ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 47 ฝึกฝน (2)
ฉันมองคิมจีฮุนกับอีจงซอกประลองกันมาหลายรอบแล้ว
ตอนนี้น่าจะราวๆ สิบกว่ารอบแล้ว
ทุกๆ ครั้งก็เป็นความพ่ายแพ้ของคิมจีฮุน
พอเห็นสภาพของเขาที่ตอนนี้กำลังหอบอย่างหนักแถมเหงื่อไหลเป็นสายน้ำไปทั้งตัว
“จีฮุน~! พักได้แล้ว~!”
ฉันเรียกคิมจีฮุนพร้อมกับเดินไปหาเขา
อีจงซอกที่เห็นว่าฉันเดินมาหาคิมจีฮุน เขาก็หยุดมือ
“…ฉันยังไหว”
คิมจีฮุนหอบหายใจขณะที่เขาปาดเหงื่อ
“…รู้”
ฉันพูดออกมาคำเดียวก่อนที่จะยื่นน้ำให้เขา
“แต่จีฮุนก็ควรพักบ้างนะ ฝืนไปมันก็ไม่ได้อะไรนี่”
ฉันพูดออกมาจากใจจริง
ก็… ในฐานะคนอ่านนิยาย
คิมจีฮุนต้องเผชิญกับความยากลำบากนับไม่ถ้วน
ฉันนึกถึงช่วงที่ตึงเครียดที่สุดของนิยาย
ในตอนที่ฉันนั่งอ่าน… ทั้งที่มันเป็นแค่นิยายฉันกับรู้สึกตึงเครียดจนนอนไม่หลับเพื่อรอตอนต่อไปในแต่ละวัน
คิมจีฮุนที่ต้องบังคับร่างที่อ่อนแรงต่อสู้แทบจะทุกวินาที
ทุกๆ ลมหายใจคือศัตรูที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด
ร่างกายของเขาที่เต็มไปด้วยบาดแผลนับไม่ถ้วน
เขาไม่มีเวลาพักเลยแม้สักเสี้ยววินาที
เขาต้องอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นมากกว่าสองสัปดาห์
ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ ฉันอยากให้เขาได้พักผ่อน
“ขอบคุณนะ ซอยอน”
คิมจีฮุนยิ้มมุมปากและดื่มน้ำที่ฉันยื่นให้เขา
หลังจากที่เขาดื่มเสร็จเขาก็ถอนหายใจออกมาและหันไปหาอีจงซอก
“ฮาา… วันนี้พอแค่นี้ก่อนได้ไหม อีจงซอก”
“เข้าใจแล้ว”
อีจงซอกพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเดินมาหาฉัน
“ต่อไปเป็นการฝึกของคุณฮันซอยอน”
“เอ๊ะ… ฉันหรอ?”
ฉันสะดุ้งตกใจเพราะว่าจู่ๆ อีจงซอกก็บอกว่าถึงเวลาฝึกของฉันแล้ว
ก็ใช่ที่ว่า… เขาบอกว่าฉันจะฝึกหลังจากคิมจีฮุน
แต่ว่าทันทีแบบนี้เลยงั้นหรอ?
“…ใช่”
“ว่าแต่นายจะฝึกอะไรให้ซอยอน?”
คิมจีฮุนลุกขึ้นยืนและมองอีจงซอกด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“อ่า… ก็แค่การฝึกทั่วๆ ไป”
“ฉันจะให้คุณฮันซอยอนวิ่งหนี”
“วิ่งหนี?”
ฉันกับคิมจีฮุนพูดออกมาพร้อมกันด้วยความสับสน
“…ใช่”
“คุณฮันซอยอนอาจจะสับสนว่าทำไมถึงต้องฝึกหนี”
อีจงซอกเดินไปที่ชั้นวางอาวุธไม้
“เอาเป็นว่า… คุณฮันซอยอน”
“ไม่เหมาะกับการต่อสู้โดยสิ้นเชิง”
“……”
ฉันนิ่งเงียบไป
ฉันไม่เหมาะกับการต่อสู้ขนาดนั้นเลยงั้นหรอ?
มันถึงขั้นที่ว่าอีจงซอกต้องพูดแบบนั้นเลยหรอ?
แม้แต่โอกาสเพียงสักนิดเดียวก็ไม่มีงั้นหรอ?
อีจงซอกมองหน้าฉันก่อนที่เขาจะพึมพำออกมา
“…คุณฮันซอยอนมีจุดอ่อนใหญ่หลวงอยู่”
“นั่นก็คือ ‘ปีก’ ยังไงล่ะ”
“ปีกของคุณฮันซอยอนนั้นอ่อนไหวเกินไป”
อีจงซอกพูดออกมาด้วยท่าทางเรียบนิ่ง
“ถึงปีกของซอยอนจะอ่อนไหวมากเป็นพิเศษแต่ว่าถ้าหากซอยอนสู้ระยะใกล้ไม่ได้ ก็ให้เธอสู้ระยะไกลแทนสิ”
คิมจีฮุนรีบขัดอีจงซอก
อีจงซอกกรอกตาและหันไปตอบคิมจีฮุน
“การต่อสู้นั้นมีทั้งไกลและใกล้ก็จริงแต่ว่าคุณฮันซอยอนต่อให้ฝึกการต่อสู้ระยะไกลแต่หากไม่สามารถหลบหนีจากศัตรูได้”
“คุณฮันซอยอนก็ไม่ต่างกับเหยื่ออันโอชะ”
ฉันก้มหน้าลงด้วยความหดหู่
สิ่งที่อีจงซอกพูดออกมานั้นเป็นความจริง
เป็นความจริงที่ฉันไม่อาจโต้แย้งได้เลย
คิมจีฮุนที่เห็นว่าเขาโดนตรอกย้ำความเป็นจริง เขาก็นิ่งเงียบไป
“ดังนั้นก่อนที่จะฝึกต่อสู้ ฉันอยากให้เธอฝึกการหลบหนีเสียก่อน”
“หลบหนีจนกว่าศัตรูจะไม่สามารถแตะต้องตัวได้”
“เข้าใจแล้ว…”
ฉันได้แต่พยักหน้าตอบช้าๆ
อย่างน้อยหากฉันอยากจะพัฒนาตัวเอง
ฉันจะต้องหนีจากอีกฝ่ายให้ได้เสียก่อน
“ถ้างั้นวอร์มร่างกายเลย”
อีจงซอกเมื่อเห็นว่าฉันเริ่มมีความตั้งใจ
เขาก็แยกตัวออกไปบิดกล้ามเนื้อ
“อย่าฝืนนะ”
คิมจีฮุนที่อยู่ข้างๆ ฉันก็พูดออกมาด้วยความเป็นห่วง
“อื้อ ฉันจะไม่ฝืน”
ฉันพยักหน้าตอบรับเบาๆ ก่อนที่ฉันจะวานให้คิมจีฮุนช่วยฉันวอร์มร่างกาย
เพราะว่าฉันไม่เคยออกกำลังกายมาก่อนเลยนับตั้งแต่ติดอยู่ในนิยาย
ร่างกายของฉันเลยตึงมากเป็นพิเศษ
แค่เอนตัวยืดเส้น หลังของฉันก็ร้าวไปหมด
หลังวอร์มร่างกายเสร็จแล้ว ฉันก็เดินไปหาอีจงซอก
“ฉันพร้อมแล้ว”
“…งั้นหรอ”
อีจงซอกมองร่างกายของฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ถ้างั้นฉันจะเว้นระยะห่างสี่เมตร”
“จะพยายามหลบหรือจะวิ่งหนีก็ได้”
“ห้ามให้ฉันแตะตัวได้เป็นอันขาดอย่างน้อยสักสองสามนาที”
อีจงซอกเดินถอยห่างจากฉันไประยะหนึ่ง
“พร้อม?”
อีจงซอกมองฉันพร้อมกับถามฉันด้วยเสียงเรียบๆ เหมือนปกติของเขา
“…อื้อ”
ฉันตอบรับด้วยเสียงในลำคอ
ฉันเพ่งสายตาจ้องมองไปที่อีจงซอก
ทันทีที่เห็นว่าฉันพร้อมแล้ว
อีจงซอกก็เริ่มขยับตัว
เขาพุ่งเข้าหาฉัน
ฉันก็กระโดดหลบไปที่ด้านข้าง
แป๊ะ!
“หนึ่ง”
อีจงซอกพูดออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
ฉันมองไปที่เอวของฉันที่ถูกอีจงซอกแตะ
ฉันอยู่ได้ไม่ถึงวินาทีด้วยซ้ำ
“การหลบด้วยกระโดดนั้นเป็นวิธีคิดที่แย่ที่สุด”
“การกระโดดจะทำให้ร่างกายรับภาระอย่างหนักหน่วง”
“นอกจากนั้นแล้วยังทำให้เกิดช่องโหว่มากๆ”
“ในระหว่างที่เธอกระโดด เธอจะใช้ขาของตัวเองเป็นแหล่งกำเนิดแรงกระโดด”
“เมื่อกระโดดโดยปกติแล้วร่างกายของมนุษย์จะแข็งเกร็งระหว่างอยู่กลางอากาศ”
“นอกจากนั้นแล้วเมื่อลงถึงพื้นแรงกระแทกภายในร่างกายจากเท้าจะทำให้ร่างกายไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ทันที”
“ในช่วงเวลาสั้นๆ ที่เกิดจากแรงกระโดดและแรงกระแทกทำให้เกิดช่องโหว่อย่างมาก”
“……”
ฉันนิ่งเงียบไปหลังจากที่อีจงซอกร่ายยาวออกมา
สิ่งที่อีจงซอกพูดออกมา
ฉันไม่เข้าใจเลยแม้แต่คำเดียว!
เมื่ออีจงซอกเห็นสีหน้าของฉันที่กำลังสับสนและไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร
อีจงซอกก็ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ… เอาเป็นว่าการกระโดดเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดแล้วกัน”
“อะ..อื้อ”
ฉันรีบพยักหน้าตอบรับทันที
ฉันรู้สึกอายที่อีจงซอกรู้ว่าฉันไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าเขากำลังพูดอะไร
“เอาเถอะ เริ่มรอบต่อไปกันดีกว่า”
อีจงซอกพูดออกมาขณะที่เขาตั้งท่าจะพุ่งเข้ามาหาฉันอีกรอบ
ฉันเลยตั้งใจเพ่งสายตามองอีจงซอก
แป๊ะ!
“สอง”
ฉันล้มเหลวอีกครั้ง
ไม่ต่างจากครั้งแรก ฉันรอดจากมือของอีจงซอกไม่ถึงเสี้ยววิด้วยซ้ำ
ฉันรู้สึกเศร้าที่ฉันหลบไม่ได้อีกครั้งแถมยังเหมือนเดิมเลย
ฉันหันไปมองคิมจีฮุน
คิมจีฮุนกำลังมองฉันระหว่างที่เขานั่งคุยกับซาอึนก็พยักหน้าให้ฉันและยกนิ้วเป็นสัญลักษณ์บอกให้ฉัน ‘สู้ๆ’
“รอบต่อไปเลย”
ฉันหันไปหาอีจงซอก
ฉันมีกำลังใจแล้ว
ฉันไม่รู้ว่าตัวเองฝึกกับอีจงซอกมากี่รอบแล้ว
จนตอนนี้ฉันเหงื่อไหลเต็มตัวสภาพไม่ต่างกับคิมจีฮุนเลย
ฉันไม่ได้พัฒนาขึ้นจากมากนัก
จริงๆ จะถือว่ามากก็ได้แหละมั้ง?
เพราะว่าในตอนนี้ฉันหลบอีจงซอกได้ราวๆ สามวินาทีเลยนี่นะ
ฉันยิ้มออกมาต่อการพัฒนาของตัวเอง
ในตอนแรกฉันอยู่ได้ไม่ถึงเสี้ยววินาที
แต่ตอนนี้ฉันอยู่ได้ถึงสามวินาที
เป็นการเติบโตอย่างใหญ่หลวงเลย
“ฉันขอพักก่อนนะ”
ฉันหันไปบอกกับอีจงซอก
เพราะว่าตอนนี้ฉันเหนื่อยมากแถมเหงื่อก็ไหลออกมาเต็มตัวเลย
“เหนื่อยไหม?”
คิมจีฮุนเดินมาหาฉันพร้อมกับผ้าเย็นและน้ำดื่ม
ฉันรับน้ำดื่มที่คิมจีฮุนยื่นมาให้และดื่มมัน
“…ขอบคุณนะ”
ฉันยิ้มและขอบคุณเขาด้วยน้ำเสียงหวานๆ
คิมจีฮุนนิ่งไปหลังจากที่ฉันขอบคุณเขาถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงนิ่งไปก็เถอะ
แต่ไม่นานคิมจีฮุนก็กลับมาเป็นปกติ
“เดี๋ยวเช็ดหน้าให้”
คิมจีฮุนบอกกับฉันก่อนที่เขาจะใช้ผ้าเย็นซับเหงื่อที่ใบหน้าให้กับฉัน
ความรู้สึกเย็นๆ จากผ้าที่ชุบน้ำแบบนี้มันดีมากจริงๆ หลังจากที่ใช้แรงจนเหงื่อไหลเยอะๆ
“อื้ออ~”
ฉันส่งเสียงในลำคอพร้อมกับเอนหัวอิงกับมือของคิมจีฮุนที่กำลังเช็ดหน้าของฉัน
ฉันรับสัมผัสมือของคิมจีฮุนผ่านผ้าเย็น
ฉันอยากจูบคิมจีฮุนจริงๆ ในตอนนี้
เพราะว่าเขาดูแลฉันดีแบบนี้เนี่ยแหละ
ฉันถึงอยากพลอดรักกับเขามากจริงๆ
“จีฮุน… บางทีคืนนี้ฉันอาจจะยอม ‘ทำ’ ก็ได้นะ”
“ถ้าจีฮุนดูแลฉันดีๆ แบบตอนนี้”
ฉันพึมพำออกมาเบาๆ พอที่จะให้คิมจีฮุนได้ยินคนเดียวและผละออกมาด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
คิมจีฮุนที่ได้ยินสิ่งที่ฉันกระซิบไป
เขาก็นิ่งแข็งเป็นหินไปเลย
“ฮุฮุ แต่แค่อาจจะนะ”
ฉันหัวเราะในลำคอเบาๆ ก่อนที่จะเดินไปหาอีจงซอก
“ฝึกต่อกัน”
ฉันบอกอีจงซอกด้วยรอยยิ้มเพราะฉันกำลังมีความสุขที่ได้แกล้งคิมจีฮุน
อีจงซอกมองใบหน้าของฉันก่อนที่เขาจะพยักหน้า
หลังจากนั้นพวกเราก็เริ่มฝึกอีกครั้ง
โดยที่การฝึกของพวกเราจะสลับกัน
หลังจากที่ฉันเหนื่อยมากๆ จนไม่อยากขยับตัว
อีจงซอกก็จะไปฝึกกับคิมจีฮุน
พอคิมจีฮุนเหนื่อยและล้า อีจงซอกก็จะมาฝึกฉันต่อ
ซึ่งเอาตรงๆ นะ…
ฉันนับถืออีจงซอกจริงๆ
เขาฝึกพวกเราสองคนได้โดยที่ไม่เหนื่อยเลย
แต่ถ้าจะเหนื่อยล่ะก็… คงเหนื่อยซาอึนนั่นแหละ
เพราะว่าเธอประท้วงไม่หยุดเลยเพราะซาอึนเองก็อยากฝึกแบบได้ออกกำลังเหมือนอย่างฉันกับคิมจีฮุน
พวกเราฝึกกันจนท้องฟ้าเริ่มตกดิน
ฉันกับคิมจีฮุนก็ขอแยกตัวกลับบ้านก่อน
พวกเราเลือกที่จะใช้รถสาธารณะในการเดินทางกลับ
ซึ่งระหว่างที่นั่งรถเมลล์กลับนั้นเอง
คิมจีฮุนก็เอาแต่จ้องโทรศัพท์ไม่วางตาเลย
“จีฮุนกำลังดูอะไรอยู่หรอ?”
ฉันถามคิมจีฮุนออกไปเพราะว่าฉันสงสัย
เขาแทบจะไม่พูดอะไรกับฉันเลยนับตั้งแต่เดินทางกลับ
เพราะว่าเขาเอาแต่จ้องโทรศัพท์ไม่วางตานั่นแหละ
“อา… ไม่มีอะไรหรอก”
คิมจีฮุนพูดปัดออกมาแต่ว่าเขาก็ไม่ยอมละสายตาจากจอโทรศัพท์มามองฉันเลย
พอเห็นเขาไม่สนใจฉันแบบนี้แล้ว…
“นี่! ดูอะไรอยู่น่ะ!”
ฉันถึงเริ่มส่งเสียงดังและพุ่งไปแย่งโทรศัพท์ในมือของเขามา
คิมจีฮุนนิ่งไปหลังจากที่เขาเห็นฉันแย่งโทรศัพท์ของเขาโดยไม่ทันตั้งตัว
โดยไม่รอให้คิมจีฮุนพูดอะไร ฉันรีบเปิดหน้าจอโทรศัพท์ทันที
‘วิธีร่วมรักทางประตูหลัง’
‘ร่วมรักทางประตูหลังยังไงให้ไม่เจ็บ’
‘ท่วงท่าต่างๆ สำหรับเพศสัมพันธ์ทางประตูหลัง’
“……”
ฉันนิ่งค้างไปหลังจากที่เห็นว่าเขากำลังค้นหาอะไรและอ่านอะไร
ฉันรีบคืนโทรศัพท์ให้คิมจีฮุนอย่างไวก่อนที่จะหันไปมองวิวนอกหน้าต่างรถเมลล์
หน้าของฉันร้อนสุดๆ
บางทีเพราะว่าฉันบอกเขาว่าฉันอาจจะยอมให้เขาทำอีกครั้ง
เขาถึงรีบหาวิธีที่จะทำให้ฉันไม่เจ็บ
พอคิดแบบนั้นแล้วฉันก็รู้สึกดีนิดหน่อย
แต่ว่ามันจะมีวิธีจริงๆ หรอ?
เพราะว่าจนตอนนี้ก้นของฉันยังแสบอยู่เลย
ถึงจะไม่เท่ากับตอนแรกแล้วก็เถอะ…
ช่างเถอะ… ถ้าหากมีเซ็กส์ที่ก้นครั้งนี้มันยังแสบและฉันรับไม่ไหว
หลังจากนี้ฉันคงไม่ยอมมีอะไรที่ก้นอีกแล้วล่ะ