ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 2 เล่ม 3 ตอนที่ 5-4
“ต่อเลยครับ”
“ผมจะโทรศัพท์หากรรมการผะ…”
“ไม่ต้องโทรก็ได้ครับ เขาน่าจะสบายใจแล้วล่ะ”
นี่ไม่ใช่บรรยากาศที่สามารถพูดว่าน่าจะยังไม่สบายใจจริงๆ ออกมาได้ อีอูยอนเอาท่อนล่างของตัวเองมาถูไถกับแก้มของอินซอบพร้อมกับพูดเสียงต่ำ
“คุณบอกว่าจะช่วยอมตรงนี้ให้นี่ครับ”
“…ผมหมายถึงจะเอาเสื้อผ้าไปซักให้ต่างหากครับ”
สุดท้ายการพูดเล่นคำก็ยังดำเนินต่อไป อินซอบโต้แย้งคำพูดของอีอูยอนด้วยความคิดที่ว่าจะต้องทำให้ชัดเจนว่าเจตนาของตนไม่ใช่แบบนั้นตั้งแต่แรก
“ผมอยากให้คุณช่วยอมไอ้นั่นให้ผม ไม่ใช่เสื้อ”
อีอูยอนโต้กลับการเถียงของอินซอบด้วยความต้องการอันแสนหยาบช้า คำศัพท์ที่ตรงไปตรงมาที่ไม่ได้ยินมานานทำเอาอินซอบหน้าแดง อินซอบรูดซิปกางเกงของอีอูยอนลงด้วยมือที่สั่นเทา ภายในรถที่เงียบสงัดทำให้เขาได้ยินเสียงโลหะถูกแยกออกจากกันดังเป็นพิเศษ แก่นกายที่ตื่นตัวไปแล้วครึ่งหนึ่งแสดงการตัวอยู่ใต้กางเกงชั้นใน
อินซอบค่อยๆ แทรกมือเข้าไปในกางเกงชั้นในและดึงเอาแก่นกายนั้นออกมา มันใหญ่จนเขาไม่สามารถทำใจให้ชินได้แม้จะเห็นมาแล้วหลายครั้ง พอเขาใช้มือทั้งสองข้างกุมแก่นกายไว้และก้มหน้าลง กลิ่นของความเป็นชายก็เข้ามาใกล้ หัวใจของเขาเต้นรัว เพราะความคาดหวังที่ไม่รู้จัก
นี่คือครั้งแรกที่เขาคิดที่อยากจะอมแก่นกายของอีกฝ่าย
อินซอบกลัวว่าอีอูยอนจะจับความลามกที่ตนมีได้ และทำได้แค่ขยับปากขึ้นลง เพราะไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
ตอนนั้นเองอีอูยอนก็สอดมือของตัวเองเข้ามาในกลุ่มผมของอินซอบ
“คุณอินซอบ”
คำพูดราวกับจะรบเร้านั้นทำให้อินซอบที่เคยลังเลอมความเป็นชายของอีอูยอนเข้าปากเงียบๆ อีอูยอนส่งเสียงครางออกมา
อินซอบขยับลิ้น และโลมเลียส่วนปลาย มือที่ขยุ้มผมเขาไว้เกร็ง
“อร่อยไหมครับ”
อีอูยอนลูบติ่งหูของอินซอบพลางเอ่ยถาม แม้จะไม่ได้คำตอบกลับมา แต่ต้นคอของอินซอบที่แดงซ่านก็ทำให้เขาพอใจ อีอูยอนรั้งศีรษะของอินซอบเข้ามา และทำให้อีกฝ่ายอมแก่นกายของเขาเข้าไปให้ลึกขึ้น
“คุณอินซอบชอบมันนี่ครับ”
แก่นกายที่ใหญ่ขึ้นจนไม่สามารถเทียบกับเมื่อสักครู่นี้ได้ถูกลิ้นของอินซอบโลมเลีย แม้อินซอบจะพยายามอ้าปากออกและขยับอย่างตั้งใจแล้ว แต่มันก็ยังไม่พอ น้ำลายที่ไหลลงมาทำให้ขนของอีอูยอนเปียก
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอครับ อร่อยจนน้ำลายไหลเลยเหรอ”
แม้อินซอบจะพยายามส่ายหน้า แต่มือที่จับด้านหลังศีรษะของเขาก็ทำให้เขาไม่สามารถขยับได้
“งั้นผมให้หมดเลยครับ กินให้เต็มที่เลยครับ”
เสียงลมหายใจที่อีอูยอนปล่อยออกมาดังอยู่เหนือหัว อินซอบอยู่ในสภาพที่หายใจแทบไม่ออก เพราะแก่นกายที่หนักขึ้นเรื่อยๆ ในปาก ของเหลวที่มีกลิ่นคาวและออกรสเปรี้ยวไหลผ่านลิ้นไป บอกตามตรงว่านี่เป็นรสชาติที่ยากจะเรียกว่าดี แต่ความปรารถนาที่ไม่รู้จักที่อยากจะลองชิมไปเรื่อยๆ ก็พุ่งขึ้นมา
อินซอบวางมือบนหน้าขาของอีอูยอน และเปิดคอเพื่อที่จะทำให้ความเป็นชายของอีกฝ่ายสามารถเข้าไปได้ลึกขึ้น แก่นกายของอีอูยอนเข้ามาในปากของอินซอบได้ทั้งหมดอย่างยากลำบาก
“แฮ่กๆ แม่งเอ๊ย”
อีอูยอนสบถออกมาเบาๆ ความพยายามอดทนอย่างสุดชีวิตที่จะไม่ทำรุนแรงล้มเหลวในที่สุด อีอูยอนจับด้านหลังศีรษะของอินซอบและเริ่มกระแทกอย่างรุนแรง แก่นกายกระแทกไปถึงคอหอยของอินซอบ เขาลืมตัว เขารู้สึกว่ากองไฟได้ไหลทะลักไปตามเส้นเลือด และเผาไหม้จิตใจของเขา
ด้านหลังศีรษะของอินซอบที่พยายามจะดันตัวออกไปกระแทกกับเบาะนั่ง อีอูยอนขยับเอวซ้ำๆ อยู่หลายรอบเหมือนสัตว์ที่ติดสัด อินซอบเงยหน้ามองเขาด้วยตาที่คลอไปด้วยน้ำตา ลมหายใจที่หอบกระชั้นทำเอาเจ้าตัวหน้าแดงไปจนถึงคิ้ว ดวงตาที่ไร้เดียงสาและใสซื่อบริสุทธิ์สั่นไหวด้วยความต้องการที่เร่าร้อน
นี่เป็นใบหน้าที่เขาถูกใจจนอยากจะมีอะไรกับปากของอินซอบไปตลอดชีวิตถ้าทำได้
“ผมจะเชื่อคนที่ทำตัวลามกถึงขนาดนี้ได้ยังไง…ฉิบ”
อีอูยอนกัดฟันเบาๆ เพื่อกลั้นคำสบถที่พลุ่งพล่านขึ้นมาเอาไว้ แก่นกายที่ร้อนเหมือนจะระเบิดเต้นตุบๆ อย่างร้อนผ่าวอยู่ในปากของอินซอบ
“แฮ่ก คุณอินซอบ”
อินซอบหลับตาก่อนจะลืมตาขึ้นราวกับตอบรับการเรียกนั้น การกระทำที่ไม่ได้สำคัญอะไรนั้นทำเอาอีอูยอนขาดสติ เขารู้สึกเหมือนจะตาย ไม่สิ ต่อให้ตายไปทั้งๆ แบบนี้ก็ไม่เป็นไร
“อึก…”
อีอูยอนดึงหัวของอินซอบเข้ามาติดกับหว่างขาของตน และเสร็จทั้งอย่างนั้น กล้ามเนื้อบริเวณหน้าขาแข็งแรงเกร็งจนตึง
“…!…!”
อีอูยอนยึดหัวของอินซอบเอาไว้ และฉีดพ่นน้ำรักเข้าไปภายในราวกับจะรีดให้เกลี้ยงอีกหลายครั้ง แก้มของอินซอบพองขึ้นมาทันที อีอูยอนเอื้อมมือมากดแก้มของอินซอบไว้ และพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“กลืนลงไปครับ”
อินซอบปรือตาและกลืนของเหลวนั้นลงไป ภาพลูกกระเดือกเล็กๆ ขยับจากบนลงล่างทำให้อีอูยอนเสร็จจนตาปรือ ในระหว่างนั้นน้ำเชื้อที่ไม่สามารถกลืนลงไปได้ก็ไหลลงมาตามคางของอินซอบ ช่างเป็นภาพที่ยอดเยี่ยมที่สุด
อีอูยอนอุ้มอินซอบที่หอบหายใจขึ้นมานั่งบนเบาะก่อนจะลูบริมฝีปากของอีกฝ่ายเพื่อเช็ดของเหลวที่ไหลลงมา
“น่าเสียดายออกครับ กินเข้าไปสิครับ อย่าปล่อยให้มันไหลออกมา”
แม้อินซอบจะนิ่วหน้าราวกับจะบอกว่ามันยุ่งยาก แต่เขาก็ค่อยๆ เลียน้ำรักที่เปื้อนปากและกินเข้าไปตามที่อีกฝ่ายสั่ง
“คุณอินซอบเหมือนหมาเลยครับ”
“ครับ?”
คำด่าอย่างกะทันหันทำให้อินซอบเบิกตาโพลงพลางคิดว่ามันหมายความว่าอะไร
“ผมบอกว่าคุณเหมือนหมาที่กินข้าวที่เจ้าของให้น่ะครับ”
“ไม่สิ…ผมไม่ได้เป็นแบบนั้นนะครับ”
อินซอบที่ถูกเปรียบเทียบกับสุนัขไม่รู้ว่าจะต้องแสดงปฏิกิริยาอย่างไร และหันหน้าหนีไป อีอูยอนเดาะลิ้นเบาๆ เพราะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขาเชยคางของอินซอบ และทำให้หันกลับมามองตน
“ต่อไปนี้ก็รับไปกินแค่ของของผมนะครับ ต่อให้ใครจะเอาของกินมาให้ ก็ห้ามตามไป”
นี่เป็นการพูดล้อเล่นหรือเปล่านะ
อินซอบครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง แต่สุดท้ายสีหน้าที่จริงจังเป็นอย่างมากของอีอูยอนก็ทำให้เขาพยักหน้า
“เก่งมากครับ”
อีอูยอนลูบหัวอินซอบ และเอ่ยชมราวกับชมสุนัข มือที่ลูบหัวเริ่มเลื่อนลงไปด้านล่างทีละนิด นิ้วยาวๆ ของอีอูยอนลูบไล้ที่ติ่งหู อีอูยอนหมกมุ่นกับติ่งหูของอินซอบเป็นพิเศษ อินซอบรู้สึกว่าอากาศภายในรถร้อนขึ้นเรื่อยๆ
“ตะ ต้องออกไปแล้วครับ”
อินซอบว่าพลางหลบตา อีอูยอนรีบแตะใบหน้าของเขาและเอ่ยถามว่าทำไม
“ผมต้องรีบไปแจ้ง เพราะคนอื่นๆ เขากำลังเป็นห่วงอยู่นะครับ และเพื่อไม่ให้เรื่องในวันนี้หยุดออกไป…เฮือก”
อีอูยอนยื่นมือไปด้านล่าง และกำต้นขาของอินซอบเอาไว้
“จะออกไปในสภาพแบบนี้เหรอครับ”
อีอูยอนกำและรูดรั้งส่วนอ่อนไหวที่เริ่มแข็งตัวขึ้นมาบ้างแล้วพร้อมกับเอ่ยถาม
“ทำยังไงดีล่ะครับคุณอินซอบ คุณดันแข็งขึ้นมาในตอนที่อมไอ้นั่นของผู้ชายซะได้”
อีอูยอนทำหน้าราวกับเป็นห่วงจากใจจริง
“ไม่ใช่อย่างนั้น…”
“ไม่ใช่อะไรเหรอครับ”
อีอูยอนถามซ้ำ และเกร็งมือที่ชักส่วนอ่อนไหวอยู่ อินซอบบิดตัวเพื่อที่จะหนีกลอุบายของเขา แต่รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนริมฝีปากของอีอูยอนกลับกว้างขึ้นเรื่อยๆ
“ผมไม่ได้ตั้งใจทำให้เป็นแบบนั้นนะครับ ไม่ได้เป็นเพราะเรื่องเมื่อสักครู่นี้เลยครับ เพราะฉะนั้น…”
คอของอินซอบที่พูดแก้ตัวค่อยๆ ตกลง
ตัวเขาที่ขอร้องอีอูยอนไม่ให้แตะเนื้อต้องตัวข้างนอก แต่กลับตื่นตัวในขณะที่อมตรงนั้นของผู้ชายช่างน่าอาย
“ขอโทษนะครับที่ผมแยกแยะเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้…”
อินซอบขอโทษอย่างตรงไปตรงมา
อีอูยอนก้มมองส่วนอ่อนไหวของอินซอบที่อ่อนตัวลงในมือของตน และน้ำลายสอ ไม่น่าจะมีความจำเป็นที่คนเราจะต้องน่ารักถึงขนาดนี้เลยนี่
“ผมไม่เคยสั่งให้แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวเลยครับ”
อีอูยอนก้มตัวและใช้ลิ้นแตะริมฝีปากของอินซอบพร้อมกับดูดดุนเบาๆ
“พอ อ๊ะ…”
แม้อินซอบจะห้ามไว้ แต่อีอูยอนก็ไม่แม้แต่จะแกล้งทำเป็นได้ยินและขยับลิ้น การจูบที่ทำให้เกิดเสียงจุ๊บเบาๆ ลึกซึ้งขึ้นทีละนิด ลมหายใจร้อนผ่าวของอีอูยอนหนักขึ้นเรื่อยๆ ริมฝีปากของพวกเขาเชื่อมติดกัน และลิ้นก็ละโมบราวกับจะกระทำชำเราเยื่อเมือกนั้น
อินซอบหอบหายใจถี่รัว เขารู้สึกเวียนหัว
อีอูยอนเชี่ยวชาญเรื่องจูบ และสิ่งนั้นก็ไม่ใช่เรื่องจะสามารถรู้ได้จากการท่องจำ ทั้งความเร็วที่สอดลิ้นเข้ามา องศาที่ประกบปาก การจับหัวและหน้า ไปจนถึงแรงที่ใช้ลูบ การเผยแพร่กระทู้ที่ชื่อว่าบทเรียนการจูบของอีอูยอนไม่ใช่เรื่องเสียเปล่า
อินซอบชอบจูบกับอีอูยอน เขารู้สึกเหมือนได้รับความรัก สิ่งที่เขาชอบยิ่งกว่าอะไรทั้งหมดก็คือใบหน้าคลั่งไคล้ของอีอูยอนที่เขาจะมองเห็นเมื่อลืมตาขึ้นมาในบางครั้งที่จูบกัน เขาต้องการอีกฝ่ายอย่างละโมบ ส่วนล่างของอินซอบตั้งชันทุกครั้งที่ยืนยันได้ถึงความรู้สึกไม่พอและความต้องการ
“แฮ่ก…”
พอเขาหอบหายใจเพราะหายใจไม่ทันและลืมตาขึ้นมา อีอูยอนก็กำลังนั่งเหมือนกับขึ้นมานั่งบนตัวของอินซอบ แววตาของอีกฝ่ายวาววับด้วยความต้องการ อีอูยอนใช้ลิ้นเลียริมฝีปากที่เปียกชื้น และทำตาหยี
“อ๊ะ รสชาติของน้ำเชื้อ”
“…!”
“ของคุณอินซอบอร่อยนะครับ แต่ของผมรสชาติไม่ได้เรื่องเลย”
อีอูยอนคร่อมอินซอบเอาไว้ เขาเลียต้นคอของอินซอบราวกับลองชิม ทันทีที่ลมหายใจอุ่นๆ สัมผัสกับต้นคอ ความร้อนในตัวของอินซอบก็พลุ่งพล่าน
ต้องผลักออก
แม้สมองจะคิดแบบนั้น แต่มือของเขากลับไม่มีแรง เพราะใบหน้าของอีอูยอนอยู่ในระยะที่จมูกชนกันอย่างน่าหวาดเสียว
“รอบนี้ผมอยากกินน้ำเชื้อของคุณอินซอบครับ”
“ครับ?”
อินซอบทำตาเหมือนกระต่ายตกใจขณะเอ่ยตอบ
พออินซอบไม่สามารถผลักไสอีอูยอนออกไปได้ และตัวสั่นระริกพลางกำชายเสื้อของอีอูยอนไว้ อีอูยอนก็ถอนหายใจสั้นๆ
“ถ้าคุณไม่ชอบ ผมจะไม่ทำครับ ผมพูดจริงนะครับ”
แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ความจริงแล้วมันคือขีดจำกัด
อีอูยอนอ้าขาของอินซอบออกตั้งแต่เมื่อกี้ และกำลังจินตนาการว่าสอดใส่สิ่งนั้นของตัวเองเข้าไป และเสร็จในนั้น แม้อีกฝ่ายจะร้องไห้และบอกว่าไม่เอา เขาก็อยากจะจับอีกฝ่ายนอนคว่ำ และกระทำชำเราสักรอบสองรอบ เขาอยากจะปล่อยน้ำเชื้อเข้าไปจนเต็ม และทำให้หน้าท้องที่แบนราบของอินซอบนูนออกมา
“เอ่อ คือ…”
อีอูยอนลูบไล้หน้าท้องของอินซอบอย่างเผลอไผลพลางถอนหายใจ ความเปียกชื้นทำให้ดวงตากลมโตของอินซอบแวววาว และขนตายาวๆ นั้นก็สั่นระริก เส้นเลือดตรงแขนของอีอูยอนที่ยันเบาะนั่งเอาไว้นูนขึ้นมา แม้จะรู้ดีว่าเขาจะต้องรอจนกว่าอินซอบจะต้องการ แต่ช่วงล่างของเขากลับตื่นตัวจนเหมือนจะระเบิด
“ผม…”
อินซอบอ้าปากพูดอย่างยากลำบาก
“อีอูยอน!”
เสียงที่คุ้นเคยเรียกอีอูยอนจากที่ไกลๆ และทำให้อินซอบชะงัก อีอูยอนสบถก่อนจะเสยผมขึ้นไป อินซอบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่และลุกขึ้น
“อีอูยอน! อยู่ไหน! เฮ้!”
เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆ
“อยู่ตรงนี้สักพักนะครับ”
พออีอูยอนกำลังออกไปจากรถ “เดี๋ยวครับ” อินซอบเอ่ยรั้งเขาไว้อย่างรีบร้อน และช่วยจัดเสื้อผ้าให้เขา
“…เรียบร้อยแล้วครับ”
อีอูยอนกดจูบลงบนแก้มของอินซอบเบาๆ และออกไปนอกรถ
“เรียกทำไมเหรอครับกรรมการผู้จัดการ”
อีอูยอนที่เดินออกไปตรงหน้ารถพูดกับกรรมการผู้จัดการคิม
“นี่! แก!”
เขาได้ยินเสียงกรรมการผู้จัดการคิมวิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน อินซอบหมอบตัวอยู่ในรถ และแอบฟังบทสนทนาของคนทั้งสองคนด้วยความรู้สึกหวาดกลัว
“ทำไมถึงออกมาจากตรงนั้น! อย่าบอกนะว่า…”
กรรมการผู้จัดการคิมตกตะลึงก่อนจะพูดต่อ
“นายเอาอะไรไปใส่ไว้ในกระโปรงรถ!”
“ก็บอกแล้วไงครับว่าไม่ได้ฆ่า ทำไมถึงไม่ยอมเชื่อ แถมยังมาทำให้หงุดหงิดด้วยการรีบมาหาด้วยล่ะครับ”
“เป็นนาย นายจะเชื่อคำพูดของตัวเองเหรอ”
“ก็จริง”
อีอูยอนที่พูดแบบนั้นยื่นมือทั้งสองข้างของตัวเองออกมาอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ดูสิครับ”
“ดูอะไร”
“ดูว่ามีเลือดเปื้อนไหมไงครับ”
“…”
อีอูยอนถามว่าพอใจแล้วใช่ไหมครับก่อนจะเก็บมือกลับ กรรมการผู้จัดการคิมเอามือกุมหน้าผาก เขาร้องโอดโอยและถอนหายใจอย่างหนัก
“ฉันเกือบจะไม่ได้ตายตามอายุขัยแล้ว รู้ไหมว่าฉันตกใจแค่ไหนตอนที่ได้รับโทรศัพท์จากผู้ช่วยโจ”
“ผมจะไปรู้ได้ยังไงล่ะครับ”
“…ฉันลองฆ่านายสักครั้งจะได้ไหม”
“ไม่ได้ครับ”
อีอูยอนยิ้มกว้างพลางเอ่ยตอบ กรรมการผู้จัดการคิมทึ้งหัว และความทุกข์ใจก็ผุดขึ้นมาในดวงตาอย่างรุนแรง
“คังยองโมมาที่นี่ทำไม เขามาคุยอะไรเหรอ”
“ไม่ได้คุยเรื่องสำคัญอะไรหรอกครับ เหมือนเขาจะเข้าใจผิดนิดหน่อย แต่จัดการได้เรียบร้อยแล้วครับ”
‘แล้วคนที่เชื่อแบบนั้นจริงๆ อยากจะอยู่ตามลำพังกับผมเหรอครับ’
คังยองโมผงะไปครู่หนึ่งในตอนที่เขาพูดแบบนั้น แต่อีกฝ่ายก็รีบคาบบุหรี่ไว้ในปากและพูดจาเอะอะทันที
‘ก็ไม่มีอิฐนี่ นายจะใช้อะไรตีล่ะ’
รอยยิ้มยาวๆ ปรากฏขึ้นที่รูปตาของอีอูยอนทันทีที่ได้ยินคำตอบนั้น
ไม่รู้จริงๆ สินะ
ถ้าคังยองโมรู้อะไรบางอย่างจริงจะไม่พูดแบบนี้ คนที่ใช้อิฐฟาดกบาลคนจนแตกจะใช้อาวุธเดิมต่ออีกเหรอ