ก่อนอื่นก็พิมพ์แจ้งก่อนละกันครับ ว่านี่เป็นตอนพิเศษที่แถมมากับเล่มแรกแบบดิจิตัล
เป็น SS สั้นที่โคลาโบกันระหว่างเรื่องนี้ กับเรื่อง shimoneta to iu gainen ga sonzai shinai taikutsu na sekai น่ะ ขอเรียกสั้นๆว่าชิโมเซกะ แปะรูปเผื่อเอาไว้ด้วยแล้วกัน
เรื่องนี้น่ะ (ใช่แล้วครับ สองเรื่องนี้คนแต่งคนเดียวกัน)
ประเด็นคือ SS นี่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงหลังจากที่เนื้อหาหลักของชิโมเซกะอวสานแล้ว ฉะนั้นมีสปอยแน่นอนครับ แถมสปอยตัวตนบอสใหญ่เล่มแรกของเรื่องจิ้มจึ๊กเดียวนี่อีกด้วย ฉะนั้นเพื่ออรรถรสแล้ว ควรอ่านเนื้อหาช่วงเล่มแรกของจิ้มจึ๊กเดียวให้จบก่อนจะดีกว่าครับ
“ นี่แน่ะ! เทคโนเบรคเกอร์! ”
“ จ๊าาาาาาากกกกกกกกก!? จู่ๆทำอะไรกันครับรุ่นพี่คาโจ!? ”
หลายเดือนหลังจากที่การจับตาเพื่อระงับคำพูดต้องห้ามโดย PM สูญหายไป และมีการถกเถียงเพื่อแก้ไข <<กฎหมายอบรมเพื่อศีลธรรมอันดี>> ในสถานที่สาธารณะ
ณ หอพักสำหรับเจ้าพนักงานแผนกชี้แนะ ซึ่งถูกมอบให้กับเหล่าสมาชิกของกลุ่มผู้ก่อการร้ายมุกใต้สะดือ <<SOX>>
และตัวผมซึ่งกำลังอ่านนิยายโป๊ชื่อเรื่อง <<อย่างเธอมันต้องโดนบดเม็ดถั่วเขียวดังกรุ๊บกรุ๊บเอาให้เข็ดหลาบ!>> อยู่ในพื้นที่แบ่งปันของหอพักแห่งนั้น ก็ถูกรุ่นพี่คาโจกระแทกกระทั้นอัดการโจมตีที่ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเข้าใส่จังๆ โดนเค้าเอาปลายนิ้วจิ้มจึ๊กเข้ากลางสีข้างอย่างจัง
“ อ้าว? แปลกจริงแฮะ ทานุกิจิไม่เห็นจะน้ำแตกเลย ”
“ มันจะไปแตกได้ยังไงกัน! คิดว่าผมเป็นตัวอะไรกันครับ! ”
“ สัตว์ประหลาดหำแทนหัวที่ร่างกายทั่วร่างเป็นจุดเสียว หากไม่ได้พ่นน้ำอสุจิสิบครั้งบวกกับน้ำแตกเป็นลมเพิ่มอีกยี่สิบครั้งต่อวันก็จะไม่อาจสงบใจให้หายเสี้ยนได้! ”
“ แม่มอาการหนักกว่ายอดนักเยอีกนี่หว่า! ”
ถ้าแบบนั้นมีหวังได้ตายห่าเพราะเทคโนเบรค (น้ำหมดตัวตาย) กันพอดีสิเฮ้ย!
“ ทำเป็นพูดดีไป จริงๆแล้วฉันรู้หรอกนะทานุกิจิ ”
รุ่นพี่คาโจทำมือเป็นวงชักขึ้นชักลงไปพลาง จ้องมองมาทางนี้ด้วยดวงตาที่หรี่เล็ก
“ เธอน่ะขับขานกระหน่ำรูดไถโอโบท่อนล่าง (คำเปรียบเปรยถึงอวัยวะเพศชาย) เปิดมิวสิคเฟสติวัลแบบโซโล่เดี่ยวอยู่ในห้องพักส่วนตัวทุกวั๊นทุกวันเลยใช่มั้ยล่ะ? ตื่นเช้ามาปุ๊บก็เฟสติวัล ก่อนจะนอนก็เฟสติวัล…….เป็นศิลปินเดี่ยวตัวจริงเสียงจริงเลยนะเนี่ย! ”
“ ยะ อย่าปรักปรำมั่วเซ่! ”
“ ปลุกปล้ำมั่วเซ็กส์? จู่ๆก็ชวนพูดเรื่องสวิงกิ้งหมู่เฉยเลย….เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย เธอจัดโซโล่เฟสติวัลชักทั้งวันบ่อยจัดจนสติแตกบ้าไปแล้วสินะ…… ”
“ ที่บ้าสติแตกมันคือหล่อนต่างหากว้อย! ”
แต่เอ้อ เอาเป็นว่าทักทายกันแค่นี้ก็คงจะพอ (บทสนทนาเบื้องต้นนั้นสำหรับผมและรุ่นพี่คาโจแล้วมันก็มีความหมายราวๆ [สวัสดีค่ะ] [วันนี้ท่าจะเป็นวันที่ดีนะครับ] นั่นแหละ)
“ แล้ว วันนี้ไปอินได้อิทธิพลมาจากอะไรอีกล่ะครับ? ”
พอถามไปพลางเอามือลูบจุดที่โดนจิ้ม รุ่นพี่คาโจก็ปั้นสีหน้าที่สุดแสนจะภาคภูมิใจขึ้นมา
“ นี่ไงล่ะ! ฉันเจอหนังสือที่สุดจะยอดเยี่ยมเข้าให้แล้วล่ะ! ”
ที่อยู่ในมือนั่นก็คือหนังสือไซส์บุนโกะหนึ่งเล่มที่เก่าจนกระดาษเหลืองไปพอสมควร
“ ลองเสนอเจ้านี่ เป็นหนังสือเล่มแรกของแผนทดสอบการคลายสื่อบันเทิงลามกกันดูเถอะ! ”
ตอนนี้พวกเราชาว <<SOX>> กำลังได้รับคำร้องไหว้วานอย่างนึงอยู่จากแผนกชี้แนะแหละ
นั่นก็คือการคัดสรรสื่อบันเทิงลามกของอดีต ที่จะถูกปลดปล่อยเผยแพร่สู่ปวงคนอีกครั้งตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป
เพื่อทุเลาความไม่พึงพอใจต่อประเทศที่กล้าดำเนินนโยบายแบ่งแยกผู้คน ที่มีฐานอยู่เหนือโกหกคำโตอย่าง <<โรคทำให้ก่อเหตุอนาจารอย่างโจ่งแจ้ง>> , เพื่อสรรหาทรัพยากรในการยาใจเหล่าผู้คนที่ตกเป็นเป้าของการแบ่งแยก และที่สำคัญที่สุด เพื่อตอบสนองต่อเสียงเรียกร้องของผู้คนมากมายที่ถวิลหาต้องการเอโร…..ปัจจัยมากมายหลากหลายเหล่านั้น ทำให้ทางการตัดสินใจที่จะค่อยๆปล่อยเหล่าสื่อลามกที่ถูกเก็บซ่อนอยู่ภายในหอสมุดรัฐสภาใต้ดิน ให้ออกมาสู่มือประชาชนแบบเป็นล็อตๆไป
แต่ก็นะ ในเมื่อสภาวะปัจจุบันมันยังไม่มีวี่แววว่าการถกเถียงในหัวข้อ [ทำยังไงกับการสั่งสอนเรื่องเพศศึกษาดี] จะจบลงโดยได้ผลลัพธ์อันเป็นเอกฉันท์เลยแบบนี้แล้ว จะให้ปลดล็อกเผยแพร่สื่อลามกไปโดยมั่วๆมันก็ไม่ได้ ถึงอย่างนั้นก็มีคนที่สามารถตัดสินว่าสื่อไหนดีสื่อไหนไม่ควรได้อยู่น้อย เพราะฉะนั้นงานก็เลยถูกเวียนส่งมาให้พวกผมที่ว๊างว่าง วันๆเอาแต่พ่นมุกใต้สะดืออัดใส่กันอยู่เรื่อยแบบนี้แหละ…..
แต่พอได้เห็นหนังสือไซส์บุนโกะปกฟ้าที่รุ่นพี่คาโจชูขึ้นมาแล้ว ผมก็ทำการให้ข้อสรุปในฉับพลัน
“ รุ่นพี่คาโจ หนังสือเล่มนั้นไม่ผ่านอะครับ นั่นมันนิยายโป๊ดีๆนี่เองไม่ใช่เหรอครับ ”
ชื่อเรื่องก็คือ [ไล่ผีแบบเจอะปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!]
หน้าปกเป็นภาพวาดของเด็กผู้หญิงที่เปิดเสื้อบริเวณร่องอกและมีหัวใจลอยโผล่ขึ้นมาในดวงตา สภาพนี่คือหยั่งกับกำลังให้ท่าขอร้องอ้อนวอนช่วยปล้ำหนูทีเถ้อเลยทีเดียว ต่อให้เป็นในยุคที่ยอมผ่อนปรนให้เอโร แต่หนังสือเล่มนี้มันก็จะต้องถูกจัดประเภทอยู่ในหมวด “18+” แน่นอนเลยผมมั่นใจ
“ จิ๊จิ๊จิ๊ คิดเหรอว่าฉันจะพลาดท่าเอาแบบนั้นน่ะ? ให้ว่าแล้วฉันไม่มีกระเจี๊ยวให้เอาได้ด้วยซ้ำนะ! ”
รุ่นพี่คาโจยืดอกอย่างมั่นหน้า
ถึงไม่มีกระเจี๊ยวแต่มันก็ยังเอาได้เหมือนกันนา ใช้ดิลโด้ติดสายรัดไรแบบนี้ไง
“ ฟังดีๆนะทานุกิจิ…. [ไล่ผีแบบเจอะปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!] เล่มนี้ มันเป็นนิยายที่เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยล่ะ! ”
“ หา? มันจะไปเป็นงั้นได้……เฮ้ย!? จริงหรอกเหรอ!? ”
ลองเอาไปเทียบกับเอกสารสำนักพิมพ์ นิตยสารมังงะ และข้อมูลในเครือจากอดีต ที่แผนกชี้แนะมอบมาให้ไว้
“ ไอ้เจ้านี่มันถูกวางเรียงขายอยู่ในร้านหนังสือแบบไม่มีจำกัดวัยจริงๆเรอะครับ!? ”
“ ต่างกับยุคของเราหยั่งกับคนละโลกเลยเนอะ! ช่างเป็นยุคสมัยที่ยอดเยี่ยมเหลือเกิน! ”
“ เพราะทำแบบนี้แหละมั้งเค้าถึงได้ออกระเบียบข้อบังคับแบนเรื่องลามกขึ้นมาอะ! ”
เอ้อแต่ถ้าพูดแบบนั้นมันก็จะกลายเป็นตรรกะแบบฝั่งที่ถูกกลั่นแกล้งก็มีส่วนผิดเหมือนกันงั้นสินะ
แต่ถึงยังไงก็เถอะ เจ้านี่ก็เป็นถึงหนังสือสำหรับผู้อ่านทุกวัยเลย ไม่แน่แล้วที่ล่อแหลมนี่อาจมีแค่ปกอย่างเดียว เนื้อในอาจจะสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยมผิดคาดเลยก็ได้นะ
เห็นว่าเค้ามักจะใช้กลยุทธิ์สร้างบรรยากาศแบบทะลึ่งเล็กๆเพื่อดึงดูดสายตาหวังเพิ่มยอดขายด้วยนี่นะ…..
แถมจะปฎิเสธตัวเล่มตั้งแต่ยังไม่ทันได้อ่านเนื้อในนี่มันก็ไม่ควรด้วย…….ไอ้ผมก็เลยหยิบมาอ่านตามที่ถูกเค้าแนะนำ
หยิบมาอ่านแล้วเท่านั้นแหละ……..
“ เอิ่ม รุ่นพี่คาโจครับ? มันมีภาพประกอบตอนตัวเอกเรื่องกำลังจิ้มหัวนมเด็กผู้หญิงอยู่ด้วยนะครับ? ”
“ เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยล่ะ! ”
“ แถมเพราะจิ้มอยู่จากข้างหลังแม่มก็เลยได้กลิ่นอาชญากรรมฉึ่งสุดๆไปเลยอีกตะหากนะครับ! ”
“ เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยล่ะ! ”
“ คนเขียนมันโพล่ง [เขียนเรื่องนี้ขึ้นมาเพราะคิดว่าสีหน้าที่จะทำให้เด็กผู้หญิงส่องประกายเจิดจ้าที่สุดก็คืออาเฮะเกา] อยู่ในคุยท้ายเล่มด้วยนะครับ!? ”
“ บอกว่าเหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยก็เป็นเหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยสิ! ”
“ แถมที่ยิ่งแล้วใหญ่เลยก็คือตัวเอกเรื่องแม่มมีความสามารถ [ทำให้เป้าหมายที่ถูกจิ้มน้ำแตกถึงจุดสุดยอดโดยไม่อาจต้าน] เลยเชียวนะคร้าบบบ!? ”
“ ต่อให้คิดยังไงก็เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยชัดๆเล้ย!!!! ”
ต่อให้คิดยังไงก็ไม่เหมาะสำหรับผู้อ่านทุกวัยชัดๆว้อย!
ตอนท้ายสุดนี่มีตัวละครหญิงพ่นน้ำไหลหลากเลยเชียวนะเฟ้ย!?
ถ้าไม่ได้หักมุมแบบตัวละครหญิงแท้จริงแล้วไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นปลาวาฬอะไรแบบนั้นละก็ไม่ไหวหรอกนะไอ้เนี่ย!
ญี่ปุ่นในสมัยก่อนมันยังไงกันน่ะ…….เกินเลยระดับของสังคมง่ายๆสบายๆไปไกลแล้วนะ……..
“ อย่างน้อยๆก็เสนอให้เป็นหนังสือเล่มแรกหลังคลายล็อกไม่ได้หรอกนะครับ ”
“ ขุ่ก ถ้าฉันเป็นผู้ใช้เทคโนเบรคเกอร์แล้วละก็คงจะทำให้ทานุกิจิน้ำกามไหลซ่านหมดฤทธิ์หมดเดชกลายมาเป็นพวกได้แล้วแท้ๆ……. ”
รุ่นพี่คาโจทำมือเป็นทรงกลมประดุจดั่งอวัยวะเพศหญิงแล้วจิ้มๆใส่หลังผมอย่างเคียดแค้น ได้อิทธิพลมามากพอดูแฮะ……
“ ……..เอ้อ ถ้าพูดถึงขนาดนั้นงั้นลองถามความเห็นจากสมาชิกคนอื่นดูบ้างมั้ยละครับ? อย่างคุณฟุวะหรือแอนนี่น่ะ ”
“ อุหวาย ทานุกิจิกลายเป็นไอ้เลวลวนลามทางเพศที่แนะนำนิยายโป๊ให้เด็กผู้หญิงอ่านแล้วเหรอเนี่ย…… ”
“ ก็รู้ตัวนี่หว่าเฮ้ยว่าถ้าแนะนำหนังสือห่านี่แล้วจะถือว่าเป็นลวนลามทางเพศอะ! ”
เป็นในฉับพลันที่แว้ดอัดใส่กันอยู่แบบนั้นเอง
“ จีบพลอดรักกันอยู่ได้เว้ยเฮ้ย ”
ที่ยูโตริซึ่งทำการเลือกสื่อบันเทิงที่จะแนะนำอยู่ในห้องอื่นพลันก้าวเท้าเข้ามาในพื้นที่แบ่งปัน
ผมหางม้าสั้นกับเกราะนมที่ไม่ค่อยมีโค้งนูน แม้จะอยู่ในหอเจ้าหน้าที่ซึ่งไม่ค่อยได้มีโอกาสออกไปข้างนอกมากแต่ก็เหมือนจะออกกำลังกายฟิตร่างอยู่ทุกวัน ผิวสีออกแทนนิดๆนั่นก็เลยดูแข็งแรงปึ๊งปั๊ง
“ มะ ไม่ได้จีบพลอดรักกันอยู่ซะหน่อยนะ! ”
ผมโต้แย้งใส่ยูโตริที่จ้องอัดใส่กันด้วยแววตาไม่เชื่อ ส่วนรุ่นพี่คาโจนี่เหมือนว่าจะไม่ได้ยินคำพูดหยอกล้อของยุโตริละมั้ง คุณหล่อนจึง
“ ช่วยฟังทีสิยูโตริ! ทานุกิจิไม่ยอมเสนอหนังสือเล่มนี้ล่ะ! ”
แจ้นเข้าไปฟ้องยูโตริโดยที่ถือ [ไล่ผีแบบเจอะปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!] อยู่ด้วยมือข้างนึง
“ อ๋า? มันอะไรกันน่ะไอ้หนังสือสติแตกนี่ ไม่มีทางเสนอได้แหงอยู่แล้วเว้ยเฮ้ย ”
“ เธอเป็นแผนกชี้แนะสมัยก่อนรึไงถึงได้ตัดสินโดยไม่ได้อ่านเนื้อในซะก่อนน่ะ! ลองอ่านดูซักรอบนึงก่อนเถอะ มีเด็กผู้หญิงที่หน้าตารูปร่างเหมือนยูโตริเปี๊ยบได้ออกโรงเฉิดฉายอย่างยิ่งใหญ่เลยนะ รับรองว่าจะต้องอินตามไปด้วยแน่ๆเลยล่ะ! ”
อ๊ะ
เป็นตรงนี้เอง ที่ผมนึกรายละเอียดของตัวละครศัตรูที่โผล่มาในเรื่องได้
เด็กผู้หญิงที่ยึดติดคิดมากอยู่กับปมนมเล็กจนกลายเป็นไคอิที่ลอบทำร้ายผู้คน…..ตัวละครที่ชวนให้สงสัยว่าไอ้คนแต่งมันเมากาวรึเปล่านั่น
“ เดี๋ยวก่อนครับรุ่นพี่คาโจ! จะให้ยูโตริอ่านไม่ได้นะ! หนังสือเล่มนั้นมันไม่ดีต่อยูโตริครับ! ”
รุ่นพี่คาโจมัวแต่มุ่งมั่นติดลมอยู่กับการเผยแพร่หนังสือเล่มโปรดก็เลยไม่ทันสังเกต แต่สำหรับยูโตริแล้วการยื่นหนังสือเล่มนั้นให้มันคือการกวนปราสาทยั๊วะโมโหดีๆนี่เอง ผมที่คิดเช่นนั้นรีบแหวกเข้ามาหยุดทันที ทว่า
“ อ๋า? ที่ว่าฉันอ่านไม่ได้นั่นมันยังไงกันวะ ”
ดูเหมือนจะทำให้ยิ่งอยากรู้หนักเข้าไปอีกซะงั้น ยูโตริก็เลยอ่านแบบพลิกหน้ากระดาษรัวๆ
หลายนาทีให้หลัง
“ กวนตีนกันเหรอวะ! ”
ยูโตริพลันเขวี้ยง [ไล่ผีแบบเจอะปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!] กระแทกพื้น เอ้อก็แหงแหละเนาะ
“ อ๊าาา!? ทำอะไรของเธอน่ะยูโตริ! ปกหลุดแถมหน้ากระดาษยังหงิกงอเบี้ยวไปหมด……เละเทะหยั่งกับว่าเป็นเด็กผู้หญิงที่โดนจัดหนักจัดเต็มชุดใหญ่จนเดี้ยงหมดสภาพฟ้าเหลืองเลยไม่ใช่เหรอเนี่ย! ”
รุ่นพี่คาโจอุ้มหนังสือไซส์บุนโกะกลับขึ้นมาด้วยใบหน้าที่น้ำตานอง
เอิ่มแต่เมื่อกี้นี้คือรุ่นพี่คาโจผิดเต็มๆเลยนะ……. แล้วก็คนแต่งเรื่องนี้คงสมองผิดปกติด้วย
“ บังอาจมาล้อกันได้……ต่อให้เป็นฉันก็เหอะนะ แต่ถ้าท้องลูกของทานุกิจิซะก็จะกลายเป็นคนนมใหญ่ได้ในทันทีแล้วเว้ยเฮ้ย…….คอยดูเถอะเว้ยเฮ้ย…….. ”
“ ………. ”
ยูโตริที่ดวงตาลุกโชนไปด้วยความโกรธเกรี้ยวโดยสมบูรณ์พลันโพล่งอะไรที่โคตรจะน่าหวาดหวั่นขวัญผวาออกมา
ยูโตริกำลังรวมหัวกับพวกแอนนี่ คุณมิซึกุเมะ แล้วก็รุ่นพี่แอนนาช่วยกันขบคิดหาทางวางแผนที่จะแอบยัดกฎหมายให้ผัวมีเมียหลายคนได้อยู่…….ฉะนั้นตัวผมที่มีใจให้กับรุ่นพี่คาโจเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้นจึงกำลังกลุ้มหนักเลยเนี่ย
“ อะ เอิ่ม…ถ้างั้นผมจะไปเรียกแอนนี่กับคุณฟุวะมานะครับ? ไม่แน่พวกเค้าอาจจะช่วยเสนอหนังสือนั่นให้ก็ได้นี่นะ ”
เป็นในฉับพลันที่ผมเดินฉับๆจะก้าวออกไปนอกพื้นที่แบ่งปัน เพื่อหลบหนีจากแรงกดดันที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากยูโตรินั่นเอง
ที่บานประตูตรงหน้าพลันเปิดออกโดยไม่ให้ตั้งตัว
มือของผมที่ถูกยืดไปจะเปิดประตูจึงวืดพลาดเป้า
“ คุณอายาเมะ เกี่ยวกับเรื่องการคลายล็อกสื่อบันเทิงน่ะ หากเป็นสิ่งที่มีภาพหรือฉากบรรยายล่อแหลมนี่เห็นสมควรว่าต้องรอไปจนกว่าระบบการสั่งสอนเพศศึกษาจะลงตัวก่อนนั่นล่ะจึงจะสามารถอ๊างงงงงงงงงงงงงงง!?!?!?!? ”
ฉับพลันที่รู้สึกเหมือนกับว่าแตะต้องโดนอะไรที่โคตรจะนุ่มหนึบติดมือนั่นเอง
รุ่นพี่แอนนาที่ปรากฎขึ้นมาอยู่ต่อหน้าก็พลันสั่นกระตุกพลางร้องครวญครางอย่างเสียวซ่าน เอามือกดบริเวณระหว่างขาก่อนจะล้มฟุบลงกับที่
………………………เอ๊ะ?
“ โอะ โอคุมะคุง…..ยะ แย่ที่สุดเลยค่ะ…..ดะ ได้รับทราบเรียนรู้มาแล้วว่าการเข้าไปปลุกปล้ำขืนใจมันไม่ใช่สิ่งที่สมควร ดิฉันก็เลยต้องฝืนกลั้นอดทนอย่างมากเลยแท้ๆ……แต่ดันเล่นทีเผลอใส่กันแบบนี้……ทะ ทำให้สวิตซ์ของดิฉันเดินเข้าเสียได้…….! ”
“ อะ เอิ่มคือผมไม่ได้ตั้งใจนะ……..ขอโทษครับรุ่นพี่แอนนา! ”
ผมที่เพิ่งจะรู้สึกตัวว่าเผลอเอานิ้วจิ้มไปโดนหัวนมของรุ่นพี่แอนนาเข้า รีบทำการขอขมาสุดชีวิตทันที ทว่า
“ มะ ไม่เป็นไรค่ะ เป็นอุบัติเหตุนี่นะ ดะ ดิฉันเองก็เติบโตขึ้นมาแล้ว จะไม่ยอมคลั่งสติแตกเพราะอะไรแค่นี้หรอก……ไม่ทำอะไรพิเรนทร์ๆเช่นนั้นเด็ดขาด……อึ้ก! ”
รุ่นพี่แอนนาว่าแบบนั้นไปพลาง เดินด้วยฝีเท้าโซซัดโซเซหายไปไหนก็ไม่รู้ โดยทิ้งหยดน้ำปริศนาเอาไว้ราวแฮนเซลกับเกรเทลเลยก็ไม่ปาน……..
“ อ๊าง ฮิ๊ง โอคุมะคุง….! โอคุมะคู้งงง…..! ”
แล้วพอคิดว่าในที่สุดก็ได้ยินเสียงร้องอย่างเสียวซ่านดังอุดอู้ขึ้นมาจากจุดที่อยู่ห่างไกลออกไป เวลาที่หยุดนิ่งเอาไว้มันก็พลันกลับมาเดิน
“ ทุกคนฟังให้ดีๆเว้ยเฮ้ยยยยยยย! ในที่สุดทานุกิจิมันก็ลงไม้ลงมือกับหญิงอื่นนอกเหนือจากอายาเมะแล้วเว้ยเฮ้ย! ”
ยูโตริวิ่งออกไปพร้อมตะโกนอะไรที่สุดจะเกินบรรยายเฉยเลยนั่น
ยัยนมแบนแต๊ดแต๋นั่นคิดอะไรอยู่น่ะ!
“ เอ้ย เฟคนิวส์! เฟคนิวส์ระดับเดียวกับ <<โรคทำให้ก่อเหตุอนาจารอย่างโจ่งแจ้ง>> มันกำลังแพร่สะพัดไปแล้ว! ”
ต้องรีบหยุดยูโตริให้ได้โดยด่วน! ผมคิดพลางหันขวับกลับไปหารุ่นพี่คาโจ ทว่า
“ อะ….อะหวาหวาหวา ”
รุ่นพี่คาโจเค้ามองมือผมแล้วหน้าแดงใหญ่เฉย เอ๊ะ? ไหงงั้นล่ะ?
“ มะ ไม่อยากเชื่อเลย นี่ทานุกิจิเป็นผู้ใช้เทคโนเบรคเกอร์หรอกเหรอ…… ”
สับสนมากจัดจนเอาเรื่องจริงกับเรื่องแต่งมาปนกันมั่วแล้วเรอะ!?
“ เอ้ย เดี๋ยวก่อนสิครับรุ่นพี่คาโจ! นั่นมันไม่ใช่ฝีมือผม แต่เป็นเพราะรุ่นพี่แอนนาเค้าอ่อนไหวเกินเหตุไปต่าง—– ”
พอจะยืดมือออกไปเพื่อคลายความเข้าใจผิดเท่านั้นแหละ
รุ่นพี่คาโจเองก็วิ่งเผ่นแน่บไปไหนไม่รู้ราวกับหนีจากมือของผมอีก โคตรปวดใจ!
และราวกับว่าสลับตำแหน่งกับรุ่นพี่คาโจ
“ ในที่สุดทานุกิจิก็ตบะแตกแล้วฤาค๊าา!? ”
“ ปลดล็อกปาร์ตี้เซ็กส์หมู่แล้วหรือ!? ต้องไปซื้อเครื่องเขียนพู่กันมาใหม่แล้วสิเน่อ! ”
“ ต่อให้จะใจแข็งอย่างไรแต่คุณโอคุมะก็เป็นเพียงเครื่องขับขี่ที่มียีน เป็นเพียงตัวผู้ตัวหนึ่งเท่านั้นสินะคะ ”
เหล่าสมาชิกของ <<SOX>> ที่ได้ยินเฟคนิวส์ของยูโตริ กับเสียงร้องอย่างเสียวซ่านของรุ่นพี่แอนนากำลังมุ่งหน้าดิ่งเข้ามาตรงนี้กันใหญ่แล้ว!
ในเมื่อรุ่นพี่คาโจเผ่นแน่บไปแล้ว ผมก็จำเป็นต้องคลายความเข้าใจผิดของเหล่าแก๊งที่คิดจะดันกฎหมายผัวหนึ่งเมียเยอะให้ได้ด้วยตัวคนเดียวเท่านั้น ธ่อว้อยช่วยปรานีกันทีเถอะ!
……..สุดท้ายแล้วหลังจากนั้น แผนเสนอ [ไล่ผีแบบเจอะปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์!] ก็ถูกปัดร่วงด้วยประโยคคำพูด ““อย่ามาล้อเล่นนะ ปั๊ดฆ่าทิ้งซะหรอก”” เพียงสองวรรคของคุณแม่ผมกับคุณโซเฟีย แหงอยู่แล้วเนอะ
กล่าวคือสังคมที่ยอมรับผ่อนปรนเอโรแบบในสมัยก่อนมันยังช่างห่างไกลนั่นเอง
แต่ก็นะ
มันก็ยังยุ่งยากชวนปวดหัวไม่ต่างจากในสมัยที่ก่อเหตุร้ายใต้สะดือจริงอยู่หรอก แต่สัมผัสที่รู้สึกได้ว่าอะไรๆกำลังค่อยๆพัฒนามุ่งไปข้างหน้านี่มันก็ไม่เลวเลยเหมือนกัน…..เป็นวันๆที่ทำให้คิดแบบนั้นละนะ
MANGA DISCUSSION