ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 6-5
“อึก”
แรงที่ดันมาจากด้านหลังทำให้อินซอบทนไม่ไหวอีกต่อไป และมุดหน้าลงราวกับล้มพับลงไปบนเตียง เข่าและข้อศอกของเขาโดนถูและเจ็บจนแสบ เพราะตัวถูกโยกอย่างแรง
“เหนื่อยเหรอครับ”
อินซอบสะอื้นพร้อมกับพยักหน้า
“งั้นทำข้างหน้าสิครับ แค่คุณอ้าขา ผมก็จะทำทุกอย่างเอง”
แม้จะร้องไห้อยู่ แต่อินซอบก็บอกว่าไม่เป็นไร และพยายามยกเอวขึ้นอีกครั้ง อีอูยอนกลั้นความหงุดหงิดเอาไว้พร้อมกับกำต้นขาของอินซอบ หลังจากนั้นเขาก็แยกขาของอินซอบออก จับอีกฝ่ายให้นั่งลงบนตัก และสอดใส่ส่วนนั้นของตัวเองเข้าไปจนลึก น้ำรักที่ไหลออกมาจากช่องทางเปียกขนบริเวณนั้นของอีอูยอน ตามมาด้วยเสียง เจ๊าะแจ๊ะ ที่ดังออกมาจากร่างกายท่อนล่างที่เชื่อมติดกันอย่างไม่มีช่องว่าง
“อ๊ะ ฮึก ฮ่า…อ๊า!”
ท่าทางที่อ้าขาออกจนสุดเหมือนกบทำให้ความกระดากอายเพิ่มมากขึ้น อินซอบฝังหน้าลงกับที่นอนและปล่อยเสียงครางออกมา
ช่องทางด้านในของเขาบวมแดง เพราะแก่นกายแข็งขืนที่กระแทกเข้าๆ ออกๆ ผ่านช่องทางที่เปิดอ้าอย่างพอดิบพอดีไม่หยุด
“ทำไมยิ่งทำถึงยิ่งรัดล่ะครับ”
อีอูยอนขยับมุมและกระแทกท่อนลำของตัวเองเข้ามาข้างใน อินซอบกลั้นหายใจดังเฮือก ตัวสั่นระริก
“ถ้าผมเสียบเข้าไป ก็ชอบจนขมิบรูไปตามที่ผมเสียบ”
แก่นกายที่แข็งขืนของอีอูยอนกระแทกเข้ามาในตัวของอินซอบอย่างแรงทุกครั้งที่พูดแต่ละคำจบ เขาจำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่าเสร็จไปกี่รอบ ร่างกายที่หมดแรงจนไม่สามารถกระดิกมือได้รับรู้ได้เพียงสัมผัสที่อีอูยอนมอบให้เท่านั้น
“ไม่ยอมให้เห็นหน้าแบบนี้ ต่อให้ใครจะเสียบเข้ามาก็ไม่สนใจเหรอครับ”
“ไม่ ฮึก ไม่ใช่แบบนั้น…แค่คุณอูยอน แฮ่ก”
ปกติอินซอบไม่ชอบท่าที่ทำจากทางด้านหลัง เหตุผลก็คือเขากลัว เมื่อไม่สามารถมองเห็นหน้ากันได้ แม้อีอูยอนจะชอบทุกท่า แต่เขาเพลิดเพลินกับท่าหมาเป็นกรณีพิเศษ คำพูดที่ว่า ‘ท่าหมาเป็นท่าที่ได้เปรียบในการท้อง’ ไม่ใช่คำที่พูดกันไปอย่างนั้น การผสมพันธุ์ของสัตว์มีจุดประสงค์เพื่อการขยายพันธุ์ นี่จึงเป็นตัวเลือกที่สมเหตุสมผลที่สุด สัญชาตญาณของสัตว์ในตัวเขาเชิดหัวขึ้นมาทุกครั้งที่มีอะไรกับอินซอบ
“หรือว่าอยากท้องครับ เลยขอให้ผมเสียบเข้าไปจากทางด้านหลัง”
“ไม่ใช่อย่างนั้น ฮ่า อื้อ อ๊า!”
อินซอบสะอื้นและล้มพับลงไป ท่าทางที่ทั้งน่าสงสารและสวยงามที่มีแค่ก้นเท่านั้นที่ถูกยกขึ้นมาและโดนชำเราทำให้อีอูยอนเหมือนจะเป็นบ้า
อีอูยอนคว่ำหน้าพลางกำหมัดไว้ และสอดใส่แก่นกายของตัวเข้าไปราวกับจะแทงตัวลงไปข้างล่าง เส้นเอ็นตรงบริเวณขมับนูนขึ้นมา เกิดรอยสีแดงขึ้นที่แก้มก้นขาวๆ ของอินซอบที่โดนกระแทกจนเกิดเสียงดัง ตับ ตับ
อีอูยอนงับไหล่ของอินซอบและฝังเขี้ยวลงไป เขาไล่ลงมาตามแนวกระดูกสันหลัง และค่อยๆ ประทับรอยฟันลงไป และทำเหมือนกันบริเวณต้นขา อีอูยอนกัดและดูดอินซอบราวกับจะกลืนกินไปทั้งๆ แบบนั้น แต่ถึงอย่างนั้น ความกระหายก็ไม่หายไปแม้แต่นิดเดียว ไม่สิ ความต้องการกลับยิ่งถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้ขอบเขต
“ผมอยากทำให้คุณท้อง”
เขาเกลียดเด็กมาก และไม่เคยคิดอยากจะมีหรืออยากจะเลี้ยงเลยสักครั้ง แต่ทุกครั้งที่เขามีอะไรกับอินซอบ เขากลับอยากได้ผลลัพธ์ที่จะคงอยู่ตลอดไป ไม่ใช่แค่ความสนุกเพียงชั่วครู่ เขาอยากจะประทับร่องรอยของตัวเองให้อยู่กับอินซอบตลอดไป
“ด้วยน้ำเชื้อของผม ตรงนี้”
อีอูยอนกดท้องน้อยของอินซอบพลางพูด
“ขอโทษครับ ที่ผมทำแบบนั้นไม่ได้…อ๊ะ อื้อ ฮา”
อินซอบร้องไห้สะอึกสะอื้นพลางส่ายหน้า เขามักจะทำแบบนี้เสมอ ทั้งๆ ที่ควรจะโมโหกับการพูดที่ขาดสติของอีอูยอนสักครั้ง แต่อินซอบกลับขอโทษในความบกพร่องของตัวเองเสมอ
น่ารัก ความปรารถนาอันดำมืดของเขาผสมปนเปกันอย่างยุ่งเหยิง เพราะความหม่นหมองและความงดงามนั้น มันทำให้อีอูยอนมาถึงขีดจำกัด และอยากได้รับการยืนยันในความรักอีกหลายๆ ครั้ง
อีอูยอนกดฟัน และเกร็งแขนเพิ่มขึ้นอีก แขนที่กำลังพยุงตัวไว้มีเส้นเอ็นขึ้นมาตามกล้ามเนื้อ และปรากฏรูปร่างให้เห็น
“พิงผม…ก็ได้ครับ”
อินซอบวางมือของตนลงบนมือที่พันผ้าพันแผลไว้ของอีอูยอน แม้จะกำลังทำเรื่องแบบนี้อยู่ เขาก็ยังเป็นห่วงมือของอีอูยอน
อีอูยอนไม่ทิ้งตัวลงมาและไม่เอ่ยตอบ เขาแค่กอดอินซอบไว้ราวกับจะบีบให้แตกและขยับเอวเร็วจนเทียบกับเมื่อสักครู่นี้ไม่ติดเท่านั้น อินซอบเสร็จในขณะที่ส่วนอ่อนไหวถูกกดไปกับที่นอน แต่ในระหว่างที่เขาปลดปล่อย การขยับเอวนั้นก็ยังดำเนินต่อไปไม่หยุด
“อ๊ะ ผมกำลังเสร็จ ได้โปรด…เดี๋ยว…คุณอูยอน…ผมรู้สึก อึก”
น้ำรักสีขุ่นถูกเช็ดไปกับหน้าท้องของอินซอบที่สั่นไหว ความรู้สึกของร่างกายที่อ่อนไหวขึ้นทันทีหลังจากเสร็จสมถูกลากขึ้นไปถึงจุดสุดยอด ในที่สุดอินซอบก็ร้องไห้ออกมา
กล้ามเนื้อของชายหนุ่มที่มองการร้องไห้ของอินซอบเกร็งขึ้นมาทันที
อีอูยอนเสร็จใส่ช่องทางรักของอินซอบ อีอูยอนทิ้งสติไปกับความรู้สึกที่ถาโถมราวกับไหลทะลักเข้ามา เขาปรือตาและมัวเมาไปกับร่างกายของอินซอบ
อินซอบหอบหายใจอย่างสุขสมก่อนจะมุดหน้าลงกับหมอน
จบแล้วใช่ไหม
อินซอบกะพริบตาที่บวมจากการร้องไห้อย่างหนัก และหันไปมองด้านหลัง เขาสบตากับอีอูยอน อีอูยอนค่อยๆ ยันตัวขึ้นพร้อมกับเสยผมที่เปียกเหงื่อ
…นี่เพิ่งเริ่มสินะ
ลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นโดยสัญชาตญาณทำให้อินซอบหลับตาแน่น
***
ตอนที่ลืมตา อินซอบมึนงงอยู่สักพัก ก่อนจะรีบลุกขึ้นทันทีที่รู้ว่าที่นี่คือที่ไหน
“อ๊ะ…”
อินซอบจับเอวที่รู้สึกปวด เขาผ่อนลมหายใจก่อนจะสำรวจรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นอีอูยอนเลย หากเป็นเมื่อก่อนเขาจะคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรและนอนต่อ แต่สัญชาตญาณของความระวังตัวที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยนี้ทำให้เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้
อินซอบค่อยๆ ลุกจากเตียง แม้จะพยายามหาเสื้อผ้า แต่กลับไม่เห็นแม้แต่กางเกงชั้นในสักตัว เขาจึงต้องใช้ผ้าห่มพันตัวอย่างช่วยไม่ได้ และออกจากห้องนอน
“คุณอูยอน”
อินซอบเอ่ยเรียกอีอูยอน ความเงียบที่น่าอึดอัดและอากาศที่เย็นยะเยือกทำให้เขาขนลุกซู่ เขากระชับฝ่ามือที่กำผ้าห่มเอาไว้ และเอ่ยเรียกชื่อของอีอูยอนอีกครั้ง
“คุณอูยอน”
คราวนี้ก็ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาเช่นเคย อินซอบค่อยๆ กวาดตามองไปทั่วชั้นหนึ่ง แต่ก็หาอีอูยอนไม่พบ ความรู้สึกเจ็บแปลบที่ไล่ขึ้นมาจากช่วงล่างทำให้เขาเดินไม่สะดวกนัก อีกทั้งยังมีเหงื่อซึมออกมาจากหลังของเขาทันที
หรือว่าจะอยู่ชั้นสอง
อินซอบค่อยๆ ขึ้นบันไดไป เซนเซอร์ตรวจสอบการเคลื่อนไหวทำให้ไฟซ่อนฝ้าที่ส่องแสงสลัวๆ สว่างขึ้นทันทีโดยไม่จำเป็นต้องเปิดไฟ
อินซอบเดินไปตามทางเดินพร้อมกับมองไปรอบๆ และเห็นประตูห้องที่อยู่ตรงข้ามกับทางเดิน เขากำลังจะเคาะประตู แต่ประตูนั้นเปิดอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงผลักมันอย่างไร้เรี่ยวแรง
ถ้าเป็นปกติ เขาจะน่าปิดประตูและกลับออกไปเฉยๆ แต่กลับนึกถึงคำพูดของอีอูยอนที่บอกว่าจัดชั้นสองเสร็จแล้ว
อินซอบคลำไปตามกำแพง และเปิดไฟในห้อง แสงไฟสว่างขึ้นหลังเสียง แต๊ก เขาหยีตาทันที เพราะแสงที่สว่างขึ้นอย่างกะทันหัน
“อ๊ะ…”
มือที่ยื่นมาจากด้านหลังในเวลาเดียวกันปิดประตู
“มาทำอะไรที่นี่ครับ”
แม้จะรู้ว่าคนที่อยู่ด้านหลังคือคนรักของตัวเอง แต่อินซอบก็ยังขนลุกซู่
“เห็นคุณไม่อยู่ผมเลยมาตามหาครับ …ขอโทษนะครับ”
แม้จะคบกันอยู่ แต่การเดินเตร็ดเตร่อยู่ในบ้านที่เจ้าของไม่อยู่ก็เป็นเรื่องเสียมารยาท
“ยังไง…”
อีอูยอนกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ก็ปิดปากเงียบ
“ผมไม่ได้แตะข้าวของเลยนะครับ แล้วก็ไม่ได้เข้าไปด้วย ขอโทษนะครับที่ทำให้อารมณ์ไม่ดี”
อินซอบเข้าใจความเงียบของอีอูยอนในความหมายที่ต่างออกไปอย่างสิ้นเชิง และรีบขอโทษอีกครั้ง เนื่องจากก้มหน้า ผ้าห่มจึงเลื่อนหลุดจากไหล่ของอินซอบ อีอูยอนหรี่ตาแวบหนึ่ง
“ผมออกไปข้างนอกมาครู่หนึ่งน่ะครับ”
เขาดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มให้พลางเอ่ยตอบ เมื่ออินซอบเห็นถุงยาที่อีอูยอนถืออยู่ในมือจึงเอ่ยถามด้วยความตกใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ แผลที่มืออาการแย่ลงเหรอครับ หรือว่าปวดหัวอีกแล้ว”
อีอูยอนมองอินซอบผู้ซึ่งไม่เคยเบื่อที่จะเป็นห่วงคนอื่นจากใจจริงเสมอนิ่งๆ
ดวงตาที่ใสและกลมโตเต็มไปด้วยความกังวล
อีอูยอนไม่สนใจคนอื่น ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขาไม่ได้รับอิทธิพลจากความรู้สึกของคนอื่น แต่อินซอบกลับต่างออกไป ความรู้สึกที่อินซอบแสดงออกมาหยิบสิ่งที่อยู่ในตัวเขาออกมาทีละชิ้นๆ จนหมด
“…ทำยังไงดี”
“ครับ?”
ความรู้สึกอุ่นร้อนไหลขึ้นมาตามลำคอ อีอูยอนค่อยๆ กลืนน้ำลายลงไป และเสยผมของอินซอบขึ้น ถ้าทำได้เขาอยากจะขังอินซอบไว้ และเอาแต่เชยชมอย่างเดียว
“นี่ไม่ใช่เวลาที่คุณอินซอบจะมาห่วงผมนะครับ”
อีอูยอนล้วงมือเข้าไปในผ้าห่มที่อินซอบพันตัวอยู่ แม้จะได้ยินเสียงอินซอบกลั้นหายใจเบาๆ ด้วยความตกใจ แต่เขาก็ไม่สนใจ และไม่ยอมเอามือออก
“ต้องทายาตรงนี้นะครับ”
“…!”
นิ้วเย็นๆ ลูบช่องทางที่บวมแดง อีกฝ่ายไม่ยอมหยุดแค่ตรงนั้น เขาแยกช่องทางลับออกจากกันก่อนจะสอดนิ้วเข้าไป
“อ๊ะ ตรงนั้น…”
แม้อินซอบจะพยายามดึงเอวออกไปด้านหลัง แต่อีอูยอนผู้ซึ่งสอดต้นขาของตัวเองเข้ามาตรงหว่างขาของอินซอบตั้งแต่แรกก็ดึงเอาตัวอินซอบเข้าไปหา
“ใจจริงผมอยากทิ้งน้ำเชื้อไว้จนกว่ามันจะได้อยู่ข้างในด้วยซ้ำ”
นิ้วของอีอูยอนสอดเข้ามาในช่องทางรักเบาๆ อินซอบที่ขาไม่มีแรงจึงซบอีอูยอน และเกาะอีกฝ่ายไว้ น้ำเชื้อที่ค้างอยู่ข้างในไหลออกมาตามการขยับนิ้วของอีอูยอน อินซอบกัดริมฝีปากล่างและกลั้นเสียงครางเอาไว้ อีอูยอนมองน้ำรักสีขาวขุ่นที่ไหลลงมาตามหว่างขาที่เล็กของอินซอบ และพูดต่อ
“ต้องอาบน้ำก่อนสินะครับ”
แล้วเขาก็อุ้มอินซอบขึ้นทั้งๆ แบบนั้น
***
“ไม้นี่ครับ”
อินซอบลูบอ่างอาบน้ำพลางเอ่ยพึมพำ
“ฮิโนกิครับ”
ฮิโนกิ คือ ไม้ตระกูลสนไซเปรส สายพันธุ์ญี่ปุ่น โตได้ดีในสภาพหนาวเย็น เนื้อไม้แข็งแรง มีกลิ่นหอมของมิ้นต์ ทนต่อร่องรอยขูดขีด ระบายความร้อนได้ดี และไม่มีกลิ่นอับชื้น คนญี่ปุ่นจึงนิยมนำมาใช้สร้างบ้าน วัด ศาลเจ้า หรือทำเครื่องเรือน
“อ๋า…ฮิโนกิ”
ถึงจะไม่รู้จัก แต่อินซอบก็พูดตามอีอูยอน กลิ่นอ่อนๆ ลอยออกมาจากอ่างอาบน้ำใบโตที่ทำจากไม้ มันใหญ่ถึงขนาดที่แม้คนสองคนจะลงไปนั่ง ก็ยังมีที่เหลือ
อีอูยอนที่อุ้มอินซอบมาจนถึงห้องน้ำเริ่มเปิดน้ำใส่อ่าง แม้อินซอบจะบอกว่าตนจะอาบเอง แต่อีอูยอนก็ไม่แม้แต่จะทำเป็นได้ยิน อีอูยอนล้างตัวให้อินซอบก่อนจะจุ่มลงไปในน้ำที่อ่างอาบน้ำรองไว้ ปัญหาก็คืออีอูยอนเองก็ถอดเสื้อผ้า และเข้ามาในอ่างอาบน้ำด้วย
อินซอบนั่งเอามือทั้งสองข้างกอดเข่าไว้ เขากังวลว่าอีอูยอนจะเห็นรอยช้ำที่ยังหลงเหลือตรงหน้าอก แต่ความโชคดีในความโชคร้ายก็คือผิวตรงบริเวณหน้าอกถูกบดขยี้จนแดง และมองเห็นรอยช้ำไม่ชัด เพราะทำในท่าคว่ำหน้าไปหลายรอบ
คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง
อินซอบเหลือบมองด้านล่าง และสำรวจร่างกายตัวเอง
“ทำไมถึงเป็นแบบนั้นล่ะครับ”
อีอูยอนหลับตาพิงขอบอ่างอาบน้ำ แม้จะหลับตา แต่อีกฝ่ายก็รับรู้ได้ถึงการขยับตัวของตน อินซอบตกใจกับความจริงนี้
“ไม่มีอะไรครับ”
อินซอบตอบทั้งที่ยังนั่งคู้ตัว อีอูยอนลืมตาขึ้น และมองอินซอบโดยไม่พูดอะไร อินซอบรู้สึกอายจึงลูบหน้าตัวเองไม่หยุด อีอูยอนไม่มีทางที่จะไม่รู้ว่าตนกำลังรับรู้ถึงสายตาที่มองมา อีกฝ่ายไม่ยอมเลิกมองไปง่ายๆ และก็ไม่ยอมยิ้มให้เช่นกัน
“…มีเรื่องจะพูดหรือเปล่าครับ”
“ไม่ครับ”
อีอูยอนตอบสั้นๆ และเอนหัวไปด้านหลัง อินซอบขยับนิ้วเท้าดุกดิกอยู่ในอ่างอาบน้ำ แปลก ท่าทีของอีอูยอนไม่เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว เขาไม่ได้ต้องการการเปลี่ยนแปลงอย่างกับละครหลังจากมีเซ็กซ์กัน แต่อยากน้อยเขาก็นึกว่าบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ จะผ่อนคลายลง
แม้ตอนนี้จะเข้ามาอยู่ในอ่างอาบน้ำด้วยกัน แต่พวกเขากลับไม่สนิทสนมกันราวกับเป็นแค่เพื่อนร่วมงานในบริษัทที่นั่งข้างกันในโรงอาบน้ำเดียวกันเท่านั้น
…แต่ตอนนั้นที่เราบอกว่าจะใช้ปากให้ อีกฝ่ายก็ไม่ได้ดูอารมณ์ดีนี่ เพราะเราไม่ชำนาญเอามากๆ เขาเลยไม่สนุกเหรอ
อินซอบมองผิวน้ำในอ่างอาบน้ำกระเพื่อมเงียบๆ ด้วยใบหน้าเซื่องซึมก่อนจะเปิดปากพูด
“มือไม่เป็นไรแล้วเหรอครับ”