ใต้หน้ากากซูเปอร์สตาร์ - ภาค 1 เล่ม 4 ตอนที่ 12-11
พอประตูโรงแรมปิดลง อีอูยอนก็พุ่งเข้าใส่เหมือนคนอดอยากและพรมจูบอินซอบ อีอูยอนไม่สามารถผละริมฝีปากออกไปได้จนกระทั่งอินซอบที่หายใจหอบอย่างลำบากและเกาะแขนเขาไว้
“แฮ่ก…ขอโทษครับ”
อีอูยอนปล่อยอินซอบไว้ด้านข้างตนก่อนจะเอ่ย
“…ผมคิดไว้แล้วว่าผมจะทำแบบนี้ ผมเลยจะไม่มาเจอคุณไปสักพักหนึ่ง”
อีอูยอนปล่อยอินซอบไว้ข้างๆ และไม่มีความมั่นใจพอที่จะทำอะไรมากจนเกินพอดี ถ้ามอง เขาก็จะอยากสัมผัส ถ้าได้สัมผัส เขาก็จะเกิดความต้องการ และเขาก็จะอยากได้ และอยากกอดอีกฝ่ายเอาไว้ในอ้อมกอด
“ขอโทษนะครับ คุณอินซอบ”
เขาช่วยจัดเสื้อผ้าที่หลุดรุ่ยของอินซอบให้เรียบร้อย อินซอบเอ่ยถามว่าทำไม
“ขอโทษเรื่องอะไรเหรอครับ”
“…ถ้าหัวใจของคุณอินซอบทำงานหนักเกินไป…ก็จะต้องพักผ่อนอย่างเต็มที่เท่านั้นไงครับ”
อีอูยอนได้ยินคำพูดของหมอ และตัดสินใจว่าจะส่งอินซอบกลับไปที่อเมริกา แม้เขาจะอยากทำให้อินซอบเป็นอิสระจากปัญหาที่วุ่นวายไปสักพัก แต่มากกว่าอะไรทั้งหมดก็คือ ตัวเขาเองไม่มีความมั่นใจที่จะไม่แตะต้องตัวอีกฝ่ายเลย
“เพราะแบบนั้นผมก็เลยส่งคุณกลับมาที่อเมริกา แต่มันกลับไม่มีความหมายเลยนะครับ”
อีอูยอนยิ้มพลางลูบผมอินซอบ อินซอบค่อยๆ หลับตาลงก่อนจะลืมตาขึ้นมา
“ก่อนหน้านี้ไม่นานผมไปหาหมอมาแหละครับ เป็นคุณหมอที่ดูแลผมตั้งแต่เด็กๆ…”
พอได้ยินคำพูดของอินซอบ อีอูยอนก็จูบกระหม่อมของอีกฝ่าย แม้เขาอยากจะกอดอีกฝ่ายและเข้าไปในตัวของอีกฝ่ายเดี๋ยวนี้ก็ตาม แต่เขาก็ใช้เหตุผลและห้ามตัวเองเอาไว้
“…ไม่สงสัยเหรอครับว่าผมถามอะไร”
ใบหน้าของอินซอบแดงซ่าน
“ถามว่าอะไรเหรอครับ”
“ผะ ผมถามว่าทำได้ไหม…ละ แล้วหมอก็บอกว่าถ้าไม่หนักมากเกินไป…ก็ทำดะ…!”
อีอูยอนถอดเสื้อผ้าของอินซอบออกก่อนจะจูบอย่างรุนแรง อินซอบเองก็พยายามปรับจังหวะให้เข้ากับการขยับของอีกฝ่ายให้ได้มากที่สุดเช่นกันพร้อมกับถอดเสื้อออก พอมือข้างซ้ายขยับได้ไม่ดีอย่างที่คิด อีอูยอนก็เดาะลิ้นเหมือนกับงุ่นง่าน
“ผม…จะถอดเองครับ”
อินซอบรวบรวมความกล้าพูดออกมา เพราะเขาคิดว่าถ้าเป็นแบบนี้ ก็อาจจะมากเกินไปสำหรับมือที่บาดเจ็บของอีอูยอนก็ได้
“คุณอินซอบบอกว่าจะถอดเองเหรอครับ”
“ครับ”
“เกิดเรื่องดีๆ ขึ้น เพราะข้ามน้ำข้ามทะเลมาสินะครับเนี่ย”
เนื่องจากไม่เคยมีเรื่องที่ตัวเองจะต้องถอดเสื้อผ้าออกก่อน อินซอบจึงเขินมากๆ อีอูยอนใช้มือข้างเดียวปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของตนพร้อมกับมองอินซอบไปด้วย เขาส่งสายตาบอกว่า ‘ไหนลองถอดดูสิครับ’
อินซอบปลดกระดุมกางเกงของตัวเองออก และรูดซิปลง เสียงวืดของซิปที่ถูกรูดลงดังเป็นพิเศษ อีอูยอนกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ อินซอบรูดกางเกงลงและถอดถุงเท้า ตอนที่เขาถอดถุงเท้าและวางไว้ข้างๆ กางเกง เขาก็รู้สึกถึงสายตาที่เหมือนจะทิ่มแทงของอีอูยอน จึงเผลอห่อไหล่โดยไม่รู้ตัว
“ถอดชิ้นบนด้วยสิครับ”
“…”
“หรือว่าจะถอดกางเกงในก่อนล่ะครับ”
“ช่วยหันหน้าไปสักครู่หนึ่งได้ไหมครับ”
แม้จะคิดว่ายังไงซะอีกเดี๋ยวก็จะต้องถอดจนหมด ทั้งยังเป็นความสัมพันธ์แบบอมและดูดกันอยู่แล้ว จะมามัวรักษาระยะห่างอะไรกันอีก แต่อีอูยอนก็ยอมหันหน้าไปตามที่อินซอบขอร้อง
“เสร็จหรือยังครับ”
“อีกเดี๋ยวครับ”
เขาได้ยินเสียงอินซอบถอดเสื้อ เสียงชายเสื้อเฉียดผ่านผิวหนังและตกลงที่ปลายเท้าทำเอาลมหายใจของอีอูยอนร้อนผ่าว
“ถอดหมดหรือยังครับ”
“เดี๋ยว… ครับ”
พออีอูยอนหันหน้ามา อินซอบที่ตัวเปลือยเปล่าก็ก้มหน้าเหมือนกับเขินอายและยืนอยู่ตรงนั้น
อีอูยอนมองภาพนั้นราวกับถูกยั่วยวนพลางยื่นมือออกมา
“มานี่สิครับ”
อินซอบเอียงอายก่อนจะเดินเข้าไปตรงหน้าอีกฝ่าย อีอูยอนกอดเขาไว้ในอ้อมกอด และยืนนิ่งๆ อยู่สักพัก พออีกฝ่ายไม่ทำอะไรตนเองที่ถอดเสื้อผ้าออกจนหมดแล้ว อินซอบก็กลัวขึ้นมา เขากังวลว่าอีกฝ่ายจะไม่ชอบร่างกายที่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัดอยู่ตรงหน้าอก และมีรอยแผลอยู่ตรงหลังหรือเปล่า
“คุณอินซอบ”
อีอูยอนเอ่ยเรียกชื่อของเขาด้วยเสียงต่ำๆ
“ครับ”
“คุณบอกว่าแค่ความรู้สึกเหมือนกันก็พอแล้วใช่ไหมครับ”
“…ครับ”
“ผมชอบคุณเหมือนกับคนปกตินะครับ”
“…!”
“ผมชอบคุณนะครับคุณอินซอบ”
“…”
“ถ้ามองคุณอินซอบผมก็อยากกอด อยากสัมผัส อยากให้คุณอยู่ข้างๆ ผม และถ้าไม่ได้เจอก็เหมือนจะเป็นบ้า แค่เท่านี้คงจะเป็นความรู้สึกของคนทั่วๆ ไป แต่…ผม ผมไม่ได้หยุดอยู่แค่นั้นครับ”
อินซอบเดาได้ลางๆ ว่าความรู้สึกที่บิดเบี้ยวของอีอูยอนคือความรู้สึกแบบไหน นี่เป็นผลลัพธ์ที่เขาประสบด้วยตนเองและได้รับรู้ผ่านเรื่องราวต่างๆ ในรอยโหว่ลึกๆ ที่ดำมืดของอีกฝ่าย
“เพราะฉะนั้น ผมขอโทษนะครับที่พูดแบบนี้”
“…ไม่เป็นไรครับ”
อินซอบเพิ่มแรงที่แขนที่กอดอีอูยอนเอาไว้ก่อนจะเอ่ย
“ถึงจะเป็นแบบนั้นผมก็โอเคครับ…ผมอยากให้คุณพูดว่าชอบผม”
“ชอบนะครับ”
“อีกครับ อีกสักครั้ง…”
“ชอบนะครับ คุณอินซอบ”
อินซอบน้ำตาไหล และซุกหน้าตัวเองเข้ากับอกของอีอูยอน อีอูยอนพรมจูบอีกฝ่าย ร่างของคนทั้งคู่ล้มลงบนเตียง อีอูยอนบีบนวดหว่างขาของอินซอบก่อนจะลมหายใจร้อนผ่านออกมา
“ไอ้นั่นของคุณอินซอบสวยมากเลยครับ”
“อึก”
“ให้ตาย อย่าเอาไอ้นั่นน่ารักๆ แบบนี้ไปให้ใครดูนอกจากผมนะครับ ห้ามเด็ดขาดเลย”
อินซอบค่อยๆ หายใจติดขัด เพราะการขยับของมือที่บีบนวดตรงหว่างขาของเขา อีอูยอนถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่าอยู่หลายครั้งก่อนจะกดจูบลงบนต้นคอของเขา
“มะ ไม่เป็นไรครับ”
“ผมจะค่อยๆ ทำนะครับ”
แม้ช่วงล่างจะร้อนผ่าวขึ้นมาจนแข็งขืน แต่อีอูยอนก็ค่อยๆ ขยับตัวให้ช้าที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่หนักเกินไปสำหรับอินซอบ พอลมหายใจของอินซอบที่อยู่ใต้ร่างของอีอูยอนค่อยๆ ขาดห้วง เขาก็จับแขนของอีอูยอนไว้ในสภาพที่น้ำตานอง
“ร้องไห้ทำไมครับ ผมจะต้องทำช้ากว่านี้อีกเหรอครับ”
อินซอบส่ายหน้า
“งั้นบอกมาสิครับว่าต้องทำแบบไหนถึงจะดี”
“…เพราะคุณทำช้ามากๆ…หัวผมเลย…แปลกๆ น่ะครับ”
“…”
“เพราะช้ามากๆ…ร่างกายก็เลย…”
อีอูยอนสบถว่าเหี้ยก่อนจะจับตัวอินซอบให้ลุกขึ้นมา เขาอ้าขาของอินซอบและดันส่วนปลายของแก่นกายที่เปียกน้ำสีขุ่นๆ เข้าไป อินซอบกอดไหล่อีอูยอนไว้พลางกลั้นหายใจ แก่นกายผ่านเข้าไปได้ประมาณครึ่งหนึ่งในช่องทางที่เปิดอ้าจนทำให้รู้สึกเสียวซ่าน อีอูยอนพ่นลมหายใจออกมาก่อนจะทนเอาไว้
“จะเข้าไปอีกนะครับ”
“…! ฮึก…”
“ยังเหลืออีกครึ่งหนึ่งนะครับ หายใจนะครับ แบบนั้น…อึก”
อีอูยอนดันท่อนเนื้อที่เหลือเข้ามารวดเดียว ร่างของอินซอบนอนแผ่ลงไปอย่างหมดแรงก่อนจะส่งเสียงครางหวานๆ ออกมา
“เก่งมากครับ ตอนนี้เข้าไปได้หมดแล้ว อีกเดี๋ยวผมจะขยับนะครับ”
อินซอบส่ายหน้า เขาคิดแค่ว่าจะทำอย่างไรก็ได้ เพราะภายในช่องท้องของเขาเสียวซ่าน และช่วงล่างของเขาก็เห่อร้อน
“…ถ้าขยับตอนนี้ คุณอินซอบจะบาดเจ็บนะครับ”
“มะ ไม่ครับ…ช่วงล่างของผมร้อนมาก…”
แม้จะไม่ได้ลูบ แต่ส่วนอ่อนไหวของอินซอบก็ชูชันขึ้นมาแล้ว อีอูยอนขบฟันก่อนจะบอกว่า ‘งั้นจะขยับแล้วนะครับ’ ก่อนจะค่อยๆ สวนเอวขึ้นมา เสียงครางด้วยความเสียวซ่านดังออกมาจากปากของอินซอบ
อีอูยอนถอนเอวไปด้านหลังและขยับเอวกลับมาด้านหน้า ช่องทางที่อ้าออกส่งเสียงดังเฉอะแฉะ และดูดกลืนแก่นกายของอีกฝ่ายเข้าไป เหงื่อกาฬเกาะอยู่ตามหน้าผากของอีอูยอน เพราะมัวแต่กดความต้องการที่อัดแน่นอยู่ภายใน ชเวอินซอบเองก็หอบหายใจให้กับความรู้สึกของช่วงล่างที่เหมือนกับถูกทำให้รุ่มร้อนและกำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบากเหมือนจะตายแต่ก็ไม่ตาย
“คะ…คุณอูยอน…ได้โปรด…ข้างล่างมันร้อน แล้วก็จั๊กจี้…”
อีอูยอนขบฟันไว้สุดชีวิต เขากัดแรงและกลั้นความต้องการเอาไว้จนปากแตก และเลือดไหลออกมา
“คุณอินซอบ งั้นคุณอินซอบขยับเองเลยครับ”
“…?”
“เพราะผมทำไม่ได้แล้ว คุณอินซอบขยับตามที่ตัวเองพอใจเลยครับ”
อีอูยอนพลิกตัวของอินซอบให้ขึ้นมาอยู่ข้างบน และนอนลงบนเตียง พอร่างกายถูกเปิดเผยทั้งหมดด้วยท่าที่นั่งหมิ่นเหม่อยู่ตรงต้นขาของอีอูยอน หน้าของอินซอบก็แดงขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ
“คุณอินซอบขยับเลยครับ เพราะผมจะไม่ขยับแล้ว”
อีอูยอนเอามือของตัวเองออกจากตัวของอินซอบพลางเอ่ย ชเวอินซอบทำหน้าเหมือนจะร้องไห้และจ้องมองเขา
“ขยับเอวสิครับ ผ่อนคลายแรงที่รูตรงนั้นหน่อย”
“…อึก…”
“ถ้าตอดมากๆ จะเจ็บนะครับ อย่างนั้นแหละครับ จากล่างขึ้นบน ฮา…จากบนนั้นขยับแค่ก้นก็พอครับ ทั้งๆ ที่ใช้ก้นอมไอ้นั่นของผมไว้นั่นแหละครับ…แฮ่ก เก่งมากครับ”
อินซอบขยับเอวตามที่อีอูยอนสั่ง ทุกครั้งที่ก้นของเขาแตะโดนต้นขาของอีอูยอน แก่นกายของอีกฝ่ายก็สอดใส่เข้ามาจนเต็มในช่องท้องของเขา อีอูยอนลากมือของอินซอบมาให้ลูบแก่นกายของเจ้าตัว
“คุณอินซอบลองลูบเองดูสิครับ”
พอประสานมือไว้ตรงส่วนอ่อนไหวที่ร้อนผ่าวและเริ่มขยับ อินซอบก็เกือบจะเป็นบ้า เพราะทั้งข้างหน้าและข้างหลังถูกกระตุ้นพร้อมกัน
“อ๊ะ อ๊ะ…ฮึก…”
อีอูยอนมองภาพที่อีกฝ่ายขยับเอวขึ้นลงพร้อมกับขยับมืออย่างลืมตัวพลางขบฟันแน่น การมีวิวที่สวยงามอยู่ตรงหน้า แต่ไม่สามารถขยับได้นั้น ไม่ว่าจะมองอย่างไรก็เหมือนกับเป็นการทรมานชนิดหนึ่งสำหรับเขา
“อ๊า อ๊ะอ๊ะ! คุณอูยอน อ๊ะ ผม…ผม อ๊า!”
การหดตัวของช่องทางนั้นเร็วกว่าเมื่อสักครู่นี้ อีอูยอนไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว เขาลุกขึ้นมาทั้งๆ ที่ยังกอดอินซอบเอาไว้ เขาส่งเสียงครางเหมือนกับสัตว์ป่า และกระแทกเอวของตัวเองเข้าไปตรงหว่างขาของอินซอบ อินซอบที่ไปถึงจุดสุดยอดได้ด้วยการสอดใส่เพียงครั้งเดียวส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะนอนแผ่ลงบนเตียง อีอูยอนขยับเอวอยู่บนตัวเขาอีกสองสามครั้งก่อนจะปลดปล่อยในตัวอินซอบ
“…!…!…!”
อีอูยอนที่พ่นลมหายใจอยู่ในจุดสุดยอดของความสุขสมในสภาพที่ปรือตาค่อยๆ ได้สติ เขาเห็นอินซอบกำลังหายใจอย่างหอบอยู่ใต้ร่างของตนเอง และตะโกนออกมาอย่างวุ่นวายใจ
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับคุณอินซอบ ไปโรงพยายาลไหมครับ”
“…ไม่เป็นไรครับ”
“ขอโทษนะครับ ที่ผม…ทนจนถึงตอนสุดท้ายไม่ไหว”
สุดท้ายก็แสดงสภาพแบบนี้ออกมาจนได้สินะ อีอูยอนกอดอินซอบที่ตัวเปียกเหงื่อและหายใจหอบถี่เอาไว้พลางเอ่ยขอโทษ
“ขอโทษนะครับ”
“อย่าพูดแบบนั้นนะครับ”
อินซอบกอดอีอูยอนไว้ด้วยมือที่ไม่ค่อยมีแรงและสั่นน้อยๆ เขาอยากจะทำแบบนี้ ตอนนั้นเขาอยากจะพูดในขณะที่กอดอีอูยอนที่มาหาเขาในคืนนั้นไว้แบบนี้
“ผมไม่เป็นไรครับ ผมแข็งแรงกว่าที่คุณอูยอนคิดนะครับ”
“…”
“ไม่มีอะไรที่จะต้องขอโทษเลยครับ ผมไม่เป็นอะไรครับ ทุกอย่างเป็นสิ่งที่ผมเลือกเอง…ถ้าบอกว่าไม่เหนื่อยก็คงจะโกหก แต่ผมไม่เป็นไรครับ”
อินซอบพูดคำที่อยากพูดในวันนั้นออกไปจนหมด
“หัวใจของผมแข็งแรงดีครับ มันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้นเลย มันเอาชนะการผ่าตัดมาได้ตั้งหลายครั้ง และเป็นของขวัญชิ้นสุดท้ายที่เจนนี่มอบให้ด้วย…เหนือสิ่งอื่นใดก็คือมันทนคุณอีอูยอนได้ครับ เพราะฉะนั้นผมเลยคิดว่าผมไม่เป็นอะไร เพราะฉะนั้นห้ามขอโทษนะครับ”
“..เป็นหัวใจที่ถูกฝึกฝนโดยคนบ้านี่เอง”
เสียงหัวเราะปรากฏให้เห็นในน้ำเสียงของอีอูยอน อินซอบพูดว่า ‘นั่นสินะครับ’ ก่อนจะหัวเราะตาม คนทั้งคู่เป็นอย่างนั้นอยู่สักพักในสภาพที่กอดกันไว้
“ถ้าง่วงก็นอนนะครับ”
อีอูยอนลูบผมอินซอบพลางกระซิบ
เขาได้ยินเสียงหัวใจจากร่างกายที่ซ้อนทับกัน ตอนที่ได้ยินเสียงทั้งสองเสียงเหมือนกับเป็นเสียงเดียว อินซอบก็หลับลงไปได้ในอ้อมกอดของอีอูยอน
***
ชายหนุ่มกางกระดาษเขียนจดหมายสีส้มออกและกำลังอ่านจดหมายอยู่ท่ามกลางแสงสลัวๆ ด้วยท่าทางแบบนั้นที่เขาวาดไว้ในฝันอยู่เสมอ
ตอนที่ลืมตาขึ้นมา อินซอบก็คิดว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆ ตนไม่ใช่คนที่อยู่ในฝัน แต่เป็นความจริงใช่ไหมก่อนจะเอื้อมมือออกไปลูบแขนอีกฝ่าย
“ตื่นแล้วเหรอครับ”
เขาได้ยินน้ำเสียงอ่อนโยน อินซอบอุ่นใจกับน้ำเสียงนั้น เขาหลับตาลงก่อนจะยิ้ม
“นอนต่ออีกหน่อยสินะครับ ยังค่ำอยู่เลย”
“…ผมต้องติดต่อที่บ้าน…”
“เมื่อกี้ผมบอกให้แล้วครับ ว่าจะกลับดึกสักหน่อย เพราะไม่ได้เจอกันนาน”
อีอูยอนใช้ปลายนิ้วม้วนผมของอินซอบและลูบไปมาก่อนจะพูดให้ฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“ผมอ่านจดหมายแล้วนะครับ”
“…”
“จดหมายที่คุณอินซอบเขียนให้ผมน่ะ พอคิดว่ามันมีมาตั้งแต่ก่อนหน้านั้น แต่ผมไม่ได้อ่าน ผมก็เลยโกรธตัวเองในอดีตมากเลย”
“ยังไงซะผมก็ไม่ใช่เจ้าของเนื้อหาในจดหมายอยู่แล้วครับ”
“แต่คุณอินซอบก็เป็นคนเขียนนี่ครับ ดังนั้นผมก็เลยอยากจะอ่าน”
น้ำเสียงที่แผ่วเบาที่เจือด้วยลมหายใจทำให้หูของอินซอบจั๊กจี้ อินซอบหลับตาลงพลางตั้งสติที่มีเหลืออยู่น้อย และเอ่ยถามเหมือนกับละเมอว่า ‘เคท’
“เธอไม่สบายตรงไหนเหรอครับ”
“สบายดีครับ ผมรดน้ำสามวันครั้ง วางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท แล้วก็ไม่ได้กวนเธอเลย”
อินซอบหัวเราะเบาๆ ให้กับคำพูดของอีอูยอนที่ท่องคำพูดที่ตนฝากไปบอกออกมาได้หมด
“พอเห็นจดหมายของคุณอินซอบ ผมก็เลยคิดว่าไม่ว่ายังไงก็ต้องหาข้ออ้างให้ได้น่ะครับ ดังนั้นผมก็เลยเอาเคทใส่กระเป๋า และซื้อเครื่องบินมาที่อเมริกา”
“…”
พืชเป็นสิ่งของที่ถูกห้ามนำเข้าอย่างเข้มงวด ถ้าหากซ่อนของแบบนั้นเข้ามาแล้วโดนจับได้ ก็อาจจะเกิดเหตุการณ์ที่ถูกใช้มาตราการในการห้ามเข้าประเทศตั้งแต่แรกก็ได้ อินซอบพูดไม่ออกกับความมุทะลุของอีอูยอน
“ทำไมเหรอครับ ไม่คิดว่าผมจะบ้าขนาดนี้สินะครับ เสียใจหรือเปล่าครับที่ต้องมาผูกติดอยู่กับผม”
“…ไม่ครับ”
“ขอโทษนะครับ แต่ต่อให้คุณรู้สึกเสียใจ…มันก็สายไปแล้วล่ะครับ”
น้ำเสียงของอีอูยอนฟังดูเศร้าหมอง อินซอบยื่นมือออกมาวางมือลงบนฝ่ามือของอีกฝ่าย อีอูยอนทอดสายตามองอินซอบนิ่งๆ อิในตอนนั้นเองนซอบขยับนิ้วสอดประสานเข้ากับนิ้วของอีอูยอน และออกแรงกระชับฝ่ามืออย่างเงียบๆ
“มัด…อีกก็ได้ครับ”
“…”
“ผมอยากจะอยู่กับคุณไปเรื่อยๆ ในสภาพที่ถูกมัดติดกันไว้แบบนี้”
ถ้าคุณอีอูยอนต้องการ
อีอูยอนเพิ่มแรงลงไปที่มือ เพราะคำพูดที่เสริมขึ้นมาเหมือนกับพูดคนเดียว อินซอบเองก็ซบหน้าลงกับมือนั้น และหลับตาลง เพราะเขารู้ว่ามือที่จับตนไว้อย่างแน่นหนานั้นหมายความว่าอะไร
ขณะที่ความง่วงคืบคลานเข้ามาเป็นระยะๆ และในระหว่างนั้นเขาก็รู้สึกถึงสัมผัสจากมือที่อ่อนโยนของอีอูยอน น้ำเสียงอ่อนโยนที่อยู่ดำรงอยู่ทั้งในความจริงและความฝันช่วยทำให้อินซอบหลับสนิท
ชอบนะครับ ไม่ว่าอย่างไรเขาก็เหมือนจะได้ยินแบบนั้น
มือที่จับกันไว้กำลังถ่ายทอดไออุ่นจางๆ ให้แก่กัน
นี่เป็นค่ำคืนที่ยาวนาน