—–ตึง
เกิดเสียงเล็กๆบางอย่างดังออกมาจากด้านบนของตู้เสื้อผ้า อันน่าจะเป็นส่วนที่เชื่อมต่อติดอยู่กับบริเวณใต้หลังคา
ตามด้วยเสียงดัง ตุบ! ที่ฟังดูราวกับว่ามีอะไรบางอย่างตกลงมา
“ ……….ขึก! ”
บรรยากาศที่แต่เดิมก็ชวนอึมครึมมากพออยู่แล้ว พลันเพิ่มระดับความหนักหน่วงมากยิ่งขึ้นอีกในรวดเดียว
“ เค้าลางนี่มัน สเกล 3…..!? กองกิจการนักเรียนตรวจสอบล่วงหน้าผิดพลาด—- ”
โซยะถอยกรูดพลางพึมพำออกมา แต่เป็นในฉับพลันให้หลังนั่นเอง
[อ๊าาาาาาาาาาาาาาา!]
ที่ผู้หญิงซึ่งสะบัดหัวเหวี่ยงเส้นผมสีดำไปมาพลันพุ่งทะยานออกมาจากตู้เสื้อผ้า คลานสี่ขาไล่ตรงดิ่งเข้ามาทางนี้เฉยเลยนั่นเฮ้ย!
พวกเราสามคนถึงกับเผ่นป่าราบถล่มไปยังบันไดที่เชื่อมต่ออยู่กับชั้นหนึ่งอย่างไม่คิดชีวิต
กะจะใช้จังหวะที่ชิกิงามิทั้ง 3 ตัวของโซยะคอยต้านวิญญาณร้ายเอาไว้ให้นี่ เผ่นตีนไฟลุกหนีออกไปนอกบ้านแหละ
“ เอ้ย หนีได้ยังไงกันเล่า! ต้องไล่ผีสิ! ”
“ เจอะไอ้ตัวน่าหยะแหยงแบบนั้นใครแม่มจะไม่เผลอตัวเผ่นมั่งฟะ! แล้วก็โซยะ เธอเป็นคนห้อง B ไม่ใช่เรอะเฮ้ย! ถ้าระดับแค่สเกล 3 ละก็ถึงจะเหนื่อยตึงมือหน่อยแต่ก็น่าจะพอจัดการได้ไม่ใช่เรอะ!? ”
“ อะ เอ่อ….เรื่องนั้นคือ ”
เป็นตรงนี้เองที่โซยะพลันส่ายตาหนีทำไมก็ไม่รู้ และในระหว่างที่เราแว้ดใส่กันอยู่แบบนั้น หญิงคลานสี่ขาที่เหมือนว่าจะกำจัดพวกชิกิงามิที่หลงเหลืออยู่ได้หมดเกลี้ยงในพริบตามันก็พลันแล่นลงบันไดมาด้วยความเร็วมหาศาลดัง ตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึงตึง!
“ ฮึ้ยย! ขอร้องล่ะช่วยได้ผลทีเถอะนะ! ”
โซยะที่ลงมาเหยียบพื้นห้องนั่งเล่นแผดเสียงพูดอะไรที่ฟังแล้วโคตรจะชวนกังวลออกมา ก่อนที่จะเหวี่ยงยันต์ไปยังบริเวณโดยรอบของหญิงคลานสี่ขา
“ ข่ายอาคมหลากชั้นหกแฉก! ”
พลันมีข่ายอาคมขนาดเล็กปรากฎขึ้นมารอบๆตัวหญิงคลานสี่ขา ถึงแม้ขนาดจะต่างกัน แต่ก็เป็นศาสตร์วิชาเดียวกันกับที่เหล่านักเรียนระดับ S ใช้เพื่อต้านการเคลื่อนไหวของนางยักษ์ที่อาละวาดคลุ้มคลั่งเพราะโซยะในวันก่อนนั่นแหละ
[เกี๊ยะ!?]
หญิงคลานสี่ขากระแทกชนเข้ากับกำแพงก่อนที่จะหยุดกึก ได้ผลด้วยเว้ย
“ สมกับเป็นห้อง B! ”
ไอ้ฉันฉวยโอกาสนี้ เริ่มต้นทำการตรวจหาโพรงเสน่ห์กายิกสุขของหญิงคลานสี่ขาหรอก ทว่า
[อ๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา!]
เส้นผมของหญิงคลานสี่ขาฟูฟ่องตั้งชูชัน พุ่งเข้ารัดพันข่ายอาคมหลากชั้นหกแฉกของโซยะ เพราะเหตุนั้นเอง โฉมหน้าของหญิงคลานสี่ขาที่ดูดีมีเสน่ห์มากผิดขาดก็เลยถูกเผยให้เห็น เล่นทำเอาไอ้คาราสึมะถึงกับร้องเฮลั่นดัง “โอ้ววว!?” อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือเลยนั่น และในฉับพลันให้หลัง
ข่ายอาคมหลากชั้นหกแฉกของโซยะก็ถูกกระชากฉีกหายลับไปหยั่งกับเป็นเศษกระดาษ อืมไอ้ฉันนี่ถึงกับอึ้งแดกเลยเว้ยพวกเอ็ง
“ เฮ้ยยโซยะ! แม่มไม่พังเร็วเกินไปหน่อยเรอะเนี่ย! ”
“ ก็มัน! ”
โซยะพูดออกมารัวๆด้วยหน้าตาหยั่งกับต่อมน้ำตาจะแตกแหล่มิแตกแหล่
“ ก็ฉันน่ะ เป็นตัวแถมของห้อง B ที่เข้ามาได้เพราะใช้ศาสตร์ได้หลากหลายรูปแบบ กับมีความสามารถตรวจสอบเชิงวิญญาณแบบพิเศษ….แล้วก็ให้ที่บ้านช่วยใช้เส้นให้นี๊ดส์นึง นี่นา! ศาสตร์ทั้งหมดที่ใช้ได้มีความทนทานกับความแม่นยำแค่ระดับห้อง D เท่านั้นเอง…… ”
ตะกี้นี้คาราสึมะชมโซยะว่า “ออมพลังวิญญาณได้ยอดเยี่ยม” อยู่หรอก แต่ไม่ใช่เลยซักนิดเดียวแฮะ พลังเต็มที่ของโซยะมันได้แค่ระดับพอจะใช้ปราบวิญญาณเบ็ดเตล็ดสเกล 1 ได้พอดีต่างหาก
ก็คิดอยู่แล้วเชี๊ยวว่ามันดูแหม่งๆยังไงชอบกล
“ โซยะนี่เธอ มีปัญญาทำได้แค่นั้นแต่ก็ยังมั่นหน้าคิดจะเป็นใหญ่เป็นโตระดับ 12 เซียนอัมพรได้อีกนะ! นี่มันพวกทำได้หมดแต่ไม่เก่งจริงซักอย่างที่มีดีแค่ความสามารถตรวจสอบเชิงวิญญาณสุดโรคจิตเท่านั้นเองนี่หว่า! ”
“ อ๊าา~! ตะกี้นี้พูดว่าความสามารถตรวจสอบเชิงวิญญาณสุดโรคจิตเหรอ! พูดว่าทำได้หมดแต่ไม่เก่งจริงซักอย่างเหรอ! ทั้งที่พยายามไม่คิดแท้ๆ! ”
ระยำเอ๊ย….โซยะแม่มคือคนที่ปกปิดอำนาจอันแท้จริง (กาก) เอาไว้เป็นอันดับหนึ่งของทีมเลยนี่หว่า!
จะทำยังไงดีเนี่ยเฮ้ย…..เออในระหว่างที่พูดคุยกันแบบเมาๆเมื่อกี้นั่นฉันก็อาศัยจังหวะจนหาโพร่งเสน่ห์กายิกสุขของหญิงคลานสี่ขาเจอเข้าแล้วหรอกนะ……แต่โพรงเสน่ห์กายิกสุขนั่นมันดันอยู่ตรงตูดนี่สิ กล่าวคือเป็นตำแหน่งที่อยู่ทางฝั่งด้านหลัง ถ้าไม่หาช่องโหว่หรือทำการถ่วงการเคลื่อนไหวเอาไว้ก็อับจนหนทางไม่อาจรู้ได้เลยว่าจะจิ้มยังไงได้
[อ๊าาาาาาาาาาาาาา!]
“ ม่ายยยน้าาาาาา!? ”
หญิงคลานสี่ขาพลันคลานอัดเข้ามาใส่โซยะ โดยไม่มีจะนึกถึงหัวอกของพวกเราเลยซักนิด
ถ้าลงแบบนี้ก็ต้องลองพุ่งเข้ากอดมันตรงๆแล้วฝืนเอื้อมมือไปจับตูดดู……เป็นในจังหวะที่ฉันเตรียมพร้อมจะกระโจนเข้าใส่หญิงคลานสี่ขาด้วยความคิดที่ดั่งกับเป็นนักลวนลามแต๊ะอั๋งที่สุดจะโคตรห้าวอยู่นั่นเอง
“ ศาสตร์มัดพันธนาการสายข่ายอาคมเฉพาะตัวรูปแบบที่หนึ่ง—–เชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการ ”
พลันมีอะไรคล้ายๆกับใยแมงมุมที่ปลดปล่อยแสงสว่างอันศักดิ์สิทธิ์ปรากฎขึ้นมาอยู่เหนือเส้นทางการพุ่งตัวของหญิงคลานสี่ขา ทำการรัดรอบร่างกายนั้นเอาไว้ได้ในเวลาเพียงชั่วอึดใจ….เชือกที่ปลดปล่อยแสงสว่างนั่นรัดพันธนาการหญิงคลานสี่ขาเอาไว้ได้อย่างหวาดเสียว พร้อมกับฉุดร่างนั้นให้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าไปด้วยในจังหวะเดียวกัน ผนึกการเคลื่อนไหวเอาไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยนะนั่น
[อ๊าาาาาเอ๊าาาาาา!?]
หญิงคลานสี่ขาส่งเสียงครวญครางออกมาด้วยสีหน้าที่ดูสับสนระคนไปกับอับอาย
“ สะ ศาสตร์นี่มันอะไรกันน่ะ……พลังวิญญาณยิ่งเพิ่มสูงขึ้นไม่หยุดเลย…….ระดับมืออาชีพ ไม่สิเหนือมากยิ่งกว่านั้นอีก……!? ”
โซยะพึมพำออกมาด้วยท่าทางเหมือนกับทำใจให้เชื่อไม่ลง ส่วนฉันก็หันหน้าขวับไปหาตัวการที่ปลดปล่อยศาสตร์—–คาราสึมะ อาโอย
ไอ้ศาสตร์พันธนาการที่แสนทรงพลังหยั่งกะยักษ์กะมารนี่มันบ้าอะไรกันน่ะ—–เนี่ยกะจะเร่งเสียงถามออกไปแบบนี้อยู่หรอกนะ
แต่เพราะไอ้คาราสึมะมันชิงแหกปากหัวเราะลั่นออกมาด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้มเข้าก่อนนี่แหละ ไอ้ฉันเลยเงียบปากแทบไม่ทัน
ไม่ค่อยอยากจะรู้จักมักจี่กับไอ้เจ้านั่นซักเท่าไหร่อะนะครับนะ
“ ยอดเยี่ยมม! เชือกที่รัดแน่นฝังลึกลงไปจนเน้นให้ร่างกายซึ่งมีน้ำมีนวลดูเด่นชัดมากยิ่งขึ้นนี่! ความรู้สึกเหนือกว่าที่บังเกิดขึ้นมาเพราะผนึกการเคลื่อนไหวของหญิงงามเอาไว้ได้นี่! และที่สำคัญยิ่งมากมายเป็นล้นพ้นที่สุด สีหน้าที่บิดเบี้ยวไปด้วยความอับอายขายหน้านี่! หึหึ หึหึหึ น้ำเดินมากเกินไปจนกางเกงเปียกโชกไปหมดแล้วไม่พอสูทยังทำท่าจะแฉะตามไปด้วยแล้วไม่ใช่หรือไร! ”
เอ็งนี่มันไม่ไหวแล้วแหละฟ่ะ พวกสมงสมองน่ะนะ
“ เอ้ยนี่เอ็ง ถ้ามีศาสตร์ที่แสนทรงพลังแบบนี้อยู่กับตัว งั้นทำไมถึงไม่เคยใช้มาก่อนจนถึงตอนนี้เลยเล่าเฮ้ย! ”
โดยเฉพาะตอนที่นางยักษ์คลุ้มคลั่งอาละวาดนั่นน่ะ ถ้าเอ็งทำงานให้มันดีๆ ไอ้ฉันก็คงจะไม่ถูกโซยะล่วงรู้เรื่องความสามารถแล้วแท้ๆ!
คาราสึมะที่ฟังคำถามของฉันเข้าไปแล้ว พลันหอบหายใจอย่างรุนแรงดัง “แฮ่กแฮ่ก” ไปพลาง
“ หึ หึหึหึ ศาสตร์มัดพันธนาการของฉันมันเป็นแบบพิเศษน่ะนะ หากไม่อยู่ภายใต้เงื่อนไขหนึ่งแล้วสภาพจิตจะไม่พุ่งสูง ทำให้ไม่เกิดเป็นพลังวิญญาณที่มากเพียงพอจะเปิดใช้งานศาสตร์ได้อย่างไรล่ะ ”
“ เงื่อนไขนึง? ”
“ หากอีกฝั่งไม่ใช่เด็กผู้หญิงน่ารัก ฉันก็จะไม่อาจน้ำเดินได้อย่างไรล่ะ! ”
กล่าวคือเป็นศาสตร์พันธนาการที่จะใช้ได้เฉพาะกับสาวงามเท่านั้นเรอะ
“ ใช้โคตรยากสุดๆไปเลยนี่หว่า! ”
เออคาบเรียนของโรงเรียนจะประเมินให้คะแนนไม่ได้ก็สมควร ไม่ดิให้ว่าแล้ว……
ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป ทีมนี้มันก็จะกลายเป็นทีมโคตรพ่อโคตรแม่โรคจิตที่จะเล็งจับเฉพาะเด็กผู้หญิงน่ารักมามัดพันธนาการ -> ทำให้น้ำแตกเป็นการไล่ผีไปเลยนะเว้ย…….แบบนี้เผลอๆแล้วพวกเราเองนี่แหละมั้งจะถูกปฎิบัติด้วยเหมือนกับว่าเป็นวิญญาณร้ายซะเอง
“ ดูท่าแล้วคงได้เข้าคุกซะก่อนจะทันได้เป็นใหญ่เป็นโตมั้งงี้……. ”
แต่มัวพูดแบบนั้นอยู่ตอนนี้ก็ไม่ได้อะไร เอาเป็นว่าต้องให้ความสำคัญกับการไล่วิญญาณร้ายก่อน……เป็นในฉับพลันที่ฉันอ้อมตลบไปอยู่ข้างหลังของหญิงคลานสี่ขานั่นเอง
[โอ้วววววววว!]
“ หวาย!? วิญญาณเบ็ดเตล็ดมากองรวมตัวกันเข้าซะแล้ว! ทั้งสองคนระวังตัวด้วยนะ! ”
เพราะสมาธิมัวไปจดจ่ออยู่กับการจู่โจมของหญิงคลานสี่ขาแล้วก็ศาสตร์มัดพันธนาการโรคจิตของคาราสึมะ ก็เลยเผลอลืมไปซะสนิทเลย บ้านหลังนี้มันยังอยู่ในระหว่างทำการเรียกวิญญาณเบ็ดเตล็ดให้เข้ามาใกล้อยู่นี่หว่า วิญญาณเบ็ดเตล็ดมันลอดทะลุกำแพงเข้ามาอัดแน่นรวมกันอยู่เต็มห้องนั่งเล่นแล้วเนี่ย
“ เจ๊บ!? ”
เป็นในฉับพลันที่วิญญาณเบ็ดเตล็ดตนนึงที่โซยะลงมือปราบไม่ทัน พุ่งเข้ามากระแทกชนเข้ากับแข้งของคาราสึมะนั่นเอง
เพล้ง
““ เอ๊ะ? ””
เชือกแห่งแสงสูญสลายหายวับไป ทำให้หญิงคลานสี่ขาถูกปลดปล่อยออกมา
พอฉันกับโซยะอ้าปากค้างมองตรงดิ่งไปทางคาราสึมะปุ๊บ
“ เจ็บๆนี่ไม่ไหว……จะเลิกทำงานของนักปราบมารแล้วค่ะ…… ”
คาราสึมะมันก็หมอบเอามือกดแข้ง นอนขดตัวกลมหยั่งกะหมดอาลัยตายอยากเว้ย
“ นี่เอ็งจิตอ่อนปวกเปียกได้ยันสถานการณ์แบบนี้เลยเรอะเฮ้ย! ”
เฟติสกับความสามารถปราบมารของไอ้บรรลัยนี่มันลิงค์ต่อกันอย่างใกล้ชิดขนาดไหนเลยเชียวน่ะ!
[อ๊าาาาาาาาาาาาาาาา!]
“ กรี๊ดดดดดดดดดดด!? ”
หญิงคลานสี่ขาที่ถูกปลดปล่อยพลันคลานตรงดิ่งเข้าไปหาโซยะกับคาราสึมะทันควัน
“ ปัดโธ่ว้อย มันอะไรกันฟะไอ้เจ้าปาร์ตี้นี้เนี่ยยยยยยย! ”
ไอ้ฉันฟาดการโจมตีทีเผลออัดเข้าใส่หญิงคลานสี่ขาที่หันหลังให้ จิ้มจึ้กเข้าไปกลางโพรงเสน่ห์กายิกสุขแบบเน้นๆ
หลังจากทำให้สาวคลานสี่ขาถึงจุดสุดยอดได้ด้วยดี ไอ้ฉันก็ร่วมมือกับโซยะทำการไล่เจ้าพวกวิญญาณเบ็ดเตล็ดที่ยังหลงเหลือให้หมดสิ้นไม่เหลือแม้แต่ตัวเดียว อะไรจะเป็นไงก็ช่างหัวแม่มแล้วตอนนี้
“ ฟุรุยะ ฮารุฮิสะ…..ไม่สิท่านฟุรุยะ……ไม่สิเทพเอ๋ย! ”
หลังจากทำการไล่ผีภายในบ้านเรียบร้อยแล้ว
โซยะถอยห่างออกไปเพื่อโทรติดต่อให้ผู้ว่าจ้างรับทราบว่าการไล่ผีเสร็จสิ้นลงแล้ว ส่วนเจ้าคาราสึมะมันก็มาก้มหัวคุกเข่ากราบอยู่แทบเท้าไอ้ฉันเนี่ย….การโจมตีเพียงเปรี้ยงเดียวของวิญญาณเบ็ดเตล็ดทำให้คาราสึมะถึงกับหงอยแดกไปถึงทรวงเลยก็จริง แต่พอได้เห็นการไล่ผีโดยทำให้ถึงจุดสุดยอดของฉันเข้า มันก็ทวงคืนเอาความกระฉับกระเฉงกระชุ่มกระชวยกลับคืนมาได้ในทันตา ก่อนจะเริ่มต้นมาพูดออเซาะพยายามจะเอาใจฉันนี่แหละ
เฮ่อ นั่นไงกลายเป็นเรื่องชวนปวดหัวเข้าให้จริงๆซะด้วย……
“ ขอร้องล่ะ เป็นคำขอเพียงหนึ่งเดียวในชีวิตนี้เลย ได้โปรดช่วยใช้ความสามารถนั่นใส่แม่หนูมิซากิทีเถอะ ถ้าจะให้ได้เห็นสภาพตอนเธอคนนั้นเสียวซ่านร่านร้องเสียงหลงแล้วต่อให้เป็นอะไรฉันก็ยินดีพร้อมจะยอมทำให้ทั้งหมดเลยเชียว ”
“ ไปตายไหม? ”
“ ยอมทำทั้งหมดจริงๆเลยนะ!? ทั้งหมดเลยเชียว จะ จะยอมให้ถึงขั้น…..เตรียมใจพร้อมระดับที่จะยอมรับความหื่นกระหายอันแสนน่ารังเกียจเดียจฉันท์ของแกเอาไว้ด้วยกายนี้ให้เลยก็ได้เชียวนะ!? ยอมให้ขนาดนี้แล้วจะยังคงปฎิเสธได้ลงคออีกหรือ! ”
“ ไปตายไหม? ”
“ กลัวจะถูกแม่หนูมิซากิสวนกลับหรือ? ถ้าเช่นนั้นก็จงสบายใจเสียเถอะ เชือกแสงเดือดพล่านพันธนาการของฉันน่ะใช้กับมนุษย์ได้ด้วย! การใช้ศาสตร์วิญญาณเข้าใส่ผู้บริสุทธิ์มันถือเป็นการกระทำที่มีความผิดอย่างหนักยิ่งเลยก็จริง…..แต่ถ้าเพื่อให้ได้ยลสภาพแสนน่าละอายของแม่หนูมิซากิแล้วละก็ ต่อให้จะเป็นบทลงทัณฑ์ที่หนักหนาสาหัสมากถึงเพียงใดแต่ฉันผู้นี้ก็จะอดทนให้จงได้เลยเชียว! ”
“ ไปตายไหม? ”
“ เข้าใจแล้ว เงินหรือ เงินใช่ไหม? ต้องเตรียมมาให้เท่าไหร่แกถึงจะ—– ”
“ อาโอยจังนี่เสียงดังจังเลยน้าา ”
“ ฮิ๊!? ”
เบื้องหลังคาราสึมะที่ก้มกราบเท้าพลางกล่าวประโยคคำพูดราวกับไอ้ขยะตัวแบบอย่างซ้ำไปซ้ำมานั่น มีโซยะที่คุยโทรศัพท์เสร็จแล้วกำลังยืนตระหง่านอยู่อย่างผ่าเผย แม้หน้าคุณหล่อนแกจะแดงแจ๋ไปด้วยความอาย แต่กายนั่นก็ปลดปล่อยจิตสังหารอันดำมืดออกมาเต็มเปี่ยม
“ ดูเหมือนว่าจะยังถูกรุกไม่พอสมใจอยากสินะ? เผอิญว่าฉันไปเจอไม้แคะหูมาจากตรงโน้นพอดีเลยด้วยสิเนี่ย ”
โซยะทำการใช้ผ้าเช็ดหน้าปัดๆฝุ่นออกจากไม้แคะหูไปพลาง ไล่ต้อนคาราสึมะไปจนหลังชนกำแพง
“ ระหว่างรอให้คุณผู้ว่าจ้างมาตรวจสอบผลงานนี่ สนใจจะลองมาเล่นสนุกกับฉันซักหน่อยมั้ยล่ะ? ”
“ ยะ อย่านะ หากถูกไม้ที่มีปลายหงิกงอเช่นนั้นจ้วงเข้าไปรูหูละก็ฉันได้เสียสติกันพอดี หัวฉันได้พังหมดกันพอดีอี๊ววววววว! ”
หัวเอ็งมันพังไปเรียบร้อยแล้วเว้ย……ไม่เหลือแรงใจมากพอจะตบมุกไปแบบนั้นด้วยซ้ำเนี่ย
“ ฉันนมหยั่ยไหม? ”
คนแรกตัวสั่นเทิ้มพลางพูดบอกออกมาว่า “ใหญ่…ซะที่ไหน” ฉันก็เลยซัดเขาหน้าแหกไป
“ ฉันนมหยั่ยไหม? ”
คนที่สองพูดว่า “อะ….อืม” ฉันก็เลยเปิดเสื้อโค้ทให้ดู พร้อม
“ แล้วแบบนี้ยังหยั่ยอยู่ไหม? ”
ถามยืนยันไปเช่นนั้น พอทำแบบนั้นแล้วเขาก็ส่ายตาหนี ฉันก็เลยซัดเขาหน้าแหกไป
คนที่ห้าก็ด้วย คนที่สิบก็ด้วย—-โดนฉันซัดหน้าแหก ซัดหน้าแหกหมดเกลี้ยงเลย
ทุกครั้งที่กระทืบเหล่าผู้คนที่มองเห็นฉันเป็นคนนมเล็กให้ย่อยยับ ฉันก็จะรู้สึกราวกับว่านมของตัวเองค่อยๆใหญ่มากขึ้นทีละนิดล่ะ เอะเฮะ
แต่ทำไมกันนะ ทุกครั้งที่รู้สึกได้ว่านมมันเริ่มที่จะใหญ่มากขึ้น ถึงได้รู้สึกเหมือนว่านมมันเริ่มที่จะว่างเปล่ามากขึ้นตามไปด้วย
แต่ทำไมกันนะ ถึงแม้จะกระทืบให้น่วมย่อยยับซักเท่าไหร่ แต่ทำไมผู้คนที่มองเห็นฉันเป็นคนนมเล็กถึงไม่ลดหายไปจากเมืองชิโนโนเมะซะที
“ ฉันนมหยั่ยไหม? ”
ฉะนั้นก็เลยคิดขึ้นมาน่ะ คิดขึ้นว่าต้องลงมือให้หนักข้อกว่านี้ ต้องกระทืบจัดการเจ้าพวกที่เห็นฉันเป็นคนนมเล็กให้เยอะแล้วก็ถี่ถ้วนมากขึ้นยิ่งกว่านี้ล่ะ
MANGA DISCUSSION