ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ) - ตอนที่ 33 ปีศาจและสาวกปีศาจ
- Home
- ในโลกของเกมที่ผู้ชายถูกกีดกัน สิ่งที่ผมต้องทำนั้นจึงมีเพียงอย่างเดียว (เกิดใหม่เป็นผู้ชายในโลกเกมยูริ)
- ตอนที่ 33 ปีศาจและสาวกปีศาจ
ผมกระโดดออกไป–ทำให้ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลังของผมหักลง
“มัวทำอะไรกันอยู่น่ะ!? เจ้าหมอนั่นมันมีคะแนนแค่ 0 เองนะ!? รีบฆ่าเจ้าขยะนั่นซะ แล้วเราจะได้ฆ่าลาพิส คลูเอ ลา ลูเมต!!”
เด็กผู้หญิงที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้นำได้ตะโกนออกมา
“อย่าถือโทษโกรธกันเลยแล้วกันนะ”
อีกสองคนที่เหลือยิ้มออกมา
“0 คะแนน…0 คะแนนเนี่ยนะ กระจอกขนาดนั้นเนี่ย ไม่ใช่ว่าใครที่ไหนจะทำได้เลยนะ แค่นี้ก็รู้เลยว่าเป็นได้แค่ไอ้กระจอกที่ไม่มีประสบการณ์ต่อสู้จริงเลยซักนิด”
พวกเธอหัวเราะและชี้นิ้วมาที่ผม
“ดูนั่นสิ นั่นมันศรน้ำนี่! อ่อนชะมัด! พลังเวทย์ไม่เห็นจะเยอะแยะอะไรเลย ไม่กี่วิก็คงฆ่าทิ้งได้แล้–“
ปรี๊ด!!
ทันทีที่มีเสียงสูงดังขึ้น ผู้หญิงที่กำลังพูดอยู่ก็ล้มลง
ทันใดนั้นเอง เสียงนั้นก็หยุดลง
เธอคนนั้นนอนนิ่งไม่รู้สึกตัว โดยที่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันเกิดอะไรขึ้น
ในวินาทีนั้นเอง ผู้หญิงอีกสองคนที่เหลือก็กระโดดถอยหลังไป
“หะ…หา!? เจ้านั่นมันทำอะไรน่ะ!?”
“ยะ…ยังไม่ได้ยิงออกมาเลยด้วยซ้ำนี่!! วอเตอร์แอร์โรว์ก็ยังอยู่บนแขนอยู่เลย!! ละ…ลาพิส คลูเอ ลา ลูเมต นี่หรือว่าจะรู้สึกตัวกันแล้วงั้นเหรอ!? ยะ…อย่าบอกนะว่าสึกิโอริ ซากุระเข้ามาช่วยน่ะ!? นี่!?”
“ช่างมันเถอะน่า รีบไปหาที่หลบ–อึ้ก!!”
นีลแอร์โรว์เฉียดแก้มของผู้หญิงคนนั้น และผู้หญิงที่ดูเหมือนหัวหน้าก็ไปซ่อนตัวอยู่ข้างหลังต้นไม้
ผมค่อย ๆ กดทริกเกอร์อย่างช้า ๆ
ไม่ว่าจะเป็นตะวันตกหรือตะวันออก เดิมทีธนูมันก็เป็นสิ่งที่มีไว้เพื่อใช้ฆ่าสัตว์หรือมนุษย์อยู่แล้ว
คันธนูมันก็คือศูนย์รวมของแรงนั่นแหละ
ว่ากันว่าชาวญี่ปุ่นนั้นจะจะเน้นการใช้เทคนิคเพื่อยิงให้โดนเป้า
แต่นักธนูชาวตะวันตกจะเน้นที่ตัวเครื่องมือที่ใช้มากกว่า (คันธนูกับลูกธนู)
คันธนูนั้นมีการเคลื่อนไหวอยู่ 3 อย่างด้วยกัน [ดึง] [เล็ง] และ [ยิง]
แต่หน้าไม้จะวางลูกธนูไว้บนส่วนของของหน้าไม้และยิงธนูออกไปจากสายที่ดึงค้างไว้แล้ว
ไม่ว่าจะใช้ธนูหรือหน้าไม้ แต่หลักการของมันก็ยังเป็นการดึงธนูและใช้แรงส่งลูกธนูให้กระเด็นไปเหมือนกันอยู่ดี
พลังในการดึงและการยิงนี้มาจากกคอนโซล [การทำงาน : ยิง] หรือถ้าจะให้พูดก็คือมาจากพลังเวทย์นั่นแหละ เพราะงั้นก็ไม่ต้องไปกังวลอะไรเลย
ดังนั้น สิ่งที่ควรคิดก็คืออันไหนมันทรงพลังมากกว่ากัน
ถ้าเปรียบเทียบคันธนูแล้ว หน้าไม้ลูกจะมีความเร็วเริ่มต้นมากถึง 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แถมมีระยะการยิงและพลังทะลุทะลวงที่มากกว่า แม้แต่ความแม่นยำเองก็มากกว่าด้วย
แต่ทว่า มันจะต้องงใช้แรงดึงถึง 150 กิโลกรัม ประสิทธิภาพในการยิงต่อเนื่องจึงน้อยกว่าคันธนู แถมความคงที่ของกระสุนในอากาศก็แย่กว่า
แต่ถ้าเป็นนีลแอร์โรว์ ข้อเสียพวกนี้ก็จะหายไปเลย
ไม่จำเป็นจำต้องออกแรงดึงเยอะ เพราะสามารถยิงโดยใช้คอนโซล [การทำงาน : ยิง] ที่ได้อธิบายไปก่อนหน้านี้
ทำให้นีลแอร์โรว์ยิงออกไปได้ตามวิถีทรงกระบอกที่สร้างขึ้นด้วยเวทย์ ทำให้กระสุนมีความคงที่ในอากาศ
วิถีรูปทรงกระบอก
วิถีทรงกระบอกนั้นเป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นโดยใช้นิ้วชี้และกลางเป็นจุดโฟกัส
เพื่อจะให้แขนขวาของผมมีความมั่นคง ผมเลยจะใช้แขนซ้ายที่งอเป็นฐานและเล็ง
รูทออน–วิถีที่่สร้างขึ้นด้วยพลังเวทย์ จะสร้างวิถีที่ละเอียดไปถึงตัวผู้หญิงที่ซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้
การคราฟต์
ลูกธนูที่ยาวและเบา…หัวลูกศรกลมมนต์เพื่อลดพลังในการฆ่าลง ส่วนด้ามธนูก็ทำเป็นแบบทั่วไป
และเพราะไม่ได้ใช้ยิงด้วยธนูจริง ผมก็เลยเอาร่องพาดธนูออกและติดขนนกปลายธนูไว้เพื่อรักษาทิศทางการยิง
ศรพลังเวทย์–กระสุนที่จะยิงออกไปมีสามนัด
ลูกศรสีน้ำเงินส่องแสงสีจางและขยายไปถึงหลังแขน
กระสุนที่เกาะระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลาง และยืดไปข้างหลัง
กระสุนพิเศษที่ล้อมอยู่รอบแขนมีรูปร่างเหมือนลูกศร และอนูเวทย์ที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังเหล่านี้ ก็จำรูปร่างนี้ได้แล้ว
หลังจากที่ยิงกระสุนเวทย์นี้ออกไป มันจะหายไปในอากาศ
แต่มันก็จะยังยิงออกไปตามวิถีที่ผมได้สร้างขึ้น
ในขณะที่ประกายเวทย์สีน้ำเงินขาวกระจาย นีลแอร์โรว์ก็ได้พุ่งไปตามวิถี
ทริกเกอร์ได้ถูกกดไปแล้ว
กระสุนเวทย์นั้นได้ถูกยิงไปโนคางของผู้หญิงคนนั้น–ที่ผมได้ใส่พลังเวทย์ลงไป
“ปลิวไปซะ”
“เอ๊ะ?”
ตูม!!!
เธอกระเด็นออกไปทางด้านหลังและกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ จนล้มลง
เด็กสาวที่เป็นหัวหน้าถึงกับอ้าปากค้างที่ได้เห็นภาพนี้
จากนั้นเธอก็หน้าซีดและกรีดร้องออกมา
“อะ…อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!”
เธอกระโดดออกมาจากหลังต้นไม้ และยื่นแขนสีแดงออกมา
ผมวางมือไว้บนฝักดาบ ผ่อนท่าทางลง และเริ่มวิ่งเข้าหาเธอ
ในระหว่างที่วิ่งลอดผ่านช่องระหว่างแขนทั้งสี่นั้น ผมก็เอานิ้วโป้งดันการ์ดป้องกันดาบขึ้น
“มะ…ไม่เห็นจะรู้เลย!! ไม่เห็นจะเคยรู้มาก่อนเลย!! นอกจากสึกิโอริ ซากุระแล้วยังมีตัวอันตรายแบบนี้อยู่อีก!! มะ…มีคนแบบเจ้าหมอนี่อยู่ด้ว–“
ตัวผมที่พุ่งเข้าไปได้ผ่านตัวผู้หญิงคนนั้น และกดทริกเกอร์–ชักดาบออกมา มีแสงสว่างวาบ–
และจากนั้นผมก็เก็บดาบเข้าฝักอย่างเงียบเชียบ
“มะ…ไม่เห็นจะรู้มาก่อน…เลย…”
เธอคนนั้นทรุดลงไป พร้อมผมหน้าม้าที่ปลิวออกไปตามสายลม
“……”
เอ๊ะ นี่ผมแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้แล้วงั้นเรอะ…?
ผมยิ้มอยู่เงียบ ๆ คนเดียว
ไม่ต้องตายอีกแล้ว เอาชนะเดธแฟล็กได้แล้ว ถึงจะทิ้งคู่หมั้น (ปลอม ๆ) ไว้ที่หอพัก
แต่ผมก็สามารถเอาชนะเดธแฟล็กได้อย่างง่ายดายเลย
แต่ถึงอย่างงั้น ผมก็กลับมาสงบสติอารมณ์ และคว้าตัวผู้หญิงที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าเอาไว้
เธอคนนี้สูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ไปจนหมดสิ้นและจ้องมองไปในอากาศด้วยแววตาที่ว่างเปล่า
ผมค่อย ๆ เงยคอเธอขึ้น–แล้วผมก็ถอนหายใจ เพราะเจอกับตราที่เป็นเครื่องบ่งบอกว่าเป็นสาวกของปีศาจ
ว่าแล้วเชียว เป็นอีเวนต์ปีศาจบุกโจมตีจริง ๆ ด้วยสินะ…
ตราสัญลักษณ์นี้เป็นตราของอาร์สฮาเรียด้วย ก็แสดงว่าเนื้อหากำลังเป็นไปตามเนื้อเรื่องอยู่
ปีศาจ–มันคือมอนสเตอร์ที่ครั้งหนึ่งเคยพยายามปลอมตัวเป็นพระเจ้าเพื่อที่จะยึดครองโลกอื่น
และมอนสเตอร์ที่ว่านั่นก็ได้เลียนแบบมนุษย์และสร้างปีศาจเสาหลักท้ัง 6 ออกมา
เสาที่ 1 สุสานแห่งความตาย-อาร์สฮาเรีย
เสาที่ 2 จิตกรรมคนตาย-ไรซ์ลูต
เสาที่ 3 ผู้ทำลายล้าง-Q
เสาที่ 4 กระจกหมื่นเงา-นานะสึบากิ
เสาที่ 5 ผู้งดงาม-แฟร์เลดี้
เสาที่ 6 วิญญาณที่สูญหาย
(ผู้แปล : คือชื่อพวกนี้นี่ผมไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเป็นชื่อนี้ไปก่อนแล้วกันครับ)
ปีศาจทั้ง 6 ตน ได้เคลื่อนไหวโดยมีจุดประสงค์คือการควบคุมโลกอื่นและโลกแห่งความเป็นจริง
ปีศาเหล่านี้จะปรากฏขึ้นในฉากสำคัญในเนื้อเรื่องแต่ละรูทเพื่อต่อสู้กับกับตัวเอกและนางเอก
พวกนั้นมีนิสัยที่แปลกประหลาดชนิดที่ว่าแทบจะฆ่ากันเองตั้งแต่แรกเห็นเลย
ซึ่งนั่นมันอาจนำไปสู่จุดจบที่ผมกังวลที่สุด นั่นคือการที่สึกิโอริต้องตาย
ปีศาจนั้นจะฆ่าศัตรู กำจัดทิ้ง หรือแม้แต่บังคับให้มาเป็นพวกเดียวกัน
เพราะแบบนี้ พวกนั้นถึงมุ่งเป้าไปที่นักเวทย์ที่มีชื่อเสียงและเหล่านางเอก
และถ้าพวกนั้นฆ่านางเอกได้ล่ะก็ มันจะทำให้เกิดแบดเอ็นดิ้งได้เลย
แถมปีศาจทั้ง 6 ตนนี้ยังมีทักษะในการควบคุมมนุษย์ หรือที่รู้จักกันในชื่อ [ลัทธิปีศาจ] ที่อาละวาดอยู่ในโลกความจริงอีกด้วย
ลัทธิปีศาจแบ่งออกเป็น 6 ลัทธิ ซึ่งตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนที่ไหนซักที่บนร่างกาย ก็จะแตกต่างกันไปตามปีศาจที่พวกนั้นติดตาม
พวกนี้ถูกเรียกว่า [สาวก] ซึ่งได้รับการปฏิบัติอย่างกับบริษัทมืด ที่มองว่าความตายไม่ใช่ปัญหาอะไรเลยล่ะ
จริง ๆ แล้วเจ้าปีศาจที่ว่านี่ยังมีตัวที่ 7 และ 8 อยู่ด้วย
ถ้าถามว่าเจ้าปีศาจที่ว่านั่นเป็นใครล่ะก็…มันก็คือฮิอิโระคุงกับสึกิโอริของพวกเรานี่เอง
ในรูทของลาพิสนั้น จะมีฉากสุดฮาที่ฮิอิโระฟื้นคืนชีพขึ้นมาแล้วก็โดนเวทย์ฆ่าตายซ้ำด้วย
ถ้าจะให้พูดก็คือ ฉากนี้เป็นฉากที่สุสานแห่งความตาย อาร์สฮาเรียถูกใจในตัวฮิอิโระ เลยทำให้ฮิอิโระกลายเป็นปีศาจ
แล้วพอกลับมามีชีวิตได้อีกครั้ง ก็ดันถูกฆ่าตายเลยน่ะนะ
สุสานแห่งความตาย อาร์สฮาเรียนั้นมีอีกชื่อหนึ่งก็คือ [หญิงสาวผู้ทำลายยูริ] เป็นพวกขยะในหมู่ขยะของปีศาจเลยทีเดียว
เพราะว่าเธอพยายามช่วยเจ้าฮิอิโระที่ให้ไปอยู่ท่ามกลางยูรินั่นแหละนะ
ก็ตายความหมายของสุสานแห่งความตาย อาร์สฮาเรียนั้นสามารถคืนชีพคนตายเพียงแค่แบ่งส่วนหนึ่งของตัวเองให้…
ในช่วงสุดท้ายของรูทลาพิสนั้น จะมีฉากหนึ่งที่ลาพิสโกรธจัดเพราะได้เห็นอาร์สฮาเรียฟื้นคืนชีพคนคนหนึ่งขึ้นมาด้วย
หลังจากที่ได้ดูฉากนั้นแล้ว ผมก็รู้สึกเกลียดอาร์สฮาเรียเลย ทำเอาซะอยากฆ่*ทิ้งพอ ๆ กับฮิอิโระเลย
และ [รูทชั่วร้าย] ที่สึกิโอริกลายเป็นปีศาจ
รูทนี้เป็นรูทที่เธอจะหลงไหลในพลังของปีศาจและกลายเป็นปีศาจ
[สึกิโอริ ซากุระ] จะฝังนางเอกทุกคนไว้ ทำเอารู้สึกสะอึกในลำคอเลย
อีเวนต์โจมตีลาพิสครั้งนี้เป็นการติดต่อกับพวกปีศาจครั้งแรก
คนร้ายหลัก ๆ เลยคือปีศาจที่มีชื่อว่า อาร์สฮาเรีย
มนุษย์ที่มาเป็นสาวกของเธอจะสามารถใช้มือสีดำแดงที่พูดมาก่อนหน้านั้นได้…นั่นคือเวทมนตร์ที่เรียกว่า [ฮอลโลว์แฮนด์]
เป็นเทคนิคการอัญเชิญจากโลกอื่น ถ้าจะให้พูดก็คือ มันแตกต่างจากอุปกรณ์เวทย์…แต่ว่าพลังของมันนั้นเป็นของจริง
เพราะแม้แต่เจ้าขยะฮิอิโระคุงที่มั่นใจในความแข็งแกร่งทางกายภาพก็ยังตายได้เลยถ้าโดนจับตัว
แม้ว่านี่จะเป็นครั้งแรกที่เริ่มมีการติดต่อกับพวกปีศาจ แต่กว่าอาร์สฮาเรียที่เป็นตัวสำคัญจะปรากฎตัวออกมาก็เป็นช่วงท้ายของเกมนู่น
ถ้าไปต่อสู้กับเธอในช่วงนี้ล่ะก็ ยังไงก็ตายแหง ต่อให้จะเป็นสึกิโอริก็เอาไม่อยู่หรอก
ดังนั้นแล้ว เราจะต้องสู้กับเธอในช่วงสุดท้ายของเกมเท่านั้น
แล้ว ผมจะทำยังไงดีละเนี่ย…
ตามเกมต้นฉบับแล้ว เป้าหมายของลาพิสก็คือการที่ได้ทำความรู้จักกับเพื่อน ๆ ในค่ายปฐมนิเทศนี้
เพราะแบบนั้น ผมเลยไม่ให้เหล่าหน่วยเงากับอาจารย์ตามมา เพราะว่าพวกเขาดูน่ากลัวอยู่น่ะนะ
การซุ่มโจมตีครั้งนี้ก็เป็นการใช้ประโยชน์จากจุดนั้นนั่นเอง
ถ้าสึกิโอริไม่เข้ามาช่วย เธอก็จะหายไปจากเกมนี้ และก็จะไม่มีรูทลาพิสอีกต่อไป
ถ้าเป็นตามปกติล่ะก็ พอสึกิโอริช่วยลาพิสไว้ได้แล้ว ความสัมพันธ์ของทั้่งสองก็จะเริ่มเบ่งบาน
ในรูทของลาพิสนั้น เรื่องราวที่แสดงออกมาให้เห็นก็คือการที่เธอเริ่มถูกดึงดูดโดยเพื่อนคนแรกของเธออย่างสึกิโอริ ซากุระ
และการที่เธอเริ่มกลัวการเปลี่ยนเปลี่ยนสถานะของเธอจากเพื่อนไปสู่สถานะอื่น
แล้วถ้าผมช่วยลาพิสเอาไว้ตรงนี้ โอกาสอันแสนสำคัญนั้นมันก็จะพังทลายไป…ถ้าเป็นแบบนั้น มันก็จะไร้ค้าเหมือนขยะเปียกฮิอิโระคุงเลย
ผมต้องทำให้ลาพิสคิดว่าสึกิโอริเป็นคนช่วยชีวิตเธอเอาไว้
หลังจากที่เช็คความปลอดภัยของลาพิสที่หมดสติไปแล้ว ผมก็เริ่มคิดอย่างถี่ถ้วน
“……”
นึกไอเดียดี ๆ ออกแล้วสิ!!
ผมเข้าไปใกล้สาวกผู้หญิงที่กำลังตกตะลึง และผมก็โน้มตัวไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้ม
“โจมตีฉันซะ”
“…ห๊ะ?”
“โจมตีฉันด้วยฮอลโลว์แฮนด์ซะ อย่าออมมือเชียวล่ะ ใส่มาให้เต็มแรงเลย เพราะนี่คือการปกป้องยูริ หวังว่าเธอจะช่วยให้ความร่วมมือนะ”
“เอ่อ…ค่ะ…เอ่อ…?”
ผมพับแขนและยืนตัวตรง
“เอาเว้ย เข้ามาเลยยย!!”
“……”
ผมชักดาบออกมาและชี้ไปหาเธอพร้อมยิ้มกว้าง
“นี่เธอ…ไม่พอใจอะไรยูริรึไงห๊ะ…?(หายใจแรง)”
“อะ…อึ๋ย!! จะ…จะโจมตีแล้วนะคะ!! โจมตีแล้วนะค้า!!”
“ใส่จิตวิญญาณเข้ามาให้เต็มที่ซะสิ้!!”
ผมโดนฮอลโลว์แฮนด์ที่พุ่งมาจากทางด้านหน้าโจมตีจนกระเด็นไปกระแทกต้นไม้ใหญ่
“……”
ผมยืนขึ้นและสำรวจดูร่างกายตัวเอง และผมก็เห็นว่าบาดแผลที่ผมได้รับมามันก็ไม่เท่าไหร่
“อะ…เอ่อ…?”
“ของแค่นี้น่ะมันยังไม่พอหรอกนะ!? นี่ความชอบต่อยูริของเธอมันมีแค่นี้เองงั้นเรอะ!? ไปอ่านเรื่อง จูบและด*กลิลลี่สีขาวกับสาวคนนั้นของอาจารย์คันโ*ะ ซักล้านรอบเลยไป!! จิตวิญญาณมันยังร้อนแรงไม่พอเฟ้ย จิตวิญญาณน่ะ!!”
“อึ๋ยยยยย!! ขอโทษค่าาาาาาาาา!!”
“แล้วก็ไปอ่านเรื่อง รัก***เศร้าของเราส*มคนด้วยซ้าาาาาาาาาาาาาาา!!”
ฮอลโลว์แฮนด์ได้มาถึงตัวผม และผมก็ทนรับมันไว้
ในที่สุดตัวผมก็ได้เต็มไปด้วยเลือดและรอยแผล ผมจึงยกนิ้วให้กับสาวกปีศาจหญิงคนนั้นที่ทำให้ผมตกอยู่ในสภาพเหมือนโดนทำร้ายสาหัส
“ถ้าจะทำ…ก็ทำได้นี่นา(ยิ้มสดใส)”
“ไม่เอาแล้ว…จะเลิกเป็นสาวกปีศาจแล้ว…!!”
ถ้าเป็นสาวกกับปีศาจแล้ว สาวกก็จะสามารถปรับค่าพลังได้ขึ้นอยู่กับปีศาจแต่ละตนด้วย
เด็กผู้หญิงสองคนก่อนหน้านี้ที่กระเด็นออกไปที่รู้สึกเหมือนจะตายก็ได้สติขึ้นมา
อาจจะเป็นเพราะค่าความแข็งแกร่งทางกายภาพและพลังเวทย์ถูกปรับแล้วก็ละมั้งนะ
แต่แล้วพวกเธอก็วิ่งหนีกันไปเสียงดังใหญ่เลย
ถ้าจะฆ่าลาพิส ผมก็คงจะฆ่าพวกเธอไปแล้ว แต่ดูเหมือนพวกเธอจะได้รับบทเรียนกันแล้ว
แถมพวกเธอก็ฆ่าไม่สำเร็จด้วย ผมก็จะปล่อยพวกเธอไป
ตัวผมเต็มไปด้วยบาดแผล ผมจึงทรุดตัวลงและแกล้งทำเหมือนว่าตัวเองแพ้
และจากนั้นผมก็ติดต่อไปหาสึกิโอริ
สมบูรณ์แบบ…ถ้าสึกิโอริมาถึง ผมก็จะบอกไปว่าสึกิโอริ ซากุระคือคนที่สามารถเอาชนะสาวกทั้ง 3 คนนั้นลงได้…
แล้วถ้าลาพิสเห็นว่าผมที่แพ้ยับเยินกำลังร้องไห้กับสึกิโอริอยู่ล่ะก็ ลาพิสก็จะเริ่มตกหลุมรักสึกิโอริที่ช่วยชีวิตเธอไว้…
ให้ตายสิ สมองที่มียูริไอคิวถึง 180 นี่มันสุดจัดจริง ๆ …!
ด้วยเหตุนี้เอง ผมจึงนอนอยู่แถว ๆ นั้น–
“…อืม”
“อึ้ก ตื่นขึ้นมาเร็วกว่าที่คิดไว้ซะอีก–งานเข้าซะแล้วสิเรา…(ศาสตร์การแสดงขั้นเทพ)”
และก่อนที่สึกิโอริจะมาถึง ลาพิสก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้า ๆ
[ติดตามเรื่องนี้ได้ที่เพจ Okuse-Translator]