ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 2 เล่ม 1 ตอนที่ 2-11
“กำลังทำอะไรอยู่เหรอครับ”
“มะ ไม่ได้ทำอะไรครับ”
ชเวอินซอบตกใจและซ่อนโทรศัพท์มือถือที่กำลังดูอยู่ไว้ใต้หมอน อีอูยอนใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกพลางตอบอย่างไม่ใส่ใจว่า ‘อย่างนั้นเหรอครับ’
อินซอบถอนหายใจอย่างโล่งอก แต่ความโล่งใจนั้นก็อยู่ได้ไม่นาน อีอูยอนใช้ร่างกายตะครุบอินซอบไว้เหมือนกับจะกดลงไป
“…!”
อีอูยอนเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์ออกมาจากใต้หมอน
“กำลังดูของลามกอยู่เหรอครับ”
“เอาคืนมานะครับ”
อีอูยอนที่กำลังอมยิ้มกดอินซอบที่ดิ้นไปมาไว้ก่อนจะดูหน้าจอโทรศัพท์ของอีกฝ่าย อินซอบเองก็เป็นผู้ชายที่มีความต้องการเหมือนกัน เขาคิดว่าอีกฝ่ายอาจจะดูรูปหรือคลิปโป๊ตอนอยู่คนเดียวก็ได้ แน่นอนว่าเขาวางแผนที่จะกล่าวโทษอีกฝ่ายที่ทำเรื่องน่าอายแบบนั้นทั้งๆ ที่มีคนรักอยู่แล้ว
แต่ว่านี่มัน
“ฮ่าๆๆๆ”
อีอูยอนหัวเราะออกมา อินซอบหน้าแดงยิ่งกว่าเด็กหนุ่มที่โดนแม่จับได้ว่าดูหนังโป๊เสียอีก
“ทำไมถึงทำแบบนี้ทั้งๆ ที่เจ้าตัวอยู่ตรงหน้าล่ะครับ คุณสงสัยอะไรเหรอ”
อินซอบที่กำลังค้นหาชื่อของอีอูยอนในเว็บเสิร์ชเอนจิ้นรีบแย่งโทรศัพท์มือถือมากดปิดหน้าจอ
“อย่าบอกนะครับว่าค้นทุกวันเลย”
“…ก็ดูบ้างครับ”
“กี่ครั้ง”
อีอูยอนใช้ร่างกายกดอินซอบไว้พลางเอ่ยถาม แม้จะเป็นรูปร่างที่ดูผอมหากใส่เสื้อผ้า แต่น้ำหนักของอีอูยอนซึ่งแน่นไปด้วยกล้ามเนื้ออย่างแข็งแรงนั้นมากพอสมควรทีเดียว อินซอบหอบหายใจพร้อมกับจับแขนของอีอูยอนไว้และพูดว่า ‘ผมหนักครับ’
“กี่ครั้งล่ะครับ”
อีอูยอนเอ่ยถามอย่างไม่ยอมแพ้ สายตาของเขาเป็นประกายอย่างขี้เล่น ในเวลาแบบนี้อินซอบรู้ดีว่าไม่มีทางที่อีกฝ่ายจะยอมแพ้ไปง่ายๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา
“วันละครั้งครับ”
อินซอบโกหก สองสามวันที่ผ่านมาเขาคาใจและค้นหาชื่อของอีอูยอนทุกครั้งที่มีโอกาส เขากังวลว่าอาจจะเกิดเรื่องอะไรในขณะที่ตนหลับไปจึงจับโทรศัพท์ทันทีที่ตื่นนอน เช้ามืดวันนี้เขาถูกอีอูยอนที่ตื่นขึ้นมาในขณะที่เขากำลังค้นหาอยู่จับได้และถามว่าทำอะไรอยู่ เนื่องจากไม่สามารถพูดออกไปได้ว่ากำลังค้นหาชื่อของอีกฝ่ายอยู่ อินซอบจึงกุเรื่องขึ้นมาว่ากำลังส่งข้อความหาน้องๆ อยู่ เป็นครั้งแรกที่เขาคิดว่าโชคดีจังที่ครอบครัวอาศัยอยู่ที่อเมริกา
“อืม”
อีอูยอนเกี่ยวแขนของตัวเองไว้ใต้แขนของอินซอบก่อนจะกอดอีกฝ่ายแน่ จากนั้นเขาก็พูดต่อ
“ค้นแล้วมีอะไรโผล่ออกมาบ้างครับ”
เขานึกถึงคำพูดของกรรมการผู้จัดการคิมที่บอกว่าในบรรดาคนดังคงจะมีแค่อีอูยอนคนเดียวล่ะมั้งที่ไม่เคยค้นชื่อตัวเองลงในเว็บไซต์เลย อีอูยอนไม่สนใจคำพูดของคนอื่น แม้จะเป็นนิสัยที่ดีสำหรับการเป็นคนดัง แต่กรรมการผู้จัดการคิมกลับบ่นว่าเป็นนิสัยที่เลวร้ายมากสำหรับคนรอบข้าง
“ก็มีพวกข่าว รูปภาพ แล้วก็เรื่องที่คนอื่นๆ เขาพูดกันน่ะครับ”
โชคดีที่ยังไม่มีคำพูดที่สำคัญอะไร เขาลองดูกระทู้ต่างๆ ตามเว็บไซต์และแฟนคาเฟ่[1] แต่มันก็เต็มไปด้วยการพูดคุยถึงเรื่องการคบกันระหว่างอีอูยอนและแชยอนซอ อินซอบภาวนาแล้วภาวนาอีกว่าขอให้คำพูดที่คังยองโมพูดจบลงที่การเป็นแค่คำพูดแขวะที่อีกฝ่ายชอบพูดจนเป็นนิสัย
“ของแบบนั้นจะไปสำคัญอะไรล่ะครับ ก็ตัวจริงอยู่ตรงหน้าแล้วนี่”
“เพราะผมเป็นผู้จัดการส่วนตัว นี่จึงเป็นเรื่องที่ผมจะต้องทำครับ อ๊ะ…”
นิ้วของอีอูยอนลูบหน้าอกของอินซอบ ยอดอกที่อ่อนไหวเพราะอีกฝ่ายทั้งดูด ทั้งกัด ทั้งเลียจนถึงเช้าเริ่มแข็งตัวขึ้นมาทันที
“มีเรื่องสนุกๆ บ้างหรือเปล่าครับ”
“ไม่มี อึก…”
อินซอบกัดริมฝีปากล่างไว้ อีอูยอนใช้ปลายนิ้วถูตุ่มไตที่นูนแดงขึ้นมาเบาๆ
“ผมต้องส่งอีเมลไปที่บริษัทนะครับ”
“ก็ส่งไปสิครับ”
อีอูยอนตอบอย่างพอใจในขณะที่ยังลูบหน้าอกของอินซอบอยู่
“ส่งหาใครเหรอครับ”
“ผู้ช่วยโจครับ ผมจะต้องเช็กตารางงานของสัปดาห์หน้า ปกติผมจะต้องไปรับด้วยตัวเอง…”
ความไม่พอใจเล็กๆ ติดอยู่ในคำพูดสุดท้าย
วันต่อมาหลังจากเซ็กซ์ที่เหมือนพายุ อินซอบก็พบว่าเสื้อผ้าของตนหายไป พอเขาถามว่าเสื้อไปไหน อีอูยอนก็ยิ้มอย่างสดใสพลางตอบว่า ‘ผมเผาไปแล้วครับ’ แม้จะได้ยินทีหลังว่าเขาฝากให้โรงแรมเอาไปซัก แต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมคืนเสื้อผ้ากลับมาง่ายๆ อินซอบจึงต้องสวมแค่เสื้อคลุมอาบน้ำอยู่ในโรงแรมโดยที่ไม่สามารถทำอะไรได้
“เสื้อผ้าของผมจะมาเมื่อไหร่เหรอครับ”
อินซอบใช้ผ้าห่มบังตัวเพื่อที่อีอูยอนจะได้ลูบไม่ได้อีกพลางเอ่ยถาม
“ไม่รู้สิครับ ผมเห็นว่ามีผ้าที่ต้องซักถูกขนออกไปเยอะเลย”
โดยทั่วไปบริการซักรีดของโรงแรมจะเอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วมาให้ในวันถัดไป เป็นไปไม่ได้เลยที่จนถึงตอนนี้ทางโรงแรมจะยังไม่เอาเสื้อผ้าที่ซักแล้วของห้องสวีทที่มีบัตเลอร์ส่วนตัวมาส่ง
อีอูยอนล้วงมือเข้าไปในผ้าห่ม เขาลูบไหล่ของอินซอบก่อนจะเร่งว่า ‘รีบเขียนสิครับ’ อินซอบเปิดหน้าต่างอีเมลอย่างช่วยไม่ได้ และเริ่มขยับนิ้ว
ตอนที่อินซอบพิมพ์จนถึงคำว่า ‘สวัสดีครับ ผมชเวอินซอบนะครับ’ อีอูยอนก็เกร็งปลายเท้าและยกตัวขึ้นมา พอแก่นกายที่แข็งขืนสัมผัสเข้ากับร่องก้น อินซอบก็สะดุ้งและตัวสั่น
“ไม่ทำหรอกครับ”
“…”
“ผมแค่ถูเฉยๆ ไม่ต้องกลัวนะครับ”
ถ้าคิดถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ยินคำพูดที่คล้ายกันอย่าง เช่น ผมจะถูเฉยๆ ครับ ผมจะเอาเข้าไปแป๊บเดียวแล้วเอาออกมาเลยครับ ผมจะเอาใส่ปากลองชิมนิดเดียว เขาไม่อาจที่จะไม่กลัวได้
“วันนี้ผมจะต้องกลับบ้านครับ วันมะรืนตารางงานก็จะเริ่มแล้ว…”
อินซอบพลิกตัวไปด้านข้างก่อนจะพูดอย่างระมัดระวัง
เป็นเพราะภาพยนตร์ที่จะเปิดตัวในสัปดาห์หน้า อีกฝ่ายจึงมีตารางงานไม่ขาดสาย แม้อินซอบจะทำหน้าเหยเกและถามว่าจะใช้วันหยุดยาวที่มีค่าดั่งทองแบบนี้เหรอแล้ว แต่อีอูยอนกลับตอบแค่ว่าเขาพอใจที่ได้ใช้วันหยุดแบบนี้
“เพราะงั้นก็ต้องได้รับตารางงานก่อนไงครับ ไม่เขียนอีเมลแล้วเหรอ”
อีอูยอนขยับเอวอย่างพอประมาณพลางพูด อินซอบวางโทรศัพท์มือถือลงบนโต๊ะข้างเตียง
“จะขอให้ผมทำจริงจังเหรอครับ”
“เปล่าครับ คือวันนี้…”
อีอูยอนงับปากของอินซอบเบาๆ ก่อนจะปล่อยออก
“วันนี้ทำไมครับ”
“ต้องกลับ…”
คราวนี้เขาไม่สามารถพูดต่อได้จนจบ แม้เขาจะจูบต่ออีกสองสามครั้ง แต่อินซอบก็ดึงดันที่จะพูดว่าจะกลับบ้านทุกครั้งที่เขาละริมฝีปากออกไป
อีอูยอนขมวดคิ้ว แม้เขาจะทั้งเกลี้ยกล่อม ทั้งข่มขู่ และหยั่งเชิงให้อีกฝ่ายอยู่ที่โรงแรมตลอดสองสามวันที่ผ่านมา แต่อินซอบกลับไม่เคยหยุดพูดซ้ำๆ ว่าจะกลับบ้านเลย เดิมทีอีกฝ่ายก็ขี้กลัวมากอยู่แล้ว แต่คราวนี้กลับร้ายแรงขึ้นเป็นพิเศษ จะต้องมีเรื่องอะไรแน่ๆ อีกฝ่ายเหมือนกับคนที่โดนเจ้าหนี้ตามล่าเลย
อะไรทำให้อีกฝ่ายไม่สบายใจขนาดนั้นกันแน่
อีอูยอนสอดมือเข้าไปลึกเหมือนกับจะขยุ้มผมของอินซอบ เขามีความคิดที่จะทำให้อีกฝ่ายอ้าปากพูดไม่ได้เลย แม้อินซอบจะจับแขนของเขาไว้และจิกลงไปเพื่อที่จะหยุดจูบ แต่มันกลับไร้ค่าอย่างมาก กลับกันยิ่งทำให้เขาสนุกขึ้นไปอีก
แม่งเอ๊ย ใครใช้ให้ทำตัวน่ารักขนาดนั้นวะ
อีอูยอนกัดริมฝีปากของอินซอบและกวาดต้อนภายในโพรงปากที่เปียกชื้น แม้แต่สีหน้าที่โง่งมที่ยกคิ้วขึ้นเหมือนกับรู้สึกไม่ยุติธรรมที่ไม่สามารถพูดคำที่อยากพูดออกไปได้ก็น่ารักจนเขาจะเป็นบ้า
“แฮ่ก…”
หน้าอกของอินซอบขยับขึ้นลงอย่างรวดเร็ว เพราะหายใจไม่ทัน รอยแผลเป็นยาวๆ ที่เหลือทิ้งไว้ตรงบริเวณหน้าอกปรากฏให้เห็นเด่นชัด อีอูยอนก้มหน้าลงไปจูบรอยแผลผ่าตัดของอินซอบ
ริมฝีปากค่อยๆ เลื่อนลงไปด้านล่าง และหยุดอยู่ตรงหน้าท้อง แผลเป็นที่โดนแทง
“ผม ร่างกายผมเป็นแผลเป็นง่ายน่ะครับ แต่มันหายดีหมดแล้วนะครับ”
อินซอบเอาผ้าห่มขึ้นมาปิดร่างกายไว้ แม้แต่ตอนที่มีอะไรกัน หากเห็นแผลเป็นที่ท้องของอินซอบ อีอูยอนก็จะทำหน้านิ่ง ดังนั้นอินซอบจึงพยายามที่จะปิดรอยแผลเป็นไว้ แต่อีอูยอนก็มักจะสำรวจดูทุกครั้ง
“ขอโทษนะครับ”
“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้ถึงจะมีอีกสองถึงสามแผล ก็ไม่มีใครเห็นหรอกครับ”
อินซอบพยายามหัวเราะอย่างสดใสพร้อมกับพูดเล่นไปด้วย แต่อีอูยอนไม่หัวเราะตาม
“…ขอโทษครับ”
อินซอบขอโทษอย่างอ่อนแรง อีอูยอนจึงงับแก้มอีกฝ่ายอย่างหยอกล้อและปล่อย เขารู้ดีว่านี่เป็นการปลอบใจตามแบบฉบับของอีอูยอน อินซอบลังเลก่อนจะโอบคอของอีอูยอน
อีอูยอนกลั้นยิ้ม
ทำแบบนี้แล้วดันมาขอให้ปล่อยกลับบ้านเนี่ยนะ
“ผมไม่แน่ใจเลยครับว่าใครกันแน่ที่หน้าไม่อาย”
“ครับ?”
“อ้าปากครับ ผมจะจูบ”
ริมฝีปากของพวกเขาเชื่อมติดกัน ในตอนที่เขาดูดดุนริมฝีปากของอินซอบที่บวมแดงพร้อมกับคิดว่าเนื้อของคนจะหวานได้ถึงขนาดนี้เลยเหรออยู่นั้น โทรศัพท์ของอีอูยอนก็เริ่มร้อง
“โทรศัพท์…”
“ผมบอกให้อ้าปากไงครับ”
อีอูยอนแยกขาของอินซอบออก และขึ้นไปนั่งบนนั้น ในจังหวะที่เขาก้มตัวเพื่อที่จะจูบอีกครั้ง
“…”
เสียงเรียกเข้าดังขึ้น คราวนี้เป็นโทรศัพท์ของอินซอบ คนทั้งคู่เพิ่งเจอสถานการณ์เดียวกันเมื่อไม่นานมานี้จึงรู้ในทันทีว่าใครเป็นคนโทรศัพท์มา
“ไม่ต้องสนครับ”
“เหมือนจะเป็นกรรมการผู้จัดการนะครับ”
“เพราะอย่างนั้นไงครับ ถึงต้องเมินไปเลย”
อินซอบชำเลืองมองโต๊ะที่วางโทรศัพท์มือถือไว้เหมือนกับไม่สบายใจ อีอูยอนกดจูบลงที่แก้มของอินซอบ แต่อินซอบกลับยุ่งอยู่กับการเหลือบมองโทรศัพท์ที่ดังไม่หยุด ถ้าเสียงเรียกเข้าของอินซอบหยุดลง ของอีอูยอนก็จะดังขึ้นแทน ถ้าของอีกฝ่ายหยุด เสียงเรียกเข้าก็จะย้ายมาที่โทรศัพท์มือถือของอินซอบอีกครั้ง อินซอบมองโทรศัพท์มือถือด้วยสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้ในไม่ช้า
“แม่งเอ๊ย”
อีอูยอนสบถอย่างรำคาญพร้อมกับลุกไป จากนั้นเขาก็คว้าโทรศัพท์ของอินซอบที่กำลังดังอยู่ขึ้นมารับ
“มีอะไรครับ”
[ทำไมนายถึงรับล่ะ]
กรรมการผู้จัดการคิมตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ย่ำแย่
“ก็โทรมาเพื่อที่จะให้ผมรับไม่ใช่เหรอครับ ไม่อย่างนั้นผมจะวางสายแล้วนะ”
[อย่าวางนะ]
กรรมการผู้จัดการคิมตะโกนอย่างร้อนรน
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ หวังว่าจะไม่ใช่การโทรมาด้วยเรื่องไร้สาระเหมือนคราวที่แล้วนะครับ”
อินซอบค่อยๆ ลุกจากเตียงด้วยใบหน้าซีดเผือด อีอูยอนหรี่ตา จำเป็นต้องกลัวถึงขนาดนั้นเลยเหรอ กับแค่การที่กรรมการผู้จัดการคิมโทรมาเนี่ย
[ตอนนี้นายอยู่ไหน]
“จะที่ไหนล่ะครับ ไม่มีข้อความส่งไปเหรอครับ”
[ที่นั่นเหรอ]
นี่เป็นโรงแรมที่เขาใช้การ์ดของกรรมการผู้จัดการคิมจ่าย
“นี่คือโทรศัพท์มาเช็กเหรอครับ”
[เปล่า ไม่ใช่แบบนั้น นายมาที่บริษัทเดี๋ยวนี้เลย มีเรื่องด่วนน่ะ]
“แต่วันนี้เป็นวันหยุดนะครับ”
อีอูยอนคว้าอินซอบที่เงยหน้ามองตนด้วยใบหน้าที่ซีดเผือดให้นั่งลงตามเดิม และเดินห่างออกไปจากเตียงเอง
[รีบมานะ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับอินซอบ อ้อ ขับรถของฉันมาด้วยนะ ไอ้คนทำร้ายร่างกายรถเฟอร์รารี่]
อีอูยอนเหลือบมองอินซอบ ใบหน้าที่ทำอะไรไม่ถูกหงอยเหมือนกับลูกสุนัขที่ทำผิดบนเตียงของเจ้าของ
“เข้าใจแล้วครับ”
อีอูยอนวางสายไป
“ว่ายังไงบ้างครับ”
“เขาบอกให้เอารถไปคืนน่ะครับ เขาจะใช้รถ”
“แล้วมีอะไรอีกไหมครับ”
“แค่นั้นครับ”
อีอูยอนยิ้มพลางเอ่ยถาม จากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปที่ฟร้อนท์ และขอให้เอาเสื้อผ้ามาให้
“ไม่ได้พูดอะไรอีกเหรอครับ”
“ครับ อยากได้ยินเรื่องอะไรเหรอครับ”
อินซอบตอบว่า ‘เปล่าครับ’ ให้กับคำถามของอีอูยอนก่อนจะหลบตา ในระหว่างที่ทำแบบนั้น เขาก็เงยหน้าขึ้นมา เพราะนึกอะไรบางอย่างขึ้นได้
“แล้วเขารู้ได้ยังไงครับว่าเราอยู่ด้วยกัน”
อีอูยอนใช้การ์ดของกรรมการผู้จัดการคิมรูดค่าโรงแรมด้วยความคิดที่อยากจะแกล้งอีกฝ่าย กรรมการผู้จัดการคิมไม่มีทางรู้หรอกว่าเขาอยู่กับใครที่ห้องสวีทของโรงแรมในวันหยุด
“ผมบอกเขาว่าวันนี้จะไปดูหนังกับคุณอินซอบน่ะครับ”
“โล่งอกไปทีนะครับ”
ไหล่ของอินซอบลู่ลงเหมือนกับโล่งใจ เพราะคำพูดของอีอูยอน เขาหลงเชื่อคำโกหกที่แม้แต่เด็กสิบขวบยังสงสัย ทำยังไงถึงได้เป็นคนที่ใสซื่อขนาดนั้นนะ อีอูยอนทอดสายตามองอินซอบ
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ”
“เพราะคุณสวยครับ”
“…อย่าพูดเล่นสิครับ”
หน้าของอินซอบแดงในทันที อีอูยอนเอียงคอ นี่เป็นความจริงที่ไม่มีการโกหกเลยแม้แต่ปลายเล็บ เขาอยากจะจับอินซอบให้นอนคว่ำลงกับเตียง และกินอีกฝ่ายเหมือนเป็นสุนัขซะเดี๋ยวนี้
“ไม่ได้พูดเล่นนะครับ ผมน่ะ…”
เขาได้ยินเสียงเคาะประตูจากทางด้านนอก
“สักครู่นะครับ”
ในระหว่างที่อีอูยอนออกไปรับเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้ว อินซอบก็เอาผ้าห่มมาห่อตัวและไปซ่อนอยู่ในหลืบ เพราะกลัวว่าจะสะดุดตา อีอูยอนที่รับเสื้อผ้าที่ซักเสร็จแล้วกลับมาเจออินซอบซ่อนอยู่ที่หลังโซฟาก็หัวเราะออกมา
“ถึงผมจะพูดไปหลายครั้งแล้ว แต่ว่าไม่มีใครเห็นหรอกครับ อย่ากังวลไปเลยครับ”
นี่เป็นห้องสวีทที่มีขนาดมากกว่าร้อยพยอง[2] และถ้าจะไปที่ประตูทางเข้า ก็จะต้องข้ามห้องนั่งเล่นกับทางเดินไปก่อน
“…ใครจะรู้ล่ะครับ”
อินซอบยื่นหน้าออกมาก่อนจะเอ่ยตอบ
“ถ้าเห็นแล้วจะทำไมเหรอครับ”
อีอูยอนฉีกพลาสติกที่ห่อไว้อย่างเรียบร้อยออก และหยิบเสื้อเชิ้ตออกมาใส่ อินซอบเดินเข้าไปหา เขากวาดตามองที่โต๊ะก่อนจะเอ่ยถาม
“แล้วของผมล่ะครับ”
“นั่นสิครับ ยังซักไม่เสร็จหรือเปล่า”
อีอูยอนกลัดกระดุมเสื้อเชิ้ตพลางเอ่ยตอบอย่างหน้าไม่อาย พอเขาใส่เสื้อผ้าครบหมดแล้ว เขาก็จูบหน้าผากของคนรักที่ไม่ได้รับแม้แต่กางเกงในตัวเดียวคืนมา
“เดี๋ยวผมมานะครับ อยู่เฉยๆ อย่าไปที่ไหนล่ะ เพราะผมจะกลับมาบอกว่าผมชอบคุณขนาดไหน”
อินซอบพยักหน้าด้วยสีหน้าหงอยๆ
[1] แฟนคาเฟ่ เป็นคอมมูนิเคชั่นที่พวกแฟนคลับใช้ในการพูดถึงและสื่อสารกับดาราที่ตนชอบ
[2] พยอง หน่วยวัดขนาดห้องของเกาหลี โดนหนึ่งพยองมีขนาดเท่ากับ 3.3058 ตร.ม.