“ ไม่ใช่อาชญากรที่ก่อการร้ายด้วยพลังวิญญาณซะหน่อยแท้ๆ แต่ถึงกับจะโดนเอาตัวขึ้นการพิจารณาคดีแท่นตัดคอประหารเนี่ยนะ ต่อให้จะยังไงแต่มันก็เป็นไปไม่ได้หรอก…..จะต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ ต้องขอเจรจากับท่านอธิบดีโดยตรง….. ”
ซากุระที่มีท่าทางสับสนอลหม่านสุดขีด พลันทำการโทรออกด้วยสีหน้าอยู่ไม่สุขไปหาบุคคลซึ่งเป็นท็อปของกรมตรวจสอบและเหมือนว่าจะเป็นอาจารย์ของตนด้วย แต่เหมือนต่อให้รอสายยังไงก็โทรไม่ติดซักที ซากุระจึงแผดเสียง “ถึงจะอยู่ระหว่างทำงานนอกสถานที่ก็เถอะ แต่จะถึงกับรับสายไม่ได้เลยเหรอ!” แล้วกดๆมือถืออย่างร้อนรนมือเป็นระวิง
…..แต่ก็นะ คำตัดสินที่กรมตรวจสอบมอบให้กับฉันนั่น ถามว่าสมควรไหมก็คงจะสมควรแล้วนั่นแหละ
อย่างที่เมย์เตือนเอาไว้นั่นล่ะ เพราะตัวตนของโลลิค่อนสเยเลอร์ และหนอนบ่อนไส้ที่แอบปล่อยข้อมูลไปให้กับสื่อ ทำให้สมาคมผู้ปราบมารในตอนนี้กำลังถูกประชาชนวิพากษ์วิจารณ์ไปในทางเสียๆหายๆอย่างมากเลย
ท่ามกลางสถานการณ์แบบนั้น ถ้าเกิดสื่อทราบเรื่องแล้วเอาไปปั่นต่อว่า “มีโลลิค่อนที่ถือครองความสามารถสุดพิลึกแสนสัปดนที่ใช้ไล่ผีโดยทำให้ถึงจุดสุดยอดกำลังทำงานปราบผีอยู่ครับ!” , “และมันก็มีประวัติทำให้เด็กผู้หญิงตัวเป็นๆน้ำแตกไหลซ่านมาแล้วเรียบร้อยด้วยครับ!” แบบนั้นอีกละก็ สมาคมเป็นอันจบสิ้นกันแน่ๆ
จะอยากรีบหาทางกำจัดผู้ปราบมารโรคจิตแบบฉันทิ้งอย่างลับๆนี่มันก็ฟังดูเข้าใจได้
ยิ่งในเมื่อตอนนี้ที่ถูกคาเอเดะกับซากุระวินิจฉัยได้ผลออกมาเรียบร้อยว่า “แกน่ะเป็นโลลิค่อนโดยสันดานเลย” แล้ว ไอ้หนุ่มโรคจิตจิ้มคนน้ำแตกที่มีดีแต่จะสร้างความกังวลให้กับประชาชนตาดำๆอย่างเดียวแบบฉันก็สมควรก้มหัวยอมรับบทลงทัณฑ์แต่โดยดี—–
…..เอ้ย ยอมได้ก็แย่แล้วว้อย!!! มันอะไรกันนั่นเฮ้ยจู่ๆจะเล่นจับขึ้นการพิจารณาคดีแท่นตัดคอประหารได้ไง!
ถ้าโดนตีตราว่าผิดจริงเอาไว้แต่แรกเริ่มแล้ว งั้นก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องยอมนิ่งอยู่เฉยๆซะหน่อย ลองเสี่ยงดวงไปตายเอาดาบหน้าดูแม่มเลย จะตามหาไอ้เจ้าไคอิ (?) ที่เปลี่ยนฉันเป็นโลลิค่อนให้เจอให้ได้เลยเชียวโว้ยบัดซบ!
ซากุระก็ดูเหมือนจะไม่พอใจกับผลตัดสินนี้ด้วยนี่นะ ลองขอร้องอ้อนวอนให้ช่วยปล่อยไปดู—–เป็นในพริบตาที่ฉันครุ่นคิดทั้งๆที่ถูกรัดพันติดอยู่กับเก้าอี้นั่นเอง
—–ชิ้ง!
“ ว้าย!? นี่มันอะไรน่ะ ข่ายอาคมกายภาพเหรอ!? ”
“ ห้ะ!? ไม่มีประสานเรื่องกับเจ้าพนักงานในสถานที่จริงอย่างฉันก่อนเลย จะเร็วเกินไปแล้ว…..! ”
โซยะกับซากุระมองออกไปยังบริเวณนอกหน้าต่างพร้อมแผดเสียงร้อง พอหันขวับไปมอง ก็พบว่ามีกำแพงโปร่งแสงอันหนาแน่นพลันปรากฎขึ้นมาอยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย เป็นศาสตร์วิชาแบบเดียวกับที่ซากุระใช้ เพื่อขังไอ้พวกเด็กผู้ชายเอาไว้ในตึกเรียนเมื่อก่อนหน้านี้แหละ
“ สมกับเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟุมิโดริจริงๆ เพิ่งจะแจ้งเรื่องให้ทราบไปได้ไม่นานเอง แต่ก็รวบตัวเป้าหมายเอาไว้ได้เรียบร้อยแล้วหรือนี่ ”
“ กางข่ายอาคมกายภาพเผื่อเอาไว้หรอก แต่เห็นท่าแล้วคงไม่จำเป็นสินะครับเนี่ย ”
และเป็นตอนนั้นเอง พลันมีผู้ชายสองคนกระแทกตัวเข้ามาภายในห้องอย่างกะทันหัน
ชุดสูทสีดำและการย่ำเท้าที่ไร้ช่องโหว่—–คนของกรมตรวจสอบงั้นเรอะ
คงจะเฝ้าประจำการอยู่ข้างนอก เพื่อจะได้เคลื่อนไหวในเกือบๆจังหวะเดียวกับที่ซากุระได้รับข่าวคราวเลยงั้นสินะ
“ คุณฟุรุยะ ฮารุฮิสะ มีคำสั่งให้คุณต้องไปรายงานตัวยังการประชุมรวมพลกรมตรวจสอบครับ จะช่วยมากับเราได้ใช่ไหมครับ? ”
จบเห่แล้ว….. แผนไปตายเอาดาบหน้าเพื่อไล่ล่าตามหาไคอิล่มในพริบตาเลย….. ก็เอ็งลองคิดดูดิวะ โดนกางข่ายอาคมกายภาพคลุมมาจนถึงหน้าประตูเลยนะเว้ย มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ตั้ง 2 คน แถมฉันยังโดนมัดตัวอยู่อีกตะหาก
“ ช่วยรอเดี๋ยวก่อนสิคะ! ”
เป็นตอนนั้นแหละ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้ง 2 คนที่กระชั้นชิดเข้ามาอย่างไร้ความปรานี พลันถูกซากุระวิ่งมายืนขวางเส้นทางเอาไว้
“ ห้ะ? เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟุมิโดริ? ”
“ พวกรุ่นพี่ไม่คิดว่ามันแปลกบ้างเหรอคะ!? ต่อให้เจ้าหมอนี่จะเป็นไอ้โรคจิตสุดขั้วขนาดไหนก็เถอะ แต่มันถึงกับต้องลากตัวไปเข้าการประชุมรวมพลแบบกะทันหันอย่างนี้เลยเหรอ! ”
“ ก็คิดว่าประหลาดอยู่เหมือนกันหรอก แต่ในเมื่อเป็นคำสั่งจากเบื้องบนแล้ว—–อื๋อ!? ”
ยังพูดไม่จบประโยคเลยด้วยซ้ำ แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ 2 คนก็ถึงกับสะดุ้งโหยงตัวแข็งทื่อ ก่อนจะ
““ โซยะ มิซากิ!? ””
พอทั้งสองผลักดันกันไปมาแย่งกันนำหน้าเผ่นป่าราบออกไปยังหน้าประตูปุ๊บ
“ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบฟุมิโดริ ซากุระ!? เหตุไฉนเธอจึงอยู่ร่วมห้องเดียวกับคุณหนูตระกูลโซยะ แล้วทำหน้าตานิ่งเฉยไม่ทุกข์ร้อนแบบนั้นได้กัน!? ”
“ เพราะมีเธออยู่ พวกผมก็เลยโล่งใจก้าวเข้าไปโดยไม่ทันระวังเลยไม่ใช่เหรอครับ! ”
พวกพี่แกก็เริ่มโวยวายประท้วงใส่ซากุระเฉยเลย เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเองก็เป็นคนเนอะ…..
“ ไม่เห็นต้องหนีกันสุดชีวิตแบบนั้นเลยง่าา….. ”
และโซยะก็หงอยเศร้าอยู่คนเดียวอีกแล้ว เป็นความสามารถที่โคตรน่าเวทนาจริงๆแฮะ เนตรมารฝันเนี่ย
“ เพราะฉันจิตใจใสสะอาดไม่มีอะไรให้ต้องละอายเลยแม้แต่น้อยนิดยังไงละคะ ”
พอพูดแบบนั้นแล้ว ซากุระก็วิ่งตามไปหาเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้ง 2 ที่เผ่นป่าราบไปอยู่ตรงหน้าประตูห้อง
“ ไม่มีอะไรให้ต้องละอายเลยนี่ เธอเป็นมนุษย์แน่รึ!? มะ ไม่สิตอนนี้เรื่องพวกนั้นจะยังไงก็ช่างเถอะ ถ้าเกิดว่าสบหน้ากับคุณหนูตระกูลโซยะได้อย่างไม่มีปัญหาแล้วละก็ วานเธอช่วยพาคุณหนูแกออกไปนอกข่ายอาคมเดี๋ยวนี้เลยทีเถอะ แล้วหลังจากนั้นพวกฉันจะนำตัวฟุรุยะ ฮารุฮิสะไปส่งให้ถึงสำนักงานใหญ่ของสมาคมเอง ”
“ มีคำสั่งมาโดยที่ไม่ได้แจ้งเรื่องให้เจ้าพนักงานในสถานที่อย่างฉันทราบก่อนแบบนี้นี่มันแปลกชัดๆแล้วนะคะ แถมยังมีหนอนบ่อนไส้อยู่ด้วยนี่ ถ้าไม่ได้รับฟังเหตุผลจากอาจารย์—-ไม่สิ จากท่านอธิบดีก่อนละก็ ฉันจะไม่ยอมรับเป็นอันขาดเลยค่ะ! ”
ซากุระโต้แย้งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบทั้ง 2 อย่างดุเดือดไม่หยุดหย่อน
กำลังช่วยปกป้องฉันอยู่…..เหรอ?
ตอนที่พูดว่า [ต่อให้โดนคำสาปขึ้นมาแต่ก็ช่วยให้ได้] นั่นก็เหมือนกัน ไอ้นิสัยเข้มงวดสุดเฮี้ยบในตอนปกตินั่นมันหายไปไหนซะแล้วล่ะ…..พอฉันสับสนกับคำพูดและการกระทำของซากุระอยู่
“ จังหวะนี้แหละ! ”
“ เอ๊ะ!? โซยะ!? ”
โซยะกระโจนเข้าใส่ปมของเชือกที่รัดร่างของฉันเอาไว้ในทันที
“ ต่อให้คิดยังไง แต่การที่ฟุรุยะคุงกลายเป็นโลลิค่อนนี่มันก็แหม่งๆจริงนั่นแหละ ถึงการตรวจสอบเชิงวิญญาณของพวกคุณคุซึโนะฮะจะตรวจอะไรไม่พบก็เถอะ…..แต่ฉันน่ะเชื่อฟุรุยะคุงนะ! ถ้าไหนๆก็ถูกตีตราว่าผิดจริงเอาไว้แล้ว งั้นก็รีบหนีไปให้ได้ก่อนจะถูกจับตัวเถอะ หนีไปไล่ตามหาไคอิที่ทำให้กลายเป็นโลลิค่อนกัน! ”
ดูเหมือนว่าโซยะจะคิดแบบเดียวกับฉันอยู่เหมือนกันแฮะ
เออมันก็รู้สึกขอบคุณสุดๆไปเลยหรอกนะ…..
“ หยุดเหอะน่า! ต่อให้ไม่นับซากุระ แต่ก็มีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบอยู่ถึง 2 คนเลยเชียวนะเฟ้ย ถ้าเกิดช่วยเหลือให้ฉันหลบหนีออกไปในสถานการณ์แบบนี้ เดี๋ยวเธอก็ซวยเอาหรอกนะ!? ”
“ ไอ้ตรงนั้นเดี๋ยวจะขอให้ที่บ้านช่วยปกป้องสุดกำลังเอง! ”
โซยะพ่นลมออกทางจมูกดังฮึ
จะว่าไปแล้วก็ใช่แฮะ เพราะไม่มีออร่าความน่าเกรงขามเหมือนคาเอเดะก็เลยคอยจะลืมอยู่เรื่อย แต่ยัยนี่เองก็เป็นลูกสาวผู้สืบทอดตระกูลดังด้านพลังวิญญาณเหมือนกันนี่นะ ถึงจะเป็นคนซื่อบื้อเซ่อซ่าที่มีดีแค่เนตรมารฝันก็เหอะ
“ ถึงจะให้ที่บ้านช่วยปกป้อง แต่ก็คงทำให้ไร้มลทินหมดโทษโดยสมบูรณ์เลยไม่ได้หรอกนะเฮ้ย ”
“ ฟุรุยะคุงบอกกับฉันเองเลยไม่ใช่เหรอ? ”
โซยะแก้เชือกไปพลางขัดคำพูดของฉัน
“ ว่าที่ความสามารถของเทคโนเบรคเกอร์ถูกคนอื่นรู้เข้านั่นมันเป็นเพราะฉัน ฉะนั้นก็จงรับผิดชอบแล้วตามมาจนถึงสุดขอบนรกเลยนะ….แน่ะ ”
นั่นมันคือคำพูดที่ฉันกล่าวกับโซยะที่ร้องไห้ถามเข้ามาว่า “ต้องสลายทีมสินะ?” ในหลายวันให้หลังจากที่ปราบสาวนมหลีกลงได้
“ ที่นี่มันยังไม่ใช่สุดขอบนรกเลยนะ ฉะนั้นฉันก็ต้องช่วยฟุรุยะคุงอยู่แล้วสิ ”
“ ….. ”
“ แถมฟุรุยะคุงยังพูดแบบนี้อีกด้วยนะ ว่าจะติดตามฉันไปด้วยทุกหนแห่งน่ะ ฉะนั้นจะไม่ยอมให้ดรอปเอาท์ออกไปกลางคันแบบนี้เด็ดขาดเลย ฉันน่ะอยากจะคลายคำสาปไปด้วยกันกับฟุรุยะคุงนะ ”
โซยะที่แก้เชือกออกเรียบร้อย พลันกล่าวเด็ดขาดออกมาอย่างจริงใจสุดขีด
“ …..โทษที ขอบใจนะ ”
“ ไม่เป็นไรหรอกไม่เป็นไร ก็เราเป็นเพื่อนร่วมทีมกันนี่เนอะ! ”
“ แล้วไง? ต่อจากนี้ไปจะเอาไงต่อเรอะ? ถ้าจะช่วยก็แสดงว่าคิดแผนเอาไว้แล้วสินะ? ”
ในตอนนี้ ห้องแห่งนี้กำลังถูกข่ายอาคมกายภาพอันแสนทรงพลังหุ้มปกคลุมเอาไว้โดยสมบูรณ์ ศาสตร์ของโซยะนี่แม้จะมีอานุภาพต่ำ แต่ก็เหมือนว่าจะสามารถใช้งานได้หลากหลายแขนงเลยไง ไม่แน่อาจจะมีศาสตร์ที่ฉันไม่รู้จักอยู่ก็ได้
“ …..เอิ่ม ก็เช่น ใช้ชิกิงามิของฉันสร้างความปั่นป่วน แล้วให้ฟุรุยะคุงอาศัยจังหวะทีเผลอจิ้มจึ๊กเดียวใส่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วยเทคโนเบรคเกอร์ละมั้งนะ ”
“ ยัยบ้าเอ๊ยยยยย! ”
คิดจะให้ฉันทำผิดกี่กระทงเลยฟะ!
ไม่ดิปัญหามันอยู่ก่อนหน้านั้นอีก จะให้ใช้เทคโนเบรคเกอร์ใส่คนที่น่าจะมีความสามารถพอๆหรือไม่ก็สูงยิ่งกว่าซากุระ ซึ่งมีถึงสองคนแบบตรงๆเลยเนี่ยนะ มันจะยากเกินไปแล้ว แถมต่อให้ฟลุ๊กไปได้สวยขึ้นมาจริงฉันก็คงไม่วายถูกซากุระฆ่าตายแหงๆ
แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่มีวิธีอื่นใดจะใช้ทลายข่ายอาคมกายภาพอันแสนทรงพลังแบบนี้ได้แล้วด้วย…..จนมุมเต็มๆเลยนี่หว่า!
“ อ๊ะ! ไอ้เจ้าพวกนั้นมันแก้เชือกกันแล้วครับ! ”
“ ไม่ได้การ! ถ้าปล่อยมันหนีไปละก็พวกเราถูกท่านอธิบดีเอาตายแน่ๆ! ตายแบบหมดจุดยืนในสังคมน่ะ! ”
แถมพวกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบยังรู้ตัวกันแล้วด้วยว้อยยยยยยย!
คงเพราะมีความเชื่อมั่นอย่างสูงส่งต่อข่ายอาคมกายภาพ บวกกับหวาดกลัวเนตรมารฝันด้วยละมั้ง ทั้งสองคนนั้นจึงไม่ได้พุ่งเข้ามารวบตัวฉันไว้ในทันที…..แต่เท่านี้ก็คงไม่อาจฉวยจังหวะเล่นทีเผลอได้อีกแล้ว
บัดซบ ต้องยอมอยู่นิ่งๆให้ถูกตีตราว่าผิดจริงสถานเดียวงั้นเรอะ?
——-คุณฟุรุยะคะ
“ ฮึก!? ”
——-ตอนนี้แหละค่ะ เพ่งจิตให้เฉียบคมอีกครั้งนึง
นั่นก็คือ เสียงที่เพิ่งจะได้ยินอย่างชัดเจนเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ในวันที่ปราบสาวนมหลีกลงได้นั่น
——-โอกาสมีแค่ครั้งเดียว จะทำการปลดปล่อยอำนาจของเทคโนเบรคเกอร์นะคะ
“ …..เฮ้ยๆ อย่าบอกนะว่า ”
แต่ก่อนจะทันได้ตื่นตระหนกเพราะเสียงที่ดังขึ้นมาหลังจากหายไปนานนั่น ฉันก็พลันทำการปลดกำไลของมือสองข้างออกก่อน
โซยะโพล่ง “จะจิ้มจึ๊กเดียวใส่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสินะ!?” พร้อมกับเรียกชิกิงามิออกมาเตรียมตัวอยู่หรอก แต่ไม่ใช่เลย
ทำในสิ่งตรงข้ามต่างหาก ฉันหันหลังให้กับเหล่าเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ และสิ่งที่ฉายเข้ามาอยู่ภายในการมองเห็นที่แปลงเป็นโหมดอมนุษย์นั่น—–ก็คือโพรงเสน่ห์กายิกสุขของข่ายอาคมกายภาพที่กลายเป็นเนื้อเดียวกับกระจกหน้าต่าง
“ นั่นมันคิดจะทำอะไรน่ะ!? ไม่ต้องไปสนเนตรมารฝันแล้ว! จับ! ”
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบผลักซากุระออกไป ก่อนจะพุ่งทะยานก้าวเข้ามา
แต่ปลายนิ้วของฉันมันก็ได้จิ้มกระซวกลงไปกลางโพรงเสน่ห์กายิกสุขเรียบร้อยแล้ว
พริบตานั้น ทั้งห้องที่ถูกหุ้มอยู่โดยข่ายอาคมก็พลันดิ้นหงึกหงึกประดุจเป็นทารกในท้องแม่
ปรี๊ดปรี๊ดปรี๊ดซี๊ดดดด!!!
ห้องทั้งห้อง—–ไม่สิ ข่ายอาคมกายภาพมันกำลังน้ำแตก
“ นี่มัน—–ความสามารถก่อแผ่นดินไหวที่อยู่ในรายงานหรือ!? ว๊าก!? ”
ครืนครืนครืนครืนครืนครืน!
การสั่นสะเทือนเล็กๆ การสั่นไหวที่ราวกับถูกกระทุ้งขึ้นมาจากเบื้องล่างจนตัวลอย การสั่นกระตุกอันหนักหน่วง
การสั่นไหวสารพัดรูปแบบพลันถาโถมเข้ามาใส่ห้องทั้งห้องแบบสุ่ม เล่นทำเอายืนแทบไม่ได้เลย
“ แค่สิ่งไม่มีชีวิตอย่างเดียวไม่พอ ยังจะทำให้น้ำแตกได้ไปยันข่ายอาคมเลยด้วยเรอะ….. ”
ถึงขั้นต้องพูดเลยว่านี่มันความสามารถบ้าบอคอแตกอะไรกันฟะเนี่ย…..พอฉันหยึยกับความสามารถของตัวเองอยู่ การสั่นไหวมันก็พลันสงบลง พร้อมกับที่
“ อื๋อ!? ”
โซยะแผดเสียงร้องออกมา
“ ข่ายอาคมมันบานหลวมโพรกนุ่มนิ่มไปหมดเลยนะ!? ถ้าแบบนี้ละก็ต่อให้เป็นเด็กๆพวกนี้…..ก็ทำลายได้แน่! ”
“ อย่านะ! จะฝืนทำลายข่ายอาคมกายภาพแบบนั้นไม่—– ”
เสียงคำรามของเจ้าหน้าที่ตรวจสอบส่งมาไม่ถึง ในพริบตาที่ชิกิงามิของโซยะพุ่งทะลวงทำลายข่ายอาคมกายภาพให้แหลกกระจุยไปพร้อมกับหน้าต่างที่ร้าวไปหมด—–เปรี้ยง! ก็พลันเกิดเป็นแรงกระแทกอันหนักหน่วงขึ้นมา
เหมือนว่าพวกซากุระจะกางข่ายอาคมรอดตัวไปได้ทันท่วงทีก็จริง—–แต่ฉันกับโซยะไม่มีทางจะทำอะไรแบบนั้นได้อยู่แล้วไง ก็เลยถูกแรงกระแทกเป่าลอยออกไปนอกหน้าต่างมันทั้งๆอย่างนั้นเลย
สิ่งที่รู้สึกเป็นอย่างถัดมาก็คือสัมผัสเหมือนตัวเองกำลังลอยละล่องอยู่บนฟ้า และเป็นในพริบตาที่ฉันคิดว่า “อ๊ะ ตายห่าแล้วสินะ” อยู่นั่นเอง
“ โอ๊ะ เกือบไปแล้วๆ ”
ที่ชิกิงามิของโซยะทำการรับตัวฉันกับโซยะเอาไว้ ก่อนจะพาพวกเราลงมาถึงพื้นดินด้วยท่าทางเหนื่อยหอบ
“ …..นี่เธอ เล่นเอาซะเละตุ้มเป๊ะไปหมดเลยนะนั่น ”
“ แต่ก็ไม่เท่าความสามารถของฟุรุยะคุงหรอกนะ! ทำไมข่ายอาคมกายภาพถึงมีสภาพเป็นแบบนั้นไปได้ล่ะ มีหลักการยังไงน่ะ!? ”
“ …..ฉันก็ไม่ค่อยรู้เหมือนกันแหละ ”
และแล้วพวกเราที่หลบหนีมาจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ก็แฝงตัวเข้าไปในแสงตะวันยามเย็น พุ่งทะยานตรงดิ่งไปยังฮารุงาฮาระ
…..แต่ว่าก็ว่าเหอะ
เสียงที่ได้ยินขึ้นมาอีกรอบนั่น แล้วก็พลังทำให้สิ่งไม่มีชีวิตน้ำแตกที่กลับมาใช้ได้ในจังหวะที่โคตรเหมาะเหม็ง
ถึงคาเอเดะจะเตือนเอาไว้สารพัดก็เหอะ แต่คิดยังไงก็ดูเหมือนกับว่ามันกำลังช่วยเหลือพวกเราอยู่ชัดๆเลยจริงๆนั่นแหละ
MANGA DISCUSSION