ในฐานะเพื่อนฉันจะมอบการหลุดพ้นแก่เธอเอง - ตอนที่ 35 อาร์ติแฟกต์
“…อื้อ”
ฉันค่อยๆ ลืมตา
เมื่อวานหลังจากที่ยาออกฤทธิ์ร่างกายของฉันก็ปั่นป่วนไปหมด
ฉันทั้งรู้สึกหมดแรงและไม่มีแรงจูงใจทำอะไรสักอย่าง
นอกจากนั้นยังรู้สึกหนาวสั่น มึนหัวและคลื่นไส้สุดๆ
แถมภาพของชักโครกที่เต็มไปด้วยเลือดยังทำให้ฉันรู้สึกใจหาย
ฉันรีบลุกขึ้นนั่งและดึงกางเกงนิดหน่อย
ฉันมองแผ่นซับที่ฉันใส่ไว้หลังจากที่เข้าห้องน้ำเมื่อวาน
ซึ่งเป็นอย่างที่ฉันคิด
แผ่นซับของฉันมีเลือดเต็มไปหมด
มันไม่ได้รู้สึกเจ็บ แสบหรืออะไรเลย
นี่อาจจะเป็นผลข้างเคียงหลังจากที่ยาหมดฤทธิ์ที่คุณหมอสาวคนนั้นบอกฉัน
ฉันเลยไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่สบายเหมือนเมื่อวาน
ฉันเหยียดตัวจนสุดและมองไปรอบๆ หาคิมจีฮุน
แต่ว่าเขาไม่ได้อยู่ในห้องนอน
ฉันถึงยันตัวเองลุกขึ้นและเดินออกไปจากห้องนอน
ฉันเห็นคิมจีฮุนที่นั่งบนพื้นกำลังยุ่งอยู่กับการหยิบของใส่กระเป๋าใบใหญ่
“…จีฮุน?”
ฉันเรียกเขาในขณะที่เดินไปหาเขาจากด้านหลัง
“ซอยอน ตื่นแล้วหรอ?”
“อื้อ ทำอะไรอยู่หรอ?”
“อ่า… กำลังเตรียมพวกของจำเป็นเพราะว่าพวกเราต้องไปทำงานกับรัฐบาลน่ะ”
“…พวกเรา?”
ฉันเอียงคอสงสัย
ฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลยว่าฉันต้องไปทำงานอะไรกับคิมจีฮุนด้วย
“อืม ฉันลืมบอกเธอน่ะ”
“พรุ่งนี้พวกเราต้องไปทำงานกับทางรัฐบาล ถึงฉันจะไม่รู้ว่าทำอะไรก็เถอะ”
คิมจีฮุนตอบฉันในขณะที่เขายังคงตั้งใจเตรียมของใส่กระเป๋า
ฉันไม่รู้ว่าจะตอบอะไร
ฉันเลยนั่งลงข้างๆ เขา
“ซอยอน อาการเป็นยังไงบ้าง?”
คิมจีฮุนหลังจากที่เขาหยิบของชิ้นสุดท้ายใส่กระเป๋า
เขาก็หันมามองฉันพร้อมกับถามอาการ
สายตาเป็นห่วงของเขามันทำให้ฉันรู้สึกดี
ฉันเลยยิ้มให้เขา
“ดีขึ้นแล้วล่ะ ถึงจะยังรู้สึกเพลียๆ นิดหน่อยแต่ไม่มีปัญหา”
“…ดีแล้ว”
ฉันมองคิมจีฮุน
ตอนนี้เขานั่งมองหน้าฉัน
พวกเราไม่รู้จะพูดอะไรกันต่อดี
แต่แค่การมองหน้ากันและกันแบบนี้
มันก็ทำให้หัวใจของฉันรู้สึกดีสุดๆ
ฉันขยับตัวไปใกล้ๆ เขา
ฉันอยากกอดเขาจัง
ฉันอยากจูบเขาด้วย
“จีฮุน จูบได้ไหม?”
ฉันถามหาความยินยอมจากเขา
พอฉันเห็นเขาพยักหน้า
ฉันก็จูบเขาทันที
พร้อมกับร่างกายของฉันที่ถูกเขาดันลงนอนบนพื้น
พวกเราจูบกันอยู่นาน
เขาก็เป็นฝ่ายผละออกไปก่อน
ลมหายใจที่หอบหายใจแรงและใบหน้าแดงๆ ของเขา
มันทำให้ฉันอยากทำมัน
แต่ว่า… ฉันทำมันไม่ได้เนี่ยสิ
“…ซอยอน”
เขาเรียกชื่อของฉัน
สีหน้าของเขาที่กำลังเต็มไปด้วยความต้องการ
มันทำให้ฉันอยากจะถ่างขาของตัวเองและให้เขาสอดใส่เข้ามา
แต่ว่า… ฉันทำไม่ได้จริงๆ
เพราะว่าตรงนั้นของฉันมันมีเลือดไหลออกมา
“…ไม่ได้”
ฉันร้องห้ามออกมาพร้อมกับผลักหน้าของเขาออกไป
“…เข้าใจแล้ว”
คิมจีฮุนยอมฟังฉันแต่โดยดี
แต่เขาก็ยังไม่วาย ขบกัดและดูดที่คอของฉันเบาๆ
เขาจงใจทำให้คอของฉันมีรอยจ้ำชัดๆ เลย
มันทำให้ฉันรู้สึกดีที่เขาอยากแสดงความเป็นเจ้าของและครอบครองฉัน
แต่ว่า… ถ้าเขาทำรอยจ้ำเต็มคอของฉันจริงๆ
แล้วฉันจะใช้ชีวิตข้างนอกยังไง?
ปกติคนก็มองฉันเยอะมากๆ อยู่แล้วเพราะปีกของฉัน
ฉันเลยดันหน้าของคิมจีฮุนออกจากคอของฉัน
“จีฮุน พอเลย!”
หลังจากที่ฉันพูดห้ามเขา คิมจีฮุนก็หยุดแต่โดยดี
ฉันรู้สึกแปลกๆ
ทำไมวันนี้คิมจีฮุนดูเชื่อฟังฉันจัง?
ปกติแล้วฉันห้ามอะไรเขา เขาก็ไม่ค่อยฟังฉัน
…อย่างเมื่อวันก่อน ตอนที่เขาใช้นิ้วเล่นก้นของฉัน
ฉันร้องห้ามเขาแท้ๆ เขาก็ยังเล่นมันแถมยังแอบสอดนิ้วเข้ามาข้างในก้นของฉันนิดๆ อีก
“วันนี้จีฮุนทำตัวแปลกๆ นะ”
ฉันพูดออกมาพร้อมกับหัวเราะ
มันรู้สึกแปลกๆ นิดหน่อยที่จู่ๆ เขาก็ทำตัวเชื่อฟังแบบนี้
“…เธอคิดไปเอง”
คิมจีฮุนตอบฉันก่อนที่เขาจะลุกออกจากตัวของฉัน
“จริงหรอ?”
“อืม”
เขาตอบฉันสั้นๆ ทว่าหูของเขาที่กำลังแดง
มันทำให้ฉันรู้ว่าฉันไม่ได้คิดไปเอง
บางทีเขาอาจจะอายที่จะยอมรับมันก็ได้
พอคิดแบบนั้นแล้ว
ฉันก็รู้สึกดีจนอยากจะกระโดดกอดเขาเลย
“ซอยอน แต่งตัวเสร็จหรือยัง?”
คิมจีฮุนเรียกฉัน
ฉันมองตัวเองที่อยู่ในกระจก
ฉันสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาวรัดรูปช่วงหน้าอกของฉันและกางเกงขายาวสีดำสนิท
จริงๆ แล้วการไปที่รัฐบาล ฉันต้องใส่ชุดสูทเพื่อความเป็นทางการ
แต่ว่า… ปีกของฉัน
ปีกของฉันทำให้ฉันสวมชุดสูททั่วๆ ไปไม่ได้
ฉันรู้สึกอายที่ฉันจะต้องเปิดหน้าท้องโชว์คนไปทั่ว
แต่ว่าฉันก็ทำอะไรไม่ได้
ฉันหมุนตัวดูความเรียบร้อยของตัวเองนิดหน่อยก็เดินไปหาคิมจีฮุน
“…เรียบร้อยแล้ว”
ฉันมองคิมจีฮุน
ตอนนี้เขาอยู่ในชุดสูทสีดำ
เขาดูหล่อมากๆ เลย
แถม… กลิ่นน้ำหอมที่ลอยกระทบจมูกฉัน
กลิ่นของน้ำหอมที่ฉันชอบที่สุด
ชุดสูทที่ทำให้เขาดูเป็นคนเคร่งขึมและความหอมกลิ่นไม้โอ๊คที่ช่วยส่งเสริมเขาไปอีก
มันเหมาะกับเขามากๆ เลย
“จีฮุน ใช้น้ำหอมที่ฉันบอกว่าฉันชอบวันนั้นหรอ?”
“…อืม”
คิมจีฮุนพยักหน้าตอบรับฉัน
การที่เขาใช้น้ำหอมที่ฉันชอบ
มันหมายความว่า…
เขาอยากจะดูดีในสายตาของฉัน
อา… ฉันหยุดคิดถึงมันดีกว่า
ฉันไม่อยากให้หัวใจของฉันเต้นแรงจนระเบิดออกมา
เพราะตอนนี้ฉันรู้สึกหน้าตัวเองร้อนๆ จนฉันต้องใช้มือพัดแล้ว
“ไปกันเถอะ ไม่งั้นพวกเราจะสายเอา”
ฉันรีบเดินนำหน้าคิมจีฮุนออกไป
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆ ของคิมจีฮุนจากด้านหลัง
แต่ว่าฉันเขินและอายเกินไปที่จะหันกลับไปมองเขา
ฉันกับคิมจีฮุนเดินออกมาจากตึกกิลด์แทยังบิช
ฉันก็เจอกับคนคุ้นหน้า
‘ซาอึน’
ฉันเห็นซาอึนในชุดสูทหญิงสีขาว
เธอกำลังยืนเหมือนรอใครสักคน
‘เธอกำลังรอใครกันนะ’
ฉันได้แต่สงสัยทว่ายังไม่ทันไร
ฉันก็สบตากับซาอึน
ซาอึนก็รีบก้าวเท้าใหญ่ๆ เดินตรงดิ่งมาทางฉันทันที
“เตรียมตัวเสร็จกันช้าจังนะ”
ซาอึนตอนนี้อยู่ตรงหน้าของฉัน
ชุดสูทสีขาวและเส้นผมสีขาวของเธอ มันทำให้ดูสูงส่ง
แต่ดวงตาของเธอที่เป็นสีแดงเข้ม มันก็ทำให้เธอดูน่ากลัว
ซาอึนมองฉันไม่วางตา
มันทำให้ฉันตกใจจนหยุดหายใจ
แต่ไม่นานเธอก็ถอนหายใจ
“สะ..สวัสดี…นะ”
ฉันพยายามยิ้มออกมาทักทายซาอึน
ฉันยังกลัวซาอึนอยู่
ก็… ใครใช้ให้ซาอึนมีเนื้อเรื่องเสริมที่เป็นรูทฆ่าตัวละครหลักหญิงทุกคนกันล่ะ?
“สวัสดี”
ซาอึนตอบรับฉันสั้นๆ ก่อนที่เธอจะเดินไปหาคิมจีฮุน
“หัวหน้ากิลด์นายบอกให้ฉันไปด้วย”
“…งั้นหรอ? ถ้างั้นก็ดีเลย”
คิมจีฮุนพยักหน้าพร้อมกับจับคางของเขา
ดูเหมือนว่าเขากำลังใช้ความคิดอยู่
แต่ว่า… ซาอึนไม่อยู่ใกล้คิมจีฮุนเกินไปหน่อยหรอ?
ตอนนี้เธอยืนอยู่ข้างๆ คิมจีฮุนแถมยังตัวใกล้กันมากๆ
ตัวแทบจะสัมผัสกันแล้ว
ฉันไม่ชอบใจเลย
มันทำให้ฉันหงุดหงิด
ทว่าพอซาอึนหันมามองฉัน
ฉันก็ได้แต่หลบหน้าหนี
…ฉันไม่กล้าทำให้ซาอึนไม่พอใจ
ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากซาอึน
มันทำให้ฉันรู้สึกแย่เข้าไปอีก
ฉันก็พอรู้อยู่หรอกว่าซาอึนมีนิสัยที่ค่อนข้างแย่นิดหน่อย
แต่ฉันไม่คิดเลยว่าเธอจะทำตัวแบบนี้กับฉัน
พอฉันหันหน้ากลับไป
ฉันก็เห็นซาอึนที่กำลังกอดแขนของคิมจีฮุนขณะที่เธอกำลังคุยกับคิมจีฮุน
มันทำให้ฉันหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิมอีก
ฉันอยากเดินเข้าไปและกระชากแขนของซาอึนออกมากๆ
แต่ฉันมัน… ขี้ขลาด
เพราะแค่ซาอึนหันกลับมามองฉัน
ฉันก็ได้แต่เก็บความคิดพวกนั้นไว้
ฉันนี่มัน… น่าสมเพช
ฉันรีบเดินออกไปที่รถคันยาวๆ ที่จอดรอฉันกับคิมจีฮุนโดยที่ไม่หันกลับไปมองอีก
“อะฮะฮะ… ดูเธอสิ งอนจนเดินหนีไปแล้ว”
ซาอึนหัวเราะออกมาระหว่างที่เธอมองแผ่นหลังของฮันซอยอนที่เดินหนีออกไปอย่างรวดเร็ว
ฮันซอยอนที่กระทืบเท้าแสดงความไม่พอใจทุกครั้งที่เธอเดิน
มันทำให้เธออดหัวเราะออกมาไม่ได้จริงๆ
“…ซาอึน”
“โอ๊ย! เข้าใจแล้วน่า! แค่แกล้งนิดๆ หน่อยๆ เอง”
ซาอึนปล่อยแขนของคิมจีฮุนอย่างรวดเร็ว
เธอพริ้วปากอย่างอารมณ์ดี
คิมจีฮุนได้แต่ลูบแขนของเขาที่ซาอึนดึงไปกอด
แขนของเขาเป็นรอยแดงไปหมด
เขาได้แต่ถอนหายใจออกมา
เมื่อกี้นี้เขาพยายามจะผลักซาอึนออกแล้ว
แต่ว่าแรงของซาอึนนั้นมากกว่าเขา
พละกำลังของเธอมากกว่าเขาเยอะ
ถึงเขาและซาอึนจะเป็นเพื่อนกัน
แต่ซาอึนนั้นเป็นถึงหนึ่งในสมาชิกระดับท็อปของกิลด์อึนบิชซองโซ
ดังนั้นคงไม่ต้องพูดถึงเลย
ในด้านความแข็งแกร่งของซาอึนที่ถูกฟูมฟักมาจากกิลด์ยักษ์ใหญ่อย่างอึนบิชซองโซ
“เอาน่า… อย่าหัวเสียสิ”
ซาอึนตบบ่าของเขาเบาๆ
“ที่ฉันทำมันก็มีข้อดีไม่ใช่หรอ? นั่นไงทำให้นายเห็นชัดๆ ว่า ซอยอนชอบนายมากๆ ถึงขนาดหึงหวงไม่พอใจแค่ฉันเข้าใกล้น่ะ”
“เฮ้อ…”
คิมจีฮุนทำได้แค่ถอนหายใจออกมา
ดูเหมือนเขาจะต้องไปง้อฮันซอยอนแล้ว
ทั้งที่มันไม่ใช่ความผิดของเขาแท้ๆ
เขาถอนหายใจออกมาอีกครั้งก่อนที่เขาจะรีบเดินตามไปยังรถที่ฮันซอยอนกำลังนั่งอยู่
“…ซอยอน”
หลังจากที่เขาเข้ามาข้างในรถแล้ว เขาก็เรียกซอยอน
เขาแอบรู้สึกดีนิดหน่อยที่ซาอึนเลือกที่จะไม่แกล้งฮันซอยอนต่อ
เพราะว่าเธอเลือกที่จะไปนั่งตรงอื่น
ซึ่งเธอนั่งข้างๆ เขาทว่าเธอไม่ยอมหันมามองเขา
เธอหันมองออกไปข้างนอกรถ
“ซอยอน หันมานี่สิ”
เขาพยายามเรียกและดึงมือของเธอแต่ว่าฮันซอยอนก็ไม่ยอมหันกลับมาแม้แต่นิดเดียว
ให้ตายสิ… ซาอึน
ดูเหมือนว่าซาอึนจะทำให้ฮันซอยอนโกรธหนักมากๆ จริงๆ
เขาพยายามง้อฮันซอยอนด้วยวิธีต่างๆ นาๆ ทั้งจับมือทั้งลูบมือของเธอ
จนกระทั่งออกรถแล้ว เขาก็ยังง้อฮันซอยอนไม่สำเร็จ
เขาได้แต่ถอนหายใจและเหล่มองไปทางซาอึนด้วยสายตาโกรธเคือง
ซาอึนที่เห็นสายตาของเขา เธอก็แลบลิ้นออกมาและหันหน้าหนีเขาไป
หัวของเขาปวดตุ๊บๆ
สักวันหนึ่งเขาจะต้องเอาคืนซาอึนเรื่องนี้ให้ได้
เขาได้แต่สัญญามันต่อตัวเองในใจ
เวลาผ่านไปนาน
ในที่สุดรถก็หยุดลง
ฉันก็รีบลงจากรถทันที
ฉันรู้สึกอึดอัดตอนที่อยู่ในรถเพราะว่าคิมจีฮุนพยายามจะง้อฉัน
แต่ตอนที่เขาง้อฉัน
เขากลับไม่พูดขอโทษเลยสักคำ
ฉันแค่อยากได้ยินคำขอโทษจากปากของเขา
คำขอโทษที่เขาปล่อยให้ซาอึนตัวติดกับเขา
ทำให้กลิ่นของซาอึนติดกับตัวของเขา
ซึ่งฉันไม่ชอบ!
มันน่าหงุดหงิด!
มันน่าลำคาญด้วย!
ฉันเดินย่ำเท้าเดินตามแผ่นหลังคนขับรถไปข้างในตึกอาคาร
คิมจีฮุนที่เดินตามหลังฉันพร้อมกับซาอึนที่อยู่ข้างๆ
อา.. ฉันรู้สึกเวียนหัวแล้วสิ
ฉันรู้สึกหงุดหงิดจนฉันเวียนหัว
ฉันไม่ชอบเลยที่คิมจีฮุนปล่อยให้ซาอึนอยู่ใกล้ๆ ตัวแบบนี้
ฉันรีบเดินตามคนนำทางจนในที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดหมาย
คนนำทางเคาะประตูสองสามครั้งก็เปิดประตู
“เชิญทั้งสามท่านเข้าไปได้เลยครับ”
คนนำทางโค้งตัวพร้อมผายมือก่อนที่จะเดินออกไป
ฉันลังเลนิดหน่อยแต่ก็ก้าวขาเดินเข้าไปข้างในห้องนั้น
ภายในห้องดูเหมือนเป็นห้องประชุมเลย
เก้าอี้สิบสองตัวที่วางล้อมโต๊ะและหน้าจอมอนิเตอร์ที่กำลังฉายภาพอยู่
บนหน้าจอมอนิเตอร์เป็นภาพของชายชราคนหนึ่งที่ไว้ผมยาวและหนวดเครายาวเฟื้อย
ชายชราคนนั้นลูบเคราของเขาหลังจากที่เห็นฉัน คิมจีฮุนและซาอึนเข้ามาข้างในห้องแล้ว
เขาก็พูดขึ้นมา
“อาา.. ฮัลโหล… ฮัลโหล… ได้ยินไหม?”
ฉันลังเลเพราะไม่รู้จะตอบสนองยังไงดี
คิมจีฮุนก็เดินนำหน้าฉันและพยักหน้า
“โอเค! พวกเรามาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่าเพื่อไม่ให้เสียเวลา”
ชายชราคนนั้นยิ้มพร้อมกับหัวเราะออกมา
“ก่อนอื่นฉันอยากให้พวกเธอไปช่วยปฏิบัติภารกิจอย่างหนึ่ง”
“ภารกิจที่ว่าคือการยึดคืนอาร์ติแฟกต์จากพวกอาชญากร”
หูของฉันผึ่งทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘อาร์ติแฟกต์’
อาร์ติแฟกต์ มันคืออุปกรณ์ที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาด้วยศาสตร์ของเวทมนตร์ อุปกรณ์แต่ละชิ้นจะมีความสามารถและเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป
บางชิ้นจะมีความสามารถในการปกป้องการโจมตีถึงแก่ชีวิตกับผู้ใช้ฉุกเฉิน
บางชิ้นก็อาจจะเป็นอาวุธที่ทำให้คนใช้แข็งแกร่งขึ้นหลายเท่า
แต่ถึงจะพูดถึงความเก่งกาจของอาร์ติแฟกต์แบบนั้น… อาร์ติแฟกต์ ก็ไม่ได้หาง่ายดายได้ขนาดนั้น
เพราะว่านอกจากการบุกเข้าไปข้างในเกทเพื่อต่อกรกับสิ่งมีชีวิตภายในเกทแล้ว
ในปัจจุบันไม่มีใครสามารถสร้างอาร์ติแฟกต์ได้เลยสักคน
อาวุธหลักและอาวุธที่แท้จริงของคิมจีฮุนในนิยายเองก็เป็นอาร์ติแฟกต์
ฉันที่ได้ยินคำว่า อาร์ติแฟกต์
มันก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรง
บางทีฉันอาจจะเจออาวุธของคิมจีฮุนไวกว่าที่คิดก็ได้
เพราะว่าในนิยายของคิมจีฮุนนั้น อาวุธของเขาไม่มีที่ไปที่มาระบุชัดเจน
มันระบุไว้เพียงแค่ว่าคิมจีฮุนบังเอิญไปเจอมันเข้าในตลาดประมูล
ดังนั้นนี่อาจจะเป็นโอกาสที่พวกเราจะได้เจออาวุธของคิมจีฮุนล่วงหน้าก็ได้
ทว่าฉันก็ต้องผิดหวังเมื่อฉันมองบนหน้าจอมอนิเตอร์ที่ตอนนี้มีภาพภาพหนึ่งฉายเพิ่มขึ้นมา
ภาพของมงกุฏสีทองและประดับไปด้วยอัญมณีสีแดง สีน้ำเงินและเหลือง
ฉันไม่เคยเห็นและไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับอาร์ติแฟกต์ชิ้นนี้มาก่อนในนิยาย
“พวกเธอจะต้องไปนำอาร์ติแฟกต์กลับคืนมาให้ได้ในคืนนี้”
“แน่นอนว่าพวกเธอไม่ได้ทำภารกิจแค่พวกเธอเองหรอก ฉันได้ส่งกำลังคนสนับสนุนไปเพิ่มคนหนึ่ง”
“ฉันการันตีฝีมือของหมอนี่”
“เอาล่ะ เข้ามาแนะนำตัวกับเพื่อนร่วมทีมได้!”
เสียงประตูที่เปิดออก
พร้อมกับชายวัยรุ่นราวคราวเดียวกับฉัน คิมจีฮุนและซาอึน
ชายวัยรุ่นผมสีทองและดวงตาสีฟ้าคราม
‘อีจงซอก’