ไล่ผีแบบเจอะหน้าปุ๊บแตะจึ๊กเดียวถึงสวรรค์! - ตอนที่ 20 ไล่ล่าตามหายัยนมเล็ก (3)
“ นักเรียนของโรงเรียนปราบมารที่เจอกับไคอิ สเกล 5 แล้วคว้าเอาข้อมูลกลับมาได้นั่นคือเธอสินะ? ”
หลังเลิกเรียน
ฉันกับคาราสึมะกำลังนั่งประจันหน้าอยู่กับทีมมืออาชีพที่เดินทางมาถึงก่อนกำหนด อยู่ภายในศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณ
“ อ่าก็….ใช่แหละครับ ”
ที่เอาข้อมูลกลับมาได้ด้วยดีนั่นเป็นเพราะถูกนมใหญ่ของเพื่อนร่วมทีมช่วยเอาไว้คับ….ทำใจพูดไปแบบนั้นไม่ลง ฉันจึงได้แต่ยิ้มอย่างคลุมเครือขึ้นมา
“ ยอดเยี่ยมมากเลย จริงๆแล้วฉันก็เป็นศิษย์เก่าของโรงเรียนเหมือนกันน่ะ ได้ทราบว่ามีรุ่นน้องที่เก่งกาจมากความสามารถแล้วก็ค่อยอุ่นใจไปที หากถึงศึกประชันในช่วงหน้าร้อนแล้วช่วยถล่มเจ้าพวกเซ่อในเกียวโตให้ย่อยยับดับอนาถไปเลยนะ ”
ผู้ที่ปั้นรอยยิ้มอย่างดุดันพลางขอจับมือ ก็คือสตรีอายุ 20 กลางๆที่เหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าทีม คุณคาโดะกุระ มาสึมิ…..เห็นว่าเป็นผู้ใช้ศาสตร์สายศาสนาพุทธ ก็เลยสวมชุดนักพรตที่ถูกดัดแปลงให้เคลื่อนไหวได้ง่ายกับพกไม้ขักขระเอาไว้อยู่ติดตัว
ผู้ใช้ศาสตร์อีกสามคนที่ประกอบสร้างเป็นทีมก็สวมเครื่องแต่งกายคล้ายๆกัน
ว่าตามตรงแล้ว ไอ้เจ้ากงล้อทองคำที่ติดอยู่ตรงปลายบนสุดของไม้ขักขระนั่นมันส่งเสียงกริ้งๆหนวกหูอยู่หรอก แต่อุบเงียบไว้จะดีกว่า
เพราะทุกคนซึ่งมีคุณคาโดะกุระเป็นตัวแทนนั้น ได้ปลดปล่อยแรงกดดันและพลังวิญญาณระดับไม่ใช่เล่นๆให้ล่องลอยปกคลุมอยู่รอบตัวเลยไงล่ะ มองผิวเผินแล้วอาจเห็นว่าเป็นมิตรก็จริง แต่ถ้าเผลอเหลิงพูดจาแบบเป็นกันเองใส่ละก็มีหวังได้โดนไม้ขักขระฟาดเละแหงๆ
เจ้าคาราสึมะมันก็อยู่ในที่นี่มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้วก็จริง แต่สงสัยจะสัมผัสถึงความกดดันแบบเดียวกับคาเอเดะได้จากคุณคาโดะกุระละมั้ง มันก็เลยสงบเสงี่ยมเจียมตัวไม่ได้ทำท่าเหมือนคิดจะจีบเลยซักนิด ทั้งที่คุณคาโดะกุระเค้าเป็นคนสวยหน้าอกใหญ่เบ้อเริ่ม (ถึงจะไม่เท่านางุโมะก็เหอะ) ระดับที่ขนาดมีชุดนักพรตทับอยู่ก็ยังดูรู้เลยแท้ๆนะ
“ แล้ว เกี่ยวกับ ไคอิ A แห่งเมืองชิโนโนเมะ นี่ ”
คุณคาโดะกุระกล่าวทักทายแบบพอดีตัวแล้วจึงเปิดเข้าประเด็น
ดูเหมือนจะถือแนวทางไม่ยอมใช้คำเรียกว่าสาวนมหลีกแฮะ เอ้อแต่ก็สมควรแล้วแหละ ก็ถ้าเกิดคนบรรยากาศดูจริงจังกับการงานแบบนี้พูดว่าสาวนมหลีกออกมาคงขำกลิ้งแหง มีหวังได้โดนไม้ขักขระฟาดน่วมตายกันพอดี
“ เป็นเด็กผู้หญิงหน้าอกเล็กที่ศึกษาอยู่ในโรงเรียนมัธยมปลายแห่งนี้ไม่ผิดแน่ใช่ไหม? ”
“ ครับ แต่สุดท้ายที่รู้มันก็มีแค่นั้น ยังไม่อาจจะระบุตัวจริงของสาวนมหลีกได้เลยครับ ”
ในระหว่างที่ว่า ฉันก็ส่งเอกสารให้กับคุณคาโดะกุระ
คือใบรายละเอียดห้องเรียนที่โซยะทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณในช่วงเช้า และก็ลิสต์รายชื่อคนภายในห้องนั้นที่อาจจะเป็นสาวนมหลีกเอาไว้น่ะ
ขนาดฉันเขียนเองกับมือก็ยังมีคิดเลยว่าทำเอกสารโรคจิตอะไรฟะเนี่ย แต่นี่ก็เพื่อคลี่คลายคดียังไงล่ะ ไม่มีทางเลือกยังไงล่ะ เออไม่มีทางเลือกเลยจริงๆเว้ยเชื่อดิ
“ นี่คือ…..? ”
คุณคาโดะกุระกวาดตามองเอกสารแบบผ่านๆก่อนจะขมวดคิ้ว เล่นเอาฉันลนลานไปพักนึงเลยคิดว่าจะโดนเค้าหยึยเอาซะแล้ว แต่ดูดีๆแล้วเหมือนว่าจะแค่ตกตะลึงธรรมดาเฉยๆแฮะ
“ เป็นผลจากการที่เพื่อนร่วมทีมของเราทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณน่ะครับ เพราะพลังวิญญาณหมดเข้าระหว่างทางก็เลยกลายเป็นเอกสารที่ออกจะครึ่งๆกลางๆก็จริง แต่ก็น่าจะช่วยให้พวกคุณคาโดะกุระทำการค้นหาไคอิได้อย่างมีประสิทธิภาพดีมากยิ่งขึ้นล่ะครับ ”
“ เป็นเด็กนักเรียนที่ยังไม่มีใบอนุญาตชั่วคราวด้วยซ้ำ แต่กลับทำเอกสารที่ประณีตระดับนี้ได้ภายในวันสองวันเลยเชียวหรือ? …….จะว่าไปแล้วตอนนี้พวกเธออยู่กันแค่สองคนเองนี่นะ สมาชิกทีมคนอื่นไปอยู่ที่ไหนเสียล่ะ ”
“ เอ่อ~ ”
เป็นตอนนั้นเอง ที่เสียงของโซยะพลันดังจากทางเดินทะลุผ่านประตูเข้ามาในศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณ
“ พอดีได้ยินว่าพวกคุณมืออาชีพเค้ามาถึงกันแล้วน่ะ แถมพลังวิญญาณก็ฟื้นฟูกลับมาได้หน่อยแล้วด้วยเลยว่าจะขอทักทายนิดหน่อยก็ยังดีน่ะนะ ”
เห็นเงากระโดดดึ๋งๆผ่านกระจกฝ้าที่ติดอยู่กับบานประตู
คุณคาโดะกุระเห็นแบบนั้นแล้วก็พลันแสดงสีหน้าไม่พอใจ ก่อนจะปล่อยพลังวิญญาณให้พองโตออกมาราวกับว่าเป็นการกดดัน
“ ถ้าอย่างนั้นก็รีบเข้ามาเสียสิ ทำเป็นพูดดิบดีว่ามาทักทาย แต่มัวส่งเสียงผ่านประตูอยู่ได้ ”
“ เอ่อ แต่ว่า ”
แต่โซยะก็เอาแต่อมคำพูดอยู่ตรงอีกฝั่งของบานประตูอยู่นั่น ไม่มีท่าทางว่าจะเข้ามาเลยซักนิดเดียว
“ เป็นอะไร? รีบๆเข้ามาได้แล้ว ”
“ จะดีเหรอคะ? หนูคือโซยะ มิซากินะ…… ”
“ แล้วมันทำมะ……อื๋อ? โซยะ มิซากิ!? ”
เรียกได้ว่าหยั่งกะฟ้าผ่าเปรี้ยงเลยเชียวเว้ย
พวกคุณคาโดะกุระที่ได้ยินชื่อโซยะเข้าถึงกับหน้าเปลี่ยนสี เริ่มทำการเอาตัวดันประตูเอาไว้สุดกำลังโดยไม่มีอับอายขายขี้หน้ากันเลยแม้แต่นิด โดยเฉพาะคุณคาโดะกุระนี่คือถึงกับเอาไม้ขักขระมายันประตูแล้วทำท่าเหมือนจะเปิดใช้ศาสตร์วิชาสายข่ายอาคมอะไรซักอย่างเลยด้วยซ้ำนั่น ความน่าเกรงขามของผู้มากประสบการณ์ปลิวกระจุยไม่เหลือซากในบัดดลเลยอะครับ นี่มันอิหยังวะ…..
“ อย่าบอกนะว่า เธอคือคุณหนูตระกูลโซยะหรือ!? ผู้ถือครองเนตรมารฝันนั่น!? ”
คุณคาโดะกุระตะโกนไปยังอีกฝั่งของบานประตูด้วยน้ำเสียงอันสั่นเครือ
“ ค่ะ ก็ใช่หรอก ”
“ มันเป็นแบบนี้นี่เอง….เพราะแบบนี้เอกสารที่ถูกส่งให้มานั่นจึงได้ละเอียดระดับนั้นสินะ…..อ๊ะไม่สิ ขออภัยด้วยนะ! ถ้าจะทักทายก็เชิญพูดผ่านประตูมาได้เลย! ได้ยลโฉมคุณหนูตระกูลดังที่เลื่องชื่อลือชาในนาม <<โซยะแห่งชิกิงามิ>> เช่นนี้นับว่าเป็นเกียรติของฉันยิ่ง! ”
เอิ่มแต่ยังไม่ได้ยลเลยซักนิดไม่ใช่เรอะเฮ้ย
“ เอ่อ นี่ทุกคน รู้เรื่องความสามารถของโซยะกันด้วยเหรอครับ….. ”
“ ต้องรู้แน่นอนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ! พวกเราเป็นผู้ปราบมารมืออาชีพนะ! ”
ก็ไม่เข้าใจหรอกนะว่าทำไมเป็นมืออาชีพแล้วจะต้องรู้แน่นอน แต่จะว่าไปแล้วก่อนหน้านี้โซยะก็เคยพูดอยู่นี่เนอะ ว่าเนตรมารฝันของโซยะมันโด่งดังในหมู่ผู้ปราบมารระดับสูงแน่ะ
“ ให้ว่าแล้วทางฉันนี่ต่างหากอยากจะถาม! พวกเธอยอมตั้งทีมร่วมกับเธอคนนั้นโดยที่รู้ทั้งรู้ถึงความสามารถนั่นงั้นหรือ!? ”
“ เอ๊ะ? อ่า ครับ ”
พอฉันกับคาราสึมะพยักหน้าปุ๊บ พวกคุณคาโดะกุระที่ทำสีหน้าช็อกก็พลัน
“ งั้นหรือ…..สมแล้วที่เป็นทีมซึ่งเอาตัวรอดจาก สเกล 5 ได้ทั้งที่ยังละอ่อน จิตใจแข็งแกร่งประดุจเหล็กไหลจริงๆ….. ”
พึมพำอะไรที่แสนจะโอเวอร์เกินจริงออกมาแบบนั้น ไม่รู้หรอกนะว่าอะไรมาไงแต่เหล่าพวกคุณผู้มากประสบการณ์เค้าหวาดหวั่นยำเกรงพวกเรากันใหญ่เลยแฮะ
เอ้ยแต่ว่า ไอ้ฉันเนี่ยโดนยัยนั่นมันลิสต์เรียงข้อมูลกามๆเพื่อใช้เป็นเครื่องมือข่มขู่กันตั้งแต่เจอะหน้าครั้งแรกเลยนี่หว่า ฉะนั้นมาจนป่านนี้แล้วก็ไม่มีทั้งนั้นแหละจิตใจแข็งแกร่งประดุจเหล็กไหลอะไรนั่นน่ะ ส่วนไอ้เจ้าคาราสึมะมันก็เป็นโรคจิตแต่เดิมไง หรือไม่ก็คนบ้า
“ แต่งั้นหรือ มีคุณหนูตระกูลโซยะอยู่ด้วยหรอกหรือนี่ ”
คุณคาโดะกุระที่เอาตัวดันแนบชิดติดประตูอยู่ด้วยท่าประหลาดๆ พลันครุ่นคิดอะไรซักอย่างด้วยสีหน้าจริงจัง ก่อนจะ
“ ถ้าอย่างนั้นก็ขอฝากฝังหน้าที่ตรวจสอบเชิงวิญญาณภายในบริเวณโรงเรียนให้กับพวกเธอไปซักระยะก่อนน่าจะดีกว่ากระมัง ”
“ เอ๊ะ? ”
“ แน่นอนว่าเราจะทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณเพื่อระบุตัวไคอิ โดยเน้นตรวจไปยังนักเรียนซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นไคอิที่ถูกลิสต์รายชื่อเอาไว้ในเอกสารที่เธอเพิ่งจะส่งมาให้นั่นด้วย แต่ถ้าให้คุณหนูตระกูลโซยะทำการตรวจสอบเชิงวิญญาณใส่นักเรียนคนอื่นๆนอกเหนือไปจากในรายชื่อนั่นแบบคร่าวๆด้วยมันก็จะได้ประสิทธิภาพดีล้ำมากยิ่งขึ้นน่ะนะ ความน่าปวดหัวของไคอิมันอยู่ที่อำนาจการแฝงซ่อนตัวอันสูงส่งนั่นล่ะ หากมีนักเรียนเยอะมากเช่นนี้ทางเราเองก็รับมือได้ไม่หวาดไม่ไหวเช่นกัน ”
“ เอ้อก็จริงอยู่หรอกนะครับ……แต่ถ้างั้นในระหว่างนั้นนี่พวกคุณคาโดะกุระจะทำอะไรกันเหรอ? ”
พอฉันยิงคำถามใส่ไปปุ๊บ คุณคาโดะกุระก็ยิ้มใส
“ พวกเราจะขอลงมือตามแบบฉบับที่ทำอยู่เสมอมาก็แล้วกัน ”
ว่าแล้ว เค้าก็เหวี่ยงยันต์หนึ่งใบออกไปนอกหน้าต่าง
“ เหวย!? ”
สิ่งที่พลันปรากฎกายออกมาจากยันต์ ก็คือมังกรหนึ่งตัวที่มีรูปทรงคลับคล้ายกับงู เป็นชิกิงามิที่ระดับสูงพอตัวเลย
“ อยู่ต่อหน้าคุณหนูตระกูลโซยะเช่นนี้แล้วคงจะไม่ใช่สิ่งที่น่าโอ้อวดอะไรก็จริงอยู่ แต่เจ้านี่มันคือ สเกล 4 ที่แกร่งเฉพาะทางในด้านการเคลื่อนไหวระยะสั้นๆน่ะ ”
พวกคุณคาโดะกุระทำการปลดข่ายอาคมที่กางเอาไว้กับบานประตูศูนย์ให้คำปรึกษาเชิงวิญญาณ ก่อนจะกระโจนขึ้นไปขี่หลังมังกร
“ สิ่งที่ชวนปวดหัวที่สุดในการไล่ไคอิก็คืออำนาจการแฝงซ่อนตัว ฉะนั้นวิธีการที่จะได้ผลดีและรวดเร็วมากที่สุด ก็คือการเข้าบดขยี้ตรงๆในระหว่างที่มันกำลังก่อเหตุยังไงล่ะ ”
คุณคาโดะกุระกวาดสายตามองไปทั่วเมืองชิโนโนเมะจากข้างบนมังกร ก่อนจะ
“ จากนี้ไปเราจะทำการกางข่ายอาคมสำหรับใช้ตรวจจับไคอิให้ครอบคลุมไปทั่วเมืองชิโนโนเมะ ”
พูดอะไรที่โคตรจะบ้าบอสุดขีดออกมา
คิดว่าคงต้องให้ทุกคนในทีมประสานรวมพลังกันทั้งหมดก็จริงหรอก ทว่าถึงจะอย่างนั้นก็เถอะแต่เล่นระดับทั่วเมืองเลยนี่มันก็เกินไป เป็นศาสตร์วิชาที่มีสเกลกว้างขวางระดับไหนเลยเชียวนั่น
“ หากพวกเรารีบรุดไปยังที่เกิดเหตุในฉับพลันเดียวกับที่ไคอิปรากฎตัวขึ้นมาเสีย ก็จะยับยั้งไม่ให้มีผู้ตกเป็นเหยื่อมากไปกว่านี้ได้ และต่อให้ไคอิ A จะหวาดระแวงกลัวพวกเราจนไม่กล้าโผล่หัวออกมาก็ตามที แต่ถ้ามีพลังตรวจสอบเชิงวิญญาณของพวกเธออยู่ ก็คงจะเปิดโปงตัวตนของมันได้ในโดยเร็วอยู่ดี ”
และแล้วสายลมในบริเวณโดยรอบของมังกร ก็พลันหมุนวนผสานไปตามคำพูดของคุณคาโดะกุระ
เหมือนว่าคิดจะไปทำการกางข่ายอาคมกันตอนนี้เลยสินะนั่น
“ เอ่อ คุณคาโดะกุระครับ! ”
พอได้ยินคุณคาโดะกุระพูดว่า “หวาดระแวงกลัวพวกเราจนไม่กล้าโผล่หัวออกมา” แล้ว ฉันก็นึกขึ้นได้ว่ายังมีเรื่องที่ไม่ได้แจ้งให้พวกเค้ารู้อยู่
“ สาวนม…..เอ้ยไคอิ A เนี่ย คือว่า มันมีนิสัยชอบหลีกผู้หญิงที่หน้าอกใหญ่ๆน่ะครับ ฉะนั้นได้โปรดระวังอย่าปล่อยให้มันหนีรอดไปได้นะครับ! ”
ตามจริงแล้วไม่อยากจะพูดอะไรแบบนี้ด้วยเสียงดังลั่นหรอกนะ แต่ประเด็นคือลมที่มังกรมันพัดสร้างขึ้นแม่มโคตรหนวกหูเลยไงพวกเอ็ง ช่วยไม่ได้ไง
เท่านั้นแหละคุณคาโดะกุระถึงกับยกเอามือขึ้นมาปิดนมตัวเองนิดๆ แล้วพอมองต่ำลงมาหาฉันด้วยท่าทางเหมือนหยึยหน่อยๆแล้ว
“ …….ขอบคุณที่แบ่งปันข้อมูล ”
สายลมโหมกระหน่ำ ทำให้มังกรที่แบกพวกคุณคาโดะกุระอยู่เลือนหายไปยังอีกฟากฝั่งของท้องฟ้าในชั่วอึดใจเดียว
“ ถ้าเร็วระดับนั้นละก็ รุดมาถึงที่เกิดเหตุได้ก่อนที่จะมีใครต้องตกเป็นเหยื่อแน่ๆล่ะ ”
ความสามารถของพวกคุณคาโดะกุระมันทรงพลังเหนือล้นอย่างมาก สมแล้วที่เป็นทีมมากประสบการณ์ซึ่งถูกส่งเข้ามาเพื่อไล่ไคอิระดับสเกล 5
ตอนที่รู้ว่าเนตรมารฝันของโซยะพึ่งพาไม่ได้นั่นมีลนว่าจะทำยังไงดีอยู่หรอก แต่แบบนี้คงไม่มีอะไรให้ต้องห่วงละมั้ง
“ แต่ว่าก็ว่าเถอะ ”
พอเปิดประตูศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณให้โซยะเข้ามาแล้ว คาราสึมะก็พูดเบาๆออกมา
“ ถึงจะทำเป็นพูดเรียงหลักการมีเหตุมีผลเสียดิบดี แต่ก็จากไปราวกับว่าเผ่นหนีจากแม่หนูมิซากิเลยมิปานนะนั่น ”
“ โดนพวกคุณๆผู้ปราบมารระดับสูงเค้าหลบหน้าอีกแล้วง่าา…… ”
โซยะฟุบลงกับพื้นพลางร้อง “ฮือออ”
เอ้อก็ถ้ารู้เรื่องเนตรมารฝันอยู่ก่อนล่วงหน้า จะเป็นแบบนั้นมันก็ไม่แปลกอะนะ
“ แม้กระทั่งแม่หนูคาโดะกุระที่ดูดุดันขึงขังก็ยังแตกตื่นลนลานมากถึงเพียงนั้นเลยเชียวหรือ ถึงจะทำตัวให้ดูราวกับว่าตนเองยิ่งใหญ่ แต่เหมือนว่าชีวิตช่วงกลางคืนนี่จะเปี่ยมล้นเต็มไปด้วยข้อมูลที่ไม่อยากให้คนอื่นล่วงรู้งั้นสินะ ขึหึหึ แม้จะไม่ทราบรายละเอียดเบื้องลึก แต่รู้เพียงเท่านี้ก็…..ขึ้นแล้ว! ”
คาราสึมะทำหน้าตาเคลิบเคลิ้มจ้องมองท้องฟ้าฝั่งที่พวกคุณคาโดะกุระเค้าหายลับไป มีไอ้เจ้านี่คนเดียวเท่านั้นแหละมั้งที่ไม่คิดจะหลบหน้าโซยะ เผลอๆได้อยู่ด้วยกันแล้วมันน่าจะยิ่งมีความสุขหนักมากไปใหญ่เลยด้วยซ้ำนั่น
“ หยุดพูดอะไรง่าวๆ แล้วก็มาทำในสิ่งที่พวกเราพอทำได้กันเหอะเว้ย ในระดับที่ไม่ต้องให้โซยะฝืนตัวเองมากเกินไปน่ะนะ ”
ถึงไอ้ฉันจะทำเป็นวางท่าพูดคุมงานซะดิบดีก็เหอะ……
“ แต่เอาจริงๆแล้วก็ใช่ว่าจะมีปัญญาช่วยอะไรได้แบบเป็นชิ้นเป็นอันซะหน่อยนี่เนอะ ”
ฉันเดินเหม่อลอยไปตามโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะในช่วงหลังเลิกเรียน
การตรวจสอบเชิงวิญญาณด้วยเนตรมารฝันนั้นให้เป็นหน้าที่โซยะคนเดียวก็เกินพอ
การตรวจตรารอบเมืองนั่นก็ได้คุณคาโดะกุระช่วยกางข่ายอาคมไว้ให้แล้ว
ถ้าจะมีสิ่งใดที่พอจะทำได้ ก็คงมีแค่ให้ฉันกับคาราสึมะรับช่วงต่องานในศูนย์ให้คำปรึกษาด้านภัยวิญญาณเพื่อที่โซยะจะได้เพ่งสมาธิจดจ่ออยู่กับการตรวจสอบเชิงวิญญาณได้ ไม่ก็เดินตรวจเช็คอยู่แบบนี้ เพื่อดูว่ามีวิญญาณเบ็ดเตล็ดมารวมตัวอยู่ในโรงเรียนซึ่งเปี่ยมล้นไปด้วยความหวาดกลัวสาวนมหลีกรึเปล่าแค่นั้น
โชคดีไปที่เหมือนจะไม่มีความจำเป็นต้องให้เทคโนเบรคเกอร์ได้ออกโรง แต่ทำได้แค่อยู่นิ่งเฉยในสถานการณ์ที่มีสเกล 5 เดินร่อนอยู่ทั่วเมืองแบบนี้มันก็ชวนให้อยู่ไม่สุขเลยอะนะ
“ อ้าว? ฟุรุยะไม่ใช่เรอะนั่น ”
เป็นตอนนั้นเองที่พลันมีเสียงหนึ่งดังขึ้นเข้ามาทัก
“ โอ๊ะ นางุโมะเรอะ เหมือนจะไม่ได้เจอกันพักนึงเลยแฮะ ”
พอหันไป ก็พบนางุโมะ มุตสึมิที่เหมือนว่ากำลังดื่มน้ำก๊อกข้างๆโรงยิม กวักมือเรียกกันอยู่
คงอยู่ระหว่างช่วงพักของชมรมเคนโด้ละมั้ง คุณหล่อนแกเลยสวมชุดโดกิอยู่โดยไม่มีอุปกรณ์ป้องกันใดๆ เหมือนว่าจะเอาผ้ามามัดกดนมเอาไว้ซะดิบดีแล้วก็จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสะกดมันเอาไว้ไม่ได้ นมใหญ่เบิ้มที่ปูดพองขึ้นมาราวกับเป็นการบ่งบอกถึงตัวตนของตัวเองนั่นมันช่างดึงดูดยั่วยุสายตาของไอ้ฉันเหลือเกิน
“ ไหวจริงๆเหรอวะ ได้ยินว่าแกโดนสาวนมหลีกมันเล่นงานจนย่ำแย่ไปเลยเหมือนกันนี่หว่า ”
ถึงแม้วาจาคำพูดจะดูออกหยาบๆ แต่สีหน้านั่นก็เปี่ยมล้นเต็มไปด้วยความห่วงใยเลยทีเดียว
“ เหวย กลายเป็นข่าวลือแบบนั้นแล้วเรอะ…….เอ้อแต่ก็อย่างที่เห็นนี่แหละ แข็งแรงดีไม่มีอะไรต้องห่วง ”
“ งั้นก็ดีอยู่หรอกว่ะ……. ”
นางุโมะจ้องร่างฉันก่อนจะถอนหายใจอย่างพึงพอใจ
“ แบบว่าไงดี กลายเป็นเรื่องใหญ่ซะแล้วนะ เพิ่งจะเคยมีประกาศเตือนภัยวิญญาณก็นี่แหละครั้งแรก พวกอาจารย์ก็ดูประหม่ากันแปลกๆอีกตะหาก….ขอถามตรงๆเลยละกัน สถานการณ์ตอนนี้ย่ำแย่เอาเรื่องเลยใช่ป่าว? ”
เราแจ้งเรื่องที่ว่าผู้ต้องสงสัยคือนักเรียนของโรงเรียนมัธยมปลายชิโนโนเมะให้ทางอาจารย์รับทราบแล้ว
แต่จะพูดเรื่องนั้นให้กับนางุโมะที่เป็นนักเรียนก็ไม่ได้
“ เอ้อ เกิดเรื่องเหนือความคาดหมายจนอาจทำให้คลี่คลายล่าช้าหน่อยก็จริง แต่กลุ่มมืออาชีพที่มีความสามารถสูงเค้าก็มาถึงกันแล้วด้วยนี่นะ ที่เหลือก็แค่ให้เค้าจัดการเกือบๆทั้งหมดนั่นแหละ ”
พูดออกมาราวกับพยายามทำให้สบายใจ
แต่นางุโมะกลับทำสีหน้าฉงนสงสัย พร้อม
“ พูดจริงแน่เรอะ ”
เอาศอกดันๆถูไถเข้ากับไหล่ไอ้ฉันนี่
ทั้งที่ตอนเล่าถึงไคอิให้ฟังก่อนหน้านี้ ยัยนี่ยังพูดทำนอง “หรือก็คือต่อยมันให้น่วมได้สินะ!?” แล้วโล่งอกสบายใจซะง่ายๆอยู่เลยแท้ๆ เอ้อแต่ถ้าเกิดเหตุระดับเสาไฟฟ้าหักโค่นรั้วแหลกกระจุย จนถึงกับมีการประกาศเตือนภัยวิญญาณขึ้นมา มันก็คงทำใจให้สบายไม่ได้ง่ายๆนั่นแหละนะ
“ จริงๆ แต่เพราะไคอิเนี่ยมันมีอำนาจแฝงซ่อนตัวสูงไง กว่าจะหาให้เจอได้เลยอาจจะต้องลำบากกันพอควรเลยเหมือนกันอะนะ ”
“ กว่าจะหาตัวเจอได้อาจต้องลำบาก……แต่ไคอินี่มันคือมนุษย์เป็นๆไม่ใช่เรอะ? ไอ้พวกสติแตกระดับคิดทำร้ายคนอื่นนี่ ต่อให้ไม่มีพลังวิญญาณแต่ก็น่าจะหาตัวเจอได้ไม่ยากนะ ”
“ คิดงั้นใช่มั้ยล่ะ? ประเด็นคือไคอิเนี่ยมันเป็นตัวที่น่าปวดหัวสุดๆเลยไง ”
“ น่าปวดหัว? ”
“ มนุษย์ที่สติแตกนั่นจะไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าตนเองสติแตก และมันก็จะไม่แสดงอาการให้คนรอบๆตัวสังเกตเห็นความผิดปกติด้วยเช่นกัน ฉะนั้นถ้าแค่มองเพียงผิวเผินก็จะไม่อาจรู้ว่าแหม่งได้เลยไงล่ะ แถมโดยปกติแล้ว ไคอิมันจะแอบซ่อนตัวอยู่ลึกๆภายในใจของเจ้าของร่างด้วย ก็เลยตรวจสอบเชิงวิญญาณได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่อีก…….กล่าวคือการจะตามหาตัวให้เจอในสภาพก่อนจะแปลงเป็นไคอิแล้วทุบให้หมอบเนี่ยมันเป็นอะไรที่โคตรจะยากมากๆเลยแหละ ”
ได้ยินคำอธิบายของฉันแล้ว นางุโมะก็ถึงกับทำหน้าเครียดราวกับจะสื่อว่า “ย่ำแย่โคตรๆไปเลยไม่ใช่เรอะ” ขึ้นมา
“ แต่พวกคุณมืออาชีพที่ถูกส่งมาเป็นกำลังเสริมเค้าก็รู้ถึงจุดนี้เหมือนกัน ก็เลยทำการกางข่ายอาคมไว้รอบทั้งเมืองชิโนโนเมะแล้วน่ะ ถ้าสาวนมหลีกมันเซ่อซ่าออกมาให้โดนปราบซะ ก็จะไม่มีผู้เคราะห์ร้ายเพิ่มขึ้นมาอีกแล้ว ”
ฉันพูดให้คำขาด เพื่อยุให้นางุโมะซึ่งทำสีหน้ากังวลกลับมาโล่งอกอีกครั้ง
———แต่มันเป็นในไม่กี่ชั่วโมงให้หลังนั่นเอง ที่ทีมมืออาชีพซึ่งมีคุณคาโดะกุระเป็นผู้นำ ได้ถูกเล่นงานจนหมดสภาพย่อยยับ