ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 1 เล่ม 3 ตอนที่ 8-11
อีอูยอนนับถอยหลังเสร็จแล้ว
“ก่อนอื่นผมจะเริ่มจากการฆ่าชเวอินซอบตัวจริงก่อน”
อินซอบเกาะขาอีกฝ่ายพลางบอกว่า ‘ไม่ได้นะครับ’ แม้จะรู้ว่าการบอกว่าจะฆ่าคนเป็นคำพูดที่เกินจริง แต่คำพูดของอีอูยอนกลับน่ากลัวมากเสียจนอินซอบเชื่อได้ง่ายๆ หากปล่อยอีอูยอนไว้แบบนี้อาจจะเกิดเรื่องไม่ดีกับชเวอินซอบที่ให้เขายืมชื่อขึ้นจริงๆ ก็ได้ คนคนนั้นต้องการเงิน ส่วนเขาต้องการชื่อ การเลือกชื่อ ‘ชเวอินซอบ’ เป็นความปรารถนาของเขาล้วนๆ เขาอยากจะยืนอยู่ข้างๆ อีอูยอนด้วยชื่อภาษาเกาหลีจริงๆ ของตัวเอง ไม่ใช่ชื่อของคนที่ไม่รู้จักเลย เพราะอย่างไรอีอูยอนก็ไม่น่าจะรู้จักปีเตอร์อยู่แล้ว และเจ้าตัวก็ไม่มีทางที่จะจำได้ว่าชื่อภาษาเกาหลีของปีเตอร์คืออินซอบด้วยเหมือนกัน
…แต่เขาก็ไม่อาจพูดได้ว่าเขาไม่เคยหวังว่าอีกฝ่ายอาจจะจำเขาได้ ไม่ว่าอย่างไรอินซอบก็อยากจะป้องกันไม่ให้คนที่บริสุทธิ์ต้องมาเสี่ยงเพราะความต้องการที่ไร้สาระของตัวเอง ตอนนี้เขาคิดแค่ว่าตัวเองจะต้องห้ามอีอูยอนไว้ให้ได้ ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไรก็ตาม
“ชอบครับ ผมทำแบบนั้นเพราะผมชอบคุณครับ ผมชอบคุณมากก็เลยทำแบบนั้น…คนอื่นไม่เกี่ยวครับ ผมทำทุกอย่างเอง…เพราะผมชอบคุณครับ”
อินซอบไม่คิดเลยว่าวันที่เขาได้สารภาพความรู้ของตัวเองให้ผู้ชายคนนี้รับรู้จะมาถึง ตอนที่เขาชอบอีกฝ่ายในฐานะปีเตอร์ เขาได้ลิ้มลองความรู้สึกผิดหวังก่อนที่จะได้รู้ว่ามันคือความรักเสียอีก ตอนที่ได้เจออีกฝ่ายอีกครั้งหลังจากมาถึงเกาหลี เขาก็อยู่ในสภาพที่จะชอบอีกฝ่ายไม่ได้เสียแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเฝ้าฝันว่าจะได้สารภาพความในใจออกไปให้ฝ่ายนั้นรู้ แม้เขาจะต้องตื่นจากฝันที่ตัวเองกำลังเดินเข้าไปเพื่อสารภาพความรู้สึกให้เด็กหนุ่มที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ริมหน้าต่างฟังก็ตาม
ในความเป็นจริงเขาไม่สามารถสารภาพรักกับอีกฝ่ายได้ แต่ในฝันเขาเคยคาดหวังว่าถ้าได้บอกชอบอีอูยอนในสักวันหนึ่งก็คงจะดี
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นภาพที่เขาไม่เคยคิดถึงเลย ไม่ว่าจะเป็นในความฝัน หรือความเป็นจริง ชเวอินซอบฟูมฟายบอกชอบอีอูยอนอย่างสุดชีวิต ขณะเดียวกันเขาก็ตัวสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
“ผมชอบคุณครับ ผม ผมเป็นสตอล์กเกอร์…เพราะผมชอบคุณอีอูยอน คะ…คนอื่นไม่ได้เป็นคนไม่ดีนะครับ เพราะฉะนั้นให้ผมไปหาตำรวจคนเดียวก็พอ”
“คำพูดนั้นน่ะ พูดจริงเหรอครับ”
อีอูยอนเอ่ยถาม อินซอบพยักหน้าจนคอจะหลุด ตอนนี้เขาจะต้องปกป้องคนที่ให้เขายืมชื่อชเวอินซอบให้ดีที่สุด
อินซอบรู้สึกว่าอีอูยอนน่ากลัวมาก แม้จะกำลังพูดอยู่ แต่เขากลับรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้สื่อสารกันเลย เขาคิดว่าถ้าจะสามารถห้ามอีกฝ่ายได้ ไม่ว่าจะเป็นศักดิ์ศรี หรืออะไรเขาก็ไม่สนใจทั้งนั้น
“จะ จริงๆ นะครับ เป็นความจริงนะครับ”
“…”
“ผมทำแบบนี้เพราะชอบคุณอีอูยอนด้วยจิตใจที่ชั่วร้ายขนาดนั้นแหละครับ”
อินซอบใช้ฝ่ามือปิดหน้าของตัวเอง เขาใส่ความรู้สึกที่แท้จริงของตัวเองลงไปในคำพูดเพื่อให้รอดพ้นจากสถานการณ์นี้ เรื่องทั้งหมดเริ่มขึ้นเพราะเขาชอบอีอูยอนหรือฟิลลิปด้วยจิตใจที่ชั่วร้ายตั้งแต่แรก ถ้าเขาไม่ชอบฟิลลิป เขาก็คงไม่ทำตัวเย็นชากับเจนนี่ และเด็กสาวที่ถูกทิ้งไว้ลำพังก็คงไม่เลือกทางที่สุดโต่งแบบนั้น
สุดท้ายแล้วคนที่ชั่วร้ายที่สุดก็คือตัวเขาเอง
“ผมจะเผารูปทั้งหมดทิ้ง เพราะงั้น…”
“เพราะงั้น?”
“ได้โปรด…อย่าทำอะไรคุณชเวอินซอบคนนั้นเลย…”
อินซอบนั่งคุกเข่าพลางกุมมือทั้งสองข้าง
มือของอินซอบที่หักเพราะช่วยตนไว้และตอนนี้กำลังดามเฝือกอยู่เข้ามาในสายตาของอีอูยอน ความรู้สึกที่ไม่คุ้นเคยที่เขาลืมไปแล้วเกิดขึ้นในใจอย่างเร่าร้อนอีกครั้ง เขาคิดว่าใบหน้าตอนร้องไห้ของอินซอบสวย แต่ตอนนี้ต่อให้เขากำลังมองใบหน้านั้นอยู่ เขากลับไม่ได้รู้สึกอารมณ์ดีเลยสักนิด พอเห็นว่าหน้าตาที่เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาและน้ำมูกของอีกฝ่ายขาวซีด แถมร่างกายยังสั่นเทา เขาก็รู้สึกไม่สบอารมณ์เอาเสียเลย
และสิ่งที่แย่ที่สุดก็คือความคิดที่ว่าเขาไม่รู้เลยว่าเรื่องไร้ค่าที่อินซอบอ้างว่าเป็นเหตุผลเมื่อสักครู่นี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า แต่พอดูจากการที่อีกฝ่ายร้องไห้อ้อนวอนเขาเพราะกลัวว่าไอ้คนที่ให้ตัวเองยืมชื่อจะได้รับความเสียหายแล้ว คนโง่แบบนั้นคงทำเรื่องแบบนี้เพื่อเพื่อนจริงๆ
อีอูยอนรู้สึกหงุดหงิดอย่างมากที่คนที่ทำให้อินซอบกลายเป็นคนโง่งมขนาดนั้นไม่ใช่ตน แต่เป็นคนอื่น
“ชอบผมขนาดนั้นเลยเหรอครับ”
สิ้นคำถามของอีอูยอน อินซอบก็พยักหน้าที่มอมแมม อีอูยอนเห็นดังนั้นก็แอบกลั้นหัวเราะ ถ้าชอบฉันจริงๆ ก็น่าจะมีความตั้งใจที่จะดูดีในสายตาอีกฝ่ายสิ แต่นี่มันเหมือนกับคนโง่ที่ไม่มีแม้แต่มารยาทที่น้อยที่สุดเลยด้วยซ้ำ
“ตามผมจากอเมริกามาจนถึงที่นี่เพราะชอบผมเหรอครับ เพื่อที่จะได้ทำตัวเป็นสตอล์กเกอร์งั้นเหรอ”
“…ครับ”
“ชอบมากขนาดไหนครับ”
“…!”
“ผมถามว่าชอบมากขนาดไหน”
ใบหน้าของชเวอินซอบเห่อร้อนจนกลายเป็นสีแดง อีกฝ่ายน้ำตาไหลเป็นสาย ใบหน้าก็เปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำมูกซ้ำยังขึ้นสีแดงซ่าน ช่างเป็นสภาพที่ไม่น่าดูเอาเสียเลย อีอูยอนยิ้มเยาะก่อนจะก้มตัวลง และใช้มือลูบใบหน้าของอีกฝ่าย
“คุณชอบผมมากจนทำเรื่องบ้าๆ พวกนี้เหรอครับ”
“…”
“คิดว่าผมจะเชื่อคำพูดพวกนั้นเหรอครับ ถ้าบอกว่าชอบผมแล้ว ผมจะต้องเชื่อเหรอครับ รู้ไหมครับว่าผมคิดว่าคุณอินซอบเป็นคนโง่”
“ผะ ผมชอบคุณครับ ผะ ผมจริงใจจริงๆ นะครับ”
“โอเคครับ งั้นเรามาลองกันสักตั้งนะครับว่าคุณจริงใจหรือเปล่า”
อีอูยอนใช้หลังมือตบแก้มของอินซอบเบาๆ สองสามครั้งก่อนจะลุกขึ้นยืน เขารูดซิปกางเกงลง อีอูยอนดึงกางเกงชั้นในออกไปให้พ้น และดึงชิ้นแท่งเนื้อสีดำที่อยู่ในนั้นออกมา
ดวงตากลมโตของชเวอินซอบเบิกโพลง และจ้องมองการกระทำของคนตรงหน้า
“ลองทำให้ผมเชื่อสิครับ”
“…ครับ?”
“ผมบอกให้ลองโน้มน้าวใจผมดูครับ ผมจะได้รู้ว่าคุณจริงใจจริงหรือเปล่า”
อินซอบยังไม่เข้าใจว่าอีอูยอนพูดเรื่องอะไร และทำได้เพียงเบิกตาโต
“คุณมาถึงที่นี่เพราะชอบผมนี่ครับ งั้นมาลองดูกันเถอะครับว่าคุณชอบผมแค่ไหน”
อีอูยอนยื่นแท่งเนื้อของตัวเองออกไปตรงหน้าอินซอบ ตอนนั้นเองชเวอินซอบถึงได้รู้ว่าวิธีที่จะทำให้อีกฝ่ายพอใจคืออะไร ความตกใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่ซีดจนไร้สีเลือด
“วะ ว่าไงนะ…”
“ทำไมล่ะครับ ก็แค่ให้ลองดูเท่านั้นเองนี่ครับ”
“ผะ ผม…”
“ถ้ามาจนถึงที่นี่เพราะชอบผมขนาดนั้น ก็น่าจะแสดงให้เห็นความจริงใจและความตั้งใจประมาณนี้ได้ไม่ใช่เหรอครับ”
ชเวอินซอบหมดแรงล้มพับไปด้านหลัง แม้เขาส่ายหน้าพร้อมโบกมือปฏิเสธ แต่อีอูยอนก็ยังดันทุรังต่อไป มือใหญ่ๆ ของอีกฝ่ายเคลื่อนเข้ามาใกล้และจับคางของอินซอบที่ร่างกายสั่นเทาเอาไว้อย่างแรง อีอูยอนดันนิ้วโป้งเข้ามาในปากของอินซอบ และกดขากรรไกรล่างของเขาลงไปเพื่อให้เขาอ้าปาก
“ขอดูหน่อยนะครับว่าจะทำได้ดีแค่ไหน”
“มะ ไม่นะ ผม…”
“ไม่ชอบเหรอครับ ไม่ชอบผมเหรอ”
อินซอบส่ายหน้า ถ้าจะให้เลือกจริงๆ ว่าเขาชอบหรือเกลียดอีกฝ่าย คำตอบก็คือเขาชอบ แม้จะคิดว่าห้ามชอบอีกฝ่าย หรือพยายามห้ามใจตัวเอง แต่อินซอบก็ยังชอบอีอูยอนอยู่ดี แม้กระทั่งตอนนี้เองเขาก็ยังชอบอีอูยอนอยู่ ด้วยเหตุนั้นสุดท้ายเขาจึงตัดสินใจว่าจะหอบทุกอย่างกลับอเมริกาไปด้วย
แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้เป็นเรื่องที่เกินเลยจากความรู้สึกนั้นไปหน่อย
“งั้นก็ลองทำดูสิครับ ใช้ร่างกายทำให้ผมพอใจ ผมจะได้รู้ว่าคุณชอบผมขนาดไหน”
หลังจากทำให้อินซอบอ้าปากแล้ว อีอูยอนก็ดันแท่งเนื้อของตนเข้าไป สัมผัสของแท่งเนื้อใหญ่โตที่เข้ามาในปากอย่างกะทันหันทำให้อินซอบทำท่าจะอ้วกออกมาตามสัญชาตญาณและถอยไปข้างหลัง
“อุ…อุก”
อีอูยอนขยุ้มผมของอินซอบอีกครั้ง
“ถ้าไม่อยากให้คนบริสุทธิ์ต้องเจ็บตัว ก็ทำให้ดีนะครับ”
“…”
อีอูยอนยัดนิ้วเข้าไปเพื่อทำให้อินซอบอ้าปากอีกครั้ง
“อ้าปาก นั่นแหละ แล้วก็อมเข้าไปจนสุดเลย”
อินซอบหลับตาแน่ เขาอ้าปากให้กว้างที่สุด และงับแก่นกายของผู้ชายตรงหน้าเอาไว้ แต่เขาไม่ได้ทำอะไรต่อเลย เขาอยากจะอ้วกออกมาตลอดเวลา เพราะรู้สึกว่าแท่งเนื้อที่เข้าไปในปากนั้นให้ความรู้สึกที่หนักขึ้น แต่อีอูยอนกลับจับหัวของอินซอบไว้ไม่ยอมปล่อย
“ไหนลองเลียดูสิครับ ใช่แล้วครับ อย่างนั้นล่ะ”
อีอูยอนใช้มือจับหัวของอินซอบให้ขยับ ทุกครั้งที่แก่นกายที่บวมเป่งกระแทกเข้ามาในลำคอ น้ำตาของอินซอบก็คลอหน่วย น้ำลายของเขาไหลออกมาจากริมฝีปากที่อ้ากว้าง เสียงเฉอะแฉะดังขึ้นอย่างช้าๆ ในห้องบนชั้นดาดฟ้า
“ชอบขนาดนั้นเลยเหรอครับ นี่คุณชอบผมขนาดน้ำลายไหลตอนเลียไอ้นั่นของผู้ชายเลยเหรอครับ”
อีอูยอนถาม แต่อินซอบไม่สามารถตอบได้ เพราะแท่งเนื้อที่อัดแน่นจนเต็มปาก
“ใช้ลิ้นเสียจนถึงส่วนปลายสิครับ ฮา…คุณเลียเหมือนมันอร่อยมากเลยนะครับเนี่ย”
สายตาของอีอูยอนที่เหมือนจะจับตนกินทำให้ใบหน้าของชเวอินซอบแดงก่ำ อินซอบไม่อาจขยับลิ้นได้ดีนัก เพราะสัมผัสของแท่งเนื้อที่ดันเข้ามาในปากจนแน่นแม้ว่าเขาจะอ้าปากจนสุดแล้วก็ตาม
นี่เป็นออรัลเซ็กส์ที่อีอูยอนไม่ชิน มันแย่ถึงขนาดที่ว่าออรัลเซ็กส์ที่เขาเคยได้รับตอนอายุสิบกว่าขวบยังดีกว่านี้หลายเท่า ทั้งหมดที่ชเวอินซอบทำมีแค่อ้าปากเอาไว้เฉยๆ และขยับคอไปมาเท่านั้น
เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะเขาต้องการจะแกล้งชเวอินซอบที่พูดโกหกสั่วๆ เพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์นั้น แต่น่าแปลกที่รสชาติมันไม่ได้แย่เลยสักนิด ท่าทางที่อีกฝ่ายห่อปากพลางรับเอาแก่นกายใหญ่โตของเขาเข้าไปในปากนั้นก็ไม่เลว
อีอูยอนก้มมองภาพของแก่นกายของตัวเองค่อยๆ ขยับเข้าออกภายในปากเล็กๆ ของอินซอบ จากนั้นเขาก็รู้สึกอยากทำจนตัวสั่น มีน้ำตาเกาะอยู่ที่ขนตาสีดำสนิทของอินซอบ
อินซอบเงยหน้าขึ้นเพราะรู้สึกได้ถึงสายตาที่มองมา หยาดน้ำตาที่เกาะอยู่ที่ขนตาค่อยๆ ไหลลงมาอาบแก้ม
เมื่อเห็นภาพนั้น เลือดก็ไหลไปรวมตัวกันอยู่ที่ช่วงล่างของอีอูยอนเสียหมด
“เชี่ยเอ๊ย…”
เขาใช้มือทั้งสองข้างจับศีรษะของอินซอบไว้ และเริ่มขยับเข้าออกเร็วๆ ความรู้สึกที่แท่งเนื้อแข็งขืนได้กระทำกับโพรงปากนั้นช่างยอดเยี่ยม อินซอบตามการขยับที่รุนแรงอย่างมากนั้นไม่ทัน และพยายามจะดึงศีรษะออก แต่อีอูยอนกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป
นี่เป็นความรู้สึกที่สุดยอด อีอูยอนรู้สึกเหมือนกำลังทำกับช่องทางของหญิงสาวบริสุทธิ์ ชเวอินซอบหอบหายใจพลางใช้แขนปัดป่าย แท่งเนื้อร้อนเฉียดผ่าลิ้นและฟันของอินซอบไปอย่างแรง
“แฮ่ก…ชอบไหมครับ ชอบมากๆ เลยหรือเปล่า”
“…!…!”
“แม่ง…แฮ่ก”
อีอูยอนจับศีรษะของอินซอบ และดันแก่นกายเข้าไปถึงในคอ ใบหน้าของอินซอบถูกดึงเข้าไปติดกับเส้นขนตรงส่วนนั้น จากนั้นอีอูยอนก็ตัวสั่นเทิ้ม
น้ำกามอุ่นๆ ถูกฉีดเข้าไปในปากของอินซอบ ของเหลวทะลักออกมาเปื้อนปากและคาง
อีอูยอนปรือตาขณะเดียวกันเขาก็ได้ประสบกับการปลดปล่อยที่เหนื่อยอ่อน อินซอบดันอีกฝ่ายออกก่อนจะลุกขึ้นและวิ่งไปที่ห้องน้ำ เขาจับโถส้วมเอาไว้ และเริ่มอ้วกออกมา
“แหวะ…อุก…อุก…”
อินซอบกอดโถส้วมแล้วอาเจียนอยู่สักพักเพราะความคลื่นเหียนที่ตีขึ้นมาอยู่หลายครั้ง อินซอบที่หมดแรงและไม่สามารถอ้วกอะไรออกมาได้อีกแล้วทรุดลงกับพื้นห้องน้ำ พอเงยหน้าขึ้นเขาก็พบว่าอีอูยอนกำลังยืนทิ้งน้ำหนักลงที่เท้าข้างหนึ่งอยู่ข้างประตูห้องน้ำพลางมองมาที่เขา
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายอ่อนโยนจนยากที่จะเชื่อว่าเป็นคนคนเดียวกับผู้ชายที่ยัดความต้องการของตัวเองใส่เขาอย่างโหดร้ายเมื่อสักครู่นี้
“…”
อินซอบกัดริมฝีปากเบาๆ ก่อนจะก้มหน้า หัวใจของเขาสับสนวุ่นวายจนไม่สามารถแยกแยะได้ว่าสิ่งที่ตนกำลังรู้สึกอยู่ตอนนี้คือความเศร้า ความโกรธ หรือความอับอายกันแน่ น้ำตาของเขาเอ่อขึ้นมา อินซอบใช้มือที่อ่อนแรงและสั่นเทาปิดหน้าของตัวเอง และภาวนาให้มันสามารถปิดปังความอับอายของตัวเองเอาไว้ได้
“เก่งแล้วครับ”
“…”
จบแล้ว ตอนนี้มันจบลงแล้ว
ทุกอย่างได้จบลงแล้ว เขาไม่ต้องรู้สึกถึงความรู้สึกอันยิ่งใหญ่ที่เขาไม่อาจรับมือได้อีกแล้ว เก่งแล้ว ทำได้ดีแล้ว ดีมากๆ…ตอนนี้มันจบลงแล้วล่ะ
อินซอบนั่งลงกับพื้นห้องน้ำเย็นๆ และปลอบใจตัวเองพลางร้องไห้ออกมา
อีอูยอนจับอินซอบให้ลุกขึ้นก่อนจะกระซิบอย่างอ่อนโยน
“งั้นคราวหน้าลองทำให้ดีขึ้นกว่านี้นะครับ”
สิ้นเสียงกระซิบที่หอมหวานราวกับเสียงกระซิบของซาตาน สติของอินซอบก็เลือนลางและหลุดลอยออกไปไกล สิ่งที่เข้าแทนที่หลังจากนั้นคือความมืดมิด