ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 7 ประหม่า
“เธอ… อยากพูดอะไรกับฉันไหม?”
มีอะไรอยากพูดกับเขางั้นหรอ?
ฉันมีเรื่องที่อยากจะพูดเยอะมากเลยล่ะ
เขาเป็นยังไงบ้างหลังจากที่ออกมาใช้ชีวิตของตัวเอง?
เขาเป็นยังไงบ้างที่เขาได้เจอผู้คนที่เห็นคุณค่าของเขา?
เขาได้รับบาดเจ็บอะไรไหมหลังจากที่ย้ายออกมา?
เขาจะรู้สึกยังไงถ้าหาก ‘ฮันซอยอน’ ที่เขารู้จักไม่อยู่อีกต่อไปแล้ว?
เขาจะรู้สึกยังไงถ้าหากฉันบอกเขาไปว่าฉันที่โผล่มาแทนที่ของฮันซอยอน?
ทว่าคำถามหลายๆ คำถามของฉันในหัว
ฉันกลับพูดออกไปไม่ได้
“พวกเรา… ยังเป็นเพื่อนกันอยู่หรือเปล่า?”
คำถามนั้นฉันหลุดถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
เมื่อฉันได้สติ
ฉันเลยถอยห่างออกมาเล็กน้อย
ฉันมองไปหน้าของคิมจีฮุน
ฉันคาดหวังกับคำตอบของเขา
ฉันอยากให้เขาตอบว่า ‘ใช่ พวกเรายังเป็นเพื่อนกัน’
แต่ถ้าหากเขาตอบกับฉันว่า ‘ไม่’
ฉันก็คงได้แต่ทำใจและยอมรับมันเพราะฉันเข้าใจดี
จะมีใครที่อยากเป็นเพื่อนกับคนที่คอยเป็นตัวถ่วงกันล่ะ?
ฉันที่คอยถ่วงและยังต้องให้เขาส่งเงินให้ใช้ทุกๆ เดือน
ฉันไม่ต่างกับ ‘ปลิง’ ที่คอยเกาะและดูดเลือดของเขาเลย
แถมตอนนี้ฉันยังทำให้เขาลำบากอีก
“สำหรับฉัน.. พวกเรายังเป็นเพื่อนกันอยู่เสมอ”
เขาพูดตอบกลับฉัน
น้ำเสียงของเขาจริงจังมาก
ฉันมองไปที่ดวงตาของเขา
คิมจีฮุน สายตาของเขาแน่วแน่มาก
“งั้นหรอ.. พวกเรายังเป็นเพื่อนกันสินะ”
ฮะฮะ..
ฉันหัวเราะออกมาด้วยความดีใจ
อาจจะเป็นเพราะว่าฉันรู้สึกโล่งใจ
ที่อย่างน้อยฉันก็ยังมีเพื่อน
เขาคนนั้นก็คอยอยู่เคียงข้างฉัน
ฉันเอนหัวของตัวเองผิงกับไหล่ของเขา
การมีที่ให้พึ่ง
มันทำให้ฉันสบายใจมากเลย
“ขอบคุณนะ ที่ยอมเป็นเพื่อนกับฉัน”
ฉันพูดขอบคุณออกไป
ฉันรู้สึกขอบคุณจริงๆ
ขอบคุณที่ยอมรับฉันที่ไร้ความสามารถ
ขอบคุณที่ยอมรับฉันที่อ่อนแอ
ขอบคุณที่ยอมเป็นเพื่อนกับฉัน
“ฉันชอบนายมากจริงๆ นะ…”
ฉันพูดออกไปก่อนที่จะหลับตาลง
อาจจะเป็นเพราะความสบายใจที่ฉันรู้สึก
อาจจะเป็นเพราะความโล่งใจและดีใจที่ฉันรู้สึก
อาจจะเป็นเพราะความกังวลใจที่หายไป
ฉันถึงรู้สึกง่วงนอนโดยธรรมชาติเป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือน
Zzz…
“……”
ฉันมองไปที่ฮันซอยอนที่ตอนนี้กำลังอิงไหล่ของฉันและหลับตา
‘เธอหลับไปแล้ว’
เสียงลมหายใจเข้าออกเป็นจังหวะทำให้ฉันรู้ว่าเธอหลับไปแล้ว
ฉันได้แต่เกร็งตัว
ฉันรู้สึกประหม่ามาก
เพราะว่าจู่ๆ เธอก็พูดว่า ‘ฉันชอบนายมาก’ ออกมาได้หน้าตาเฉย
ความรู้สึกประหม่าของฉันเลยพุ่งทวีคูณไปอีก
ฮ๊า…
ฉันถอนหายใจก่อนที่จะค่อยๆ จัดท่าทางให้เธอนอนได้สบายๆ
ฉันมองใบหน้าของฮันซอยอนระหว่างที่หลับ
ใบหน้าของเธอหมองคล้ำกว่าเดิม
ใต้ตาของเธอก็ดำคล้ำ
มันทำให้ฉันแอบรู้สึกหงุดหงิด
เพราะใบหน้าของฮันซอยอนที่เขารู้จักนั้นสดใสและงดงามอยู่เสมอ
แต่ตอนนี้ใบหน้าของเธอราวกับคนที่เหนื่อยล้า
หัวใจของฉันราวกับถูกบีบรัด
หากว่าฉันอยู่เคียงข้างเธอ
ชีวิตของเธอคงสุขสบายกว่านี้
หากฉันดึงดันที่จะอยู่เคียงข้างเธอแม้ว่าจะถูกไล่ออกมา
เธอก็คงไม่ต้องเจอกับประสบการณ์เลวร้ายทั้งหมดที่ผ่านมา
บางที… เธอคงไม่ใช้ร่างกายของตัวเองเพื่อหาเงิน
ฉันนึกย้อนไปที่ตอนที่ฉันไปบ้านของเธอ
ที่นอนที่เคยเต็มไปด้วยภาพของฉันและฮันซอยอน
ที่ที่พวกเรามักจะนอนและพูดคุยหยอกล้อกันก่อนนอนอยู่เสมอ
ที่ตรงนั้นกลับเต็มไปด้วยร่องรอยของกิจกรรมทางเพศ
เขาไม่รู้เลยว่าเธอต้องเจอกับอะไรกันแน่
จำนวนเงินที่เขาให้ไปมันไม่เพียงพอถึงขนาดที่เธอต้องขายร่างกายของตัวเองเลยงั้นหรอ?
หรือมันเป็นเพราะว่าเธอโหยหาความอบอุ่นยังงั้นหรอ?
ฉันไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
แต่ไม่ว่ายังไงทุกอย่างมันก็เป็นเพราะว่าเขาไม่ดูแลคนสำคัญของตัวเองให้ดีมากพอ
เธอผู้เป็นเสมือนครอบครัวของฉัน
ทำไมฉันถึงไม่ดูแลและคอยปกป้องเธอให้ดีกว่านี้
ฉันมานึกได้ในตอนนี้ก็สายเกินไปแล้ว
“ขอโทษนะ”
ฉันพูดออกไปด้วยความรู้สึกอึดอัดในใจ
ฉันลูบผมของเธอที่ตอนนี้หยาบกระด้าง
‘ไม่ว่ายังไงฉันจะทำให้เธอมีความสุขและไม่ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆ แบบนั้นอีก’
ฉันสาบานมันกับตัวเองในใจ
ฉันจะต้องทำมันให้ได้
และฉันจะลากพวกมันที่ทำให้เธอต้องเจอกับประสบการณ์เลวร้ายแบบนี้ไปลงนรกให้ได้
[เช้าวันต่อมา]
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะว่าฉันได้กลิ่นหอมที่ตัวเองไม่ได้กลิ่นมานาน
ฉันสะลึมสะลือเดินไปที่ต้นทางของกลิ่น
“ตื่นแล้วหรอ?”
เสียงของคิมจีฮุน
อ่า… เขากำลังทำอาหารหรอ?
“…อือ”
ฉันขยี้ตาตัวเอง
ทว่ามือของฉันก็ถูกจับไว้
“อย่าขยี้ตา เดี๋ยวตาก็ดำเป็นแพนด้าหรอก”
ฉันตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆ ก็ถูกเขาจับมือของฉันไว้
แต่ก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไร เขาก็ลากฉันไปที่โต๊ะ
“อา… คิดถึงสมัยก่อนเลย”
ฉันพูดออกมา
ความทรงจำของฉันผุดขึ้นมา
ไม่สิ… ความทรงจำของฮันซอยอนต่างหาก
ฮันซอยอนและคิมจีฮุนมักจะทานข้าวด้วยกันเสมอ
โดยคิมจีฮุนจะเป็นคนทำอาหาร
ถึงแม้ในบ้านของพวกเราจะเป็นบ้านร้างและไม่ได้มีอุปกรณ์เครื่องครัวอะไรมากนัก
แต่อาหารที่เขาทำจะอร่อยเสมอแม้แต่ฉันเองก็ยังคิดเลยว่าคิมจีฮุนมีพรสวรรค์ในด้านนี้
ซึ่งในความทรงจำของฮันซอยอน เขาก็มักจะตื่นเช้าและเป็นคนทำอาหารอยู่เสมอ
เพียงแค่ความทรงจำที่ผุดขึ้นมานี้
มันก็ทำให้ฉันยิ้มออกมากับรู้สึกความอบอุ่นที่หัวใจแล้ว
“งั้นหรอ…”
เขาพูดสั้นๆ ก่อนที่จะวางจานอาหารลงบนโต๊ะ
“ว้าว…”
นี่เขายังจำของชอบฉันได้อยู่อีกงั้นหรอ?
ฉันมองไปที่จานอาหารตรงหน้า
มันคือ ‘ข้าวผัด’
อาหารสุดแสนจะธรรมดา
มันเป็นอาหารที่ทำง่ายและใช้วัตถุดิบไม่เยอะ
แต่ถึงมันจะเป็นเมนูง่ายๆ และทั่วไปมันกลับเต็มไปด้วยความทรงจำล้ำค่าของฮันซอยอนและคิมจีฮุน
“ขอบคุณนะ”
ฉันยิ้มส่งไปให้คิมจีฮุน
เขานิ่งไปก่อนที่จะพยักหน้า
ฉันลงมือทานอาหารตรงหน้าช้าๆ เพื่อลิ้มรสชาติให้มากที่สุด
ความอยากอาหารที่ฉันไม่ได้รู้สึกมานานมันทำให้ฉันกินเยอะมากกว่าปกติ
จนกระทั่งฉันกินเสร็จหมดแล้ว
ฉันถึงสังเกตุเห็นว่าคิมจีฮุนกำลังเตรียมตัวราวกับว่าจะออกไปไหน
“จะไปไหนหรอ?”
ฉันถามออกไประหว่างที่เดินไปหาเขา
“มีของที่ต้องซื้อเข้ามาน่ะ”
“อ่า… งั้นหรอ”
ฉันยิ้มแห้งๆ
ดูเหมือนว่าการที่ฉันมาอยู่อาศัยกับเขา
เขาต้องไปซื้อสิ่งของเครื่องใช้เพิ่มนี่นะ
ฉันเองก็อยากออกไปด้วยเหมือนกัน
ฉันอยากเห็นเมืองที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้ว่ามันเป็นยังไง
“จะไปด้วยไหม?”
“ได้หรอ!?”
ฉันตกใจเมื่อจู่ๆ เขาก็ชวน
เพราะว่ามันราวกับเขาอ่านใจฉันได้
“อืม… เพราะว่าเราต้องซื้อเสื้อผ้าของเธอแล้วก็…”
เขามองมาที่ฉันก่อนที่จะหันสายตากลับไป
ฉันได้สงสัยว่าเขามองมาทำไม
ก่อนที่ฉันจะรู้สึกได้
อา… ฉันไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน
แถมฉันในตอนนี้ยังอยู่ในชุดเดิมของเมื่อวานด้วย
เดี๋ยวนะ.. ฉันหลับไปโดยที่ฉันไม่อาบน้ำงั้นหรอ?
อ๊า! นี่เขาคงไม่ได้กลิ่นตัวของฉันหรอกใช่ไหม?
คงไม่ได้กลิ่นหรอกเนอะ!?
ไม่อย่างงั้นฉันคงอายจนอยากจะเอาหน้ามุดดินหนีแน่!
แล้ว… ฉันที่ไม่ได้ใส่ชุดชั้นใน
เขาคงไม่ได้เห็นมันใช่ไหม!?
ฉันทุบไปที่หลังของเขาโดยไม่ทันรู้ตัว
ฉันก็อยากระบายความอายที่ฉันรู้สึกมันออกมา
คิมจีฮุนขมวดคิ้วและหันมามองฉัน
ทว่าไม่ทันที่ฉันจะปล่อยให้เขาพูดอะไร
ฉันก็หนีเขาไปเข้าห้องน้ำพร้อมกับคำพูดทิ้งท้าย
“ถะ.. ถ้างั้นฉันไปอาบน้ำก่อนนะ!”
ฉันไม่รอคำตอบของเขา
ฉันรีบวิ่งเข้าห้องน้ำและล้างตัวของตัวเอง
หลังจากที่ฉันอาบน้ำเสร็จแล้ว
ฉันก็ออกมาจากห้องน้ำ
ในผ้าเช็ดตัวผืนเดียว
มันเป็นเพราะว่า
ฉันไม่มีชุดน่ะสิ
ฉันรู้แล้วว่าตัวเองไม่มีชุดเลยสักชุดเลยในตอนนี้
ฉันถอนหายใจออกมาก่อนที่จะเดินไปหาคิมจีฮุน
ซึ่งคิมจีฮุนรออยู่ที่หน้าประตูทางออก
“จีฮุน… คือว่า…”
ฉันเดินไปหาเขาในสภาพทั้งอย่างนั้น
เขาที่เห็นฉันในสภาพผ้าเช็ดตัวผืนเดียวก็นิ่งไป
“อ่า..”
เขาราวกับพึ่งนึกได้
เขาเดินผ่านฉันไปที่ห้องของเขา
ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับชุดในมือ
“ใช้ชุดของฉันไปก่อนนะ”
ฉันรับชุดจากมือของเขาก่อนที่จะเดินเข้าห้องน้ำไปและสวมมัน
เสื้อของคิมจีฮุนใหญ่กว่าที่ฉันคิดไว้
ชุดของเขาหลวมและใหญ่จนถึงกลางต้นขาฉันเลย
ซึ่งก็ไม่แปลกเท่าไหร่
เขาสูงกว่าฉันตั้งเยอะนี่
ความสูงของฉันจริงๆ แค่อกของเขาเองด้วยซ้ำ
ส่วนกางเกงที่ฉันได้มาเป็นกางเกงขาสั้น
สำหรับฉัน มันแอบหลวมนิดหน่อย
แต่ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากนัก
หลังสวมชุดเสร็จแล้วฉันก็เดินไปหาเขา
“ปะ..ไปกันเถอะ”
ฉันพูดตะกุกตะกักเมื่อเห็นเขามองมาที่ฉัน
เขาอาจจะเคืองที่ฉันทุบหลังเขาไปก็ได้
แต่ว่า… ใครใช้ให้เขาทำท่าทางแบบนั้นล่ะ?
ไม่ว่าใครก็คงทุบเขาเหมือนฉัน ใช่ไหม?
เพราะงั้น ฉันไม่ผิดสักหน่อย!
แต่ว่า… ถ้าหากเขาคิดมากมันคงไม่ดี
ฉันเดินไปดึงแขนเสื้อของเขา
“ขอโทษนะ”
“…?”
“ขอโทษที่ทุบหลังของนายน่ะ”
ฉันพูดออกไปและก้มหน้าลง
เขาจะยกโทษให้ฉันหรือเปล่า?
เขาจะโกรธฉันไหม?
เขาจะไม่ลำคาญฉันใช่ไหม?
ฉันทำตัวราวกับสาวน้อยแบบนี้เขาคงลำคาญฉันแน่ๆ
“…ไม่เป็นไร”
เขาพูดออกมา
มันทำให้ฉันโล่งใจ
“จีฮุน… คือว่าก่อนออกไป”
นิ้วมือของฉันขยุกขยิกไปมา
ฉันรู้สึกแอบๆ คันที่ผิว
แล้วก็รู้สึกปวดหัวนิดหน่อย
ฉันอยากฉีดยารักษาสักหน่อย
เพราะฉันไม่รู้ว่าพวกเราจะออกไปนานแค่ไหน
“ยางั้นหรอ?”
เขาพูดออกมาน้ำเสียงนิ่งเฉย
เขาโกรธหรอ?
ฉันแอบกลัว
“อะ..อือ”
“เข้าใจแล้ว”
เขาพูดแค่นั้นก่อนจะยื่นยารักษามาให้ฉัน
ฉันผ่อนคลายขึ้นเมื่อเห็นว่าเขายื่นยามาให้
ฉันนึกว่าเขาจะไม่ยอมให้ยารักษากับฉันเหมือนเมื่อวาน
“ขอบคุณนะ”
ฉันขอบคุณเขาพร้อมรอยยิ้มประหม่าก่อนที่จะใช้เข็มดูดยาและฉีดมันเข้าที่แขนของฉัน
เขาจ้องมองมาที่เข็มฉีดยาด้วยสายตาน่ากลัว
เขาคงไม่ได้โกรธที่ฉันขอยารักษาหรอกใช่ไหม?
ฉันได้แต่นึกในใจ
ฉันไม่กล้าถามเขา
อาจจะเป็นเพราะว่ายารักษาของฉันมันมีราคาแพงมาก
เขาเลยรู้สึกหงุดหงิดทุกครั้งที่เขาใช้เงินจำนวนมากบ่อยๆ หรือเปล่า?
ถ้าเป็นแบบนั้นดูเหมือนฉันต้องลดการฉีดยารักษาแล้วสิ..
ไม่อย่างนั้น.. ฉันกลัวว่าความสัมพันธ์ของพวกเราจะแย่ขึ้นไปอีก
หลังจากที่ฉีดยาเสร็จแล้วฉันก็ฝืนยิ้มไปให้เขา
เพราะฉันกลัวว่าเขาจะไม่พอใจที่ฉันผลาญเงินของเขา
“ไปกันเถอะ”