ต่อให้เจอตัวสาวนมหลีกขึ้นมา แต่ก็จะยังไม่ลงมือจัดการในทันที
เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมเผื่อสำหรับในกรณีที่เทคโนเบรคเกอร์ล้มเหลวแล้ว จำเป็นต้องรอคอยให้เหล่านักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะเดินทางกลับบ้าน แล้วคอยเฝ้าตามจับตาดูอยู่ห่างๆไปจนกว่าที่ทีมผู้ปราบมารซึ่งถูกจัดตั้งขึ้นอย่างเร่งด่วนจะเดินทางมาถึง
ให้คาราสึมะหลบซ่อนเตรียมตัวเปิดใช้งานศาสตร์วิชาอยู่ในจุดที่จะไม่โดนสาวนมหลีกมันข่มใส่—-และอีก ฯลฯ
หลังจากนัดหมายกันอย่างถี่ถ้วนในระหว่างทางแล้ว พวกเราก็บุกดิ่งเข้าไปภายในโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะ
พอทำการอธิบายเรื่องราวแบบคร่าวๆให้กับพวกอาจารย์ที่ดูกังวลฟังแล้วเสร็จ เราก็เดินวนไปดูรอบห้องเรียนที่อยู่ระหว่างการเรียนการสอน
แต่ต่อให้เวลาผ่านไปเท่าไหร่ ก็ไม่เจอยัยนมเล็กที่ทำให้คิดขึ้นมาว่า “ยัยนี่แหละ” ได้ซักที แล้วพอวนดูไปได้ราวซัก 5 ห้อง ในที่สุดโซยะก็ควักเอาไอ้เจ้าสิ่งนั้นออกมา
“ เฮ้ยโซยะ นี่เธอกะจะดื่มไอ้เจ้านั่นจริงเรอะ? ”
เห็นโซยะทำการเปิดฝาขวดออกแล้ว ไอ้ฉันก็ถึงกับหวาดหวั่นขึ้นมาเลยเชียวเอ็ง
กลิ่นเหม็นร้ายกาจระดับที่แค่เข้าไปใกล้น้ำตามันก็พาลจะไหล ลักษณะที่ดูหยั่งกะน้ำโคลน นี่มันยาพิษสูตรสำเร็จชัดๆเลยนี่หว่า
ได้ยินว่าเป็นยาฟื้นฟูพลังวิญญาณที่มีผลข้างเคียงคือจะทำให้สมองเอ๋อก็จริง แต่ดูท่าแล้วท้องมันน่าจะเสียเร็วกว่าสมองอีกนะนั่น
“ กะ ก็เตรียมใจเอาไว้พร้อมแล้วนี่นา! ”
โซยะเอามือเท้าเอวพร้อมบีบจมูก
“ ถ้าไม่ตามหาสาวนมหลีกให้เจอแล้วปราบให้ได้ก่อนตะวันตกดิน จะต้องมีผู้เคราะห์ร้ายตกเป็นเหยื่อเพิ่มขึ้นมาแน่ๆเลยนะ! ”
พอป่าวประกาศราวกับพูดให้ตัวเองฟังแบบนั้นแล้ว โซยะก็กระดกยาฟื้นฟูหมดเกลี้ยงในอึ๊กเดียว
“ ……….. ”
“ หะ เฮ้ย ไหวมั้ยนั่น? ”
หลายสิบวินาทีให้หลังหลังจากที่กลืนยาลงคอ พอฉันเขย่าไหล่โซยะที่หยุดนิ่งไม่ไหวติงไปเลยปุ๊บ
“ ……..ฮิ๊ก ”
โซยะก็พลันสะอึกออกมาหนึ่งครั้งด้วยหน้าตาเหม่อลอย
“ อ่า~ ฟุรุยะคยุ้งกับอาโอยจา~ง อื~ม ฟื้นฟูกลาบมาดีเหมือนหม่ายเลยละน้า~ ”
หน้านี่คือแดงก่ำไปหมด ลิ้นพันกันชอบกล แถมฝีเท้าก็ดูโซซัดโซเซ แทนที่จะเรียกว่าเอ๋อแล้วแบบนี้มันเหมือนกับ……
“ คนเมาชัดๆเลยไม่ใช่หรือไร ”
“ ไม่ด้ายมาวค่าา! ”
พอโซยะปฎิเสธคำชี้แนะของคาราสึมะดังฉึบแล้ว คุณหล่อนก็เริ่มต้นเดินตรงดิ่งไปยังห้องถัดไปด้วยฝีเท้าที่ดูน่าหวาดเสียวซะเหลือเกินเว้ยเฮ้ย
“ หะ เฮ้ยโซยะ นั่นเธอไหวจริงๆน่ะเรอะ? ออมพลังวิญญาณเอาไว้ด้วยนะ เวลาตรวจสอบเชิงวิญญาณนี่ให้ข้ามสาวคนที่เห็นได้ชัดเจนว่าหน้าอกใหญ่ไปเลยนะ? จำได้ใช่มะ? ”
“ ฮึ่ยฮึ่ย ”
โซยะพยักหน้าให้พลางปล่อยเสียงที่ฟังไม่ค่อยออกว่าเป็นเสียงตอบรับหรือเสียงหายใจกันแน่
แล้วพอไอ้ฉันเฝ้าวิตกกังวลอยู่ว่าฟังกันรู้เรื่องจริงๆน่ะเรอะปุ๊บ
“ อื้มยู้แย้วว! ตรงตามที่คาดไว้เป๊ะ! ”
โซยะก็กระแทกเปิดประตูห้องเรียนอย่างไม่ให้ใครได้ตั้งตัว พร้อมกับสูดหายใจเข้าลึกๆ ห้ะ? ตามที่คาด?
“ ขนาดค่าเฉลี่ยของห้องนี้ก็คือ 8 เซนฯยังงายล่า! คนที่ไอ้หนูเล็กจิ๋วที่สุดก็คือ~~ ”
โซยะเอานิ้วชี้ของมือทั้งสองข้างมาเหวี่ยงหมุนติ้วๆอยู่เบื้องหน้าใบหน้าตัวเองไปพลาง ยิ้มเล็กยิ้มใหญ่ไปด้วย
“ ยัยบ้าห้าร้อยยยยยยยยย! ”
ฉันทำการกระชากโซยะออกมาจากห้องเรียนที่เริ่มจะส่งเสียงแตกตื่น พยายามลากตัวไปยังจุดที่ห่างออกไปให้ได้ที่สุดเท่าที่จะทำไหว
“ ต่อให้บอกว่ายามันมีผลข้างเคียงยังไงก็เหอะ แต่เธอนี่มันเป็นคนบ้าไม่มีขีดจำกัดชัดๆเลยนี่หว่า! มองไซส์ของอะไรอยู่กันแน่ฟะ! ”
แบบนี้จะฟื้นฟูพลังวิญญาณไปทำม๊ายยย!
แล้วก็ ภายในห้องเรียนที่จู่ๆก็ถูกประกาศขนาดค่าเฉลี่ยอย่างกะทันหันนั่นมีเด็กผู้ชายที่กำลังช็อกอึ้งตะลึงงันอยู่จำนวนนึงเลยเชียวนะเฮ้ย สาวนมหลีกยังจัดการไม่ได้ ถ้าเกิดมีชายหำเล็กโผล่ตามหลังมาติดๆนี่คือเตรียมตัวฉิบหายได้เลย…….
“ แค้ล้อเล่นนิดๆหน่อยๆเองน่าา~ อ่า~ นี่หรือว่าฟุรุยะคุง กำลังหงอยเหงาเศร้าสร้อยเพราะเห็นว่าของตัวเองเล็กกว่าขนาดค่าเฉลี่ยของห้องหรือไง~? ”
โซยะใส่พลังเข้ามาในดวงตาพยายามจะจับจ้องมองดูใบหน้า ฉันจึงรีบปิดตายัยนั่นเอาไว้อย่างแตกตื่นลนลานทันที
“ อ่า~ อู้~ ทำมายถึงปกปิดเหรอ~? ขอดูหน่อยซี้~ ขอดูของฟุรุยะคุงหน่อยน้า~ ไม่หัวเราะหรอกน้า~ ”
ทำการปิดตาของโซยะที่เริ่มจะดิ้นงอแงต่อไปเรื่อยๆ
เท่านั้นแหละคาราสึมะพลันวางมือลงเหนือไหล่ไอ้ฉัน ก่อนจะสะเออะอมยิ้มอย่างสนุกสนานน่าดูเลยนี่หว่าไอ้ฉิบหาย
“ อย่าได้วิตกกังวลไปเลยฟุรุยะ ที่สำคัญมันไม่ใช่ขนาดหรอกนะ แต่เป็นฮาร์ท (หัวใจ) ต่างหาก ”
ไอ้เจ้าพวกนี้…….
ยามบ่ายนี้ตรูข้าชักจะเริ่มเข้าใจความรู้สึกของสาวนมหลีกขึ้นมาหน่อยนึงแล้ว
สุดท้ายฉันจึงขู่โซยะว่า “ถ้ายังจะเล่นบ้าๆไปมากกว่านี้ฉันจะออกจากทีมนะเฟ้ย” ก่อนที่จะควบคุมให้เริ่มต้นทำการตามล่าหาสาวนมหลีกได้ใหม่อีกครั้ง
“ ……..ไหงถึงหาไม่เจอฟะ ”
คาบเรียนทุกคาบจบสิ้นลงไปแล้ว ทางโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะกำลังอยู่ระหว่างโฮมรูมเพื่อจัดระเบียบให้นักเรียนเดินทางกลับบ้านกันเป็นกลุ่มใหญ่
ฉันนั่งก้มหัวหมดอาลัยตายอยากอยู่เหนือบันไดเล็กๆที่มีทางเดินเชื่อมติดอยู่กับโรงยิมซึ่งตั้งอยู่ใกล้ห้องเรียนสุดท้ายที่ทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณ ข้างๆมีโซยะที่กำลังจ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาหยั่งกับปลาตายอยู่ด้วย
“ ทำไมฉันถึง……ทำอะไรแบบนั้นลงไปกันนะ…….. ”
โซยะกำลังสิ้นหวังกับการกระทำสุดจะโรคจิตของตัวเองอยู่แน่ะ ยาหมดฤทธิ์ไปแล้วก็จริง แต่เหมือนว่าจะยังคงมีความทรงจำที่ป่าวประกาศเรื่องขนาดความเฉลี่ยส่วนสูงท่อนล่างของห้องเรียนนั้นฝังหัวอยู่อย่างชัดเจนแฮะ
“ แถมยัง……หาตัวสาวนมหลีกไม่เจออีกต่างหาก…… ”
แรกๆโซยะก็เล่นมองไซส์หำของพวกเด็กผู้ชายแล้วกระโดดกระเด้งสนุกสนานใหญ่เลยอยู่หรอก แต่การตรวจสอบเชิงวิญญาณหลังจากนั้นก็ดำเนินไปได้อย่างเรียบร้อยดี ถึงอย่างนั้นก็ยังหายัยนมเล็กผิดมนุษย์มนาที่ฉันกับคาราสึมะได้ประจักษ์เข้าในวันก่อนนั่นไม่เจอซักที……เพื่อให้ชัวร์ไว้ก่อน เราจึงทำการเรียกตัวพวกรุ่นพี่ในโรงเรียนปราบมารที่ออกปากว่าจะร่วมมือ ให้มาทำการร่ายศาสตร์ตรวจจับไคอิโดยไล่จากสาวที่มีขนาดนมเล็กไปอยู่หรอกนะ แต่ก็ไม่พบปฎิกิริยาของไคอิเลยซักนิด มืดแปดด้านอย่างสมบูรณ์เลยเนี่ย
“ ถุงน่องกับรองเท้าโลฟเฟอร์ที่ฟุรุยะคุงเห็นนั่น เป็นของบังคับใช้เฉพาะภายในโรงเรียนชิโนโนเมะจริงๆรึเปล่านะ……? ”
โซยะพึมพำออกมาเสียงค่อย
“ คิดว่าไม่น่าจะพลาดนะ…….แต่ถ้าพลาดจริงก็คือกลับมาจุดเริ่มต้นใหม่เลยนะนั่น ”
“ นั่นสิเนอะ การกระทำสุดโรคจิตของฉันมันก็ไร้ค่าเปล่าโดยสมบูรณ์ด้วยสิเนอะ……ฮึฮึฮึ ”
เฮ่อ….ได้แต่ถอนหายใจซ้ำแล้วซ้ำอีก
“ อ่า….อืม ก็ อย่าได้เศร้าหมองไปเช่นนั้นเลยนะทั้งสองคน ”
สงสัยบรรยากาศที่ห่อหุ้มอยู่รอบตัวฉันกับโซยะมันจะหนักอึ้งสุดๆไปเลยมั้ง ไอ้เจ้าคาราสึมะคนนั้นมันก็เลยถึงกับต้องพูดปลอบใจเลยทีเดียว
คาราสึมะอ้าปากพะงาบๆทำนอง “อืมม อ่า…มู่ม” อยู่ซักพัก แต่ในท้ายที่สุดแล้ว
“ จริงสิ นี่ๆดูนี่เสียสิทั้งสองคน! ”
มันก็ควักเอายันต์หนึ่งใบออกมาจากกระเป๋าเสื้อ—–ยันต์แปลงร่างที่ฉันได้มาจากเมย์ แล้วเอามาส่งต่อให้โซยะกับคาราสึมะอีกทีนั่นเอง อื๋อ? ไอ้เวรนี่มันคิดจะทำอะไรกันแน่น่ะ……
“ อื~ม แบบนี้กระมัง? ”
ปุ๊ง!
ในพริบตาที่คาราสึมะส่งพลังวิญญาณใส่เข้าไปภายในยันต์แปลงร่างนั่นเอง
พลันเกิดเสียงและควันที่ดูขำขัน ก่อนที่คาราสึมะจะแปลงโฉมกลายเป็นไอ้นมเบิ้มไป
“ ห้ะ……! ”
ไม่สิ มันไม่ใช่การปูดพองแบบเด็กๆที่เรียกว่า “นมเบิ้ม” นั่นอีกต่อไปแล้ว
นมมารอหังการอมนุษย์ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางทะลุเกินกว่า 1 เมตรมันงอกออกมาจากอกของคาราสึมะพร้อมกับสั่นดึ๋งดั๋งๆ ต่อให้ทุ่มสมองคิดตามหลักมวลของวัตถุยังไงแต่ก็ไม่ใช่ของที่คาราสึมะจะสามารถพยุงตัวค้ำเอาไว้ได้เลยซักนิด ทว่าเจ้าตัวนั้นกลับมองต่ำลงมายังนมยักษ์ที่ปูดพองขึ้นมาพร้อมๆกับแพนท์สูทก่อนจะหัวเราะลั่นด้วยท่าทางเหมือนสบายใจเฉิบได้เฉยเลยซะงั้น
“ โอ้! นี่มันช่างยอดเยี่ยมเหลือเกิน! เป็นไปดังที่นึกภาพเอาไว้ทุกกระเบียดนิ้วเลยทีเดียว! วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! ”
“ บะ…… นั่นเอ็งทำแป๊ะอะไรน่ะเฮ้ย! ฉันก็อธิบายอยู่ไม่ใช่เรอะ ว่าเป็นของมูลค่าสูงที่มีไว้แทนที่เป็นเครื่องรางป้องกันตัวน่ะ! ”
“ ถึงจะพูดเช่นนั้นก็เถอะนะ แต่ในเมื่อทีมมืออาชีพซึ่งมีหน่มน้มคาโดะกุระอยู่ในครอบครองยังถูกเล่นงานจนย่อยยับแล้ว เจ้าเครื่องรางที่สามารถใช้ทำให้แปลงกายเป็นนมใหญ่ได้นี่มันก็คงจะก่อประโยชน์ใดให้ไม่ได้มากมายนักหรอก ถ้าอย่างนั้นแล้วก็สู้ใช้เพื่อปัดเป่าบรรยากาศอันแสนหนักอึ้งชวนอึมครึมเสียจะดูเป็นการใช้ที่เป็นแบบเป็นแผนมากยิ่งกว่าไม่ใช่หรือ ”
“ ………อ่อเรอะ งั้นก็ขอบใจเว้ยที่อุตส่าห์เป็นห่วง ”
คาราสึมะขยำนมยักษ์ที่ประกอบสร้างขึ้นจากเอ็กโทพลาซึม (สารเชิงวิญญาณ) กับศาสตร์มายาไปพลาง ร้องเฮฮาลั่นว่า “วะฮ่าฮ่า! รูปโฉมดูยอดเยี่ยมอย่างยิ่งเลยก็จริงหรอก แต่สัมผัสกลับดูนิ่มราวสายไหมเลยก็มิปาน! เอ้า แม่หนูมิซากิก็ลองจับดูเสียสิ! จับแล้วจะช่วยให้กระชุ่มกระชวยนะ!” พร้อมกระโดดโลดเต้นซะหยั่งกะเด็กผู้ชายช่วงมัธยมต้นเลยงั้นแหละ
ปัดโธ่ว้อย ถ้ามีไอ้หอกแบบนี้เป็นเพื่อนร่วมทีม คดีที่น่าจะคลี่คลายได้มันก็จะพลอยกลายเป็นคลี่คลายไม่ได้กันพอดีสิฟะ
“ ทว่าถึงแม้จะเป็นไอเท็มที่แสนวิเศษยอดเยี่ยมที่สุด แต่สำหรับฉันผู้นี้ที่หลงใหลรักใคร่ในกายหยาบของสตรีแล้วมันก็ถือเป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกซับซ้อนอยู่เช่นเดียวกัน ”
ในระหว่างที่เอาหน่มน้มดันๆยัดใส่หน้าโซยะที่ทำตาหยั่งกะปลาตาย ไอ้เจ้าคาราสึมะมันก็พลันกล่าวออกมาด้วยสีหน้าเศร้าหมองว่าเช่นนั้น เฮ้ยพอทีเหอะ โซยะก็หัดต่อต้านมันซะหน่อยสิว้อย
“ ไอเท็มแปลงร่างเช่นนี้เอย หรือเทคนิคอันก้าวหน้าของฟองน้ำเสริมอึ๋มในยุคนี้เอย….เทคนิคสำหรับใช้ปลอมแปลงพลิกโฉมร่างกายดังเดิมในแบบที่สมควรเป็นมันจะก้าวล้ำพัฒนามากเกินเหตุไปแล้ว ทั้งที่เรือนร่างของผู้หญิงจะงดงามมากล้ำที่สุดก็ในสภาพตามธรรมชาติแท้ๆนะ ”
“ เอ้อ เกี่ยวกับตรงนี้นี่ฉันก็เห็นด้วยอยู่หรอก……. ”
แต่ถึงว่างั้นก็เหอะ ที่ถึงกับต้องปลอมแปลงพลิกโฉมนี่มันก็เพราะว่าเจ้าตัวเองทำใจยอมรับสภาพตามธรรมชาตินั่นไม่ได้ไง ฉะนั้นต่อให้จะพยายามใช้ฟองน้ำเสริมอึ๋มหรืออะไรทำนองนั้นยกระดับขึ้นมาเราก็ไม่มีสิทธิจะไปว่า——–
“ เดี๋ยวก่อนนะเว้ย…….? ”
เป็นฉับพลันนั้นเอง ที่แสงสว่างมันพลันแล่นประกายอย่างรุนแรงอยู่ภายในหัว
ปมในใจ , เก็บซ่อนปลอมแปลง , ฟองน้ำเสริมอึ๋ม , ยัยนมเล็กที่หาตัวไม่เจอซักที
“ เฮ้ย คาราสึมะ ”
“ มุ มีอะไรหรือ? ทำหน้าตาน่ากลัวเชียว อยากได้หน่มน้มหรือไร? ฮื่ม ถ้าจะขอแตะละก็ขออภัยด้วยแต่คงไม่อาจยอม ทว่า ถ้าแค่เขย่าเด้งๆให้ดูละก็จะยอมทำให้เอาบุญก็ได้ ”
“ ไม่ใช่โว้ยไอ้เบื๊อก ”
ฉันขัดคำพูดของไอ้เบื๊อกที่เริ่มจะเขย่าร่างกายไปซ้ายทีขวาที ก่อนจะเอ่ยถามออกไป
“ ฉันมันเป็นผู้ชายก็เลยรู้ไม่ค่อยละเอียดเท่าไหร่……..แต่ฟองน้ำเสริมอึ๋มสมัยนี้มันล้ำหน้าไปถึงขนาดนั้นเลยเชียวเรอะ? ”
“ จู่ๆถามอะไรของแกน่ะ แต่ก็นั่นสินะ ฟองน้ำเสริมอึ๋มนี่นับว่าล้ำหน้ามากแล้วไม่พอ เทคนิคการแต่งนมให้ดูใหญ่มากกว่าที่ควรมันก็พัฒนาขึ้นอย่างโตวันโตคืนด้วยเลยที—– ”
คาราสึมะพลันจ้องกลับมาหาฉันเขม็งด้วยท่าทางเหมือนนึกอะไรบางอย่างออก ส่วนฉันก็พยักหน้ากลับไปให้คาราสึมะ
ใช่แล้ว
พวกเรา เข้าใจผิดไปอย่างยิ่งใหญ่เลย
เพราะหน้าผาสูงชันที่สาวนมหลีกแสดงให้เห็นนั่นมันน่าตกตะลึงมากเกินไป ก็เลยถูกหลอกให้คิดว่าผู้ต้องสงสัยคือสาวที่นมเล็กไปโดยสมบูรณ์
แต่มันไม่ใช่เลยเว้ย
คนที่พะวงเรื่องอาการนมเล็กของตนระดับที่ถูกไคอิเข้าสิงนี่ มันไม่มีทางจะดำเนินชีวิตประจำวันอยู่ในสภาพดั้งเดิมอย่างที่ตนเป็นได้แหงอยู่แล้ว ไม่มีทางมีชีวิตอยู่ในสภาพที่นมเล็กได้แน่อยู่แล้ว
ในเมื่อเป็นปมในใจระดับที่สามารถใช้เทคนิคที่พัฒนาแบบโตวันโตคืนมาปกปิดเอาไว้ได้ งั้นก็รับรองได้เลยว่ามันจะต้องเลือกปกปิดแน่นอน
ที่สำคัญไม่ใช่ขนาดแต่เป็นฮาร์ทบ้างล่ะ นมเล็กมันก็แค่สถานะบ้างล่ะ….คำปลอบประโลมแบบส่งๆพรรค์นั้นมันไร้ความหมายสิ้นดี เรื่องที่พะวงจะยังไงก็เป็นเรื่องที่พะวงวันยังค่ำ นั่นล่ะคือสิ่งที่เรียกว่าปมในใจ
ปัดโธ่เว้ย คำพูดโง่ๆของคาราสึมะมันก็มีประโยชน์อยู่บ้างบางครั้งเหมือนกันนี่หว่า
“ โซยะ! ยังมีพลังวิญญาณหลงเหลืออยู่รึเปล่า!? ”
“ ว้าย เป็นอะไรน่ะจู่ๆก็ตะโกนเสียงดังเฉยเลย ”
เขย่าไหล่ของโซยะเอาให้สติกลับเข้าร่าง
“ ถามว่ายังใช้เนตรมารฝันตรวจสอบเชิงวิญญาณได้อยู่รึเปล่า ”
“ ยามันออกฤทธิ์แรงกว่าที่คิดไว้ ก็เลยยังใช้ได้สบายๆเลยหรอก…….แต่ทำไมเหรอ? ”
“ ไม่ทำมงทำไมหรอก มันชักจะมีแววมองเห็นตัวจริงของสาวนมหลีกได้แล้วไงล่ะ! ช่วยทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณใหม่อีกครั้งนึงทีเถอะ เร็วเข้าก่อนที่พวกนักเรียนจะกลับบ้านกันไป คนที่น่าสงสัยน่ะไม่ใช่สาวที่นมเล็ก แต่เป็นสาวที่นม—– ”
“ โอ๊ะ? สมาชิกศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณอยู่กันครบแก๊งเลยนี่หว่าเฮ้ย สุมหัวรวมตัวทำอะไรกันอยู่ในที่แบบนี้น่ะ ”
นมใหญ่ผิดสังเกต…….ในฉับพลันที่กำลังจะพูดออกมาว่าเช่นนั้นน่ะเอง
ที่มีเสียงอันคุ้นหูดังลอยมาจากทางเดินฝั่งตึกเรียนที่เชื่อมติดอยู่กับโรงยิม
หัวใจมันเต้นระรัว เหงื่อที่ชวนหยะแหยงมันพวยพุ่งออกมาจากทั่วกาย
ฉันทำการใช้หลังปกปิดซ่อนตัวคาราสึมะเอาไว้แบบเกือบๆตามสัญชาติญาณ ก่อนจะเอ่ยตอบเจ้าของเสียง—-นางุโมะ มุตสึมิไป
“ อะ อ๋อ นางุโมะเองเรอะ เปล่าหรอกแค่มีงานนิดหน่อยเท่านั้นแหละ แล้วเธอล่ะเฮ้ยมาทำอะไรอยู่ในที่แบบนี้ ไม่ไปรวมตัวเตรียมกลับบ้านเรอะ? ”
“ ไอ้เรื่องนั้นมันก็แบบว่างี้ไง โดนเค้าสั่งห้ามทำกิจกรรมชมรมตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอะนะ ก็เลยว่าจะแวะกลับมาเอาดาบไม้กับพวกอุปกรณ์ต่างๆนาๆกลับไปฝึกซ้อมที่บ้านไรงี้อะเว้ย ”
ใจเย็นๆเอาไว้ ใจเย็นๆเอาไว้…….พร่ำบอกกับตัวเองอยู่แบบนั้น
เออนางุโมะเป็นคนนมใหญ่เอาเรื่องเลยก็จริง เป็นหนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่โผล่เข้ามาในหัวฉันเป็นคนต้นๆเลยก็จริง
แต่ก็ยังไม่รู้แน่ชัดซะหน่อย ว่านางุโมะเป็นสาวนมหลีกรึเปล่าน่ะ
ก็ลองคิดดูดิ มันจะเป็นไปได้เรอะ?
ต่อให้จะยังไงก็เหอะ แต่มันมีจริงๆเรอะคนที่ปลอมแปลงทำให้ตัวเองดูนมใหญ่แล้วพูด [เกะกะขัดขวางตอนฝึก] บ้างล่ะ [ถ้าส่งไปให้ใครอื่นได้ก็คงทำไปนานแล้ว] บ้างล่ะ….มีจริงๆเรอะคนที่พูดเพ้อเจ้อไร้สาระที่มีแต่จะทำให้ตัวเองยิ่งรู้สึกว่างเปล่าทุกข์ปวดใจแบบนั้นได้อย่างหน้าด้านๆอะเว้ย! ด้วยท่าทางหยิ่งยโสเหลือเกินอะเว้ย!
มันมีคนที่สุดจะระทมแบบนั้นอยู่จริงๆน่ะเรอะ ฉันนี่ปักใจให้เชื่อไม่ลงเลย
แต่หลักการที่ร่ายเพื่อทำให้ตัวเองสงบสติลงนั่น มันก็พลันแหลกสลายพังทลายในพริบตาถัดมา
“ ……….ขึก ”
สัมผัสได้ว่าโซยะกำลังกลั้นหายใจอยู่ข้างหลัง คงพอเดาได้จากท่าทางของฉันกับคาราสึมะ แล้วใช้เนตรมารฝันที่อัดพลังเข้าไปมองตรงเข้าใส่นางุโมะงั้นสินะ
และแล้ว โซยะก็พึมพำออกมา ด้วยระดับเสียงที่มีเพียงแค่ฉันและคาราสึมะเท่านั้นที่ได้ยิน
“ ……….AA………AAA……..ไม่สิเล็กมากยิ่งกว่านั้นอีก…….? อะ อะไรแบบนี้มัน…….แบบนี้มัน มันไม่ใช่นมแล้ว……! ”
ร่างกายของโซยะสั่นเทิ้มกุกกักราวกับไม่อาจทำใจให้เชื่อในความเป็นจริงที่ปรากฎอยู่ภายในดวงตาได้
“ จะว่าไปแล้วนะเว้ยยย ”
นางุโมะพลัน ยกเพียงมุมปากขึ้นมาปั้นกลายเป็นรอยยิ้มร่า
“ ไอ้เจ้าคนตรงนั้นน่ะ คุณคาราสึมะ….งั้นสินะ? ไอ้นมกวนประสาทนั่นมันห่าอะไรวะ ”
บรรยากาศอันแจ่มใสตลอดมาจนถึงเมื่อครู่มันหายวับไปโดยบริบูรณ์ ดวงตาสองข้างที่ปราศจากไร้ซึ่งอารมณ์ของนางุโมะ กำลังจับจ้องมองเขม็งไปยังนมยักษ์ของคาราสึมะที่ขยายขนาดอย่างยิ่งใหญ่จนไม่อาจจะปกปิดเอาไว้ได้อีกต่อไป
“ โคต~รสุดยอดไปเลยว่ะ น่าอิจฉาชะมัด มีด้วยเรอะเนี่ยพวกที่แค่ไม่เจอหน้าพักเดียวก็โตขึ้นมาใหญ่ได้ขนาดนั้น….ช่วยบอกทีได้ป่าวว่าทำไงถึงใหญ่ขึ้นได้มากขนาดนั้นอะ….บอกอธิบายแบบประณีตละเอียดถี่ยิบในระดับที่คนที่ทำยังไงก็ไม่โตมาฟังแล้วก็ยังสามารถเข้าใจได้อะเว้ย….. ”
นางุโมะพูดรัวเป็นปืนกลด้วยน้ำเสียงอันราบเรียบที่ไม่ชวนให้รู้สึกว่าเป็นการล้อเล่นหรือเหน็บแหนมด้วยซ้ำ เธอคนนั้นกำลังไถ่ถามอยู่อย่างจริงจังเลย ว่าทำยังไงจึงจะได้นมใหญ่ยักษ์เช่นนั้นมาครอง
หน่มน้มของเด็กผู้หญิงมันไม่มีทางจะโตใหญ่ขึ้นมาขนาดนี้ได้ภายในเวลาแค่วันสองวันหรอก…..ขนาดฉันที่ไม่มีนมก็ยังรู้เลยแท้ๆ แต่นี่มัน….
ไม่ผิดพลาดแน่นอน
นางุโมะ มุตสึมิกำลังสติแตกอยู่โดยสมบูรณ์เลย กำลังถูกไคอิกลืนกินอยู่ชัดๆเลย
แต่มันอะไรกันน่ะ? ไอ้เจ้าความรู้สึกแหม่งๆอันแสนรุนแรงนี่
ถ้านางุโมะเป็นสาวนมหลีกจริง งั้นก็น่าจะเกลียดชังและหวาดกลัวนมใหญ่ดังเช่นก่อนหน้านี้นี่นา
น่าจะเป็นอย่างนั้นแท้ๆ แต่นอกจากนางุโมะจะไม่มีท่าทีเหมือนจะหลีกห่างจากนมยักษ์ของคาราสึมะแล้ว นางุโมะกลับมองเขม่นด้วยแววตาอาฆาตแค้นหยั่งกับถูกนมนั่นฆ่าพ่อแม่อีกต่างหาก……ไม่สิ ตอนนี้มีสิ่งที่สำคัญกว่านั้นอยู่
“ คาราสึมะ ถ้าฉันให้สัญญาณเมื่อไหร่ก็ช่วยใช้ศาสตร์เหนี่ยวรั้งที ”
ฉันถอดกำไลมือสองข้างออก ก่อนจะพึมพำอย่างชัดเจนโดยไม่ละสายตาห่างไปจากนางุโมะ
“ เอะ เอ๋? แต่ว่านะ ในสถานการณ์เช่นนี้มันคงจะมีอานุภาพไม่สูงมากนักหรอกนะ……? ”
“ เหอะน่า! ”
ตอนที่เจอะเข้ากับสาวนมหลีกเมื่อหลายวันก่อน พบว่าไม่มีโพรงเสน่ห์กายิกสุขอยู่ในฝั่งด้านหลังของเธอเลย
ถ้าอย่างงั้นโพรงเสน่ห์กายิกสุขของนางุโมะ ก็น่าจะอยู่ตรงบริเวณฝั่งหน้าของร่างกายแน่ๆล่ะ
ถ้าสกัดการเคลื่อนไหวเอาไว้ได้เพียงพริบตาเดียว ก็น่าจะเล่นทีเผลอจิ้มโพรงเสน่ห์กายิกสุขได้อยู่แหละ
ซึ่ด….ในช่วงไม่กี่วินาทีอันแสนยาวนาน ก่อนที่มือกับตาของฉันจะแปลงสภาพกลายเป็นของอมนุษย์นั่นเอง
“ นี่ เฮ้ย บอกทีดิวะ นี่ มันอะไรกันน่ะไอ้เจ้านมนั่น มันอะไรกันน่ะไอ้เจ้าตานั่น……กวนส้นตีนกันเหรอวะ? ”
น้ำเสียงของนางุโมะพลันอาบเต็มเปี่ยมไปด้วยออร่าสีดำสนิทอย่างกะทันหัน
กริ๊ก กรี๊กกรี๊ก แซ่กแซ่กแคว่กกกกก!
นางุโมะใช้นิ้วมือนั่น เริ่มทำการกระชากคว้านบริเวณอกชุดนักเรียนตัวเอง
“ พูดอะไรหน่อยดิวะ เฮ้ย นี่ หะ หัว หัวเราะใส่คนที่ต่อให้พยายามซักเท่าไหร่มันก็ไม่โตขึ้นซักทีแล้ว สนุกมากเรอะ? ทำตัวยิ่งใหญ่มองลงมาใส่ด้วยแววตาสงสารเวทนาเรอะ? นี่? แกมัน คิดว่าตัวเองเป็นใครกันวะ…..คนนมใหญ่เรอะ? นี่? ถ้านมใหญ่แล้ว มันจะยิ่งใหญ่สูงส่งขนาดนั้นเลยเรอะ…..? วันจันทร์อันเด้งดึ๋งส้นตีนอะไรกัน……ทั้งที่ฝั่งฉันนี่คือแบนราบเรียบออลเดย์เอเวอร์รี่เดย์เลยแท้ๆไอ้ฉิบหายย ”
ตุบตุบตุบ!
สิ่งที่กลิ้งเกลือกหล่นลงมาอย่างรุนแรงประหนึ่งเป็นเครื่องใน จากภายในชุดนักเรียนที่โดนฉีกกระชากจนขาดด้วยแรงที่มหาศาลระดับเกินมนุษย์มนานั่น…..ก็คือกลุ่มก้อนประกายแสงแห่งความรู้ที่มอบความหวังดั่งเงาหลอกตาให้แก่เหล่าคนนมเล็กทั่วโลก—-ฟองน้ำสำหรับเสริมปลอมแปลงให้เห็นว่านมใหญ่
ที่ปรากฎให้เห็นได้ผ่านชุดนักเรียนที่ขาดวิ่น ก็คือที่ราบเรียบผิดมนุษย์มนา และสิ่งที่ปูดพองขึ้นมาราวกับเป็นขั้วตรงข้ามกันนั่น ก็คือจิตสังหารอันแปลกประหลาดและไอพิษอันมากล้นถล่มทลายที่ถูกปลดปล่อยพวยพุ่งออกมาจากนางุโมะ
“ ………..ขึก! ”
ถูกแรงกดดันอันเหนือล้นท่วมท้นขยี้เข้าใส่จนใจแป้ว ฉันจึงก้าวถอยหลังเพื่อปกป้องคาราสึมะกับโซยะเอาไว้ ทว่า
“ คาราสึมะ! ตอนนี้แหละ! ”
ในฉับพลันที่สัมผัสได้ว่าเทคโนเบรคเกอร์พร้อมใช้งานแล้ว ฉันก็พุ่งทะยานตรงดิ่งออกไปทันควัน
ระหว่างที่วิ่ง ก็ควานหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขที่น่าจะต้องปรากฎขึ้นมาอยู่ด้านหน้าของนางุโมะแน่ๆไปด้วย
แค่พริบตาเดียวก็ยังดี ต้องเผด็จศึกให้ได้โดยเร็วก่อนที่นางุโมะจะทันได้แปลงเป็นไคอิโดยสมบูรณ์!
“ ศาสตร์มัดพันธนาการสายข่ายอาคมเฉพาะตัวรูปแบบที่หนึ่ง——เชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการ! ”
คาราสึมะทำการกล่าวคำร่าย ส่งเชือกแห่งแสงล็อกเข้าใส่นางุโมะ และฉันก็ตรวจพบเจอโพรงเสน่ห์กายิกสุขของนางุโมะเข้า
ทว่า
“ ……..โกหกใช่มั้ยเฮ้ย ”
ในฉับพลันนี้ที่จำต้องกระแทกกระทั้นอัดนิ้วมือเข้าใส่โพรงเสน่ห์กายิกสุขโดยปราศจากความลังเลใดๆนั่นเอง ที่ความสิ้นหวังถล่มทะลักเข้ามาจนฉันเกือบจะหยุดวิ่ง
โพรงเสน่ห์กายิกสุขที่ปรากฎขึ้นมาเหนือร่างของนางุโมะ มันมี 2 จุด
แถมยังเป็นตำแหน่งที่เลวร้ายมากที่สุดเท่าที่จะคิดได้อีก——–หัวนมซ้ายขวาที่แพลมออกมาจากชุดนักเรียนที่ขาดวิ่นนั่น กำลังส่องประกายแสงวาววับแสดงให้เห็นถึงโพรงเสน่ห์กายิกสุขอยู่
“ เป็นที่ไหนไม่เป็น ทำไมถึงต้องมาเป็นตรงนั้นด้วยวะ! ”
จุดที่นางุโมะจะต้องหวาดระแวงมากเป็นอันดับหนึ่งอย่างแน่นอน
กำแพงเหล็กอันเป็นป้อมปราการที่มิอาจก้าวข้าม
แต่จะมาถอยหลังเอาป่านนี้ก็ไม่ได้แล้ว ฉันยืดมือสองข้างอัดเข้าใส่หัวนมของนางุโมะเต็มกำลัง
——หมับ
ถ้าเชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการช่วยถ่วงเอาไว้ได้แค่พริบตาเดียวก็พอ——-นั่นมันช่างเป็นความคิดที่แสนจะตื้นเขินเหลือเกิน
แขนสองข้างของฉัน ถูกนางุโมะคว้าหมับเอาไว้ในจุดที่อยู่ห่างไม่ได้เฉียดใกล้หัวนมเลยด้วยซ้ำ
เพล้งง——เสียงแสงเดือดพล่านพันธนาการถูกขยี้แหลกกระจุยอย่างแสนง่ายดาย มันเพิ่งจะดังล่าช้ามาเข้าหูเอาป่านนี้
“ …….ตะกี้ คิดจะทำอะไรน่ะ? กะจะกด หัวนมงั้นเรอะ? ”
“ อุ้กก……..!? ”
กรี๊กกรี๊ก….แขนสองข้างของฉันที่น่าจะแปลงสภาพกลายเป็นของอมนุษย์ไปแล้ว กำลังส่งเสียงเหมือนพร้อมจะถูกบีบแหลกได้ทุกเมื่อ
“ อ๊าาาาาาาากกกกกกกก!? ”
นางุโมะแผดเสียงร้องคำรามอะไรก็ไม่รู้ พร้อมกับเหวี่ยงฉันปลิวกระเด็นไป
โชคดีที่ร่างไม่ได้กระแทกชนเข้ากับเสาค้ำของทางเดิน แต่ตัวฉันก็กลิ้งกระเด็นกระดอนไปตามพื้นไม่รู้กี่รอบ โดนอัดด้วยแรงกระแทกคลุมไปทั่วทั้งร่าง
“ ฟุรุยะคุง!? ยังมีชีวิตอยู่รึเปล่า!? ไม่เป็นไรนะ!? ”
โซยะแผดเสียงราวกับกรีดร้อง
“ ฉั….นไม่เป็นไรหรอก ทั้งสองคนนั่นแหละรีบหนีไปเร็วเข้า! ”
เค้าลางที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากนางุโมะมัน ไม่ใช่ของมนุษย์อีกต่อไปแล้ว เผลอๆแล้วไอ้นี่มัน…..
“ เป็นอย่างที่คิดไว้จริงด้วย พวกนมใหญ่มันสุมหัวรวมตัวกันกลั่นแกล้งฉันสินะ……เหมือนกับเมื่อวาน ”
“ ฮิ…ฮี๊… ”
คาราสึมะที่โดนอัดด้วยจิตสังหารเข้าไปจังๆในระยะเผาขน ถึงกับล้มหมอบลงกับที่ด้วยใบหน้าที่รื้นไปด้วยน้ำตา
“ อาา ใช่แล้วล่ะ ผิดไปแล้วฉันมันผิดไปแล้วต่อให้กำจัดไอ้พวกที่เวทนาหรือหัวเราะเยาะใส่คนนมเล็กไปก็ไม่มีความหมายอะไรหรอก……ถ้ากำจัดไอ้พวกที่นมใหญ่มากยิ่งกว่าฉันให้หมดไปทั้งหมดทุกคนซะแบบนั้นฉันก็จะกลายเป็นคนนมหยั่ย……ที่แอบรู้สึกเคารพและเลื่อมใสเชิดชูคนนมหยั่ยตลอดมาจนถึงตอนนี้มันคือความผิดพลาด……ก็พวกนมหยั่ยมันจะรวมหัวกันกลั่นแกล้งฉันนี่นา ทั้งที่มีสิ่งที่ฉันโหยหาต้องการอยู่กับตัวแต่กลับหันมากลั่นแกล้งทำร้ายฉัน…….ฉะนั้นถ้าจะเล่นงานให้ย่อยยับไปเลยก็ไม่เป็นไร คนที่นมหยั่ยน่ะต้องถูกกระทืบให้เละคาตีน ถ้าไล่กำจัดตั้งแต่คนที่ใหญ่มากไปน้อยซะ…..ซักวันนึงฉันก็จะกลายเป็นคนนมหยั่ยได้ ”
“ นะ นี่มัน….อะไรน่ะ….. ”
โซยะเอาตัวเข้าปกป้องคาราสึมะด้วยสีหน้าที่ซีดเซียว
“ โกหก…..เป็นไปไม่ได้…..สเกล 6….!? ระ ระดับนี้มัน…..ถ้าไม่ใช่ 12 เซียนอัมพรละก็ชนะไม่ได้หรอก……! ”
ถึงจะอย่างนั้นแต่โซยะก็ใช้นิ้วมือที่สั่นเทิ้มควักเอายันต์ออกมา ทำการเรียกชิกิงามิ 4 ตัวออกมาปกป้องพวกตนเอาไว้
“ ก็บอกให้หนีไงเล่าเฮ้ย! ไอ้เจ้านั่นมันไม่ใช่ สาวนมหลีก อีกต่อไปแล้ว! ”
พอได้ยินคำพูดพึมพำๆของนางุโมะเข้า ฉันก็เพิ่งจะสังเกตได้ซะที
ทำไมนางุโมะถึงไม่ได้เกรงกลัวนมใหญ่อีกต่อไปแล้วนั่น
ทำไมทีมมากประสบการณ์ที่มีคนนมใหญ่อย่างคุณคาโดะกุระอยู่ด้วยถึงได้ถูกเล่นงานจนย่อยยับ
เหตุผลนั่นมันมีเพียงหนึ่งเดียว
นางุโมะได้ถูกคนนมใหญ่อย่างคุณคาโดะกุระไล่ต้อน จนอาการไคอิทรุดหนักมากขึ้น ไม่สิ อาการเปลี่ยนแปลงกลายพันธุ์ไปต่างหาก
กลายพันธุ์จากไคอิที่จะหลีกเลี่ยงคนนมใหญ่ กลายเป็นไคอิที่จะฆ่าล้างบางคนนมใหญ่
“ นมหยั่ย จะต้องถูกฉีก จะคว้านทิ้ง ให้หมดเลย ถ้าทำได้แบบนั้นฉันก็จะกลายเป็นคนนมหยั่ย…..นี่ ”
ถ้าจะตั้งชื่อใหม่ให้แล้ว ก็คงเป็น
“ เอานม มาให้ฉีกหน่อยนะ? ”
——สาวกระชากฉีกนม
เป็นในชั่วพริบตา ก่อนที่หมัดของนางุโมะที่แปลงสภาพกลายเป็นสาวกระชากฉีกนมจะป่นขยี้บริเวณอกของคาราสึมะจนแหลกเหลวได้นั่นเอง
[เย้~ยอีนมเล็ก!]
ชิกิงามิของโซยะพลันทำการปลดปล่อยคำพูดกวนประสาทระดับโคตรเด็ก หัวเราะอิอิไปพลางถอยเว้นระยะห่างออกจากสาวกระชากฉีกนม
กึก—สาวกระชากฉีกนมหยุดกึกอยู่โดยยังเพ่งหมัดเข้าใส่คาราสึมะอันเป็นเป้าหมายที่ต้องถูกกำจัด ก่อนจะสั่นเทิ้มหงึกๆไปทั่วทั้งตัว ถึงอย่างนั้นสายตาอันเปี่ยมล้นไปด้วยจิตสังหารก็ยังคงจับจ้องมองตรงไปยังนมยักษ์ของคาราสึมะอย่างต่อเนื่อง แต่พอเจอะเข้ากับคำพูดถัดมาของชิกิงามิที่ดังสะท้านเลือนลั่นว่า [เขียง!] ปุ๊บแล้ว ก็เหมือนว่าจะไม่อาจอดรนทนอยู่ได้ไหวอีกต่อไป
[ปิเกี๊ยก!?]
เส้นตรงแหน่ว….เจ้าสัตว์ประหลาดนั่นกระโดดเหินเวหาเข้าใส่ชิกิงามิที่ลอยล่องอยู่กลางอากาศ ก่อนจะใช้กำปั้นที่มีอานุภาพระดับทำให้ชั้นบรรยากาศสั่นสะเทือนซัดร่างของชิกิงามิจนแหลกกระจุยไม่เหลือซากในเปรี้ยงเดียว จากนั้นมันก็บิดตัวกลางอากาศหมายจะพุ่งเข้ามาทำร้ายคาราสึมะอีกครา ทว่า
[เย้ย~ แบนตะแล้ดแต๊ดแต๋]
[พื้นแนวระนาบ!]
[อ้าวตรงไหนข้างหน้าตรงไหนข้างหลังเธอกันเนี่ย?]
ชิกิงามิที่ยังหลงเหลืออยู่สามตัว ต่างก็พ่นคำพูดหาเรื่องจากตัวละทิศตัวละมุม ทำให้สาวกระชากฉีกนมหันความสนใจตรงไปทางฝั่งโน้น
“ ตอนนี้แหละนะอาโอยจัง! หนีกันเถอะ! ”
“ ฮิ ฮี๊—–! ”
โซยะวิ่งตรงเข้ามาทางฉัน ด้วยท่าทางเหมือนฝืนฉุดกระชากลากถูคาราสึมะที่เกือบๆจะเข่าอ่อนหมดแรง
“ ทำดีมากโซยะ! ”
ดูท่าทางเหมือนจะทำให้อาการไคอิมันยิ่งทรุดหนักก็จริงหรอก แต่ตอนนี้ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้หนีรอดจากสาวกระชากฉีกนมได้แล้ว
ฉันช่วยพยุงคาราสึมะด้วยกันกับโซยะ ก่อนจะวิ่งตรงออกไปนอกโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะ ให้ว่าแล้วไอ้นมยักษ์นี่แม่มเกะกะฉิบหายเลยว้อย!
“ ถอยกลับชั่วคราวก่อน! เอ้า วิ่งให้มันดีๆหน่อยสิวะคาราสึมะ! ”
“ เอะ เอ๊ะ ตะแต่ว่า หนีเช่นนี้มันจะดีแล้วน่ะหรือ? ถ้าปล่อยเอาไว้เช่นนี้สาวๆนมใหญ่ที่ยังอยู่ภายในโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะจะไม่ถูกเพ่งเล็งหมดหรอกหรือ!? ”
คาราสึมะน้ำตานองไปพลางกล่าวเป็นห่วงเหล่านักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะไปด้วย ถือเป็นการชี้แนะที่โคตรเป็นผู้เป็นคนเลยสำหรับคาราสึมะแล้วอะนะ แต่คนที่กำลังตกอยู่ในอันตรายมากที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่เหล่านักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะหรอก
“ ใช่เวลามาเป็นห่วงคนอื่นด้วยเรอะเอ็งน่ะ ป๊อดจัดจนไม่ทันสังเกตรึไงเฮ้ย? ”
พอฉันว่างั้นแล้ว โซยะก็พูดต่อออกมาพลางลากตัวคาราสึมะไปด้วย
“ ขนาดในระหว่างที่ชิกิงามิของฉันพูดกวนประสาทอยู่ แต่คุณนางุโมะเค้าก็เขม่นมองอาโอยจังไม่หยุดเลยนะ เค้ากำลังหมายหัวอาโอยจังเป็นเป้าหมายที่ต้องล่าให้ได้เป็นที่หนึ่งเลยล่ะ ”
“ ………เอ๊ะ? ”
คาราสึมะหันขวับไปเพ่งสายตาจ้องมองสาวกระชากฉีกนมที่อยู่ห่างไกลออกไป และแล้ว
“ กรี๊ดดดดดดด!? ตาสบกันด้วย!? หน้าหันไปอยู่ทิศอื่นแท้ๆ ตะ แต่ดวงตามันหักมุมแบบสุดยอดมาจ้องฉัน…..ฉันกำลังถูกมันล็อกออนอยู่งั้นหรือ!? ไม่เอานะ! ไม่อยากตาย! ยังไม่อยากต๊ายยยยย! ”
คาราสึมะเริ่มจะวิ่งด้วยตัวเอง ระหว่างนั้นก็พยายามจะกระชากดึงนมยักษ์ให้หลุดออกไปด้วยแต่ก็ไม่เป็นผล
พวกเราเอาแต่เผ่นเต็มที่อย่างเดียว เผ่นเพื่อหนีเอาตัวรอดจากสาวกระชากฉีกนม
แต่พวกชิกิงามิก็คงจะต้านถ่วงเวลาเอาไว้ให้ไม่ได้นานมากนักหรอก
การแปลงร่างของคาราสึมะก็ด้วย หากผ่านไป 30 นาทีมันก็จะคลายของมันเอง
คงเป็นเรื่องของเวลาแล้ว ก่อนที่สาวกระชากฉีกนม—–นางุโมะที่ถูกไคอิกลืนกินจะเริ่มพุ่งเข้าทำร้ายคนที่นมใหญ่ยิ่งกว่าตัวเองแบบไม่เลือกหน้า
จำเป็นต้องมีใครซักคนทำการปราบสาวกระชากฉีกนมซะในตอนนี้เลย
ใครซักคนที่ มีกำลังที่จะสามารถปราบได้น่ะ
MANGA DISCUSSION