“ อะ ไรน่ะ…..? ”
ที่ก้องดังกังวานอยู่ภายในหัว ก็คือเสียงของเด็กผู้หญิงที่คลับคล้ายคลับคลาเหมือนว่าเคยได้ยินที่ไหน
จริงสิ เสียงนี่ถ้าจำไม่ผิด…..มันคือเสียงที่เรียกหาฉันในร้านขายของเก่า…..และในตอนนี้ก็กลายเป็นเสียงที่น่าจะได้ยินเฉพาะภายในฝันเท่านั้น
เสียงที่เคยแผ่วเบาระดับที่พอลืมตาตื่นขึ้นแล้วไม่อาจนึกออกได้เลยด้วยซ้ำว่าพูดอะไรนั่น มันกำลังกล่าวกับฉันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่ในตอนนี้
“ เธอเป็น ใครกันน่ะ ”
แม้จะลองถามกลับไปแต่ก็ไม่มีการตอบรับ สัมผัสที่ราวกับมีเสียงดังก้องขึ้นโดยตรงอยู่ภายในหัวมันเลือนหายไปราวกับภาพมายา กลับกันแล้วสิ่งที่ดังเข้ามาในหูฉันแทนที่ก็คือเสียงกรีดร้องของโซยะ
“ กรี๊ดดดดดดดดดด! ม่ายยน้าาาา! ขอโทษค่าาาาาาาาาาาา! ”
พอได้สติกลับมาปุ๊บ ก็พบว่าโซยะนั้นใกล้จะถูกสาวกระชากฉีกนมมันไล่ทันเต็มทีแล้ว
“ บัดซบ ถึงจะบอกเพ่งจิตให้เฉียบคมก็เหอะ แต่มันต้องทำแบบไหนยังไงทำไมไม่บอกมาให้ละเอียดๆฟะ! ”
ให้ว่าแล้วมันอิหยังวะไอ้พลังที่จะทำให้ทุกสรรพสิ่งของโลกถึงจุดสุดยอดนั่น! กวนส้นตีนกันเรอะเฮ้ย!?
ฉุดร่างกายที่เจ็บแสบไปข้างหน้าพลางจับจ้องมองพื้นที่อันว่างเปล่า และเป็นในฉับพลันที่ฉันตวาดด่าใส่เสียงประหลาดที่ดังกังวานขึ้นอยู่ภายในหัวนั่นเอง
พลันเกิดความแปลกประหลาดอันหนักหน่วงขึ้นมาภายในการมองเห็น
โพรงเสน่ห์กายิกสุข
นั่นคือนามของจุดส่องแสงที่จิ้มจึ๊กเดียวน้ำไหลหลาก ที่จะมีปรากฎขึ้นมาอยู่เหนือร่างวิญญาณหรือกายหยาบของมนุษย์ หากใช้มือของฉันจิ้มจึ๊กลงไปยังจุดนั้นซะ ก็จะทำให้เป้าหมายน้ำแตกถึงจุดสุดยอดได้มันตรงนั้นเลย
ดวงตาของฉันที่ปลดผนึกของมือสองข้างออก ไม่ได้เห็นเพียงหัวนมของสาวกระชากฉีกนมเพียงอย่างเดียว แต่มองเห็นโพรงเสน่ห์กายิกสุขนี้อยู่ทั่วไปหมดเลย ไม่ว่าจะเหนือร่างกายของคาราสึมะ หรือร่างกายของเหล่าผู้ปราบมารมืออาชีพที่กำลังประคองศาสตร์เหนี่ยวรั้งอยู่ก็ตาม เห็นอยู่ตลอดเวลาเลยเชียวล่ะ ไอ้จุดสุดทะเล้นที่ส่องประกายแสงอยู่ท่ามกลางความมืดสลัวนั่นน่ะ
และจำนวนของโพรงเสน่ห์กายิกสุขนั่นก็เพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็วมหาศาล ประกายแสงแห่งใหม่มัน กำเนิดเผยโฉมขึ้นมาเหนือทิวทัศน์ที่แล่นฉายเข้ามาในดวงตาอย่างต่อเนื่องไม่ยอมหยุด
ต้นไม้ที่งอกเงยล้อมอยู่ทั่วลานโล่ง ลูกบอลที่เหมือนว่าจะเป็นของที่ถูกคนลืมเอาไว้ แล้วก็ผืนดินเบื้องล่าง
ไม่ใช่ทั้งมนุษย์หรือร่างวิญญาณ แต่เป็นวัตถุ พลันมีโพรงเสน่ห์กายิกสุขปรากฎขึ้นมาอยู่เหนือตรงจุดไหนซักแห่งของวัตถุสิ่งของมากมายสารพัดอย่าง
“ มัน บ้าอะไรกันเนี่ย…… ”
ฉันจ้องมองอย่างอึ้งตะลึงงัน ลงมายังโพรงเสน่ห์กายิกสุขบริเวณเท้าที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด
แสงใต้เท้าที่ส่องประกายเจิดจ้ารุนแรงมากยิ่งกว่าโพรงเสน่ห์กายิกสุขอื่นๆเท่าตัวนึงนั่น มันใหญ่โตราวกับแสดงให้เห็นถึงจุดของผืนพสุธาเลยก็มิปาน อย่าบอกนะว่า……ไม่ดิมันจะเป็นไปได้จริงเรอะ? เรื่องที่สุดจะบ้าบอพรรค์นั้น
“ ม่ายยยยยยน้าาาาาาา! ”
แต่ก็ไม่ใช่เวลาจะมาลังเลหรือสับสนงุนงงอยู่แล้ว
เพื่อนพ้องกำลังจะพลาดท่าให้ไคอิอยู่นะเว้ย นางุโมะที่ถูกไคอิกลืนกินกำลังจะพลั้งมือก่อความเสียหายระดับที่ไม่อาจทวงกลับได้อยู่นะเว้ย ถ้าอย่างนั้น
“ ก็ต้องเดิมพันกับไอ้นี่สถานเดียวแล้ว! ”
ฉันตั้งนิ้วกลางกับนิ้วนางให้ชูชันด้วยความรู้สึกที่ราวๆกล่าวภาวนาขอร้องกับพระเจ้า แล้วจึงจิ้มนิ้วกระซวกลงไปยังแสงสว่างใต้เท้า
——ครืนครืนครืน
ที่สัมผัสได้ในตอนแรกสุด ก็คือการสั่นไหวเล็กๆ
และที่มาเยือนเป็นสิ่งถัดมา ก็คือแรงสั่นสะเทือนแนวระนาบอันหนักหน่วงระดับที่ยืนไม่อยู่
“ อะ อะไรอี๊กกก!? ”
“ ทุกคนก้มตัวลงนิ่งๆไว้! ระวังอย่าให้ศาสตร์วิชารวนเด็ดขาดนะ! ”
เนื่องจากเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกะทันหันมาก ก็เลยมีเสียงแผดร้องดังลั่นมาจากวงผู้ปราบมารด้วย และที่ไล่ตามมาติดๆก็คือเสียงสะเทือนเลือนลั่นที่ระเบิดสนั่นดัง เปรี้ยง! คึ่กคึ่กคึ่กคึ่กคึ่ก! อยู่ใต้เท้าราวกับสายฟ้าคำราม
ผืนดินพลันแยกแหวกออกจากกันแบบจริงๆเลยไม่ได้อุปมาอุปไมย พร้อมกับที่มีอะไรคล้ายๆกับน้ำใต้ดินพวยพุ่งออกมาดังซ่าาาา!
ผืนพสุธา กำลังน้ำแตก……!?
ใช้สมองที่งงเป็นไก่ตาแตกคิดอะไรเช่นนั้น
และในท้ายที่สุดการสั่นสะเทือนก็สงบลง ลานโล่งเงียบกริบไปหมดอย่างประหลาด
“ ทุกคนปลอดภัยรึเปล่า!? โซยะล่ะ!? ”
ฉันลุกขึ้นยืนก่อนจะกวาดตามองไปรอบบริเวณ
การสั่นสะเทือนตะกี้มันรุนแรงระดับที่คนธรรมดาไม่มีทางยืนอยู่ได้ก็จริงหรอก แต่ถ้าเป็นสาวกระชากฉีกนมที่แม้จะโดนอัดด้วยศาสตร์เหนี่ยวรั้งเข้าไปแต่ก็ยังสำแดงสมรรถภาพร่างกายที่ไม่ธรรมดาซักนิดให้เห็นได้นั่นละก็ไม่แน่
“ ……….ห้ะ? ”
และที่แล่นเข้ามาในดวงตาของฉันซึ่งกำลังหันมองไปรอบพลางภาวนาขอให้โซยะปลอดภัย—–ก็คือภาพที่เหนือล้ำเกินความคาดหมายไปอย่างมาก
“ ขุ่….กิกิ ”
ข้างๆโซยะที่ล้มกองลงกับพื้น มีสาวกระชากฉีกนม….กำลังถูกธรณีหนีบตั้งแต่บริเวณหน้าอกลงไป ปากข้างนั้นกำลังปลดปล่อยส่งเสียงอย่างเจ็บใจ ขยับร่างกายก็แทบจะไม่ได้
“ โกหกใช่มั้ยเฮ้ย….. ”
ฉันพึมพำอย่างตื่นตระหนกพลางก้มลงมามองสองมือของตัวเอง
แค่ก่อแผ่นดินไหวก็บ้าบอมากพอแล้ว นี่ยังมีความบังเอิญแบบนั้นอีก…….ถามจริงเลยไอ้มือนี่มันคืออะไรกันแน่น่ะ
“ ฟุรุยะคุง! ตอนนี้แหละนะ! ”
เสียงของโซยะที่ลอยมาเข้าหูทำให้ฉันเงยหน้าขึ้น
ไม่รู้ว่าเข่าอ่อนหมดแรงหรือไง โซยะก็เลยกวักมือเรียกทั้งๆที่ล้มก้นจ้ำเบ้าอยู่อย่างนั้น
“ มองเห็นหน้าอกได้ชัดเจนเลย! ใช้จังหวะนี้แหละจิ้มจากข้างหลัง…..ฮิ๊! ”
สาวกระชากฉีกนมกดนิ้วฝังเข้าไปในผืนดิน ใช้แรงสัตว์ประหลาดที่ยังคงอยู่ดีดิ้นรนพยายามจะเอาตัวให้หลุดพ้นออกจากแผ่นดินแยก….ครืด ครืด…ร่างกายอันแบนราบนั่นค่อยๆเลื้อยกลับขึ้นมาจากแผ่นดินแยกได้ทีละนิดๆ หนำซ้ำยังยืดมือเข้าใส่โซยะด้วยจิตมุ่งมั่นที่รัดพันประดุจดั่งอสรพิษ ยัยนางุโมะมันจะรั้นไปได้ถึงไหนเชียววะน่ะ!
“ โซยะ! ถ้าจะหนีก็รีบหนีมาทางนี้เร็วเข้า! ”
“ ตะ แต่เท้ามันแพลงตอนที่เกือบจะโดนจับเมื่อกี้…..เอวก็เดี้ยงไปแล้วด้วย ”
ฉันวิ่งพลางคำรามสุดเสียง แต่ดูท่าแล้วโซยะจะขยับไม่ได้จริงๆ ถ้างั้นฉันก็ต้องวิ่งไปให้ถึงโดยไวอย่างเดียวหรอก แต่……บัดซบ ห่างกันแบบนี้ไม่มีทางไปถึงได้ทันเวลาเลย! เป็นในฉับพลันที่เริ่มคิดว่าพอจะมีวิธีใดใช้ถ่วงเวลาได้บ้างไหมอยู่นั่นเอง
“ หึฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
ที่จู่ๆไอ้เจ้าคาราสึมะก็โผล่ขึ้นมาอยู่ข้างๆโซยะเฉย
ห้ะ? ไอ้เจ้านั่นมันแว๊บไปอยู่ตรงนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่!? ลืมว่ามีมันอยู่ด้วยไปโดยสมบูรณ์เลยนะนั่น
“ เอ๊ะ? อาโอยจัง!? มาไงน่ะ? ”
“ ก็ไม่ใช่อะไรหรอก! พอดีจุดที่อยู่เมื่อครู่มันมองใบหน้าของแม่หนูมุตสึมิที่ถูกแผ่นดินหนีบได้ไม่ค่อยชัดน่ะนะ จึงวิ่งตรงดิ่งเข้ามาสุดกำลังเลยอย่างไรล่ะ! ”
คาราสึมะที่รักษาสภาวะประสานอินใช้ศาสตร์เหนี่ยวรั้ง ทำการเหล่มองฉันกับสาวกระชากฉีกนมราวกับเป็นการตรวจสอบสถานการณ์
“ ฮื่ม เท่านี้ก็เหลือเพียงแค่ถ่วงเวลาเอาไว้ไม่ให้แม่หนูมุตสึมิคลานกลับขึ้นมาได้เท่านั้นหรือ ถ้าเช่นนั้น….แม่หนูมิซากิ! ”
“ ฟุเอ๊? ”
พอคาราสึมะประเมินสถานการณ์ได้อย่างแม่นยำปุ๊บ มันก็ปั้นรอยยิ้มสุดจะวิปริตก่อนจะกระซิบอะไรบางอย่างเข้าไปในหูของโซยะ
“ ……….เอ๊ะ!? พูดอะไรแบบนั้นนี่จะดีจริงๆน่ะเหรอ!? ”
“ แน่นอนสิ! หากแม่หนูมิซากิเป็นคนพูดละก็จะต้องได้ผลลัพธ์เพิ่มเป็นร้อยเท่าเลยเชียว! เอ้า กล่าวออกไปอย่างอกผายไหล่ผึ่งชัดถ้อยชัดคำเลยเป็นไร! ”
“ ~~ ”
โซยะทำท่าลังเลอยู่ชั่วขณะก็จริง แต่พอถูกคาราสึมะพูด “เอาเลย!” ดันหลังแล้วปุ๊บ
“ มะ ไม่ต้องรีบมากก็ได้นะฟุรุยะคุง! ”
โซยะก็เร่งเสียงที่ดูทื่อๆชอบกล ก่อนจะ
“ ถ้านมเล็กระดับที่ขนาดเจอแผ่นดินไหวก็ไม่มีกระเด้งเลยซักนิดก็ว่าไปอย่างหรอก แต่ถ้ามีเนินหน่มน้มอยู่เพียงแม้แต่นิดเดียวละก็ คุณนางุโมะเค้าจะต้องนมติดอยู่กับพื้นดินหลุดออกมาไม่ได้แน่นอนเลยล่ะ! ”
พูดประโยคที่โคตรจะบ้าออกมารัวๆว่ะเฮ้ย
คาราสึมะนี่เอ็ง ให้โซยะพูดประโยคที่โคตรจะล่อแหลมแบบนั้นออกมาได้ไงวะเนี่ย!?
ถ้าเกิดว่าคำพูดนั่นมันทำให้ไคอิของนางุโมะทรุดหนักไปอีกจะทำยังไง……
“ อุ ขุ่ก ”
อ้าว?
“ กุนุนุนุนุนุนุนุนุนุนุ! ”
การเคลื่อนไหวของสาวกระชากฉีกนมที่พยายามจะคลานกลับขึ้นมาจากผืนดิน—–พลันหยุดกึก
ทั่วร่างนี่คือสั่นเทิ้มระดับที่ขนาดมองจากข้างหลังก็ยังดูรู้ ส่วนปากนั่นก็กำลังแปรสภาพความเจ็บใจที่ไม่เป็นภาษาให้หลุดลอดออกมาในรูปเสียงครวญคราง อยากจะฆ่าพวกนมใหญ่ทิ้ง แต่ถ้าคลานขึ้นมาก็จะเป็นการยอมรับว่าตนเองนั้นนมเล็ก…..เผยให้เห็นความกลัดกลุ้มเช่นนั้นได้อยู่ลางๆ
ส่วนไอ้เจ้าคาราสึมะก็ฟุบลงร้องเสียงหลงอยู่กับพื้นมันตรงนั้น
“ ยอดเยี่ยมที่ซู๊ด! ยอดเยี่ยมที่สุดไปเลยแม่หนูมุตสึมิ! ใยแกจึงทำหน้ากุนุนุที่ยั่วยุเล้าโลมองคชาติในใจฉันให้เดือดพล่านลุกเป็นไฟได้ถึงเพียงนี้กัน!? การกระทำของแกมันเข้าข่ายปลุกระดมให้ฉันกลายเป็นอาชญากรโดยสมบูรณ์แล้วนะรู้บ้างไหม! ”
—–ซู่ม
โคลนแสงที่เหนี่ยวพันอยู่รอบสาวกระชากฉีกนมส่องประกายเจิดจ้าหนักมากยิ่งขึ้น
“ อุกุกุกุกุกุกุกุ! ”
ผั๊วะ! พลั่ก!
สาวกระชากฉีกนมรัวหมัดต่อยเข้าใส่ผืนดินอย่างเจ็บใจ แต่มันกลับไม่มีอานุภาพอันน่าตื่นตระหนกแบบเมื่อกี้นี้อีกต่อไปแล้ว
เพราะคาราสึมะที่ขึ้นสุดขีดยิ่งเร่งอานุภาพของศาสตร์เหนี่ยวรั้งให้สูงขึ้นไปอีก ทำให้ระงับจำกัดการเคลื่อนไหวของสาวกระชากฉีกนมเอาไว้ได้นั่นเอง
“ อ๊าาา! อดรนทนไม่ได้แล้ว! ไม่ไหวอย่างแท้จริงเลยเชียว! น้ำเดินหนักมากจนสติแทบจะหลุดอยู่แล้ว! แม่หนูมุตสึมิ แกต้องยั่วยุให้ท่าฉันเท่าไหร่ถึงจะสาแก่ใจกันน่ะ!? จงใจหรือ!? จงใจอยากโดนจับปล้ำมากใช่ไหม!? ”
คาราสึมะนั่งยองๆลงโดยเอาแขนสอดเข้าไปคั่นกลางอยู่ระหว่างขา ร่างกายท่อนล่างนี่คือกระตุกหงึกๆไปหมด แสยะยิ้มราวกับสนุกสนานกับการได้กลั่นแกล้งพร้อมปล่อยน้ำลายหลั่งไหลเยิ้มท่วมปาก เข้าโหมดสิบแปดบวกโดยสมบูรณ์เลยนี่หว่า
ไอ้เวรนี่ ถ้ากลับไปแล้วต้องด่าสั่งสอนให้หนัก
“ แต่ก็กู๊ดจ๊อบสุดๆเลยเว้ยไอ้โรคจิต ”
ฉันพุ่งมาถึงข้างหลังของสาวกระชากฉีกนมเรียบร้อยแล้ว
ตรวจสอบตำแหน่งของหัวนมที่ส่องประกายจากด้านหลัง แล้วจึงปล่อยมือลอดรักแร้สองข้างไปอย่างเร็วไว
“ ขึก!? ”
หมับ!
สาวกระชากฉีกนมที่สังเกตเห็นเงาของฉัน มันใช้ปฎิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วหยั่งกะบ้าคว้าข้อมือสองข้างของฉันเอาไว้ได้อีกแล้ว
“ หนอย นางุโมะ…..เลิกดื้อแล้วจำยอมซะทีสิวะ ”
ไม่ได้มีแรงสัตว์ประหลาดเท่าตอนที่โดนจับก่อนหน้านี้ เหลืออีกไม่กี่มิลเท่านั้นก็จะถึงหัวนมแล้ว
จะฝืนดันไปให้ถึงทั้งๆอย่างนี้เลย! คิดแล้วฉันก็ดวลขยำปลุกปล้ำมือกับสาวกระชากฉีกนมทันที แต่ระยะห่างเพียงไม่กี่มิลนั่นมันก็ไม่ยอมขยับเลย
เป็นในฉับพลันนั้นเอง
“ อะไรของเจ้านั่นน่ะ!? นั่นมันพยายามจะจับนมอยู่รึเปล่า!? ”
“ คิดอุตริอะไรน่ะอีกฝั่งคือไคอิเชียวนะ!? ”
“ ไม่สิเดี๋ยวก่อน เด็กที่ชื่อคาราสึมะนั่นก็ใช้ศาสตร์เหนี่ยวรั้งสุดโรคจิตอยู่นี่ อย่าบอกนะว่าเจ้านั่นก็มีพลังโรคจิตด้วยเหมือนกัน…. ”
“ เอ๊ะ มันอะไรกันคะความสามารถลวนลามทางเพศนั่น…..ไม่เคยได้ยินว่ามีวิธีปราบผีโดยการจับหัวนมมาก่อนเลยนะ ”
พลันมีเสียงร้องอย่างหวาดหวั่นยำเกรงดังขึ้นมาจากพวกท่านๆผู้ปราบมารมืออาชีพที่ไม่ทราบรายละเอียดความสามารถของฉัน
อ๊าาาากกกกกกก! เหลืออีกแค่ก้าวเดียวเท่านั้นเองแท้ๆปัดโธ่ว้อยยยยย!
“ ฟุรุยะคุง! อีกนิดเดียวเท่านั้น! ”
พอฉันดีดดิ้นไปด้วยความอับอาย โซยะก็พลันคลานสี่ขาใกล้เข้ามาหาจากทิศเบื้องหน้า
พอใช้ฝ่ามืออันนุ่มนวลประกบรอบแขนสองข้างของฉันปุ๊บ โซยะก็ช่วยดันให้ฉันจิ้มโพรงเสน่ห์กายิกสุขได้ด้วยอีกแรง ทว่าถึงจะอย่างนั้นก็แล้ว แต่ก็ย่นระยะห่างอีกไม่กี่มิลก่อนจะถึงหัวนมไม่ได้ซะที!
สาวกระชากฉีกนมเห่าหอนคำราม ผืนดินที่หนีบร่างของมันอยู่พลันส่งเสียงดังแคร่กแคร่กแคร่ก
“ เรื่องอะไรจะยอมให้จับ…..! เรื่องอะไรจะยอมให้จับ…..! ”
“ ขุ่ก ยัยนี่…..! ”
สาวกระชากฉีกนมขัดขืนราวกับถือทิฐิจะไม่ยอมให้แตะต้องหน้าอกอันเป็นปมในใจของตนโดยเด็ดขาด มันบีบมือสองข้างของฉันพร้อมกับชันศอก เค้นแรงพยายามจะคลานกลับขึ้นมาจากผืนดิน
“ บัดซบ! ปล่อยไว้แบบนี้ก็มีแต่จะต้องกลับไปยังจุดเริ่มต้นใหม่เท่านั้นล่ะ ถ้าไม่หาทางเบี่ยงเบนสมาธิของนางุโมะ ก็ต้องทำให้หยุดคิดที่จะต่อต้านการถูกจับนมเท่านั้น ไม่งั้นละก็….. ”
พลังกายของฝั่งเราหมดก๊อกก่อนแน่
แต่วิธีการที่สุดจะสะดวกเข้าทางเราแบบนั้นมันจะไปมีได้ยังไง
แค่การจะแตะนมคนธรรมดาๆมันก็ลำบากยากยิ่งอยู่แล้วแท้ๆ
นี่อีกฝั่งยังเป็นไอ้ตัวฮาร์ดคอร์ที่ยึดติดคิดมากอยู่กับปมนมเล็กจนกลายเป็นถึง สเกล 6 เลยอีกต่างหาก
“ ห้ะ! ”
เป็นตอนนั้นเอง ที่โซยะซึ่งอยู่ข้างหน้าพลันปล่อยเสียงออกมาราวกับว่าปิ๊งไอเดียอะไรเข้าแล้ว ก่อนที่จะหน้าแดงแจ๋อย่างเฉียบพลันเฉย
“ ฟุรุยะคุง ”
และแล้วคุณหล่อนก็พูดออกมา ด้วยสีหน้าที่เหมือนกับเตรียมใจพร้อมจะทำอะไรบางอย่างได้แล้ว
“ ถ้าเกิดล้มเหลวขึ้นมา ก็ขอโทษด้วยนะ ”
“ ห้ะ? นี่เธอคิดจะทำอะไร—- ”
โซยะปล่อยมือออกจากฉัน ก่อนจะจ้องมองตรงไปยังสาวกระชากฉีกนมอย่างเด็ดเดี่ยว
“ คุณนางุโมะ เมื่อกี้ขอโทษนะที่พูดโกหกใส่ จริงๆแล้วฉัน คือว่า หน้าอกใหญ่กว่าคนปกตินิดหน่อยล่ะ ”
เท่านั้นแหละสาวกระชากฉีกนมพลันคำราม “คิดแล้วเชี๊ยวววว!” พร้อมดิ้นพล่านอาละวาดอยู่ในอ้อมแขนของฉัน เฮ้ยนั่นเธอคิดทำบ้าอะไรอยู่กันแน่น่ะโซยะ!
“ แต่ว่านะ ฉันเองก็ไม่ได้ใหญ่แบบนี้มาตั้งแต่แรกเริ่มหรอกนะ ”
โซยะเอามือแตะหน้าอกตัวเอง ทำเป็นชำเลืองสายตาตรงเข้ามาใส่ไอ้ฉันนี่
แล้วหลังจากหายใจเข้าลึกๆราวกับกึ่งๆปล่อยวางซึ่งทุกสิ่งปุ๊บ
“ ตั้งแต่ที่ให้เด็กผู้ชาย……ตั้งแต่ที่ให้ฟุรุยะคุงแตะขยำเข้าแล้ว มันก็ใหญ่ขึ้นมาอย่างกะทันหันเลยน่ะ! ”
เลยน่ะ…..เลยน่ะ…..เลยน่ะ……เรื่องขี้ฮกทั้งเพอันสุดจะบ้าบอของโซยะพลันสะท้านเอคโคไปทั่วทั้งสวนกีฬา
เฮ้ย……โซยะ……ยัยบ้านี่ พูดอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง…..
ไม่ดิแบบว่างี้ไงพวกเอ็ง ไอ้เรื่องเล่ากล่าวขานมั่วซั่วว่าถ้าได้ผู้ชายมาขยำนมให้ขนาดมันจะใหญ่ขึ้นแบบนั้นมันก็มีอยู่จริงหรอกนะ แต่มันจะไปมีได้ยังไงกันเล่าไอ้คนที่ง่าวขนาดจะติดกับหลงเชื่ออะไรพรรค์นั้น….
“ เอ๊ะ? เฮ้ยนั่นพูดจริงง่ะ? ”
สาวกระชากฉีกนมที่อยู่ในอ้อมแขนของฉัน พลันส่งเสียงที่ดูราวกับเป็นนางุโมะในยามปกติออกมา
เท่านั้นแหละ มือที่จับข้อมือของฉันเอาไว้นั่นก็พลันผ่อนแรงลงชั่วขณะ
“ ……… ”
เรื่องมันมาเหนือเมฆจัดจนฉันนี่ถึงกับงงเต๊กไปเลย แต่แล้วก็ทราบได้ในทันทีว่านี่ล่ะคือโอกาสหนึ่งในล้านครั้งสุดท้าย
ฉันกระแทกกระทั้นอัดเทคโนเบรคเกอร์เข้าไปกลางหัวนมสองข้างของสาวกระชากฉีกนม—-ไม่สิ นางุโมะ มุตสึมิ
“ —-ฮิ่กุก!? ”
ร่างกายของนางุโมะพลันสั่นกระตุกในทันใด
“ ห้ะ เอ๊ะ อะ มะ มันอะ…..อุ้ก…..!? ”
ร่างของนางุโมะเริ่มที่จะสั่นเทิ้มเล็กๆ เจ้าตัวเองก็ส่งเสียงอย่างสับสนฉงนเนื่องจากไม่อาจทราบว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกับตนเอง และโทนเสียงนั่นก็ค่อยๆเพิ่มระดับความเสียวขึ้นทีละนิดๆ
“ อั่ก ไม่ เอ๊ะ หวา อะ อะไร อะไรเนี่ย…..จะ จากนม อะ อะไรแล่นมาจากหัวนม ฮิ้ก ฮิ๊งงง!? ไม่นะ ช่วยดั๊วะ อิ๊งง อะไรมัน…..❤ ”
นางุโมะเอาแขนโอบรอบร่างตัวเองราวกับพยายามจะฝืนต้านแรงกระแทกที่เดือดพล่านอยู่ภายในร่างกาย แต่ก็หยุดตัวเองไม่ให้กระตุกไม่ได้เลย
“ อ๊างงง!?❤ ตะ ตำไมถึงได้….ปิ๊ลึก ร่างกายฉันมันปิ๊ลึ๊กกกกก!❤❤ ”
กระตุกเบาๆกัักกักไปได้ซักพักก็จะพลันเกิดคลื่นลูกใหญ่ถาโถมสอดเข้ามาทำให้ชักตัวหงิกงอดังวรู่ม! พอเป็นแบบนั้นทีนึงก็จะมีเสียงครางอันแสนอ่อนหวานหลุดลอยออกมาจากปากที่อ้ากว้างอยู่อย่างดูไม่ได้ เปิดเผยบริเวณภายในปากสีชมพูที่เปียกแฉะโชกไปหมดให้เห็นได้อย่างไร้การป้องกัน
ร่างกายของนางุโสะสะดุ้งขย่มขึ้นลงอย่างต่อเนื่อง ราวกับถูกเหวี่ยงไปมาโดยกายิกสุขที่ถาโถมเข้ามาใส่ไม่หยุดประดุจคลื่นที่ไม่อาจควบคุม และในท้ายที่สุด
“ มะ ม่ายร่าย มากไปกว่านี้ ม่ายหวาย ตายแหน่ หยุดน๊าง❤ ใครก็ได้ช่วย—-ฮ๊างง ”
กึ๊ดดดดด
ร่างกายที่ขย่มขึ้นลงตลอดมาจนถึงตอนนั้นพลันหดนิ่ง ช่องปากที่ปล่อยเสียงร้องเสียวซ่านพลันถูกกระชากปิดอย่างรุนแรง
ความเงียบสงัดที่ราวกับว่าสารรูปสุดทะเล้นที่ดำเนินมาจนถึงเมื่อครู่เป็นเพียงเรื่องโกหกได้กระจายหุ้มปกคลุมไปทั่วบริเวณเพียงชั่วขณะเดียว เพราะในฉับพลันถัดมาให้หลัง
ราวกับก้อนระเบิดกายิกสุขที่ฝังลึกลงไปอยู่ภายในร่างกายมันแหลกกระจุยกัมปนาท ส่งให้นางุโมะ มุตสึมิลอยละล่องขึ้นไปถึงสวรรค์
ดวงตาสับส่ายไม่โฟกัส ลิ้นถูกดันแหลมชูชันออกมาจากปากพร้อมน้ำลายที่ไหลเยิ้ม ได้ยินเสียงน้ำไหลแว่วๆออกมาจากร่างกายท่อนล่างที่ถูกปกปิดอยู่โดยแผ่นดินแยก นางุโมะฝังนิ้วให้จมลึกลงไปในผืนดิน ชักง้างร่างกายท่อนบนให้หงายเป็นวงกว้างหลายครั้งซ้ำแล้วซ้ำอีก คางที่ชะเง้อเผยออกมาให้เห็นนั่นท่วมแฉะเต็มไปด้วยเหงื่อและน้ำลายเลยทีเดียว
ฟู่ววว! มีอะไรคล้ายๆกับควันสีดำพวยพุ่งออกมาจากร่างกายของนางุโมะ ก่อนที่จะระเหิดสลายหายไปสิ้น
“ …….อะ…….ฮิ๊…….โอะโฮะ……..❤ ”
แม้หลังจากที่คลื่นลูกใหญ่สงบลงไปแล้วแต่ร่างกายก็ยังสั่นกระตุกเล็กๆซ้ำไปวนมาอยู่ซักพัก ก่อนที่นางุโมะจะฟุบร่างกายท่อนบนลงมากองแผ่หราอยู่เหนือผืนดิน
ดวงตาคู่นั้นไม่ได้มีไคอิสถิตอยู่อีกต่อไปแล้ว สาวน้อยผู้นึงที่จมปลักอยู่กับความซาบซ่านตกค้างจากการถึงจุดสุดยอดอย่างหนักหน่วงรุนแรงเอาแต่ปล่อยเสียงครางเสียวซ่านเล็กๆออกมาอย่างเคลิบเคลิ้มฝันหวานอย่างเดียว
…….แบบว่า ไหงดูเหมือนยัยนี่จะถึงจุดสุดยอดได้อลังการงานสร้างยิ่งกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยละนั่น คิดไปเองรึเปล่าหว่า
เอ้อแต่เอาเป็นว่าเท่านี้ก็
“ ……..จบกันแล้วสินะ ”
ทั้งไคอิที่ทำให้เมืองชิโนโนเมะต้องสั่นคลอน
ทั้งชื่อเสียงทางสังคมของฉัน
ทั้งหมดเป็นอันจบสิ้นเอวังทั้งสิ้น โว้ยปัดโธ่ว้อย โคตรจะไม่คุ้มกันเลยให้ตาย
เรี่ยวแรงเหือดหายไปจากทั่วร่าง ส่งให้ฉันล้มลงมากองนิ่งอยู่กับพื้นดิน
“ ฟุรุยะคุง!? ไม่เป็นอะไรนะ!? ฟุรุยะคุง! ”
โซยะที่ใบหน้าแดงก่ำไปหมดรีบพุ่งตรงเข้ามาหา ก่อนจะตบหน้าของไอ้ฉันดังแป๊ะๆ แต่ก็ไม่มีเรี่ยวแรงมากพอจะตอบรับกลับไปได้ เพิ่งจะมาสังเกตเองเอาป่านนี้นี่แหละว่าเหนื่อยล้าจนน่าตกใจมากถึงขนาดนี้
เสียงโห่ร้องเฉลิมฉลองที่สามารถปราบผี สเกล 6 ลงได้สำเร็จ กับเสียงจ้อกแจ้กจอแจที่สับสนงุนงงกับปรากฎการณ์สุดทะเล้นที่บังเกิดขึ้นกับกายของนางุโมะเมื่อครู่พลันดังก้องเข้ามาจากจุดที่ห่างไกลออกไป
จิตมันเลือนหายเจือจางลงอย่างเฉียบพลัน ท่ามกลางสภาพเช่นนั้น
——–หึหึ ในที่สุดก็เข้ามาแทรกแซงแบบเป็นจริงเป็นจังได้ซักทีค่ะ
รู้สึกเหมือนกับว่าได้ยิน เสียงกระซิบอย่างยินดีของเด็กผู้หญิงดังแว่วเข้ามาในหูว่าอย่างนั้น
MANGA DISCUSSION