ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 51 ทำอาหาร
หลังจากที่คิมจีฮุนกับอีจงซอกล้างเนื้อล้างตัวเสร็จแล้ว
พวกเราก็เดินไปยังห้องที่พวกเราได้รับภารกิจเป็นครั้งแรก
เมื่อพวกเรามาถึงบนจอภาพก็มีชายคนนั้นรออยู่แล้ว
“ไง พวกเธอสบายกันดีหรือเปล่า”
ชายแก่คนนั้นทักทายพวกเราด้วยรอยยิ้ม
อีจงซอกคิ้วกระตุกและเดินไปอยู่ตรงหน้าชายแก่
“คราวนี้จะให้ทำอะไรล่ะ?”
ชายแก่คนนั้นหัวเราะออกมาเมื่อเห็นท่าทางอีจงซอก
“ไม่ยากเท่าครั้งก่อนหรอก”
“เอาตามจริงการปฏิบัติการเก็บกู้อาร์ติแฟกต์ครั้งก่อนหน้านี้พวกเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะสำเร็จอยู่แล้ว”
“ครั้งนี้ฉันเลยจะให้พวกเธอไป ‘จัดการ’ พวกสิ่งมีชีวิตจาก ‘เกท’ สักหน่อย”
อีจงซอกหลับตาและกุมขมับ
“เล่นส่งอะไรยากๆ มาให้เลยนะ”
อีจงซอกส่งสายตาจิกกัดใส่ชายแก่
“อีจงซอก”
สีหน้าของชายแก่แปรเปลี่ยนเป็นจริงจังเมื่อเขาเรียกชื่ออีจงซอก
“เข้าใจแล้ว ครั้งนี้ห้ามพลาดใช่ไหม?”
“เธอเข้าใจก็ดีแล้ว”
ชายแก่ยิ้มแย้มออกมาอีกครั้งก่อนที่บนหน้าจอของเขาจะปรากฏภาพของเกท
“ข้างในเกทนี้ มีหินแร่ที่มีค่าอย่างมากอยู่”
“พวกเราจึงได้ส่งคนไปสำรวจเพื่อเก็บทรัพยากร”
“ทว่าบรรดาคนที่ส่งไปสำรวจกลับไม่มีใครกลับมาเลยสักคน”
“แต่โชคยังดีหลังจากที่พวกเราส่งทีมเก็บกู้เข้าไปพวกเราก็พบกับกล้องบันทึกภาพที่พวกเราส่งให้สมาชิกทุกคน”
“สิ่งมีชีวิตในเกทแห่งนี้ คือ เสือสีขาวราวกับหิมะ”
“ฉันอยากให้พวกเธอจัดการกับพวกมันให้อยู่ในระดับที่พวกเราสามารถส่งทีมเก็บทรัพยากรไปได้สักหน่อย”
ชายแก่พูดข้อมูลของภารกิจที่พวกเราจะต้องไปทำด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ
“ฉันขอย้ำ… ภารกิจนี้พวกเธอห้ามพลาดเด็ดขาด”
“เกทแห่งนี้อยู่ใกล้กับเกาหลีเหนือ หากเราล้มเหลวมีโอกาสที่อีกฝ่ายอาจพยายามแย่งชิงเกทแห่งนี้ไป”
“ถึงแม้ว่าพวกเราจะมีสัญญาสงบศึกและมีการแบ่งเขตแดนแล้วแต่พวกนั้นก็ยังแอบรุกรานอยู่เสมอ”
“ดังนั้นขอให้ใช้ความพยายามที่มีทั้งหมดไปกับการปฏิบัติการครั้งนี้ด้วย”
พวกเราทุกคนพยักหน้าช้าๆ
“ถ้าเข้าใจแล้ว พวกเธอก็ไปเตรียมตัวเถอะ พรุ่งนี้ช่วงสายฉันจะส่งคนมารับพวกเธอที่นี่”
หลังจากที่ชายแก่คนนั้นมอบภารกิจแล้ว
พวกเราก็เดินออกมาจากห้องพร้อมกับความคิดในหัว
“ถ้างั้นฉันขอตัว”
อีจงซอกเป็นคนแรกเหมือนเช่นเคยที่เดินออกจากกลุ่มไป
“จีฮุน ภารกิจครั้งนี้ดูยากสุดๆ ไปเลย”
ฉันเดินไปอยู่ข้างๆ คิมจีฮุนและพูดกับเขา
“…อืม เสือสีขาวราวกับหิมะงั้นหรอ?”
คิมจีฮุนตอบกลับฉันในขณะที่เขากำลังจมอยู่กับความคิด
ในขณะที่ฉันมองหน้าของเขา ซาอึนก็เดินมาอยู่ข้างๆ ฉัน
“ว่าแต่เธอเถอะ เธอจะไหวไหมเนี่ย?”
“อะ..อื้อ ฉันไม่แน่ใจเหมือนกัน”
ฉันกระอักกระอ่วนตอบซาอึนออกไป
ในตอนนี้ฉันยังไม่แข็งแกร่งพอแถมยังไม่มีทักษะการต่อสู้เลยด้วย
ตอนนี้สิ่งที่ฉันรู้มีแค่วิธีหนีเท่านั้นเอง
มันทำให้ฉันกังวลขึ้นมาหลังจากที่ซาอึนถามฉัน
“ไม่เป็นไรหรอก ซอยอน”
“ยังไงฉันก็จะพยายามปกป้องเธออยู่ดี”
คิมจีฮุนพูดขึ้นมาในขณะที่มองฉัน
“อุว๊า… พ่อพระเอกขี่ม้าขาว”
ซาอึนทำสีหน้าขยะแขยงขณะที่เธอมองคิมจีฮุน
“อะฮะฮะ…”
ฉันได้แต่หัวเราะแห้งกับการทะเลาะกันเล่นๆ ของทั้งคู่
“ว่าแต่พวกเราต้องเตรียมตัวอะไรบ้างหรอ?”
ฉันถามทั้งสองคน
“ก็เอาจากวีดีโอล่ะนะ”
“ฉันคิดว่าพวกเราต้องเตรียมพวกชุดกันหนาวก่อนเป็นอย่างแรก”
“นอกจากนั้นก็เรื่องของอาหารและอุปกรณ์เครื่องใช้สำหรับการสำรวจ”
คิมจีฮุนตอบฉันหลังจากที่เขาหยุดทะเลาะกับซาอึน
“อืม… ทางที่ดีฉันว่าพวกเราควรเตรียมอาหารที่มีพลังงานสูงจำพวกช็อคโกแลตหรือพวกอาหารกระป๋องไปด้วยก็ดีนะ”
“…อาหารกระป๋องหรอ?”
“อืม ภารกิจที่พวกเราจะไปทำเขาไม่ได้บอกว่าพวกเราต้องไปกี่วัน”
“บางทีอาจจะหลักวันหรือมากกว่านั้นก็หลักสัปดาห์เลย”
ฉันกับคิมจีฮุนพูดคุยเรื่องของที่ต้องเตรียมกันอยู่หลายอย่าง
ก่อนที่พวกเราจะแบ่งของที่ต้องจัดเตรียมกัน
ฉันกับคิมจีฮุนเลือกที่จะเตรียมพวกอุปกรณ์ที่จะใช้ในการสำรวจ
ส่วนซาอึนอาสาที่จะเตรียมพวกอาหารการกินแทน
หลังจากที่พวกเราพูดคุยหารือเสร็จ คิมจีฮุนก็เดินไปหาซาอึน
“ซาอึนจะกลับเลยไหม?”
“หื้อ?”
ซาอึนแสดงสีหน้าสงสัยออกมาก่อนที่เธอจะหันมามองฉัน
“เธอยังไม่ได้บอกจีฮุนหรอ?”
“อ๊ะ… ลืมไปเลย”
ซาอึนมองฉันด้วยสายตาเคืองๆ ก่อนที่เธอจะถอนหายใจและหันไปตอบคิมจีฮุน
“ซอยอน ชวนฉันให้ไปกินข้าวกับเธอน่ะ”
“อ่า… งั้นหรอ?”
คิมจีฮุนหันมาหาฉันก่อนที่เขาจะลูบหัวของฉัน
ความรู้สึกที่ถูกเขาลูบหัวทำให้ฉันหลับตาพริ้มตอบรับสัมผัสของเขา
“เอาเถอะ ถ้างั้นพวกเรากลับไปกินอะไรกันเถอะ”
“…อื้อ”
ในขณะที่พวกเราเดินกลับ
พวกเราก็เลือกซื้อของที่จำเป็นสำหรับภารกิจในวันพรุ่งนี้ระหว่างทางไปด้วยเลย
ฉันหยิบเอาพวกขนมมาหลายอย่างเลย
ในขณะที่คิมจีฮุนซื้อไฟแช็ค แท่งจุดไฟ มีด เชือกและก็พวกของใช้ในการเอาชีวิตรอด
ส่วนซาอึนเองก็ซื้อพวกอาหารกระป๋องไปเยอะมากแถมเธอยังเลือกเกรดอาหารกระป๋องที่ดีที่สุดด้วย
อาหารที่ซาอึนเตรียมไป… ต่อให้พวกเรากินแบบทิ้งขว้างอาจจะอยู่ได้ถึงหนึ่งเดือนเลยด้วยซ้ำ
นั่นคือจำนวนที่ซาอึนซื้อจริงๆ
“จริงสิ… วันนี้จีฮุนอยากกินอะไรหรือเปล่า?”
“อยากกินอะไรงั้นหรอ…?”
“อื้อ วันนี้ฉันอยากทำอะไรให้จีฮุนกินน่ะ แล้วก็วันนี้ซาอึนก็มากินข้าวด้วย…”
“ถ้านายเลือกไม่ได้ฉันขอเลือกได้ม่ะ?”
ยังไม่ทันที่คิมจีฮุนจะตัดสินใจเรื่องอาหารได้
ซาอึนก็เสนอตัวขอเป็นคนคิดเมนูแล้ว
“……”
คิมจีฮุนหันไปมองซาอึนด้วยใบหน้าเหยเกก่อนที่เขาจะตอบกลับด้วยท่าทางห่อเหี่ยว
“ก็ได้…”
หลังจากที่คิมจีฮุนพูดจบซาอึนก็เดินมาหาฉัน
“นี่ซอยอน เธอทำซุปเต้าหู้อ่อนเป็นไหม?” [ซุปเต้าหู้อ่อน = ซุนดูบูจิเก]
ซาอึนกุมมือของฉันด้วยสายตาเป็นประกาย
สีหน้าของเธอคาดหวังกับคำตอบของฉันมากๆ
“อ่า… ก็พอทำได้อยู่หรอก”
ฉันกระอักกระอ่วนตอบซาอึน
เอาจริงๆ ฉันไม่มั่นใจหรอก ฉันเคยทำก็จริงแต่ว่ามันนานมากๆ แล้ว
ตั้งแต่ก่อนที่ฉันจะหลุดเข้ามาในนิยายเลย
“งั้นหรอ! ถ้างั้นทำอันนั้นให้กินทีสิ”
“ฉันไม่ได้กินมันมานานมากๆ แล้ว”
“อะ..อื้อ เดี๋ยวทำให้กินนะ”
ฉันตอบรับความคาดหวังของซาอึนก่อนที่จะหันไปหาคิมจีฮุน
“แล้วจีฮุนล่ะ? อยากกินอะไรไหม?”
“…?”
“ฉันบอกแล้วนี่ ฉันอยากทำอะไรให้จีฮุนกินเพราะงั้นบอกได้เลยนะ”
“…คนหลงแฟนนี่มัน”
ซาอึนพึมพำกับตัวของเธอพร้อมกับสีหน้าแปลกๆ ในขณะที่มองฉันกับคิมจีฮุนสลับกัน
“ฉันอยากกินไก่ผัดเผ็ด” [ไก่ผัดเผ็ด = ทัคคาลบี้]
“อืม… ถ้างั้นพวกเราต้องไปที่ห้างนะเพราะที่ห้องของเตรียมไว้หมดแล้วน่ะ”
ฉันครุ่นคิดก่อนที่จะพาทั้งสองเข้าไปที่ห้าง
ฉันเลือกหยิบวัตถุดิบที่จำเป็นในการทำเมนูที่ทั้งคิมจีฮุนกับซาอึนเสนออย่างรวดเร็ว
หลังจากเลือกซื้อวัตถุดิบทั้งหมดแล้วพวกเราก็กลับทันที
หลังจากที่กลับมาถึงห้องแล้ว
ฉันก็เดินเข้าห้องครัวไปพร้อมกับวัตถุดิบที่ซื้อมาทันที
ก่อนอื่นซุปใช้เวลาในการทำนานกว่า ฉันเลยคิดจะทำซุปเต้าหู้อ่อนที่ซาอึนอยากกินก่อน
ฉันสับหัวหอมใหญ่และอกไก่ให้เป็นชิ้นเล็กๆ
จากนั้นฉันก็เตรียมพริกแดงหั่นครึ่งไว้
หลังจากที่ฉันเตรียมวัตถุดิบพื้นฐานแล้ว
ฉันก็เทน้ำมันงาลงกระทะเปิดไฟกลางหลังจากนั้นก็เทหัวหอมใหญ่และอกไก่ที่ฉันหั่นไว้ลงไป
หลังจากนั้นฉันก็เดินไปเอาน้ำมาประมาณหนึ่งและเทมันให้ท่วม
น้ำสีใสขุ่นที่เกิดจากการต้มไก่และหัวหอมส่งกลิ่นหอมอ่อนๆ ทำให้ฉันรู้สึกมีความสุข
ฉันฮัมเพลงในขณะที่เอาพริกแดงเกาหลีใส่ลงไปพร้อมกับซอสโคชูจัง
“หลังจากนั้นก็ปล่อยทิ้งไว้สามสิบนาที”
ฉันพึมพำกับตัวเองก่อนที่จะหันไปทำเมนูของคิมจีฮุนต่อ
ทัคคาลบี้ของคิมจีฮุนนั้นยุ่งยากกว่า
ฉันรีบเอาเนื้อหมูมาสับเป็นแผ่นชิ้นพอดีคำ
หลังจากนั้นก็กะหล่ำปลี มันฝรั่ง หัวหอมใหญ่ แครอทและกระเทียม
ก่อนอื่นฉันจะเตรียมตัวเครื่องปรุงก่อน
ฉันเทนมสดและเนยจืดมาผสมกันหลังจากนั้นก็เอาเชดด้าชีสแบบแผ่นใส่ลง
ฉันอยากให้มันยืดและเหนียวฉันเลยใส่ไปค่อนข้างเยอะพอสมควร
หลังจากนั้นฉันก็เอามันไปใส่ไมโครเวฟ
เมื่ออุ่นเสร็จฉันก็เอามันออกมาคนจนมันเหนียวเป็นเนื้อเดียวกัน
เพียงเท่านี้ก็เสร็จไปหนึ่งอย่าง
ก่อนที่ฉันจะหยิบเอากระทะและใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อย
ใส่กระเทียมและหัวหอมใหญ่ลงไปผัด พอผัดไปได้ประมาณหนึ่งก็ตามด้วยเนื้อหมู แครอทและมันฝรั่ง
พอผัดจนเนื้อสุกฉันก็ใส่น้ำเปล่าลงไปตามด้วยโคชูจังและผัดทุกอย่างให้น้ำซุปที่ได้เคลือบทุกส่วนของวัตถุดิบ
จากนั้นฉันก็หันไปหยิบเอาพริกป่นเกาหลีมาโรย
ฉันใส่พริกป่นเกาหลีค่อนข้างเยอะพอตัวเพราะว่าซาอึนดูเหมือนจะชอบกินเผ็ดๆ
หลังจากนั้นฉันก็ใส่ซอสถั่วเหลืองลงไปตามด้วยน้ำส้มสายชูข้าวกล้อง
“อืมม… ขาดอะไรไปนะ”
ในระหว่างที่ฉันคนวัตถุดิบทุกอย่าง
ฉันเหมือนตัวเองลืมอะไรไปสักอย่าง
ก่อนที่ฉันจะนึกได้ว่ามันคืออะไร
“ลืมแป้งข้าวไปเลย” [แป้งต๊อก]
ฉันรีบเดินไปเอาแป้งต๊อกมาสับเป็นชิ้นพอดีคำและเทมันใส่ลงไปพร้อมกับกระหล่ำปลีจำนวนหนึ่ง
พอฉันผัดเสร็จทุกอย่างก็ถึงเวลาเอานมสดชีสที่เตรียมไว้ราดลงไป
“เท่านี้ของจีฮุนก็เสร็จแล้ว!”
ฉันยิ้มออกมาอย่างพึงพอใจขณะที่ชิมไก่ผัดเผ็ด [ทัคคาลบี้]
“อะ… สามสิบนาทีพอดีเลย”
ฉันรีบไปที่ซุปที่ฉันเคี่ยวเอาไว้
ฉันคนมันเล็กน้อยก่อนที่จะเทโคชูจังลงไปและคนมันต่อราวๆ สิบนาที
จากนั้นฉันก็ใส่เต้าหู้อ่อนลงไป
“ที่เหลือก็รอจนเต้าหู้สุก…”
ฉันนั่งฮัมเพลงรอจนกว่าซุปเต้าหู้อ่อน [ซุนดูบูจิเก] จะเสร็จเรียบร้อย
พอเสร็จแล้วฉันก็รีบเอาพวกมันไปเสิร์ฟให้กับคิมจีฮุนและซาอึน
ซึ่งตอนนี้ทั้งสองคนกำลังจัดโต๊ะอาหารเลย
“เสร็จแล้ว~”
ฉันเอาซุปเต้าหู้อ่อนวางไว้ตรงกลางก่อนที่จะตามด้วยไก่ผัดเผ็ดที่คิมจีฮุนอยากกิน
ฉันยิ้มหวานออกมาอย่างมีความสุข
เมื่อฉันเห็นว่าทั้งคิมจีฮุนกับซาอึนต่างกลืนน้ำลาย
ทั้งสองคนอยากกินมันสุดๆ
ฉันถึงดีใจและรู้สึกดีขนาดนี้
ฉันรีบนั่งลงก่อนที่จะบอกให้ทั้งสองคนเริ่มกิน
ฉันมองคิมจีฮุนที่ตักไก่ผัดเผ็ดไปกิน
ฉันคาดหวังว่าเขาจะแสดงท่าทางอะไรออกมาทว่าผิดคาด
คิมจีฮุนหลับตานิ่งไปพร้อมกับเคี้ยวอาหารในปาก
“สุดยอด… ซอยอน…”
ซาอึนส่งเสียงร้องออกมาหลังจากที่เธอชิมซุปเต้าหู้อ่อนที่ฉันทำ
ฉันถึงหันไปหาซาอึน
ซาอึนกำลังป้องปากของเธอพร้อมกับมองซุปเต้าหู้อ่อนที่ฉันทำ
“โคตรอร่อยเลย… ซอยอนเธอควรเปิดร้านอาหารเลยนะ ทำได้ขนาดนี้เนี่ย…”
“อะ..อื้อ”
หน้าของฉันร้อนมากๆ หลังจากที่ซาอึนชมฝีมือของฉัน
“อย่างที่ซาอึนบอก… ฉันเองก็ว่าซอยอนเหมาะที่จะเปิดร้านอาหารเลย”
คราวนี้เป็นคิมจีฮุนพูดออกมา
พอถูกทั้งคิมจีฮุนกับซาอึนชม
ฉันรู้สึกดีมากๆ จนราวกับตัวลอยเลย
“ขอบคุณนะทั้งสองคน”
ฉันยิ้มออกมาจากใจจริงก่อนที่จะเริ่มทานอาหาร