอนพรวดๆโผล่มายัดโทษจำคุกตลอดชีวิตให้เลยงี้มันจะบ้าเรอะ!?
“ ท่านที่เห็นด้วยได้โปรดยกมือขึ้นครับ ”
แถมพวกท่านๆที่อยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่ยังจะยกมือขึ้นมากันรัวๆอีกตะหาก!
“ ……ขึก! ”
ซากุระที่เห็นสภาพการณ์เช่นนั้นพลันลุกพรวดขึ้นมายืนในทันที แต่ก่อนที่ซากุระจะทันได้พูดอะไรออกมา เสียงอันเงียบสงบก็พลันสะท้านดังกังวานไปทั่วห้องโถง
“ ก่อนที่จะตัดสินผล ขอให้ฉันได้กล่าวข้อความที่คุณยายฝากมาก่อนนะคะ ”
คาเอเดะที่ยืนอย่างสงบนิ่งอยู่ข้างตัวฉันนั่นเอง
“ ……ท่านประธานฝากบอกมาว่าอย่างไรครับ? ”
“ จงใช้ฟุรุยะ ฮารุฮิสะเป็นเหยื่อล่อ เพื่อปราบโลลิค่อนสเลเยอร์ที่ปรากฎตัวแบบสุ่มไม่อาจคาดเดาให้ได้อย่างแน่นอนซะ……แน่ะค่ะ ”
“ หรือก็คือ <<คุซึโนะฮะ>> คิดที่จะปกป้องเขาใช่ไหมครับ ”
“ แค่บอกว่ามีคุณค่าให้ใช้ประโยชน์ได้เท่านั้นค่ะ ”
ทาทาราบะและคาเอเดะจ้องเขม่นใส่กันโดยตรง
“ โลลิค่อนสเลเยอร์มีความสามารถเคลื่อนย้ายในพริบตาค่ะ นอกจากมันจะใช้พลังนี้ในตอนที่โจมตีใส่โลลิค่อนแล้ว มันยังสามารถใช้เพื่อหลบหนีจากผู้ปราบมารได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้จึงพิจารณากันว่าการจะปราบมันให้ได้นั้น จำเป็นต้องใช้โลลิค่อนเป็นเหยื่อล่อ และต้องจัดการให้ได้ภายในการโจมตีเพียงครั้งเดียวด้วย ฉะนั้นในกรณีดังกล่าวนี้ จึงไม่มีผู้ใดจะเหมาะสมกับตำแหน่งมากไปกว่าฟุรุยะ ฮารุฮิสะอีกแล้ว ”
คาเอเดะทำการพูดเป็นนัยๆว่าฉันคือโลลิค่อนเที่ยงแท้ว่ะเฮ้ย เอ้อแต่ก็โดนโลลิค่อนสเลเยอร์มันหมายหัวเข้าครั้งนึงจริงๆแหละนะ ปฎิเสธไม่ได้เลย
“ หากวางแผนโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง ก็จะสามารถคลี่คลายเรื่องได้โดยใช้จำนวนคนขั้นต่ำที่สุดค่ะ หนำซ้ำยังจะสามารถปราบโลลิค่อนสเลเยอร์ได้แบบลับๆโดยที่เรื่องไม่ถูกรู้ไปถึงหูของประชาชนที่คิดสนับสนุนโลลิค่อนสเลเยอร์ด้วย หากส่งคนที่สร้างคุณประโยชน์ให้ได้มากระดับนี้ไปจองจำให้เสียเปล่า แบบนั้นน่าจะถือเป็นความสูญเสียที่ไม่ควรต่อทั้งสมาคมนะคะ ”
“ เรื่องคุณประโยชน์ของเขานี่ยอมรับก็ได้ ก็เป็นถึงพลังสุดผ่าเหล่าที่ใช้กำราบ สเกล 6 ได้ในทีเดียวเลยนี่นะ แต่เพราะฉะนั้นล่ะ การจะปล่อยให้เขาลอยนวลอยู่ได้มันจึงดูเป็นความเสี่ยงที่น่าหวาดกลัวเป็นอย่างยิ่งเลยทีเดียว ”
น้ำเสียงของทาทาราบะพลันเปลี่ยนแปลงกลายมาฟังดูเกรงขามน่ากลัว
แล้วจากนั้นมันก็หยิบเอาคอมพิวเตอร์กับสมาร์ทโฟนที่ล้นเต็มไปด้วยภาพโลลิ 2D ขึ้นมาแสดงอีกรอบ พอได้แล้วว้อย!!
“ ดูจากข้อมูลที่ถูกส่งกลับมาแล้ว การเก็บรวบรวมรูปภาพอนาจารเด็กของเขาเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 2-3 วันก่อนหน้านี่เอง หนำซ้ำก่อนหน้านั้นยังดูเหมือนว่าจะเก็บรวบรวมพวกสื่อลามกน้อยมากจนถือว่าแปลกในฐานะเด็กผู้ชายม.ปลาย ในช่วงวัยกำลังกลัดมันเลยด้วยซ้ำ ขอพูดในฐานะผู้ชายด้วยกันเลย การเปลี่ยนแปลงนี่มันเกิดขึ้นโดยฉับพลันมากเกินไป ”
เล่นวิเคราะห์ชีวิตความเป็นอยู่ด้านกามอารมณ์ด้วยหน้าตาจริงจังโคตรๆเฉยเลยซะงั้น พอทีครับเฮ้ยหน้าผมมันเดือดจะลุกเป็นไฟแล้วว้อย
แต่ใบหน้าที่เดือดจะลุกเป็นไฟนั่น ก็ถูกคำพูดถัดมาของทาทาราบะทำให้เย็นเฉียบลงมาในพริบตา
“ ความบิดเบือนทางเฟติชโดยเฉียบพลันและความต้องการทางเพศที่เพิ่มพูนอย่างรวดเร็วนี่ คุณจะพิสูจน์ได้ไหมละครับว่าไม่ใช่ร่องรอยบ่งชี้ว่า คำสาปที่สถิตอยู่ภายในแขนของเขามันทรุดหนักขึ้น น่ะ ”
คำสาป…ทรุดหนักขึ้น? แขนนี่น่ะเรอะ?
ไหงการถูกเปลี่ยนให้เป็นโลลิค่อนกับความต้องการทางเพศที่พุ่งสูงขึ้น ถึงถูกโบ้ยไปเป็นความผิดของเทคโนเบรคเกอร์เฉยเลยล่ะ?
“ เกี่ยวกับเรื่องที่เฟติชของเขาเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลันนี่ ในปัจจุบันนี้เรากำลังสงสัยอยู่ว่าอาจจะเป็นเพราะไคอิที่ทำให้คนกลายเป็นโลลิค่อนค่ะ คนของคุซึโนะฮะกำลังทำการสอบสวนกันอยู่อย่างเร่งด่วน—– ”
“ ผมถามว่าคุณพิสูจน์ได้รึเปล่า! ไม่ได้อยากจะได้ยินคำพูดเพ้อเจ้ออะไรแบบนั้นเลย! ”
เสียงอันเกรี้ยวกราดของทาทาราบะพลันสั่นสะท้าน
และความพิโรธที่ดูกะทันหันนั่น ก็ถูกคาเอเดะปัดทิ้งไปได้อย่างง่ายดายราวกับว่า “คาดการณ์เอาไว้แล้ว”
“ พิสูจน์หรือคะ หากให้ว่ากันแต่แรกเริ่มเดิมทีแล้ว ณ ปัจจุบันนี้เราก็ยังไม่อาจพิสูจน์รู้ได้เลยด้วยซ้ำนะ ว่าคำสาปของเขามันเป็นอย่างที่พวกคุณคาดการณ์กันเอาไว้แน่รึเปล่า ”
“ ……ถูกต้อง จริงของคุณเลย กรมตรวจสอบก็ลองนำเขามาตรวจสอบเชิงวิญญาณดูแล้ว แต่ก็รู้เพียงแค่ว่าความสามารถของเขามันเป็นสิ่งที่เกิดจากเครื่องมือต้องสาปลึกลับเท่านั้นเอง……ฉะนั้นถึงได้น่ากลัวยังไงล่ะ จำเป็นต้องระวังให้ถึงที่สุด ”
นี่เจ้าพวกนี้….รู้เรื่องอะไรอยู่น่ะ?
“ ถ้าอย่างนั้น ก็จะได้ผลออกมาว่ากรมตรวจสอบกำลังจะลงทัณฑ์ผู้ปราบมารที่บริสุทธิ์จริง—–หนำซ้ำยังเป็นบุคลากรที่มีประโยชน์ต่อการปราบโลลิค่อนสเลเยอร์ ซึ่งเป็นไคอิที่จะสร้างผลเสียต่อทั้งสมาคมโดยตรงอีกด้วย——โดยที่ไม่มีข้อกล่าวหาเอาผิดใดๆเลยนะคะ? ”
“ จะพิสูจน์ว่าจำเลยบริสุทธิ์ไร้มลทินจริงได้ก็ต่อเมื่อมีไคอิที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นโลลิค่อนอยู่จริงเท่านั้นล่ะ……ไม่สิ ต่อให้ไคอิแบบนั้นมันมีตัวตนอยู่จริง แต่แบบนั้นมันก็จะหมายความว่าจำเลยได้รับโรคเชิงวิญญาณสายล้างสมองเข้าไปโดยไม่อาจต่อต้านใดๆได้เลยแม้แต่นิด และในความเป็นจริงแล้ว เขาก็เป็นเด็กที่เรียนได้ที่โหล่ตลอดเวลาที่อยู่ภายในโรงเรียนปราบมารเลยด้วยนี่……ถ้าเกิดผู้ครองอำนาจที่ถึงกับปราบ สเกล 6 ได้ในทีเดียวนั่น หนำซ้ำยังเป็นความสามารถสุดสัปดนที่จะทำให้เกิดการถึงจุดสุดยอดทางเพศตามมาด้วยอีก เป็นพวกกากเดนไร้ความสามารถแสนน่าหวั่นใจถึงเพียงนั้น แค่นั้นก็นับเป็นปัญหามากพอแล้ว ”
“ ก็เข้าใจหรอกนะคะว่าเป็นพลังที่มีจุดบกพร่องอยู่มาก แต่ตามเดิมแล้วความสามารถเชิงวิญญาณนี่ก็เป็นอะไรที่บิดเบี้ยวและไม่เสถียรอยู่แต่แรก เพราะแบบนั้นผู้ปราบมารจึงต้องตั้งทีมเพื่อถัวปกปิดจุดอ่อนของกันและกันไงละคะ คุณลืมกระทั่งหลักการขั้นพื้นฐานแบบนั้นไปแล้วหรือ? ”
ตัวฉันที่สับสนงุนงงนั้นถูกเมินสนิท การโต้เถียงดำเนินต่อไปแบบไม่มีใครยอมใครทั้งๆอย่างนั้น
แต่ก็ดูเหมือนว่าคาเอเดะจะเป็นฝ่ายได้เปรียบในสงครามวาจานั่นอยู่นิดหน่อย ถ้าเป็นแบบนี้ไปเรื่อยๆละก็ การพิจารณาคดีที่จำเลยถูกตัดสินว่าผิดจริงไว้เรียบร้อยนี่ก็คงจะผ่อนระดับลงมาได้ข้อตัดสินที่ฟังดูเข้าท่าหน่อยแหละ……เป็นฉับพลันที่ฉันคิดแบบนั้นนั่นเอง
[ให้ตาย เห็นแล้วมันน่าหงุดหงิดจริงๆเลยนะ]
“ ……!? ”
ฟุ่บ
พลันมีสตรีร่างโปร่งแสงลอยละล่องลงมาอยู่เคียงข้างฉัน อย่างฉับพลัน ไม่มีเค้าลางใดๆให้สัมผัสได้ล่วงหน้าเลยซักนิด
(ห้ะ……! มีสัมภเวสีรุกรานเข้ามาในสำนักงานใหญ่ของสมาคมเรอะ!? ไม่ดิเป็นไปไม่ได้หรอก ยัยนี่มันอะไรกันน่ะ!?)
ชุดสูทแบบเดียวกับเหล่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และเส้นผมสีดำที่ยืดยาวมากยิ่งกว่าส่วนสูงของตัวเองซะอีก
เพราะทำตาเหมือนปลาตายอยู่ก็เลยดูออกยากหน่อย แต่ก็ถือเป็นคนสวยใช่เล่นเลย
สตรีผู้ยิ้มเยาะอย่างดุดันอยู่เคียงข้างฉันซึ่งตื่นตระหนก พลันกวาดสายตาไปรอบห้องโถงอย่างผ่าเผยสุดขีด
[คำสาปของเจ้านี่มันคืออะไรกันแน่ ต้นเหตุที่กลายเป็นโลลิค่อนมันเป็นเพราะคำสาปทรุดหนักหรือเพราะอะไรอย่างอื่น……ไอ้ข้อสงสัยร้อยแปดพวกนั้นนี่ฉันจะใช้ตรวจสอบเชิงวิญญาณดูให้เองก็แล้วกันอะ อย่างละเอียดถี่ถ้วนเลย]
พอเธอคนนั้นพูดออกมาราวกับว่าตนเองเป็นผู้ปราบมารปุ๊บ
“ อาจารย์!? ไม่ใช่ว่าออกไปทำงานนอกสถานที่เหรอ…… ”
ซากุระก็พลันแผดเสียงร้องออกมา พร้อมกับที่
“ ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้……อดีต 12 เซียนอัมพร <<นางิสะผู้บดขยี้ศาสตร์วิชา>> ……! ”
คาเอเดะซึ่งดำเนินศึกทางวาจาได้อย่างผ่าเผยตลอดมาจนถึงตอนนี้ พลันหลั่งเหงื่อหนึ่งหยดไหลรินลงมาจากหน้าผาก
MANGA DISCUSSION