ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 2 เล่ม 4 Side Story 1-4
อีอูยอนปรือตาพลางกระแทกส่วนนั้นเข้าไปเต็มแรง อินซอบที่กำลังร้องไห้อยู่ครางเสียงแหลมตัวสั่นระริก ในขณะเดียวกันบริเวณท้องก็ชื้นแฉะด้วยของเหลวอุ่นๆ
ร่องรอยน้ำรักทำให้อีอูยอนมีอารมณ์และกระแทกแก่นกายของตัวเองเข้าไป นี่เป็นการผสมพันธุ์ของสัตว์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขยายพันธุ์ ไม่ใช่เซ็กซ์ของมนุษย์ ลมหายใจที่พลุ่งพล่านหยุดไปสักพัก ในขณะเดียวกันต้นขาแข็งแรงของเขาก็เกร็ง อีอูยอนฉีดพ่นน้ำเชื้อเข้าไปในช่องทางที่ตอดรัดของอินซอบ เขายึดร่างกายที่เล็กและผอมบางไว้และฉีดน้ำรักจำนวนมากเข้าไปด้วยความตั้งใจที่จะทำให้ท้องจริงๆ น้ำอสุจิไหลออกมาผ่านช่องว่างระหว่างแก่นกายกับช่องทางรักและเปียกที่นอน
อีอูยอนขยับเอวต่ออีกหลายครั้ง และปล่อยน้ำเชื้อทั้งหมดที่เหลืออยู่ในตัวเข้าไปในร่างกายของอินซอบ พอเขาปลดปล่อยจนเสร็จ อินซอบก็หอบหายใจและนอนแผ่ลงบนเตียง
“…!”
มือที่ยื่นมาจากด้านหลังกุมส่วนอ่อนไหวของอินซอบ
แค่สัมผัสกับฝ่ามือ ส่วนอ่อนไหวที่ไวต่อความรู้สึกเพราะเพิ่งเสร็จได้ไม่นานก็เจ็บแสบ แม้อินซอบจะพยายามบิดเอวไปด้านข้างเพื่อให้หลุดออกจากเงื้อมมือของอีอูยอน แต่เขากลับไม่ผ่อนแรงที่มือลงเลย
“คุณอูยอน…”
มือใหญ่ของอีอูยอนกระทำชำเราส่วนอ่อนไหวของอินซอบอย่างหยาบช้า แรงที่กดลงมาราวกับบีบ และถูไถส่วนหัวไปด้วยนั้นทำให้อินซอบตัวสั่นเทา น้ำเชื้อกับแก่นกายของชายหนุ่มที่ยังไม่ได้เอาออกไปเคลื่อนไหวอยู่ด้านใน
“ดะ เดี๋ยว มากไป…อ๊ะ…ฮ่า อ๊า!”
การปลุกเร้ารุนแรงที่เกิดขึ้นพร้อมกันทั้งข้างหน้าและข้างหลังทำให้อินซอบหน้ามืดเป็นระยะ เขาชาไปทั้งตัว อินซอบไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรจึงได้แต่เกาะแขนของอีอูยอนไว้
“คุณอูยอน คุณอูยอน…มันแปลกๆ อ๊ะ อ๊า ได้โปรด ปล่อยผม…สักเดี๋ยว…ฮ่า”
ลมหายใจร้อนๆ ของอีอูยอนเป่ารดต้นคอ เขางับและโลมเลียต้นคอของอินซอบอย่างช้าๆ ราวกับเป็นสัตว์ดุร้ายที่ลิ้มรสเนื้อของสัตว์ที่อ่อนแอ
“ไม่เป็นไรนะครับ ผมผ่อนแรงลงแล้ว”
“ไม่เอา มันแปลกๆ ครับ…ผะ ผมกลัว…ไม่เอาแล้วครับ”
ช่วงล่างขยับอย่างหยาบช้าต่างกับน้ำเสียงที่พูดอย่างเนิบนาบของฝ่ายนั้น ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตรงส่วนอ่อนไหวทำให้อินซอบตัวสั่นสะท้าน น่ากลัว นี่ไม่ใช่ความเสียวซ่านที่เขาเคยรู้สึกในเวลาปกติ มันเป็นความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาอย่างเลือนรางและตกลงไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุด อาการปวดปัสสาวะที่พุ่งมาจ่อที่ท้องน้อยทำให้อินซอบต้องจิกปลายเท้าลงบนที่นอนราวกับกำลังตะเกียกตะกาย
“ได้โปรด เดี๋ยวก่อน…คุณอูยอน ไม่ได้นะ ผมไม่…ไม่เอาแบบนี้…!”
น้ำทะลักออกมาจากส่วนปลายแก่นกายของอินซอบ ของเหลวกึ่งใสไหลออกมาราวกับเป็นน้ำ น้ำที่ไหลออกมาเป็นสายทิ้งร่องรอยเปียกแฉะไว้บนที่นอน อินซอบตัวสั่นระริกและพ่นลมหายใจออกมาเพราะนี่ไม่ใช่การเสร็จแบบปกติทั่วไป
“ผู้ชายเองก็สามารถ squirt[1] ได้เหมือนกันสินะครับ”
ในตอนนั้นเอง คำพูดพึมพำคนเดียวของอีอูยอนก็ทำให้อินซอบได้สติ และร้องไห้ออกมา
“ผมบอกแล้วว่าไม่เอา…ฮึก”
เขาพูดพร้อมกับร้องไห้ไปด้วยอย่างยากลำบาก และฝังตัวลงไปในหมอน อีอูยอนทนความรู้สึกอยากจะปลดปล่อยที่กระชั้นเข้ามาไว้ เขาถอนแก่นกายออกและกอดอินซอบไว้จากทางด้านหลัง
“ไม่เป็นไรครับ มันไม่ใช่เรื่องผิดซะหน่อย”
อินซอบส่ายหน้า
เขารู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก พออินซอบร้องไห้เหมือนเด็กอยู่ในกองหมอน รอยยิ้มเกิดขึ้นที่ปากของอีอูยอน
“เด็กดี นะ? ไม่เป็นไรนะ”
“…ฮึก ผม ผมบอกแล้วว่าไม่…ทำ…”
อินซอบสะอึกสะอื้นและผลักอีอูยอนออกไปเบาๆ แรงแค่เท่านี้เอง แม้จะบอกว่าไม่ชอบถึงขนาดนั้น แต่ก็ตีเขาด้วยแรงแค่นี้
เพราะแบบนี้คนอย่างเราถึงได้เสียนิสัย
อีอูยอนกลืนการเยาะเย้ยที่ขมขื่นลงไป และดึงอินซอบเข้ามากอดไว้พร้อมทั้งผ้าปู
“ขอโทษนะครับ นี่คงเกินไปสำหรับคุณอินซอบ”
“…ผมไม่อยากทำครับ ไม่เอาแล้ว…ต่อไปไม่ทำแบบนี้แล้ว…”
อีอูยอนตอบว่า “ครับ ผมจะไม่ทำแล้ว” ก่อนจะอุ้มอินซอบขึ้นมา อินซอบร้องไห้งอแง แต่ในขณะเดียวกันก็กอดคออีอูยอนเอาไว้แน่น
สวยมาก สวยจนเขาโมโหเพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไร
ทำไมถึงเพิ่งมารู้เรื่องนี้เอาตอนนี้กันนะ
“ผมจะล้างตัวให้ครับ”
อินซอบพยักหน้า
อีอูยอนกอดอินซอบและเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ในระหว่างกำลังเปิดน้ำใส่อ่าง อีอูยอนก็ล้วงนิ้วเข้าไปในช่องทางของอินซอบเพื่อเขี่ยเอาน้ำเชื้อออกมา พอเขาใช้นิ้วสอดเข้าไป อินซอบก็ผ่อนลมหายใจออกมาเบาๆ พร้อมกับช่องทางที่ตอดรัด ภาพของน้ำรักที่ไหลออกมาจากช่องทางสีชมพู และเปียกตามต้นขาผอมบางของอินซอบทำให้อีอูยอนทนไม่ไหว และพุ่งเข้าใส่ในที่สุด
หลังจากที่พาอินซอบที่หมดแรงไปล้างตัวและกลับออกมา เขาก็เดินข้ามไปที่ห้องของอินซอบ เพราะคิดว่าไม่สามารถกล่อมให้อีกฝ่ายหลับบนเตียงที่เปียกโชกได้
แม้จะนอนกอดอินซอบไว้ และบอกว่า “จะแค่นอนกอดเฉยๆ” แต่วินาทีที่สบตากับดวงตาที่บวมของอินซอบซึ่งยังมีรอยน้ำตาหลงเหลืออยู่ สติของอีอูยอนก็ขาดผึงอีกครั้ง อีอูยอนเสร็จบนเตียงของอินซอบถึงสองครั้ง และอินซอบเองก็เสร็จไปหลายครั้งเช่นกัน
สุดท้ายอินซอบก็ไม่สามารถลุกจากเตียงได้ในวันรุ่งขึ้น
***
“งั้นฝากความคิดถึงถึงพี่ด้วยนะครับ”
โลแกนยิ้มพร้อมกับโบกมือ นาธานที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็โบกมือพร้อมกัน อีอูยอนพยักหน้าด้วยสีหน้าอ่อนโยน
[ไม่สบายมากเลยเหรอครับ]
แอรอนที่กำลังจะออกจากบ้านชะงัก และหันกลับมาถาม
[เหมือนจะมีไข้นิดหน่อยน่ะครับ แต่ว่าให้กินยาไปแล้ว ก็เลยจะให้พักในตอนกลางวันอย่างเต็มที่]
แม้จะได้ยินคำตอบของอีอูยอนแล้ว แต่แอรอนก็ยังมีสีหน้าไม่พอใจเป็นอย่างมากอยู่ดี
[ขอไปดูหน้านิดหนึ่งไม่ได้เหรอครับ]
[ผมไม่อยากปลุกคนป่วยน่ะครับ]
แอรอนถอนหายใจ เขายืนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะพูดด้วยภาษาเกาหลี
“พี่เป็นคนดีนะครับ”
“ผมรู้ครับ”
เขารับรู้ความจริงที่ว่าชเวอินซอบเป็นคนดีอยู่ทุกวันจนเบื่อ เพราะนี่เป็นคนคนเดียวที่รักคนอย่างเขาอย่างจริงใจ
“ผมถามพี่เกี่ยวกับคุณเมื่อวานนี้ครับ”
แอรอนเอ่ยถามพี่ชายในระหว่างที่ฝาแฝดผู้ดื่มเบียร์ไปเต็มที่ขอไปเข้าห้องน้ำ
‘คนที่ชื่อว่าอีอูยอนน่ะ เป็นคนดีหรือเปล่า’
ถ้าพี่ชายตอบกลับมาว่าใช่ เขาคิดว่าจะเล่าเกี่ยวกับเรื่องที่ตัวเองรู้มาให้ฟัง แต่อินซอบกลับกะพริบตาปริบๆ และตอบว่า “ไม่” ต่างจากที่เดาไว้ ไม่รู้ทำไมเขาถึงได้หดหู่ และคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าจะถามว่าอะไร
ตอนนั้นเองนาธานที่กลับมาจากห้องน้ำก็คุยโม้ว่าพอเข้าไปใกล้ๆ กับโถส้วม ฝาก็จะเปิดออกเอง และพอนั่งลงก็จะมองเห็นทะเลด้วย
‘ว้าว ดูเหมือนว่าเจ้านายของพี่จะรวยจริงๆ นะ สนิทกับเขาต่อไปเรื่อยๆ ล่ะ จะได้อยู่ที่นี่ไปตลอดไง’
อินซอบพยักหน้าโดยไม่พูดอะไรให้กับคำพูดที่เจือการล้อเล่นนั้น
‘ได้สิ’
นี่เป็นคำพูดสั้นๆ เพียงเท่านั้น แต่เขารู้สึกเหมือนอ่านความคิดของพี่ชายออกทั้งหมด
“ดูเหมือนพี่จะชอบคุณนะครับ”
อีอูยอนยกมุมปากขึ้นยิ้ม
“ผมเองก็เหมือนกันครับ โชคดีจังเลยนะครับ”
“…”
แอรอนมองอีอูยอนโดยไม่พูดอะไร แม้จะกำลังยิ้มอย่างอ่อนโยน แต่เขากลับไม่พอใจในสายตาที่คล้ายจะแฝงไว้ด้วยความอวดดีคู่นั้นเลย ทว่าในเมื่อมันเป็นการตัดสินใจของพี่ชาย เขาจึงไม่คิดจะพูดอะไรแม้แต่น้อย เพราะเขาไม่อยากทำให้หัวใจของพี่ซึ่งตกหลุมรักไปแล้วไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแบบไหนรู้สึกเจ็บปวด
“ผมขอร้องอะไรสักอย่างได้ไหมครับ”
คำพูดที่คาดไม่ถึงหลุดออกมาจากปากของชายหนุ่ม
“ขอร้องอะไรเหรอครับ”
“อย่าบอกคุณอินซอบนะครับ เพราะผมไม่อยากทำให้เขาต้องคิดมาก”
เขารู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงเรื่องอะไร แอรอนตอบกลับว่า “แน่นอนครับ”
“เรื่องนั้นพี่ต้องพูดเองสิครับ มันไม่ใช่ปัญหาที่ผมสามารถพูดได้อยู่แล้ว แล้วผมก็ไม่คิดที่จะพูดด้วย”
อีอูยอนจ้องมองแอรอนตรงๆ และพึมพำด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “แม่งเอ๊ย กลัวใครหาว่าไม่ใช่น้องชายของชเวอินซอบหรือไง” แอรอนที่ได้ยินไม่ชัดเอ่ยถามว่า “ครับ?” อีอูยอนจึงยิ้มมุมปากให้
“ผมเองก็ขอร้องอะไรสักอย่างเหมือนกันได้ไหมครับ”
“ครับ พูดมาเลยครับ”
อีอูยอนยิ้มพลางพยักหน้า เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะพูดอะไร เขาก็ไม่คิดจะทำตามคำขอร้องนั้นอยู่แล้ว
“…ช่วยเชื่อมขิงสดกับเลมอนในน้ำผึ้ง แล้วทำเป็นชาให้ทีนะครับ”
“ครับ?”
“แม่จะทำให้ทุกครั้งที่พี่เป็นหวัดน่ะครับ เพราะถ้าดื่มแล้วไม่นานไข้ก็จะลดลงอย่างน่าประหลาดใจเลยแหละครับ”
แอรอนที่พูดมาถึงตรงนี้ก้มหัวและบอกว่า “งั้นขอตัวก่อนนะครับ” และขึ้นรถไป ฝาแฝดที่เลื่อนกระจกหน้าต่างรถลงมาจุ๊บมือเพื่อโปรยจูบก่อนจะกล่าวลา
อีอูยอนโบกมือให้อย่างนุ่มนวล พอเสียงรถไกลออกไปพร้อมกับภาพของตัวเขาที่หายไปจากสายตา รอยยิ้มก็หายไปจากใบหน้าของอีอูยอน
แม่งเอ๊ย เป็นไอ้พวกที่ไม่ถูกใจเหมือนกันหมดเลยจริงๆ
***
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
เสียงที่นุ่มนวลของอีอูยอนทำให้อินซอบกะพริบตาอยู่หลายครั้งพร้อมกับมองไปรอบๆ จากนั้นก็กลั้นหายใจดังเฮือกและดีดตัวลุกขึ้นจากเตียง
“กี่โมงแล้วครับ แล้วแอรอนล่ะครับ”
“เพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เองครับ ส่วนตอนนี้ก็บ่ายโมงแล้ว”
อินซอบหน้าเสียทันที
“ไม่ได้ร่ำลากันเลย…”
อีอูยอนค่อยๆ ดันไหล่ของอินซอบให้นอนลงบนเตียงตามเดิม
“ไว้ชวนพวกเขามาเที่ยวเล่นอีกสิครับ”
นี่เป็นการโกหกคำโตที่ไม่ได้มีความจริงใจแฝงอยู่เลยสักนิด เขาไม่ได้ดูละครเกี่ยวกับครอบครัวที่ทั้งน่าเบื่อและน่ารำคาญมาตั้งแต่ตอนอายุหกขวบแล้ว
“…ขอบคุณครับ”
อินซอบกำผ้าห่มไว้พร้อมทั้งเอ่ยขอบคุณ อีอูยอนลองใช้มือแตะหน้าผากโหนกนูนของอินซอบดู ยังคงมีไอร้อนจางๆ อยู่
อีอูยอนหยิบแก้วชาที่วางไว้บนโต๊ะขึ้นมา
“ชาร้อนครับ ดื่มสักหน่อยไหมครับ”
อินซอบพยักหน้า เขาจึงจับให้อีกฝ่ายลุกขึ้นมานั่ง และเอาแก้วชาไปแตะที่ริมฝีปาก หลังจากจิบชาไปได้อึกหนึ่ง อินซอบก็ทำตาโต
“พอกินได้ไหมครับ”
“…คุณรู้ได้ยังไงครับ”
“แอรอนบอกครับ เขาขอให้ช่วยดูแลพี่ชายให้ดี”
อินซอบนิ่วหน้าราวกับเสียดาย
“เขาเป็นเด็กดีจริงๆ นะครับ ผมเป็นพี่ชายแท้ๆ แต่เพราะเขาดูเป็นผู้ใหญ่กว่าผมอยู่เสมอ…ผมก็เลยรู้สึกผิดมากๆ”
“อย่างนั้นเหรอครับ”
อีอูยอนขยับมือสั่งให้อินซอบดื่มชาที่เหลือให้หมด อินซอบจึงดื่มชาจนหมดและนอนลงบนเตียงอีกครั้ง
อีอูยอนดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมตัวอินซอบ
อินซอบได้ยินเสียงฝน
“…ฝนตกเหรอครับ”
“อ้าว ใช่จริงๆ ด้วยครับ”
ตอนนั้นเองอีอูยอนถึงได้เบนสายตาไปที่หน้าต่าง เพราะไม่รู้เช่นกัน วินาทีที่เห็นภาพด้านข้างที่ดูดีนั้น อินซอบก็รู้สึกว่าเสี้ยวหนึ่งในหัวใจของตนเจ็บแปลบ เขารู้ว่าอีอูยอนเฝ้าไข้ตนทั้งคืน หากเขาตัวร้อนขึ้นมาแม้เพียงเล็กน้อย หรือเกิดความผิดปกติขึ้นกับร่างกาย อีอูยอนก็จะนอนไม่หลับ และเฝ้าไข้เขา
อินซอบถอนหายใจออกมาเบาๆ
“มีอะไรเหรอครับ”
อีอูยอนรับรู้ถึงสัญญาณสั้นๆ นั้นจึงเอ่ยถาม
“…ผมคิดว่าถ้าคุณอีอูยอนเป็นพี่น้องของผมจะเป็นยังไงน่ะครับ”
อีอูยอนยิ้มมุมปาก
เขาอิจฉาพวกพี่น้องของอินซอบที่ได้มีความสัมพันธ์กับอินซอบตั้งแต่วินาทีที่เกิดมาโดยไม่ต้องพยายาม เพราะถ้าหากเป็นชเวอินซอบแล้วล่ะก็ แม้ว่าน้องๆ จะทำเรื่องอะไร เขาก็ไม่มีทางที่จะทิ้งครอบครัวไปแน่
“…มีน้องชายแบบผม คุณคงจะซวยแย่เลย”
อีอูยอนจัดผ้าห่มให้พลางเอ่ย
ดวงตาสีดำของอินซอบช้อนมองอีอูยอนอย่างระมัดระวัง แพขนตายาวก็กะพริบลงมองด้านล่างอย่างเขินอาย
“…ก็คงจะเหมือนกันแหละครับ”
“อะไรเหรอครับ”
“คุณอีอูยอนเองถ้าเป็นน้องหรือพี่ชายของผมก็คง…”
อีอูยอนก้มตัวลงมากดริมฝีปากของอินซอบไว้ นี่เป็นการจูบที่นุ่มนวลโดยไม่มีการแลกลิ้นและระมัดระวังมาก
“…คำที่จะพูดต่อเอาไว้หายดีแล้วค่อยพูดนะครับ เพราะตอนนี้ผมคงไม่สามารถควบคุมตัวเองได้”
แม้จะไม่สามารถเป็นครอบครัวของอินซอบได้ แต่แค่อีกฝ่ายคิดกับเขาแบบนี้ก็พอแล้ว อีอูยอนรู้สึกพอใจมากพอแล้วราวกับได้เข้าไปอยู่ในโลกของอีกฝ่าย
“ช่วยมานอนข้างๆ ได้ไหมครับ”
พออินซอบชี้ไปยังที่ว่างข้างตัว อีอูยอนก็ขึ้นไปนอนบนเตียงทันที เขายื่นแขนออกมากอดหัวของอินซอบไว้ และพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ
“ผมยกเลิกการไปเที่ยวตอนสุดสัปดาห์แล้วนะครับ”
“ครับ? ไม่นะครับ เดี๋ยวไข้ก็ลดลงแล้ว”
การบอกให้รู้อย่างกะทันหันนั้นทำให้อินซอบตะโกนขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะเขารู้ว่าอีอูยอนลำบากมากแค่ไหนที่จะไปเที่ยวให้ตรงกับวันเกิดของเขา
“ผมรู้ครับว่าเดี๋ยวไข้ก็ลดลงแล้ว”
อีอูยอนลูบผมของอินซอบพลางพูดต่อ
“ไปสัปดาห์หน้าก็ได้ครับ ถ้ายังไม่ได้อีก ก็ไปสัปดาห์ถัดๆ ไปแทนก็ได้”
“…”
“ถ้ายังไม่ได้อีกก็ไปเดือนหน้า หรือปีหน้าก็ได้เหมือนกันครับ”
ความปรารถนาอย่างแรงกล้าลุกโชนในสายตาของอีอูยอน อินซอบรู้ว่าสิ่งที่อีอูยอนกำลังจะพูดต่อไปคืออะไร
อีกฝ่ายต้องการทั้งชีวิตของเขา และเขาเองก็หวังในสิ่งนั้นเช่นกัน
“…ได้ครับ”
พอได้ยินคำตอบของอินซอบ อีอูยอนก็หลับตาลง อินซอบแนบศีรษะกับแผ่นอกของอีอูยอน จากนั้นไม่นานเขาก็ได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของอีกฝ่าย
เสียงฝนกระทบกับหน้าต่าง
นี่เป็นช่วงบ่ายสัมผัสได้ถึงกลิ่นของชาที่มีรสขมเล็กน้อย
อินซอบฟังเสียงลมหายใจของอีอูยอนพร้อมกับหลับตาลง
[1] Squirt คือ การถึงจุดสุดยอดแบบมีน้ำที่คล้ายกับปัสสาวะไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิง ซึ่งสามารถเกิดกับผู้ชายได้เช่นกัน